แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย zodiacsci เมื่อ 2021-9-30 01:29
ตอนใหม่มาแล้วค้าบบบ อาจจะยาวสักหน่อย แต่จะเล่าปูมหลังจาก "กล้า" ก่อนที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในฐานะนักกีฬาครับ
Chapter 3 : เบื้องหลังที่ปกปิด
กล้าในชุดนักเรียนกำลังไล่ดูรายชื่อที่ประกาศในบอร์ดของมหาวิทยาลัยเพื่อหวังชื่อตัวเองอาจจะตกหล่นจากการดูในเว็บถึงขนาดที่นั่งรถจากต่างจังหวัดเพื่อมาให้เห็นด้วยตาตัวเอง แต่ก็ไม่เป็นผลไม่มีชื่อของกล้า กล้าเดินคอตกออกมาด้วยสีหน้าผิดหวังที่สุด กล้ามีความฝันเหมือนกับเด็กนักเรียนต่างจังหวัดหลายๆคนที่อยากจะเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำในเมืองหลวง เพราะนั่นจะทำให้กล้าได้ใช้ชีวิตเป็นเด็กกรุงกับเขาบ้าง สีหน้าของกล้า ช่างผิดกับหลายคน ที่พบรายชื่อตัวเองในบอร์ด กล้าเดินไปที่ม้าหินอ่อนใกล้ๆ บอร์ดประกาศผลซึ่งมันอยู่ใกล้กับโรงพลศึกษา และห้องพักอาจารย์ของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
โค้ชก้องโค้ชบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัย หลังจากที่พักเที่ยงและกำลังกลับเข้าไปยังโต๊ะทำงานก็พลันเหลือบเห็นกล้านั่งหงอยเหงาอยู่คนเดียว ด้วยสีหน้าผิดหวังสุดจึงเดินเข้าไปถามไถ่ “ไอ้หนูเป็นอะไร นั่งเศร้าอยู่ได้” โค้ชก้องถามกล้าที่ทำหน้าหงอยอยู่ จนเกือบจะร้องไห้ “ผมไม่ติดโควตาครับผมอยากเรียนคณะนี้” กล้าบอกกับโค้ชก้อง “จริงเหรอทำไมถึงอยากเรียนคณะนี้ล่ะ” โค้ชก้องถามกล้าด้วยความสนใจในตัวกล้า “ผมชอบเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพเรื่องกีฬาครับ ผมคิดว่าสายงานนี้น่าจะไปได้ไกล แล้วเลี้ยงดูพ่อแม่ได้”กล้าตอบทำให้โค้ชก้องยิ่งสนใจในตัวกล้ามากขึ้น “แล้วเธอเล่นกีฬาอะไรเป็นบ้างล่ะ”โค้ชก้องถามต่อ “ผมเป็นนักกีฬาบาสครับ”กล้าตอบ “เห้ยถ้างั้นมันก็น่าจะผ่านโควตานี้นี่ ทำไมไม่ติดล่ะ” โค้ชก้องแปลกใจ “สงสัยเกรดผมสู้คนที่สมัครคนอื่นไม่ได้”กล้าพูดเชิงตัดพ้อตัวเอง “เธออยากเรียนมากไหม”โค้ชก้องถามเพื่อความแน่ใจ “อยากเรียนมากครับ”กล้ายืนยันคำตอบเดิม “งั้นเธอตามครูมา”โค้ชก้องบอกกล้า กล้ารีบสะพายกระเป๋าเดินตามโค้ชก้องไปยังโรงยิม “อ่ะลองชู้ตบาสให้ดูสิ”โค้ชก้องโยนลูกบาสให้กับกล้า กล้ารับมาอย่างชำนาญพร้อมชู้ตทำคะแนนอย่างคล่องแคล่วต่อจากนั้น โค้ชก้องก็ทดสอบกล้าโดยการเข้าทำแต้ม การรีบาวน์ จนโค้ชก้องมั่นใจว่ากล้าเป็นนักกีฬาบาสจริง ๆ จึงเรียกให้กล้าถือลูกบาสเดินตามไปที่ห้องพักอาจารย์ ซึ่งห้องพักอาจารย์ของโค้ชก้อง เป็นห้องพักส่วนตัวเนื่องจากโค้ชก้องนอกจากจะต้องรับผิดชอบในการสอนวิชาบาสเก็ตบอลซึ่งเป็นวิชาเลือกเสรีสำหรับนักศึกษาทุกคณะแล้วยังต้องเป็นโค้ชทีมบาสของมหาวิทยาลัยด้วย ดังนั้น โค้ชก้องจึงขอทางมหาวิทยาลัยว่าเพื่อความสะดวกและไม่รบกวนอาจารย์ท่านอื่น