แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Hot_hormone เมื่อ 2020-11-4 21:26
ความเดิมทั้งหมด
ไอ้เหี้ยเหม่ง ทาสทหารบอดี้การ์ดในวัย 18 ปี ถูกเรียกขึ้นมาใช้งานที่โลกชั้นกลางด้วยคำสั่งของคุณหนูวิน เด็กหนุ่มที่รักสนุกสุดเหวี่ยง นอกจากเรื่องบนเตียงที่ต้องโดนจัดโหดเล่นทาสเต็มขั้น ไอ้เหี้ยเหม่งยังต้องเข้าร่วมประลองชิงมงกุฎทองคำที่ไอ้พวกเด็กอภิสิทธิ์ชนจัดกันแบบลับ ๆ ผู้เข้าท้าชิงก็มาจากค่ายฝึกทาสทหารค่ายอื่นที่เป็นตัวท๊อปทั้งนั้น มีแต่ไอ้เหี้ยเหม่งที่ยังอ่อนหัดกุ๊กไก่ ทั้งหมดก็เพราะไอ้เด็กวินปากดี เสือกท้าทายว่า บอเตโล่ หรือ ค่ายฝึกของไอ้เหี้ยเหม่ง ยังฝึกไก่ได้เก๋ากว่าค่ายฝึกง่อย ๆ ของผู้เข้าแข่งขันคนอื่น ๆ งานนี้ไม่หมูสำหรับหน้าอ่อนแต่ตัวใหญ่ล่ำยักษ์อย่างไอ้เหี้ยเหม่ง แต่อย่างน้อยไอ้เหี้ยเหม่งก็ยังรุ่นพี่ทาสทหารที่เป็นบอดี้การ์ดให้คุณหนูโน เพื่อนรักของไอ้เด็กวิน มาเป็นพี่เลี้ยงให้ ชื่อว่า ไอ้เฮียเหมา ชื่อของ ไอ้เฮียเหมาเป็นที่รู้จักถึงความอึดทรหดกันดีอยู่แล้ว แล้วให้เป็นพี่เลี้ยงไอ้เหี้ยเหม่งที่ย่อมลงให้ใครที่ไหนก็ปวดสมองฉิบหาย ตอนนี้ผ่านมาแล้วสองงานประลอง คราวนี้ถึงทีที่ไอ้เหี้ยเหม่งต้องแข่งกับผู้ท้าชิงคนใหม่อีกครั้ง พอมาถึงสนามประลองที่เรียกกันว่า โดโจ ไอ้เหี้ยได้รู้เรื่องราวของรอยสักของไอ้เฮียเหมา แต่ยังมีความลับซุกซอนเกี่ยวกับรอยสักนั้น
ความเดิมตอนที่แล้วทั้งหมดได้ที่ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามมาตลอดสี่ปีนะครับผม
ประเภทของนิยาย เรื่องแต่ง - ต้นฉบับ - โจ๋งครึม - ไซไฟแฟนตาซี - ซาดิสต์ และ มาโซคิสต์ - คอมเมดี้ - ดราม่า Bara - Shota - Yaoi
- 27 -
ออกมาจากร้าน ไอ้เหี้ยเหม่งก็ยืนกร่างกอดอกจ้องรอยสักของไอ้เฮียเหมาเต็มตา รอยสักผืนใหญ่นี้กินเวลาเกือบหกปีจนกระทั่งเสร็จสมบูรณ์เป็นลายมังกรผงาดอัดแกร่งเต็มแผ่นหลัง มันนึกถึงคำพูดของช่างปักก่อนออกมาจากร้าน ช่างปักพูดว่า " ไม่ใช่ว่าไอ้พวกทาสทหารตัวเก๋าทั้งหมดจะมีรอยสักผืนใหญ่อย่างไอ้เหมา ถ้าพวกแม่งไม่ถึกเถื่อนทรหดจนเข้าตาไอ้พวกเจ้าพ่ออภิสิทธิ์ชน พวกแม่งก็เป็นได้แค่หมากในเกมส์ของไอ้พวกเจ้าพ่อ ถ้าไม่ถูกจ้างมาทำภารกิจโหด ๆ ก็ถูกจ้างขึ้นมาบำเรอความสุขเป็นครั้งเป็นคราว " ไอ้เหี้ยเหม่งยังยืนกร่างนิ่งนึกทบทวนคำพูดหลังจากนั้นของช่างปักอีกรอบ ช่างปักพูดชวนสงสัยว่า " ไอ้เหมาคือหนึ่งในสุดยอดทาสทหารบอดี้การ์ดไม่กี่คนที่กูเคยสักให้ รอยสักของมันคือศักดิ์ศรีแห่งลูกผู้ชายอกสามศอกของบอเตโล่ แต่ถ้ามึงเจ๋งพอนะไอ้เหม่ง มึงจะรู้ว่ารอยสักของกูเป็นแค่เครื่องหมายของสุดยอดทาสทหารเท่านั้น แต่มันมีบางอย่างที่อยู่เหนือกว่ารอยสักของกู มันคือพลกำลังที่ค่ายฝึกบอเตโล่ของมึงพยายามฝึกให้มึงมี แต่ก็ไม่ใช่ทาสทหารทุกคนจะมีนะเว๊ย " ช่างปักจ้องไอ้เหี้ยเหม่งด้วยสายตาประเมิณความสามารถ เขาคิดในใจว่า ไอ้เหี้ยเหม่งต้องมีดีอะไรสักอย่างถึงถูกเรียกมาใช้งาน " ถ้ามึงยังไม่โดนกำจัดทิ้งไปซะก่อน สักวันมึงจะได้เห็นพลังนั่นจากไอ้เหมา " ช่างปักพูดจบก็มองไอ้เฮียเหมาด้วยสายตายอมรับในฐานะสุดยอดทาสทหาร แต่พลกำลังที่แฝงเร้นของไอ้เหมาคืออะไรกันแน่ ไอ้เหี้ยเหม่งสงสัย
ไอ้เฮียเหมาคงสังเกตได้ว่าไอ้เหี้ยเหม่งกำลังจ้องรอยสักของมัน มันเลยแหย่ไอ้เหี้ยเหม่งว่า " มึงอยากเลียรอยสักกูขนาดนั้นเลยเหรอวะ " ไอ้เหี้ยเหม่งสะดุ้งอึ้ง หน้าตาของแม่งสยองสยึ่มกึ๋ย " เหี้ย ! มึงอย่าพูดอะไรให้กูขนลุกสิวะ ! " มันพูดแล้วปาดขนที่กำลังตั้งชัน แต่จู่ ๆ ไอ้เฮียเหมาก็กดหัวมันลงซุกวงในอีกรอบแล้ว ไอ้เหี้ยเหม่งดิ้น ๆ ไอ้เฮียขำก๊ากแล้วล้อแม่งว่า " ถ้ามึงอยากเลียกูก็ยอมนะเว๊ย นิ่งตอนนี้กูเซี่ยนหม้อฉิบหาย ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! " เสียงขำของไอ้เฮียกลบเสียงตะโกนขลุกขลุกของไอ้เหี้ยเหม่งมิด
