แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jokecup เมื่อ 2021-10-10 23:22
อรรถวิทย์เดินถือกระเป๋านักเรียนไปตามทางเดินขึ้นตึกเรียนวันนี้เขามาโรงเรียนสาย เพราะขอลาครูเพื่อไปทำบัตรประจำตัวประชาชนที่เขตแถวบ้านเด็กหนุ่มรู้สึกว่าวันนี้เขาได้กลายเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว เพราะเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อจากเด็กชายอรรถวิทย์เป็นนายอรรถวิทย์
เขาเดินเข้าห้องน้ำเพื่อจัดการทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้องเรียนเมื่อเสร็จธุระเขาเดินมาล้างมือหน้าอ่างล้างมือซึ่งมีกระจกติดอยู่ด้านหน้า เด็กหนุ่มมองดูตัวเองในกระจกเขารู้สึกว่าแม้ตอนนี้เขาจะมีคำนำหน้าชื่อเป็นนายแต่ความจริงแล้วเขายังไม่มีอะไรที่เหมาะกับความเป็นผู้ใหญ่เลย
เขาเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่มีร่างกายผอมไม่มีกล้ามเนื้อตามแบบสมัยนิยมที่จะเอาไปอวดใคร ความสูงก็แค่ระดับปานกลางเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ ในวัยเดียวกัน แต่สิ่งที่ทำให้เขาดูแตกต่างจากคนอื่น ๆ คือ แว่นตาหนาเตอะที่เขาใส่อยู่มันทำให้เขาถูกจัดอยู่ในกลุ่มเด็กเนิร์ด หรือพวกที่ชอบขลุกตัวอยู่แต่กับตำราเรียนจนไม่มีสังคม
เด็กหนุ่มมองตัวเองแล้วได้แต่ทอดถอนใจใช่ เขาไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีสังคมจริง ๆ เพราะโรงเรียนมัธยมชายล้วนแห่งนี้ เป็นโรงเรียนที่ให้ค่ากับคนที่เด่นดังด้านกีฬาเท่านั้นส่วนเขาที่เป็นพวกเด็กคงแก่เรียน ที่มีจำนวนเพียงน้อยนิด แทบไม่เคยถูกยกย่อง เชิดชูหรือได้รับการสนับสนุนใด ๆ ต่างกับพวกนักกีฬา ที่ได้รับการส่งเสริมอย่างเต็มที่โดยเฉพาะเมื่อชนะการแข่งขันกลับมา จะยิ่งได้รับการยกย่องเชิดชู จนกลายเป็นกลุ่มอภิสิทธิ์ชนในโรงเรียนที่ใครก็แตะไม่ได้และมีแต่คนคอยห้อมล้อมเอาใจ
ออรถวิทย์เดินคอตกออกมาจากห้องน้ำเขาเดินถือกระเป๋านักเรียนตรงไปยังห้องเรียน เมื่อเข้าไปในห้องเขาก็ต้องประหลาดใจเพราะแทนที่จะเห็นครูที่กำลังสอน และเพื่อน ๆ ที่นั่งเรียนกันจนเต็มห้องเขากลับพบห้องที่เกือบจะว่างเปล่า มีเพียงแต่กลุ่มของ พิทพลที่นั่งจับกลุ่มทำอะไรกันสักอย่างอยู่หลังห้อง
พวกของพิทพลเมื่อเห็นอรรถวิทย์ปรากฏกายที่หน้าห้องก็เอ่ยทักขึ้นมาว่า
“อ้าวมาแล้วเหรอนายอรรถวิทย์ ตอนนี้เปลี่ยนจากเด็กชายเป็นนายแล้ว รู้สึกยังไงบ้างวะ”
อรรถวิทย์ที่ปกติไม่เคยอยู่ในความสนใจของใครไม่เคยตกเป็นเป้าสายตา เมื่อถูกทักโดยกลุ่มของพิทพล เขาก็รู้สึกตื่นกลัวขึ้นมา แต่เด็กหนุ่มพยายามทำใจดีสู้เสื้อแล้วเอ่ยถามคนในห้องกลับไป
“ครูกับเพื่อนคนอื่นๆ ไปไหนกันหมด”
