แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Nueng1236 เมื่อ 2021-11-2 05:29
นี่ก็ผ่านมา3 วันแล้วครับ ผมก็พอเลิกระแวงสงสัยเอ็มแฟนผมกับไอบิ้กหลานผมลงไปบ้างแล้ว แฟนผมก็ดูจะใช้ชีวิตปกติเราไปเรียนด้วยกัน กลับด้วยกัน แต่มีบ้างวันที่เอ็มแฟนผมเลิกเรียนก่อนหรือเอ็มแฟนผมไม่มีเรียนก็จะอยู่บ้าน ก็ดูไม่มีอะไรน่าสงสัยแต่ผมก็ไม่ได้ไว้วางใจทั้งหมดนะครับส่วนนิสัยทะเล้นกวนตีนของไอบิ้กหลานผม คิดว่าคงเป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชาย วันนี้ก็เป็นวัดหยุดสุดสัปดาห์ครับเรา 3 คนอยู่บ้านกัน เลยนั่งคุยกัน หาไรกินกัน “อา ผมขออยู่นี่ไปก่อนได้ไหมอะไม่อยากกลับอะ กลับไปก็ไม่มีไรทำ” ไอบิ้กหันมาบอกทำน่าตาอ้อนวอน “เอาที่มึงสบายใจเถอะอย่าให้ป้าเพ็ญมาด่ากูละกันว่า พามึงเกเร” ผมบอกออกไป “รู้แล้วน่าโห ผมจะเกเรอะไร ผมเด็กดีจะตาย ” มันทำน่าตาทะเล้นกวนตีนใส่ผม …………………………………….. “แล้วบิ้กคิดว่าจะต่อมอไหนอะ”เอ็มแฟนผมทักถาม “ก็คงมอแถวลาดกระบังละครับพี่เอ็ม”ไอบิ้กหลานผมตอบไป ส่วนผมก็นั่งดูหนังอยู่ข้างๆ ฟัง 2 คนคุยกัน ดูกันไปบ้าง “อ้อแล้วเล็งไว้คณะไรอะ ” เอ็มถามกลับไป “ถ้าวิศวะไม่ได้คงคณะแนวๆ วิทยาศาสตร์ครับพี่เอ็ม พี่เอ็มอุสา ติวให้ ยังไงก็จะไม่ให้ผิดหวังครับ ”ไอบิ้กตอบ “ติวอะไรกันเนี้ย2 คนนี้ ” ผมสงสัยเลยถามออกไป “ก็ติววิชาที่คาดว่าน้องมันจะใช้ไงตัวเอง”เอ็มแฟนผมหันมาบอก “วิชาไรบ้างไปติวกันตอนไหนนิ” ผมถาม “ก็พวกวิทคณิต ไง น้องมันจะได้ไม่เครียด ไม่หมกหมุ่นด้วย” เอ็มแฟนผมตอบ “ครับอ่อนบางวิชาอะอาเลยขอให้พี่เอ็มเขาติวให้หน่อย” บิ้กหันมาบอก “ไปละผมไปหาเล่นเกมดีกว่า” ไอบิ้กหลานตัวดีบอก ละก็เดินหายเข้าห้องไป “4โมงครึ่ง แล้ว เค้าไปทำกับข้วละนะ” เอ็มหันมาบอก แล้วก็เดินตามบิ้กหลานผมออกไป พอเอ็มออกไปเข้าครัวผมก็กำลังจะหันกับไปดูหนังในทีวีแต่ก็เห็นโทรศัพท์เครื่องหนึ่งบนโซฟาที่ไอบิ้กนั่ง... ผมตัดสินใจหยิบโทรศัพท์เครื่องนั้นขึ้นมาดูกดปุ่มเปิดด้านข้างดูก็ปรากฏว่าไม่ได้ล็อครหัสหน้าจอเอาไว้ ผมยอมรับครับว่าเป็นนิสัยที่ไม่ดีแต่แอบเล่นโทรศัพท์ของคนอื่น แต่ด้วยความไม่ไว้วางใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เลยแอบเข้าดูโทรศัพท์ของไอบิ้กผมกดไปที่แกลเลอรี่...ทุกอย่างดูปกติ มีรูปภาพทั่วไป ไม่มีอะไรที่น่าสงสัยหรือรูปภาพหวาบหวิวแต่อย่างใด จากนั้นตาที่ไม่มีของผมก็เห็นแอพไลน์ เลยทำนิสัยแย่กดเข้าไปดู ไลน์ไอบิ้ก....ก็ปกติดี มีแชทมันคุยกับเพื่อน คุยกับป้าเพ็ญ แต่มีแชทนึงเป็นแชทของไลน์เอ็มแฟนผม........ ทั้งสองคงแลกไลน์กันตอนที่ผมไม่อยู่.....ผมเลยกดเข้าไปอ่านดู บิ้ก : วันนี้ติวด้วยนะครับ เอ็ม : กี่โมงเอาวิชาไรบ้าง เดี๋ยวพี่หาหนังสือไปด้วย บิ้ก : เอาพื้นฐานก่อนก็ได้ครับ ............................................แล้วแชทก็จบไป ทุกอย่างดูปกติดี ไม่มีอะไรที่ดูน่าสงสัย ตอนนั้นมันทำให้ผมเลยไว้ใจในระดับนึงว่าคงไม่มีอะไรแบบแต่ก่อนที่คงจะเกิดขึ้น แต่แล้วเสียงเปิดประตูห้องก็ดังขึ้นมาผมรีบกดออกจากแอพ ล้างแอพที่เคยเข้า และกดปุ่มปิดหน้าจอ จากนั้นก็รีบวางโทรศัพท์ไว้ที่เดิมก่อนที่ไอบิ้กหลานผมจะเดินมาพอดี “ผมลืมโทรศัพท์ไว้อาเห็นโทรศัพย์ผมป่าวอะ” ไอบิ้กถามผม “นั้นป่าว”ผมชี้โทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะโซฟา ไอบิ้กหยิบไปนั้นก็เดินกลับห้องทันที หลังกินข้าวเสร็จ...เราก็นั่งคุยกันที่โซฟาพักใหญ่จนจะ 2 ทุ่ม ก็ได้เวลาที่เราจะเข้าห้องกัน แต่เอ็มแฟนผมบอกว่าขอตัวไปติวให้ไอบิ้กหลานผมซึ่งใช้เวลาไม่นาน ผมก็โอเค เลยบอกไปว่า ผมจะอาบน้ำเข้าไปดูซีรีย์ในห้องนอนแล้วแล้วผมก็เดินเข้าห้องไปผมอาบน้ำ แต่งตัวเปลี่ยนชุด กำลังจะล้มตัวลงนอนหาซีรีย์ดูใจก็อยากรู้ว่า 2 คนนั้นเป็นยังไงบ้าง เลยคว้านหาโทรศัพท์ จะเปิดกล้องวงจรปิดที่ผมแอบติดเอาไว้แต่พอเปิดดันมองเห็นแต่บนหลังตู้ เดาผมว่า ตอนที่เก็บกวาดห้อง คงมีการย้ายตู้ย้ายของกันจนมันมาบังกล้อง ผมกลัวว่า 2 คนนั้นจะรู้รึป่าวว่าผมแอบเอากล้องมาติดไว้ในห้อง แต่ยังไงผมก็ไม่ละความพยายามผมแอบย่องไปหน้าประตูห้องแล้วเปิดประตูห้องนอนผมอย่างเบามือ แล้วย่องไปที่หน้าห้องไอบิ้กหลานผมจะเอามือบิดลูกบิดประตู แต่ก็คิดในใจ ถ้ามันล็อคอีกแบบคราวที่แล้ว ก็จะเกิดเสียงเลยค่อยแนบหูเข้าไปตรงวงกบประตู แล้วผมก็ได้ยินเสียงของทั้งคู่พูดคุยกันอยู่ในห้อง “ติวเสร็จแล้ววันนี้ไม่ได้เหรอครับพี่เอ็ม” เสียงไอบิ้กหลานผมถาม ผมก็ไม่รู้ว่าไม่ได้คืออะไร “ไม่ได้หนึ่งอยู่” เสียงเอ็มแฟนผมตอบ “แย่จังเลยนะครับ”ไอบิ้กบอก “ทำบ่อยๆ ก็ไม่ดี เก็บไว้บ้าง” เอ็มแฟนผมบอก “ผมว่าสุขภาพดีมากกว่านะ...มันทำให้ผมสบายตัวพี่เอ็มก็ชอบไม่ใช่หรอ ” ไอบิ้กบอกไป “หื่นจังนะมาติวให้เสร็จ เดียวหนึ่งก็สงสัยหรอก” เอ็มบอก “ก็ได้ครับงั้นเอาไว้วันธรรมดา ตอนที่อาหนึ่งไม่อยู่แล้วกันนะครับ ” เบสบอก “อืมม...ตามนั้น...