แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย wuna เมื่อ 2021-5-31 06:53
ความเดิมตอนที่แล้ว… ปี ดินคณะผู้ถูกกลั่นแกล้งตลอดเวลา มีเป้าบนฟ้าคือเมืองน่านเดือนมหาลัย แต่ความหวังของเขามันช่างริบหรี่เหลือเกิน เพราะแม้แต่หมอกเพื่อนสนิทก็ยังชอบแกงเขา
-------------------------------------------
เช้าวันถัดมา ในห้องเรียนรวม เมืองน่าน ผม แล้วก็ไอ้หมอกมานั่งเรียนเรียงกันแบบ3pเหมือนทุกครั้ง
“ปี้ เมื่อวานเสร็จไหม” ไอ้เดือนแพทย์เริ่มเปิดประเด็นสนทนาประจำวันนี้
“สะ..เสร็จอะไรของมึงวะ” ผมตอบแบบตั้งตัวไม่ทัน
“อ่าว ก็มึงบอกว่าจะรีบกลับไปทำรายงาน” “กะ ก็…เสร็จนะ”
“น้ำเยอะป่าววะ” “นะ น้ำอะไรของมึง” “รายงานอ่ะ อย่าเขียนน้ำเยอะ เจ๊เพ็ญเขาชอบแบบรวบรัด เนื้อหาเน้นๆ” มึงไม่ได้หมายถึงรายงานแน่ๆ ไอ้สัตยา ฝากไว้ก่อน เย็นนี้กูจะเอาคืน
“ปีกับหมอกคุยอะไรกันเหรอ ฟังดูพิลึกพิกล อาจารย์เพ็ญศรีสั่งทำรายงานอะไร เราไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“ของเก่าอ่ะน่าน ปีมันเสร็จช้าเลยยังไม่ส่ง”
“ใช่ๆ เราเสร็จช้านะน่าน ไม่เหมือนไอ้หมอกหรอกเสร็จเร็ว นกกระจอกไม่ทันกินน้ำ”
“555 นี่เราคุยเรื่องรายงานกันอยู่ใช่ไหม”
“สามคนตรงนั้น ถ้าไม่เรียน ก็ออกไปเลยค่ะ รบกวนเพื่อน” เมื่อโดนเจ๊เพ็ญเบรค พวกเราเลยได้แต่นั่งเงียบตั้งใจเรียนจนจบคาบเช้า
วันนี้คาบบ่ายว่าง เมืองน่านจึงชวนพวกเราออกไปกินข้าวดูหนัง ด้วยกันสามคนเช่นเคย ช่วงคาบสายผมเลยโดดวิชาตัวเอง ไปนั่งวางแผนกับไอ้สัตยา ในห้องLabคณะแพทย์ เนื่องจากเป็นคาบจับคู่ดูกล้องจุลทรรศน์ ผมเลยแฝงตัวเข้ามาได้อย่างแนบเนียน
“ไอ้หมอกกูจะสารภาพรักกับเมืองน่าน มึงมันเป็นคนปลิ้นปล้อน ช่วยวางแผนให้กูหน่อย”
“นี่ มึงชมกูใช่ไหมเนี่ย ตอนนี้ยังนึกไม่ออก กูต้องส่องกล้องหาเชื้อโรคก่อน มึงนั่งว่างก็คิดไป เดี๋ยวกูช่วยจัดการให้”
“หนังเรื่องอะไรเหรอที่เราจะไปดู” “ดิว ไปเด้ากันนะ ซื้อตั๋วออนไลน์เรียบร้อย” “หนังแนวไหนอ่ะ ชื่อยังกะหนังโป๊” “ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่น่านอยากดูเรื่องนี้”
“เอางี้ พอเข้าโรงแล้วมึงหาข้ออ้างออกไปทำธุระอะไรก็ได้ พอกูอยู่กับเมืองน่านสองต่อสองกูจะหาจังหวะสารภาพเอง”