“ครูโจ้ขอแรงคนอื่นๆ ไปช่วยจัดการทำความสะอาดห้องประชุมใหญ่ เพราะวันพรุ่งนี้จะมีงานกิจกรรมแสดงความยินดีและมอบรางวัลให้กับทีมบาสเกตบอลที่ชนะการแข่งขันระดับเขตแต่ที่มึงเห็นพวกกูอยู่ตรงนี้ไม่ต้องไปทำความสะอาดเหมือนคนอื่น ๆ เพราะบารมีไอ้พีทผู้เล่นที่ทรงคุณค่าของทีมบาสเกตบอลโรงเรียน” น้ำเสียงของผู้พูดแสดงความภาคภูมิใจในตัวเพื่อนสนิทอย่างปิดไม่มิดอรรถวิทย์พอได้ยินคำตอบเขาก็ไม่ได้สนใจอะไร กำลังจะเดินไปนั่งที่ที่นั่งของตัวเอง แต่ยังไม่ทันเดินไปถึงที่นั่งเสียงพิทพลก็ดังลอยขึ้นมาถามเขาว่า
“พวกกูตอบมึงแล้วแต่มึงยังไม่ตอบคำถามของพวกกูเลยนะ นายอรรถวิทย์”
เด็กหนุ่มชะงักขาที่กำลังก้าวเดินเขากลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก หันไปมองคนในกลุ่มนั้นก่อนจะเอ่ยคำพูดออกไปด้วยเสียงที่สั่น
“ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรต่างไปจากเดิมนะ”
เอ้เหมือนจะไม่ค่อยพอใจในคำตอบมันลุกขึ้นยืนแล้วพูดกลับมาว่า
“แต่ตอนนี้มึงโตเป็นผู้ใหญ่แล้วนะมันต้องมีอะไรที่เปลี่ยนบ้างสิ อย่างควยมึงอ่ะ มีขนหมอยขึ้นแล้วใช่มั้ย”
“ยังเรายังไม่มี” อรรถวิทย์ตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก ไอ้เอ้พอได้ยินอย่างนั้นก็หลุดหัวเราะออกมาเสียงดัง
“กูไม่เชื่อหรอกของอย่างนี้ต้องพิสูจน์ กูอยากเห็นจังตอนเด็กเรียนแก้ผ้ามันจะเป็นยังไง”
พูดจบเพื่อนสองคนในกลุ่มก็ลุกขึ้นมาทันทีพวกมันเดินไปปิดประตูห้องเรียนที่อยู่ 2ฝั่ง ขณะที่ไอ้เอ้กับเพื่อนอีกสองคนย่างสามขุมมาที่ตัวเด็กหนุ่มที่เกิดอาการลนลานตัวสั่นด้วยความกลัวแต่เขาถูกล้อมด้วยพลพรรคของพิทพลจนไม่มีทางหนีไปไหนได้ ไม่นานคนทั้งหมดก็เข้ามาล้อมตัวเขามีสองคนที่ล็อกแขนเขาไว้คนละข้าง อีกสองคนช่วยกันจับที่ขา ไอ้เอ้เป็นคนจับเขาถอดเสื้อผ้าออกทีละชิ้นเริ่มจากเสื้อนักเรียน แล้วตามด้วยกางเกงนักเรียน
แม้เด็กหนุ่มจะพยายามดิ้นรนขัดขืนแต่ก็เหมือนจะไม่เป็นผลสุดท้ายเขาก็ไม่อาจต้านทานแรงคนห้าคนได้กางเกงชั้นในสีขาวของเขาถูกถอดออกจากปลายเท้าในที่สุด
แล้วเสียงเฮฮาของคนในกลุ่มนั้นก็ดังเกรียวขึ้น
“ไอ้พีท เห็นมั้ยอย่างที่กูบอก ขนหมอยมันขึ้นแล้ว ดกซะด้วย มึงดูสิ”
แล้วไอ้เอ้กับตัวอรรถวิทย์หันหน้าไปทางที่พิทพลนั่งอยู่เด็กหนุ่มมองเห็นสายตาของพิทพลจับจ้องมาที่ตัวของเขาอยู่ เขาไม่เคยรู้สึกอายอะไรขนาดนี้มาก่อนแล้วตอนนั้นเองที่อยู่ ๆ ลำควยของเขาก็ค่อย ๆ แข็งตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว มันตั้งลำชูชันขึ้นมาอย่างที่เขาไม่สามารถบังคับหรือควบคุมมันได้
มันตื่นตัวเพราะสายตาของพิทพลที่จ้องมองมาเลือดในกายของเด็กหนุ่มอายุสิบห้าสูบฉีดไปทั่วร่างเขาเปลี่ยนจากความรู้สึกอับอายเป็นใจสั่นแรงด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ไอ้พวกที่จับตัวเขาไว้หัวเราะกันอย่างสนุกสนานต่างล้อเลียนที่เห็นท่อนควยของเขาที่แข็งตัวเต็มที่
