แฝดคนละฝั่ง20ธนาดล “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ”นุชานั่งลงตรงหน้าธนาดล “ใช่ครับ คุณนุชาสบายดีนะ” ดลยิ้มก่อนวางแก้วกาแฟ “ครับ คุณดลมาธุระที่นี่เหรอครับพอดีผมมาอยู่ที่พาร์ค แล้ว เลยไม่ได้ต้อนรับที่ซีวิว”นุดูนอบน้อมกับดล “ก็มาธุระแหละครับ ธุระสำคัญ”สายตาดลมีความนัยแฝงแม้นุชาสังเกตเห็น แต่ก็ไม่อาจรู้ได้ว่า มันหมายถึงอะไร ………………………… “จริงเหรอครับ”นุชา พูดโทรศัพท์แทบเก็บอาการไม่อยู่ “ครับ รบกวนขอเงินสดนะครับจ่ายกันที่ ที่ดินเลย”เสียงปลายสายบอกก่อนนัดวันเวลา นุชาใจเต้นแรง มันคงเป็นคำสั่งสุดท้ายของนายหัว ก่อนเสีย ที่นุชายังทำไม่ได้ นายหัวอยากได้ที่หลังโรงแรมแปลงหนึ่งแต่ติดที่เจ้าของที่ยังไงก็ไม่ขาย จะใช้อิทธิพลจากกลุ่มนายหัวก็ไม่ได้เพราะเจ้าของที่เป็นคนเก่าแก่ และเป็นคนที่เคารพในพื้นที่ นุชาพยามตามตื้อขอซื้อแม้จะด้วยเงินที่มากกว่า ราคาประเมินเกือบสิบเท่าก็ตาม ก็ไม่สำเร็จสักที “เออนายหัวครับ”นุเดินเข้ามาหานายหัวในห้อง “ว่าไงนุ”นายหัวกำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่ไม่ซีเรียสมากนัก “เออ เรื่องที่หลังโรงแรม นายหัวเอาแปลงอื่น ที่อยู่ข้าง ๆ ดีไหมครับ”นุเสนอหลังจากได้รับคำปฏิเสธครั้งที่เท่าไหร่ไม่รู้ นายหัววางเอกสารในมือ “นุ นุรู้ไหมว่าทำไมฉันอยากได้ที่แปลงนั้น” นุนิ่ง เพราะไม่รู้จะตอบอะไรใจคิดแค่ว่า นายหัวอยากขยายโรงแรม ออกไปอีก “ที่ตรงนั้นมันเป็นเนินเขาสวยฉันอยากสร้างบ้าน ที่จะได้อยู่ด้วยกันทั้งหมด ฉัน ไตร ตรี นายไข่”นายหัวมีรอยยิ้มและแววตาที่พาฝัน “นุคิดดูสิ ตื่นมาเปิดหน้าต่างออกมา เราจะเป็นซีวิวทั้งหมดเห็นสิ่งที่เราสร้างกันมาตั้งแต่ที่รกร้าง จนเป็นโรงแรมเล็ก ๆ และมันโตขึ้นจนทุกวันนี้”นายหัวเดินไปมองออกไปนอกหน้าต่างห้องทำงาน “ครับ ผมจะพยายามทำให้ได้”นุรับคำเพราะนุรู้ว่าที่แปลงนั้น นายอยากได้แค่ไหน แต่จนแล้วจนเล่าเจ้าของที่แปลงนั้นก็ไม่ยอมขายเสียที ทั้ง ๆที่ก็ไม่ได้ใช้ที่แปลงนั้นทำประโยชน์อะไร ……………………………………………………………………………………….. “นายหัวครับผมได้ที่แปลงนั้นมาแล้วนะครับ”นุยืนอยู่หน้ารูปของนายหัวที่วัด “มีนายหน้า จากกรุงเทพ มาซื้อที่นั้นได้แล้วยอมขายต่อให้ผม