ห้าวันหลังจากการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อตัดต่อองคชาติ ด้วยความมหัศจรรย์ของการแพทย์และร่างกายที่แข็งแรงทำให้อาการของผู้การเพลงรบดีขึ้นเป็นลำดับท่ามกลางการอารักขาอย่างเข้มงวด รายชื่อผู้ขอเข้าเยี่ยมจึงถูกคัดกรองอย่างเข้มข้นหนึ่งในนั้นก็คือชายหนุ่มหน้าตาดีร่างสูงสมาร์ทที่เข้ามาในห้องซึ่งคุณหญิงรุจีกับผู้การเลือดไทเฝ้าอยู่ก่อน พอเห็นหน้าเท่านั้นคุณหญิงรุจีก็สะบัดหน้าพรืดกระแทกส้นเท้าสวนทางออกไปทันทีเช่นเดียวกับผู้การเลือดไทที่ยกมือรับไหว้ตบบ่าเขาเบา ๆ ก่อนจะเดินตามคุณหญิงออกไป “คุณพ่อเป็นยังไงบ้างครับ” เขาถามเสียงทุ้ม “หมอบอกดีขึ้นมากแล้ว...รบ...พ่อดีใจนะที่แกมาเยี่ยม” เพลงรบกุมมือรบหรือกลองรบชายหนุ่มวัยยี่สิบหกซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวแม้จะเป็นลูกนอกสมรสก็ตามที ไม่แปลกใจเลยที่คุณหญิงรุจีจะแสดงท่าทีรังเกียจจะว่าไปคุณหญิงนั่นแหละที่มาทีหลังแต่ด้วยอำนาจของทะเบียนสมรสทำให้หล่อนกลายเป็นเมียหมายเลขหนึ่งไปโดยปริยาย ไม่เพียงคุณหญิงรุจีจะรังเกียจชายหนุ่มเท่านั้น เขาเองก็ไม่ให้ความเคารพหล่อนเช่นกันยิ่งพ่อเจ็บคราวนี้เป็นเพราะฝีมือหล่อนด้วยแล้วหน้าเขาก็ไม่อยากมอง พ่อลูกใช้เวลาที่หายากเหลือเกินถามไถ่ทุกข์สุขกันพักใหญ่ กลองรบก็ขอตัวกลับหลังขับรถออกจากโรงพยาบาลไม่นานเขาก็พบหญิงสาวคนนึงกำลังยืนโทรศัพท์ท่าทีร้อนใจข้างรถที่จอดเสียอยู่ด้วยความที่ถูกอบรมมาอย่างดีเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้วที่ค่อนข้างจะหัวอ่อนด้วยซ้ำเขาจอดรถเพื่อให้ความช่วยเหลือทันที “มีอะไรให้ผมช่ว....ยไหมครับ” น้ำเสียงเขาชะงักงันเมื่อหญิงสาวในชุดทันสมัยหันหน้ามา ดวงหน้าหวานซึ้งมีแววเด็ดเดี่ยวเล็ก ๆทำให้ชายหนุ่มร้อนวูบวาบเหมือนกลับไปเป็นวัยรุ่นอีกครั้งกามเทพตัวน้อยแผลงศรเข้าที่หัวใจเขาอย่างจัง “รถยางแบนนะคะ...เดือนกำลังรอช่างอยู่” หล่อนตอบเผลอเรียกชื่อตัวเองออกมาอย่างน่ารักที่สุด กลองรบยิ้มละมุนแต่เมื่อเห็นเธอขยับตัวด้วยเท้าที่กระเผลกน้อยๆ ก็ตกใจปนเสียดายอดเห็นใจเธอที่พระเจ้าประทานความงามให้แล้วแต่กลับหยิบยื่นข้อบกพร่องให้ด้วยเช่นกันไม่ได้เขาเหม่อมองจนหล่อนร้องทัก “มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่ามีดอกไม้งอกบนหน้าเดือน” หล่อนพูดกลั้วหัวเราะน้ำเสียงเบิกบานไม่มีความตัดพ้อต่อข้อบกพร่องของตัวเองแม้แต่น้อยนั่นยิ่งทำให้ศรของกามเทพปักลึกเข้าไปในหัวใจอย่างถอนไม่ขึ้น รักแรกพบบังตาเขาจนมองข้ามข้อบกพร่องเรื่องขาของหล่อนเสียสิ้น จากข้อมูลเชิงลึกของชายหนุ่มหล่อเหลาลูกชายผู้การเพลงรบคนนี้ เด่นเดือนมั่นใจว่าหล่อนสามารถใช้ความสวยและเซ็กส์สยบได้ไม่ยากซึ่งก็เป็นไปอย่างที่หล่อนคาดไว้จริงๆ กลองรบจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกวาบหวาม แม้ว่าจะผ่านผู้หญิงมาหลายคนแต่ก็ไม่เคยมีความรู้สึกอย่างนี้กับใครมาก่อน ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นโชคหรือคราวเคราะห์ของเขากันแน่ที่มาตกหลุมรักนังแมวป่าเด่นเดือนในคราบลูกแมวน้อยแสนน่ารักนางนี้................ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เติบโตเบิกบานยิ่งกว่าต้นไม้ได้ปุ๋ยซะอีกจากความเป็นเพื่อนพัฒนาเป็นความรักอย่างรวดเร็ว เห็นเขาที่ไหนต้องเห็นหล่อนที่นั่นแต่จนแล้วจนรอดหล่อนก็ไม่มีโอกาสได้พบพ่อของเขาซักที ทุกครั้งที่นัดแนะกันมักเกิดเหตุขัดข้องทุกครั้งและเพราะความรักที่เขามีให้หล่อนมากเกินไปนั่นเองจึงทำให้ไม่เห็นเป็นเรื่องแปลกแม้แต่น้อย..............เด่นเดือนใช้เซ็กส์อันเร่าร้อนปรนเปรอมอมเมาไก่อ่อนสอนขันอย่างกลองรบจนอยู่มือไม่ว่าหล่อนจะทำอะไรเขาก็เห็นดีเห็นงามด้วยทุกอย่างเรียกว่าชี้นกเป็นไม้ชี้ไม้เป็นนกทีเดียวความสัมพันธ์อันลึกซึ้งทำให้เขารู้ว่าเท้าที่พิการของหล่อนไม่ได้เป็นมาแต่กำเนิดแต่เป็นเพราะความผิดพลาดของตำรวจที่ฝากตราบาปให้กับหล่อนแน่นอนเรื่องราวที่ถูกเสกสรรปั้นแต่งจนน่าเชื่อโยนความผิดทั้งมวลให้กับก้องภพคนเดียวซึ่งกลองรบที่โดนครอบงำด้วยความรักจนหูตามืดบอดก็เชื่อโดยสนิทใจความเกลียดชังในตัวก้องภพที่ไม่ต่างกับเมล็ดพันธุ์พิษถูกเด่นเดือนหว่านลงไปในจิตใจอันอ่อนโยนของกลองรบอย่างแยบยลที่สุด.......................... ชายหนุ่มมาดแมนหล่อเหลาในสูทสีเข้มปิดโทรศัพท์ขับรถมุ่งไปยังบาร์สุดหรูกลางเมืองพอไปถึงก็เห็นชายหนุ่มที่นัดหมายยืนเกร่อยู่ด้านหน้า หลังจอดรถเสร็จเขาเดินอ้อมมาตบบ่าชายหนุ่มที่อ่อนวัยกว่า “ทำไมไม่เข้าไปวะไอ้น้องชาย” “โธ่..รู้แล้วยังจะมาถามพี่พง...ใครจะโชคดีอย่างพี่ละได้เมียสวยแถมรวยอีกต่างหาก...ลำพังเงินเดือนตำรวจใช้ชนเดือนก็ถือว่าเก่งแล้วพี่ บาร์แพงระยับขนาดนี้อย่าว่าแต่เดินเข้าไปเลย แค่เฉียดกระเป๋าผมก็ฉีกแล้ว” ก้องหล้าน้องชายต่างมารดาของพงศกรนักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมที่กลายเป็นไฮโซคนดังชั่วข้ามคืนเพราะลูกสาวมหาเศรษฐีคว้าเอามาทำผัวบ่นอุบ “มากับพี่กลัวกระเป๋าฉีกเหรอวะ...ไปๆๆ” พงศกรโอบคอน้องชายอารมณ์ดีเดินเข้าไปในบาร์มีระดับที่คลอเคล้าด้วยเสียงดนตรีเบาๆ เมื่อเลือกที่นั่งสั่งเครื่องดื่มเรียบร้อยสองพี่น้องก็คุยกันไปหูตาก็สอดส่ายเหล่สาวไปด้วย “พักนี้ได้ข่าวไอ้ว่านมั้ย....