ก่อนอื่นผมต้องขอแนะนำตัวเองก่อนว่าผมชื่อบอยอายุ27แล้วครับเป็นรุก สูงร้อย187 หน้าตาคมคายออกไปทางตี๋เนื่องจากเป็นลูกครึ่งจีนอเมริกา การทำงานของบอยก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีไม่ได้ขาดแคลนเงิน ผมเป็นสายทำงานที่บ้านเพราะทำงานเกี่ยวกับระบบการใช้คอมที่บ้านซึ่งมีความสามารถในการทำงานสูงกว่าที่ทำงาน เมื่อการทำงานของผมเริ่มมั่นคงและเริ่มมีเวลาว่างมากขึ้นเลยอยากจะมีแฟนสักคน แต่แฟนมันหาได้ยาก บอยเลยคิดว่าอาจจะต้องใช้สิ่งที่เค้ามี นั่นก็คือเงินในการหาความสุขให้ตนเอง ผมหาเด็กที่ต้องการพี่ใจดีตามโลกออนไลน์ผมเลยได้เห็นเด็กคนหนึ่ง ชื่อเจ น้องบอกว่าอายุเพียงแค่15ปีเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ขึ้นมา เรียนที่กรุงเทพและต้องอาศัยอยู่ห้องหอคนเดียว เมื่อรู้ว่าตนถูกใจก็ไม่รีรอที่จะทักเด็กน้อยคนนี้ไป ผมใช้เวลาคุยกับเจอยู่หลายวันและค่อนข้างถูกใจเลยหาโอกาสพบเจอกันในโลกจริง ผมจัดแจงตัวเองให้อยู่ในชุดสบายๆเสื้อยืดกางเกงยีนส์ ก่อนขับรถไปหาเด็กถึงที่พัก เมื่อเจขึ้นรถมาก็จัดแจงยกมือไหว้ผมก่อนเลยถือว่าเด็กคนนี้มีมารยาทพอสมควร ด้วยความที่เจเป็นเด็กเหนือทำให้มีความขาวและน่ารัก อายุแค่15กับส่วนสูง160กว่าๆก็ถือว่าไม่ได้สูงนักเมื่อเทียบกับผม “สวัสดีครับไม่ต้องเกร็งครับ เดี๋ยวเราไปเดินห้างกันก่อนแล้วกันเนอะ”ผมพยายามทำให้เด็กไม่ตื่นเต้นมากจนเกินไป เลยอาสาพาไปเที่ยวห้าง “ครับ...”เจตอบสั้นๆด้วยท่าทางเขินอาย “เกร็งเชียวเป็นไงเจอพี่แล้ว อยากลงจากรถเลยไหม” ผมพูดออกมาเพื่อถามหยั่งเชิง “ไม่ครับ พี่หล่อมากเลยตอนแรกนึกว่าพี่จะแก่มากกว่านี้” เจเอ่ยเสียงค่อย “หึๆพี่ก็แก่แล้วนะครับอายุก็เกือบเท่าตัวของเราได้เลยอยากหาความสุขกับการเลี้ยงเด็กสักคน “ ผมพูดออกไปดดยไม่ลืมทิ้งท้ายในสิ่งที่ผมต้องการ “พี่ดูเหมือนอายุ20ต้นๆเองอะครับไม่เหมือนคนอายุ27เลย” เจกล่าวจบก็ยิ้มอ่อนๆ “หืมปากหวานนะเราแล้วทำไมถึงหาพี่ใจดีละครับ อยากได้อะไรรึเปล่า”แน่นอนว่าการหาพี่ใจดีย่อมหมายความว่าต้องการเงิน และผมไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้ “ก็...