แฝดคนละฝั่ง18 ผู้ชนะ และผู้แพ้ “น้องไตร นี่ข้อมูลไอ้รามครับ”พี่นุวางเอกสาร ให้ผมบนโต๊ะ ช่วงนี้ผมไม่มีสมาธิทำงานเท่าไหร่ ดีที่ได้พี่ ๆ ที่โรงแรม ช่วยดูแล ผมหยิบเอกสารมาดูคร่าว ๆ “มันเป็นทนายจากกรุงเทพ ครับ ไป ๆมา ๆ ที่นี่ เพราะ นายหัวตรี จ่ายมันหนัก เป็นลูกค้ารายใหญ่เลย” พี่นุเริ่มรายงาน “อ่อ แสดงว่า รอมันกลับมาคงเอาตัวมาไม่ยากใช่ไหม”ผมถาม “ตั้งแต่เกิดเรื่องไอ้ไข่มันซ่อนตัวอยู่ในซีวิว ตลอดเลยครับ แถม ซีวิวยัง เพิ่มจำนวนคนงานที่ไอ้รามมันจัดหามาอีกครับ” “เพิ่มจำนวน มันเอามาจากไหน” “พวก ต่างด้าวครับ มันข้ามหัวกลุ่มหลังบ้าน แต่พวกนายหัว เห็นว่าเป็นเรื่องของเราเลยยังแค่ดูสถานการณ์อยู่”พี่นุรายงาน เพราะการเอาคนงานเข้าออกก็เป็นเรื่องหนึ่งของกลุ่มหลังบ้านเหมือนกัน “เอาคนบุกไปลากคอไอ้รามมา”ผมสั่งเด็ดขาด “มันเป็นเรื่องยากนะครับ เพราะพวกนั้นก็พร้อมรับพวกเราแน่ ๆ แถมพวกนี้ ไม่ต้องทำอะไร มีหน้าที่เฝ้าและพร้อมมีเรื่องทุกคนครับ”พี่นุ ห้ามผม “ไตรใจเย็น ๆ นะพี่ไม่เคยเห็นไตรใจร้อนอย่างนี้เลย”พี่นุขยับเข้ามาจับมือผม เหมือนเรียกสติผม “ผมขออยู่คนเดียวก่อนนะครับ”ถึงผมจะเย็นลงแต่ผมก็ยังไม่หยุดที่จะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด พี่นุ ดูเหมือนจะรู้ใจผมเดินออกไปเงียบ ๆ “ผมไปดูไอ้ไข่นะครับล่าสุดหมอบอกว่าอาการทรง แต่ก็ไม่มีข่าวดีเลย”พี่นุบอก ก่อนออกไปจากห้อง ผมทำงานไม่มีสมาธิจนต้องขับรถออกไปจากโรงแรม ขับรถไปเรื่อยไร้จุดหมาย วน ๆ อยู่ในเมืองจนเลยไปถึงชายหาด ผมจอดรถ แล้วเริ่มเดินเล่นเลาะหาดไปเรื่อย ๆ หาดทอดตัวยาวขนานกับถนน ไปจนสุดแนวป่า ผมไม่ได้มาเดินที่นี่นานแล้ว เพราะตรงนี้เป็นหาดที่ไม่ค่อยสวย จึงไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคน มันโดนกั้นด้วยหน้าผาสูงก่อนจะถึงหาดอีกส่วน ที่เป็นที่ตั้งของโรงแรมใหญ่น้อย รวมถึงซีวิวผมเดินคิดอะไรสับสนไปเรื่อย จนไม่รู้ตัวว่าเดินมาห่างรถพอสมควรเกือบจะถึงแนวหน้าผาที่กั้นไว้แล้ว ผมกำลังจะหันหลังกลับก็ไปเห็นเพิงเล็ก ๆ เปิดเป็นร้านเหล้า มันคงดี ถ้าตอนนี้ใช้เหล้าช่วยระบายความเครียด ผมตรงเข้าไปที่ร้าน เจ้าของร้านเป็นหญิงไทยที่น่าจะได้สามีเป็นฝรั่ง สั่งเบียร์มากินไปเงียบ ๆ ที่มุมในสุดของร้านมันเป็นมุมอับสายตา จากภายนอก แต่ก็เห็นวิวทะเลอยู่ได้ ผมนั่งจิบเบียร์ ฟังเพลง สากลเก่าๆ ไปเรื่อย ๆ ในร้าน มีลูกค้าเป็นผมคนเดียว ผมนั่งจิบเบียร์ไม่ทันหมดขวดก็มีแขกเข้าร้าน ผมรู้เท่านั้น เพราะไม่ได้สนใจอะไร ดื่มไปมองทะเล คิดอะไรเพลินไป “อ้าว มาแต่หัววันเลยแผลหายแล้วเหรอ”ผู้หญิงเจ้าของร้านทัก “หายแล้ว แต่ลางานอยู่ เบื่อ ๆเจ้ มีแต่เรื่องวุ่นวาย” “เออ แล้วกินเหล้าได้แล้วเหรอ” “เอามาเหอะเจ้” แขกผู้มาใหม่ตัดบท ทำให้เจ้ ยกเบียร์ มาวางให้ตรงหน้า “แล้วนี่ที่ทำงานเป็นไงบ้าง”เจ้ถาม “โอ้ยย วุ่นวายจะตาย อะไรก็ไม่รู้แถมนายหัวแม่ง ไม่เคยสนใจดูผมเลย