หน้าร้านที่ชื่อว่า " โคตรอึดพลังช้าง ! " ไอ้เฮียเหมายืนกร่าง อ่านข้อความที่ไอ้เด็กโนเขียนทิ้งไว้เป็นไว้โฮโลแกรม ครืด ! เสียงประตูหน้าร้านเปิดออก พร้อมบริกรสูทดำผ่ายมือเชื้อเชิญ " ยินดีต้อนรับครับ คุณหนูโนได้เรียนให้ทราบแล้วว่าคุณหนูท่านประสงค์สิ่งใดบ้าง " ไอ้เฮียเหมาก้มหัวให้กับบริกรเพื่อขอบคุณแล้วเดินเข้าร้าน ไอ้เหี้ยเหม่งเข้าตาม มันถึงกับยืนอึ้ง " เย็ดโด้ "
" โคตรอึดพลังช้าง " เป็นร้านขายยาสารพัดรูปแบบ ตกแต่งสะอาด หลอดยาหลายรูปทรงถูกวางเรียงกันบนชั้นกระจกพร้อมป้ายชื่อและสรรพคุณครบครัน ไอ้เหี้ยเหม่งทำจมูกฟุดฟิด สูดดมทุกกลิ่นไอหอมฟุ้ง " ทำไมร้านนี้หอมจังวะ " แต่ยังไม่ทันจะได้คำตอบจากไอ้เฮียเหมา ชายหนุ่มวัยประมาณสามสิบห้าก็ทักไอ้เฮียจากอีกฝั่งของตู้ยา " สุดยอด ! " เขาโพล่งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ไอ้เฮียหันไปมอง ไอ้เหี้ยเหม่งก็ด้วย ชายหนุ่มผู้นั้นเดินเข้าหาไอ้เฮียเหมา สองมือของเขาจับมัดกล้ามของไอ้เฮียจากหัวไหล่ แล้วลูบลงไปถึงกล้ามแขน จนบีบเล่นกล้ามเนื้อรอบสีข้าง ไอ้เหี้ยเหม่งทำหน้างง แต่ไอ้เฮียเสือกยืนนิ่ง ทว่าท่าทางของแม่งก็น่าจะไม่รู้จักชายหนุ่มผู้นี้เช่นกัน ชายหนุ่มเงยหน้ามองไอ้เฮียแล้วยิ้มสนุก " ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอมึงตัวเป็น ๆ ที่นี่ ตัวใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้ตั้งเยอะ " ชายหนุ่มไม่พูดเปล่า เขายังเอามือลูบกล้ามท้องของไอ้เฮียเล่น พร้อมจ้องเขม็งของแข็งที่กำลังงัดผ้าขาวม้าทรงพลัง
" มีอะไรให้กระผมช่วยเหลือหรือไม่ครับ " ไอ้เฮียถามเสียงนุ่ม ไอ้เหี้ยเหม่งทำหน้างงหนักเลยทีนี้ แต่ชายหนุ่มยังแค่ยกยิ้มก่อนจะปะป่ายปลายมือทั่วกล้ามอกของไอ้เฮียเหมา เขาพูดพร้อมรอยยิ้มนั้นว่า " มีสิ มีให้ช่วยเยอะเลย " พูดจบ ชายหนุ่มก็จะล้วงมือเข้าไปในผ้าขาวม้าของไอ้เฮีย ไอ้เหี้ยเหม่งอึ้ง แต่ไอ้เฮียถอยตัวเร็วโคตร มันก้มหัวลงให้กับชายหนุ่มเล็กน้อยที่มันทำอาการเสียมารยาท ก่อนจะพูดเสียงเข้มว่า " ขอโทษครับ กระผมไม่สามารถให้ท่านจับยักษ์ใหญ์ของกระผมได้ " สายตาของไอ้เฮียวิบวับกวนส้นตีน ไอ้เหี้ยเหม่งรู้ว่าแม่งโคตรภูมิใจกับขนาดเกินมาตราฐานของบอเตโล่ แต่ชายหนุ่มยังยกยิ้ม แล้วหยิบกล้องพร้อมโดรนขึ้นถ่ายภาพ " อย่างน้อยก็เก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกไว้ก่อนก็ได้ " เขาพูด
ไอ้เฮียเหมายืนกร่างในท่าตามระเบียบพัก แต่พอชายหนุ่มกำลังจะคล้องกล้ามแขนของมัน มันรีบหลบฉากทันที " ขออภัยครับ กระผม . . . " ไอ้เฮียยังไม่ทันจะพูดจบ ชายหนุ่มก็ทำหน้าบูดบึ้งแล้วประกาศลั่นร้าน " ไม่ว่าราคาของมึงจะแพงแค่ไหนในงานประมูลวันนี้ กูจะยอมจ่ายเพื่อเอามึงมาเล่นให้ได้ ! " ชายหนุ่มพูดจบก็เดินอาด ๆ ออกจากร้านไป ทาสทหารบอดี้การ์ดของแม่งทั้งสามคนที่แก้ผ้าล่อนจ้อนรีบเดินตาม ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของผู้คนในร้าน บางคนเดินมาถ่ายรูปกับไอ้เฮียเล่น บางคนยืนมองด้วยท่าทางสนใจ แต่ไอ้เหี้ยเหม่งแปลกใจ จนกระทั่งชายบริกรเข้ามาขัดจังหวะพร้อมกล่าวเชิญ " เชิญทั้งคู่ทางนี้ " ไอ้เฮียเหมาก้มหัวให้กับทุกคนที่เข้ามาถ่ายภาพกับมัน แล้วเดินนำไอ้เหี้ยเหม่งเข้าหลังร้าน ไอ้เหี้ยเหม่งเกาหัวแกรก ๆ แต่ทุกคนในร้านดูสนใจไอ้เฮียเหมามากจริง ๆ
ระหว่างทางไปหลังร้าน ไอ้เหี้ยเหม่งเดินอาด ๆ พลางชำเลืองมองไอ้เฮียเหมากึ่งสำรวจ แต่ดูเหมือนไอ้เฮียจะเป็นฝ่ายจับพิรุธได้ แม่งเลยถามด้วยหน้าตากวนส้นตีน " มึงเป็นเหี้ยอะไรวะ มองกูแบบนี้ กูเสียวนะเว๊ย ! " ไอ้เหี้ยเหม่งหยุดกึก ยืนกร่างแล้วถาม " ทำไมไอ้พวกที่อยู่ในร้าน แล้วก็ไอ้พวกทั้งหมดนั่นสนใจมึงนักวะ " ไอ้เฮียเหมาไม่ได้ตอบอะไร มันแค่ยิ้มกวนส้นตีนพร้อมเดินตามไอ้บริกรเข้าไปหลังร้าน แต่ก็ยังเสือกตะโกนตอบกลับมา " กูไม่รู้วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ไอ้เหี้ยเหม่งฉุนกึก มันชักสงสัยว่าทำไมไอ้เฮียถึงมีคนสนใจแม่งมากมาย