“ได้” เมื่อไอ้หมอกตกลงผมก็เลยนั่งเล่นมือถือคนเดียว จะได้ไม่รบกวนมัน ตั้งแต่เมื่อวานที่ผมไม่ใส่แว่นมาเรียน อยู่ดีๆก็เริ่มกลายเป็นคนฮอทฮิตขึ้นมา มีคนแอบถ่ายรูปไปลงเพจcute boy แล้วถามหาว่าเป็นใครกันใหญ่ รูปในห้องเรียนรวมเมื่อเช้าก็ยังมีคนตั้งhashtagว่าเป็น #แก๊งหล่อสามไตรมาศ ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้เป็นเดือนอะไรกับเขา แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้น ว่าตัวเองดีพอที่จะสารภาพรักกับเมืองน่าน
แผนการดูเหมือนจะราบรื่นดี ไอ้หมอกขับรถพาพวกเราไปที่เมเจอร์ใกล้มหาลัย หลังจากกินอาหารญี่ปุ่นเสร็จ เราก็ซื้อน้ำและป๊อบคอร์นเข้าไปนั่งในโรงหนัง รอบบ่ายวันธรรมดาแถมยังเป็นหนังอินดี้ ทำให้มีผู้คนเบาบาง แถวที่พวกเรานั่งรวมทั้งบนล่างก็ไม่มีคนอื่นๆ บรรยากาศเป็นใจมาก ต้องขอบคุณไอ้หมอกที่จัดให้
ระหว่างนั่งดูโฆษณาเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เนียนมากไอ้สัตยา ผมจะหันไปยกนิ้วให้มัน แต่กลายเป็นว่าคนที่ยกมือถือขึ้นมารับกลับเป็นเมืองน่าน
เป้าบนฟ้าของผมมีสีหน้าลำบากใจ ก่อนจะบอกพวกเราว่า “หมอกปี ดูหนังไปเลยนะ ไม่ต้องรอ พอดีที่บ้านมีเรื่องนิดหน่อย เราต้องกลับก่อน ขอโทษนะ” เมืองน่านรีบร้อนจากไป
ผมจะลุกตามแต่โดนไอ้หมอกดึงมือไว้ ให้นั่งลงข้างๆมันแทนที่เมืองน่าน “มึงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ อยู่นี่แหล่ะ” “แต่ว่า…” “อันที่จริงกูก็มีเรื่องจะคุยกับมึงเหมือนกัน” “เรื่องอะไรวะ…” “กูชอบมึง ชอบมานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอก” “มุขนี้มึงเล่นไปแล้วอ่ะหมอก” “กู ไม่ได้ล้อเล่น มึงไม่รู้จริงๆเหรอวะ ว่ากูคิดยังไงกับมึง” “แกล้งอะไรกูอีกเนี่ย อ้อ หรือจะมึงช่วยซ้อมให้กู” “กูไม่ได้แกล้ง ไม่ได้ช่วยซ้อม กูชอบมึงจริงๆ คนอ่านเขารู้ตั้งแต่ EP0 แล้วนะ “
“มึงก็รู้ว่ากูชอบเมืองน่าน” “เออ กูรู้ กูก็ไม่ได้ขอให้มึงเลิกชอบน่านนะ กูเข้าใจว่ามันไม่ใช่ของที่จะเลิกกันง่ายๆ เหมือนที่กูชอบมึง ต่อให้มึงขอให้กูเลิกชอบ กูก็เลิกไม่ได้ กูแค่อยากให้มึงรู้ แล้วก็มองกูในฐานะอื่นบ้าง ที่ไม่ใช่แค่ในฐานะเพื่อน กูเป็นคนขอให้น่านออกไปก่อนเองแหล่ะ เพราะกูอยากให้มึงรู้ว่า กูยังคงสนับสนุนมึงทุกอย่าง ถ้ามึงเดินออกไปตอนนี้มึงก็จะเจอน่านรออยู่ มึงจะไปสารภาพรักกับเขาก็ได้ และไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นยังไง กูก็จะอยู่ข้างๆมึง คอยยินดีเมื่อมึงมีความสุข ร่วมร้องไห้เวลาที่มึงทุกข์ กูขอแค่นี้ มึงยอมใช่ไหม”