ค่ารักษายังต้องใช้ประกันสังคมเลย” แขกบ่น “เจ้ได้ข่าว ว่าข้างในก็ไม่เหมือนเดิมเหรอ” “ใช่ เจ้ นายหัวเขาเชื่อไอ้คนจากกรุงเทพ แม่งเอาพวกเหี้ยมาเต็มไปหมด” ผมนั่งฟัง แบบไม่สนใจเขาคงเป็นลูกค้าประจำ แต่ตอนนี้เขาหันหลังให้ผม เลยไม่เห็นหน้าและผมก็ไม่สนใจจะดูหน้าด้วย “เอาเพิ่มไหมคะ”เจ้เจ้าของร้านบริการแขกคนนั้นเสร็จ ก็เดินมาหาผม “เอามาเรื่อย ๆ เลยครับ”ผมสั่งแล้วยิ้ม “เพิ่งมาอยู่เหรอคะ ไม่เคยเห็นหน้าเลย”เจ้เริ่มเปิดบทสนทนาหลังจากวางขวดใหม่ที่โต๊ะ “อ่อเพิ่งเคยเห็นร้านนี้มั้งครับ”ผมตอบไป “ร้านนี้ มันหลบมุม คนไม่รู้จักไม่ค่อยมาหรอก เจ้เปิดเล่นๆ กับทอม”เจ้แกคุยเก่ง แล้วกันไปยิ้มกับ สามีฝรั่งที่นั่งที่เค้าเตอร์ ผมดื่มสักพัก ก็ลุกไปเข้าห้องน้ำมันเป็นจังหวะ ต้องเดินผ่าน แขกอีกโต๊ะ “นายหัว”แขก อีกโต๊ะ ดูตกใจ ผมมองหน้า “ทศ‼”ผมก็ตกใจไม่แพ้กัน “เออแผลเป็นไงบ้างล่ะ”ผมไม่รู้จะถามอะไร “ดะ ดีขึ้นแล้วครับ”ทศตอบแค่นั้นมันก็เป็นบทสนทนาแค่นั้นจริง ๆ เพราะผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรต่อ ผมเข้าห้องน้ำแล้วกลับมานั่งกินเบียร์ต่อ สถานการณ์ไม่สนุกแล้ว ผมไม่รู้ว่า ทศจะคิดยังไง แต่แน่ๆ แค้นแน่นอน เพราะไอ้ไข่เป็นคนของผม ผมคิดจะจ่ายเงินกลับแต่แล้วอะไรสิงหัวใจผมก็ไม่รู้ ผมยกแก้วเหล้าเดินไปที่ โต๊ะของทศ “ขอนั่งด้วยสิ”ผมพูดแค่นั้นดูเจ้าของโต๊ะ ก็ตกใจปนกับความงง แต่ก็ยอมให้ผมนั่ง เรานั่งกินเหล้าไปเงียบ ๆทำตัวไม่ถูก “เป็นไงบ้าง อยู่ซีวิวดีไหม”ผมเปิดคำถาม “เอ่อ ก็ดีครับนายหัว” “ผมขอโทษแทนไอ้ไข่มันด้วยนะ”ผมเข้าตรงประเด็น “ครับ ผมรู้เรื่องหมดแล้ว ก็เห็นใจไข่เขาแต่…เอ่อ…”ทศพูดไว้แค่นั้น “ผมเข้าใจ”ผมพูดแค่นั้น พร้อมหยิบเงินจากกระเป๋าเงินที่มีอยู่ สามหมื่นวางบนโต๊ะ “ถือเป็นคำขอโทษนะ”ผมบอก ดูทศจะลังเล ก่อนจะเก็บเงินไป “ผมอยากให้มากกว่านี้นะแต่เงินสดมีแค่นี้ ว่าง ๆ ก็โทรหาแล้วกันผมจะได้ดูแลค่ารักษาพยาบาลด้วย” ผมยิ้ม ดูว่าทศผ่อนคลายลงบ้าง “ขอบคุณครับนายหัว” ทศยกมือไหว้ “เอ้า ดื่ม ๆ นาน ๆได้มานั่งคุยกันทีนะ ผมจำได้ว่าล่าสุดที่เรา ได้ชนแก้วกันก็งานปีใหม่เมื่อหลายปีที่แล้วเนอะ”ผมยกแก้วขึ้นชน ทศ ชนแก้วแบบเกรง ๆ ผมดื่มไป คุยไปเรื่องทั่วไปเน้นเรื่องเก่า ๆ ตอนพ่อยังอยู่ “จริง ๆนายเป็นคนเก่งนะ”ผมชมหลังจากคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการตลาดที่ทศเก่งกว่าหลายคนแต่ด้วยภายหลัง ทศร้องขอ มาทำงานด้านเลขาเพราะต้องการความก้าวหน้า พ่อก็ไม่ขัดและให้พี่นุ สอนงาน “เก่ง แต่ก็ไม่ได้ดีอยู่ดีแหละนายหัว”ทศเริ่มหน้าแดงเพราะฤทธิ์เบียร์ความลับอะไรในใจ ก็เริ่มจะถูกเบียร์ชะล้างออกมาเรื่อย ๆ “นายก็ได้เป็นเลขาใหญ่ของซีวิวแล้วนี่”ผมเริ่มกระตุ้น “มันจริง นายหัว มันจริงแต่มันไม่ใช่ซีวิว เหมือนแต่ก่อนนี้”ทศโพล่งออกมา ผมพอจะรู้ว่าหมายถึงอะไร “ตั้งแต่นายหัว เสียไปที่ซีวิวอะไรก็แย่ไปหมด”ผมไม่รู้ทศพูดกับผมแบบนี้ได้ยังไง