“เห้ยอรรถวิทย์ ควยมึงแข็งว่ะ มึงมีอารมณ์เหรอวะที่เห็นคนมองควยมึงอยู่”
“กูว่าแม่งต้องเป็นพวกชอบโชว์แน่ๆ ดูดิ ควยแข็งไม่หดเลย คนปกติเจอแบบนี้ควยไม่แข็งสู้หรอกนะ”
คนในกลุ่มคนหนึ่งตั้งข้อสังเกตและดูเหมือนคนอื่น ๆ จะเห็นด้วยกับความคิดนี้
ตอนนั้นเองที่เด็กหนุ่มรู้สึกว่ามีมือๆ หนึ่งมาจับที่ท่อนควยของเขา แล้วรูดหนังหุ้มปลายให้เปิดออก สัญชาตญาณทำให้เขาหลับตาลงและพยายมดินรนขัดขืนให้ตัวเองเป็นอิสระจากพันธนาการแต่เขาก็สู้แรงคนห้าคนไม่ไหว
พอมือที่จับควยเขารูดหนังหุ้มปลายไปจนสุดมือนั้นก็ยังไม่ยอมปล่อยจากควยของเขา กลับเปลี่ยนมาใช้มันสาวท่อนควยของเขาชักเข้าชักออกเริ่มจากช้า ๆ แล้วค่อย ๆ แรงขึ้น ๆ ไม่นานร่างของอรรถวิทย์ก็เปลี่ยนจากการดิ้นรนขัดขืนเป็นบิดเกร็งด้วยความเสียวแทนมือนั้นใช้เวลาไม่นานในการชักควยให้เขา แล้วน้ำขาวข้นก็พุ่งออกจากปลายหัวเปิดนั้นมันส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วห้อง
เด็กหนุ่มรู้สึกอับอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนีตอนนี้เขาถูกปล่อยให้เป็นอิสระ อรรถวิทย์ทิ้งตัวลงนั่งคุกเขาอยู่ตรงนั้น เสียงหัวเราะยังดังกึกก้องเข้ามาในหูเขาเด็กหนุ่มลืมตาขึ้นมาเขาสบสายตาของพิทพลที่จ้องมองเขาอยู่ เห็นดังนั้นท่อนควยของเขาก็ค่อยๆ แข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง
ตอนนั้นเองที่อรรถวิทย์พบว่าตัวเองตื่นขึ้นมาบนเตียง ในห้องนอน รอบข้างยังคงมืดสนิท เขารู้สึกงุนงงและสับสน พอรู้สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นแค่ความฝันเขาก็ผ่อนลมหายใจออกมาแรง ๆ ด้วยความโล่งใจ
ชายหนุ่มล้วงมือเข้าไปใต้ผ้าห่มคลำเข้าไปใต้กางเกงชั้นในที่เขาใส่นอน แล้วก็สัมผัสถึงน้ำเมือกข้น ๆที่เจิ่งนองออกมาจากท่อนควยของเขา จนแฉะเต็มกางเกงชั้นใน ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงตรงไปล้างคราบคาวที่เปรอะเปื้อนร่างกายออกจากตัว หลังจากนั้นเขาเดินมาเช็ดเนื้อตัวที่หน้ากระจกพอร่างกายสัมผัสน้ำสติของเขาก็ค่อย ๆ มา ชายหนุ่มจ้องมองตัวเองในกระจกตอนนี้เขามีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ ไม่ใช่เด็กหนุ่มร่างจ๋องเหมือนตอนนั้น
อรรถวิทย์ย้อนนึกถึงสิ่งที่ฝัน
นั่นไม่ใช่ความฝัน
แต่เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจริง
เมื่อสิบห้าปีที่แล้ว
เหตุการณ์นั้นอยู่ๆ ก็กลับฟื้นขึ้นมาในห้วงคิดจากความฝันของเขา
มันเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตเขาตั้งแต่วันนั้นมาจนถึงวันนี้
{โปรดติดตามตอนต่อไป}
|