แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jokecup เมื่อ 2021-1-18 12:54
ตอนก่อนหน้านี้
วงเวียนกาม
บทที่ ๑๓
ตอนนี้ภาติยะอยู่บนโต๊ะประชุมในท่าหมอบคว่ำคล้ายท่าทางของสัตว์สี่ขาเขาถูกสั่งการจากไอ้บอยเด็กเฝ้าที่ตึกให้ขึ้นมาอยู่ในท่านี้ โดยมีสารวัตรสุวิทย์เห็นดีเห็นงามด้วยสายตาของผู้กองหนุ่มมองไปเบื้องหน้า เขาเห็น
ไอ้บอยหยิบอุปกรณ์อะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพายของมันจากจุดที่ผู้เขาอยู่ภาติยะมองไม่เห็นว่าของสิ่งนั้นคืออะไร เพราะถูกสารวัตรสุวิทย์และเสียสมศักดิ์ยืนบังไว้สิ่งที่เขารับรู้คือเสียงร้องฮือที่ดังออกมาจากปากของชายทั้งสองทันทีที่เห็นเจ้าของสิ่งนั้นใจของภาติยะสั่นระรัวเริ่มกลัวบางสิ่งที่จะเกิดขึ้น
ไอ้บอยเอาของสิ่งนั้นแอบไว้ที่ด้านหลังตัวมันก่อนจะเดินจากทางด้านหัวโต๊ะประชุมมาหยุดที่ปลายโต๊ะประชุมที่มีไอ้อ๋องกับหมวดชาตรียืนรออยู่
“ผู้กองช่วยกางเข่าออกจากกันให้กว้างๆ หน่อยสิ”
ไอ้อ๋องยังคงออกคำสั่งไม่หยุดหย่อนภาติยะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่เขาจะฝีนคำสั่งนั้น ผู้กองหนุ่มจึงเริ่มขยับขาทั้งสองข้างให้แยกออกจากกันพอขาของเขาแยกออกจากกัน บั้นท้ายของเขาก็ลอยเด่นขึ้นมา และทำให้เห็นไปถึงรูตูดสีชมพูของนายตำรวจหนุ่มด้วย
“พร้อมรื้อฟื้นความทรงจำกันรึยังผู้กอง”
ไอ้อ๋องพูดด้วยน้ำเสียงติดตลกขบขันและทันใดนั้นเองภาติยะก็รู้สึกจุกขึ้นมาทันที ผู้กองหนุ่มรู้สึกว่าตอนนี้กำลังมีบางอย่างทะลึ่งพรวดเข้ามาในรูตูดของเขา
ผู้กองหนุ่มเจ็บจนร้องลั่นออกมา
สิ่งที่ไอ้บอยยัดใส่รูตูดของผู้กองหนุ่มก็คือไข่สั่นที่มีขนาดใหญ่และกำลังถูกเปิดใช้งานทันทีที่มันพรวดเข้าไปในรูตูดมันก็ดิ้นสั่นขนเกือบทำให้ผู้ที่ถูกรุกล้ำเกือบจะสั่นตามไปด้วย
พอเวลาผ่านไปได้สักพัก และไข่สั่นเริ่มเข้าที่กับรูตูดที่มันได้แทรกผ่านเข้าไปผู้กองหนุ่มก็เปลี่ยนจากเสียงร้องที่แสดงความเจ็บปวด มาเป็นการร้องครางด้วยความเสียวซ่านแทน
“ผู้กองเริ่มจำอะไรในคืนนั้นได้รึยังครับ”
เสียงไอ้อ๋องยังคงตามหลอนประสาทเขาอยู่ไม่ไปไหนแต่ขณะเดียวกันมันก็กระตุ้นอะไรบางอย่างขึ้นจากความทรงจำของเขา
ภาติยะเห็นภาพตัวเองที่ไม่ได้สติถูกชายสองคนจับแขนและขาทั้งสองข้างยกออกไปทางด้านหลังของโบสถ์ที่ใช้จัดงานเขาถูกพาตัวเข้าไปด้านท้ายของรถคันที่เขานั่งมา ชายสองคนที่ลากเขามาก็คือไอ้อ๋องกับไอ้บอยนั่นเองแม้ตอนนั้นทุกอย่างสำหรับเขาจะดูเลือนราง แต่ภาติยะก็จำได้ว่าเขาเห็นไอ้อ๋องที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยหันหน้ามามองเขา แล้วพูดขึ้นว่า
“งานของพี่จบแล้วแต่ความสนุกของพวกเราเพิ่เริ่มต้นนะ กลับไปสนุกกันต่อตามแบบของเราเถอะ”
แล้วผู้กองหนุ่มก็ร่อนเอวขึ้นลงๆ ตอดรับเจ้าดุ้นไข่สั่น
“เฮ้ยรูตูดไอ้ผู้กองนี้มันขมิบใหญ่เลยครับสารวัตร”
เสียงหมวดชาตรีพูดบอกผู้บังคับบัญชาของเขาที่ยืนอยู่สุดอีกมุมด้านหนึ่งของโต๊ะ
“ฮ่า ๆ ๆ ไอ้ผู้กองนี่มันช่างหน้าไม่อายจริงๆ ขนาดคนอยู่กันจนเต็มห้องขนาดนี้ มีนยังกล้าขมิบตูดรัดดุ้นควยปลอมแถมยังทำหน้ามีความสุขที่โดนทะลวงรูตูดอีก”
เสียงเสี่ยสมศักดิ์เป็นคนตอบกลับจากจุดที่สารวัตรสุวิทย์และเสี่ยสมศักดิ์ยินอยู่ พวกเขามองเห็นสีหน้าของภาติยะที่แสดงความเสียวซ่านได้เป็นอย่างชัดเจนนี่ขนาดแค่ควยปลอมแต่มันทำให้ผู้กองหนุ่มถึงกับหลุดด้านมืดของตัวเองออกมา มือของเขาเกร็งจิกกับโต๊ะความรู้สึกเหมือนจะทนไม่ไหวกับสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้
ความรู้สึกเสียวตอนนี้ไม่ใช่เกิดจากแค่โดนไข่สั่นดิ้นรัวๆ อยู่ที่รูตูดเท่านั้น แต่มันเกิดเพราะความทรงจำในค่ำคืนนั้นของภาติยะถูกกระชากกลับมาเขาโดนไอ้อ๋องกระหน่ำเย็ดอย่างไม่บันยะบันยังอยู่บนเตียงควยไอ้อ๋องแม้จะสั้นแต่มันอวบได้ที่ กลายเป็นตัวช่วยประเดิมการขยายรูตูดของผู้กองหนุ่มได้เป็นอย่างดี
ภาติยะหวนจำได้ถึงเสียงพุงกระเพื่อมที่ตีเข้าที่ก้นของเขายามที่ไอ้อ๋องซอยท่อนควยถี่ๆ ของมันเข้าไปในรูตูดของเขา
หลังใกล้เสร็จกิจไอ้อ๋องถอนท่อยควยออกจากตูดของเขา มันเปลี่ยนมายืนอยู่ตรงหน้าเขา แล้วสาวท่อนควยอวบสั้นของมันขึ้นลงถี่ๆ ตอนทึควยของมันพุ่งลาวาขาวข้นออกมาจากปลายลำ สาดเข้าใส่ที่ใบหน้าของเขา ภาติยะก็รับรู้ได้ถึงแรงกระแทกจากควยดุ้นที่สองที่อัดเข้าไปในรูตูดของเขาตอนที่เขาเผลอร้องครางด้วยความเจ็บนั่นเอง น้ำกามของไอ้อ๋องก็พุ่งเข้าปากเขาในทันที