ในราคา ที่ไม่น่าเชื่อครับ”นุยังคุยกับนายหัว เจ้านายและคนที่เป็นเหมือนพ่อ ของนุ พร้อมโชว์โฉนดที่ดิน ที่นายหัวอยากได้ ให้นายหัวดู “ผมจะทำตามที่นายหัวต้องการนะครับแต่ตอนนี้มันวุ่นวายเหลือเกิน ถ้าอะไร ดีขึ้นแล้ว ผมจะดำเนินการตามที่นายหัวต้องการนะครับ”นุกราบลา นายหัวอีกครั้ง ก่อนจะกลับไป เพื่อเตรียมการ เรื่องเปิดพินัยกรม ……………………………………………………………………………… “คุณธนาดลจะอยู่สักกี่วันครับตั้งแต่คราวนั้น ผมยังไม่ได้เลี้ยงขอบคุณคุณเลย”นุเปลี่ยนเรื่อง “ก็จนกว่าธุระจะเสร็จแหละครับ”ธนาดลพูด “มีอะไรให้ผมช่วยบอกนะครับผมยินดีมากถ้าได้ช่วยคุณ”นุชาบอก “มีแน่ครับ มีแน่นอน”ธนาดลยิ้มละมัย ความเงียบเข้าผ่านคู่สนทนาอยู่ชั่วขณะ “คุณนุอันที่จริงผมก็มีเรื่องจะรบกวนคุณนะ”ธราดล คิดอยู่นาน ก่อนเอ่ยปากพูดเสียงราบเรียบราวกับทะเลก่อนเกิดพายุ “ยินดีเลยครับ”นุยิ้มเพราะคิดอยากตอบแทน ดล เรื่องที่แปลงนั้นอยู่แล้ว “คุณดลต้องการอะไรล่ะครับ”นุถาม “ช่วยให้คนกลับมาทำงานที่ ซีวิวได้ไหม”ดลพูดออกมา ทำให้นุถึงกับหน้าถอดสี “ซีวิวคุณดลเกี่ยวอะไรกับ ซีวิว”นุเสียงเปลี่ยน “ผมมาช่วยงานนายหัวตรี ทำให้ซีวิว กลับมาเป็นโรงแรม อันดับต้น ๆ อีกครั้ง”ดลพูดทำนุหน้าเครียดเห็นได้ชัด “คุณดลคุณก็คงรู้สถานการณ์ ของผม นายหัวไตร กับซีวิว”นุพยามเก็บอาการให้เสียงนิ่งที่สุด “ผมรู้และรู้มากกว่าทุกคนด้วย”ดลนิ่ง นิ่งจนน่ากลัว “รู้แล้วมาขอผมอย่างนี้เหรอครับ”นุเริ่มเก็บอาการไม่อยู่ จริงอยู่ที่นุยังรักซีวิว เพราะมันเป็นที่ ที่นายหัวสร้างมากับมือ และนุอยู่ในเหตุการณ์นั้น “ผมทราบ คุณนุผมทราบแต่ผมว่า มันเป็นทางออกที่ดีที่สุด ของทุกคน”ดลพูด “ไม่ใช่ทุกคนครับไม่ใช่”นุเริ่มเสียงดัง “ถ้าคุณดลอยากให้ผมช่วยอะไรอย่างอื่นผมยินดี แต่เรื่องนี้ ผมคงช่วยไม่ได้ครับ “นุ ลุกจากที่นั่ง มีไม่กี่ครั้งที่นุ จะฟิวขาดอย่างนี้แต่ครั้งนี้ เกินไปสำหรับ เขาจริง ๆ ถ้าให้นุ ต้องทรยศไตร นุตายเสียดีกว่า “ผมคงเจรจาคราวนี้ไม่สำเร็จแล้ว”ดลลุกจากเก้าอี้ช้า ๆ มือล้วงไปในกระเป๋า นุมองระวัง กลัวเรื่องร้ายจะเกิดขึ้นเพราะรู้แล้วว่า คนตรงหน้า เป็นฝ่ายตรงข้าม “คุณอาจเข้าใจอะไรมากขึ้น”ดลหยิบซองเอกสารเก่า