หลังร้าน ไอ้เหี้ยเหม่งเห็น " ตู้นอนดักแด้ " วางเรียงกันโดยเว้นช่องไฟไว้เป็นสัดส่วน ตู้นอนดักแด้เป็นตู้น้ำคล้ายตู้ปลาขนาดทาสทหารไซส์บิ๊กเบิ้มหนึ่งคนนอน ตู้พวกนี้มีไว้เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บทุกสัดส่วนบนร่างกาย เพียงแค่ผู้บาดเจ็บนอนแช่อยู่ในตู้ที่ปิดสนิท หลังจากนั้นน้ำยารักษาบาดแผลสีฟ้าอ่อนจะไหลท่วมร่างกายทั้งหมด หน้ากากหายใจจะถูกปลดออกเพื่อให้ผู้บาดเจ็บส่วมใส่ขณะที่นอนลอยตัวอยู่ในตู้น้ำ เวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับขนาดและสภาพบาดแผล แต่โดยปกติพวกทาสทหารมีความสามารถฟื้นฟูบาดแผลของตนได้เอง และดีกว่าคนปกติเป็นพันเท่า พวกมันจึงไม่จำเป็นต้องพึ่งตู้ดักแด้พวกนี้ แต่พวกมันใช้ตู้พวกนี้เพื่อเพิ่มสรรมถนะทางร่างกาย ไอ้เหี้ยเหม่งชอบไอ้ตู้เหี้ยนี่ น้ำอุ่น ๆ กับกลิ่นหอม ๆ ทำเอามันเคลิ้มหลับทุกครั้งที่ต้องใช้ไอ้เหี้ยตู้นี่ในค่ายกักกัน มันรีบปลดผ้าขาวม้าออก แต่ไอ้เฮียเหมาเสือกโยนหลอดยาให้แม่งสามหลอดก่อนจะก้าวเข้าตู้ ไอ้เหี้ยเหม่งก้มมองน้ำยาสีเหลืองอำพันแล้วพลิกหน้าพลิกหลังสำรวจรอบหลอด
ไอ้เฮียเหมาปลดผ้าขาวม้าออกแล้วพูด " ฉีดแม่งซะ นายน้อยของกูจัดยาพวกนี้ให้มึงโด๊ปก่อนแข่งคืนนี้ " ไอ้เหี้ยเหม่งฉีกยิ้มเหี้ยม แต่มันยังเสือกถามไอ้เฮียที่เข้าไปนอนนิ่งในตู้แล้ว " งานนี้ถึงขนาดต้องโด๊ปเลยเหรอวะ " ไอ้เฮียฉีกยิ้มกวนส้นตีนแล้วตะโกนออกมาจากตู้ " กุ๊ก ๆ อย่างมึงโด๊ปแค่สามหลอดจะพอเหรอวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า " เสียงขำของไอ้เฮียเล่นไอ้เหี้ยเหม่งอยากตะบันหน้าของสักดอก แต่มันก็จัดการโด๊ปยาทันที " ปึก ! " มันเอาปลายเข็มของหลอดยาแทงเข้าไปในถุงกระโปกพร้อมกันทั้งสามเข็ม เสียงซื๊ดส์สะใจเข้ม ๆ หอนลากยาวออกมา " ออร์ค สะใจฉิบ " ไอ้เหี้ยเหม่งพร่ำแล้วกดน้ำยาให้ไหลเข้าถุงไข่ " ซื๊ดส์ " มันครางเสียวแว๊บจนน้ำยาหมดหลอด หลอดยาถูกกระชากออกพร้อมคืนให้บริกรสูทดำ บริกรรับคืนแล้วผ่ายมือให้เข้าตู้ดักแด้ เขาพูดเสียงนิ่งว่า " พักผ่อนได้สามสิบนาที " ไอ้เหี้ยเหม่งก้มหัวขอบคุณแล้วกระโดดเข้าตู้ที่น้ำยาถูกถ่ายเข้ามาแล้วครึ่งหนึ่ง
เวลาครึ่งชั่วโมงผ่านไป ไอ้เหี้ยเหม่งหลับตั้งแต่ห้าวิแรกที่มันตู้มลงตู้ พอถึงเวลาน้ำก็ลดลงแล้วตู้ก็เปิดออก ไอ้เฮียเหมากำลังยืนกร่างพร้อมเอาผ้าเช็ดหัว ไอ้เหี้ยเหม่งหยิบผ้าของมันขึ้นซับหน้าแล้วถูหัว กลิ่นน้ำยาหอมฟุ้งจากตู้ยังแตะจมูก มันรู้สึกมีเลือดลมร้อน ๆ กระตุ้นกล้ามเนื้อให้ตึงเปรี๊ยะ ๆ ไอ้เฮียเดินมาหามันแต่ยังแก้ผ้าล้อนจ้อน ไอ้เหี้ยเหม่งเห็นบ้องบิ๊กเบิ้มแล้วทำหน้าเซ็งแล็วก็บ่นเสียงเซ็ง ๆ " เมื้อกี้กูยังฝันถึงหน้าท้องขาว ๆ กับตูดนิ่ม ๆ ของเด็กกูอยู่เลย ทำไมกูต้องตื่นมาเจอควยดำ ๆ ของมึงด้วยวะ " ไอ้เฮียเหมาขำก๊าก มันกดหัวไอ้เหี้ยเหม่งซุกวงในแล้วเอากำปั้นขยี้หัวตุ๊ย ๆ " ถ้ามึงชอบ บอกกูได้นะเว๊ย กูจะให้มึงอมทั้งคืนเลย ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ไอ้เหี้ยเหม่งดิ้นพร้อมทำหน้าสยึมกึ๋ย แค่คิดภาพแม่งก็สยองแล้ว
ประตูร้านเปิดออก ไอ้เฮียเหมากับไอ้เหี้ยเหม่งก้มหัวขอบคุณให้กับบริกร ไอ้เฮียกดหน้าจอโฮโลแกรมว่าต้องทำอะไรต่อจึงรู้ว่าปลายทางคือร้านประจำของมันกับไอ้เด็กโน ไอ้เฮียเลยเดินนำไอ้เหี้ยเหม่งขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นห้า " ฟรีโซน " ของจริงในโดโจเซนเตอร์นี้ " ตู้ม ! ตึ่ม ! ! ตึ้ม ! ! ตึ๊ม ! ! ตู๊ม ! ! ! " เสียงเพลงเฮฟวี่หนัก ๆ บีทกระแทก ๆ ดังสนั่นไปทั่ว พอประตูลิฟต์เปิดออก ไอ้เหี้ยเหม่งทึ่งพร้อมฉีกยิ้มแยกเขี้ยว มันทำท่าตื่นเต้นแล้วตะโกน " โดโจต้องเป็นอย่างนี้สิวะ ! ฮึ๊ย ! ! " ไอ้เฮียเหมายืนกร่าง กอดอกยิ้ม บรรยากาศที่ครึกครื้นขวักไขว่ด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แสงสว่างจากโลกภายนอกสอดส่องเข้ามาจากแค่ตรอกลึกหลายตรอก ด้านในสุดของแต่ละตรอกติดตั้งกระจกใส ไอ้เหี้ยเหม่งเงยมองเพดานทรงประหลาดที่กำลังเคลื่อนแผ่นคอนกรีตหลายสิบแผ่นวนกลับไปกลับ ลักษณะคล้ายกับโซ่จักรยาน พอแผ่นคอนกรีตที่อยู่บนลูกลอกทาบทับแสงสว่างด้านบน เงาดำก็จะตกลงกระทบบริเวณโดโจด้านล่าง แต่แผ่นคอนกรีตเคลื่อนผ่าน แสงสว่างก็สาดลงมาเป็นช่วง ๆ ซึ่งทำให้ฟรีโซนตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปเดี๋ยวมืดเดี๋ยวสว่างสลับไปสลับมา
