เนื่องจากมีคนรีเควสเลย spin off เรื่องนี้มาก่อนครับ 55 นิทานพันดาวในโลกคู่ขนาน ที่เธียรไม่ได้เป็นโรคหัวใจ แล้วเขาจะไปเจอหัวหน้าภูที่ผาพันคาวได้ยังไง มาติดตามกันครับ อ่านแล้วเป็นอย่างไร รบกวนติชมได้ตามสะดวก ปล ภาพประกอบทั้งหมดไม่เกี่ยวกับเนื้อหาแต่อย่างใด
ณ คาสิโนลับแห่งหนึ่งซึ่งซ่อนตัวอยู่ภายในโรงแรมหรูกลางกรุง บรรยากาศของที่นั่นกำลังตึงเครียดอย่างหนัก เพราะบนโต๊ะวีไอพีกำลังมีการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่เกิดขึ้น เหล่านักพนันต่างพากันมามุงดูความสนุกสนานครั้งนี้
“มึงคิดดีแล้วเหรอวะไอ้เธียร ยี่สิบล้านนี่ค่าขนมมึงทั้งปีเลยนะ” ชายหนุ่มคนหนึ่งยืนกระซิบกับเพื่อนของเขาซึ่งนั่งอยู่ที่ปลายข้างหนึ่งของโต๊ะพนัน เงินสดกองใหญ่กับไพ่ห้าใบคว่ำอยู่เบื้องหน้าของ “เธียร” ชายหนุ่มหน้าตาดีในชุดเรียบหรู ที่กำลังนั่งวางมาดราวกับเป็นเซียนพนันคนหนึ่ง “มึงป๊อดเหรอตุล กูเล่นเพื่อความสะใจโว้ย เงินมันแค่ของนอกกายป่าววะ” นักพนันหนุ่มตอบเพื่อนของเขา นั่นทำให้คนที่นั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะพนันตบมือให้ “สมแล้วที่เป็นคุณชายเทียน ทายาทตระกูลดัง นานแล้วที่ไม่ได้พบคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อขนาดนี้”
“ไม่ต้องพูดมาก นายน้อยคิน ผมไม่สนว่าคุณจะคิดอะไร ผมแค่อยากรู้ว่าคุณจะกล้าตามไหม” เธียรตัดบท ทำให้นายน้อยคินยิ้มค้าง แววตาเขาเปลี่ยนเป็นเหี้ยมเกรียมขึ้นมาแว่บนึงก่อนจะกลับมายิ้มอีกครั้ง
“ผมกล้าแน่นอน แต่อย่างที่คุณบอก เราสองคนล้วนมาเล่นพนันเพื่อความสะใจ ดังนั้นเงินยี่สิบล้านหรือสองร้อยล้านสำหรับพวกเรา มันก็เป็นแค่ตัวเลขจริงไหม แล้วเดิมพันแค่นี้มันจะไปสนุกอะไรกัน” นายน้อยคินหยุดพูด หันไปกระดิกนิ้วให้ ไอ้เล้ง คนสนิท ที่ยืนอยู่ข้างๆเทเงินสดยี่สิบล้านลงไปบนโต๊ะพนัน จากนั้นก็หยิบแฟ้มเอกสารในนั้นออกมายื่นให้เธียร
“ผมขอเกทับด้วยสัญญาอันนี้ ผู้แพ้จะต้องทำตามคำสั่งของผู้ชนะหนึ่งอย่าง” นายน้อยคินจ้องมองเธียรด้วยสายตาท้าทาย “กล้า ไหม ครับ คุณ ชาย เธียร”
ฝูงชนนักพนันที่มุงดูอยู่ต่างก็ฮือฮากับข้อเสนอของนายน้อย แต่พอคุณชายเธียรหยิบเอกสารนั้นมาอ่านลวกๆ เซ็นชื่อด้วยปากการาคาแพงแล้วโยนลงบนโต๊ะพนัน ทุกคนก็พากันส่งเสียงเชียร์คุณชายเธียรกันอย่างออกนอกหน้า
