แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย slytherin เมื่อ 2021-2-19 14:26
บญญาวี 01 ตอนที่ผมฟังเรื่องของ เบญญาวี ครั้งแรก คือช่วงเช้าของวันเปิดเทอมใหม่ ของมหาวิทยาลัยอเนกและพุฒินักศึกษาที่เคยเรียนและสนิทกับผมอยู่แล้วเข้ามานั่งสุมหัวดูคลิปวิดีโออยู่ตั้งแต่เช้าในช่วงเวลาที่ผมมาถึงยังไม่ถึงเวลาสอน ในความเป็นจริงยังไม่ใกล้เลยด้วยซ้ำ ผมชะโงกหน้าเข้าไปดูคลิปวิดีโอทำให้เด็กหนุ่มทั้ง 2 คนสะดุ้งสุดตัว “ดูอะไรกันอยู่” ผมร้องถาม หัวเราะเสียงดัง “ไหนครูดูบ้างซิ” ทั้งสองยิ้มสีหน้าดูตกใจแต่ไม่ได้เกรงกลัวที่จะปกปิด ส่งโทรศัพท์มือถือให้ผมเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ ที่อยู่ในทวิตเตอร์ ผมมองดูคลิปนั้นเร็ว ๆ มันเป็นคลิปเกย์ คนหนึ่งกำลังกระทำการจัดการกดอวัยวะเพศของตัวเองเข้าออกใส่รูตูดของผู้ชายที่เป็นรับ “พวกนายมีรสนิยมแบบนี้หรอ” ผมเหลือบมองหน้าพวกเขาพยายามยิ้มไม่ให้เด็กทั้งสองรู้สึกว่าผมมองว่ามันเป็นเรื่องแปลกแต่แล้วทั้งคู่ก็หัวเราะ “ใช่ที่ไหนอาจารย์” เอนกร้องออกมา“ที่พวกผมกำลังดู เพราะได้ยินว่านี่เป็นคลิปของเบญญาวี”และนั่นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อของเธอ “เบญญาวีไหน มันเป็นคลิปเกย์ไม่ใช่หรอ” ผมถาม “อาจารย์ดูดี ๆ นี่มันคลิปกะเทย ดูที่มือกับเล็บ”พุฒิรีกลับคลิปให้ผมดู จริงอยู่มือที่ปรากฏในคลิปวิดีโอเป็นมือที่เล็บส่วนใหญ่เป็นสีปกติแต่เล็บนิ้วก้อยข้างหนึ่งเป็นรูปใยแมงมุมสีดำบนพื้นสีแดง “ใครหลายคนจำได้ว่าเบญเคยทำสีเล็บแบบนี้ตอนนี้เรื่องก็เลยดังขึ้นเขาดูกันไปทั่ว” ผมนิ่งฟังแล้วเริ่มใคร่ครวญ “ฮ่า ๆ ตอนแรกนึกว่าเป็นกะเทยใส ๆตอนนี้มาเห็นแล้วเป็นกะเทยเย็ดตูดจุก ๆ เลยอาจารย์” พุฒิกับอเนกหัวเราะมาอีก ....................................... ผมเห็นเบญญาวีครั้งแรก ในคลาสของเช้าวันนั้นเธอไม่ใช่สาวประเภทสองคนเดียวในห้อง และไม่ต้องอาศัยการเช็คชื่อก่อนเริ่มเรียนผมก็รู้ว่าเธอเป็นเธอ สายตาทุกคู่จ้องมาที่หญิง(สาว?) บ้างมองอย่างจงใจบ้างแอบมองจนผมรู้สึกอึดอัดแทน ร่างกายของเธอใหญ่แต่ก็ใหญ่ในแบบของผู้หญิงร่างใหญ่ ไม่ใช่ร่างของผู้ชาย สีผิวน้ำผึงสว่างผิวงามโครงหน้าชัดเข้มอย่างคนที่ทำศัลยกรรมและดูแลตัวเองดี