" เย็ดเข้ ! ! " ไอ้เหี้ยเหม่งตะโกนตะลึงพอมองไปเจอหนังสดที่ไอ้พวกเด็กหนุ่มอภิสิทธ์ชนกำลังฟัดกับทาสทหารของพวกแม่ง ทาสทหารเกือบทั้งหมดในนี้แก้ล่อนจ้อน ในซอกที่ใกล้ที่สุดมีเด็กหนุ่มที่ส่วมหน้ากากกำลังโม๊คบ้องของทาสทหารที่ตัวใหญ่กว่าตัวแม่งเองเกือบสามเท่า ไอ้ทาสทหารนั่นยื่นกร่างแหกหน้าขาในท่าเอามือทับบนหลังหัว กล้ามล่ำ ๆ ของแม่งอัดแกร่ง ไอ้เด็กนั่นอมบ้องได้ไม่ทันไรก็ต้องคายออกเพราะมีทาสทหารอีกคนกำลังสอยประตูของเขาแบบถี่ยิบ ไอ้ทาสทหารนั่นแทบจะย่อเข่าติดพื้นเพราะต้องกระเด้าวีเชฟให้ลงประตูของไอ้เด็กนั่น แต่ไอ้เด็กนั่นแค่ยืนย่อขานิดหน่อย ก้นของแม่งเลยไม่ได้อยู่ในระดับท่าหมา แถมยังใส่เสื้อผ้าครบยกเว้นแค่กางเกงที่ลงไปกองกับพื้นแต่ส่วมกางเกงในที่ปิดกระจ๊วยไว้ ไอ้ทาสทหารที่กำลังย่อเย็ดโคตรพริ้ว กล้ามเนื้อช่วงล่างของแม่งดีสุดยอด ทุกท่วงท่าที่แม่งเสยบั้นเด้าโคตรเน้นแล้วตอกยิก ๆ
" อึก ! ! " ไอ้เหี้ยเหม่งกลืนน้ำลายเหนียว ๆ ลงคอ มันคงจ้องไอ้หนังสดคู่นี้นานไป ไอ้เฮียเหมาเลยกดหัวมันลงซุกวงในให้เดินตาม เสียงหัวเราะของไอ้เฮียดังลั่นแถมตะโกน " มึงอยากร่วมวงด้วยรึไงวะ ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ไอ้เหี้ยเหม่งดิ้นพราด ๆ แต่มันยังเห็นรอบ ๆ จากมุมใต้จั๊กกะแร้ของไอ้เฮีย รอบข้างของพวกแม่งมีหนังสดกันเต็มไปหมด บางคนกำลังนั่งอมควยของทาสทหารที่ยืนแหกหน้าอยู่ริมระเบียง โดยที่ไอ้ทาสทหารยืนอยู่ด้านนอกแล้วคลุมผ้าขาวม้าปิดเจ้านายไว้ บางคนจับรวมกลุ่มแล้วเอาของใกล้ตัวมาวัดขนาดบ้องของทาสทหารแข่งกัน เสียงหัวเราะผสมกับเสียงครวญครางสลับไปสลับมาครึ๊กครื้น " ถึงแล้วเว๊ย ! " ไอ้เฮียเหมาปล่อยไอ้เหี้ยเหม่งให้หลุดจากวงใน ไอ้เหี้ยเหม่งเซนิด ๆ พร้อมจะนัวกับไอ้เฮียสักตั้ง แต่ป้ายที่ห้อยลงมาจากเพดานคราวนี้กำลังฉายภาพตราสัญลักษณ์ของบอเตโล่ มันเป็นจอโฮโลแกรมชนิดพิเศษที่ฉายภาพออกมาเป็นสามมิติ พร้อมกับภาพเด็กหนุ่มในท่ายั่วยวนที่กระโดดออกมาจากหน้าจอโฮโลแกรมนี้ แล้วลอยไปยังหน้าจอโฮโลแกรมอื่น ๆ ที่ติดตั้งอยู่ทั่วโดโจเพื่อโฆษณาสินค้าให้กับบอเตโล่ ไอ้เฮียเหมาฉายหน้าจอโทรศัพท์ลงพื้น " แว๊บ " เส้นหัวลูกศรลอยนู่นขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งกระพริบไฟเพื่อบอกทางไปยังปลายทางที่ไอ้เด็กโนบันทึกไว้ ไอ้พวกเด็กหนุ่มอภิสิทธิ์ชนหลายคนหยุดหนังสดแล้วหันมามองลูกศรของไอ้เฮียเหมา ทั้ง ๆ ที่พวกแม่งกำลังโดนเย็ดอยู่หรือไม่ก็กำลังอมบ้องคาปาก ไม่ใช่ว่าไอ้พวกเด็กเศรษฐีพวกนี้ไม่มีเทคโนโลยีนี้ แต่ไม่มีใครใช้สีทองคำที่สว่างหมดจดจนสะดุดตาขนาดนี้ ไอ้เฮียเหมายิ้มโคตรภูมิใจเพราะคนที่ประดิษฐ์ " เจ้าลูกศรจีพีเอส " นี่คือ " นายน้อยของมัน "
ไอ้เฮียเหมาเห็นว่าปลายทางอยู่อีกไม่ไกลเลยตะโกนเรียกไอ้เหี้ยเหม่งที่ยังยืนนิ่ง จ้องเขม็งหน้าจอโฮโลแกรม ตอนแรกแม่งก็สงสัยว่ามีอะไรทำให้ไอ้เหี้ยเหม่งสนใจได้มากกว่าไอ้พวกหนังสดที่อยู่รอบ ๆ แต่พอแม่งเงยมองหน้าจอโฮโลแกรมตัวหลัก แม่งก็ตบเกาหัวแกรก ๆ แก้เขิน " สุดยอด " ไอ้เหี้ยเหม่งเพ้อ มันเห็นไอ้เฮียเหมายืนกร่าง ผงาดแผ่นหลังรูปมังกรอยู่ในหน้าจอโฮโล ประมวณภาพที่ไอ้เฮียเหมาเคยผ่านสมรภูมิมาโชกโชนถูกฉายเป็นภาพโฆษณาที่บอเตโล่ใช้ขึ้นทั่วโดโจ ไอ้เฮียเหมาชนะศึกสังเวียนเดือดมาเกือบทุกที เคยร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับไอ้พวกหุ่นดรอยเพื่อกำจัดพวกตลาดมืดในโลกชั้นล่าง ฝีไม้ลายมือทุกศิลปะการป้องกันตัวของแม่งกระแทกคู่ต่อสู้ในการแข่งขันระหว่างค่ายกักกันจนล้มลงกองนับร้อย ปิดท้ายด้วยภาพอึดเถื่อนที่แม่งโดนซัดจนจนน่วมแต่ยังเสือกยิ้มสะใจ โฆษณานี้เป็นไวรัลของบอเตโล่ที่กระจายขึ้นพร้อมกันทั่วโดโจ พร้อมเด็กหนุ่มโฮโลลอยมากอดไอ้เฮียเหมาในหน้าจอโฮโลปิดท้าย เด็กหนุ่มยิ้มหล่อและกล่าวเชื้อเชิญ " ยินดีต้อนรับสู่บอเตโล่ ชั้นเจ็ด โซนสาม "