ยิ่งคิด นายตำรวจหนุ่มยิ่งเสียวยิ่งเสียว เขายิ่งร้องคราง แสดงความรู้สึกเสียวออกมาอย่างปิดไม่มิด สิ่งที่เห็นทำให้เสี่ยสมศักดิ์หักห้ามความเสียวของตัวเองไม่ไหวในจัดการปลดกระดุม รูดซิบกางเกงตัวเองลง แล้วรูดกางเกงลงไปกองอยู่ที่ข้อเท้าแล้วเดินอาด ๆ ตรงเอาควยที่แผดผงาดเข้าไปจ่อที่ปากผู้กองหนุ่มทันที ตอนนี้ภาติยะรับศึกหนักทุกทาง
จากนายตำรวจหนุ่มอนาคตไกลผู้กองกนุ่มหล่อที่มีแต่สาว ๆ หมายปอง แต่เขาไม่เคยยอมตกลงปลงใจให้กับใครทั้งชีวิตอุทิศให้กับงานที่เขารักและศรัทธา ไม่เคยคิดเลยว่างานที่เขารักจะนำพาชีวิตของเขาให้ตกต่ำลงขนาดนี้
เขากลายเป็นกะหรี่ขี้โชว์ที่มีความสุขกับการได้เล่นเสียวกับผู้ชายด้วยกันแถมยังมีอารมณ์ที่มีคนอื่นดูเขาโดนกระทำด้วย แต่ยิ่งคิดภาติยะกลับยิ่งเสียวจนหยุดอารมณ์ความเงี่ยนของตัวเองเอาไว้ไม่อยู่เขาเผลอปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการโดนกระทำ
“เย็ดกูเถอะเย็ดกูที กูไม่ไหวแล้ว”
แล้วสายน้ำเงี่ยนของผู้กองหนุ่มก็พุ่งกระฉูดเลอะเต็มตัวเขาเองโดยที่ไม่ได้มีใครช่วยกระทำขณะเดียวกันน้ำเงี่ยนของเสี่ยสมศักดิ์ก็ฉีดเข้าหน้าจนเขามองอะไรแทบไม่เห็น คราบน้ำกามของทั้งตัวเขาและเสี่ยสมศักดิ์ไหลเจิ่งนองทั่วพื้นโต๊ะ
ตอนนี้เกมกามกิจจบลงแล้วทั้งห้องเหลือเขาเพียงแค่คนเดียว น่ายตำรวจหนุ่มพยายามยันกายลุกขึ้นจากโต๊ะ เขาดึงไข่สั่นออกจากรูตูดแล้วลุกขึ้นมาทำความสะอาดร่างกายตัวเองเท่าที่จะทำได้ หลังจากนั้นจึงตามหาคราบน้ำเงี่ยนของตัวเขาเองและของเสี่ยสมศักดิ์เพื่อเช็ดถูมันให้หมดจดไม่ให้มีหลักฐานอะไรหลงเหลืออีกทั้งคราบและกลิ่น
ภาติยะรู้สึกว่าการทำความสะอาดห้องให้สะอาดนั้นมันคือการพยายามทำให้ตัวเขากลับไปขาวสะอาดเหมือนเดิมด้วยเขาไม่ต้องการให้ความรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นกะหรี่ กลับมาในห้วงคิดของเขาอีก
ผู้กองหนุ่มเดินไปที่กองเสื้อผ้าหยิบเครื่องแบบตำรวจขึ้นมาจะสวมใส่ แต่ก็พบว่ากางเกงในของเขาหายไปเขารู้ว่าตัวเองโดนแกล้งอีกแล้ว แต่คร้านที่จะทำอะไรได้จึงจำใจใส่เครื่องแบบโดยไม่มีกางเกงในออกไปข้างนอก พอไม่มีกางเกงในสวมอยู่ควยของผู้กองหนุ่มก็ลุกชันขึ้นมาอีกครั้งอย่างไม่อาจควบคุมได้