จึงขอแยกห้องทำงานออกมาซึ่งทางมหาวิทยาลัยก็อนุมัติ เมื่อกล้าเดินเข้ามาในห้องด้วยชุดนักเรียนที่เต็มไปด้วยเหงื่อ โค้ชก้องก็เดินไปล็อคลูกบิด “ทำไมต้องล็อคลูกบิดด้วยครับ”กล้าถามด้วยความสงสัย “คือครูเห็นความตั้งใจของเธอแล้วครูเห็นว่าเธอเป็นนักกีฬาบาสพอดีแล้วทีมบาสของครูก็มีเด็กปี 4ที่กำลังจะเรียนจบแล้วด้วย ครูสามารถทำให้เธอเข้าเรียนที่นี่ได้แต่มันเป็นกรณีพิเศษ ที่ไม่ได้เข้ามาตามปกติ อย่างที่เธอสมัครแล้วไม่ได้นี่ เธอสนใจหรือเปล่า”โค้ชก้องบอกกล้า ทำให้กล้ามีสีหน้าที่เปลี่ยนไปทันที “สนใจครับให้ทำอะไรผมก็ยอม” กล้าตอบรับ “ดีมาก งั้นเธอต้องทำอะไรให้ผมสักสองสามอย่าง”โค้ชก้องบอกกับกล้า แต่นาทีนั้น กล้าหูอื้อไปหมดแล้วเพราะดีใจที่ตัวเองมีความหวังเข้ามา “ว่ามาเลยครับ”
“อย่างแรก เมื่อเธอเข้ามาเรียนที่นี่แล้วเธอต้องมาเป็นนักกีฬาบาสเก็ตบอลของมหาวิทยาลัยที่ครูเป็นโค้ชอยู่ ครูจะได้ใช้ข้ออ้างนี้เสนอต่อกรรมการคัดเลือกเพื่อจะได้ให้เธอมีสิทธิ์เข้ามาเรียนที่นี่ด้วยโควต้านี้” “ได้อยู่แล้วครับแล้วเงื่อนไขอันอื่นล่ะครับ” กล้าถามต่อ “ก็.....”โค้ชก้องตอบลากเสียงพร้อมกับเดินไปข้างหลังกล้า และอ้อมมือมาจากข้างหลังจนทำให้กล้าตกใจ ผละตัวออกจากโค้ชก้อง “จะทำอะไรครับ”
“ก็นี่ไงเงื่อนไขที่สอง ช่วยเติมเต็มความสุขให้ครูหน่อย” โค้ชก้องยื่นข้อเสนอที่สองไป “.....”กล้าหยุดชะงัก พร้อมกับคิดทบทวน “คิดดีๆ ถ้าเข้าโควตานี้ได้ไม่ต้องเสียค่าเทอมกับค่าหน่วยกิตด้วยนะ” โค้ชก้องพยายามหว่านล้อม ซึ่งได้ผลกล้าพยักหน้าเป็นเชิงสัญลักษณ์ว่ายินยอมรับข้อเสนอโค้ชก้องจึงเดินไปหากล้าอีกครั้ง พร้อมทั้งบรรจงปลดกระดุมเสื้อนักเรียนทีละเม็ดจนหมด เผยให้เห็นกล้าท้องที่อาบชุ่มไปด้วยเหงื่อเมื่อปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออกหมดแล้ว โค้ชก้องก็ค่อยๆ บรรจงปลดเข็มขัดนักเรียนของกล้าพร้อมทั้งปลดตาขอกางเกงนักเรียนสีดำของกล้าเผยให้เห็นกางเกงในซึ่งเป็นปราการด่านสุดท้ายของกล้าโค้ชก้องดึงกางเกงนักเรียนและกางเกงในลงไปกองที่เท้าพร้อมกับคุกเข่าลงข้างหน้ากล้า เพื่อเตรียมพร้อมจะลิ้มรสไอติมแท่งโปรดของเด็กมัธยมปลายวัยกลัดมันที่ยอมพลีกายให้เบื้องหน้า กล้าหลับตาปี๋ เพื่อคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความฝัน โค้ชก้องดูดเลียไอติมแท่งโปรดอย่างเมามันแต่มันก็สร้างความเสียวกระสันให้กับกล้าเป็นอย่างมาก จนกล้าทนไม่ไหวพยายามจะหลบเบี่ยง ทำให้โค้ชก้องเริ่มรำคาญ จึงลากกล้าไปที่ราวตากผ้าที่โค้ชก้องสั่งให้คนงานที่คณะทำขึ้นเป็นพิเศษโดยบอกว่าเป็นที่สำหรับแขวนชุดแข่งของทีมบาส ซึ่งมันแข็งแรงมากโค้ชลากกล้ามาที่ราวนั้น พร้อมกับหยิบเชือกที่อยู่แถวนั้นมัดมือกับมุมของราวและลากเก้าอี้มาให้ข้างๆ ราว แล้วโยงเชือกมามัดกับขาของกล้าตอนนี้กล้าคงดิ้นหนีไปไหนไม่ได้แล้วเพราะโดนขึงตรึงไปกับราวตากผ้าที่ติดไว้กับผนังพร้อมกับเอาแลคซีนขนาดใหญ่มาปิดปากกล้า เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว โค้ชก้องก็คุกเข่าลงอีกครั้ง เพื่อลิ้มรสไอติมของกล้า แต่ครั้งนี้กล้าหมดสิทธิ์ที่จะดิ้นหนี ทำได้แค่ร้องครางออกมาด้วยเสียงอู้อี้ ไม่นานนักกล้าเริ่มตัวเกร็งมือกำหมัดแน่นและไม่กี่อึดใจน้ำรักของกล้าก็พุ่งใส่ปากของโค้ชก้องอย่างล้นปรี่แต่นั่นไม่ทำให้โค้ชก้องหยุดกิจกรรม โค้ชก้องถอนปากออกมา แต่มือก็ยังคงสาวต่อซึ่งทำให้กล้าดิ้นพล่านประหนึ่งสุนัขที่โดนน้ำร้อนลวกก็ไม่ผิด กล้ารู้สึกถึงความเสียวปานจะขาดใจแต่ไม่นานนักก็เริ่มกลับมาความรู้สึกเดิมคือตัวเกร็งและน้ำรักถูกหลั่งมาอีกรอบ แต่รอบนี้ โค้ชก้องหยุดกิจกรรมแล้ว กล้าหายใจถี่ด้วยความเหนื่อยอ่อน “นักกีฬาต้องอย่างนี้สิอึดชิบหายเลย” โค้ชก้องชม แต่กล้าเหนื่อยเกินว่าที่จะรับคำชมตรงนั้นได้หลังจากนั้น โค้กก้องก็ปลดพันธนาการทุกอย่างของกล้าออก กล้าลงไปนอนกองกับพื้นทันทีแล้วเผลอหลับไป กล้ารู้สึกตัวขึ้นมาในห้องเก็บอุปกรณ์ในห้องโค้ชก้องเมื่อเวลาผ่านไปสองชั่วโมง พร้อมกับสภาพตัวเองที่ยังคงล่อนจ้อนอยู่กล้าเดินออกมาจากห้อง มือกุมเป้าไว้ แล้วมาหาโค้ชก้องที่โต๊ะ “อ่าวตื่นแล้วเหรอ”โค้ชก้องถาม “ครับผมกลับได้หรือยังครับ” กล้าถาม “ได้เลยครูจดชื่อกับโรงเรียนของเธอเรียบร้อยแล้วแล้วตอนเธอหลับครูก็ถือวิสาสะเอาบัตรประชาชนเธอมาถ่ายรูปไว้ก่อน เดี๋ยวครูจัดการเรื่องเอกสารการสมัครให้” “ขอบคุณมากครับโค้ชแล้วเสื้อผ้าของผมล่ะครับ” “ชุดนักเรียนของเธอน่ะหรอครูเห็นมันชุ่มเหงื่อแล้ว ไม่อยากให้เธอใส่กลับบ้าน” “แล้วผมจะใส่อะไรกลับบ้านล่ะครับ”กล้าถามด้วยความตกใจ โค้ชก้องจึงเดินไปที่ตู้เหล็กเก็บของพร้อมกับหยิบส่งของอย่างหนึ่งออกจากตู้ส่งให้กล้า มันคือชุดบาสเก็ตบอลทีมมหาวิทยาลัย “อ่ะนี่ของเธอ อย่าลืมสิ ตั้งแต่วันนี้ไปเธอคือว่าที่นักกีฬาบาสทีมมหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้วนะ” โค้ชก้องบอก ทำให้สายตาของกล้าเป็นประกายอีกครั้ง “เอ่อแล้วกางเกงในผมล่ะครับ” “กางเกงในเธอก็อย่างชุ่มเหงื่อเลยใส่ไปมันไม่ดี ทางที่ดีไม่ต้องใส่ดีกว่า” โค้ชก้องบอกกล้า ทำเอากล้าถึงกับตกใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ “รีบแต่งตัวสิเดี๋ยวครูไปส่ง” โค้ชก้องบอกกล้า กล้าจึงรีบสวมชุดบาสที่เพิ่งได้รับมาแต่ด้วยความที่กล้าไม่เคยใส่ชุดบาสอย่างเดียวแบบนี้เลยทำให้น้องชายของกล้าตื่นอีกครั้ง จนตอนเดินไปขึ้นรถกล้าต้องพยายามเอากระเป๋าเป้ปิดเป้ากางเกงป้องกันไม่ให้คนอื่นเห็นแล้วเมื่อขึ้นรถแล้ว บทสนทนาจึงเริ่มต่อ “ต่อไปเรียกครูว่าโค้ชนะ”โค้ชก้องบอกกล้า กล้าพยักหน้ารับ แต่ทันใดนั้น มือของโค้ชก้อง แทนที่จะจับที่เกียร์รถกลับมาจับที่เป้ากางเกงบาสของกล้า ทำเอากล้าตกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้อะไรโค้ชก้องล้วงมือเข้าไปในกางเกงพร้อมกับจับขยำอย่างเมามันจนโค้ชก้องต้องนำรถจอดข้างทาง ก่อนหันมาจัดการกับกล้ากับท่อนลำของกล้า ตลอดทางไปส่งที่คิวรถกลับบ้านของกล้า “เดี๋ยวถ้าผมต้องการอะไรเพิ่มเดี๋ยวผมโทรไปหานะ” โค้ชก้องบอกกล้า “ครับขอบคุณมากครับโค้ช” กล้ากล่าวขอบคุณ ก่อนขอตัวไปซื้อตั๋ว ระหว่างที่นั่งรอขึ้นรถ กล้าเกิดเอะใจว่าโค้ชก้องจะรู้เบอร์ของตนได้อย่างไร จนกระทั่ง หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา จึงรู้ว่าโค้ชก้องใช้โทรศัพท์ของกล้าโทรออกหาเบอร์เขานั่นเองและนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ของกล้าและโค้ชก้องในฐานะโค้ชและนักกีฬาที่บำเรอความใคร่ให้กัน
“ก๊อกๆๆๆ” “เข้ามาได้เลย”โค้ชก้องตะโกนบอก “สวัสดีครับโค้ชเห็นเดชบอกผมว่า โค้ชต้องการเจอตัวผม” กล้าถาม “อ่อกล้านี่เอง มานั่งก่อน” โค้ชบอกให้กล้านั่งลงที่โต๊ะของเขา “พอดีมีจังหวัดเขามีโครงการมอบทุนให้แก่นักกีฬาจังหวัดที่ขาดแคลนให้ผมเสนอชื่อไป ผมเลยจะถามว่ากล้าสนใจไหม” โค้ชก้องถามกล้ากล้าถึงกับตาโตด้วยความสนใจ “สนใจครับต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง” กล้าถาม “เดี๋ยวเอาใบสมัครนี้ไปกรอกนะ”โค้ชส่งเอกสารให้กล้า “ขอบคุณมากครับโค้ชแล้วรอบนี้ผมจะตอบแทนโค้ชอย่างไรดีนะครับ” กล้าถามโค้ชพร้อมกับอมยิ้มอย่างมีเลศนัย “ก็เหมือนเดิมแล้วกัน”โค้ชก้องบอกกล้า กล้าจึงเดินเข้าไปในห้องเก็บอุปกรณ์กีฬา ยืนรอโค้ช ไม่นานนักโค้ชก็เดินตามเข้าไป เมื่อทั้งสองคนประจันหน้ากันโค้ชจับใบหน้าของกล้าพร้อมกับพุ่งใบหน้าของตัวเองเข้าใส่พร้อมกับเริ่มต้นบดขยี้ปากกันอย่างดุเดือด โค้ชเริ่มค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาออกอย่างช้าๆ จนครบทุกเม็ด แล้วค่อยๆเปิดเสื้อให้เห็นช่วงไหล่ พร้อมมัดกล้ามที่มีสมส่วนกับร่างกายของกล้า เมื่อจัดการกับเสื้อนักศึกษาแล้วจึงปลดเข็มขัดที่มีตรามหาวิทยาลัยของกล้าเป็นชิ้นต่อไปจนตอนนี้กางเกงนักศึกษาของกล้าถูกปลดออกแล้ว แต่แล้วโค้ชก้องก็พูดบางอย่างกับก้อง “โค้ชบอกแล้วไงว่าห้ามใส่กางเกงในแบบนี้มาอีก” โค้ชเอ่ยกับกล้าทันที เมื่อเห็นกล้าใส่กางเกงในแบบผ้าหุ้มยางยืดที่ขายตามตลาดนัด “ขอโทษครับโค้ชผมเสียดายว่ามันยังใส่ได้เลยเอาใส่” กล้ากล่าวขอโทษโค้ช “แล้วที่โค้ชซื้อแบบมียี่ห้อให้ล่ะเอาไปไหน” โค้ชถาม “ยังเก็บอยู่ครับเห็นว่ามันน่าจะแพงไม่กล้าเอามาใส่ เลยอยากใส่ตัวเก่านี้ให้ขาดก่อน” กล้าบอกโค้ชโค้ชจึงเดินออกไปที่โต๊ะทำงานหยิบของบางอย่างออกมา มันคือ กรรไกร “ถ้าขาดก็จะเลิกใส่ใช่ไหม”โค้ชก้องถามกล้า กล้าได้แต่ยืนนิ่ง โค้ชเองก็ไม่รอฟังคำตอบใช้กรรไกรของตัวเองตัดกางเกงในราคาถูกที่กล้าสวมอยู่ จนหลุดออกมากล้าได้แต่ตกใจภาพที่ปรากฏตรงหน้า เพราะวันนี้กล้ามีซ้อมบาสกับโค้ช “แล้ววันนี้ผมมีซ้อมบาสกับโค้ชผมจะซ้อมอย่างไรล่ะครับ” กล้าถามโค้ช “งั้นก็เลือกเอาว่าจะไม่ใส่กางเกงในซ้อมหรือ จะใส่ของโค้ชแทน” กล้าได้ฟังคำตอบ ก็เข้าใจจุดประสงค์ที่แท้จริงที่โค้ชทำและกล้าก็คิดว่าโค้ชคงมีกางเกงในสำรอง ไม่น่าจะใช่ตัวที่กำลังใส่อยู่หรอกจึงตัดสินใจให้คำตอบไป “งั้นผมขอยืมของโค้ชก่อนแล้วกันครับ”กล้าบอกพร้อมกับส่งสีหน้าอมยิ้มแบบมีเลศนัยอีกครั้งให้โค้ชก้อง “ได้แต่มาเอาตอนก่อนไปซ้อมนะ”
