แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย KennyAsuji เมื่อ 2021-8-24 14:04
ปล. เรื่องนี้ผมไม่ได้เป็นผู้เขียนเองตั้งแต่ต้น เพียงแต่นำมาเรียบเรียงใหม
เป็นความประทับใจในภาษาการเล่าที่ง่ายๆ แต่เสียว
ท่านใดรู้จักผู้เชียนต้นฉบับ ขอความกรุณาช่วยแจ้งให้รู้จักด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูง
เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ผมฟังมาจากประสบการณ์ของคนรู้จักของผมคนหนึ่งเจ้าของประสบการณ์คือ“น้องแอม”ในเรื่องนี้นะครับเล่าถึงปมในวัยเด็กของเขากับชายหนุ่มสองคนที่ทำให้เค้าเสพติดการดูดน้ำรักจากท่อนเอ็นของผู้ชายในแบบที่เรียกว่าเป็นการ“เสพติด” เลยก็ว่าได้ จนกระทั่งต้องไปปรึกษาแพทย์มาแล้ว
แถมด้วยปูมหลังของ “พี่ต้อม”อดีตพระสึกใหม่ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมดซึ่งปัจจุบันกลายเป็นหนุ่มใหญ่วัยกลางคนมีครอบครัวที่อบอุ่น ตัวละครในเรื่องนี้ยังมีอีกสองคนที่สำคัญคือ “ตาทอง” กับ “พี่ชำนาญ” ที่ล้วนแต่เป็นผู้ที่มีส่วนเกี่ยวพัน และสานต่อปมกันมาเป็นทอดๆ
ปีพ.ศ. 2528 เป็นปีที่ ต้อม ชายหนุ่มลูกอีสานตัดสินใจลาสิกขาบทจากร่มกาสาวพัสตร์เนื่องจากพ่อเสาหลักของบ้านด่วนจากไปด้วยโรคพยาธิใบไม้ในตับทำให้ครอบครัวอันประกอบไปด้วย แม่พี่สาว และ น้องชาย ซึ่งยังเล็กอยู่ขาดกำลังสำคัญในการทำนาซึ่งเป็นอาชีพเลี้ยงครอบครัวมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ
ด้วยความยากจน ทำให้ต้อมต้องบวชเรียนตั้งแต่ยังเล็ก มาปีนี้ เขาอายุครบ 21 ปีพอดี ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งผิวค่อนข้างขาว หน้าตาคมสัน เข้าขั้นหล่อเหลาผิดกับชาวบ้านแถวนั้นบวกกับนิสัยพูดน้อย เงียบขรึมจึงทำให้ได้รับความนิยมชมชอบจากชาวบ้านในหมู่บ้านตั้งแต่เมื่อครั้งยังครองผ้าเหลืองและเมื่อสึกออกมา ชายหนุ่มก็เป็นที่หมายตาของหญิงสาวโสดในหมู่บ้าน
เพราะนอกจากจะหล่อเหลาแล้วชายหนุ่มยังขยันขันแข็ง เอาการเอางานช่วยครอบครัวทำนาแทนพ่อที่เสียไปอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเมื่อหมดหน้านาชายหนุ่มก็เข้าเมืองรับจ้างทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัวตั้งแต่ไปรับจ้างร้านอุปกรณ์ก่อสร้างจนกระทั้งเป็น รปภ. แล้วแต่จะมีใครจ้าง
บ้านของต้อมเป็นบ้านไม้ครึ่งปูนปลูกเกาะกลุ่มกันอยู่กับบ้านเครือญาติของเขาในหมู่บ้านชนบทกันดารของอีสานในรั้วเดียวกันนั้นประกอบไปด้วย บ้านน้าชาย ปลูกอยู่เยื้องกันส่วนด้านในสุดของที่แปลงนั้นจะเป็นบ้านไม้อีสานหลังเก่าโทรม ยกพื้นสูงมีนอกชานบ้านและต้นมะเฟืองต้นใหญ่ติดบันใดลิงขึ้นบ้าน เป็นบ้าน “แม่ใหญ่” ของต้อมซึ่งปัจจุบัน (พ.ศ. 2528) มีอายุ 70ปีแล้ว แม่ใหญ่ อยู่บ้านหลังนั้นกับ “แอม” เด็กชายอายุ 7 ขวบลูกของน้าสาวอีกคนซึ่งไปทำงานที่กรุงเทพฯ และได้ฝากเจ้าแอมไว้กับแม่ใหญ่ให้แม่ใหญ่เป็นคนเลี้ยงดูภายในบริเวณบ้านสามหลังซึ่งอยู่ในที่แปลงเดียวกันนั้น
บ้านต้อม กับบ้านน้าชายจะปลูกติดถนนหันหน้าเข้าสู่ท้องทุ่งนาที่กว้างเกือบสุดลูกหูลูกตาส่วนบ้านของแม่ใหญ่จะปลูกอยู่ด้านในสุดด้านหลังบ้านติดกับดงกล้วยของบ้านอื่นและที่ตรงกลางระหว่างบ้านสามหลังเป็นลานดินกว้างๆ มีต้นกระท้อนใหญ่แผ่กิ่งก้านร่มเย็นสานกิ่งกับต้นมะเฟืองหน้าบ้านแม่ใหญ่เป็นร่มครึ้มจนแดดแทบจะไม่เคยส่องมาถึงพื้นดิน
|