ดินสวมกอดก้อนหินน้องชายสุดที่รักด้วยความคิดถึงสามวันสามคืนที่ผ่านมานั้น มันเหมือนเนิ่นนานเสียเหลือเกิน ดินเองไม่เคยห่างกับก้อนหินนานเกินสองวันหนึ่งคืนเลยแต่ตอนนี้ดินนั้นเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่สองแล้ว อีกหน่อยเมื่อขึ้นชั้นมัธยมปีที่สามแล้วดินเองก็จะต้องไปเข้าค่ายตามหลักสูตรของกระทรวง คราวนี้ล่ะ ไม่รู้ว่าดินดำ หรือ ก้อนหินจะอดรนทนคิดถึงไม่ไหวก่อนกัน
“หินมีอะไรมาฝากพี่บ้างมั้ยเนี่ย ???” ดินเอ่ยถามก้อนหินพลางลูบหัวด้วยความเอ็นดู “กุ้งหวานหมึกแผ่น แล้วก็ เม็ดมะม่วง” ก้อนหินตอบ “เม็ดมะม่วงที่เป็นผลไม้น่ะหรอ???” ดินถามเย้าก้อนหิน “หิมพานต์สิพี่ดินโว๊ะ !!!” ก้อนหินตอบสวนดินขึ้นมาอย่างหน้ามุ่ย แล้วก็วิ่งขึ้นไปที่ห้องนอนของตน
“สวัสดีครับป้าทิพย์”ดินกล่าวคำทักทายทิพย์ผู้เป็นแม่ของเป้เพื่อนสนิท พร้อมพนมมือแล้วก้มหัวลงเล็กน้อย “สวัสดีจ่ะดิน ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ ตั้งแต่ ม.หนึ่ง แล้วมั้งเนี่ย ยิ่งโตยิ่งน่ารักนะเราน่ะ”ทิพย์เดินเข้ามายกมือจับที่ไหล่ของดินทั้งสองข้าง “น้ำเจ้าดินยิ่งโตหน้าตายิ่งเหมือนเธอนะ” ทิพย์หันหน้าไปหาน้ำฝน “พี่ทิพย์ก็พูดเกินไปดูผิวพรรณเจ้าดินสิคะ ไม่ได้ขาวเหมือนเจ้าเป้ แต่ได้ผิวแทน ๆ เหมือนน้ำแทน” น้ำฝนเอ่ยขึ้นอย่างถ่อมตนพร้อมหันไปหาเป้เพื่อเอ่ยชมผิวพรรณขาว ๆ ของเป้ “ป่ะพี่ทิพย์เราเข้าบ้านกัน” น้ำฝนหันมาเอ่ยชวนทิพย์เข้าไปในตัวบ้าน
“เป้มึงลอกการบ้านของกูเสร็จหมดยังเนี่ย ???” ดินเดินเข้าไปหาเป้ถามถึงการบ้านที่เป้ได้ยืนดินไปลอก “เสร็จหมดแล้วโว๊ยยย!!!มือชั้นนี้แล้ว” เป้พูดขึ้นอย่างหน้าชื่นตาบาน “มึงดูแลสมุดกูดีป่ะเนี่ย???” ดินมองหน้าเป้แล้วถามขึ้น “ดูแลดีเยี่ยงเมียกูคนนึงเลยล่ะครับ”เป้พูดขึ้นโดยยักคิ้วหลิ่วตากวนบาทาดินเป็นอย่างมาก “ไม่คิดที่จะชวนกูเข้าบ้านบ้างรึไง???” เสียง ๆ หนึ่งเอ่ยขึ้นมาจากรถตู้ที่ประตูได้เปิดออก “ไอ้เป๋า!!!มึงมาได้ไงเนี่ย ???” ดินตกใจที่ได้เห็นหน้าคู่อริที่ตีกันมาตั้งแต่เด็กซึ่งนั่นก็คือ กระเป๋า พี่ชายฝาแฝดของ เป่าเป้ เพื่อนสนิทของดิน “กูเห็นว่าจะปิดเทอมแล้วกูก็เลยกลับมาเลย” เป๋าตอบบดินแล้วมองหน้าดินเหมือนจะเอาเรื่อง “เหมือนที่แม่บอกเลยว่ะมึงนี่ยิ่งโตยิ่งน่ารัก” เป๋าเดินเข้ามาหาดินพลางยกมือขึ้นมาจับแก้มดิน “อี๋!!!