มันเป็นการเอาเรื่องของซีวิวมาบอกศัตรู อย่างผม “มันไม่ขนาดนั้นมั้ง ทศ”ผมไม่รู้จะพูดอะไร “ขนาดนั้นสิ นายหัว นายหัวตรีเอาแต่ คิดจะแก้แค้น แถมมีไอ้รามมาเป่าหูอีก งานโรงแรมก็ไม่ค่อยดูไอ้รามก็ผลาญเงินสนุกเลย”ทศเริ่มเล่าไปเรื่อย “แล้วคนอื่น ๆเป็นยังไงบ้างล่ะ”ผมห่วงลูกน้องเก่า ๆ ที่โรงแรม “ก็อยู่ไปงั้นครับ ใครมีงานใหม่ได้ ก็ลาออกหมด ไอ้ที่ไปไหนไม่ได้ ก็ทนอยู่ สวัสดิการอะไรพิเศษก็ตัดจะหมดอยู่แล้ว” ทศเริ่มระบาย ก็จริง ปกติ ตอนพ่ออยู่พ่อจะดูแลพนักงานอย่างดี มีทั้งเงินกู้ วันดีคืนดี ก็ซื้อของดี ๆมาให้ห้องอาหารทำเลี้ยง พนักงาน ของขวัญวันเกิด หรือโอกาสพิเศษต่าง ๆ ตลอด จนผมก็ติดนิสัยอย่างนี้มาจากพ่อ “อ้าว แล้วเขาตัดเหรอ”ผมถาม “ไม่ได้ตัด แต่ไม่สนใจมันเลยไม่มี”ทศ เริ่มหน้าแดง ไม่รู้เพราะฤทธิ์เหล้า หรือฤทธิ์โกรธ ผมเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่อยเน้นไปที่เรื่องเก่า ๆ เพื่อให้ความระอุของบทสนทนาลดลง “ตอนแรกผมคิดว่า นายหัวไป ไอ้นุไปผมจะได้ดี ตอนนี้ผมไม่รู้ว่าผมคิดถูกหรือคิดผิด”ทศโพล่งออกมา “ฉันรู้ว่านายอยากเป็นที่หนึ่งแต่จริง ๆ แล้ว ถ้านายไปทำการตลาด ตอนนี้นายเป็นที่หนึ่งของ แกรนด์ทรีซีซั่นแล้ว”ผมบอกไป มันเป็นเรื่องจริง “นายผูกกับการวิ่งตาม พี่นุมากไปจริง ๆ แล้ว ทางวิ่งอีกทางมันเป็นทางของนาย” “นั่นไงครับ ผมเลยบอกว่า ผมคิดผิดมันเกินกว่าจะย้อนไปทางไหนได้แล้ว”ทศบอกน้ำตาคลอ ผมมอง ไม่ได้เสียใจไปกับทศ แต่กลับมีปีศาจเข้าสิงสู่ในหัวใจผม “มันย้อนเวลาไม่ได้แต่มันสร้างใหม่ได้ นายสนใจไหม”ผมถาม ก่อนยกแก้วขึ้นกระดกหมดแก้ว “สร้างใหม่” ทศทวนคำ “ใช่ แต่คงต้อง ให้นายช่วย”ผมบอก “นายหัวคิดจะทำอะไร”ทศเริ่มสงสัย “ตรง ๆ เลยนะทศ ฉันก็เป็นห่วงซีวิว ถ้าตรีมันยิ่งทำยิ่งแย่ ถ้าต้องใช้วิธีไหน ที่จะทำให้ซีวิวกลับมาดีได้ฉันจะทำ”ผมบอก “แล้วนายหัวจะทำยังไง” “ฉันจะเอาซีวิวคืน‼ ”คำตอบผมเล่นเอา ทศหน้าเหมือนสร่างเมา แล้วมองหน้าผม “นายหัวจะทำจริงเหรอครับ”ทศไม่แน่ใจคำพูดผม “จริง และที่สำคัญ ฉันจะตอบแทนไอ้ราม อย่างสาสม”ผมกัดฟัน ทศไม่ได้ว่าอะไร ความเงียบเข้ามา พักใหญ่ “ให้ผมช่วยอะไร”ทศถามขึ้น ผมมองหน้า “ช่วย ส่งข่าวข้างในซีวิวให้ฉันรู้ และบอก พวกคนเก่า ๆ ที่รู้สึกไม่ดีกับซีวิว ว่า ฉันจะกลับไปเอาคืน”ผมบอกพร้อมยกแก้วขึ้นเพื่อรอคำตอบ “แค่นั้นเหรอ”ทศถาม “ใช่แค่นั้น ถ้าทำสำเร็จนายจะได้เป็นหัวหน้าการตลาดของ grand three season group ว่าไงล่ะถ้าย้อนไม่ได้ ก็สร้างใหม่” ผมยกแก้วรอ ทศดูคิดอยู่นิดหนึ่ง แล้วก็ยกแก้วชน กับผมเป็นอันตกลง เราคุยกันเรื่องแผนคร่าว ๆต่ออีกพัก ก่อนผมจะแยกกับทศ ……………………… ผมกลับถึงบ้านนอน หลับคงเพราะกินเบียร์เข้าไปเยอะ ทั้งบ้านเงียบหมด แม่ไอ้ไข่ ไปเฝ้ามันที่โรงพยาบาลพี่นุไปดูแลพาร์คให้ผมช่วงนี้ ซึ่งทุกคนในพาร์คก็รู้สถานการณ์และช่วยกันขับเคลื่อนงานเป็นอย่างดี