ตั้งแต่โทรไปต่อว่ามันเรื่องรูปในหนังสือพิมพ์ก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยสงสัยจะโกรธพี่” พงศกรถามก้องหล้าที่เป็นพี่ชายแท้ ๆ ของก้องภพ “ไม่เลยพี่พง ถึงผมจะเป็นตำรวจ แต่งานมันคนละแผนกโอกาสเจอกันไม่มีเลยพี่ก็รู้นิสัยไอ้ว่านดีนี่ ถ้างอนละก็ไม่สนหน้าไหนทั้งนั้น” ก้องหล้าที่มียศร้อยตำรวจโทเหมือนก้องภพบอกแต่สายตากลับจ้องหญิงสาวที่ส่งสายตาหวานให้ไม่วางตา “ก็รู้อยู่ไอ้น้องคนนี้ นี่ก็ซื้อนาฬิกาให้มันแล้ว.....อะนี่ของเอ็ง” พงศกรยื่นกล่องนาฬิกาให้น้องชายต่างมารดาที่เขารัก “โหพี่พง ขอบคุณคร้าบ” ก้องหล้ายิ้มรีบตะครุบหยิบนาฬิกาที่ได้ใหม่ใส่ทันทีพลางปรายตาบอกใบ้พี่ชายสุดหล่อเป็นการตอบแทนให้หันไปมองสาวสวยที่มีเพื่อนสุดเซ็กส์มาสมทบอีกคนพอเห็นเท่านั้นสันดานเก่าของพงศกรก็คุกรุ่นทันที ภายใต้คราบหล่อเหลาดูดีพงศกรก็เหมือนกับผู้ชายทั่วไปที่มีความต้องการจะต่างกันก็ตรงที่แม้จะแต่งงานแล้วแต่ก็ยังชอบหาเศษหาเลยเป็นประจำนัยว่าการปลดปล่อยกับผู้หญิงอื่นที่ไม่ใช่เมียให้ความตื่นเต้นเร้าใจมากกว่าทั้งที่คิดห้ามใจแต่ก็ทำไม่ได้ซักที ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันสองสาวที่มีดีกรีความสวยความร้อนแรงระดับท๊อปเดินนวยนาดเข้ามาหาสองหนุ่มอย่างท้าทาย ไม่นานทั้งสี่ก็อาศัยรถหรูของพงศกรไปยังห้องชุดสุดหรูของพงศกรเช่นกัน ทันทีที่ปิดประตูสองเสือหนุ่มก็ตะครุบสองแกะน้อยอย่างตะกละระดมจูบซุกไซร้ซอกซอนสูดกลิ่นสาวจนแก่นกายกลางตัวแข็งโด่ แต่สองสาวแสนสวยกลับปัดป้องบ่ายเบี่ยง “เหม็นคะพี่...ทั้งเหล้าทั้งบุหรี่....ขอตัวไปรีเฟรชก่อนนะคะ....หนูทำใจไม่ได้อะพี่...ถ้าอยากสนุกก็ต้องทำตามกฎเนื้อตัวต้องหอมปากต้องไม่มีกลิ่นบุหรี่ โอเค๊ ” หล่อนบอกคว้ากระเป๋าถือเดินเข้าห้องน้ำปล่อยให้สองหนุ่มมองหน้ากันกลั้นหัวเราะ จากประสบการณ์ที่เจอมาเยอะก็มีครั้งนี้ที่เจอสาวอนามัย แต่ความยั่วสวาทของพวกหล่อนทำให้สองหนุ่มยอมเดินตามเกม พอห้องน้ำว่างก็เข้าไปชำระร่างกายตามที่พวกหล่อนบอก “เอ้า” พงศกรยื่นแปรงสีฟันอันใหม่ให้ก้องหล้าแล้วสองหนุ่มพี่น้องก็ยืนแปรงฟันทำความสะอาดขจัดกลิ่นเหล้าบุหรี่ทั้งขำทั้งเงี่ยนใจลอยไปไกลถึงขาอ่อนรำไรกับเนินสวาทที่จะได้ลิ้มรสก่อนจะล้มทั้งยืน เสียงดังโครมในห้องน้ำทำให้สองสาวที่นอนรอบนเตียงหัวเราะเสียงใสหล่อนไม่ใช่ใครที่ไหนนาเดียกับญาญ่าสมุนกระเทยของเด่นจันทร์ที่เคยมอมยาก้องภพกับอติรุจนั่นเองเป็นอีกครั้งที่ยาสลบของด๊อกเตอร์สติเฟื่องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพหลังจากที่หล่อนหยดใส่ยาสีฟันหลอดนั้นในห้องน้ำเมื่อครู่....................... หลังจากทำธุระเสร็จแล้ว