“ครับ”เมื่อสิ้นเสียงตอบรับจากกล้า โค้ชก้องก็บรรเลงเพลงสวาทต่อจนจบกระบวนท่า และต่อด้วยอีกหลายวิทยายุทธ์จนกล้าทนความเสียวซ่านไม่ไหว หลั่งน้ำรักออกมา พร้อมกับเหนื่อยหอบโค้ชก้องจึงถอนปากออกจากแก่นกายของกล้า “ยังหอมหวานเหมือนเดิมนะ”โค้ชก้องบอกกับกล้า กล้าได้แต่ยิ้มๆ พร้อมกับอาการเหนื่อยหอบ “เดี๋ยวเจอกันตอนห้าโมงนะมาหาผมที่นี่” โค้ชก้องบอกกล้า “ได้ครับงั้นผมขอไปทำธุระก่อนนะครับ” กล้าบอกกับโค้ชก้อง
เมื่อเวลามาถึงประมาณห้าโมง เมื่อกล้าเปิดประตูเข้ามาในห้องเป็นโค้ชนั่งอยู่คนเดียวถึงบอกความประสงค์ในการมาหา “โค้ชครับผมมายืมกางเกงในตามที่บอกครับ” กล้าบอกกับโค้ช “ออมาสิมาตรงนี้เลย” โค้ชก้องเรียกกล้าเข้าไปหา กล้าจึงเดินไปบริเวณหลังโต๊ะของโค้ช เพราะคิดว่า กางเกงในที่จะให้ยืมคงเก็บอยู่ในโต๊ะ “อ่าวไหนๆ ก็ต้องใส่แล้ว ไม่ถอดเสื้อผ้ารอเปลี่ยนชุดเลยล่ะ” โค้ชก้องบอกกับกล้า “อ่อได้ครับ” กล้าตอบรับ พร้อมวางกระเป๋าเป้ตัวเองลง พร้อมกับหยิบชุดบาสชุดเดียวกับที่โค้ชให้เมื่อครั้งแรกที่ได้รู้จักกันออกมา ก่อนที่จะค่อยๆปลดเปลื้องเครื่องแบบนักศึกษาออกจากร่างจนเหลือแค่ถุงเท้าสีดำเพียงคู่เดียว “เรียบร้อยแล้วครับ”กล้าบอกพร้อมกับยืนเปลือยกายล่อนจ้อนต่อหน้าโค้ชก้องอีกครั้ง โค้ชก้องยืนขึ้นถอดกางเกงวอร์มของตัวเองลงพร้อมกับกางเกงในยี่ห้อดังที่สวมใสอยู่จากนั้นจึงหยิบกางเกงในตัวนั้นส่งให้กล้า “เอ้านี่ผมให้ยืม” โค้ชก้องบอกระหว่างส่งกางเกงในตัวเองให้กล้า “เอาจริงหรอโค้ช”กล้าถามเพราะไม่คิดว่าโค้ชจะทำแบบนี้จริงๆ “หน้าตาผมตอนนี้เหมือนเล่นมากเลยหรอ”โค้ชก้องถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง “อ่อได้ครับ” กล้ารับของจากโค้ชก้องมาใส่ถึงแม้จะใส่แล้วพอดีแต่ออกไปทางหลวมนิดหน่อยก็ตามแต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่สบายเหมือนใส่ของใหม่ หรือของตัวเอง จากนั้นกล้าจึงใส่ชุดบาส และหยิบรองเท้าบาสออกมาจากกระเป๋าเป้ มาใส่แล้วกำลังจะเก็บชุดนักศึกษาใส่กระเป๋า “ไม่ต้องเก็บๆวางไว้นี่แหละ” โค้ชก้องร้องห้าม ทำให้กล้าสงสัยอีกว่าโค้ชก้องจะเล่นอะไรกับเขาอีก
