ขออภัยอย่างยิ่งที่หายไปนาน เนื่องจากตอนนี้ชีวิตวุ่นวายไปหมด ทั้งเรื่องงาน และปัญหาส่วนตัวอีก เลยไม่ได้เอามาลงให้อ่านกัน เรื่องราวตอนนี้ เป็นการเริ่มเรื่องราวทางฝั่ง "นาย" ตำรวจกันบ้าง ไขปมว่า ทำไมถึงมีรสนิยมแบบนี้นะครับ
“ว9 ว9 มีนักเรียนม.ปลาย ถูกชายวิกลจริตใช้อาวุธจี้เป็นตัวประกัน”เสียงวิทยุของแบงค์ตำรวจหนุ่มไฟแรงที่เพิ่งบรรจุในสถานีตำรวจแห่งนี้ดังขึ้นแบงค์ซึ่งมียศเป็นร้อยเวร รีบคว้าวิทยุพร้อมไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมกับตำรวจอีกหลายนาย ซึ่งอายุแก่กว่าแบงค์ หรือเรียกได้ว่าแบงค์ เป็นตำรวจที่อายุอ่อนที่สุดในสถานีตำรวจแห่งนี้ก็ว่าได้ “มึงอย่าเข้ามานะไม่งั้นอีนี่ตาย” ชายหนุ่มวิกลจริตเนื้อตัวมอมแมมกำลังบ้าคลั่งเอาอาวุธมีดจี้คอเด็กหญิง ม.ปลายเป็นตัวประกัน “ใจเย็นพี่อย่าทำอะไรแฟนผม” เด็กผู้ชายอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเด็กผู้หญิงพยายามขอร้องแต่ก็ไม่เป็นผล “กูบอกว่าอย่าเข้ามาไงหึ่ยยยยย” ชายหนุ่มวิกลจริตเริ่มบ้าคลั่งมากขึ้น “ผมขอร้องเอาตัวผมไปแทน”ชายหนุ่มเริ่มขอร้องอีกครั้ง “ชุดนักเรียนกูอยากได้ชุดนักเรียน” ชายหนุ่มคนนั้นเห็นเด็กหนุ่มในชุดนักเรียนเดินเข้าไปจึงได้เปลี่ยนเป้าหมายจากแฟนสาวของเขามาเป็นเด็กหนุ่มแทน “เห้ยไอ้กิต” เพื่อนต่างตกตะลึงในสิ่งที่เห็น เพราะตอนนี้กิตเพื่อนของเขาอยู่ในวงแขนของหนุ่มวิกลจริตคนนั้นแทนแล้ว “พี่ปล่อยผมไปเถอะอยากได้อะไรผมให้พี่หมดเลย” กิตบอกกับหนุ่มวิกลจริตคนนั้น “กูจะเอาชุดนักเรียนๆ”หนุ่มวิกลจริตคนนั้นพูดซ้ำๆ พร้อมกับมองมาที่กิต “ไอ้เชี้ยมันจะเอาชุดนักเรียนว่ะ พวกมึงสักคนถอดให้มันหน่อย” กิตตะโกนบอกเพื่อนเอ็มตัดสินใจถอดเสื้อนักเรียนของตนเอง พร้อมทั้งกางเกงนักเรียนออกแล้วเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว แล้วรวบรวมเสื้อผ้าเดินไปส่งชายหนุ่มวิกลจริตคนนั้น “อ่ะผมเอามาให้แล้ว”เอ็มบอกพร้อมกับวางชุดนักเรียนของตนเองลงข้างหน้าหนุ่มบ้าคลั่งนั่น “สีน้ำเงินเอาสีน้ำเงินด้วย” ชายหนุ่มพูดซ้ำๆ เหมือนเด็กจะเอาของ “ไอ้เชี้ยมันจะเอากางเกงในกูด้วย” เอ็มบ่นกับเพื่อน “เอาเหอะไอ้กิตจะได้รอด เดี๋ยวพวกกูรวมเงินซื้อให้ใหม่” เอ็มตัดสินใจเอามือกุมเป้าแล้วค่อยถอดกางเกงในสีน้ำเงินกองไว้ที่ชุดนักเรียน พร้อมกับเดินถอยไปรวมกับเพื่อน ปอนด์จึงได้ถอดเอาเสื้อคลุม มาห่มให้กลางลำตัวของเอ็มประหนึ่งผ้าขนหนู “จะเอาชุดนี้ด้วยๆๆ”ชายหนุ่มยังคงบ้าคลั่งต่อพร้อมทั้งมองมาที่กิตที่อยู่ในวงแขนเขา “ได้ๆปล่อยผมก่อน” กิตต่อรอง “ไม่จะเอาชุดนี้ๆๆๆ” กิตตัดสินใจปลดกระดุมเสื้อนักเรียนออกจนหมดแล้วถอดเสื้อนักเรียนออกจากร่างอย่างทุลักทุเล ต่อจากนั้นกิตตัดสินใจปลดเข็มขัดพร้อมทั้งถอดกางเกงนักเรียนสีน้ำเงินแบบเดียวกับเอ็มออกวางกองไว้ข้างๆ กองเสื้อผ้าของเอ็ม ตอนนี้สภาพของกิตมีแค่กางเกงในสีขาวและรองเท้านักเรียนสีดำ “สีขาวชอบๆๆๆเอาด้วยๆๆ” ชายหนุ่มพูดขึ้นเมื่อเห็นกางเกงในสีขาวของกิต