สามหนุ่มเพื่อนซี้ก็ขับรถกะจะไปหาอะไรเย็น ๆดื่ม แต่อติรุจพลันนึกอะไรได้ ขับรถไปก็มองนาฬิกาข้อมือไปดูกระวนกระวายบ่อยจนปราการอดถามไม่ได้ “มีไรป่าววะไอ้รุจ...” “ไม่มีอะไร” อติรุจโกหก จริง ๆ แล้วมีเรื่องที่คิดไม่ตกอยากให้เพื่อนรักอยู่ด้วยตอนเผชิญหน้ากับสิ่งที่วิตกมาตลอดจึงทำทีเป็นแกล้งถาม “ใครอยากไปเหล่สาว ๆมั่งว้า” เขาเปรยขำๆ ก้องภพหูผึ่งทันที “ไป ๆ พี่รุจ ที่ไหนพี่” “สนามบิน” อติรุจตอบอมยิ้ม “โธ่..เซ็งเป็ดนึกว่าใจดีจะพาน้องไปเลี้ยง” ก้องภพต่อว่าแต่ก็ถามต่อ “ไปทำไมอะพี่หนามบิน” แล้วสิ่งที่ก้องภพอยากรู้อติรุจก็บอกให้ฟังระหว่างทางไปสนามบิน “ตั้งแต่อายุสิบสามก็ไม่เคยเจอกันเลย รูปถ่ายก็ไม่มีแล้วมึงจะจำน้องได้เหรอวะ” ปราการถามเกาหัวแกรก ๆ “เดี๋ยวเจอก็รู้เอง” อติรุจบอกเรียบ ๆรู้สึกไม่ค่อยกระตือรือล้นเท่าไหร่ที่จะเจอน้องชายที่หายสาบสูญไปถึงสิบห้าปี ก้องภพสัมผัสได้ถึงความไม่สบายใจของพี่ชายสุดหล่อก็นิ่งไม่ถามต่อจนถึงสนามบิน..........ช่วงหัวค่ำวันหยุดสนามบินเต็มไปด้วยผู้คนทั้งขาออกขาเข้าสามหนุ่มพาร่างสมาร์ทไปยืนรอตรงประตูผู้โดยสารขาเข้า ไม่นานก้องภพก็ทำตาโตหันมองอติรุจแล้วหันกลับไปยังชายหนุ่มในชุดลำลองดูดีลากกระเป๋าใบย่อมเดินตรงเข้ามาหันสลับไปสลับมาสองครั้งจนชายหนุ่มแปลกหน้าที่มีใบหน้าเหมือนอติรุจไม่ผิดเพี้ยนเข้ามายืนประจันหน้า “หวัดดีพี่รุจ......” เขากล่าวเสียงกังวาน “อืมมม...กระเป๋ามีแค่นี้ใช่ไหม” อติรุจตอบถามสั้น ๆ วกมือปัดก้องภพที่คอยสะกิด “พี่รุจ ๆๆๆ” “อะไรวะไอ้ว่าน” อติรุจอดไม่ได้ต้องหันมาดุก้องภพแต่เมื่อเห็นก้องภพบุ้ยหน้าไปยังชายหนุ่มแปลกหน้า อติรุจก็นึกได้ “เอ่ออ...นี่น้องชายกูเอง..ชื่อปวรุจหรือเรียกง่าย ๆ ว่าแสนก็ได้” เขาบอกปราการกับก้องภพ “หวัดดีครับ...ผมปราการหรือชัชไม่ยักรู้ว่าไอ้รุจมีน้องชายฝาแฝด” ปราการยื่นมือแสดงความเป็นมิตรแต่ยังไม่ทันกระชับมือแสนก็ร้องตกตะลึง “ไอ้ก้องภพ” “ครับ...ผมก้องภพครับหรือพี่แสนจะเรียกว่านก็ได้” ก้องภพยกมือสวัสดีแทนที่จะยื่นมือออกให้สัมผัสเพราะรู้ว่าตัวเองเด็กกว่าไม่ทันคิดว่าทำไมน้องชายพี่รุจถึงรู้จักชื่อเขา แสนรับไหว้อย่างงง ๆ ก่อนจะกระชับมือปราการ นึกไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเจอเรื่องประหลาดก็ก้องภพนายตำรวจคนนี้ทั้งชื่อทั้งหน้าเหมือนก้องภพที่เป็นลูกน้องเขาสมัยเรียนมหาลัยราวกับคนๆ เดียวกัน และแล้วทั้งสองก็ได้รู้เรื่องทั้งหมดว่าอติรุจมีพี่น้องฝาแฝดที่พ่อกับแม่เลิกกันและเอาลูกไปเลี้ยงคนละคนด้วยทิฐิของพ่อกับแม่ทำให้พี่น้องเกิดความเหินห่างโดยเฉพาะแสนที่รับรู้จากพ่อว่าแม่เสียชีวิตหลังจากครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็ยิ่งทำให้ความทรงจำระหว่างแม่และพี่ชายเลือนราง