" . . . " ไอ้เหี้ยเหม่งมองตาค้าง แต่ไอ้เฮียเหมายืนกอดอกยิ้มกวนตีน " ทำไมวะ กูเท่ห์ขนาดที่มึงต้องจ้องเลยเหรอวะ " สีหน้าของไอ้เฮียเหมาเหย่ไอ้เหี้ยเหม่งเต็มจุก ไอ้เหี้ยเหม่งหันมามองตัวจริงแม่งด้วยสีหน้าทึ่ง ๆ " ทำไมลูกหมาอย่างมึงได้ขึ้นจอให้บอเตโล่วะ " ไอ้เหี้ยแม่งถาม แต่ไอ้เฮียเหมาไม่ได้ตอบอะไร มันแค่เก๊กหล่อแล้วยิ้มกวนส้นตีน ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ซัดกันให้รู้ดำรู้แดงกันไปสักตั้ง ไอ้เด็กหนุ่มในโฮโลเมื่อกี้นี้ก็ประกาศโฆษณางานประมูลที่บอเตโล่จัดขึ้นในหอศิลป์ คำเชิญชวนนี้ทำให้ไอ้เฮียเหมายิ้มสนุก " กูมีอะไรเด็ด ๆ ให้มึงดูเว๊ย " ไอ้เหี้ยเหม่งที่กำลังจะซัดไอ้เฮียเหมาสักตั้งก็หยุดความคิดไว้ก่อน เพราะรอยยิ้มแบบหาเรื่องของไอ้เฮียน่าจะสนุกจริงอย่างที่แม่งว่า
โดยปกติ บอเตโล่ไม่จัดงานประมูลทาสทหารเพราะหน้าที่ของทาสทหารไม่ใช่แค่เรื่องเย็ด ๆ แต่ทาสทหารคือบอดี้การ์ด ในโลกของบอเตโล่ พวกอภิสิทธิ์ชนที่มีอยู่ไม่ถึงหยิบมือมักจะตกเป็นเป้าของพวกตลาดมืดหรืออาชญากรข้ามถิ่น บางครั้งพวกแม่งก็ขัดผลประโยชน์กันเองจนตกเป็นเป้าลอบสังหาร บางครั้งก็เกิดจราจลเพื่อหวังโค่นล้มอำนาจ ทาสทหารบอดี้การ์ดถึงเป็นตัวละครสำคัญที่อภิสิทธิ์ชนทุกคนต้องมี เพราะนอกจากจะเอาประกาศศักดินาของตนเองแล้ว ยังเอาไว้คุ้มครองความปลอดภัยที่หาได้ยากในโลกชั้นนี้ อภิสิทธิ์ชนบางคนใช้วิธีเช่าเวลาเพราะยังหาบอดี้การ์ดที่ซื่อสัตย์หรือถูกใจไม่ได้ แต่บางคนใช้วิธีซื้อขาดพอได้เจอทาสทหารที่มีหน่วยก้าน เพราะหากทาสทหารที่มีฝีมือตกไปอยู่ในมือของคู่อริ หรือตระกูลที่คานอำนาจกันแล้วละก็ ปัญหาที่ค้างคาจะบานปลายเกินแก้ไข และมักจะจบไม่สวย เพราะฉะนั้น บอเตโล่จะใช้วิธีจัดงานเจ้าสังเวียนแล้วเชิญแขกอภิสิทธิ์ชนลงไปเลือกเฟ้นหาทาสทหารที่ตนถูกใจ ไอ้พวกทาสทหารจะซัดกันนัวหรือโชว์อึดเถื่อนชนิดยอมตามหากไม่ถูกคัดเข้าตระกูลพวกอภิสิทธิ์ชน แต่ที่มีงานประมูลทาสทหารวันนี้หอศิลป์ มันไม่ใช่ทาสทหาร แต่เป็น " ทาสสนม "
" ทาสสนมคืออะไรวะ " ไอ้เหี้ยเหม่งถามไอ้เฮียเหมาที่ดูจะกระตือรือร้นเป็นพิเศษ และไอ้หอศิลป์นี่คืออะไร ไอ้เหี้ยเหม่งงงไปหมด ไอ้เฮียเหมาโค้งให้กับไอ้พวกหน่วยรักษาความปลอดภัยที่อยู่หน้าประตูหอศิลป์ พวกแม่งยิงแสกนบาร์โค๊ดที่ท้ายทอยของทั้งไอ้เฮียเหมากับของไอ้เหี้ยเหม่ง หลังจากตรวจความปลอดภัยเสร็จ พวกแม่งทั้งคู่ก็ได้เข้าหอศิลป์ " เย็ดโด้ " ไอ้เหี้ยเหม่งตะลึงกับภาพวาดที่โป๊เปลือยในท่วงท่าที่โคตรจะพิสดาร แต่ทุกรูปภาพสวยงามหมดจดแบบที่มันยังไม่เคยเห็นภาพไหนจะสวยเท่า แต่พวกนี้ไม่ใช่ไฮไลท์ของหอศิลป์ เพราะแท้จริงแล้วที่นี่คือห้องจัดแสดงของเล่นที่ใช้กับทาสทหาร หรือไม่ก็สิ่งประดิษฐ์รุ่นใหม่ล่าสุดที่กำลังเปิดตัว แต่ท่าทางวันนี้ไฮไลท์จะอยู่ที่งานประมูลทาสสนมที่บอเตโล่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ความอลังการของงานดูได้จากตีมที่ระยิบระยับด้วยละอองทองคำฟุ้งพลิ้วไปทั่วหอศิลป์ โคมไฟสปอตไลท์ฉายไปที่เวทีกลางซึ่งตั้งรูปปั้นตราสัญลักษณ์ของบอเตโล่ขนาดใหญ่เอาไว้ ด้านหน้าเวทีเป็นที่รับรองแขกวีไอพีที่มากันทุกวัยตั้งแต่หนุ่มน้อยไปจนถึงชายชรา ทุกประติมากรรมในงานเหมือนกำลังจำลองภูมิศาสตร์แบบทะเลทราย ทั้งแสงและเงา กลิ่นอายที่ให้ความรู้สึกร้อน แต่อัดแน่นด้วยความลึกลับน่าค้นหา
" กลิ่นไม่ดีเลยแฮะ " ไอ้เหี้ยเหม่งพูด ตอนนี้มันกับไอ้เฮียเหมายืนกร่างอยู่แนวหลังของงานประมูล " หึ หึ " ไอ้เฮียเหมายิ้มขำ มันเข้าใจความรู้สึกของไอ้เหี้ยเหม่งเพราะแขกทั้งงานคือพวกพันธุ์เย็ดเหมือนมันทั้งคู่ ไม่ว่าจะเป็นไอ้พวกอภิสิทธิ์ชนหรือไอ้พวกบอดี้การ์ดของพวกแม่ง แต่ตอนนี้ไม่มีใครสนใจกันและกันเพราะงานประมูลกำลังจะเริ่ม พิธีกรบนเวทีกล่าวเปิดตัวทาสสนมทั้งยี่สิบที่บอเตโล่คัดมาให้ยลตา ดนตรีเพื่อความเย้ายวนดังกระหึ่ม ชายหนุ่มในชุดเปิดหน้าอกผิวสีแทนน้ำผึ้งเดินออกมาจากด้านหลังของรูปปั้น แขกแทบทุกคนในงานส่งเสียงฮือฮา เพราะชายหนุ่มคนนี้หล่อเหลา มีกล้ามเนื้อแน่นหนัน ชุดผ้าที่สวมออกมาเป็นเนื้อผ้าชั้นเยี่ยม สะกดทุกตาให้จับจ้องดวงหน้าที่เหมือนหลุดมาจากเทพนิยาย