ริมฝีปากแดงอิ่มทั้งเรือนกายเท่าที่ปรากฏทั้งผิวหน้าและกายดูเนียนไม่เห็นรอยด่างดำเธอแต่งตัวเรียบร้อยในชุดนักศึกษา กระโปรงพลีทยาวคลุมเข่าห่อหุ้มตัวเองอีกชั้นนึงด้วยเสื้อแจ็คเก็นผ้าไหมสีเทาบาง ๆ ผมคงไม่สะดุดตาและจ้องมองเธอบ่อยนักถ้าไม่ได้รับรู้เรื่องราวใด ๆ มาก่อนเมื่อเช้า ผมสอนคลาสนั้นอย่างเกร็งรู้สึกตัวเองไม่เป็นมืออาชีพ เบญเองก็คงรู้สึกผิดปกติหลาย ๆอย่างเธอกระซิบกระซาบกับเพื่อนคนข้าง ๆ อยู่ตลอดเวลา คาบเรียนจบอย่างรวดเร็วเพราะนั่นเป็นวันแรกของวิชา ผมมีสมาธิไม่มากและใจนึงอยากให้เธอหลบพ้นจากสายตาของคนอื่น คลาสเลยเลิกลงหลังการสอนผ่านไปราว ๆชั่วโมงครึ่ง ....................................... ผมพยายามจะสลัดเธอออกจากสมาธิของการเตรียมสอนแต่ในตอนเที่ยงก็นึกถึงเธอขึ้นมาอีกผมหยิบมือถือขึ้นมาเข้าไปในแอพพลิเคชั่นทวิตเตอร์แล้วเริ่มเซิร์ชหาแอคเค้าท์ที่ชื่อ Solitare จากความทรงจำแอคเค้าท์นี้ถือเป็นแอคเค้าท์สีดำมืด อธิบายตัวตนของเธอเองว่า “สาวสอง สาวเสียบหาชายนัด สวย แลกรูปได้” ไม่มีคำอธิบายมากกว่านี้ ไม่มีแม้แต่รูปภาพแต่ในใจหนึ่งผมปักใจเชื่อไปหลายส่วนว่าเป็นเธอ ในนั้นมีคลิปไม่มากมายมีรูปเธอบ้างแบบไม่เห็นหน้า ผมเลื่อนดูมันอยู่ในโซนทำงานของตัวเองมีเพียงคลิปเดียวที่เธอทาเล็บที่นิ้วก้อยเป็นรูปใยแมงมุม ในขณะที่คลิปอื่น ๆทุกเล็บจะทาสีเรียบธรรมดา ผมเลื่อนไปจนเจอคลิปนึงโพสท์ขึ้นเมื่อเกือบปีผู้ชายที่อยู่ในคลิปยังดูเด็กอยู่มาก มีคำบรรยายคลิปสั้น ๆ ว่า “เสียบเด็กม.ปลาย”เป็นเด็กผู้ชายตัดผมสั้นเกรียนแบบนักเรียน(เห็นจากข้างหลัง) คลิปนี้ทำผมใจเต้นแรงและตั้งใจดูอย่างจริงจังมากกว่าจะเลื่อนผ่านๆ เด็กผู้ชายในภาพกำลังโก้งโค้งเอามือมาแหวกรู้ก้นจนเผยอออกเห็นเนื้อในสีชมพู ในขณะที่ร่างอีกร่างหนึ่งจับท่อนควยสีน้ำตาลเข้มภายใต้ถุงยางสีชมพูมาจ่อรูตูดฟิตแน่น ผมพึ่งเห็นขนาดของเธอชัด ๆ ตอนนี้เอง มันใหญ่แน่หละใหญ่กว่าผม จนผมคิดว่าเด็กผู้ชายคนนั้นจะต้องเจ็บ เธอค่อย ๆ กดมันเสียงร่างที่โดนเสียบร้องโอ๊ย ไม่ใช่อย่างเจ็บหนัก แต่ก็ดูมีอาการ “เบา ๆ พี่”เสียงของผู้ชายดังขึ้นในวิดีโอ ขณะที่อีกร่างใช้นิ้วแหย่นำเข้าไปก่อนอีกแล้วเอาของตัวเองถูก่อนจะกดจมลงไปในร่างนั้น คลิปนี้ยาวกว่าคลิปอื่น ๆมันเริ่มจากการขยับช้า ๆ ผิวสีน้ำตาลกับผิวสีขาวเสียงของเด็กชายในคลิปร้องดังขึ้นเรื่อย ๆเป็นเสียงที่ผมแยกไม่ออกว่าเป็นความสุขหรือความทรมาน หรือทั้งสองอย่างที่ปะปนกันในตอนท้ายของคลิป เด็กหนุ่มร้องครางว่า เสียวพี่ เสียวครับมือสีน้ำตาลอ่อนข้างหนึ่งก็ยึดมาจับเอวของเด็กผู้ชายไว้ ก่อนจะกระแทกร่างใส่แรงเสียงเด็กร้องขึ้นครวญครางทุกครั้งที่ถูกกระแทก มันไม่ได้เร็วแต่เน้นหนักไปด้วยความรุนแรง ก่อนวิดีโอจะตัดจบไป... 3 นาทีกว่า ๆ ในคลิปนั้น ทำให้ผมอวัยวะเพศผมขยายตัวจนปวดอยู่ในกางเกง ....................................... เย็นวันนั้น ผมรู้สึกแปลกกับตัวเอง ภาพของนักศึกษาสาว ทวิตเตอร์และคลิปวิดีโอตัดสลับกันไปหมดในจิตใจรับโทรศัพท์ของแม่ตัวเองในตอนเย็น ในใจยังรู้สึกขัดเขินและผิดบาป แต่แล้วพอค่ำ ๆผมก็มาไล่หาทวิตเตอร์ของเธออีก แอคเค้าท์นั้นหายไปแล้ว หายไปอย่างมีพิรุธเมื่อหาดูคลิปเหล่านั้นไม่ได้ ผมก็เลยไล่ค้นหาเฟซบุ๊คของนักเรียนเพื่อจะเชื่อมต่อไปหาเธอ เบญญาวีในเฟซบุ๊ค เป็นตัวตนที่ค่อนข้างเรียบร้อยแน่หละอาจจะมีพื้นที่เซ็กซี่บ้างแต่ดูไม่ออกเลยแม้แต่นิดเดียวว่าเธอเป็นคนคนเดียวกันกับคนในทวิตเตอร์ที่ออกไปทางเซ็กซืแอคเกรสซีฟ โดยเฉพาะการเป็นฝ่ายรุกอย่างดุดันผมมองจ้องเธอและมีอารมณ์ขึ้นมา พยายามข่มตัวเองไปอาบน้ำ เข้านอนไม่กล้าทำอะไรกับความปั่นป่วนทางอารมณ์ของตัวเองเพราะรู้สึกว่ามันเริ่มต้นด้วยความผิดบาป ...................................... เรื่องของเบญญาวี เป็นกระแสอยู่ระยะเวลานึงไม่นานนักใคร ๆ ก็พากันเลิกพูด แน่หละการเอากันของเด็กมหาลัยมีกันแทบทุกวันการนินทาเองก็เป็นไปตามทุกวันของเรื่องราวเหล่านั้นจะแปลกแยกไปหน่อยก็เพราะเบญญาวีเป็นอื่นไปในด้านเพศ เป็นความไม่คุ้นเคยและคัดค้านกับสำนึกแห่งโลกปกติ ที่ผู้ชายจะต้องเป็นฝ่ายเข้ากระทำผู้หญิงในขณะที่เธอมีความปลอมปนของความเป็นเพศชายที่อยากเป็นหญิงแต่ก็กลับใช้ความเป็นหญิงในการจัดการผู้ชาย ถึงอย่างนั้นสังคมแห่งเพศในปัจจุบันก็หลากหลายมากขึ้นกว่ายุคสมัยที่ผมยังอยู่ในมหาวิทยาลัยเรื่องของเบญ จึงเป็นเรื่องที่โจษจัณฑ์ กันแค่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง คาบเรียนของผมเป็นไปด้วยความเข้มข้นเราเรียนเรื่องความรักของเพศเดียวกันในภาพยนตร์เรื่อง