“มึงอย่าดราม่าดิหมอก มึงก็อยู่ตรงนี้มาตลอด กูเคยไล่มึงไปไหนเหรอ แต่มึงเป็นคนบอกเองนะให้กูพยายาม กูก็จะขอลองระเบิดตัวเองสักครั้ง ” ไอ้หมอกบีบมือผมเบาๆแล้วปล่อยให้ผมเดินตามเมืองน่านไป
ที่หน้าโรงหนัง เมืองน่าน นางฟ้าของผมยืนเหม่อมองมาด้วยสายตาที่จริงจังกว่าทุกครั้ง “หมอกบอกว่าปีมีเรื่องจะพูดกับเรา”
ผมพยักหน้ารวบรวมความกล้าเข้าไปจับมือเล็กๆนั้น สัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบ และรู้สึกได้ถึงรังสีอำมหิตที่เข้มข้นกว่าปกติจากบรรยากาศรอบๆตัว “เราชอบน่าน ชอบมานานแล้ว แต่ไม่กล้าบอก ปีรู้ว่าตัวเองเคยไม่ได้เรื่อง แล้วตอนนี้ก็ยังดีไม่พอ แต่ปีอยากจะเป็นคนดีที่สุดเพื่อน่านนะ”
เดือนมหาลัยยิ้ม เป็นยิ้มที่แฝงด้วยความเศร้า “เราไม่เคยรังเกียจปีเลยนะ เรารู้ว่าปีเป็นคนดี เรารู้ว่าปีเคยชอบเรา แต่เรามีคนรักแล้วน่ะปี เราไม่อยากให้ปีเสียเวลากับเรา ปีไม่ได้ชอบเราขนาดนั้นหรอก…”
ถึงจะทำใจไว้แต่แรก แต่ความรู้สึกผิดหวัง อกหักมันก็ยังร้าวรานจนเจ็บไปทั้งหัวใจ แม้แต่น้ำตายังไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เราอยากปลอบปีนะ แต่มีคนอื่นที่อยากปลอบปีมากกว่าเรา” ผมหันไปตามสายตาของเมืองน่าน ไอ้หมอกยืนอยู่ตรงนั้น นางฟ้าจากไปแบบเงียบๆในขณะที่เดือนแพทย์เดินเข้ามาแทนที่ มันกอดผมแน่น อนุญาติให้ใช้หัวไหล่แกร่งเป็นที่ซับน้ำตา
“มึงรู้อยู่แล้วว่าผลจะเป็นแบบนี้” “กูรู้” “แต่มึงก็ยังจะให้กูทำ” “กูห้ามแล้วมึงจะเชื่อเหรอ” ผมส่ายหน้า น้ำตานองจนเสื้อไอ้หมอกชุ่ม มันเชยคางผมขึ้นมาจ้องตาแล้วพูดว่า “แต่กูเป็นยารักษามึงให้ได้นะ” ผมรู้สึกว่าตัวเองพังทลายลง ซุกหน้าไปในอ้อมอกของไอ้เดือนแพทย์ พูดด้วยเสียงอูอี้ “อื้อ ไอ้สัตยา รักษากูที”
แล้วผมก็มาอยู่ที่คอนโดของไอ้หมอก หลังจากนั่งร้องไห้มาตลอดทางจนตาบวม ความเศร้าของผมก็เบาบางไปเยอะ ความเสียใจที่มีอยู่ตอนนี้คือ เมื่อกี้กูทำอะไรลงไปวะ บ้ารึเปล่า เสือกกอดกับผู้ชายร้องไห้หน้าโรงหนัง รู้ถึงไหนอายถึงนั่น