ไอ้เหี้ยเหม่งยืนตาค้าง ควยแข็ง นี่มันสวรรค์ชัด ๆ มันเคยเห็นคนที่หล่อเหลามาบ้าง แต่ถ้าทั้งหล่อแล้วยั่วยวนขนาดนี้ มันยังไม่เคยลอง ชายหนุ่มคนแรกใช้เวลาเยื้องย่างบนเวทีไม่นาน แขกหลายคนสะกิดให้พวกหน่วยบริกรตั้งค่าหัว และแล้วชายหนุ่มคนที่สองก็ปรากฏตัวพร้อมกับเนื้อผ้าสีขาวที่ตัดผิวสีดำดุจนิล และนัยน์ตาสีแดงเพลิงและรูปร่างที่พร้อมดดนเย้ดได้ทุกเมื่อก็เล่นเอาทุกผู้คนห้องตื่นตะลึง หน้าตาของชายหนุ่มเกลี้ยงเกลา หัวฟูแอฟโฟร นี่คือสนมที่พร้อมถูกกระหน่ำแบบเถื่อน ๆ ทุกลีลา ไอ้เหี้ยเหม่งมองตาค้าง แล้วหันไปถามไอ้เฮียเหมา " ทำไมบอเตโล่มีแบบนี้ด้วยวะ " ไอ้เฮียส่ายหน้าแต่ก็ยอมบอกเท่าที่รู้ " เวลาที่ถึงช่วงเก็บเกี่ยวของบอเตโล่ เอาง่าย ๆ คือตอนที่มึงกับกูอายุสิบสาม บอเตโล่จะเรียกเด็กหนุ่มที่ถูกขึ้นทะเบียนเป็นของบอเตโล่กลับค่ายกักกัน ถ้าเด็กคนไหนไม่ยอมขายตัวแลกข้าว ดูบ้าระห่ำอย่างมึงหรือกู บอเตโล่จะคัดเข้าฝึกเป็นทาสทหาร แต่ถ้าบอเตโล่เห็นเพชรเม็สนมที่พร้อมจะเป็นสนม บอเตโล่จะคัดเด็กหนุ่มนั่นออกจากวงทันที แล้วปั้นให้เป็นทาสสนมอย่างที่มึงเห็น สวยงาม บอบบาง น่าเย็ด หึ หึ " ไอ้เหี้ยเหม่งก็คิดตาม แต่พอถึงคำว่าน่าเย็ด มันก้มมองเป้าของไอ้เฮียที่กำลังตั้งแข็งเต็มพืกัด มันขำคึก แต่ในหัวเหมือนนึกถึงความทรงจำสีจางบางอย่างในวันเก็บเกี่ยววันนั้น
เด็กหนุ่มที่เดินโชว์ความยั่วเย็ดผ่านไปคนแล้วคนเล่า แต่ะคนหล่อเหล่าราวกับประติกรรมชั้นครู พวกเขาไม่ได้กระตุ้งกระติ้งแต่มีจริตในการวางสายตา และรอยยิ้มที่เชือดใจเหล่าแขกเหรื่อและบอดี้การ์ดรอบห้อง รวมถึงไอ้เหี้ยเหม่งและไอ้เฮียเหมาด้วย จนในที่สุดก็มาถึงคนสุดท้ายที่ว่ากันว่าเป็นไฮไลท์ของงาน ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบก้าวเท้าออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แม้แต่เทวดาต้องหันมามอง ดวงตาสีน้ำผั้งอ่อน ผิวสีน้ำผึ้งเข้ม ชุดเปิดอกให้เห็นยอดอกน้ำตาลทอง ความมั่นใจในรอยยิ้มขี้เล่นและแววตาที่จับจ้องแขกทุกคนทำเอาแขกเหรื่อส่งเสียงครึกครื้น ทรงผมสั้นแต่ดูรับเข้ากับใบหน้าบ่งบอกถึงความทะเล้นที่ถ้าใครได้ไปครอบครอง ชีวิตช่วงหนึ่งจะสุขสุดยอดเพราะชายหนุ่มผู้นี้ดูมีความสุขมากเหลือเกิน ไอ้เหี้ยเหม่งมองแล้วได้แต่ทำหน้าหมาหง่อย ทาสทหารกิ๊กก๊อกอย่างมันมีโอกาสเหรอที่จะเข้าสู้กับไอ้พวกอภิสิทธิ์ได้ แต่พอได้มองทั้งยี่สิบคนที่ผ่านไป มันก็จะเก็บพวกดวงหน้าเอาไว้ไปชักว่าววันหลัง
" พรึบ " ไฟดับ เป็นสัญญาณบ่งบอกให้เริ่มจดราคาการประมูล แต่จู่ ๆ กลิ่นหอมแบบตะวันออกก็ลอยฟุ้งอบอวนไปทั่ว แสงไฟบนเวทีที่ดับไปแล้วก็ปรากฏขึ้นทีละดวง พร้อมกับการปรากฏตัวของเด็กหนุ่มคนที่ยิบเอ็ดในชุดผ้าพริ้วทะเลทรายสีทองระยับ ตัดกับผิวที่ขาวผ่อง เนียนละเอียดแบบไม่ร่องรอยใด ๆ ได้สะกิดจนเกิดแผล เด็กหนุ่มเดินมาอย่างช้า ๆ และเปิดผ้าคลุมผมที่ติดมาเสื้อ เพียงพริบตาเดียวเท่านั้น ทั้งห้องเงียบกริบ เด็กหนุ่มไม่ได้หล่อแบบที่คมคาย อกแนวน่ารักแบบหาตัวจับได้ยากเสียมากกว่า รอยยิ้มของเขาไม่เหมือนคนอื่น มันทำให้ห้องสว่างไหวไปทั่ว ไอแห่ความสุขฟุ้งกระจาย ฟันสีขาวจั๊วะ ผมดำขลับตอบรับกับรูปที่ถ้าใครได้มองคงต้องจ้องจนตาค้าง แด็กหนุ่มตัวไม่สูงมาก ผอมบางน่าทะนุถนอมอย่างที่สุด ทุกคนในห้องตกอยู่ในมนต์สะกด ยกเว้นไอ้เหี้ยเหม่ง ! เพราะมันตะโกนออกไปว่า " ป๊อป ! "
" ป๊อป " หันมาหาต้นเสียงที่จู่ ๆ ก็โพล่งขึ้น ใบหน้าที่โคตรจะน่ารักขมวดคิ้วสงสัยแว๊บหนึ่ง ต่างจากไอ้ตัวแสบที่ทำหน้าดีใจสุดตีน มันตะโกนซ้ำจนทุกคนในงานหันมามอง " ใช่ป๊อปจริง ๆ ด้วย โคตรดีใจเลยที่ได้เจอกันอีก ! " ไอ้เฮียเหมารีบกดหัวของไอ้แสบเหม่งคลุกวงในเพราะแม่งตั้งท่าจะกระโดดขึ้นเวทีไปหาเทวดาองค์นั้น ไอ้เหี้ยเหม่งคราวนี้ดิ้นพราด ๆ พร้อมตะโกนลั่น " ปล่อยกูดิวะไอ้ลูกหมา ! นั่นเพื่อนเก่ากู ! " ป๊อปฉีกยิ้มทันที รอยยิ้มนั้นสะอาดไร้มลทิล บรรยากาศทั้งห้องสว่างวาบ ไอ้พวกอภิสิทธ์ชนถึงกับฮือฮา แม้แต่ไอ้เฮียเหมายังอึ้งกับความน่ารักที่ไร้หมดจดนี้ ป๊อปเอามือสั่นปาดน้ำตาแล้วพูด " เหม่ง . . . คิดถึงจังเลย "
เชี๊ย ! นี่มันเสียงดนตรีชัด ๆ ทุ้มเสียงของไอ้เด็กป๊อปสั่นเครือด้วยความดีใจ แต่ก้องใสสุดยอด พอเขากำลังจะลงไปหาไอ้เหี้ยเหม่ง ชายสูทดำสองนายท่าทางไม่เหมือนสูทดำคนอื่น ๆ เดินเข้ามาห้าม โดยที่หูของพวกแม่งติดสัญญาณไร้สายเอาไว้ หนึ่งในนั้นถามเสียงตะกุกตะกัก " กะ . . . กำลังจะไปไหนครับ " ไอ้เด็กป๊อปก้มหัวให้พวกสูทดำทั้งคู่แล้วอธิบาย " ผมขอเวลาสักห้านาทีได้ไหมครับ พอดีผมเจอเพื่อนเก่า " ไอ้สูทดำหนึ่งในนั้นละล่ำละลัก มันถามผู้ที่อยู่ปลายสายสัญญาณ " ท่านครับ คุณป๊อปขอเวลาคุยกับเพื่อนเก่าสักห้านาทีได้ไหมครับ " ปลายสายน่าจะกระแทกเสียวมาชัดเจน ไอ้สูทดำนั่นถึงกับสะดุ้งโหย่ง แล้วหันไปหาไอ้เด็กป๊อป " ท่านไม่ . . . " ยังไม่ทันจะพูดจบ ชายวัยประมาณหกสิบที่นั่งในโซนวีไอพีสะบัดมือให้กับไอ้พวกสูทดำนั่น ไอ้พวกสูทดำรีบก้มหัวตอบรับแล้วผ่ายมือเชิญไอ้เด็กป๊อปให้คุยกับไอ้ไอ้เหี้ยเหม่งได้
แทบทุกคนในงานหันมามองชายหกสิบผู้นั้นด้วยสายตาเกรงขาม ชายผู้นี้คือ " เจ้าพ่อเปรม " ผู้ทรงอิทธิพลติดหนึ่งในยี่สิบต้น ๆ ของโลกชั้นกลาง เขานั่งในท่าที่สบายใจ ยิ้มกริ่ม ตัวใหญ่พอ ๆ กับทาสทหารคู่ใจที่ประกบเป็นมือซ้ายและมือขวา ทุกคนในงานหมดหวังเพราะที่แท้ไอ้เด็กป๊อปเป็นเด็กของเจ้าพ่อเปรม งานนี้ไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาแน่นอน ความสดใสของเจ้าเด็กป๊อปมีเจ้าของเป็นถึงหนึ่งในท่านผู้นำของบอเตโล่เลยทีเดียว แต่จู่ ๆ ไอ้สูทดำก็สะดุ้งโหย่งอีกรอบแล้วตอบปลายสายแบบหวั่น ๆ " คงไม่ทันแล้วครับนายท่าน คุณป๊อปกำลังเข้าไปคุยกับไอ้ทาสทหารนั่นแล้ว " ไอ้สูทดำยังรับฟังปลายสายแล้วตอบกลับอีกครั้ง " เป็นทาสทหารของบอเตโล่ครับ " เป็นอีกครั้งที่ไอ้สูทดำผงะกับน้ำเสียงโหวกเหวกของปลายสาย แล้วจึงตอบรายงาน " ไม่ครับ ทาสทหารผู้นี้ไม่ใช่พวกรุ่นใหญ่ อายุน่าจะยังไม่เกินยี่สิบครับนายท่าน ! " คราวนี้เสียงจากปลายสายกรรโชกใหญ่โตจนท่านเปรมกวักมือส่งสัญญาณให้ไอ้สูทดำตัดปลายสายมาที่เขา " ปิ๊บ ! ( ปลายสายตัดมาที่ท่านเปรม ) เฮ๊ย ! ! มึงอย่ามายุ่งกับเด็กของกู ฮ่า ฮ่า ฮ่า ! ! ! " เสียงหัวเราะของท่านเปรมดังสนั่น ทุ้มเสียงแหบห้าวโคตรลูกผู้ชายอกสามศอก จากนั้นปลายสายก็กระแทกเสียงฉุนเฉียว แต่ท่านเปรมขำสวนทุกคำพูดของปลายสาย พวกเด็กหนุ่มทั้งหมดที่ได้เดินบนเวทีออกมาปรากฏตัวอีกครั้ง แต่สายตาเกือบทุกคู่จ้องไปที่ไอ้เด็กป๊อปที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งจนสะดุดชายผ้าสีทองคำระยิบระยิบ " เฮ๊ย ๆ ! ! " ไอ้เหี้ยเหม่งกำลังจะเข้าไปพยุงแต่ไอ้เฮียเหมาเสือกไวกว่า แม่งสอดมือประคองไอ้เด็กนั่นที่เกือบจะล้มหน้าทิ่ม ทุกการกระทำได้ถูกบอกต่อโดยไอ้พวกสูทดำไปยังปลายสาย ท่าทางไอ้ปลายสายนั่นจะเดือดจัดจนไอ้พวกสูทดำก้มหัวปรก ๆ ส่วนเจ้าพ่อเปรมก็ขำแต่สายตาจ้องไอ้เฮียเหมาเขม็ง ไอ้เด็กป๊อปเงยหน้าขึ้น ดวงตากลมมนประกอบรูปตาเรียวสองชั้นมองไอ้เฮียเหมาด้วยความขอบคุณ ไอ้เฮียเหมาที่ว่าใจโคตรเด็ด ภักดีต่อคุณหนูโนยังแอบใจเต้น สายตากับรูปหน้าของไอ้เด็กป๊อปนี่มีพลังทำลายล้างสูงฉิบหาย แม่งคิด
" ขอบคุณมากนะครับ " ไอ้เด็กป๊อปบอกแล้วก้มหัวขอบคุณ ไอ้เฮียเหมาเผลอส่ายหน้าพร้อมกล่าว " ไม่เป็นไรครับ " น้ำเสียงของแม่งตะกุกตะกักนิดหน่อย เด็กหนุ่มยิ้มแล้วกระโดดกอดไอ้เหี้ยเหม่งเต็มวงแขน " ป๊อปคิดถึง ! ป๊อปคิดถึงเหม่งมาก ๆ เลยนะ ! " แรงกอดของไอ้เด็กป๊อปแน่นจนไอ้เหี้ยเหม่งเกือบเผลอกอดกลับ แต่ไอ้พวกสูทดำจ้องแม่งเขม็ง แถมไอ้เฮียเหมายังยืดกอดอกจ้องแม่งซ้ำว่าเสือกกอดเด็กหนุ่มกลับเด็ดขาด ไอ้เฮียเหม่งทำหน้าไม่ถูกเลยได้แต่ยิ้มเหย่ เกาหัวแกรก ๆ มันเองก็เขินนิด ๆ ก็เลยเหมือนจะพูดออกไป " เออ " แต่ไอ้เด็กป๊อปปล่อยอ้อมกอดแล้วมาจับกล้ามแขนกับกล้ามอกของมัน