เช้าวันต่อมาหลังจากที่ผมไปดูอาการของไข่ที่มีแต่ทรงตัว และยังไม่ได้สติ ผมเลยเข้าโรงแรม ขับรถไป ใจก็คิดเรื่อง เมื่อวานไปเมื่อรถติดรอข้ามทางรถไฟ ผมเห็นรถเข็นขายไอศกรีมกะทิเจ้าดั้งเดิม มาจอดที่ข้างรถผมผมมองเพลินๆ ยังคิดว่าเจ้านี้ขายนานแล้วนะ ผมมองไปเรื่อย ดูลุงคนขายยังเป็นคนเดิม แต่แก่ลงไปมาก แต่ก่อนแกยังไม่แก่ขนาดนี้ แกปั่นรถไปขายถึงในซีวิว ผมจะซื้อกินบ่อย ๆ ใครอยู่ตอนผมกินก็จะเรียกมากิน และผมก็เลี้ยงพวกพนักงานเสมอ ความคิด หยุดลงความคิดอื่นแล่นเข้ามา พร้อม ๆ กับรถไฟไป แผงกั้นยกขึ้นพอดี ผม เปิดกระจก เรียกให้ลุงจอดรถไอศกรีมข้างทาง แล้วลงไปเจรจา …………………….. “เอ้า กิน ๆ ผมได้ใต้ดินมาโขอยู่”ทศ ตะโกนอยู่ข้างรถไอศกรีม ที่จอดอยู่ทีลานจอดรถด้านหลังของพนักงาน ลุงตักไอศกรีมใส่ถ้วยโคน และขนมปัง อย่างไม่วางมือ พนักงาน มารุมล้อม รถเพื่อสั่ง คนที่ได้แล้วก็มานั่งกินอยู่กับกระถางต้นไม้แถว ๆ นั้น เป็นกลุ่ม ๆ “ไม่น่าเชื่อเนอะว่าตาลุงแกยังขายอยู่” หัวหน้าช่างไฟของโรงแรม พูดกับนุ “ใช่พี่ ผมเห็นพอดีเลยเหมาแกมาเลี้ยงพวกเราไง” ทศพูดยิ้ม ๆ “แหม ทุกทีแกขี้เหนียวจะตาย”ป้าแม่บ้าน ตึกเก่าแซวทศ “ก็ถูกหวยนี่จะกินหรือไม่กินป้า”ทศย้อน “กินซิ แค่แปลกใจไม่ได้กินเจ้านี้นานเลย แต่ก่อนถ้ามาเจอคุณไตร ได้กินฟรีทุกครั้งเลย”ป้าแกพูดต่อ “ใช่ ผมก็ได้กินฟรีบ่อย ๆตอนนั้น”พี่หัวหน้าช่างเริ่ม เปิดประเด็นความหลัง กลุ่มคนเก่าแก่ ของโรงแรมเริ่มจับกลุ่มคุยเรื่องอดีตกัน “คิดถึง คุณไตรนะ ถ้าคุณไตรอยู่ทุกอย่างก็คงดีกว่านี้”คนหนึ่งในกลุ่ม พูดออกมา เล่นเอาทุกคนเงียบไปหมด “คุณไตร ก็คิดถึงทุกคน”ทศพูดเล่นเอาทุกคนงง กันหมด “นายทศ ทำไมพูดอย่างนั้นนายหัวได้ยิน จะเป็นเรื่องอีกนะ”หัวหน้าช่างท่าทางตกใจ “ก็อย่าให้รู้สิ ก็รู้แค่พวกเราพวกเราที่คิดถึงซีวิว เมื่อก่อน”ทศพูด ไม่มีเสียงตอบจากทุกคนในกลุ่มแต่มีสายตาตอบมา แบบที่ทศมั่นใจว่า ตำแหน่งหัวหน้าการตลาด ต้องเป็นของเขาแน่นอน วันนั้น ไอศกรีมหมด ทศไม่ได้เสียเงินสักบาทแถมได้เงินอีก หลายพัน หลังไอศกรีมมื้อนั้นกลุ่มไลน์ลับ oldzeeview ก็เกิดขึ้น เรื่องมันดำเนินไปเร็วมากจนตอนนี้ ทศ สามารถรายงาน ทุกอย่างในซีวิว ให้กับนายหัวไตร ได้อย่างละเอียด รวมถึงรายงานว่า ไอ้ราม อยู่ตรงไหน ผม เก็บข้อมูลเรื่องซีวิวอยู่เกือบอาทิตย์ ด้วยหลายแรงสืบ ทำให้รู้ทุกอย่างว่า พวก คนเข้ามาใหม่ ๆ ก็โกงทั้งบัญชี และวัตถุดิบ ส่วนพวกเก่า ๆ ก็ทำไปแบบ ขอไปที เพราะ ทุกคนก็ไม่โอเคกับสภาพแบบนี้ สวนนายรามกับพวก ก็หมกตัวอยู่ในซีวิวเพราะกลัวฝั่งเรา จะเอาคืน “น้องไตร”เสียงพี่นุมาจากด้านหลัง ตอนที่ผมนั่งอ่านไลน์อยู่ที่สระว่ายน้ำ ในบ้าน “อ้าวพี่นุ”ผมยิ้มให้เรื่องร้าย ๆ กำลังวุ่นวาย แต่พี่นุ ก็ยังเป็นสิ่งดี ๆ ในชีวิตผม ที่ทำให้ผมมีกำลังใจสู้ต่อ “ไอ้ไข่เป็นยังไงบ้าง”ผมถาม ผมไม่ค่อยได้ไปเยี่ยม เพราะ หลังจากวันนั้น ผมพยามเข้าไปทำงาน โดยให้พี่นุดูแลเรื่องภายนอก “อาการทรงตัวแต่ไม่มีหวังจะดีขึ้นเลย”พี่นุ พูดเสียงเบา ผมรับฟังเท่านั้น “ไตร”พี่นุเสียงเครียดขึ้น “ไตรกำลังจะทำอะไร”เรื่องที่ผมคุยกับทศ ผมไม่บอกใคร แม้กระทั่งพี่นุ “พี่รู้แล้วใช่ไหม”ผมถามนิ่งๆ “ใช่ คนในซีวิวบอกพี่ ไตรเอาจริงเหรอ”พี่นุนั่งข้าง ๆ ผม หันมามองหน้าผม “ครับ ถ้ามันไม่จบสักวัน ก็คงเป็นผม เป็นพี่ ที่จะเป็นเหมือนไอ้ไข่”ผมพูดไป พี่นุสบตาผมแล้วหมดคำถาม มีเพียงเสียงถอนหายใจ เบา ๆ จากพี่นุ แล้วลุกยืนขึ้น “เอ้าไตร”พี่นุยื่นกระเป๋าเอกสารใบหนึ่งให้ผม ผมเปิดดู มันมีเอกสาร กับ ปืน 11มม. กระบอกหนึ่ง ผมมองหน้าพี่นุ “ ถ้าไตรจะทำ มันก็ต้องใช้สักวันแล้วเอกสาร พี่เก็บไว้นานแล้ว เป็นเรื่องรายละเอียด ของซีวิว ที่รู้แค่ นายหัวกับพี่ ตอนพี่ออกมา พี่เลยเอามาด้วย”พี่นุพูดหน้านิ่ง ผมเปิดดูเอกสาร เป็นรายละเอียด ตั้งแต่เริ่มสร้างทุนที่ จดทะเบียน ทั้งตรงตามแจ้งภาษี และไม่ตรง แผนที่ และที่สำคัญโฉนดที่แปลงหลังซีวิว ที่ได้ข่าวว่า ขอซื้อยังไงเจ้าของก็ไม่ขายแต่มันเป็นชื่อของพี่นุ “พี่เป็นเจ้าของที่แปลงนั้น” ผมงงเพราะเคยเห็นพ่อพูดถึง “ใช่เพิ่งเป็น ตอนนายหัวเสีย เพราะมีคนยกให้พี่”พี่นุบอก “ใครพี่”ผมถาม “ไม่ต้องรู้หรอก เอาเป็นว่าถ้าจะเข้าซีวิว ทางด้านหลัง ก็เข้าทางนี้ได้นี่กุญแจประตูรั้ว”พี่นุยื่นกุญแจให้ผมดอกหนึ่ง “ถ้าไตรคิดจะทำ ไตรทำให้เสร็จแล้วค่อย ว่ากัน”พี่นุพูดเท่านั้น ก่อนเดินหันหลังไป ………………………………….. ผมไขกุญแจรั้วเก่า ๆแล้วขับรถเข้าไป ข้างใน ที่แปลงนี้เป็นที่รกร้างมีไม้ใหญ่ขึ้นเต็มแต่ยังมีทางลูกรัง พอขับได้ ไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ ขับมาจนสุดทางเป็นทุ่งหญ้าสูงประมาณเอว สุดทุ่งหญ้าเป็นลำรางเล็ก ๆ รถ 4x4ข้ามไปได้สบาย ๆ จนไปถึงลานกว้าง ของซีวิว แต่เดิม พ่อตั้งใจจะใช้ทำเป็นลานกางเตนท์กิจกรรมแต่ก็ไม่ได้ทำ เพราะ ขัดกับฟิวโรงแรม และไกลจากทะเลมาก ตรงนี้เลยไม่มีใครสนใจมากนัก ผมสำรวจทางได้แล้ว เป็นอันว่าผมสามารถเข้าไปที่ซีวิว ได้อย่างไม่ยากเย็น เหลือแค่ เวลา ไปลากคอไอ้รามมาเท่านั้นเอง ………………………………….. (มันอยู่ ในบ้านพักคนงานที่สร้างใหม่ครับ ตรงที่ไอ้ไข่ถูกยิง)หัวหน้าคนงาน ส่งข้อความมาบอกผม (มันอยู่แน่นะ)ผมถามย้ำ (ครับ มันไม่กล้าออกไปไหนเหมือนมันบอกว่า มีคนหมายหัวมันอยู่) (ดี ขอบคุณมาก) “ไปจริงเหรอไตร”พี่นุถามผมตอนที่ผมไปหาไอ้ไข่ที่โรงพยาบาล “ครับ จริงผมจะลากคอมันมาให้ไอ้ไข่” “ระวังตัวแล้วกันพี่ให้พวกไอ้นิดไปด้วยนะ” “พี่รอไตรนะ” พี่นุบอก ก่อนจับมือผมแน่น ผมยิ้มให้ ก่อนหันหลังไปกับนิดเราเดินทางไปแล้วมีพวกนิดไปสมทบ รออยู่ ที่ ที่แปลงนั้น ยี่สิบคน อาวุธปืนพร้อมกับรถกระบะ 4x4 อีก 3 คัน ผมได้รับตำแหน่งแน่นอนของไอ้รามแล้วขับข้ามลำรางแล้วลัดเลาะไปตามทาง ตอนนั้นเป็นเวลา สี่ทุ่ม กว่า ๆ ฟ้ามืดสนิทคนที่รู้ผมจะมา หลายคน กลับบ้านไปแล้ว ใครที่พักที่โรงแรม