วันนี้การฝึกซ้อมของกล้าและทีมก็เป็นไปตามปกติแต่กล้ามีความไม่มั่นใจในกางเกงในของโค้ชที่ใส่มา ทำให้ไม่มีสมาธิในการซ้อมจนสังเกตได้ “ไอ้กล้ามึงเป็นอะไรวะวันนี้ เหมือนไม่มีสมาธิซ้อมเลย” เดชถามกล้าอย่างสงสัย “นั่นสิวันนี้แลเหมือนมึงสติไปอยู่กับใครหรือเปล่า” นนท์ นักกีฬาร่วมทีมแซว “อ่อเปล่าๆ ไม่มีอะไร” กล้าปฏิเสธไป เวลาล่วงเลยมาประมาณสามทุ่มโค้ชเรียกประชุมทีมเพื่อฟังสรุปการซ้อมซึ่งเป็นปกติของทุกครั้งที่ซ้อมอยู่แล้ว “วันนี้ทุกคนโอเคนะยกเว้นกล้า เดี๋ยวกล้าอยู่พบโค้ชก่อนนะ เธอต้องทำความสะอาดโรงยิมเป็นการทำโทษวันนี้ส่วนทุกคนแยกย้ายกลับหอได้” กล้าพยักหน้ารับเมื่อทุกคนแยกย้ายจนหมดโค้ชก้องจึงเดินเข้าไปหากล้า “พร้อมโดนทำโทษหรือยัง”โค้ชก้องถามกล้า เพราะเขารู้สาเหตุที่กล้าฝึกซ้อมได้ไม่ดีในวันนี้อยู่แล้ว “พร้อมครับ”
“งั้นไปเอาไม้ถูพื้นในห้องเก็บของโรงยิมมาวันนี้คุณต้องถูทั้งโรงยิม แล้วก็เป็นคนปิดโรงยิมด้วย” กล้าพยักหน้ารับแล้วเดินไปเอาไม้ถูพื้นมา แล้วมายืนที่เบื้องหน้าของโค้ชอีกครั้ง “วันนี้เสื้อผ้าไม่สบายตัวใช่ไหม”โค้ชก้องแกล้งถามเพราะรู้คำตอบอยู่แล้ว “ใช่ครับ”กล้าตอบ “งั้นก็ถอดคืนโค้ชมา”กล้ากำลังจะเดินไปห้องน้ำ “จะไปไหนล่ะถอดตรงนี้เลย” กล้าตกใจกับคำพูดของโค้ช แต่ก็ไม่คิดอะไรมาก ถอดเสื้อบาส และกางเกงบาสลงพร้อมกางเกงในส่งกางเกงในให้โค้ช “เดี๋ยวชุดบาสของคุณด้วย เอามาฝากไว้ที่โค้ช” “แล้วตอนทำความสะอาดผมใส่อะไรล่ะครับ”
“ก็ไม่ต้องใส่ไงแก้ผ้าทำไปเลย” กล้าทำหน้าเหวอแต่ด้วยสีหน้าที่จริงจังของโค้ชก็ต้องทำตามที่โค้ชบอกตอนนี้กล้าในชุดวันเกิดมีเพียงรองเท้าบาสคู่เดียว ยืนอยู่หน้าโค้ชก้อง “ถ้าถูพื้นเสร็จแล้วไปเอากุญแจที่ห้องผมนะ”โค้ชบอกกล้าพร้อมกับเดินไปจากโรงยิม ปล่อยให้กล้ายืนนุ่งลมห่มฟ้าอยู่ภายในโรงยิม ถ้ามีใครมาเห็นคนตกใจว่ามีเด็กหนุ่มหน้าตาดี หุ่นเร้าใจกำลังถูพื้นโรงยิม กล้าถูพื้นด้วยความตื่นเต้นน้ำเหนียวก็ไหลออกจาแก่นชายของกล้าเป็นระยะ ลงพื้นโรงยิมทำให้กล้าต้องถูกพื้นซ้ำตรงจุดนั้นอีกรอบ ไม่นานกล้าก็ถูพื้นเสร็จจนทั่วโรงยิมและเดินเข้าไปที่ห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายของตนเองที่เหนียวตัวมาจากการออกกำลังและการทำความสะอาดโรงยิม โค้ชก้อง แอบมองกล้าเดินเข้าห้องน้ำเกิดนึกอยากจะแกล้งกล้าเลย เดินไปปิดไฟในโรงยิม พร้อมกับดึงประตูเหล็กลง กล้ากำลังอาบน้ำอยู่ได้ยินเสียงดึงประตูเหล็กลง ก็รีบปิดน้ำและกำลังจะพุ่งตัวออกจากห้องน้ำแต่นึกขึ้นได้ว่า ถ้าคนที่ปิดเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่โค้ชล่ะ แต่วินาทีนั้นประตูเหล็กถูกล็อคเรียบร้อยแล้ว นั่นหมายความว่าถ้ากล้าติดอยู่ในโรงยิมเรียบร้อยแล้ว กล้าพยายามตั้งสติหาทางออกจากห้องน้ำในโรงยิมนั้นไม่เช่นนั้น เขาจะต้องอยู่ในห้องน้ำด้วยสภาพเปลือยยันสว่างแน่นอนหรือหากหาทางออกได้ หลังจากที่โค้ชก้องกลับไปแล้วกล้าคงต้องเป็นชีเปลือยเร่ร่อนในมหาวิทยาลัย หาที่นอนแถวพุ่มไม้แน่นอน กล้าพยายามมองหาช่องทางที่อยู่รอบตัวและแล้วก็เห็นเป็นช่องหน้าต่างสำหรับระบายอากาศ เป็นลักษณะดันออก โดยมีเหล็กยึดจากด้านในแต่มันอยู่สูงเหนือหัวของกล้าและช่องหน้าต่างนั้นมีขนาดพอดีตัวกล้า