นายตุลเห็นแบบนั้นก็ตกใจ พยายามเตือนสติเพื่อนรัก “มึงไม่กลัวนายน้อยคินเอามึงไปเป็นทาสเหรอวะ”
“แบบนั้นมันนอกเหนือข้อตกลงแล้ว ในสัญญาเขียนว่า ต้องเป็นเรื่องที่มีผลชั่วคราวไม่เกินหนึ่งเดือน ไม่ผิดกฎหมายไม่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพของอีกฝ่าย อย่างมากมันก็สั่งให้กูไปทำงานเป็นกรรมกรเดือนนึง ไอ้คินมันก็กลัวแพ้เหมือนกันถึงมีเงื่อนไขเยอะแยะขนาดนั้น” เธียรกระซิบตอบ
“เป็นอันว่าตกลงตามนี้” นายน้อยคินประกาศ “ถ้า ไม่มีใครเพิ่มเดิมพันแล้ว มาเปิดไพ่กันเลยดีกว่า เชิญคุณชายเธียรก่อนเลยครับ” “โรยัล สเตรทฟลัช โพแดง” เธียรเปิดไพ่โชว์พร้อมกับยิ้มราวผู้ชนะ
“ว้าว มิน่าล่ะ ถึงกล้าสู้ขนาดนี้ ในเกมโป๊กเกอร์ ไม่มีมือไหนแต้มสูงกว่านี้อีกแล้ว เว้นแต่...” คินเปิดไพ่ของเขาบ้าง ทีละใบๆ สิบโพดำ แจ็คโพดำ แหม่มโพดำ คิงโพดำ และ เอซ โพดำ
เธียรถึงกับเหงื่อตกเมื่อเห็นหน้าไพ่เหล่านั้น
“เสียใจด้วยนะครับ คุณชายเธียร โรยัล สเตรทฟลัช โพดำ ของผมใหญ่กว่าของคุณ ฮะๆๆ” นายน้อยคิน หัวเราะอย่างสะใจ ลูกน้องของเขาก็กวาดเงินเดิมพันทั้งหมดบนโต๊ะไป
“เออ กูแพ้แล้ว คิน บอกคำสั่งของมึงมาเลย” เธียรคิดว่าจะต้องให้คินบอกคำสั่งต่อหน้าทุกคน จะได้มีสักขีพยานว่าคำสั่งนั้นไม่ผิดเงื่อนไขในสัญญา
“ไอ้เธียร กูหมั่นไส้มึงมานานแล้ว คุณชายเหี้ยอะไรกัน พ่อมึงก็ทำเรื่องสกปรกไม่น้อยกว่าพ่อกู วันนี้กูจะให้มึงไปลองตกระกำลำบากดูบ้าง คำสั่งของกูคือ มึงจะต้องไปเป็นครูอาสาที่ผาพันคาวหมู่บ้านโคตรกันดารสุดเขตชายแดน ไปแต่ตัวห้ามเอาสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรไปทั้งนั้น หวังว่ามึงจะลูกผู้ชายพอที่จะไม่ตระบัดสัตย์”
เธียรถอนหายใจอย่างโล่งอก แค่ไปเป็นครูบนดอย มันจะแค่ไหนกัน เขาลุกขึ้นยืนอย่างท้าทาย “ตกลง กูไม่กลัวหรอก จะให้กูไปที่ไหนเมื่อไหร่ก็บอกมาได้เลย”
“ดี พรุ่งนี้ สิบโมง คนของกูจะไปรับที่บ้าน แล้วกูจะพามึงนั่งเครื่องบินส่วนตัวไปส่งถึงที่”
คืนนั้นข่าวเรื่องผลการเดิมพันระหว่างคุณชายเธียรกับนายน้อยคินก็ถูกร่ำลือไปทั่ววงการใต้ดินของเมืองหลวง
ตอนสายของวันถัดมา ....