ก็ปิดห้องเงียบโซนห้องพักพนักงานเงียบสนิท จนแทบไม่มีใครอยู่ ยามก็ไม่มีประจำจุด เพราะหัวหน้ายามสั่งการให้ย้ายจุดเจ้าของโรงแรม ก็ไม่ต้องพูดถึง หายตัวไปตั้งแต่บ่ายโมง รถจอดหน้าที่พักคนงานของพวกไอ้ราม ลูกน้องหลายคนนั่งก่อกองไฟกินเหล้ากันอยู่รถของผมคันหนึ่งปิดด้านท้าย อีกคันปิดด้ายหัว รถผมตรงเข้าไปที่วงเหล้า พอจอดลงไปพร้อมลูกน้องของนิด ปืนในมือพวกเราทุกคนพร้อมลั่นไกดูพวกมันตกใจโวยวายไม่เป็นภาษาไทย พี่นิดคุมตัว พวกที่นั่งกินเหล้านอนคลุกอยู่กลางพื้นได้ไม่ยาก ผมพาคนเข้าไปค้นหาไอ้รามที่ละห้องพร้อมลากพวกคนงานออกมารวมกันไว้ กลางลาน แต่ละห้องดูไม่ทันจะขัดขืนก็โดนจับมาไว้ตรงกลางทั้งหมด ผมเดินออกมากลางลาน มองดูคนที่น่าจะรู้เรื่องที่สุดเลือกมาคนหนึ่ง “ไอ้รามอยู่ไหน” ผมกระชากคอเอาปืนจ่อขมับมัน ดูมันตกใจ หน้าซีด แต่ก็ไม่บอก “หาทุกห้องแล้วไม่เจอครับนายหัว”ลูกน้องนิด รายงาน “เอาล่ะไอ้เหี้ยรามอยู่ไหน”ผมคำราม ยังไม่ได้คำตอบ ผมก็ฟาดด้ามปืนไปที่หัวมันจนมันล้มไปตามแรง “ไม่มีใครบอกใช่ไหม”ผมคำราม ต่อ “กระทืบมัน”ผมสั่งเท่านั้นพวกลูกน้องของนิด ก็กระทืบไอ้พวกที่อยู่ในกลุ่ม ไม่ยั้ง พวกนั้นไม่กล้าสู้เพราะมีพวกเรากลุ่มหนึ่งถือปืนคุมเชิงไว้ “ไอ้ห่า ไม่มีใครกล้าบอกก็ฆ่าแม่งทิ้งให้หมด”ผมเหลืออด พวกที่ถือปืน พร้อมจ่อ ที่ไอ้พวกนั้นคนหนึ่งแล้วลั่นไก เข้าท้องไอ้คนหนึ่ง มันกระเด็นไปตามแรงกระสุน พร้อมเสียงกรีดของผู้หญิงที่น่าจะเป็นเมียมัน “ถ้าไม่มีตัวไหนบอกก็ฆ่าแม่งให้หมดนี่เลย”ผมสั่ง ทุกคนพร้อมรับคำสั่ง ทุกคนยังก้มหน้าเงียบ “ปัง ๆ ๆ”กระสุนลั่น 3 นัดมีคนล้มนอนกลางวง 3 คน ตามด้วยเสียงกรีดบางคน ลุกขึ้นเหมือนจะสู้ ก็โดนกระสุนส่งไปนอนกลางวงอีก คน “พะ พอแล้ว พอ นายรามอยู่บ้านเชิงเขา”ผู้หญิงคนหนึ่ง ยกมือไหว้พวกเรา ทั้งน้ำตา “เออ อีห่า แค่นี้ก็ไม่พูด”ผมหัวเสีย เดินไปที่รถ กับนิด พร้อมลูกน้อง ขับรถเข้าไปที่ บ้านเชิงเขาเราจอดแล้วลงไป ลูกน้องนิด รู้งานเข้าไปล้อมทุกทางออกไว้ก่อน ผมกับนิดเข้าไปพร้อมอาวุธครบ บ้านดูเงียบ เหมือนไม่มีคนอยู่ผมเข้าไปอย่างระมัดระวังพร้อมนิด และลูกน้องอีกกลุ่ม บ้านนี้สร้างใหม่เป็นเหมือนบ้านพักรับรอง ข้างล่างเป็นห้องโถง มีอุปกรณ์บันเทิงครบทุกอย่างบ้านยังเงียบ ผมค่อย ๆ เดินเข้าไป ลูกน้องนิด เริ่มขึ้นไปค้นชั้น 2 ทีละห้อง ๆจนถึงห้องสุดท้าย ผมมายืนอยู่หน้าห้องสุดท้าย ลูกน้องนิดเปิดประตูออกนิดนำเข้าไป ในห้องเป็นห้องนอน เตียงใหญ่ กลางห้อง ไม่มีใครอยู่ ลูกน้องค่อย ๆเข้าไปค้น ที่ห้องน้ำ ก็ยังไม่เจอ จนคิดว่า อีคนข้างล่างคงโกหก เรากำลังจะออกจากห้องแล้ว กลับได้ยินเสียง ที่ฝ้าเพดาน ปืนในมือทุกกระบอกจ่อไปที่เพดาน “มึงลงมาดี ๆ หรือ จะให้กูเอาศพมึงลงมา”ผมตะโกน “ปัง!” เสียงปืนดังลงมาจากข้างบนพวกเรา หาที่กำบัง มองแล้วลูกน้องนิดโดนยิงที่ไหล่ เราระดมยิงขึ้นไปที่ เพดาน จนเสียงปืนของพวกเราเงียบลงเพดานเป็นรูพรุน