ผมมาเรียนที่กรุงเทพ ค่าใช้จ่ายในการเรียนก็เยอะครับ” ผมที่ได้ยินก็แอบตกใจเพราะเด็กคนนี้ไม่ได้บอกว่าอยากได้ของใช้หรือพวกสิ่งอำนวยความสะดวกแต่บอกว่าอยากได้อุปกรณ์การเรียน “เด็กดีจังนะเรา เอาสิเดี๋ยวพี่พาไปซื้อ” ผมขับรถมาจอดโซนวีไอพีของห้างดัง เพราะมีหุ้นของห้างเครือนี้อยู่บ้างเล็กน้อย เดินเข้ามาในห้างได้ไม่นานผู้จัดการห้างก็ลงมาหา “สวัสดีครับคุณชาญชัย“ “สวัสดีครับคุณอดิเรกวันนี้ผมแค่มาซื้อของไม่รบกวนคุณอดิเรกดีกว่าครับ” ผมตอบเสร็จก็ส่งยิ้มอีกฝ่ายก็เข้าใจก่อนจะหันมามองเจที่อยู่ข้างผม แล้วยิ้มให้เล็กน้อยก่อนจากไป เจมองตาผมไม่กระพริบพลางทำท่าสงสัย “ไม่มีอะไรหรอกปะไปเดินซื้อของกันก่อนแล้วกัน เดี๋ยวอีกซักพักค่อยไปหาอะไรทานกัน” “เอ่อ ผมเกรงใจ”เจทำท่าเกรงอกเกรงใจ “เกรงใจอะไรเป็นเด็กพี่ไม่ใช่หรอ “ ผมเย้าหยอกเจเล็กน้อย “ ก็ครับ...” “งั้นก็ถูกแล้วปะพี่พาไปซื้อโน๊ตบุ๊ก กับพวกของที่ใช้ในการเรียนก่อน” ผมคิดว่าอย่างน้อยๆเด็กคนนี้ก็ควรได้อุปกรณ์ในการศึกษาที่ดีหน่อยเลยลากไปซื้อของ เดินซื้อของอยู่นานความเกร็งของเจก็ค่อยๆลดลงแล้วหันมาสนุกกับการเที่ยวแทน ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัดพึ่งเข้ากรุงเทพอะไรๆก็แปลกตาเด็กคนนี้ไปเสียหมด ผมเดินเข้านู่นออกนี่เป็นว่าเล่นของส่วนมากให้เอาไปส่งที่บ้านได้เลยไม่ต้องแบกไปเอง “บ้านพี่มีครัวไหมครับผมอยากทำอาหารให้ทานเป็นการตอบแทน” เจหันมาถามผม “หืมทำอาหารเป็นด้วยหรอตัวแค่นี้” ผมอดแปลกใจไม่ได้เลยถามออกไป “เป็นครับแม่ผมเปิดร้านอาหารเลยมีโอกาสได้ช่วยเป็นลูกมืออยู่บ่อยๆ” เจตอบจบก็ยิ้มภูมิใจ “งั้นพี่ขออาหารเหนือแล้วกันนะอยากทานอาหารจากมือของเจ้าถิ่น” “ได้ครับที่นี่มีร้านขายของสดใช่ไหมครับ” “มีสิเดี๋ยวพี่พาไป” หลังจากเที่ยวซื้อของที่ต้องการหมดแล้วก็ตกลงที่จะกลับบ้านผมทันทีเจแอบตื่นเต้นเล็กน้อยแต่ก็ไม่เท่าตอนแรกที่เจอกันแล้ว กลับมาถึงบ้านผมเจก็ทำท่าเกร็งๆ ก่อนจะหันซ้ายแลขวาจนผมขำออกมาพลางพาเจมาที่ห้องครัวเพื่อให้เด็กน้อยจัดการทำอาหารที่ตัวเองอยากทำ พอทำออกมาผมก็ต้องเอ่ยชมในรสมือที่ได้ความเป็นเจ้าถิ่นที่อร่อยไม่แพ้ที่เคยทานในร้านอาหารดีๆเลย “สนใจมาอยู่กับพี่ไหมไหนๆก็เป็นเด็กพี่แล้ว”ผมเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เอ่อ...จะดีหรอครับผมว่า” เจดูท่าไม่ค่อยมั่นใจนัก “เราอยู่คนเดียวมันอันตรายมาอยู่กับพี่นั่นแหละหอนั้นก็ปล่อยไว้ เวลาไปเรียนเดี๋ยวพี่ขับรถไปส่ง”ผมหลอกล่อเจสารพัด “ก็ได้ครับแต่ผมต้องกลับไปเอาชุดนักเรียนกับพวกหนังสือก่อน”สุดท้ายเจก็พ่ายแพ้ต่อการหว่านล้อมของผม “โอเคเดี๋ยวพี่พาไปเอาเลยแล้วกัน เผื่อเราเปลี่ยนใจ” ผมไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดมือไปแน่นอน ผมตัดสินใจอะไรอย่างรวดเร็วและลงมือทำเลยในทันที