“ไอ้หมอก กูไม่เคยอกหักอ่ะ คนอกหักเขาทำอะไรกันวะ” ผมตะโกนถามเจ้าของห้อง ที่มัวทำอะไรก็ไม่รู้อยู่ในครัว
“มาแล้วๆ ยารักษาโรคอกหักมีสามขนาน ขนานแรกต้องนี่เลย เหล้า” มันเดินออกมาพร้อมกับถาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกับแกล้ม
“แล้วอีกสองขนานล่ะ” “ความรักแล้วก็ sex มึงโชคดีมากนะที่กูมีให้ครบทุกขนาน” ไอ้เดือนแพทย์พูดไปชงเหล้าไป พอมันยื่นแก้วให้ ผมก็กระดกเข้าไปทีเดียวหมด “เฮ้ย เบาๆก่อน มึงเคยแดกไหมเนี่ย” “ม่ายเคย ฮะฮะฮะ” “เชี่ย เมาเร็วสัด แกล้งป่าวเนี่ย” “เออ กูแกล้ง ไอ้สัตยา อย่าคิดจะมอมกู ใครมันจะไปเมาง่ายขนาดนั้น ไหน มึงสารภาพมาสิ เรื่องวันนี้มันยังไงกันแน่”
ไอ้หมอกชงเหล้าไปพลางเล่าเรื่องไปด้วย “กูชอบมึงตั้งแต่แรก ตอนนั้นที่ปลอมตัวทักแชตไป นึกว่าจะเอาไว้แอบสืบข่าวแต่มึงเสือกหากูเจอ ก็เลยเนียนว่าอยากเป็นเพื่อน หลังจากที่สนิทกันกูก็คิดว่าเอออยู่แบบนี้ไปก่อนก็ได้ เห็นมึงชอบน่านขนาดนั้นกูก็ไม่กล้าสารภาพรักเหมือนกัน แต่เมื่อวานมึงดันกลายเป็นคนฮอตขึ้นมา กูก็เลยกลัวว่าจะมีคนมาชอบมึง เช้านี้พอมึงเสนอแผนการกูก็เลยซ้อนแผนมึงอีกที” มันยกเหล้าที่ชงเสร็จขึ้นมาจิบ ยื่นอีกแก้วให้ผม
“เมืองน่านสมรู้ร่วมคิดกับมึงมาตลอด?” “อือ น่านมีแฟนแล้ว กูรู้ว่ามึงไม่มีทางสมหวัง กูรอเคลมวันที่มึงอกหักนี่ล่ะ”
“ไอ้สัต..ตะยา” ผมด่ามันเพื่อกลบเกลื่อนรอยยิ้มเขินๆบนใบหน้า
“แล้ว ตกลงมึงมีคำตอบให้กูรึยัง กูสารภาพรักมึงไปแล้วนะ เป็นแฟนกับกูได้ไหม”
ผมยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่มถ่วงเวลา ไอ้เดือนแพทย์มองมาด้วยสายตาคาดหวัง ผมพยายามค้นหาคำตอบจากส่วนลึกในหัวใจของตัวเอง
“มึงชอบกูตรงไหนวะ กูเป็นแค่คนห่วยๆไม่มีอะไรคู่ควรกับมึงเลยนะ” “กูไม่ได้ชอบมึงที่ภายนอก กูชอบมึงที่คุยกับกูได้ทุกเรื่อง ชอบมึงที่เป็นคนดี มึงไม่เคยโกรธเกลียดใครเลย ทั้งที่โดนกลั่นแกล้ง กูอยากจะอยู่ข้างๆมึง คอยแกล้งมึงตลอดไป”
“เกือบดีแล้วเชียวมึง ตัดประโยคสุดท้ายออกไปได้ไหม แล้วกูจะยอมตกลง”
“ได้ ตัดเลย มึงเป็นแฟนกูแล้ว ห้ามทิ้งกูนะ” ไอ้หมอกกอดผมแน่นอย่างดีใจ ผมลังเลนิดนึงก่อนจะกอดมันตอบด้วยแรงเท่าๆกัน เรานั่งอยู่นิ่งๆแบบนั้นครู่หนึ่ง เงียบจนได้ยินเสียงหัวใจ ใกล้จนสัมผัสถึงไออุ่นของอีกฝ่าย