กล้าคิดว่าคงไม่มีอะไรต้องเสียแล้วจึงตัดสินใจปีนเหยียบโถชักโครกแล้วปีนขึ้นไปที่ช่องหน้าต่างนั้นพยายามมุดตัวเองให้รอดผ่านช่องหน้าต่างตรงนั้นมาได้ ถ้าเป็นปกติก็คงจะไม่ได้ลำบากอะไรมาก แต่นี่คือ กล้าไม่มีเสื้อผ้าปิดกายสักชิ้นมันทำให้กล้าต้องระวังของสงวนตัวเองที่ตอนนี้หลับใหลเป็นพิเศษเพราะอาจจะบาดเจ็บได้ แต่ก็ผ่านช่องนั้นมาได้ แต่กล้าลืมคิดไปว่าอีกด้านของหน้าต่างนั้น คือแอ่งโคลน เมื่อร่างของกล้ารอดพ้นจากช่องหน้าต่างนั้นได้จึงหล่นไปในแอ่งโคลน กล้าไม่มีเวลาที่จะมาคิดอะไรแล้ว รีบวิ่งไปยังห้องพักโค้ชก้องที่อยู่บริเวณด้านหน้าโรงยิม กล้าวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต โชคดีที่ไฟในห้องยังไม่ปิดแสดงว่าโค้ชยังไม่กลับบ้าน จึงรีบเปิดประตูเข้าไปหาโค้ชก้องทันที “เฮ้ยกล้า เธอไปทำอะไรมา ทำสภาพมันเละขนาดนี้” โค้ชก้องแกล้งถามทำทีเหมือนไม่รู้เรื่องว่าเกิดเหตุการณ์อะไร “เมื่อกี้ผมทำความสะอาดโรงยิมเสร็จเลยเข้าไปล้างตัว แต่ยังไม่ทันที่จะเสร็จ สงสัยจะเป็นคนงานมาปิดโรงยิมครับผมเลยต้องปีนออกทางหน้าต่างห้องน้ำ แล้วก็ตกลงไปในแอ่งโคลนเนี่ยครับ”กล้าพยายามอธิบาย “สงสัยนายกรเป็นคนมาปิดมั้ง คงเห็นโรงยิมเปิดไฟอยู่ แล้วดึกแล้วด้วย” โค้ชก้องโกหกเพื่อให้กล้าหลงเชื่อ “งั้นผมขอยืมกุญแจโรงยิมโค้ชหน่อยครับจะเข้าไปล้างตัว” กล้าบอก แต่โค้ชก้องปฏิเสธ “ไม่ต้องหรอกเสียเวลา อีกอย่าง ถ้านายกรมาปิดโรงยิม แกคงปิดวาล์วน้ำห้องน้ำในโรงยิมไปแล้วแหละเอางี้แล้วกัน เธอตามโค้ชมา” โค้ชก้องออกอุบายอีกครั้งโดยพากล้าไปที่สนามหญ้าหน้าคณะ ให้ยืนตามระเบียบพักไว้แล้วเปิดฉีดน้ำจากสายยางไปที่ร่างของกล้า แน่นอน ถ้าเป็นส่วนอื่นคงไม่สะทกสะท้านกับกล้า แต่ตรงส่วนที่ละเอียดอ่อนที่สุดด้วยความแรงของน้ำก็ทำเอากล้าตัวงอเหมือนกัน โค้ชก้องพยายามฉีดน้ำใส่ของสงวนของกล้าอยู่บ่อย ๆ จนกล้าเริ่มจุกแต่ยังโชคดีที่โค้ชได้ยุติการฉีดน้ำไปแล้ว หลังจากนั้น โค้ชก้องก็ให้กล้าเดินตัวเปล่ากลับห้องทำงานของตนเอง กล้ากำลังจะหยิบชุดนักศึกษาแต่ถูกโค้ชห้ามไว้ “เดี๋ยวก่อนใครอนุญาต” โค้ชก้องถาม ทำเอากล้ามึนงง “ก็ผมกำลังจะแต่งตัวนี่ครับ”กล้าตอบด้วยความสงสัย “นั่นแหละใครอนุญาตให้ใส่ชุดนักศึกษากลับหอ” โค้ชก้องถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “อ่อแสดงว่า จะให้ผมใส่ชุดบาสกลับใช่ไหมครับ” “เปล่าไม่ต้องใส่อะไรกลับเลย เร็วๆ เถอะ เดี๋ยวผมไปส่งที่หอ”กล้าตะลึงในคำตอบของโค้ชก้องแต่ก็มิอาจขัดขืนได้เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โค้ชก้องคิดคำสั่งอะไรที่เหนือความคาดหมาย “แล้วชุดนักศึกษากับชุดบาสล่ะครับ”กล้าถาม “ทิ้งไว้ที่นี่เดี๋ยวผมจัดการให้คุณเอง” โค้ชก้องตอบ กล้าจึงหยิบกระเป๋าเป้ของตนเองจากโต๊ะของโค้ชก้องโดยหวังเล็ก ๆ ว่า โค้ชก้องจะเปลี่ยนใจกับคำสั่งที่คิดไว้ แต่ก็ไร้วี่แววกล้าเดินถือกระเป๋าเป้ตัวเอง ปิดตรงช่วงกลางลำตัวไว้ แล้วเดินออกจาห้องทำงานของโค้ชก้องโดยมีโค้ชก้องเดินตามหลังเพื่อปิดไฟ “อ้าวโค้ชก้องยังไม่กลับหรอครับ แล้วนี่ใครมายืนแก้ผ้าตรงนี้เนี่ย”เสียงประหลาดดังจากข้างหลังกล้าและโค้ชก้อง “นายกรนี่เองนึกว่าใคร ผมกำลังกลับครับ พอดีไอ้นี่เป็นเด็กในทีมผม มันขี้อายไม่เข้าเรื่องเลยจะฝึกให้มันกล้าหน่อย” โค้ชก้องตอบชายแก่วัยใกล้เกษียณที่ทำหน้าที่ดูแลสถานที่ซึ่งท่าทางไม่ค่อยตกใจกับสิ่งที่โค้ชก้องให้กล้าทำนัก
“ครับ นึกขึ้นได้ โค้ชก้อง สนามบาสกลางแจ้งสองสนามที่โค้ชให้ผมสั่งตาข่ายมาเปลี่ยน ตาข่ายมาแล้วนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเปลี่ยนให้แล้วโค้ชต้องการอะไรเพิ่มอีกไหมครับ ผมจะได้ไปบอกฝ่ายพัสดุให้” นายกรบอกโค้ชก้อง “ได้ๆงั้นเดี๋ยวไปสนามกันไปช่วยกันดูอีกที เผื่อผมตกหล่นอะไรไป” โค้ชก้องบอกนายกรเหมือนกับลืมว่าตอนนี้กล้าอยู่ในสภาพไหน เมื่อไปถึงสนามซึ่งมีไฟสปอร์ตไลท์สองดวงโค้ชก้องจึงบอกให้นายกร ลองเปิดไฟดูว่า สปอร์ตไลท์ยังสภาพใช้งานดีและสว่างเพียงพอไหม นายกรเดินไปที่คัทเอาท์ พร้อมสับสวิตช์ขึ้น สปอร์ตไลท์ส่องสนามสว่างขึ้น “กล้าช่วยอะไรผมหน่อย” โค้ชบอกกับกล้า “ค..ครับ”กล้าตอบรับอย่างติด ๆ ขัด ๆ เพราะกลัวว่าโค้ชจะให้ทำอะไรแปลกประหลาด “ผมอยากรู้ว่าเส้นสนามมันชัดเจนพอไหมคุณไปฝึกชู้ตทำแต้มในสนามหน่อยแล้วมาบอกผมทีว่าเส้นชัดพอไหม เอาสัก 20 รอบก็พอ”โค้ชก้องบอก “หา!!!โค้ชจะให้ผมเล่นบาสในสภาพนี้หรอ” “ใช่รอแปปนึง” โค้ชบอกกล้า ก่อนเดินไปที่รถของตนเองที่จอดอยู่ในลานจอดรถที่ไม่ไกลจากสนามมากนักเมื่อไปหยิบลูกบาสที่อยู่ท้ายรถแล้วจึงเดินกลับมาส่งลูกบาสให้กล้า กล้ารับมาด้วยความอายแต่ชั่วไม่กี่นาทีก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ และเดินลงสนามไปด้วยรองเท้าบาสที่สวมใส่เพียงคู่เดียว กล้าวิ่งชู้ตทำแต้ม ตามทักษะที่ตนเองได้เรียนมาอย่างคล่องแคล่ว จนครบตามจำนวนครั้งที่โค้ชต้องการแล้วจึงวิ่งมาที่โค้ชด้วยสภาพเปลือยเปล่าฉาบด้วยเหงื่อดูเซ็กซี่เร้าใจกว่าเดิมอีกหลายเท่า “เส้นหัวกะโหลกตรงใต้แป้นฝั่งโน้นมันลางไปเยอะไม่ค่อยชัดครับนอกนั้น โอเคครับโค้ช” กล้ารายงานโค้ชก้อง ตอนนี้ความอายของกล้า ได้หายไปหมดแล้ว “ดีมากนายกร พรุ่งนี้จัดการเรื่องตีเส้นให้ทีนะ งั้นผมขอตัวก่อน” โค้ชก้องบอกกับกล้า “ได้ครับโค้ช”นายกรตอบรับ โค้ชก้อง จึงเดินนำกล้ามาที่ลานจอดรถ “ชอบแบบนี้ไหมกล้า”โค้ชก้องถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลกับกล้า หลังจากปิดประตูรถ “ตอนแรกไม่ชอบครับแต่ตอนนี้เฉยๆ” กล้าตอบ “ไม่ชอบหรอกหรอเห็นแข็ง นึกว่าชอบ” โค้ชก้องแซวกล้า “ผมไม่ชอบโชว์อะไรแบบนี้แต่ถ้าโค้ชเห็นผมทำแล้วมีความสุข ผมก็ยอมได้ครับ” กล้าบอกโค้ชก้องทำให้โค้ชก้องผมยิ้ม พร้อมทั้งพุ่งไปจูบปากกล้า หนึ่งทีเป็นการขอบคุณ
|