กิตจึงรวบรวมความกล้าถอดกางเกงในออกวางกองไว้ด้วย พร้อมกับเอามือยืนกุมเป้าไว้โชคดีที่ตำรวจมาถึงพร้อมกู้ภัยเมื่อชายหนุ่มคนนั้นเห็นแสงไฟฉุกเฉินก็เกิดอาการตกใจลากตัวของกิตเข้าไปในบ้านร้างใกล้ๆ นั้น ตำรวจที่มาถึงที่เกิดเหตุเริ่มวางแผนอย่างรีบเร่งพร้อมกับกระจายกำลังทำตามหน้าที่ที่ได้รับโดยแบงค์รับหน้าที่เป็นหน่วยเจรจา กับนายตำรวจที่อายุมากกว่าแบงค์สิบกว่าปีแบงค์และนายตำรวจคนนั้นเดินเข้าไปในบ้านร้างนั้น “ใจเย็นๆอย่าทำอะไรเด็กปล่อยตัวเด็ก” ตำรวจยืนตะโกนคุยอยู่หน้าประตูส่วนชายหนุ่มคนนั้นยืนด้วยอาการกลัวในบ้านร้าง แต่เมื่อชายหนุ่มยิ่งสั่นกลัวก็ยิ่งรัดคอของกิตมากขึ้น แบงค์เห็นท่าไม่ดี จึงเสนอแผนเข้าไปเจอจาซึ่งตำรวจอีกนายก็ตกลง แบงค์พยายามเดินเข้าไปพร้อมกับถอดอาวุธที่เหน็บไว้ข้างกายวางลงแล้วเตะส่งให้รุ่นพี่ตำรวจเก็บไว้ให้ชายหนุ่มคนนั้นเห็นว่าตัวเองไม่มีอาวุธโดยหวังว่าจะให้เอาตัวเองเป็นตัวประกันแทนเด็กหนุ่มม.ปลายคนนั้น “อย่าเข้ามานะแกมีมีดในเสื้อ” ชายหนุ่มตะโกนออกมา แบงค์หันมองตำรวจรุ่นพี่ของตัวเองอีกครั้ง ตำรวจคนนั้นพยักหน้าเป็นสัญญาณว่า ให้ทำทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของตัวประกัน “ไม่มีอาวุธเลยไม่เชื่อดูนะ” แบงค์ค่อยเดินเข้าไป พร้อมกับถอดเสื้อนอกของตำรวจออกวางไว้กับบนโต๊ะเก่าที่สภาพชำรุด “ไม่เชื่อๆๆๆ”แบงค์หันมองตำรวจอีกครั้ง เพื่อต้องการคำยืนยัน และผลที่ได้ก็คือคำตอบเดิม แบงค์จึงตัดสินใจถอดเสื้อซับในสีขาวออกเผยให้เห็นร่างกายช่วงบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามแบบสมส่วนเพราะผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก “นั่นไงๆพกปืนอยู่เลยออกไป” คราวนี้ แบงค์ถึงกับเดินหันหลังกลับไปหานายตำรวจรุ่นพี่คนนั้น “พี่มันจะให้ผมถอดกางเกงด้วยผมไม่ไหวนะพี่” แบงค์บอกกับตำรวจคนนั้น “เห้ยเราเป็นตำรวจเพื่อความปลอดภัยของผู้บริสุทธิ์ เราต้องทำได้ทุกอย่าง”นายตำรวจรุ่นพี่คนนั้น ตบไหล่แบงค์ แบงค์จึงเดินกลับไปหาหนุ่มวิกลจริตอีกครั้งก่อนที่จะบอกกับหนุ่มวิกลจริตนั้นว่า “นี่ผมไม่มีอาวุธจริงๆนะ เอาผมเป็นตัวประกันดีกว่า ไม่เชื่อหรอ เดี๋ยวผมถอดให้ดู” แบงค์ถอดรองเท้าออกก่อนก่อนที่จะปลดเข็มขัดออกแล้วจึงปลดตะขอกางเกงเป็นลำดับต่อไป จนเหลือแค่กางเกงในสีขาวตัวเดียวแล้วจึงใส่รองเท้าหนังกลับเหมือนเดิม พร้อมกับเดินไปหาชายวิกลจริตนั้นต่อ “นั่นอะไรอ่ะพกระเบิดมาหรอ อย่าเข้ามานะเว้ย ไอ้งั้นไอ้นี่ตาย” ชายวิกลจริตทำท่าจะเอามีดปาดคอเด็กม.ปลายคนนั้น “อย่านะๆผมไม่มีอาวุธจริงๆ งั้นเอาแบบนี้ละกัน” แบงค์พูดจบ สูดหายใจลึกๆ หนึ่งครั้งพร้อมกับรวบรวมความกล้า แล้วเอามือสอดเข้าไปที่ขอบกางเกงในสีขาวของตนเองแล้วรูดลงไปกองที่ขา “นี่ไงผมแก้ผ้าหมดเลย ไม่มีอะไรเลยเห็นไหม” แบงค์บอกกับชายหนุ่มวิกลจริต “ดีๆตำรวจแก้ผ้า ตำรวจมานี่ๆ” ชายวิกลจริตนั้นบอกให้แบงค์เดินไปหาตนเอง และด้วยความที่กางเกงในที่เพิ่งถูกถอดออกนั้น กองอยู่ที่ข้อเท้า ทำให้การเดินของแบงค์ลำบากแบงค์จึงต้องถอดกางเกงในซึ่งเป็นเสื้อผ้าชิ้นสุดท้ายของตนเองออกจากตัวก่อนเดินกุมเป้าไปหาชายหนุ่ม “ไม่เอาๆชูมือด้วยๆ” ชายวิกลจริตนั้น ให้แบงค์ชูมือขึ้นแล้วเดินเข้าไปหาชายหนุ่มนั้นเมื่อได้จังหวะ ชายวิกลจริตนั้น ก็ปล่อยร่างของเด็กหนุ่มม.