" นายท่านครับ คุณป๊อปกำลังลูบแขนกับหน้าอกของไอ้ทาสทหารนั่นครับ " ไอ้สูทดำรายงานปลายสาย ปลายสายขึ้นเสียงหัวเสียบ้าดินระเบิด ไอ้เด็กป๊อปยิ้มแฉ่งให้ไอ้เหี้ยเหม่งแล้วสบตาดวงตารูปเหยี่ยวของแม่ง เขาพูดตาโต " หูย ! เหม่งเปลี่ยนไปเยอะมากเลย ตัวใหญ่สุด ๆ ป๊อปเตี้ยกว่าเหม่งตั้งครึ่งตัวเลยนะเนี่ยะ " รอยยิ้มละลายใจส่งมาถึงไอ้เหี้ยเหม่งอีกแล้ว ทุกคนบริเวณนั้นตะลึง ไม่เว้นแม้แต่ไอ้เฮียเหมา ไอ้เหี้ยเหม่งหน้าแดงนิดหน่อย มันพูดเขิน ๆ " ป๊อปก็เปลี่ยนไปเยอะนะ ไม่เจอกันแค่ห้าปี ป๊อปดู . . . " มันยังเลือกคำไม่ถูกเพราะไอ้พวกข้าง ๆ กดดัน มันเลยโชว์โง่เต็มที่ " ดูสบายดี " ไอ้เด็กป๊อปได้ฟังก็หัวเราะแล้วถามไอ้เหี้ยเหม่งด้วยดวงหน้าสดใสว่า " เราก็สบายดีนะ อยู่บนโลกชั้นนี้มาก็เกือบห้าปีแล้ว ไม่อยากเชื่อเลยว่าเวลาจะผ่านมาเร็วขนาดนี้ "
" เกือบห้าปี " ไอ้เฮียเหมาฉุกคิดคำนี้ แต่ไอ้เหี้ยเหม่งเสือกถามตัดปัญญาหา " ห้าปี ! ทำไมได้ขึ้นมาอยู่บนนี้ละ แล้วมาอยู่กับใคร ! " ไอ้เด็กป๊อปยังยิ้ม ริมฝีปากสีชมพูที่รสชาติน่าจะเหมือนน้ำผึ้งทำเอาไอ้พวกที่จ้องอยู่หน้าแดง เจ้าตัวพูดพร้อมพยักหน้าไปที่เจ้าพ่อเปรม " ป๊อปอยู่กับท่านเปรมที่คฤหาสน์ของท่าน ป๊อปได้เรียนหนังสือด้วยนะเหม่ง นายท่านอนุญาตให้ป๊อปทำอะไรก็ได้ที่ป๊อปอยากทำ " พอถึงตรงนี้สีหน้าของไอ้เด็กป๊อปก็หม่นลง ไอ้เหี้ยเหม่งพอได้เห็นก็ของขึ้น มันหันขวับไปหาไอ้เจ้าพ่อเปรม " ไอ้เฒ่านั่นทำอะไรป๊อปงั้นเหรอ ! " ไอ้เฮียเหมารีบจับหัวแม่งกดซุกวงในก่อนที่แม่งจะทำบ้าอะไรโง่ ๆ
" ฮ่า ฮ่า ฮ่า " ไอ้เด็กป๊อปหัวเราะเสียงใส ไอ้เหี้ยเหม่งดิ้น ๆ คราวนี้แม่งดิ้นแรงจนไอ้เฮียต้องกดค้างไว้ให้แน่นกว่าเก่า แต่ไอ้เด็กป๊อปตบบ่าของไอ้เฮียเหมาเบา ๆ แล้วห้มหัวให้ เขาถาม " สวัสดีครับพี่ ผมชื่อป๊อปครับ เป็นเพื่อนกับเหม่งตั้งแต่ตอนที่อยู่โลกชั้นล่างด้วยกัน พี่เป็นเพื่อนของเหม่งใช่ไหมครับ " ไอ้เฮียเหมาทำหน้างงหน่อย ๆ แต่ก็ตอบด้วยความสุภาพ " ครับผม " จังหวะนั้นไอ้เหี้ยเหม่งหลุดจากวงในของไอ้เฮียเหมาได้ มันเลยหวดกำปั้นเข้าไอ้เฮียหนึ่งดอกหนัก ๆ " ตู๊ม ! ! " แต่ฝ่ายที่ล้มคือตัวของแม่งเอง หงายเก๋งลงไปนอนกองแถมกระเด็นไปตั้งไกล เพราะไอ้เฮียเหมาต่อนแลกหมัดกับแม่งเต็มหวด ไอ้เฮียเหมากดกำปั้นกร๊อบแกร๊บแต่ยังยืนกร่างนิ่ง ส่วนไอ้เหี้ยเหม่งนอนกองเหมือนหมา ไอ้เด็กป๊อปตกใจแล้ววิ่งไปดูเพื่อนตัวแสบนอนหอบเฮือก ไอ้เหี้ยเหม่งฉีกยิ้มแยกเขี้ยว มันตะโกน " ตัองอย่างนี้สิวะ ! "
ไอ้เด็กป๊อปทำหน้าตื่น ๆ และถามเสียงสั่น ๆ " เป็นอะไรรึเปล่าเหม่ง " ไอ้เหี้ยเหม่งหันขวับมาหาไอ้เด็กป๊อปแล้วถามทันที " ป๊อป ! ไอ้เฒ่านั่นรังแกมึงรึเปล่า ! " ไอ้เด็กป๊อปยิ้มให้ไอ้เหี้ยเหม่งสบายใจ เขาพูด " ไม่เคยเลย ท่านใจดีกับป๊อปมาก แต่จริง ๆ แล้วท่านเป็นไม่ใช่ผู้อุปถัมภ์ของป๊อปหรอก ท่านเป็นพ่อของผู้อุปถัมภ์ต่างหาก " ไอ้เหี้ยเหม่งไม่เข้าใจว่าอะไรคือผู้อุปถัมภ์ แต่ไอ้เฮียเหมาที่มาหยุดยืนกร่างส่ายหน้าเหมือนกับเดี๋ยวค่อยอธิบายให้ฟัง เพราะไอ้พวกสูทดำกำลังจะเรียกตัวไอ้เด็กป๊อปกลับแล้ว ท่าทางพวกแม่งกำลังโดนปลายสายสวดยับ ไอ้เหี้ยเหม่งจ้องหน้าตาที่คุ้นเคยของเพื่อนเก่าที่ตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะจนมันเองยังทึ่ง แต่รอยยิ้มแยกเขี้ยวสบายใจก็ฉาบวับบนหน้าของมัน มันพูด " เราดีใจที่เห็นป็อปสบายดี ถ้ามีโอกาสอีก เราจะมาหานะ " ไอ้เด็กป๊อปยังไม่ทันจะถามสารทุกข์สุกดิบของไอ้เหี้ยเหม่ง ไอ้พวกสูทดำก็เดินเข้ามาตาม ป๊อปยิ้มให้ไอ้เหี้ยเหม่งอีกครั้ง เขาพูดแล้วโบกมือลา " ไว้เจอกันนะ เราตามหาเหม่งเจอเสมอแหละ "
ติดตามตอนต่อไป 10 พฤษจิกายน 2563 เวลา 22.00 ขออนุญาตเลือนวันส่งงานนะครับ เพราะแก้ไขบทบางจุดครับ
|