สกปรก มือมึงไปจับอะไรมาก็ไม่รู้” ดินเอี้ยวแก้มหลบมือเป๋า “มือกูเพิ่งล้วงไปเกาควยมาว่ะฮ่า ๆๆๆๆ” เป๋าพูดขึ้นอย่างอารมณ์ดีพร้อมหัวเราะร่วน ก่อนที่เป๋าจะเดินเข้าไปยังตัวบ้านเพื่อไปหาทิพย์ “อุบาทว์ชาติชั่ว ไอ้ ๆๆๆๆ ไอ้ ไอ้” ดินได้แต่โมโหแล้วด่าเป๋าไล่หลัง “มึงสองคนทำไมชอบกัดกันวะ??? ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วนะ” เป้ถามขึ้นด้วยความสงสัย “มึงดูพี่มึงด้วยเป้พี่มึงเริ่มก่อนทุกรอบ มึงก็รู้ แต่เดี๋ยวนี้ คนนะครับไอ้สัส ไม่ใช่หมาไอ้เพื่อนเหี้ย” แล้วดินก็ไล่เตะเป้ไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน
ดินวิ่งไล่เตะเป้จนทั้งสองต่างเหนื่อยหอบแทบจะหอบตัวโยนเลยก็ว่าได้ จนทำให้ทั้งสองวิ่งไปนั่งที่เปลใต้ต้นฉำฉาหลังบ้านที่ดอนได้ผูกเอาไว้เพื่อเอาไว้เอกเขนกเวลาอากาศดี ๆเมื่อทั้งสองหย่อนก้นลงที่เปลแล้ว ต่างก็ยังหอบไม่หาย นอกจากเสียงลมเอื่อย ๆที่พัดใบไม้ปลิวไหวแล้ว ก็มีเพียงเสียงลมหายใจหอบของทั้งสองในตอนนี้เท่านั้น
“เป้มึงจะรู้มั้ยวะ ว่ากูทั้งเกลียดทั้งชอบพี่ชายมึงมากแค่ไหน ???” ดินพูดในใจกับตนเอง
ด้วยความที่หาญและทิพย์ได้แยกทางกันทำให้หาญผู้เป็นพ่อของเป๋าและเป้ พาเป๋าไปอยู่ด้วยในอีกจังหวัดหนึ่งส่วนเป้นั้นอยู่กับทิพย์ตามที่อากงและอาม่าของเป้ร้องขอจากหาญเอาไว้ จึงทำให้เป๋าและเป้ไม่ได้อยู่ด้วยกันจะมาหากันครั้งหนึ่งก็ต่อเมื่อปิดเทอม หรือ เทศกาลเท่านั้น แต่แฝดนรกคู่นี้ก็มีความรักใคร่กลมเกลียวและสนิทสนมกันเป็นอย่างดีจากที่ทั้งสองนั้นโทรศัพท์คุยกันอยู่อย่างบ่อยครั้ง
การกลับมาของเป๋าในครั้งนี้สร้างความปั่นป่วนเกิดขึ้นในจิตใจของดิน ฝ่ามือเรียวยาวของเป๋าที่ยกขึ้นมาจับที่แก้มของดินนั้นทำให้ดินเกิดมวนท้องขึ้นมาเหมือนมีผีเสือนับล้านบินวนอยู่ภายในนั้น
เป๋าและ เป้ ต่างก็เป็นลูกชายที่เกิดภายในครอบครัวคนจีนด้วยกันทั้งคู่ทำให้ทั้งสองนั้นต่างได้ผิวพรรณที่เป็นเอกลักษณ์ของคนจีน กล่าวคือ มีความขาวใสอยู่แต่ทว่า เป๋าผู้ที่ไปอยู่กับหาญมานาน บวกกับเป๋าเป็นเด็กลุย ๆ จึงทำให้เป๋ามีผิวพรรณที่เปลี่ยนไปจากขาวใสเมื่อแต่ก่อน บัดนี้กลับกลายเป็นเข้มแทน ดินว่าสีผิวแทนแล้วแต่กลับขาวกว่าเป๋าขึ้นเป็นกองโต ซึ่งต่างจากเป้ ผู้ซึ่งมีความเป็นลูกคุณหนูจึงยังคงสีผิวที่ขาวใสเอาไว้อยู่ดังเดิม ตอนนี้แยกแฝดนรกคู่นี้ได้จากสีผิวเป๋าเข้ม เป้ขาว