ภาติยะตัดสินใจละทิ้งความอายเดินอกผายไหล่ผึ่งออกมาจากห้อง ตรงไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองขณะเดินผ่านหมู่ยุทธนาเป้ากางเกงที่ตุงเด่ของเขาก็สะดุดเข้ากับสายตาของหมู่ยุทธนาจนทำให้ต้องเหลียวกลับไปมอง หมู่ยุทธนาเห็นแล้วถึงกับอุทานอยู่ในใจ
“ไอ้เหี้ยเอ๊ยควยแม่งตุงกางเกงไม่อายบ้างเหรอวะ แถมไม่ได้ตุงอย่างเดียว ยังมีน้ำซึม ๆเลอะเป้ากางเกงอีก ไอ้นี่มันต้องเป็นโรคจิตแน่ ๆ เลย”
หมู่ยุทธรู้สึกขนลุกและคลื่นไส้ไปพร้อมๆ กัน ขณะที่ผู้กองหนุ่มก็กลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะทำงานจ่อโดยที่ไม่กล้าลุกไปไหนเลยตลอดทั้งวัน
@@@@@
ที่ชมรมว่ายน้ำโรงเรียนเปรมปรีดาวันนี้เป็นวันแรกหลังงานโรงเรียนที่สมาชิกชมรมได้กลับมาฝึกซ้อมร่วมกันอีกครั้งจากเดิมที่มีสมาชิกอยู่สี่คน การทำผลงานที่น่าชื่นชมของอัครทำให้มีนักเรียนสนใจสมัครเข้าชมรมเพิ่มมากขึ้น จนตอนนี้มีสมาชิกสิบเอ็ดคนแล้วและวันนี้สมาชิกทั้งเก่าใหม่จะได้ลงฝึกซ้อมร่วมกัน
อาจารย์พลวิทย์สวมกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวออกมายืนคุมการฝึกซ้อมเขาพอจะมองเห็นแล้วว่าใครพอจะมีแววผลักดันได้ส่วนใครเป็นคนที่เข็นยังไงก็ไม่น่าขึ้น แต่ในฐานะที่ทุกคนเป็นสมาชิกเหมือน ๆ กัน อาจารย์พลวิทย์จึงทุ่มเทกำลังฝึกสอนทุกคนอย่างเท่าเทียมและพร้อมจะให้โอกาสทุกคนเท่ากัน
ขณะที่ทุกคนในชมรมว่ายน้ำกำลังขมักขเม้นกับการฝึกซ้อมกันอยู่จู่ๆ อาจารย์เพชรก็เดินเฉิดฉายอารมณ์ดีเข้ามาหาพวกเขาซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
“สวัสดีฮ่าทุกๆ คน เห็นว่าวันนี้มีสมาชิกชมรมใหม่หลายคน เลยมีข่าวดีมาบอก”
อาจารย์เพชรใบหน้ายิ้มกริ่มแฝงความเจ้าเล่ห์จนอาจารย์พลวิทย์รู้สีกใจคอไม่ดีเกตุการณ์อัปยศที่เขาเจอถึงกับผุดขึ้นมาในความทรงจำ
“โรงเรียนปัญญานุสรณ์ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัดของเราส่งจดหมายเชิญสมาชิกชมรมว่ายน้ำ ให้ไปแข่งขันกีฬาเพื่อเชื่อมความสามัคคีในวันพรุ่งนี้อาจารย์วิทย์คงต้องเตรียมสมาชิกไปเข้าแข่งขันสัก 4 คนนะฮ้า”
“ไม่กะทันหันไปเหรอครับอาจารย์เพชรวันเดียวเอง พวกเด็ก ๆ ไม่มีเวลาเตรียมตัวเลย”