ส่วนรุจที่เห็นใจรักแม่รับรู้เรื่องราวทุกอย่างก็พาลเกลียดพ่อ ความเป็นไปของพ่อและน้องเขารู้น้อยมากรู้แค่แสนเรียนวิศวะในมหาลัยชื่อดังแต่ก็ไม่เคยไปมาหาสู่ยิ่งแสนไปเรียนต่อเมืองนอกกอปรกับแม่เสียชีวิตก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องแทบไม่มีรู้แค่ว่าหน้าเหมือนกันเท่านั้น ความผูกพันใด ๆ ไม่มีเลยจะว่าไปก้องภพกับปราการยังรู้ใจเขามากกว่าน้องแท้ ๆ ด้วยซ้ำ แม้แสนจะเดินทางกลับไทยทุกปีแต่ก็ไม่เคยไปมาหาสู่แต่ครั้งนี้เป็นคำขอสุดท้ายของแม่ที่อยากให้พี่น้องเจอกัน เขาถึงได้มารอรับถึงสนามบิน “น้องชายชื่อแสน แล้วพี่ชายชื่อล้านหรือเปล่าเนี่ย” ก้องภพพูดขำหันไปทำหน้าล้ออติรุจกุลีกุจอช่วยแสนลากกระเป๋ารู้สึกดีกับพี่แสนคนนี้อย่างประหลาด อติรุจถลึงตาใส่น้องว่านตัวแสบเหมือนกับบอกว่าพูดให้น้อย ๆ หน่อยแต่ก้องภพก็คือก้องภพยิ่งแหย่พี่ชายสุดหล่อ “หัวไม่ล้านซะหน่อยหงุดหงิดไปได้พี่หล่อ” แสนที่ยืนฟังอมยิ้มอดไม่ได้ตอบว่า “พี่รุจชื่อเล่นพี่หมื่น..คล้องกับผมที่ชื่อแสน” ก้องภพทำตาโตอีกครั้ง “โห..พี่หมื่นแล้วแม่หญิงการะเกดอยู่ไหนละเนี่ย” ว่าแล้วทั้งหมดก็หัวเราะขำแม้กระทั่งอติรุจก็อดยิ้มไม่ได้ ซึ่งทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลงไปมากโขทีเดียว...................... วันนี้อติรุจกับปราการและก้องภพมาดูแลความเรียบร้อยเพราะผู้การเพลงรบจะออกจากโรงพยาบาลเมื่อจัดการเรียบร้อยแล้วก็กลับไปยังตึกบัญชาการทันทีที่ถึงปราการก็ประหลาดใจและดีใจที่ได้พบกับคังยูเพื่อนเกาหลีสมัยที่ไปฝึกภาคสนามที่นั่นไม่นึกว่าคังยูจะกลายเป็นหนึ่งในสายลับของกษัตริย์วาดิมด้วย “เฮ้..นายชัช....ดีใจมากเลยที่เจอ” คังยูหนุ่มร่างสูงแข็งแรงหน้าหล่อสไตล์กิมจิจับมือปราการก่อนจะโอบกอด “ไม่ได้เจอนานนายดูดีมาก” หนุ่มเกาหลีถอยห่างพิจารณามองดูปราการที่ยังคงไว้หนวดน้อย ๆ คมเข้มตาเป็นประกายก่อนจะชกท้องแข็งแกร่งเบา ๆ เย้าเล่นพลางเหลียวมองอติรุจจ้องนานจนก้องภพจงใจแทรกตัวเข้ามายื่นมือให้ “ผมก้องภพครับ...เป็นน้องพี่ชัช” คังยูเลิกคิ้วสูงไม่จับมือแต่ยื่นมือให้อติรุจจับแทนก้องภพหน้าแดงก่ำที่โดนหยาม ยืนตัวสั่นมองไอ้หนุ่มเกาหลีจับมือพี่รุจของเขานานเกินความจำเป็นและก่อนที่ก้องภพจะระเบิดด้วยความหมั่นไส้ปราการเห็นท่าไม่ดีก็ชิงดึงตัวก้องภพออกทำให้กระประลองมวยไทยกับเทควันโด้ไม่เกิดขึ้น....................... “ไอ้คังย้วยแม่งต้องเป็นตุ๊ดแหงๆ เลยพี่ชัช....ไปเป็นเพื่อนกับมันได้ไง” ก้องภพระเบิดอารมณ์ที่อัดอั้นใส่ปราการ “ไม่เป็นหรอก...