“ผ่านไปสองขนานแล้ว มึงหายรึยัง อยากได้ยาขนานที่สามไหม” ไอ้หมอกกระซิบที่ข้างหูผม “อื้อ กูดีขึ้นแล้ว ยังไม่ต้องใช้ขนานที่สามหรอก” “จริงเหรอ กูว่ามึงต้องใช้นะ” ผมเถียงไม่ออก เพราะระหว่างที่เรากอดกัน ปีแปดนิ้วของผมมันก็เสือกตื่นขึ้นมา แถมยังไปทิ่มโดนศอกของไอ้หมอกเข้าจังๆ
“มึงมอมยากูเหรอ ?” “มอมแต่เหล้า! มึงนี่ นอกจากควยแข็งแล้วยังจะปากแข็งอีกนะ เป็นแฟนกันแล้ว เงี่ยนก็ยอมรับมาตรงๆ”
“เออ กูเงี่ยน มาให้กูเย็ดซะดีๆ” ผมแกล้งจับควยมันบ้าง ซึ่งก็แข็งไม่แพ้กัน “มึงเป็นคนอกหัก กูเป็นคนรักษานะ เดี๋ยวกูฉีดยาให้มึงเอง” “กูเย็ดเก่งนะหมอก มึงเห็นคลิปแล้วไม่ใช่เหรอ” “กูเย็ดเก่งกว่านะปี้ มึงไม่อยากลองบ้างเหรอ” เราสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก รู้สึกได้ถึงความชิปหายเมื่อต่างคนต่างก็อยากเป็นฝ่ายรุกทั้งคู่
“ไอ้ปี้ ที่กูเรียกมึงแบบนี้เพราะอยากจะปี้มึงนะ” “ไอ้หมอก ถ้ามึงรักกูจริงต้องยอมให้กูปี้สิ” “โอย อ้างความรักแบบนี้จะให้กูทำยังไง” “มึงยอมแล้วใช่ไหม” “ยังอ่ะ มาปล้ำกัน ใครแตกก่อนแพ ต้องยอมให้คนชนะเย็ด” ผมกำลังจะอ้าปากถามกติกา แต่โดนเดือนแพทย์ประกบจูบซะก่อน ถึงผมจะเป็นศิษย์แต่ครั้งนี้ผมมั่นใจว่าจูบได้ดีไม่แพ้อาจารย์
เราสองคนแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน จนแอร์ในห้องยังเอาไม่อยู่ ต่างคนต่างเอื้อมมือออกมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของอีกฝ่ายจนเปลือยเปล่า ผมเคยเห็นไอ้หมอกแก้ผ้ามาแล้ว เลยไม่ได้ตื่นเต้นเท่าไหร่ แต่มันน่าจะเพิ่งเคยเห็นปีแปดนิ้วตัวเป็นๆครั้งแรก ผมโดนมันจ้องจนหน้าแดง ต้องยกมือขึ้นมาปิด ถึงจะไม่มิดก็เหอะ “มองอะไร มึงเคยเห็นในคลิปแล้วเหอะ”
“เออ วันนั้นตอนมึงเล่าเรื่องโชว์กูกลัวมากนะ ว่ามึงจะโดนใครเย็ดรึเปล่า ขอบคุณที่ยังเก็บความซิงของตูดไว้ให้กู” ไอ้สัตยาไม่พูดเปล่าเอามือมาคลำไข่แล้วใช้นิ้วเขี่ยรูตูดผมเล่น
“อย่ามาเนียน กูต่างหากที่จะเปิดซิงตูดมึง” ผมผลักไอ้หมอกนอนลงไปบนโซฟา แล้วขึ้นไปนั่งคร่อม ก้มตัวลงไปซุกไซ้ซอกคอและขบที่ติ่งหูของไอ้เดือนแพทย์ มันตอบโต้ด้วยการรูดปีแปดนิ้วขึ้นลงเบาๆ