เธียรเดินเข้าไปในห้องโดยสารบนเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของนายน้อยตระกูลมาเฟีย เขาไม่ได้เอาสัมภาระอะไรมาตามที่ตกลงกันไว้
คินนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ในมือถือแก้วไวน์จิบอย่างสบายอารมณ์ พอนายน้อยเห็นเธียร ก็ชี้ให้เขานั่งลงที่เก้าอี้ตรงข้าม ชายหนุ่มก็นั่งลงอย่างไม่อิดออด พนักงานต้อนรับสาวเดินเข้ามาถามว่าจะดื่มอะไร เธียรส่ายหน้าปฎิเสธ แต่นายน้อยเคาะที่แก้วไวน์ของเขา เธอจึงเทไวน์ให้กับเธียรแก้วหนึ่ง
“ต้อนรับกันด้วยของดีขนาดนี้ ?” คุณชายเอ่ยชมหลังจากได้ลิ้มรสนุ่มของไวน์เก่าเก็บราคาขวดละเฉียดแสน
“วันนี้ กูอารมณ์ดีไง” นายน้อยตอบ “แค่คิดว่าจะได้เห็นความลำบากของมึงกูก็แทบจะรอไม่ไหวแล้ว”
“มึงนี่มันโรคจิตชัดๆ กูจำไม่ได้ว่าเคยไปทำอะไรให้มึงแค้นนักหนานะ”
เครื่องบินค่อยๆทะยานขึ้นฟ้าไปอย่างนิ่มนวล ตรงกันข้ามกับน้ำเสียงแข็งกร้าวของคิน “กูเกลียดความเย่อหยิ่งของมึง พ่อมึงเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงแล้วยังไงวะ เบื้องหลังร่วมมือกับพ่อกูทำเรื่องผิดกฎหมายทุกอย่าง ทำไมมึงได้เป็นถึงคุณชายในแวดวงไฮโซ แต่กูเป็นแค่นายน้อยของโลกเบื้องหลัง”
“มึงอิจฉากู ว่างั้น” “กวนตีนไปเถอะ กูจะอยากรู้นักว่าเดือนหน้าสภาพของมึงจะเป็นยังไง....เทียบกับวันนี้” “ก็แค่ครูอาสาบนดอยรึเปล่าวะ มันจะลำบากลำบนได้สักแค่ไหน ถ้าคนอื่นเขาอยู่กันได้กูก็อยู่ได้”
“ปากดีนะมึง คอยดูเถอะ ใกล้จะได้เวลาแล้ว”
เธียรคิดว่าคินหมายถึงใกล้จุดหมาย เพราะเครื่องบินกำลังลงจอด แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกมึนทั้งที่กินไวน์เข้าไปแก้วเดียว แถมร่างกายก็ร้อนไปหมด ที่สำคัญ ตอนนี้เป้ากางเกงของเขาตุงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับน้ำเงี่ยนที่ไหลเยิ้มจนซึมออกมาเป็นดวง
“ไอ้คิน มึง...อ๊า อย่า” เธียรพยายามจะห้าม แต่นายน้อยกำลังยื่นตีนมาเขี่ยปลายควยของเขาเล่น ทั้งๆที่ยังมีผ้ากั้นแต่มันกลับเสียวยิ่งกว่าปกติ
“ใช่ กูใส่ผงเคด่วยลงไปในไวน์ให้มึงกินว่ะ ของใหม่ล่าสุดเลยนะ ชอบไหมล่ะ”
“ไม่..อ๊ะ..ชอบ อ๊า เชี่ยคิน” ชายหนุ่มสบถเมื่อนายน้อยถอนตีนออกไป เขารู้สึกสับสนว่าควรจะทำยังไงกับควยแข็งๆของตัวเองดี จะควักมันออกมาชักว่าวต่อหน้าไอ้คินก็รู้สึกเสียหน้าเกินไป เลยได้แต่พยายามเด้าควยเสียดสีกับเป้ากางเกงตัวเองเบาๆแทน