สมัยก่อนเที่ยวกันจนไม่มีซ่องจะให้เที่ยว” ปราการบอกขำ ๆ “แต่ผมว่าแม่งตุ๊ดแน่ ๆดูมันมองพี่รุจดิตางี้ฉ่ำ...อื๊ออออ..ขนลุกกก....พี่ชัชระวังเหอะ...โดนขึ้นมาจะหาว่าหล่อไม่เตือนฮ่า ๆๆๆ” ก้องภพพูดไปทำตัวสั่นเหมือนขนลุกจริง ๆ พลางยื่นมือหลอกจะจับเป้าปราการแต่ถูกปราการที่ไวกว่าคว้าเป้ากางเกงได้ก่อน “ฮ่าๆๆ..กระดูกคนละเบอร์ไอ้น้อง” ปราการหัวเราะขยำควยก้องภพเบา ๆ “โอ๊ยยย..พี่รุจดูพี่ชัชดิ” ก้องภพตัวงอสะบัดหลุดทำหน้าเศร้าเงยหน้าฟ้องอติรุจที่ยืนส่ายหัวขำให้เพื่อนที่เล่นกันเหมือนเด็ก ๆ ทว่าคำพูดของก้องภพก็ทำเอาปราการเสียววาบเหมือนกันโดยเฉพาะตูดนั้นเย็นวูบอดคิดถึงอาจารย์ติ๊ดตี่ที่เกือบล่อตูดเขาสำเร็จไม่ได้แต่พอคิดถึงคังยูก็สั่นหัวเพราะดูยังไงก็ดูไม่ออกว่าคังยูจะเป็นอย่างที่ไอ้ว่านมันว่า.......................... ดึกแล้ว คังยูประคองปราการออกจากผับเป็นคนสุดท้ายการได้มาดื่มเหล้ากันสองต่อสองแม้จะต่างสถานที่แต่ความทรงจำเก่า ๆกลับเด่นชัดในความรู้สึกของหนุ่มเกาหลีเขามองตำรวจไทยหล่อคมเข้มในอ้อมกอดตาวาววามยิ้มมุมปาก พอขึ้นรถได้ เท้าก็เหยียบคันเร่งมิดไมล์จนรถพุ่งทะยานเกินความเร็วที่กฎหมายกำหนดแต่ก็ยังไม่ทันกับใจที่โบยบินไปก่อนแล้วจนไกลแสนไกล........บนเตียงนอนหนานุ่ม ปราการนายตำรวจไทยมาดเข้มนอนหมดสติจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เสื้อเชิ๊ตถูกปลดกระดุมจนหมดแหวะกว้างเผยหน้าอกนูนแน่นน่ามองด้วยขนดำไล่เรียงเป็นแถวก่อนจะไปดกฟูตรงขอบกางเกงในที่ตอนนี้คังยูกำลังรูดออกจนหมอยกระจุกใหญ่โผล่เป็นกำแพงสีดำทะมึนรายล้อมดุ้นแห่งชายชาติที่กำลังถูกรูดเช่นกัน หนังหุ้มปลายที่ถูกรั้งจนสุดโชว์หัวกระจังบานสวยเงางามด้วยน้ำเมือกเหนียวใสสะท้อนแววตาหื่นของหนุ่มกิมจิที่แลบลิ้นเลียปากหิวกระหาย หัวควยสีชมพูเข้มโผล่พรวด ๆ ผ่านหนังควยที่เปิดกว้างผลุบๆ โผล่ ๆ ตามแรงถอกที่เร่งระดับเรื่อย ๆ จนควยทั้งดุ้นเริ่มขยายตัว ปลายหัวถอกผงกงึกๆ ตามแรงกระตุกของเส้นสองสลึงที่รั้งจนตึงเป๊ะคังยูยิ้มโน้มหน้าใกล้จนได้กลิ่นสาบที่ควยที่เหมือนกันทุกเชื้อชาติก่อนจะแลบลิ้นแตะไปที่หัวควยบานนั้นอย่างแผ่วเบา “อื๊ออออสส์” ปราการครางเบา ๆเอวกระดกเกร็งโดยอัตโนมัติทั้งที่ตายังปิดอยู่ มุมลึก ๆมุมหนึ่งในสมองบอกตัวเองว่าจุ๊บกำลังโลมเลียหัวควยเขาอย่างมีความสุขท่อนลำขนาดใหญ่มุดเข้าปากเล็กจนร่องปากขยายกว้างไม่เห็นเป็นรอยหยักของริมฝีปาก แต่กระนั้นจุ๊บก็ไม่หวั่นกลับโขยกหัวอ้าอมดุ้นเนื้อเหม็นคาวจนปลายควยตำคอกึกๆก่อนจะคายออกแล้วขย้อนอมเข้าไปใหม่และก่อนที่จะสุดก็ยังอุตส่าห์เอาลิ้นตวัดเลียหัวถอกจนเขาสะดุ้งโหยง “อูยยยย...