เก็บไว้ให้พี่เยอะๆ ละ มาติวต่อได้แล้ว” ผมแอบฟังแล้วใจกระตุกวูบเลยครับ ผมไม่ร้องไห้ แต่ผมโมโหมากกว่าการคุยสองแง่สองง่ามแบบนี้ ผมก็พอเดาได้ว่าคืออะไร แต่ผมไม่เข้าว่าทำไมนิสัยแบบนี้ของแฟนผมมันถึงเลิกไม่ได้ แต่แต่หลานผม ญาติผม ก็ยังไม่เว้นผมโมโหมากครับ แต่ยังไงผมจะต้องเห็นกับตาให้ได้ในสิ่งที่สงสัย แล้วผมก็รู้สึกว่ารอบนี้ แฟนผมระมัดระวังตัวอย่างมาก วันนี้วันจันทร์แล้วครับแล้วที่สำคัญคือ วันนี้เป็นวันที่ 2 คนนั้นคุยกัน เพราะ ผมมีเรียนทั้งวัน ส่วนเอ็มแฟนผมมีเรียนวิชาเช้าวิชาเดียวถึง 11 โมง ผมทำตัวให้เป็นปกติ ส่วนแฟนผมก็ทำตัวเป็นปกติ เรานั่งกินข้าวเที่ยงกันที่โรงอาหารก่อนที่แฟนผมจะขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ผมสบจังหวะหลังจากเอ็มแฟนผมเดินไปนิดเดียวรีบรื้อกระเป๋าหาโทรศัพท์ โดยปกติแล้ว เราสองคนจะไม่เล่นโทรศัพท์ของกันและกันสักเท่าไหร่ส่วนนึงคือ เอ็มแฟนผมซีเรียสมาก ผมเลยไม่ค่อยจะได้มีโอกาสจับมือถือแฟนผมสักเท่าไหร่ ผมเปิดเข้าแอพไลน์มีหลายแชทที่ถูกคุย ทั้งเพื่อน กลุ่มเรียน บลาๆๆ แต่แล้วผมก็สะดุดเข้ากับไลน์นึงชื่อว่า BW เป็นไลน์ที่ไม่มีรูปโปรไฟล์ซึ่งผมแปลกใจ เพราะไลน์ของไอบิ้กมีรูปปกติ เพราะผมมีไลน์มัน ผมจึงกดเข้าไปดู แล้วผมก็ต้องมือสั่น…… BW :เมื่อไหร่จะมาครับพี่ เอ็ม : เลิกแล้วแต่พี่ต้องไปกินข้าวกับหนึ่งก่อน BW : เร็ว ๆสิครับ มันคิดถึงพี่แล้วนะ พี่ไม่คิดถึงมันหรอ เอ็ม :ไม่เชื่อหรอก มันจะคิดถึงได้ยังไง BW : Senta photo BW : นี่ไงครับเชื่อหรือยังว่ามันคิดถึง เอ็ม :ไอเด็กบ้า พอแล้ว เดี๋ยวพี่กินข้าวก่อน BW : ครับ ใกล้แล้วทักมาบอกนะครับผมจะได้เตรียมตัว........................ ตอนนั้นคือผมหน้าสั่นมือสั่น ใครไม่โดนแบบ ผม ถึง 2 ครั้ง ก็คงไม่เข้าใจหรอกครับ มือที่จับโทรศัพท์สั่น... “ตัวเองเค้าไปละนะ”เสียงเอ็มแฟนบอกมา “อือ” ผมตอบกลับไป “เป็นไรเนี้ยดูเครียด ๆ ” เอ็มแฟนผมถาม “ป่าว อาจารย์อะดิสั่งงานมาอีกละ” ผมบอกออกไปแบบโกหก “ตั้งใจเรียนละจะกลับละบอกเค้าด้วย เค้าจะได้เตรียมทำกับข้าวไว้ เค้าไปละนะ เดะเค้านั่งแท็กซี่กลับเองกะได้ตัวเองเอารถไว้นี่ละ ” แฟนผมบอกมา ละก็เดินห่างจากผมไป “อือให้กูทักบอกก่อนกูกลับ มึงจะได้เตรียมตัวใช่ไหมละ” ผมตอบไปอย่างแผ่วเบาแบบที่แฟนผมไม่ได้ยิน ความรู้สึกที่แฟนผมค่อยๆ เดินห่างจากผมออกไป ตอนนั้นผมบรรยายไม่ถูกจริง ๆ ครับผมเป็นความรู้สึกแบบคนที่บอกเลิกกันแล้ว หรือ เราไม่มีความรักให้กันแล้ว ผมไม่ร้องไห้แบบคราวที่แล้วแต่มันเจ็บจุกอยู่ในใจ ยิ่งเดินห่างออกไป ความรู้สึกที่มีให้มันยิ่งน้อยลง........................................ ชอบไม่ชอบยังไงคอมเม้นไว้ได้นะครับ สำหรับใครที่รอฉากนั้น มาตอนน่าแน่นอนครับ แต่ต้องบอกเลยครับ พิมเล่าแล้ว นึกถึงความรู้สึกนั้น มันก็ยังเจ็บอยู่เลยครับ สำหรับใครที่ซีเรียสเรื่องคำผิด ต้องอภัยด้วยนะครับ
|