ปลายเด็กชายวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต แล้วเปลี่ยนมาล็อคคอแบงค์แทนตอนนี้ตำรวจหนุ่มเปลือยล่อนจ้อนอยู่ในอ้อมแขนของคนบ้า โดยมีมีดจ่อที่คอหลังจากนั้น ชายวิกลจริตนั้นก็พาตัวประกันอย่างแบงค์ออกมานอกบ้านอยู่สายตาสาธารณชนอีกครั้ง สร้างความฮือฮาให้กับไทยมุงที่มามุงดูเยอะขึ้นซึ่งนั่นหมายถึง ทุกสัดส่วนอณูรูขุมขนบนร่างกายของแบงค์ ยกเว้นช่วงข้อเท้านั้นถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชนเรียบร้อยแล้ว มันคงเป็นความอายที่สุดในชีวิตของนายตำรวจบรรจุใหม่นายนี้ก็ว่าได้ที่ต้องแก้ผ้าต่อหน้าคนที่ไม่รู้จัก หลายสิบคน และเมื่อชายวิกลจริตนั้นเผลอตำรวจนายหนึ่งก็เข้าล็อคแขนและปัดมือตกลงพื้น พร้อมเอาไม้สามง่ามมาล็อคคอ แขนและขาของชายวิกลจริตนั้นจนสิ้นฤทธิ์ ส่วนแบงค์ มีกู้ภัยเอาผ้าหุ่มที่อยู่บนรถกู้ภัยมาห่มให้ เมื่อชายวิกลจริตนั้นกำลังถูกนำตัวขึ้นไปท้ายรถตำรวจ แบงค์ก็เดินเข้าไปในบ้านร้างนั้นอีกครั้งเพื่อเอาเครื่องแบบที่เขาถอดไว้ระหว่างปฏิบัติหน้าที่โดยมีตำรวจรุ่นพี่เดินไปเป็นเพื่อน “ขอบใจมากแบงค์ถ้าไม่ได้แบงค์นี่ ฝ่ายระงับเหตุคงทำอะไรต่อไม่ได้” นายตำรวจรุ่นพี่ขอบใจแบงค์ก็ยิ้ม ก่อนที่จะพูดแก้เขินว่า “แต่ก็อายเหมือนกันนะพี่อ่าวเห้ย ชุดผมหายไปไหนเนี่ย”แบงค์โพล่งออกมาเมื่อเห็นกองเสื้อผ้าของเขาที่ควรอยู่ที่เดิม กลับอันตรทานหายไป “นั่นสิวะในนี้หลังจากที่แกโดนลากออกไป ก็ไม่มีใครอยู่แล้วนะ” “ทำไงล่ะทีนี้”แบงค์หน้าเสียและกังวลว่าควรจะทำอะไรต่อไป “งั้นรอก่อนนะ”นายตำรวจรุ่นพี่วิทยุถามตำรวจนายอื่นที่ร่วมภารกิจนี้ถึงเครื่องแบบของแบงค์แต่ไม่มีใครเห็นเลย “อ่าวลูกพี่ ไม่ใส่เครื่องแบบหรอคับ” กู้ภัยถามแบงค์ด้วยความสงสัยที่ยังเห็นอยู่ในสภาพเกือบเปลือยมีเพียงผ้าห่มที่ให้ยืมไว้ห่มไว้เท่านั้น “เออน้องมีใครเห็นเครื่องแบบพี่ไหม ไม่รู้ใครเอาไป ตามหากันอยู่เนี่ย”แบงค์กระซิบบอกกู้ภัย “ก็ไม่มีใครเห็นนะพี่ถ้างั้น พี่เอาผ้าห่มไปก่อนก็ได้แล้วถ้าเรียบร้อยแล้วผมค่อยไปเอาคืนที่โรงพักแล้วกัน” “ขอบใจมากน้อง”แบงค์บอกกู้ภัยคนนั้นก่อนที่เอาเปลี่ยนเอาผ้าห่มนั้นมานุ่งแบบผ้าขนหนูเพื่อความทะมัดทะแมง เมื่อรถตำรวจของผู้ต้องหามาจอดหน้าสถานีตำรวจคนบนสถานีตำรวจต่างลุกมาดูหนุ่มวิกลจริตนั้นด้วยความสงสัยจนแบงค์ไม่กล้าที่จะลงจากรถ จนเมื่อหนุ่มวิกลจริตนั้นถูกพาตัวขึ้นไปยังสถานีตำรวจแล้วแบงค์จึงค่อยๆ ออกจากรถ ขณะนั้นเวลา บ่ายสี่โมง แสงแดดเริ่มเบาบางลงบ้างแต่ก็ยังทำให้เห็นอะไรชัดเจน