Blue is the warmestcolour พอจบคาบเรียน ผมก็ให้โจทย์ไปให้นักศึกษาแบ่งงานกันเป็นกลุ่มและทำงานที่สร้างอารมณ์ความรู้สึกของความรักในเพศเดียวกันผ่านการตีความออกมาเป็นภาพยนตร์สั้นขนาด 3 นาทีอย่างอิสระ เบญญาวีเป็นคนไม่พูดอะไรเลยเมื่อกลุ่มของเธอเข้ามาปรึกษาและส่งไอเดียงานเธอยังคงอยู่ในชุดนักศึกษาที่เรียบร้อยใส่เสื้อแจ็คเก็ตสีแดงตัวใหม่โครงหน้าประดับด้วยการประทินเครื่องสำอางอย่างน่ามอง ครั้งนึงผมเผลอมองมากไปหน่อยจนหญิงสาวในกลุ่มอีกคนต้องเผลอเรียกผม “อาจารย์เป็นอะไรคะเอาแต่มองอีเบญ”พอเธอพูดเบญญาวี ก็มองขึ้นมาสบตาผม แว๊บนึงหัวใจผมรู้สึกเหมือนถูกกระตุกกระชากออก “เปล่าครูแค่คิดว่าเราไม่ค่อยได้เห็นหนังความรักระหว่างสาวประเภทสองด้วยกันเองมองเบญแล้วทำให้ครูคิดได้ว่า หนังเพศหลักรักกันมันมีเยอะแต่ความรักระหว่างเพศที่สองด้วยกันเองมันดูซับซ้อนดี”ผมเสเปลี่ยนเรื่องอย่างชาญฉลาด แต่พอพูดไปแล้ว ก็รู้สึกอย่างนั้นจริง ๆเรื่องราววันนั้นก็เลยจบไปอย่างที่พิรุธที่เกิดขึ้นไม่น่าสงสัยนัก ....................................... ฝนโปรยปรายลงมาอย่างหนักและลานจอดรถของมหาวิทยาลัยก็เป็นลานโล่ง รถยนต์ของผมเองเป็นแบบรุ่นเก่าและตอนที่ฝ่าฝนมาเมื่อเช้า ผมก็ดันเปิดไฟหน้ารถโดยที่ลืมปิดพอกลับมาที่รถของตัวเองในตอนเย็น ก็ได้แต่พบว่ารถดับสนิทผมกางร่มพยายามจะดูว่าทำอะไรได้บ้าง เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็เลยได้แต่เดินไปบอกรปภ.แล้วกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัย “อาจารย์ทำไมตัวเปียกอย่างนั้นคะ” เสียงคุ้นหูของนักศึกษาดังมาจากข้างหลังเธอคือเจนนักศึกษากลุ่มเดียวกับเบญแล้วพอเหลือบตาต่อไปอีกนิดผมก็เห็นเบญญาวีเดินอยู่ข้าง ๆ เธอผมเลยอธิบายให้ทั้งสองฟัง เบญญาวีหัวเราะ เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเธอหัวเราะสายตาและเสียงหัวเราะเธอทำผมค้างไปชั่ววินาทีแล้วเธอก็บอกมาว่าอาจารย์นี่ขี้ลืมเนอะ เธอหมายถึงการลืมปิดไฟของผม พอรู้ว่าฝนตกหนักและคงไปไหนกันไม่ได้เจนกับเบญก็เลยชวนผมนั่งคุย ผมกำลังจะถามเธอว่าเรื่องหนังสั้นว่าคิดกันไปถึงไหนแล้วเจนก็สวนขึ้นมาว่า “อย่าถามเรื่องงานค่ะ หมดเวลาสอนแล้ว หยุดเรื่องงาน” ผมหัวเราะเบญก็หัวเราะ แล้วเราก็สบตากันอีก คราวนี้เป็นเบญญาวีที่หลบตาไปจากผมบ้าง การได้รู้จักนักศึกษาเพิ่มขึ้นก็ดีมันทำให้ผมรู้สึกอ่อนเยาว์ลง เอาเข้าจริง ๆ แล้ว ผมก็ห่างจากพวกเธอแค่ 5-6 ปีเจนเป็นหญิงสาวตัวเล็กดูสดใส เวลาที่เดินเคียงข้างกับเบญจึงเป็นเหมือนคนแคระแต่ตัวเธอเองก็ป๊อปปูล่าในหมู่นักศึกษามหาวิทยาลัยไม่น้อยขณะที่เบญเองถึงแม้จะเป็นสาวประเภทสองแต่เพื่อนของเธอก็คอยยืนยันว่ามีทั้งหนุ่มรุ่นพี่รุ่นน้องในคณะและต่างคณะมาคอยขายขนมจีบ เสื้อที่เปียกของผมเริ่มแห้งไปเองเจนคงจะคิดได้เลยอาสาจะไปซื้อเครื่องดื่มร้อน ๆ มาให้ ผมอยากจะบอกเธอว่าไม่รบกวนแต่แล้วก็เปลี่ยนใจ เลยให้เงินเธอไป 200 แล้วบอกให้ซื้ออะไรมากินกัน ทีแรกเบญจะลุกไปด้วยซึ่งทำให้ผมรู้สึกผิดหวัง แต่แล้วเจนก็บอกให้เธออยู่คุยเป็นเพื่อนผม“อยู่คุยเป็นเพื่อนอาจารย์แก” แล้วเจนก็ผละออกไป พออยู่กันสองคนจริงๆ ผมก็กลับไม่ค่อยกล้าคุยได้แต่เงียบอีกเสียงคะนองคองท้องฟ้าดังมาได้ยินอย่างชัดเจน “เบญเป็นคนที่ไหนเป็นคนกรุงเทพฯหรอ” ในที่สุดผมก็ตัดสินใจถามเธอ ตอนแรกก็คิดว่าเธอจะยอมตอบมั้ยแต่แล้วคนที่อยู่ตรงหน้าก็ดูเป็นคนคุยง่าย คุยเก่งคนนึงแล้วเธอก็เล่าเรื่องชีวิตสั้น ๆ ให้ฟัง เธอเกิดที่ภูเก็ต พ่อเป็นเจ้าของโรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เธอเล่าแม้กระทั่งเรื่องราวของเธอที่ชอบพี่ ๆ ที่เป็นสาวประเภทสองเป็นนางโชว์ในภูเก็ต แล้วจบด้วยคำสรุปว่า “หนูก็เลยเป็นกะเทยแบบนี้”เป็นการสรุปด้วยรอยยิ้ม มากกว่าที่จะปลงสังเวชชีวิต ผมว่าจะถามต่อถึงครอบครัวแต่ก็ไม่ได้ถาม ไม่นานเจนก็กลับมา วงสนทนาก็กว้างขึ้นไปอีก กว่าจะแยกย้ายกันก็ทุ่มกว่าเข้าไปแล้วนักศึกษาอีกหลายคนก็เดินออกมาท่ามกลางความเฉอะแฉะของมหาวิทยาลัยอย่างพร้อมเพรียงกันเพราะติดฝน ผมอาสาไปส่งพวกเธอแต่ทั้งสองยืนยันว่าไม่ต้องผมอาสาไปส่งพวกเธอทั้งสองโดยที่รถของตัวเองยังคงใช้ไม่ได้อยู่เลยทุกคนกลับบ้านหมดแล้ว กว่ารปภ.จะเรียกรถมาช่วยดูแบตเตอรี่ให้สองทุ่มกว่าผมถึงจะได้ออกจากมหาวิทยาลัย และไปผจญกับรถติดจนถึงห้องของตัวเองเกือบสี่ทุ่ม เป็นวันอันแสนยาวนานน่าเหนื่อยหน่าย... แต่เรื่องดี ๆของวันนี้อาจเป็นผมได้คุยกับเบญญาวี... นึกถึงเธอขึ้นมาแล้วก็ยิ้มรู้สึกตัวเองเหมือนเด็กที่แอบปลื้มใครซักคน... |