“ถึงจะบอกว่าเป็นการแข่งขันแต่มันไม่ได้วัดผลแพ้ชนะกันหรอกฮ่า เพราะฉะนั้นไม่ต้องตกใจเราแค่ไปแข่งเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์และหาประสบการณ์นะฮ้า”
อาจารย์พลวิทย์ไม่ได้กล่าวท้วงอะไรต่อเพราะรู้ดีว่าไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรต่อ อาจารย์เพชรจึงกล่าวต่อไปว่า
“ขอให้โชคดีในการแข่งขันนะฮ้า”
อาจารย์เพชรเดินกลับออกไปอย่างอารมณ์ดีไม่มีทีท่าก้อร่อก้อติกอาจารย์พลวิทย์อย่างเช่นทุกครั้ง จนอาจารย์หนุ่มเองอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ถึงแม้จะเป็นเรื่องดีก็ตาม
เมื่อถึงเวลาเลิกการฝึกซ้อมอาจารย์พลวิทย์ปล่อยเด็ก ๆ ไปทำความสะอาดร่างกายส่วนตัวเขานั้นจัดการเก็บอุปกรณ์และดูแลความเรียบร้อยทุกอย่างก่อนจะเดินเข้าห้องพักครูไปขณะที่กำลังยืนดูกองเอกสารบนโต๊ะ อยู่ ๆ ไอ้โอ๊ตก็เดินเข้ามาในห้อง
“มีอะไรหรือเปล่าวาสุ”
อาจารย์พลวิทย์เอ่ยถามด้วยความแปลกใจเพราะเด็กหนุ่มไม่เคยทำพฤติกรรมแบบนี้มาก่อน
“เรื่องลงแข่งพรุ่งนี้ครับอาจารย์เลือกคนไปลงแข่งไว้รึยังครับ”
“อืมก็พอมีในใจ”
อาจารย์พลวิทย์หยิบกองเอกสารขึ้นมาเหลือบสายตามองไปที่เด็กหนุ่มสมาชิกในทีมที่ตอนนี้ยืนมองเขาอยู่ก่อนแล้ว พลวิทย์ไม่ได้กล่าวอะไรต่อได้แต่เดินเอาเอกสารไปเก็บไว้ในตู้
“ผมอยากให้อาจารย์เลือกผมลงแข่งด้วย”
คราวนี้อาจารย์หนุ่มเงยหน้าขึ้นมองลูกศิษย์ด้วยสายตาจริงจังเขาเกิดความสงสัย เนื่องจากเป็นที่รับรู้ว่าฝีมือของเด็กคนนี้นั้นมาตฐานแย่ที่สุดในรุ่นของเขา อาจารย์หนุ่มไม่แน่ใจว่าอะไรที่ดลใจให้เด็กหนุ่มตรงหน้ากล้าเดินเข้ามาขอร้องเขาเช่นนี้
“เธอคิดว่าเธอศักยภาพพอแล้วเหรอสำหรับการลงแข่ง”
“ผมอาจไม่ใช่คนที่เก่งหรือพร้อมที่สุดในทีม แต่ผมมีบางอย่างที่อาจารย์ไม่สามารถปฏิเสธผมได้”
เสียงที่ดังอยู่ไกล ๆลอยใกล้เข้ามา โดยเฉพาะประโยคหลังเสียงนั้นเหมือนดังอยู่ข้าง ๆ หูของเขาเลยพลวิทย์ขนลุกซู่ และขนลุกหนักขึ้นตอนที่มือของไอ้โอ๊ตลูบคลึงที่บั้นท้ายของเขา
“นายกำลังทำอะไรหยุดเดี๋ยวนี้นะ”
“มีอาจารย์เพชรคนเดียวหรือครับที่ทำให้อาจารย์ได้ ผมเห็นนะครับ ว่าวันนั้นเกิดอะไรขึ้น ผมอยู่ในห้องน้ำห้องอาบน้ำห้องแรกพอดี อาจารย์อยากเห็นคลิปมั้ยครับ มันเห็นหน้าอาจารย์ชัดแจ๋วเลย”