รวมถึงร่างของแบงค์ที่มีผ้าห่มนุ่งเพียงพืนเดียวระหว่างที่แบงค์กำลังใส่หมวกตำรวจเพื่อไม่ให้เป็นภาระในมือเวลาจับชายผ้าห่มวิ่งและกำลังจะปิดประตูรถ ก็มีชายหญิงคู่นึงเดินลงจากโรงพักทำให้แบงค์ต้องรีบปิดประตูรถ และหาที่ลับตาซ่อนตัวชั่วคราว แต่แล้วปลายผ้าห่มก็ถูกมุมของประตูรถเกี่ยวไว้กับตัวรถและกระชากออกจากร่างของแบงค์ นาทีนั้นแบงค์เหลือเพียงหมวกกับรองเท้าติดกายไว้เท่านั้น หลบอยู่อีกด้านของรถตำรวจ ภาวนาให้สองคนนั้นรีบไปจากบริเวณนั้นเร็วๆ จนเมื่อเสียงนั้นหายไปพร้อมกับเสียงของมอเตอร์ไซค์ที่ขับออกไปแบงค์รวบรวมความกล้าอีกครั้ง หวังจะดึงผ้าขนหนูพื้นนั้นคืน แต่ก่อนที่แบงค์จะลงมาได้ล็อคประตูรถเรียบร้อยแล้ว เท่ากับว่า แบงค์ไม่สามารถเอาผ้าห่มมาปิดร่างกายเปลือยเปล่าของแบงค์ได้อีกแล้วแบงค์จึงต้องวิ่งเปลือยกายโดยมีหมวกตำรวจปิดเป้าไว้ รีบวิ่งตรงไปยังแฟลตตำรวจซึ่งยังโชคดีที่ส่วนใหญ่จะเป็นแม่บ้าน ที่นั่งเล่นกับลูก หรือ ทำกับข้าวให้สามีที่เป็นตำรวจอยู่ในห้องประกอบกับห้องของแบงค์อยู่ชั้น 4 แต่อยู่ห้องริมสุดฝั่งบันไดนั่นหมายความว่าถ้าแบงค์สามารถถึงบันไดชั้น 4 ได้ เขาก็สบายแล้วแต่ระยะทางจากที่เขาอยู่กับแฟลตตำรวจก็ไม่ใช่จะใกล้ แบงค์รีบวิ่งอย่างไม่คิดชีวิตหวังว่าจะไม่มีใครเห็น แบงค์วิ่งขึ้นบันไดอย่างรวดเร็วโดยหวังว่าจะไปถึงชั้น 4 เร็วๆ เมื่อกำลังจะถึงชั้น 4 ก็มีเสียงคนเดินมาทาบันไดแบงค์รีบถอยลงมา โชคดีที่ชั้น 3 แทบทุกห้องปิดหมดแบงค์จึงอาศัยซ่อนตัวที่มุมบันได ที่มีตู้เตียงชำรุดรอจำหน่ายบังอยู่จนสิ้นเสียงคนเดิน แบงค์จึงปีนออกมา พร้อมกับวิ่งไปที่กระถางต้นไม้หน้าห้องเพื่อหยิบกุญแจภายใต้กระถางที่ซ่อนไว้ ไขเข้าไปในห้อง “เห้อถึงสักที” แบงค์บ่นเมื่อมาถึงห้องพร้อมกับหยิบหมวกออกจากกลางร่างกายและถอดรองเท้าออก “เชี้ยอะไรของกูวะเนี่ย” แบงค์ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อหมวกที่เอาออกจากแก่นกายของเขามีน้ำข้นสีขาวยาวยืดออกมา “กูว่าแล้วว่าทำไมตอนคนเดินผ่านกูต้องเกร็งขนาดนั้น” น้ำนั้นได้หลั่งออกมาตอนที่แบงค์หลบอยู่ที่บันไดเมื่อครู่มันตื่นเต้นมาก จนทำให้แบงค์ไม่รู้ตัวว่าตัวเองถึงจุดสุดยอดแล้วแบงค์ต้องรีบหากระดาษชำระมาเช็ดน้ำที่หมวกและรีบไปหยิบเครื่องแบบสำรองที่เหลือออกมาจากตู้ ก่อนจะเปิดลิ้นชักหยิบกางเกงในและเสื้อซับในออกมาสวมใส่ และรีบไปโรงพักซึ่งขณะนี้มีตำรวจรุ่นพี่กำลังปฏิบัติหน้าที่แทนให้อยู่ “วันนี้มันวันอะไรของกูวะ”แบงค์นึกขึ้นได้ว่า วันนี้เพิ่งเอากางเกงในและถุงเท้าแช่ไว้เตรียมมาซักตอนเย็นจึงทำให้ไม่มีกางเกงในที่สามารถใส่ได้ เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น “เห้ยแบงค์รีบมาด่วน ผู้กำกับอยากพบ” ปลายสายเป็นเสียงรุ่นพี่คนนั้น “ได้ครับเดี๋ยวรีบออกไป”แบงค์ตอบรับและวางสายไป ในใจนึกกลัวไปแล้วว่า คงโดนวินัยหนักแน่ ที่ละทิ้งเวรมาแต่ทำอย่างไรได้ จะให้เข้าเวรทั้งสภาพนี้คงไม่ได้ แต่นั่นคือเรื่องที่ยังไม่เกิดตอนนี้ แบงค์คงหยิบชุดตำรวจสำรอง ที่เล็กกว่าชุดเดิมเล็กน้อยสวมไปซึ่งทำให้ยิ่งเห็นสัดส่วนของแบงค์มากกว่าเดิม