ๆ ปิดผนึกมาอย่างแน่นหนา ส่งให้นุ “ผมจะยังอยู่ที่นี่จนกว่าธุระจะเสร็จ ถ้าอย่างไร ติดต่อผม เบอร์นี้นะครับ” ดล ส่งนามบัตรให้พร้อมรอยยิ้มที่คนรับไม่อยากจะรับเท่าไหร่ ก่อนที่ดลจะเดินจากไป …………………………………………………………………………………… “เป็นอะไรครับพี่นุเห็นเด็กหน้าห้องบอกว่า อารมณ์ไม่ดี”ไตรเดินเข้ามาหาพี่นุในห้องทำงานพี่นุ “อ่อ เปล่าครับ”พี่นุ รีบเปลี่ยนสีหน้า “มีอะไรหรือเปล่ามาหาผมถึงห้องทำงาน”นุถามตรีมือก็เก็บซองเก่า ๆ ไว้ใต้กองเอกสาร “ซื้อขนมมาฝากครับผมไปเยี่ยมไอ้ไข่มา”ไตรบอก แล้ววางซาลาเปาทอด เจ้าอร่อยที่ซื้อจากหน้าโรงพยาบาล “ขอบคุณนะครับ แล้วไข่เป็นไงบ้าง”นุถามใจพยามเก็บอารมณ์ให้ปกติ “มันพยามคุยได้บ้างแล้วครับแต่ไม่กี่คำก็เหนื่อย”ไตรบอก “พี่นุ หมอบอกว่า ภายในตัวไอ้ไข่มันช้ำมาก เกินจะรักษามันทำได้แค่ ประคองอาการแก้ปัญหาไปรายวัน”ไตรเสียงเครียดนี่คงเป็นเรื่องที่ไตรอยากมาคุยกับนุ “ก็มันดีขึ้น”นุสงสัย “นั้นแหละพี่มันดีขึ้นเพราะอะไร หมอก็ไม่รู้ แต่ร่างกายยังไงมันก็ต้องเป็นไปอย่างที่มันเป็น”ไตรพูดไป น้ำตาเริ่มคลอ “เรานับถอยหลังพี่นับถอยหลัง‼” ไตรปล่อยโอนุเข้าไปสวมกอด ให้หน้าของไตร ซบลงที่ไหล เพื่อซับน้ำตาแต่ตัวเองก็ไม่สามารถห้ามน้ำตาได้เหมือนกัน “ถ้าอย่างนั้นเราต้องเข้มแข็งนะ ทำให้ไอ้ไข่มีความสุขที่สุด อยู่ได้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้”พี่นุกอดไตรไม่ปล่อยแต่ตัวก็ต้องตั้งหลักได้ เพื่อเดินต่อไป สองคนร้องไห้กันเหมือนกับว่าจะใช้น้ำตาชะล้าง ทุกอย่างให้ทุเลเบาบางลง “พี่ต้องไปธุระนอกเมืองสักสองสามวันนะ ไตร อยู่ได้ใช่ไหม”พี่นุถาม ไตรพนักหน้า เป็นอันว่าวันนั้นไตรกลับบ้านไปก่อน นุยังขอตัวทำงานที่โรงแรมต่อไป ดึกเท่าไหร่ไม่รู้นุยังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงาน โทรจัดการทุกอย่างจนเรียบร้อย พร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะต้องไปนอกเมือง นุนั่งเอนหลังกับเก้าอี้ทำงาน หลับตาพักสายตา เพียงแว็บหนึ่งในความคิดหน้าของธนาดล ก็ลอยมา ความสับสน คับแค้น มันพรั่งพรูมาในความรู้สึกอีกครั้ง นุ หยิบซองเอกสารเก่า ซองนั้นค่อย ๆเปิดออกอย่างระมัดระวัง