ตกเย็นก็ได้เด็กมาอยู่ด้วยเป็นที่เรียบร้อย “อยากนอนห้องเดียวกับพี่หรืออยากนอนห้องแยก”ผมหันไปถามเจ เจที่ได้ยินคำถามก็อึกอักเพราะไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ก็นะมาเป็นเด็กเค้าเราควรนอนด้วยกันดีหรือควรนอนแยกกันดี “ผมแล้วแต่พี่บอยเลยครับ”เจเอ่ยออกมาหลังจากขบคิดไปนาน “งั้นก็นอนกับพี่แล้วกันถ้าให้พี่เลือก”ผมกล่าวจบก็ยกยิ้ม ค่ำของคืนนั้นอะไรๆก็เป็นที่ขัดเขินในสายตาของผมเพราะเจเดินวกไปวนมาจนผมนึกขำ “เป็นอะไรครับเจ”ผมถามเจที่เดินวนไปมา ส่วนตัวผมเองนั่งดูระบบที่ทำอยู่ “เอ่อ ผม..ผมจะพยายามนะครับ” เจกล่าวลั่น “พยายามอะไร?”ผมถามออกไปทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร “ผมจะพยายามทำให้พี่บอยพอใจครับ”เจกล่าว “อ่อ ไม่ต้องคิดมากใช้ชีวิตแบบปกตินั่นแหละ” ผมเอ่ยตอบไป ผมทำงานจนดึกแต่เจก็ยังไม่มีท่าทางง่วงหรืออยากนอนแต่อย่างใด คงเพราะแปลกที่ทำให้ไม่ชินนั่นทำให้ผมต้องเลิกงานที่ทำอยู่แล้วหันไปสนใจเด็กน้อยที่นั่งอยู่ “ดึกแล้วควรนอนนะเจ”ผมเอ่ย “ครับ..” “หึๆปะเดี๋ยวพี่พาไปนอน” ผมพาเจเข้าห้องนอนมา เจแสดงอาการตื่นๆเล็กน้อยแต่ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเดินมาโอบไหล่แล้วพาเด็กเข้านอนโดยที่ตัวเองหย่อนกายไปนอนอีกข้างที่ว่างของเตียง เจพยายามข่มตานอนแต่ก็ไม่เป็นผลนัก “คิดว่าพี่จะทำอะไรเรารึไงหืม”ผมหยอกเย้าเจเล็กน้อย “ก็...นิดนึงครับไม่ใช่ว่าเด้กเลี้ยงต้องมีเซ็กส์กับคนเลี้ยงหรอครับ” เจถามออกมาอย่างใสซื่อ “คนอื่นพี่ไม่รู้แต่พี่ถ้าเจไม่เต็มใจพี่ก็ไม่ทำหรอก”ผมเอ่ยออกมา “จะดีหรอครับ”เจถามอย่างกล้าๆกลัวๆ “ครับนอนเถอะ” ผมเอ่ย หลังจากนั้นเจก็นอนหลับไปผมเองก็พักผ่อนเช่นกัน เจที่ตอนแรกกอดหมอนข้างก็เปลี่ยนมาซุกผมแทน ซึ่งผมก็ปล่อยให้เด็กทำไป ตื่นเช้ามาก้ไปส่งเจเรียนส่วนผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานของตน ได้เวลาเจเลิกเรียนก็ไปรับ ผมทำอย่างนี้อยู่ประมาณเดือนหนึ่ง “ผมพร้อมแล้วครับ”เจเอ่ยออกมาด้วยท่าทีขัดเขิน “หืม พร้อมอะไรครับ”ผมหันไปถาม “คือพร้อมจะมีอะไรกับพี่บอยครับผมเห็นว่าพี่ดีกับผมมาโดยตลอดและผมเองก็ชอบพี่บอยมากเลยอยากทำครับ”เจพูดออกมารัวเร็วดูก็รู้ว่าเขินกับสิ่งที่พูดออกมา “แน่นะ” ผมถามย้ำ “ครับ” “งั้นพี่ทำแค่ภายนอกก่อนแล้วกัน” ผมเอ่ยแล้วพาเด็กมานั่งกลางตักก่อนจะเลิกเสื้อของเจขึ้นเล็กน้อยพอให้ผมสอดมือของผมไปหยอกล้อกับยอดอกสีหวานนั้นได้ เจหน้าขึ้นสีเล็กน้อย นั่นยิ่งทำให้ผมได้ใจจัดการบีบเค้นให้มากขึ้น ริมฝีปากของผมค่อยๆประกบเข้าหาปากบางๆของเจ ส่งรสจูบแบบผู้ใหญ่ไปให้อีกฝ่ายได้ลิ้มลอง เจมีท่าทางเงอะงะเมื่อโดนจูบแต่ก็พยายามจะตามจังหวะรสจูบของผมให้ทัน ผมยังคงเล่นกับแค่ช่วงบนของเจเท่านั้นแม้ว่าสายตาจะเหลือไปเห็นท่อนแข็งขืนของเจที่อยุ่ใต้เนื้อผ้าแล้วก็ตาม แต่ผมก็ไม่ได้แตะต้องมัน “ชอบไหม” ผมผละออกจากการจูบแล้วเอ่ยถามเจที่หน้าแดง “ชอบครับ”เจตอบอ้อมแอ้ม “ถอดกางเกงออกสิ”ผมเอ่ยบอกเจ เจพยักหน้าแล้วถอดกางเกงบ็อกเซอร์ที่ใส่นอนออกเผยให้เห็นลำชัดเจนที่นูนอยู่ใต้เกงในสีขาว กะจากสายตาก็พอเดาขนาดได้ว่าประมาณ4.5-5นิ้ว เจถอดเสร็จก็เงยมามองหน้าผมผมก้มลงจูบเจอีกครั้งมือก็ไล้ไปตามผิวเนียนนุ่มของเจจนเจบิดไปมา ผมผละจากปากน้อยมาซุกไซร้ที่ซอกหูซอกคอของเจ “อ๊า เสียวครับ อื้มมมพี่บอยยย” เจดิ้นพล่านมากกว่าเก่า นั่นทำให้ผมได้ใจมากขึ้นใช้มือทั้งสองข้างกระตุ้นอกของเจเข้าไปอีก พอเห็นว่าเจเริ่มได้ที่มือของผมก็หันไปเปิดลิ้นชักหยิบเจลขาวขุ่นออกมามันเป็นเจลแบบหลอดไซริงค์ ผมจัดการปลดกางเกงในของเจออก แล้วยกสะโพกของเจขึ้นแล้วฉีดเจลเข้ารูเนียนขาวฉีดจนหมดหลอดก็ค่อยๆใช้นิ้ววนรูเจเบา เจที่ได้รับการกระตุ้นยิ่งรู้สึกเสียวจนใจจะขาดผมไม่ได้เร่งรีบวนนิ้วให้รุนิ่มขึ้นมาก่อน แล้วค่อยสอดนิ้วชี้เข้าไปในรู ทำการหาจุดกระสันแล้วลงมือนวดจุดนั้นย้ำ ควยขาวอมชมพูของเจกระตุกทุกครั้งที่ผมกดจุดนี้ผมเริ่มจากหนึ่งนิ้วไปเป็นสอง ก่อนจะสุดที่สามนิ้วได้ในที่สุดโดยที่เจแทบไม่เจ็บเลย เพราะจากสีหน้ามีแต่ความเสียวเท่านั้นที่แสดงออกมา ผมกระแทกนิ้วเข้าออกช้าๆพร้อมกับส่งจูบหวานปิดปากเจเอาไว้ มืออีกข้างก็ลูบท้องน้อยของเจเบาเมื่อผ่านไปได้สักพักผมก็เร่งความเร็วนิ้วขึ้น “อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ งื้อ จะไม่ไหวจะแตกแล้วครับ” “แตกได้เลย “ผมเอ่ยเสียงแหบเสน่ห์พลันเร่งจังหวะย้ำจุดขึ้นไปอีก “อื้อออ อ๊างงง” “พรวด” น้ำขาวขุ่นของเจถูกปลดปล่อยออกมาจากควยอย่างต่อเนื่องหลายต่อหลายรอบผมก็ยังนวดจุดกระสันให้เจต่อ จนน้ำหยุด ผมก็ค่อยๆเอามือออก “เสียวไหม พี่ไม่แตะควยเราเลยนะเนี่ย”ผมถามหยอกเย้ากับเจที่ตอนนี้หอบถี่ใบหน้าแดงเต็มไปด้วยความเขินอาย ผมจัดการพาเจไปอาบน้ำเข้านอนเพราะมันยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะเอาเด็กคนนี้ และทุกสองวันผมจะมาทำเช่นเดิมทุกครั้งให้เจจนกว่าจะถึงเวลาที่สมควร
+ _/ r5 ?0 _ R3 @ |