ซี้ดดดดสส์...เสียยยยววว..ดีๆๆๆ..ซี้ดดดสส์” เสียงครางดังทำให้คังยูที่เงี่ยนอยู่แล้วยิ่งเงี่ยนหนักใช้มือกำท่อนควยใหญ่จนหัวควยแดงก่ำเกร็งลิ้นฉกตรงรอยสองสลึงรัว ๆ สลับกับเลียลำที่ปูดโปนด้วยเส้นเลือดเขียวเข้มขึ้นๆ ลง ๆ ก่อนจะจบลงที่ปลายถอกใช้ลิ้นเลียวนถี่ ๆ จนปราการที่กำลังเคลิ้มแอ่นเอวตามแต่พอหมดสภาวะเสียวร่างกำยำก็ผ่อนคลายแนบแผ่นหลังกับที่นอนตามเดิม วนเวียนอย่างนี้หลายต่อหลายครั้งจนน้ำเมือกหล่อลื่นออกมาเต็มหัวควยรูควยบานเพยิบพะยาบราวกับกำลังส่งยิ้มให้คังยูเพื่อนสายลับคังยูก็ไม่รอช้ารีบฉกฉวยโอกาสทองซุกหน้าพลิกกระโปกยานใหญ่ตะแคงหน้าไล่เลียหนังกระโปกยับย่นจนมันแผล็บส่วนนิ้วมือก็แหวกขนตูดดกดำควานหาปากถ้ำที่ปรารถนามาตลอดแต่ด้วยความรกทำให้คังยูรู้สึกรำคาญอดกระตุกขนตูดจนหลุดติดมือไม่ได้เส้นเดียวสองเส้นก็ไม่เป็นไรแต่เมื่อถูกรวบดึงเป็นกระจุกปราการที่กำลังเคลิบเคลิ้มก็ถึงกับสะดุ้งขมิบตูดอย่างรวดเร็วตามสัญชาติญาณพอลืมตาเห็นว่าอะไรเป็นอะไรก็ร้องลั่น “เฮ้ยยย...อะไรวะ” เขาดิ้นรนแต่เรี่ยวแรงที่หายไปกับฤทธิ์เหล้าทำให้ถูกคังยูที่แข็งแรงราวกระทิงหนุ่มยกตัวทับใช้มืออุดปากไว้ “จุ๊ๆๆๆๆ.....อย่าดิ้นนะรูปหล่อถ้าไม่อยากเป็นข่าว....อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก” คังยูยิ้มด้วยตาบอกเล่าเหตุการณ์ตอนอยู่เกาหลีว่าปราการโดนเขาดูดควยจนน้ำแตกนับครั้งไม่ถ้วนหนำซ้ำยังเอาคลิปวีดีโอที่ถ่ายไว้ให้ดูด้วย ปราการสูดลมหายใจด้วยความหนาวเหน็บคาดไม่ถึงจริง ๆว่าจะโดนอย่างที่ก้องภพว่า หัวสมองลั่นอึงอลคิดอะไรไม่ออก “นายก็รู้ว่าผมไม่ชอบบังคับ ถ้าไม่พร้อมผมก็ไม่ว่าแต่ขอทำต่อให้นายน้ำแตกได้ไหม” คังยูพลันเสนอทางออกให้ วนนิ้วรอบ ๆรูตูดรกขนเป็นการบอกถึงเรื่องไม่พร้อมที่ว่า ปราการไม่มีทางเลือกจำต้องผงกหัวช้า ๆ แสดงความยินยอมเขารู้จักไอ้เกาหลีนี่ดี ถึงแม้จะดิ้นรนหลุดรอดไปได้แต่ชีวิตนี้อย่าหวังอยู่อย่างสงบสุขไม่ว่าอะไรที่มีในมือรับรองได้ถูกเอามาข่มขู่ไม่รู้จักจบสิ้นแน่ ๆ นึกภาพตัวเองไม่ออกเลยว่าถ้าคลิปโดนมันดูดควยจนน้ำแตกหลุดออกไปจะเป็นยังไงพลันคังยูก็ยกมือที่อุดปากออก เปลี่ยนเป็นรวบสองแขนหนุ่มไทยยกขึ้นราวกับยอมแพ้ปราการระบายลมหายใจยาวหลับตาปี๋ทำใจไม่ได้ที่จะเห็นตัวเองโดนผู้ชายด้วยกันปรนเปรอความเสียวให้แต่แม้จะหลับตาก็รับรู้ได้ว่าคังยูซุกหน้าไซร้ไปที่รักแร้กดจมูกโด่งสูดกลิ่นเหงื่อชายแท้ฟืดฟาดๆ จนขนดกกระจุยกระจาย ค่อย ๆเลื่อนต่ำไปยังหัวนมใช้ลิ้นม้วนตวัดเลียหัวนมจนตั้งเด่แล้วเลื้อยหน้าต่ำไปยังกลุ่มหมอยลากลิ้นเลียเบา ๆ ก่อนจะอ้าอมดุ้นควยแข็งกร้าวโขยกหัวขึ้นลงๆๆๆๆ เร็วขึ้น ๆๆๆ จนปราการเสียวซี้ดดดสส์แอ่นเอวตามจนตูดไม่ติดที่นอนกัดฟันแน่นตัวเกร็งเสียวท้องน้อยวูบกลั้นเสียงครางไม่อยู่จริง ๆ “อื๊อออออสส์...