“ไงวะ คุณชายเธียร แค่นี้ก็เงี่ยนจนทนไม่ไหวแล้วเหรอ แต่กูไม่ให้มึงแตกบนเครื่องบินของกูหรอกนะ สกปรก ถึงผาพันคาวแล้ว มึงไสหัวลงไปซะ”
เธียรพยายามกัดฟันข่มความเสียวของตัวเอง เขาค่อยๆรวบรวมเรี่ยวแรงปลดเข็มขัดนิรภัยลุกขึ้น เดินซมซานไปที่ประตูเครื่องบิน ขณะที่กำลังจะก้าวออกไป นายน้อยคินก็เรียกเขา
“ช้าก่อน ไอ้เธียร มึงไม่ได้ทำตาม ข้อ ตก ลง”
ชายหนุ่มทำหน้าสงสัย หันมาแบมือให้นายน้อยดู “กูไม่ได้เอาอะไรมา มึงค้นดูได้ ที่ตุงอยู่นี่ก็ควย เมื่อกี้มึงก็ตรวจแล้วไง” เธียรถือโอกาสลูบควยตัวเองหนึ่งที แต่กลับยิ่งรู้สึกเงี่ยกว่าเดิม ตอนนี้เขาเริ่มอยากลงจากเครื่องเร็วๆจะได้หาที่แอบชักว่าวให้เสร็จๆไป
“มึงตกลงกับกูไว้ว่าจะไปตัวเปล่า แต่นี่กูเห็นว่ามึงยังมีเสื้อผ้าอยู่นะ เอาไง มึงจะกลืนน้ำลายตัวเองเหรอ ต่อไปคนในวงการใครจะเชื่อถือมึง”
“ไอ้สัตว์คิน” ชายหนุ่มตะโกนด่า แต่ด้วยความมึนจากยาทำให้เขาคิดว่าไม่มีทางเลือก ได้แต่ค่อยๆ ถอดเสื้อสูทตัวนอก เสื้อเชิ้ต และ กางเกงออก เผยให้เห็นผิวขาวใสและเรือนร่างที่มีซิกแพคนิดๆพองาม ตอนนี้เขาเหลือแต่กางเกงในยี่ห้อแพงตัวเดียวที่แทบจะปิดบังควยแข็งๆเอาไว้ไม่อยู่ มองเห็นหัวเงี่ยงสีชมพูและขนหมอยรำไร
“กูไปได้รึยัง”
“มึงยังไม่เหลือแต่ตัวว่ะ ไอ้เธียร” นายน้อยท้วง
“เหี้ย” ชายหนุ่มถอดกางเกงในออก โยนใส่นายน้อย แต่พนักงานต้อนรับสาวเข้ามาคว้าเอาไว้ทัน ควยของเขาที่ได้รับอิสระดีดผึงออกมาชูชัน ราวกับมังกรผงาด น้ำเงี่ยนไหลเยิ้มออกมาจนชุ่มไปทั้งท่อนลำที่ยาวไม่ต่ำกว่าเจ็ดนิ้วครึ่ง
“พอใจแล้วใช่ไหม” ชายหนุ่มก้าวออกจากประตูเครื่องบิน เขาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติลมหนาวสดชื่นบนยอดดอยที่โชยมาปะทะผิวกายซึ่งไร้ซึ่งสิ่งใดปกปิด ให้ความรู้สึกอิสระเสรีแบบที่เขาไม่เคยพบมาก่อนในชีวิต ชายหนุ่มหลับตาพริ้ม กางแขนขายืดอกสูดอากาศบริสุทธิ์เข้าไปเต็มปอดดูมีความสุขอย่างยิ่ง
“ใจมึงมันได้ว่ะ เธียร หรือจริงๆแล้วมึงชอบแบบนี้วะ 555 ก่อนจากกันกูอยากให้ของขวัญอำลามึงนะ แต่ถ้าให้ฟรีๆเดี๋ยวมึงจะหาว่ากูดูถูกอีก เอางี้แล้วกัน ถ้ามึงยืนชักว่าวจนน้ำแตกตรงนี้ได้ กูจะคืนกางเกงในให้มึงก็แล้วกัน”