“ตัวโตขึ้นเป็นกองเลยหลานอา”ดอนเดินไปกอดเป๋าด้วยความคิดถึงจากการที่ไม่ได้เจอกันมานาน “ผมมีคุณอานั่นแหละเป็นไอดอลคนอะไรยิ่งแก่ยิ่งหล่อ ดูหุ่นอาดิ อื้อหือออ สักวันเป๋าจะทำให้ได้เลยครับ”เป๋าพูดคุยกับดอนอย่างสนิทสนมด้วยความที่สองครอบครัวนี้นั้นต่างรักใคร่กลมเกลียวกันเช่นนี้ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายแล้ว “มีแฟนรึยังเนี่ยเป๋า???” ดอนถามเป๋า “ยังเลยครับอาดอน”เป๋าตอบดอนไปอย่างเขิน ๆ “บ๊ะ!!!อะไรกันวะ รูปก็หล่อ หุ่นก็ดีแบบนี้ ยังไม่มีแฟนกะเค้า”ดอนมองหน้าตี๋คมเข้มของเป๋าแล้วเอ่ยอย่างตกใจพลางสงสัย “ดูไอ้ดินมันสิอยู่แค่ ม.สอง แต่กลับมีแฟนแล้ว เป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนนั่นแหละ” ดอนพยักหน้าโบ้ยเข้าหาดิน “ดรัมเมเยอร์ไม้หนึ่งของวงดุริยางค์เลยนะมึง”เป้พูดเสริมขึ้น “อย่างไอ้ดินเนี่ยนะจะมีแฟนเป็นผู้หญิงน่ารัก บอบบางร่างน้อยแบบนี้ต้องมีแฟนเป็นผู้ชายสิ ถึงจะเหมาะสม” เป๋าคิดอยู่ในใจพลางมองไปยังดินที่กำลังนั่งกินเม็ดมะม่วงหิมพานต์อย่างเอร็ดอร่อย “มองหน้าแบบนี้มีอะไร??? จะหาเรื่อง !!!” ดินเงยหน้าขึ้นมาเห็นเป๋าที่กำลังจ้องตนอยู่ “เรื่องพี่ไม่อยากมีหรอกไอ้น้องที่อยากมี นั่นคือ ***ลูก***” เป๋าเดินผละตัวออกมาจากดอนแล้วเดินตรงไปนั่งข้าง ๆดิน แล้วยกแขนขึ้นมาโอบไหล่ดิน พลางกระซิบแล้วเน้นหนักที่คำท้ายอย่างแน่นเน้น “ทำเป็นแล้วหรอลูกน่ะ ??? ถึงได้คุยโว” ดินเอ่ยเยาะเป๋าเข้าไปที “ถ้าน้องอยากรู้พี่ทำให้ดูเป็นขวัญตาก็ได้นะ หึหึ !!!” เป๋ากระซิบที่ข้างหูดินพร้อมเป่าลมหายใจร้อน ๆ ใส่
ทำให้ดินในตอนนี้ได้แต่ก้มหน้าก้มตาล้วงเม็ดมะม่วงหิมพานต์ในถุงเข้าปากด้วยความขวยเขินจังหวะหัวใจที่เต้นรัว ๆ แบบนี้ ครั้งล่าสุดก็เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อได้ชักว่าวให้กับดอนเท่านั้น แต่ตอนนี้ ..............ความรู้สึกเช่นนั้นมันได้กลับมาอีกแล้ว