“ขออนุญาตครับ” “เข้ามาได้”แบงค์เปิดประตูเข้าไป ยืนตัวตรงข้างหน้าผู้กำกับ “คุณไปไหนมาทำไมไม่มาปฏิบัติงานที่ ส.น.” “มันมีเหตุนิดหน่อยครับ”แบงค์ตอบ “แล้วคุณช่วยอธิบายเหตุการณ์ตรงนี้ให้หน่อยได้ไหม”ผู้กำกับหยิบโทรศัพท์มือถือ พร้อมกับเปิดคลิปที่แบงค์กำลังช่วยตัวประกันอยู่ “ผมกำลังช่วยตัวประกันครับ”
“ต้องแก้ผ้าด้วยเหรอเราเป็นตำรวจนะ จะมาแก้ผ้าแบบนี้มันดีไหม” “ไม่ดีครับแต่ต้องทำทุกอย่างเพื่อช่วยตัวประกันครับ” “เห้อคุณทำผมหนักใจอีกแล้วนะ” “งั้นผมจะทำอะไรบางอย่างคุณต้องยอมรับการกระทำของคุณให้ได้” “ครับ”
ผู้กำกับเปิดโต๊ะหยิบซองสีขาวตราครุฑเรียน ผู้บังคับชาระดับสูง ส่งให้แบงค์ แบงค์ใจเสีย หยิบมาด้วยมืออันสั่นเอา “เปิดอ่านสิอ่านให้ผมฟังด้วย” ผู้กำกับบอกแบงค์ แบงค์จึงเปิดอ่าน “เรียนผู้กำกับการภาค 3ด้วยมีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น โดยมีชายวิกลจริตจับเด็กนักเรียนม.ปลายจำนวน 2 คนเป็นตัวประกัน โดยมีอาวุธจี้คอซึ่งอยู่ในเขตท้องที่ที่สถานีตำรวจภูธรเฉลิมไผ่ รับผิดชอบจึงได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือ และมีตำรวจนายหนึ่ง ทุ่มเทปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทยอมที่จะให้ตนเองเป็นตัวประกันแทนเด็กนักเรียนดังกล่าวและทำทุกวิถีทางที่จะให้ตัวประกันปลอดภัย ดังสิ่งที่ส่งมาด้วยข้าพเจ้าในฐานะผู้บังคับบัญชา จึงขออนุมัติปูนบำเหน็จเลื่อนขึ้น จากยศร้อยตรีเป็นยศร้อยโท เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ตำรวจนายดังกล่าว” แบงค์อ่านจบมองหน้าผู้กำกับผู้กำกับยิ้มตอบแทนคำพูด แบงค์จึงรีบทำความเคารพเพื่อเป็นการขอบคุณ “เออเห็น สมเกียรติ รายงานผมว่า ตอนเสร็จแล้วชุดคุณหายใช่ไหม” ผู้กำกับถาม “งั้นคุณไปติดต่อร้านที่ตัดให้สภ.เรานะแล้วบอกว่า ผมให้มาตัดเพิ่ม แล้วมาเก็บเงินที่ผม” “ขอบคุณครับ”แบงค์ทำความเคารพอีกครั้งก่อนออกจากห้องไป แบงค์มานั่งที่โต๊ะเสมียนประจำวันเพื่อเข้าเวรระหว่างนั้นก็มีผู้คนเข้ามาแจ้งความอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่ง 4 โมงเย็นแบงค์จึงทำการออกเวร เดินลงจากชั้น 2 ของสถานีตำรวจเพื่อไปยังร้านค้าและตลาดนัดในละแวกนั้นระหว่างเดินไปก็คิดเมนูของมื้อเย็นนี้ตลอดว่า คืออะไรซึ่งทางเดินระหว่างไปร้านค้าและตลาด ซึ่งห่างไปประมาณสามถึงสี่กิโลเมตรนั้นต้องผ่านป่าไผ่ บ้านร้างหลังเก่า ซึ่งเคยมีคนอาศัยอยู่แต่ปัจจุบันย้ายออกไปแล้ว แต่ด้วยความที่ใกล้สถานีตำรวจจึงไม่ค่อยมีพวกขี้ยามามั่วสุมในบ้านหลังนี้นัก “คุณตำรวจครับ”เสียงเหมือนเด็กวัยรุ่นดังมาจากข้างหลัง “อ้อน้องเมื่อตอนบ่ายนี่เอง” แบงค์ทักตอบเมื่อเห็นกิตกับเอ็ม “ขอบคุณพี่มากนะครับเมื่อกลางวันนี้พี่เท่ห์มากเลย” เอ็มบอก “ไม่น่าจะเท่ห์นะเป็นชีเปลือยขนาดนั้น” แบงค์ตอบ “ผมก็สภาพไม่ต่างกันนะพี่”กิตตอบ “พี่ผมซื้อมาฝากพี่ครับผมยังไม่มีเงินแต่อยากหาอะไรตอบแทนพี่เล็กๆ น้อยๆเลยคิดว่าไปซื้อโกโก้เย็นมาให้พี่ครับ” “ไม่เป็นไรน้องเก็บไว้กินเถอะ มันหน้าที่ของพี่” แบงค์บอก “ไม่เอาดิพี่รับไว้หน่อย เดี๋ยวจะเสียน้ำใจผม” เอ็มบอก แบงค์จึงจำเป็นต้องรับแก้วโกโก้ยี่ห้องดังมาอย่างเสียไม่ได้ พร้อมกับดูโกโก้ให้ทั้งกิตและเอ็มเห็นเพื่อให้เด็กทั้งสองสบายใจ “พี่ครับผมมีเรื่องรบกวนพี่นิดหน่อยครับ ไม่รู้ว่าพี่จะสะดวกหรือเปล่า” เอ็มถามแบงค์ “ว่ามาเลยน้องมีอะไรให้พี่ช่วย” แบงค์บอก “เราสองคนเห็นพี่วันนี้แล้วเท่ห์มากเลยทำให้อยากเป็นแบบพี่บ้าง มันต้องทำไงบ้างอ่ะครับ” “จริงเหรอมันก็ต้องสอบเข้าให้ได้นะ มันทดสอบทั้งข้อเขียนและร่างกายด้วย” “งั้นพี่ช่วยเทรนด์ให้ผมหน่อยได้ไหมครับ”กิตขอร้องแบงค์ “เอาเมื่อไหร่ดี”แบงค์ถาม “วันนี้เลยก็ได้ครับพี่”กิตบอก “เห้ยวันนี้เลยเหรอ พี่ไม่ได้เตรียมตัวเตรียมชุดมาเลย” แบงค์รีบปฏิเสธ “นะพี่นะพอดีผมกับเพื่อนว่างกันตอนนี้ ไม่ต้องหนักมากก็ได้พี่ ผมแค่อยากรู้ว่า ไหวไหมถ้าไหวก็ไปนัดวันอื่นต่อ” เอ็มบอก “อ่อก็ได้ เอาที่ไหนดีล่ะ” แบงค์ถาม “เอาตรงบ้านหลังนั้นไหมพี่”กิตบอก ทำเอาแบงค์ตกใจ “เห้ยตรงนั้นมันบ้านร้างนะ มันจะเหมาะเป็นสถานที่ที่น้องจะเทรนด์ได้หรอ”แบงค์ถามด้วยตามแปลกใจ “ตรงบ้านหลังบ้านนั้นมันมีเหมือนลานปูนว่างๆครับพี่ ไม่ได้เลอะหรือสกปรก อะไรมาก ผมแอบเข้าไปประจำ” กิตบอก “เห้ยน้องเข้าไปที่แบบนั้นทำไมกัน นี่เสี่ยงโดนข้อหาบุกรุกได้นะ” “เอาจริงๆ นะพี่ ผมเห็นว่าเป็นบ้านร้าง คงไม่น่ามีคนอยู่ อีกอย่างตอนแรกผมทั้งคู่จะเข้าคณะวิทย์ กีฬา หรือไม่ก็พวกครูพละ เพราะชอบออกกำลังกายเลยเข้ามาฝึกร่างกายในนี้ ผมไม่ชอบไปพวกสนามกีฬาหรือฟิตเนสอะไรพวกนี้ผมชอบออกกำลังกายสไตล์ของผมเอง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายมาบอกอะไร” เอ็มอธิบาย “ถ้าไปฟิตเนสมันมีอุปกรณ์อะไรเยอะแยะกว่านะ”
“ผมก็ไม่ค่อยมีเงินเท่าไหร่หรอกครับอีกอย่าง ที่ผมออกกำลังกายกันตอนนี้ ก็แค่ซิดอัพ วิดพื้นหรือพวกท่ามือเปล่าพวกนั้นมากกว่า” “แต่ว่า...”แบงค์พยายามถามต่อ แต่ทั้งเอ็มและกิตดันตัวของแบงค์เข้าไปที่ทางเข้าซึ่งเป็นทางดินข้างทางมีกอหญ้า ข้างหน้าทางเข้าเป็นกอไผ่บังทำให้คนผ่านไปผ่านมาไม่ค่อยสังเกตว่าใครทำอะไรแถวบริเวณบ้านร้างหลังนี้ “แล้วตรงไหนล่ะที่เราจะเทรนกัน”แบงค์ถาม “ด้านหลังตัวบ้านพี่”เอ็มบอกพร้อมเดินนำแบงค์ลุยเข้าไปต่อ บริเวณด้านหลังตัวบ้านเป็นลานปูนกว้าง คาดว่า เมื่อตอนบ้านหลังนี้ยังคงมีการใช้งานอยู่ คงเป็นสถานที่ทำตากสิ่งของหรือเอาไว้ซ่อมบำรุงของในบ้านก็ได้ มันเป็นพื้นที่ปูนที่มีกว้าง พอ ๆ กับตัวบ้าน “ตรงนี้พี่”เอ็มบอก “เราเริ่มกันเลยไหมเดี๋ยวมันจะมืด” แบงค์บอก “ได้ครับ”