ผมเองก็ไม่น้อยหน้า มือนึงลูบไล้อยู่ที่หัวนมอีกมือก็ชักรูดลำควยของมันบ้าง ไอ้หมอกซู้ดปากครางด้วยความเสียว มันรู้ดีว่าตัวเองเสียเปรียบเพราะตกเป็นเบี้ยล่างทำให้ถูกจู่โจมทุกทิศทาง มันเลยกัดฟันอุ้มผมขึ้นมาแล้วพาเดินไปที่ห้องนอน
“โซฟาแม่งแคบไปวะ กูต้องเย็ดมึงบนเตียง ถึงจะสมศักดิ์ศรี” มันพูดพลางวางผมลงบนเตียงสปริงขนาดคิงไซส์ นุ่มแต่แฝงแรงดีดสะท้อน
“ยังไม่รู้ผลหรอกน่าว่าใครจะโดนเย็ดกันแน่” ผมไม่ยอมให้มันขึ้นคร่อม เพราะกลัวจะเสียเปรียบ เลยลุกมานั่งที่ขอบเตียงแทน จับไอ้หมอกมานั่งบนตัก แล้วจู่โจมมันจากด้านหลัง
ท่านี้ทำให้ไอ้เดือนแพทย์แทบจะโดนผมบุกอยู่ฝ่ายเดียว ทั้งซอกคอหัวนมและลำควยของมันถูกผมกระตุ้นจนแข็งเกร็งไปหมด รู้เลยว่ามันอาจจะแตกได้ทุกเมื่อ ในขณะที่มือของมันจะทำอะไรผมก็ไม่ถนัด
แต่ด้วยไหวพริบของมัน ไอ้หมอกก็เลยพลิกวิกฤตเป็นโอกาส ด้วยการใช้ร่องตูดและแผ่นหลังถูไถกับลำควยของผมแทน สัมผัสแบบนี้แทบไม่ต่างจากการเย็ดเลย ควยของผมยิ่งโดนเสียดสีก็ยิ่งหลั่งน้ำหล่อลื่นออกมาจนชุ่ม ยิ่งทำให้ไอ้หมอกเคลื่อนไหวง่ายขึ้น ผมพยายามหาจังหวะจะยัดปีแปดนิ้วเข้าไปในรูของมัน แต่ไอ้เดือนแพทย์ไม่เปิดโอกาส ผมเลยได้แต่เร่งมือชักว่าวให้มันแทน
“อ่า…ไอ้ปี้ กูจะแตกแล้ว อ่าา” กูไม่ยั้งมือหรอกน่าไอ้สัตยา มึงเคยหลอกกูไปแล้วรอบนึง คราวนี้ถ้าไม่เห็นน้ำกูไม่ปล่อยควยมึงแน่นอน เมื่อแผนแกล้งแตกไม่สำเร็จ พวกเราเลยได้แต่แข่งกันด้วยความอึดล้วนๆ
ผมได้เปรียบตรงที่มีโอกาสจู่โจมหลายทิศทาง แต่ก็เสียเปรียบเพราะโดนจู่โจมอย่างรุนแรง สุดท้ายเราสองคนก็ทนไม่ไหว น้ำแตกออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
ผมล้มตัวลงไปนอนหอบบนเตียง ส่วนไอ้หมอกก็มานอนแผ่หราอยู่ข้างๆ “ยกที่หนึ่งเสมอกันว่ะ ไอ้ปี้ถ้ามึงต่อยกสองไม่ไหวมึงโดนกูเย็ดแน่” “ไอ้สัตยังจะปากดีเมื่อกี้มึงโดนกูเย็ดแล้วนะ เสียวไหมล่ะ” “ได้เย็ดง่ามตูดกูก็ดีใจแล้วเหรอ เดี๋ยวเจอกูเย็ดตูดจริงๆมึงจะต้องร้องขอชีวิต”
หลังจากนอนปากดีใส่กันได้สักพัก ไอ้หมอกแม่งก็ชิงฟื้นตัวได้ก่อน มันลุกไปเปิดลิ้นชักหัวเตียงหยิบถุงยางกับเจลหล่อลื่นออกมา มองผมแล้วยิ้มอย่างหื่นกระหาย น้องชายอยู่ในสภาพพร้อมรบ “มึงเสร็จกูแน่ไอ้ปี้”แล้วมันก็พุ่งตัวเข้ามาปลุกปล้ำผม
ปกติมันก็แรงเยอะกว่าอยู่แล้ว ผมโดนไอ้เดือนแพทย์จับกดลงบนเตียงอย่างไร้ทางสู้ สองขาโดนมันจับพาดไหล่ สองแขนถูกมันใช้มือล็อกไว้