“เป๋ากับเป้เนี่ยตัวสูงมากเลยนะคะพี่ทิพย์”น้ำฝนคุยกับทิพย์ในครัวเมื่อกำลังเตรียมวัตถุดิบในการประกอบอาหารเย็น “เจ้าเป๋าเองก็เล่นบาสเจ้าเป้เองก็เล่นวอลเลย์ ตัวก็เลยยืดสูงแบบนี้นี่แหละน้ำ” ทิพย์พูดบอกน้ำ “เจ้าดินเองสงสัยได้น้ำมาเยอะตัวก็เล็ก ผิวก็แทน” น้ำพูดกับทิพย์ “แต่น่ารักนะน้ำกิริยามารยาทก็งาม งานบ้านงานครัวก็เก่ง การเรียนก็ดี ถ้าพวกสองแฝดนั้นได้ครึ่งนึงของเจ้าดินก็คงดีไม่น้อย”ทิพย์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนใจ ทั้งน้ำฝนและทิพย์ก็ต่างช่วยกันจัดเตรียมวัตถุดิบในการประกอบอาหารเย็นกันอย่างขะมักเขม้น
บนโต๊ะอาหาร
“เป๋าเป้ สองคนนี้สูงเท่าไหร่กันแล้วเนี่ย เมื่อกี้ตอนยืนอยู่สูงเกือบเท่าอาแล้ว”ดอนเอ่ยถามแฝดนรก “ผมสูง175 ครับอา” “ส่วนผมสูง 173 ครับอา” เป๋าเป็นฝ่ายตอบดอน ก่อนที่เป้จะตอบเสริม “พ่อไม่ต้องถามดินเลยนะ!!!” ดินพูดดักคอดอนเอาไว้เสียก่อน “ดูจากตัวแล้วคงไม่น่าจะถึง 170 นี่คนรึว่าหลักกิโล” เป๋าพูดกระเซ้าดินขึ้น “นี่เจ้าเป๋าน้าเองก็สูงแค่ 160 เองนะ !!!”น้ำฝนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเข้ม ๆ แต่ไม่ได้โกรธหรือถือสาอะไร “ขอโทษครับน้าน้ำ”เป๋ายกมือขึ้นไหว้น้ำฝนอย่างปลก ๆ ทำให้มีเสียงขำขันเล็กน้อยขึ้นบนโต๊ะอาหาร
แล้วบรรยากาศในการกินข้าวเย็นของดอน น้ำฝน ดินดำ ก้อนหิน ทิพย์ กระเป๋า และ เป่าเป้ ดำเนินไปจนทุก ๆคนได้อิ่มกันหมดแล้ว น้ำฝนและทิพย์ก็แยกตัวมาที่ห้องโถงเพื่อพูดคุยกัน เป๋าและเป้ก็ได้ชวนก้อนหินออกไปเล่นอยู่หน้าบ้านส่วนดินก็ได้เก็บจานชามเดินไปล้างที่ด้านหลังบ้าน รวมถึง หม้อ กระทะ เขียง มีด และอุปกรณ์ทำครัวจากการที่น้ำฝนและทิพย์ได้ทำเอาไว้เมื่อจานชามถูกนำไปวางลงในกะละมังที่ใส่น้ำแล้ว ดินหย่อนก้นลงบนตั่งตัวเตี้ยโดยหันหลังให้กับประตูหลังบ้าน ดินเองนั่งล้างจานชามกองโตอยู่สักครู่
“อากาศวันนี้ดีนะมึงมึงว่ามั้ย ???” ดอนเดินมาที่ด้านหลังของดินที่กำลังนั่งล้างจานชามอยู่
โดยที่ดอนได้ควักดุ้นควยลำเขื่องของตนออกมาทางขอบสายรัดกางเกงบอลแล้ววางแหมะที่บนบ่าไหล่ของดิน ถ้าหากน้ำฝนหรือทิพย์หันมามอง ก็จะเห็นแต่เพียงดินยืนคุยกับดินเท่านั้นดินนั้นได้หันเข้ามาหาทางดอนพอดีผนวกบวกกับที่ดินกำลังจะอ้าปากตอบในคำถามที่ดอนได้ถามเอาไว้ ทำให้ปากของดินคาบอยู่ที่ดุ้นควยลำเขื่องของดอนอย่างพอดิบพอดี