แต่ก็ยังไม่มีวี่แวว ที่ไอ้ตัวที่อยู่ข้างบนจะลงมา “มึงเอาอะไรก็ได้มารื้อเพดานออกเดี๋ยวนี้”ผมสั่งลูกน้องนิด หาอุปกรณ์มาทุบ รื้อฝ้าเพดานอย่างระมัดระวังเพราะกลัวว่ามันจะยิงสวนมาอีก “โครมมม”เพดานถล่มลงมาพร้อม ไอ้ราม ไอ้ตัวที่เราตามหาอยู่ หล่นลงมานอนอยู่กลางห้อง มือมันถือ ปืนลูกโม่อยู่แน่น ต้นขาซ้ายมันเลือดไหลอาบ คงเพราะถูกคมกระสุนของพวกเราสักคน “กูเจอมึง ซะทีนะไอ้สัตว์นรก”ผมจิกผมมันหน้าหงายหลังจาก ที่นิดเอาปืนออกมาจากมือมันพร้อมประเคนตีนให้มันชุดหนึ่ง “ปืนไม่มีลูก สงสัยเมื่อกี้นัดสุดท้ายของชีวิตมึง”นิดบอกตอนเชคปืนของไอ้ราม “ปล่อยกู ปล่อยกู”ไอ้รามร้อง พร้อมยกมือไหว้ ไปปัดป้องมือตีน ลูกน้องนิดที่กำลังกระทืบมันตามที่ผมสั่ง “เอามันไปที่รถ”ผมสั่งพวกลูกน้องนิด เอาไอ้รามมัดมือแล้วลากไปที่นอกบ้าน พวกเราขึ้นรถโดยผมสั่งให้เอาไอ้ลามล่ามเชือกไว้กับท้ายรถ เราจะลากมันไปตามทางจนกว่าจะถึง พาร์ค รถกำลังจะเคลื่อนตัวออกก็มีกลุ่มรถอีกสองสามคันมาจอดขวาง พร้อมคนกลุ่มหนึ่งลงมาพร้อมอาวุธพวกเราเตรียมอาวุธพร้อมปะทะ พอไฟรถฉายไปที่กลุ่มคนนั้น “ไอ้ตรี” ผมอุทานไอ้ตรี มาพร้อมกับ ทศ และ ลูกน้องที่เป็น รปภ ของโรงแรม มีอาวุธครบมือ “มึงทำเกินไปแล้วเอาตัวไอ้รามคืนกูมา”ตรีตะโกนลั่น “นายอยู่ในรถเถอะ”นิดห้ามผม แต่ผมไม่ฟัง เปิดประตูรถ ลงไปแต่มือก็ถือปืน “มันทำ คนของกูกูต้องให้มันชดใช้”ผมตะโกนบอก เวลานี้เป็นเวลาเผชิญหน้าผมไม่รู้ว่า มันจะเกิดอะไรขึ้น ทุกคนมีอาวุธที่สามารถฆ่าฝ่ายตรงข้ามได้ในทันทีแต่ฝ่ายตรงข้าม มันคือ พี่น้อง “มันแส่หาที่มันก็สมควรโดน”ไอ้ตรียังพูดต่อ “กูจะเอามันไปใครขวางกูก็ไม่ยอม”ผมตะโกน “มึงไม่ยอมกูก็ไม่ยอม อย่างมากก็แค่ตายห่ากันหมดนี่แหละ”ตรียกปืนขึ้นจ่อที่ผม ลูกน้องทั้งสองฝ่ายตั้งปืนเล็งที่ฝ่ายตรงข้ามพร้อมยิง “มันไม่สำคัญสำหรับมึงหรอกแค่ไอ้ทนายสูบเลือดมึง”ผมยังคิดว่า อาจจะคุยด้วยเหตุผลสุดท้ายได้ “ไอ้ขี้ข้านั่นก็ไม่สำคัญสำหรับมึงเหมือนกัน”ตรีพูดถึงไข่ “มันสำคัญ‼‼” ผมตะคอกสวนพร้อมยกปืนขึ้นจ่อไปที่ไอ้ตรี “ใช่มันสำคัญสำหรับมึง ขี้ข้า อย่างมันสำคัญสำหรับมึง มากกว่ากูที่เป็นน้องแท้ ๆ”ตรีพูดเสียงดัง แต่ยังมีชั่วขณะหนึ่งที่ มีเสียงเครือ ๆ ในน้ำเสียง “กูไม่อยากให้ใครเจ็บ ตายมากไปกว่านี้ มึงหลบไปซะ”ผมเสนอครั้งสุดท้าย “เจ็บตาย ก็ตายไปเลยกูไม่สน อย่างมาก มึงกับกูก็ตายด้วยกัน”ตรี ขึ้นไก ปืนเล็งมาที่ผม “กริ๊ก‼”เสียงไกปืนแต่ไม่ใช่ของตรี แต่เป็นปืนของทศ กำลังจ่อที่หัวตรี “ไอ้ทศ มึงทำอะไร”ตรีดูตกใจเมื่อรู้ตัวว่า มีปืนจ่ออยู่ที่หัว “มันจบแล้ว นายหัวผมเลือกข้างแล้ว พร้อมกับพวกเรา”ทศบอก พร้อม ๆ กับ รปภโรงแรม ทุกคนวางปืนลงกับพื้น “ไอ้ทศ ไอ้เหี้ยมึงไอ้ทรยศ”ตรีด่า ขณะที่ รปภ กำลังจับตรีมัด “เอาไงกับนายหัวตรีดีครับ”นิดถาม “เอามันกลับไปที่ห้องพักมันขังไว้ พรุ่งนี้ค่อยสั่งแม่บ้านมาเปิดให้มัน”ผมสั่ง “ส่วนทศนายไปพักร้อนสักพัก