เธียรไม่คิดอะไรมาก เขาไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว จะยืนโชว์ควยหรือชักว่าวมันก็คงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ แถมตอนนี้เขาก็เงี่ยนจนแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วด้วย ชายหนุ่มกุมท่อนลำขนาดเต็มกำมือของตัวเอง ค่อยๆบรรจงรูดมันขึ้นลงช้าๆ น้ำเงี่ยนที่เยิ้มจากปลายควยไหลลงมาหล่อลื่นช่วยอำนวยความเสียวให้กับเขา มือข้างที่ว่างก็สลับกันระหว่างการเล่นหัวนมกับพวงไข่ เมื่ออุ่นเครื่องจนได้ที่เขาก็เริ่มเด้งเอวเย็ดมือตัวเองอย่างลืมตัว
“อ๊าาา เสียวเหี้ยๆ ไม่เคยชักว่าวมันส์ขนาดนี้มาก่อน มึงให้กูแดกยาเหี้ยอะไรเนี่ย อูยย”
พอเห็นเธียรเริ่มทนไม่ไหว นายน้อยคินก็ขยิบตาให้แอร์โฮสเตสสาว เธอเลยเข้ามากอดเธียรจากทางด้านหลัง ไซ้ซอกคอ ขบติ่งหูเขาเบาๆแล้วกระซิบว่า “ให้หนูช่วยนะคะ” ก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ควยของชายหนุ่ม พอได้มือนุ่มๆมาช่วยชักรูดให้ ความเสียวก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เธียรหลับตาซู้ดปาก สองมือบี้หัวนมตัวเอง เด้งเอวถี่ขึ้น “ซี๊ดส์ อ๊า อ๊า แตกแล้ว แตกแล้ว” น้ำควยขาวขุ่นของเขาพุ่งออกมาอย่างทะลักทลาย ดีที่แอร์โฮสเตสใช้ผ้าในมือรับไว้ได้เกือบหมดเลยไม่เลอะเทอะเท่าไหร่
เธียรยืนหายใจหอบ หลังจากน้ำแตกแล้วเขาเริ่มรู้สึกว่ามีสติกลับมาเล็กน้อย ควยเขาไม่แข็งจนเกร็งเหมือนตอนแรกแต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนลง หญิงสาวยื่นกางเกงในคืนให้ ซึ่งก็คือผ้าผืนที่เธอใช้รองรับน้ำว่าวของเขานั่นเอง
“ไอ้คิน มึง...” ชายหนุ่มทำได้เพียงสบถคำด่าออกมา แต่ก็ต้องรับกางเกงในมาใส่ ดีกว่าไม่มีอะไรปกปิดเลย
“มึงไปได้แล้ว ไอ้เธียร” นายน้อยคินโบกมือไล่ ประตูเครื่องบินถูกปิดลง ชายหนุ่มนึกไม่ออกว่าจะต้องเจออะไรอีกบ้างในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เขาเดินลงบันไดผู้โดยสารมาที่สนามบิน และพบว่ามีชาวบ้านสิบกว่าคน ถือป้ายกระดาษเขียนข้อความ “ยินดีต้อนรับคุณครูคนใหม่” มายืนรอเขาอยู่ ทุกคนล้วนแต่อ้าปากค้าง เพราะต่างก็เพิ่งจะได้เห็นฉากโชว์ควยชักว่าวจนน้ำแตกของคุณชายเธียรเมื่อสักครู่กันแบบเต็มๆตา
|