“พ่ออ้า.......เล่นอะไรของพ่ออยู่เนี่ย เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก” ดินพูดขึ้นด้วยความตกใจ “ไม่มีใครเห็นหรอก”ดอนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเบา “ปากมึงเองก็นิ่มดีนะไอ้ดิน”ดอนก้มตัวลงมาพูดกับดิน ทั้ง ๆ ที่ดุ้นควยลำเขื่องยังอยู่ในตำแหน่งเดิม “พ่ะพ่ะ พ่ะ พ่ออออ !!!” ดินเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวขึ้นมาเหงื่อผุดออกมาจากขมับทั้ง ๆ ที่อากาศเย็นเอื่อย ๆ “นี่พ่อไม่ได้ล้างควยหรอครับ???” ดินถามดอนพลางก้มหน้างุด แล้วล้างจานชามต่อไป “เออเป็นไงล่ะวะ ถามทำไม รึว่ากลิ่นควยกูหอม หึหึ !!!” น้ำเสียงของดอนเริ่มหื่นกระหายอย่างวาบหวาม
ดินไม่ได้ตอบอะไรดอนทั้งสิ้นตอนนี้นอกจากกลิ่นน้ำยาล้างจานแล้ว ก็ยังได้กลิ่นกรุ่นจากไอดุ้นควยลำเขื่อง ที่ได้โชยเข้าเตะจมูกปลุกให้กำหนัดของดินได้เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งได้อย่างไม่ยากเย็นกลิ่นที่ออกไปในทางเค็ม ๆ ปะแล่ม ๆ จากการที่ดอนเองชักว่าวแล้วคงไม่ได้ล้าง ผนวกบวกกับกลิ่นเยี่ยวของดอนฉุนๆ และ กางเกงในสีขาวหม่นตัวนั้น ที่ดอนเองก็ยังคงใส่ซ้ำวนไปวนมาอยู่อย่างต่อเนื่องนี่ก็ไม่รู้ว่ากี่วันแล้วที่ดอนเองเอาแต่ใส่กางเกงในสีขาวหม่นตัวนี้โดยไม่มีทีท่าที่จะเปลี่ยนไปใส่กางเกงในตัวอื่นๆ ที่มีอยู่ในตู้เสื้อผ้า ด้วยความที่จาน ชาม ช้อน ส้อม หม้อ กระทะ ตะหลิว ทัพพีเขียง มีด ที่มีจำนวนมาก ทำให้การล้างของดินดำเนินผ่านไปอย่างเนิ่นนานดุ้นควยลำเขื่องของดอนเองก็ไม่มีทีท่าที่จะอ่อนตัวลงอย่างง่าย ๆ ตอนนี้น้ำเงี่ยนของเหลวใสของดอนเองนั้นได้เริ่มย้อยหยดลงบนแขนท่อนล่างของดินจนแทบจะเปียกและแฉะ
“ลองยกแขนขึ้นมาเลียดูแล้วมึงจะติดใจ” ดอนสั่งดินเมื่อเห็นว่าน้ำเงี่ยนของตนเยิ้มย้อยที่แขนของดิน
ดั่งมนต์สะกดอะไรก็ไม่ทราบได้ดินยกแขนของตนขึ้นมาเลียลองลิ้มชมรสชาติของน้ำเงี่ยนของดอนดั่งถูกสะกด
“หวานครับพ่อหวานมาก ๆ เลยครับ” ดินตอบดอนหลังจากที่ได้ลองลิ้มชิมรสน้ำเงี่ยนครั้งแรกของชีวิต “แล้วมึงชอบมั้ยไอ้ดิน???” ดอนถามสำทับ “ชะชะ ชะ ชอบครับ” ดินตอบดอนไปตามตรงอย่างที่ใจตนเองคิด “ก็ดีมีอีกหลาย ๆ อย่างที่กูจะสอนให้มึงรู้ และ จำ แล้วมึงเองก็จะได้เอาไปทำตาม”ดอนพูดสอนดินเสร็จ ดอนใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และ นิ้วกลางจีบจับดุ้นควยลำเขื่องของตนเพื่อรีดน้ำเงี่ยนเหลวใสหวานฉ่ำออกจนหมดแล้วก็เก็บดุ้นควยลำเขื่องเข้ากลับคืนไปในกางเกงบอล