เพราะ ดูสภาพมันเก่ามาก กระดาษเหลือง ร่องรอยหมึกจางจนแทบอ่านไม่ออก แต่ก็เห็นลาง ๆ ว่า“นุชา” นุค่อย ๆดึงกระดาษออกมาจากซอง ทีละใบ ๆ วางบนโต๊ะทำงาน มันเป็นเอกสารเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทบริษัทหนึ่ง ที่นุไม่รู้จัก จนกระดาษใบสุดท้าย เป็นจดหมายเขียนด้วยลายมือ ลายมือที่คุ้นตาแต่ไม่ได้เห็นมานาน “ลายมือนายหัว” นุค่อย ๆ อ่านไปทีละบรรทัด เหมือนเด็กกลัวจะอ่านตกไป เพราะนุไม่อยากอ่านตกไปแม้แต่ตัวอักษรเดียวจนจบ …………………………… “คุณดล” นุเสียงสั่นรอคำพูดจากปลายทาง “คุณนุ ผมนึกแล้วว่าคุณต้องโทรมา”เสียงดล ผ่านสัญญาณมาถึงหูนุ “เราคงต้องคุยกัน”นุบอก “ยินดีครับ ยินดีคุณสะดวก ตอนไหน ก็บอกแล้วกันนะครับ ผมรอได้” “ครับ ผมจัดการเรื่องบางเรื่องเสร็จ ผมจะติดต่อไป”นุบอกก่อนวางสาย มันเกิดอะไรขึ้นมันคืออะไรกันแน่ ในหัวของนุชา มืดมน สับสน มึงงงไปหมด……………..(จบ) …………………………………… …………………………………… …………………………………… ……………………………………. ……………………………………. ……………………………………. ถึงนุชา ถ้านายได้อ่านจดหมายฉบับนี้แสดงว่า อะไรหลาย ๆ อย่างเปลี่ยนไป และเป็นไปในทางที่น่าเป็นห่วงมันก็คงเป็นอย่างที่ฉันเป็นห่วง มีอะไรอีกหลายเรื่องที่นายยังไม่รู้ รวมถึงเรื่องนี้ด้วย นุคนที่ถือจดหมายฉบับนี้มา คือ น้อง ที่ฉันรัก เรารู้จักกันที่กรุงเทพ ตอนที่ฉันยังหนุ่มไปหาชีวิตใหม่ ที่ไม่ใช่ชาวสวนปาล์ม ความลำบากมันทำให้ฉันเจอคนที่ฉันไว้ใจได้คนหนึ่ง เราสู้ชีวิตจากเด็กวัด ทำงานรับจ้าง จนเก็บทุนเปิดร้านอาหารเล็ก ๆ ได้ ดล เป็นคนเก่ง ขยันและฉลาด เราทำร้านอาหารนั้นด้วยกัน จนดลเรียนจบ แล้วมาทำร้านอาหารแห่งนี้ เต็มตัวร้านดีขึ้นเรื่อย ๆ จนฉันมีเงิน เก็บพอ พอที่จะกลับบ้าน นุ ฉันเพิ่งรู้ตัวว่าฉันคงอยู่ได้อีกไม่นาน สิ่งเดียวที่ฉันห่วง คือ ตรี และไตร ฉันคงต้องพึงนายนะเพราะฉันไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว นายรักไตรได้ แต่ฉันขอแค่อย่าเกลียดตรี นายช่วยไตรได้แต่อย่าทำลายอีกฝ่าย นายเป็นคนเดียว ที่ฉันมั่นใจ ว่านายจะรู้ว่าต้องทำอะไรและนายจะทำสิ่งที่ถูกต้อง สำหรับทุกคน ฉันฝากด้วยนะ รักลูกชายอีกคนของฉัน พ่อ……. 2 |1 F3 w1 j" `5 c2 f1 j
|