สวัสดีครับ ผมเป็นคนต่างจังหวัดทางภาคอิสาน เรียกได้ง่ายๆว่าเด็กบ้านนอก ผมเป็นลูกตำรวจนะครับ แต่กระนั้นผมก็รู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างจะตุ้งติ้ง เพราะมักจะมีคนรอบข้างจริงๆ ก็ญาติๆแหละชอบพูดให้ผม แต่ด้วยความเป็นเด็กเค้าคงเห็นว่าน่ารัก คงไม่ต่างจากยุคสมัยนี้หรอก (อ้อ ลืมบอกไปผมอายุสี่สิบแล้วนะครับ) สิ่งที่รู้สึกทำได้แค่เก็บไว้คนเดียวแน่นอนยุคสมัยก่อนไม่มีคำว่าเกย์ คำจำกัดความเดียวก็คือกะเทย ซึ่งผมก็ไม่ชอบนะที่โดนมองโดนแซวแบบนั้น แต่ความที่เราเป็นเด็กเราทำอะไรไม่ได้ ทำได้แค่คิดคนเดียวเท่านั้น น่าจะอารมณ์เก็บกดนั้นแหละ ในขณะที่สถานการณ์ที่โรงเรียนก็ไม่ต่างกัน ผมมักจะมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนประหลาด เหมือนทุกคนมองว่าเราเป็นกะเทยเพราะความที่ผมไม่ได้แมนๆเตะบอลเหมือนคนอื่นเค้า แต่ความเข้าใจของผมคือผมไม่ใช่นะ เพราะคิดว่าแบบนั้นคืออยากแต่งหญิง อยากเป็นผู้หญิง แต่ผมไม่ใช่อะ ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้น เด็กๆอาจจะเอาผ้าเช็ดตัวมาทำเป็นผมยาว หรือเอามาใส่เหมือนผ้าถุงอาบน้ำ แต่ลึกๆแล้วมันไม่ใช่ไง (เถียงกับตัวเอง ฮ่าๆ) ชีวิตผมก็เติบโตมาด้วยความไม่แน่นอนในชีวิตแบบนี้ ผมไม่เคยมีแฟนเลยตั้งแต่จำได้จนจบมัธยมปลาย อาจจะมีชอบคนนั้นคนนี้บ้าง แต่แค่ชอบเท่านั้นไม่มีการตกปากรับฟังว่าเป็นแฟน ด้วยความที่ตัวเองขี้อายใจป๊อดด้วยมั้ง ผมชอบผู้หญิงนะครับถึงแม้จะชอบมองผู้ชายหล่อ แต่เวลาแสดงออกนี่คือชอบผู้หญิงน่ารักๆ แต่ก็ไม่วายโดนล้ออยู่เป็นครั้งคราว แต่ก็ช่างแม่งแหละ เราแก้ความคิดคนอื่นไม่ได้ แต่บางทีถ้าได้ยินต่อหน้า ก็เอ๋อแดกไปไม่เป็นเหมือนกัน เพราะบางคนก็ปากหมาปากพล่อยไง เราก็นิ่งๆยิ้มๆเนียนๆไป ผมจะบอกว่านี่เป็นครั้งแรกเลยนะที่ผมออกมาเขียนเรื่องตัวเองในแง่นี้ ปกติผมก็ชอบเขียนนู้นนี่แต่ไม่เคยจับเอาชีวิตของตัวเองส่วนนี้ออกมาเขียนเลย อย่างทีบอกผมเป็นคนไม่กล้ากับอะไรแบบนี้ ทั้งๆที่จริงๆแล้วผมเป็นคนโผงผาง เปิดเผย แต่บางอย่างเป็นสิ่งที่ต้องเหยียบให้จมลึกลงดิน ชีวิตพอโตขึ้นก็เป็นแบบคนทั่วไป ถึงจะไม่แมนแบบต้องไปเล่นกีฬาท้าต่อยชาวบ้าน แต่ผมก็ไม่ได้จัดอยู่ในแกงค์นางฟ้าแบบนั้น แล้วก็ไม่ได้อยากอยู่และเป็นด้วย เพราะผมมองว่ามันคนละแนวกับเรา แล้วอีกอย่างผมก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ เพราะอย่างที่บอกสมัยยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว มันไม่มีคำจำกัดความออกมากว้างขวางขนาดนี้ แต่อย่างไรผมก็รู้สึกว่า ผมเป็นพลเมืองชั้นสอง เป็นพวกแปลกประหลาดและผิดปกติอยู่ดี ชีวิตวัยเด็กของผมก็ตื่นเต้นอยู่นะ ตั้งแต่จำความได้ผมมีอารมณ์ทางเพศมาตั้งแต่เด็ก แต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองชอบหนีบกระเจี๊ยวไปข้างหลัง แล้วเอานิ้วถููบี้ๆจนถึงขั้นอารมณ์ฟิน(น่าจะถึงจุดสุดยอด) จริงๆมันคือการช่วยตัวเองแหละ แต่เพราะเด็กๆไม่มีน้ำอสุจิออกมา ผมทำตลอดเลยตอนนอนเพราะมันรู้สึกดี ครั้งแรกที่เห็นน้ำอสุจิคือ มีพี่แถวบ้านเค้าชวนไปบนบ้านเค้า จำได้ลางๆว่าเค้าคงจะชักว่าวนั่นแหละ แล้วให้ผมดูน้ำอสุจิว่ามันเป็นยังไง ถ้าจะมองกลับไปมันเหมือนการโดน sexual harassment เลยนะ เพราะผู้ใหญ่พาเด็กไปทำอะไรแบบนั้น แต่ก็นั้นแหละผมก็อยากรู้อยากลอง แล้วก็ไม่ใช่แค่คนเดียวนะ มีอีกคนก็พาผมไปตามพุ่มไม้ที่ทุ่งนาแล้วก็ให้ผมจับกระเจี๊ยวเค้า แต่ผมจำไม่ได้ว่าเค้าเสร็จหรือเปล่า หรือกระทั่งเพื่อนแถวบ้าน ที่เวลาเล่นซ่อนหาเราก็ชอบไปซ่อนด้วยกันแล้วเล่นกระเจี้ยวของกันและกันตั้งแต่เด็ก ผมมีเพื่อนแบบนี้สองคนด้วยซ้ำ มันก็แข็งและเพลินดีด้วยความเป็นเด็ก พอโตขึ้นก็เริ่มผลัดกันว่าวจนน้ำออกสนองความฟิน บางทีผมก็ไปบ้านเพื่อนแล้วก็เช่นเคยผลัดกันสร้างความเสียวให้กัน หลังๆเริ่มมีการใช้ปากจนเสร็จกันไป แต่ส่วนใหญ่ผมเป็นคนทำให้มัน ครั้งหนึ่งมีเพื่อนรุ่นพี่เดินเข้ามาเห็นตอนกำลังแตกใส่ปากผมพอดี ทำตัวไม่ถูกเลยแหละ หลังจากนั้นผมก็ไม่กล้าพูดคุยกับรุ่นพี่คนนี้อีกเลย มันทั้งอายทั้งรู้สึกเสียหน้าด้วยความผมแบกคำว่าลูกตำรวจไปด้วย แต่ยังไงก็ช่างมีครั้งนึงเพื่อนผมมันพยายามจะเอาข้างหลังผม ผมก็ยอมแต่ปรากฏว่ามันเจ็บมาก ยัดไม่เข้าเพราะไม่รู้จักว่าต้องใช้สารหล่อลื่นหรือพวกโลชั่นอะไร ไม่งั้นคงเสียตัวตั้งแต่วัยเด็กแล้ว (เสียดาย ฮ่าๆ)
โดยทุกวันที่กลับจากโรงเรียนผมกับเพื่อนเราจะขึ้นรถประจำทางคันเดียวกัน ผมขึ้นไปนั่งบนหลังคานั่งชันเข่าหันหน้าออกไปด้านข้างรถ นั่งข้างๆกันแบบนี้ทุกวัน แล้วก็แอบชักว่าวให้กันผ่านกางเกงนัักเรียนขาสั้นสีกากี เราจะมีกระเป๋าปิดด้านบนไว้แล้วสอดมือมาหากันใต้หัวเข่า บางทีน้ำแตกเลอะกางเกงก็มี เรียกว่ามีประสบการณ์ outdoor มาตั้งแต่เยาว์วัย บางครั้งเหมือนมีเพื่อนบางคนสงสัยแล้วเข้ามานั่งขั้นกลางผม วันนั้นก็อดเล่นเสียวกัน แต่ยังไงความเสียวไม่เข้าใครออกใคร เราก็ยังทำมาตลอด ผมกับเพื่อนเล่นกันแบบนี้จนจบมัธยมต้น พอขึ้นมัธยมปลายก็ไม่ค่อยเจอกันแล้วด้วยความที่ต่างคนต่างมีเพื่อนๆของตัวเอง และเริ่มขี่มอเตอร์ไซค์ไปไหนมาไหนเอง ทำให้ห่างๆกันไปเหลือแค่ความทรงจำเสียวๆ จนปัจุบันมันมีลูกมีเมียไปแล้ว เอาเป็นว่าจบเรื่องราวของผมในวันเด็กจนถึงมัธยมปลายแค่นี้ก่อน ถ้าผมมีอารมณ์อยากเขียนขะมาเล่าให้ฟังใหม่นะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบ สรุปว่าผมเป็น มั๊ยครับ 555
|