น้ำเงี่ยนก๊อกสุดท้ายที่ดอนได้รีดเมื่อครู่ไหลหยดแหมะที่หลังฝ่ามือของดิน ทำให้ดินยกหลังมือขึ้นมาเลียกินอีกครั้ง มันเป็นรสชาติที่หวานละมุนผสานกับ กลิ่นควยสาบ ๆ อับ ๆ ฉุน ๆ ของดอน ทำให้ดุ้นควยลำน้อยของดินเองก็เริ่มที่จะมีน้ำเงี่ยนซึมออกมาบ้างแล้วทว่า วันนี้ไม่ได้ วันนี้น้ำฝนกับก้อนหินกลับมาแล้ว เราต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านจนมากกว่านี้
ดินรีบล้างจานชามจนเสร็จก่อนที่จะยกจานชามทั้งหมดมาคว่ำผึ่งลมเอาไว้ ก่อนที่ดินจะรีบขึ้นห้องไปอย่างกระสับกระส่าย
แล้วเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป
ปล. ที่1เป็นกำลังใจให้นักเขียนน้องใหม่ด้วยนะครับหากนักอ่านท่านใดชื่นชอบอยากให้กำลังใจไม่ว่าจะเป็นคอมเมนต์ให้กำลังใจ หรือว่า จะให้เป็นกำลังใจโดยการใช้เซนนีผู้เขียนเองก็ขอน้อมรับ ณ ที่แห่งนี้ด้วยนะครับ ปล. ที่2ผู้เขียนเองอยากได้คอมเมนต์ที่มากกว่าคำ “ขอบคุณ”จากผู้อ่านมาก ๆ เลยนะครับ จะพูดคุยจะคาดเดาเหตุการณ์ที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้นไปแล้ว หรือว่าคาดเดาเหตุการ์ที่ผู้เขียนยังไม่ได้เขียนขึ้นมาก็ตาม อย่างน้อย ๆผู้เขียนเองก็จะได้อ่านจากฟีดแบ็คนั้น ๆ เพื่อปรับปรุง แก้ไข ในตอนต่อ ๆไปที่ผู้เขียนจะเขียนขึ้นมาครับ ปล. ที่2.1 สนุก หรือ ไม่สนุก ดี หรือ ไม่ดีอะไรยังไง ส่วงฟีดแบ็ดบอกผู้เขียนด้วยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจกัน ปล. ที่2.2 อู้งานมาแต่งต่อเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือแต่งยากขึ้น ยิ่งแต่งยิ่งยาก ผู้เขียนเองอยากจะค่อย ๆ เขียน ค่อย ๆเล่าไปเรื่อย ๆ ไม่อยากจะรวบรัดตัดตอน หรือว่า มีฉากมีซีนอย่างว่าจนมากเกินงามอยากจะนำเสนอ Story ของผู้เขียนเองมาในรูปแบบ Based On a True Story ออกมาอย่างดีที่สุด และ สมบูรณ์แบบที่สุด อาจจะแต่งไปเรื่อย ๆ เอื่อย ๆบ้างนะครับ อย่าเพิ่งทิ้งผู้เขียนไปไหนนะครับท่านผู้อ่านทุกท่าน / เข้าใจเค้าด้วยนะตัวเองงงง
|