เมื่อถูกจัดการจนสิ้นท่าผมได้แต่งัดไม้ตายมาใช้ “ไอ้หมอกกูยังไม่พร้อม ติดไว้ก่อนได้ไหม” ผมขอร้องมันด้วยสีหน้าน่าสงสารและน้ำตาคลอเบ้า
ได้ผลแหะ มันปล่อยผมแล้วล้มตัวลงมานอนหนุนแขนตัวเองอยู่ข้างๆแทน “มึงใช้ประโยชน์จากความรักของกูเหรอ” มันตัดพ้อจนผมอดรู้สึกผิดไม่ได้ “กูยังทำใจไม่ได้จริงๆ เดี๋ยวกูชดเชยให้นะ” ผมหมุนตัวลงไป ก้มหน้าเข้าหาน้องชายของไอ้หมอก แลบลิ้นออกไปชิมน้ำเงี่ยนที่ปริ่มอยู่ตรงรูหัวควย ร่างของมันสั่นสะท้าน ร้องครางแทบไม่เป็นภาษา ผมได้ใจ ฉกลิ้นเลียทั่วหัวเงี่ยง ก่อนจะอ้าอมมันเข้าไปจนเต็มปาก
“อ่ะ…อ้า ซี๊ด…ไอ้ปี้ กูเสียว” ผมดูดดุนมันพลางขยับขึ้นลง เสียงครางและกลิ่นควยของไอ้เดือนแพทย์ทำให้ผมเริ่มมีอารมณ์เหมือนกัน ปีแปดนิ้วขยายตัวขึ้นมาจนไอ้หมอกสังเกตเห็น มันเลยพลิกตัวเป็นท่า69แล้วคว้าลำควยของผมบ้าง
“ซี๊ด…” ผมเสียวจนต้องครางในลำคอ เมื่อโดนไอ้สัตยาโลมเลีย การแข่งขันประชันฝีมือการดูดควยของเราจึงเริ่มขึ้น ต่างคนต่างก็งัดเอากลเม็ดที่เคยเห็นและเคยได้ยินมาใช้กับอีกฝ่าย ไม่มีใครยอมใคร
หลังจากทดลองหลายๆอย่าง ผมก็รู้ว่าจุดอ่อนของไอ้หมอกอยู่ที่ปลายควย เพราะมันดิ้นพล่านทุกครั้งที่โดนเลีย ผมเลยรูดลำควยแล้วรัวลิ้นที่ส่วนหัวแบบเน้นๆ แต่ผมเองก็โดนจับได้ว่าจุดอ่อนอยู่ที่พวงไข่เช่นกัน
ไม่นานไอ้หมอกก็เริ่มแสดงอาการว่าใกล้จะเสร็จเต็มทน ด้วยการเด้งเอวใส่ปากผมแบบถี่ๆ จนในที่สุดก็น้ำแตกพุ่งออกมาจนคาวเต็มปากผมไปหมด น้ำของมันรสชาติหวานดี
พอมันแตกก่อนมันคงกลัวว่าจะโดนผมเย็ด ไอ้เดือนแพทย์เลยเร่งดูดควยให้ผมสุดฝีมือ จนผมน้ำแตกตามมันไปแบบติดๆ
“อร่อยไหมน้ำควยกู” ไอ้หมอกตอบด้วยการกลับตัวขึ้นมาจูบปากให้ผมลองชิมเอง น้ำของผมค่อนข้างเค็ม แต่ผสมกับของมันแล้วกลมกล่อมดี
“ของกูอร่อยกว่า 55” ไอ้เดือนแพทย์โม้แล้วเอื้อมมือมากอดผม
“กูไม่บังคับมึงหรอกปี้ มึงพร้อมจะโดนปี้เมื่อไหร่ก็บอกกู แต่จริงๆแค่ได้อยู่กับมึงแบบนี้กูก็มีความสุขแล้ว”
“ถ้ากูอยากปี้มึงบ้าง จะว่ายังไงล่ะ” ผมถาม “กูไม่ชอบ ไม่อยากโดนปี้ แต่ถ้าเป็นความสุขของมึงกูคงยอมอ่ะ” “ตอบดีมีรางวัล” ผมหอมแก้มมันแล้วซุกตัวเข้าไปในอ้อมอกของอีกฝ่าย หลังจากเหนื่อยมาทั้งคืน ไม่นานทั้งผมและไอ้หมอกก็นอนหลับฝันดี
|