มือที่ลูบไล้บั้นท้ายอาจารย์พลวิทย์เปลี่ยนมาเป็นค่อยๆ เกี่ยวกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวของอาจารย์หนุ่มลงไปกองกับพื้นอย่างช้า ๆ
พลวิทย์ได้ยินเสียงกล้องถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟนกำลังทำงาน
“อาจารย์นี่ทั้งหล่อทั้งหุ่นดี ไม่มีที่ติเลยนะครับ เสียอย่างเดียว รสนิยมทางเพศห่วยไปหน่อยการเลือกอาจารย์เพชรเป็นคู่ขา เป็นความคิดที่แย่มาก ๆ แต่เอาเถอะถ้ามันเป็นความชอบของอาจารย์ ผมก็คงไม่ก้าวก่าย คราวนี้ผมอยากให้อาจารย์สาวควยตัวเองให้แข็ง แล้วค่อย ๆ หันหน้ามาหาผม ช้า ๆ นะครับ ช้า ๆ”
พลวิทย์ต้องยอมทำตามที่โอ๊ตบอกเพราะไม่มีทางเลือกอื่นให้เขาไปต่อได้เลยอาจารย์หนุ่มจำต้องสาวท่อนควยของตัวเองจนโด่ ไอ้โอ๊ตบันทึกภาพอันน่าตื่นเต้นนั้นไว้ในสมาร์ทโฟนของมัน
“คราวนี้อาจารย์เดินไปนั่งบนโต๊ะทำงานไม่ใช่เก้าอี้ บนโต๊ะครับ นั่นแหล่ะ สวยงามมากคราวนี้อาจารย์ช่วยชักว่าวให้ผมดูหน่อย”
พลวิทย์ปั่นควยชักว่าวต่อหน้าลูกศิษย์ตัวเองที่กำลังทำหน้าที่บันทึกวิดีโอไปด้วยตอนแรกเหมือนเขาจะไม่มีอารมณ์แต่คำพูดของไอ้โอ๊ตกลับกระตุ้นอารมณ์เสียวของเขาได้แบบที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“อาจารย์รู้ไหมครับว่าผมเข้าชมรมนี้มาเพราะไอ้อัครผมแอบชอบมัน อยากอยู่ใกล้มัน อยากเห็นมันมากกว่าที่เคยได้เห็นแต่พอมาอยู่ในชมรมจริง ๆ ผมกลับชอบมันน้อยลง จนตอนนี้ผมเริ่มจะเกลียดมันแทนแล้วผมเกลียดมันเพราะอาจารย์นั่นแหล่ะครับ อาจารย์ให้ทุกอย่างกับมันเพียงคนเดียวความลำเอียงของอาจารย์ทำให้ผมเกลียดทั้งอาจารย์และเกลียดไอ้อัครด้วย แต่ผมก็ต้องเก็บกดความรู้สึกอันนั้นเอาไว้แล้วอยู่ ๆ ก็เกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น ที่ทำให้ผมได้เห็นความวิปริตของอาจารย์ผมจะไม่มีวันเชื่อเด็ดขาดถ้าผมไม่ได้เห็นมันกับตาตัวเอง อาจารย์ที่ผมและทุก ๆ คนนับถือเดินแก้ผ้าเข้ามาให้อาจารย์เพชรแม่งอมควยให้ กลางวันแสก ๆ ในห้องอาบน้ำที่พวกเราทุกคนใช้งานอาจารย์ทำแบบนั้นได้ยังไง”
พลวิทย์สาวควยไปฟังคำที่พรั่งพรูจากความรู้สึกของลูกศิษย์ตัวเองไปเขาไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจึงเกิดความเสียวขึ้นมาได้ ยิ่งในประโยคต่อไป