ซี้ดดดสส์” เท่านั้นเองน้ำเงี่ยนมากมายก็พุ่งกระฉูดใส่ปากเร่าร้อนของคังยูจนหมดสิ้นท่ามกลางเสียงหอบหายใจหนัก ๆปราการพลันลืมตาตื่นเมื่อมีอะไรบางอย่างหล่นตุ๊บบนหน้าอก กระพริบตาถี่ ๆโทรศัพท์ที่มีคลิปน่าอายนั่นเอง “ดีลีทคลิปพวกนั้นได้เลย และครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายระหว่างเรา” ปราการงุนงงแต่ก็ฉวยโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว แทบกระโดดด้วยความดีใจรีบกดลบคลิปอุบาทว์พวกนั้นทันทีในใจก็นึกสงสัยเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็คงจะไม่สงสัยแน่ถ้ารู้ใจสายลับเกาหลีคนนี้ดีเพราะตอนนี้หัวใจทั้งสี่ห้องของคังยูมีแต่หน้าหล่อของอติรุจเท่านั้น........................... พงศกรกับก้องหล้าสองพี่น้องสะดุ้งตื่นหยีตาไม่คุ้นกับแสงไฟพอปรับสายตาได้ก็พบว่าตนเองอยู่บนเวทีสว่างจ้านั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่มีเสื้อผ้าปกปิดร่างกายแม้สักชิ้นเดียว สำรวจดูก็เห็นว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ตามลำพังถัดไปมีชายหนุ่มอีกหลายคนนั่งเป็นแถวเรียงหน้ากระดาน สองมือสองเท้าถูกล่ามด้วยโซ่ยาวหันหน้าหาความมืดมิดด้านล่างในฐานะตำรวจก้องหล้ารู้ดีว่าสภาพนี้ต่อให้เก่งกาจแค่ไหนก็หมดปัญญาดิ้นรนกำลังเค้นสมองว่าใครจับตัวพวกเขามาชายฉกรรจ์สองคนก็เดินเข้ามาจับตัวชายวัยกลางคนสองคนลุกขึ้น “ปล่อยกูพวกมึงจับกูมาทำไม...” หนึ่งในนั้นร้องโวยวายหวาดกลัว แต่ก็ไม่กล้าขัดขืนปล่อยให้ชายฉกรรจ์หยิบห่วงเหล็กสีดำสนิทมารัดโคนควยเอาไว้ พามานั่งบนเก้าอี้ประหลาดที่เตรียมไว้หน้าเวทีทำให้พงศกรกับก้องหล้ามีโอกาสเห็นตัวอักษรบนหน้าอกของทั้งคู่อย่างชัดเจน “ข่มขืนเด็กหญิง” สองพี่น้องก้มมองหน้าอกตัวเองโดยไม่ได้นัดหมาย ใจหายวาบเมื่อเห็นหน้าอกล่ำของตนมีตัวอักษรเหมือนกัน อ่านกลับหัวได้ว่า “เจ้าชู้หน้าหม้อ” พวกเขาไม่รู้ว่าตัวอักษรพวกนี้หมายถึงอะไรแถมที่ควยก็ยังเขียนตัวย่อชื่อของพวกเขาอีกด้วย แต่สัญชาติญาณบอกว่ากำลังอยู่ในอันตราย ชายสองคนที่นั่งอยู่หน้าสุดตอนนี้ตัวสั่นสะท้านหวาดกลัวสุด ๆ ทำให้ลูกกระโปกยานที่ไม่มีอะไรรองรับห้อยสั่นโทงเทงอยู่เหนือโถกระเบื้องเคลือบด้านล่างพอดิบพอดีพงศกรสูดลมหายใจอย่างหนาวเหน็บความหวาดกลัวแผ่ซ่านไปทั่วร่างรู้ถึงชะตาของชายสองคนและของตนเองขึ้นมาทันทีไม่เคยนึกฝันว่าความเจ้าชู้จะพาเขามาถึงจุดนี้ พลันเสียงที่จับทางไม่ถูกว่ามาจากไหนก็ดังขึ้น
|