เรื่องจบแล้ว ฉันจะตามกลับมา”ผมบอก ซึ่งทศ และกลุ่มยามนั้นเอาตัวตรีกลับไป ผมมองจนขบวนรถหายลับตาไป ค่อยขึ้นรถ ขับออกทางหน้าโรงแรม ลูกน้องไอ้รามโดนจับลากด้วยเชือกไปกับไอ้ราม วิ่งบ้าง ล้มโดนรถลากไปบ้าง ทั้ง ชาย หญิงก่อนจะลากพวกมันไปที่กลางป่า แล้วตัดเชือกล่าม ไว้ให้ลูกน้องพี่กิตจัดการพวกมันต่อ ส่วนไอ้รามโดนลากมาเป็นสิบกิโล จนมันสลบไปให้รถลากร่างมันมาถึง พาร์คก่อนจะจับมันไปที่ห้องหลังโรงแรม “มึงจะทำอะไรกูมึงปล่อยกูไป ปล่อยกูเถอะ อยากรู้เรื่องไอ้ตรีเรื่องไหน กูบอกได้หมด”ไอ้รามร้องขอชีวิตหน้าผม ตอนที่มันกำลังโดนจับแก้ผ้ามัดขึงอยู่ “กูรู้ทุกอย่างที่ต้องการรู้แล้วตอนนี้ มึงไม่มีประโยชน์อะไรกับกู นอกจาก นรก ที่สาสมกับสิ่งที่มึงทำไว้”ผมคำรามแล้วเดินไปที่โต๊ะ หยิบสิ่งของที่เตรียมเอาไว้ สิ่งแรก ท่องเหล็ก มันวาวมีปุ่มเป็นหนามเล็ก ๆ กระจายอยู่ทั่ว “มะมึงจะทำอะไรปล่อยกู ปล่อยกู อ๊ากกกกกก”ไอ้รามร้องลั่นตอนท่อนอันนั้นเข้าไปในรูก้นมันหนามมันขูดในรูจนเลือดไหลออกมาจากรู “อ๊ากกกกกกก อ๊ากกก”ไอ้รามดิ้นเร่าร้องลั่นอีกครั้งที่โดนท่อนเหล็กอันเล็กสวนรูฉี่ ไปจนตึง “ปล่อยเถอะ อ๊ากกปล่อยยยย ฮืออออ”ไอ้รามน้ำตา น้ำมูก น้ำลายไหล ร้องไห้ตัวดิ้นเร่า ๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะโดนขึงอยู่ มันยังไม่จบ ผมเอาที่ต่อไฟต่อกับเหล็กสองข้างที่ยื่นออกมาจากรู “มึงจะทำอะไร อย่า ๆๆๆๆ อ๊ากกก โอ้วววว”มันร้องลั่น หลังผม กดสวิตไฟ ให้ไฟฟ้าช็อตอยู่ในรูสองรูของไอ้รามมันร้องโหยหวน เหมือนสัตว์ ผมกดสักพักก็หยุดให้มันพัก เพื่อให้สติมันยังอยู่ พร้อมรับกับความเจ็บปวด อย่างแสนสาหัส มันยังไม่จบแค่นี้แน่แค่ตายมันสบายไป………………..(จบ) …………………….. …………………….. ……………………. ซีวิวปิดรับลูกค้าจองห้อง คงเหลือแต่ลูกค้าที่จองไว้ล่วงหน้า พนักงาน หลายคนหายหน้าไปโรงแรมเงียบเหงาจนน่ากลัว “ตรี ๆเปิดประตูหน่อย”พี่ดล ยืนเคาะประตูหน้าห้องตรี ตรีไม่ออกจากห้องมาหลายวันแล้วตั้งแต่เกิดเรื่องที่ท้ายโรงแรม “ไขเลย”พี่ดลสั่งแม่บ้าน ซึ่งแม่บ้านก็ทำให้โดยดี ตรีนอนนิ่งอยู่บนเตียงร่างกายไม่มีแผลอะไร แต่จิตใจ มันคงบอบช้ำ จากการโดนทรยศ และความพ่ายแพ้ พี่ชายที่แพ้ครั้งแล้วครั้งเล่า และคราวนี้ มันเป็นการแพ้ที่หนักที่สุด พี่นุยืนมองตรีนอนอยู่อย่างไม่พูดอะไร ก่อนนั่งลงข้างเตียง ลูบหัวเบา ๆ เพียงเท่านั้นน้ำตาตรี ก็ไหลออกมา อย่างหยุดไม่ได้………………. ………………………………. “นายหัว ไอ้ไข่ฟื้นแล้ว”นิดวิ่งมาบอกผม ผมลุกวิ่งตามไปที่รถ เพื่อนไปที่โรงพยาบาล มันเป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้น กับเรา ไอ้ไข่ ที่หมอบอกว่าต้องทำใจ กลับฟื้นได้สติ เวลานี้ พี่นุอยู่ที่ไหนพี่นุหายไปบ่อยขึ้น จนวันนี้ ผมยังไม่เจอพี่นุตั้งแต่เช้า แต่ก็ไม่ใช่เวลาตามหาคนเพราะผมกำลังรีบไปที่โรงพยาบาล ………. ………………………… ………………………….. ……………………….. # C8 C' Q% z8 W2 T
|