“ผมจะลงโทษอาจารย์จากพฤติกรรมที่น่ารังเกียจของอาจารย์เองผมส่งคลิปนั้นให้อัครได้ดูแล้ว และสำหรับพวกเราที่เหลือ ที่ยังไม่ได้เห็นมันจะได้เห็นตัวตนจริง ๆ ของอาจารย์ หลังจากนี้”
พลวิทย์เกร็งตัวเกร็งหน้า เกร็งทุกส่วนของร่างกายแม้แต่ความรู้สึก แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวปล่อยน้ำเงี่ยนให้พุ่งไหลทะลักออกมากองเต็มพื้นห้องไปจนหมด เขาหอบตัวโยนหายใจถี่หลังความเสียวนั้นสิ้นสุดลงแต่ขนาดควยของเขากลับหดตัวลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“การลงโทษครั้งต่อไปอาจารย์พลวิทย์ ผมขอสั่งให้อาจารย์เดินออกจากห้องไปในสภาพนี้แล้วเข้าไปล้างตัวในห้องอาบน้ำ เดี๋ยวนี้”
อาจารย์พลวิทย์ยืนเก้ ๆกัง ๆ ละล้าละลังไม่อยากทำตาม แต่ไอ้โอ๊ตชูสมาร์ทโฟนของมันที่บันทึกคลิปเมื่อสักครู่เอาไว้มันทำให้อาจารย์หนุ่มต้องยอมเดินออกจากห้องไป พอออกมานอกห้องพลวิทย์รู้สึกหนาวขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้แต่น่าแปลกที่ความหนาวนั้นไม่ได้ทำให้ควยเขาหดมันกลับยิ่งตั้งตระหง่านชูชันแบบที่เขาห้ามมันไม่ไหว เขาเดินควยโด่มีน้ำเงี่ยนไหลซึมตรงไปที่ห้องอาบน้ำและพอเดินผ่านเข้าไปเขาก็ได้ยินเสียงเซ็งแซ่ของสมาชิกในชมรมและเมื่อเขาเดินผ่านพวกนั้นไป เสียงที่ดังอยู่ก็เงียบลงในพริบตา ทุกคนทำสีหน้าตกใจหันหน้ามองหากันเลิ่กลัก
“ไอ้เหี้ยมึงเห็นอย่างที่กูเห็นรึเปล่า”
“ทำไมอาจารย์พลวิทย์อยู่ในสภาพนั้น”
“ควยแม่งตั้งโด่ไม่พอมีน้ำเงี่ยนไหลเยิ้มออกมาเลย อู๊ย พูดแล้วขนลุก”
เหล่าสมาชิกชมรมต่างทำท่าขยะแขยงกับสิ่งที่ได้เห็นพวกมันรีบแต่งตัวแล้วเก็บของออกจากห้องไป พลวิทย์พอทำความสะอาดร่างกายเรียบร้อยเขาก็ค่อย ๆ เดินจากห้องอาบน้ำกลับไปที่ห้องพักครูตามเดิมในสภาพที่ควยยังตั้งชันไอ้โอ๊ตไม่อยู่ในห้องแล้ว มีเพียงแต่ข้อความของมันที่ถูกส่งมายังโทรศัพท์ของเขา
“อาจารย์พลวิทย์ครับต่อจากนี้ผมขอให้อาจารย์เชื่อฟังผมทุกอย่าง และยอมเป็นทาสของผมไม่ว่าผมจะสั่งอะไรก็ตาม ถ้าอาจารย์ทำตัวดี ๆ ผมรับรองว่าคลิปที่ผมมี ไม่ว่าตัวไหนมันจะอยู่ในที่ปลอดภัยสำหรับอาจารย์ และสำหรับพรุ่งนี้ อาจารย์คงมีคำตอบแล้วใช่มั้ยครับว่าใครจะได้เป็นตัวจริงบ้าง”
[โปรดติดตามตอนต่อไป]
|