“พี่ชื่อแบงค์นะเราสองคนชื่ออะไร” “ผมกิตครับส่วนไอ้นี่ชื่อเอ็มครับ” “โอเคคือพี่อยากรู้ว่า น้องมีสมรรถภาพร่างกายระดับไหน พอสู้ไหวไหมก่อนนะ ถ้าไหวพี่พร้อมจะเทรนด์ให้ติดตำรวจเลย” แบงค์บอกกับเด็กทั้งสองคน “เริ่มจากวิดพื้นทั้งคู่ลองวิดให้พี่ดูหน่อยได้ไหม” “พี่จะสาธิตให้ผมดูหน่อยได้ไหมครับ”กิตเสนอ “อ่ะโอเค แค่วิดพื้นเอง” แบงค์ก้มตัวลงนอนราบกับพื้น แต่นึกขึ้นได้ว่าเครื่องแบบชุดนี้เป็นเครื่องแบบชุดสำรอง ถ้าเลอะไป พรุ่งนี้คงไม่มีอะไรใส่แน่ “เอ่อน้องพี่บอกวิธีแทนได้ไหม พอดีไม่สะดวกว่ะ กลัวชุดเลอะ เหลือชุดเดียวแล้วด้วย”แบงค์พยายามบ่ายเบี่ยง เพราะรู้ว่า ตัวเองมีเครื่องแบบตำรวจเพียงชุดเดียวถ้าเลอะพรุ่งนี้คงไม่มีอะไรใส่เข้าสภ. แต่ถ้าถอด ก็มีแค่เสื้อซับในตัวเดียวส่วนช่วงล่างล่อนจ้อนแน่ๆ “ผมอยากเห็นภาพอ่ะพี่ถ้ากลัวชุดเลอะ พี่ก็ถอดชุดมาก็ได้ ในนี้มีแค่พวกผมกับพี่สามคนเองเหลือกางเกงในไว้ก็ได้” กิตเสนอ “โอเคไม่เป็นไร ถ้าเลอะเดี๋ยวซักคืนนี้ก็ได้” แบงค์ตัดสินใจวิดพื้นทั้งเครื่องแบบแบงค์วิดพื้นไป 30ที “ผมว่าอย่างนี้ดีกว่าพี่ผมอยากลองให้พี่เป็นเหมือนครูฝึกที่พี่เจอตอนพี่เป็นนักเรียนตำรวจอ่ะ อยากรู้ว่าพวกผมจะไหวกันไหมดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลา” เอ็มเสนอ ซึ่งกิตก็เห็นด้วยและแน่นอนว่า แบงค์ก็เห็นด้วย เพราะเขาไม่ต้องเหนื่อยทำให้ด้วยเพราะเขาสั่งอย่างเดียว “ได้เลยน้องแล้วน้องจะฝึกทั้งชุดนักเรียนนี้นี่เนี่ยนะ” “ก็แล้วแต่ครูฝึกไงครับ”กิตบอกกับแบงค์พร้อมกับยิ้มเป็นการส่งสัญญาณว่าการเล่นบทบาทสมมติครูฝึกกับนักเรียนตำรวจกำลังเริ่มขึ้นแล้ว “ตามระเบียบพัก”กิตกับเอ็มทำอย่างเข้มแข็ง “ทั้งคู่ถอดเสื้อออกนับหนึ่งถึงสามต้องเสร็จ” กิตกับเอ็มรีบกุลีกุจอปลดกระดุมเสื้อตัวเอง แล้วกองไว้ที่พื้นข้างหลัง “ช้าหมอบลงไป” กิตกับเอ็มหมอบอย่างคล่องแคล่วเพราะเรียน ร.ด. ด้วยเหมือนกัน “ลุกหมอบ ลุก หมอบ” แบงค์สั่งรัวๆ ซึ่งกิตกับเอ็มก็ทำอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีทีท่าเหนื่อยหอบ แบงค์สั่งทั้งคู่ลุกขึ้น พร้อมกับเดินไปหากิต “กูเคยเห็นกางเกงนักเรียนโรงเรียนมึงต้องเกือบคลุมเข่าไม่ใช่หรือแล้วนี่ทำไมมันยาวได้แค่นี้ แบบนี้มันผิดระเบียบไหม” แบงค์หาเรื่องทำโทษกิตต่อ “ผิดครับ”
“ดังๆ”
“ผิดครับ”กิตตอบเสียงดังขึ้น “งั้นมึงถอดกางเกงนักเรียนออก”กิตไม่แปลกใจ เพราะต้องการที่จะถอดอยู่แล้วเพราะกางเกงมันรัดช่วงเอวทำให้เวลาโดนทำโทษมันอึดอัดกิตถอดกางเกงนักเรียนตัวจิ๋วออก ก่อนที่จะโยนไปไว้กับกองเสื้อ “มึงรักเพื่อนไหม”แบงค์เดินมาถามเอ็ม “รักครับ”
“รักมากมั้ย” “รักมากครับ”
“แล้วเพื่อนโดนขนาดนี้แล้วมึงต้องทำอย่างไร” “ครับ”เอ็มจัดการถอดกางเกงนักเรียนตัวเองออกเหมือนกันแล้วโดนไปที่กองเสื้อผ้าที่อยู่ข้างหนังตอนนี้เด็กนักเรียนทั้งสองกำลังจะถูกทำโทษต่อด้วยสภาพกางเกงในตัวเดียวแบงค์สั่งให้ทั้งคู่ กลิ้ง หมอบ ควาน กางมุ้ง ลุกนั่ง จนเหงื่อโทรมกายตอนนี้เริ่มมืด แต่ยังคงมีแสงจากดวงจันทร์ส่องลงมาให้เห็นอยู่ตอนนี้แบงค์ให้ทั่งคู่พัก “ยังไหวไหมน้อง”แบงค์ถาม “ไหวพี่แค่นี้เด็กๆ” “จะเอาหนักกว่านี้หรอ” “ถ้าพี่จัดให้พวกผมได้ก็จัดมาเลยครับ”แบงค์มองดูสถานที่โดยรอบ เห็นตรงพื้นที่ว่าง ข้างๆ พื้นปูนเป็นแอ่งน้ำที่มีน้ำฝนขังอยู่ “จะเอาขั้นสุดเลยหรอไม่กลัวเลอะใช่ไหม” แบงค์ย้ำถาม “ได้หมดครับ”กิตตอบ เอ็มพยักหน้าสมทบ “ได้งั้นไปรวมตัวได้แล้วหมดเวลาพักของพวกมึงแล้ว” กิตกับเอ็มรีบวิ่งไปยืนที่เดิมส่วนแบงค์ดูดโกโก้เย็นแก้วที่เด็กสองคนให้มาอย่างเต็มที่อีกครั้งจนหมดแล้วเดินตามไปสมทบ “พวกมึงทั้งสองคนถอดกางเกงในมึงออก” กิตกับเอ็มชะงักเล็กน้อย ก่อนที่จะถอดออก จนเหลือแค่รองเท้าแบงค์เดินไปที่แอ่งน้ำ แล้วเรียกทั้งสองคนมาที่แอ่งน้ำนั้น “พวกมึงหมอบตรงนี้”แบงค์สั่ง ทั้งเอ็มและกิตหมอบลงในแอ่งน้ำนั้น “กลิ้งไปซ้ายกับขวาอย่างละ 5 รอบ ปฏิบัติ” ทั้งสองทำตาม แบงค์เดินหนีอีกครั้ง ไปอีกจุดที่เป็นดินทรายแห้งๆ “พวกมึงคลานต่ำมาหากูตรงนี้”ทั้งเอ็มและกิต เคยคลานต่ำมานับครั้งไม่ถ้วน แต่รอบนี้ไม่เหมือนเดิมตรงนี้เขาไม่เคยแก้ผ้าคลานต่ำดังนั้นจึงต้องระวังไม่ได้ของลับของตัวเองเสียดสีกับพื้นได้ “นอนหงาย”ทั้งเอ็มและกิตพลิกตัว ตอนนี้ทุกอณูของร่างกายของนักเรียนทั้งสองเต็มไปด้วยฝุ่นและดิน “มึงลุกขึ้น”แบงค์สั่งเอ็ม “ไปนอนทับบนตัวเพื่อนแต่หันหัวไปทางเท้าเพื่อนมึง แล้วกอดขาเพื่อนมึงไว้ ส่วนมึงก็กอดขาเพื่อนมึงไว้แล้วกลิ้งมาหากู ถ้าไม่ถึงกูห้ามหยุด” เอ็มรีบนอนทับบนตัวกิต ก่อนที่ทั้งคู่จะกอดขากันแล้วกลิ้งไปหาแบงค์ที่ยืนรอบนลานปูน แบงค์ยืนรอเด็กทั้งสองที่กำลังเปลือยกายกลิ้งมาหาตามคำสั่งตัวเองแต่ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ กับสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมตัวเองรู้สึกร้อนๆไปทั้งร่างอย่างบอกไม่ถูก เหงื่อเริ่มออก ร่างกายเริ่มชาและหมดแรงแต่ก็ฝืนไม่แสดงออกให้เด็กสองคนเห็น “พอหันหัวไปทางโน้นแล้วกางมุ้งไป” เอ็มและกิต ทำท่ากางมุ้ง แต่ก็สังเกตเห็นท่าทางที่กระสับกระส่ายและเหงื่อที่ออกเยอะผิดปกติจากตอนแรกของแบงค์และท่อนลำของนายตำรวจเด่นชัดว่ากำลังคลุ้มคลั่ง จึงหันมองหน้ากันพร้อมกับพยักหน้าลุกขึ้น “มึงลุกมาทำไมกูไม่ได้สั่งให้มึงเลิกทำ” แบงค์ตวาดไป “ก็ผมเห็นครูเหมือนไม่สบายเลยจะมาช่วย” กิตบอกพร้อมกับเดินหิ้วแขนแบงค์ไปมุมของลานปูนแบงค์แปลกใจตัวเองว่าทำไมไม่มีเรี่ยวแรงขัดขืนเลย เมื่อถึงลานปูนซึ่งมีเสาเหล็กหล่อด้วยปูนสองต้น ตั้งห่างกันประมาณ 1.50 เมตรอยู่กิตอุ้มตัวแบงค์ลุกขึ้นยืน ส่วนเอ็มหยิบเชือกที่เสาต้นแรก ผูกที่ข้อมือของแบงค์ทำเอาแบงค์ตกใจพยายามดิ้น แต่ไม่มีแรงที่จะดิ้นจากนั้นข้อมืออีกข้างของแบงค์ก็ถูกพันธนาการตามไป ตอนนี้แบงค์อยู่ในสภาพทิ้งตัวหมดเรี่ยวแรงยืน โดยห้อยอยู่ โดยมีมือสองข้าง ถูกขึง “อ้อเก็บปืนก่อน มันอันตราย” กิตหยิบปืนออกจากตัวของแบงค์ “หมวกด้วยเมื่อกี้นี้หล่น”เอ็มหยิบหมวกสวมให้แบงค์และเอาแลคซีนที่เพิ่มเดินไปหยิบมาจากกระเป๋า พันไว้ที่หัวรัดกับคาง “น้องจะทำอะไรพี่เนี่ย”แบงค์พยายามรวบรวมสติถาม “เอาตรงๆนะ พี่ ผมเห็นพี่แก้ผ้าเมื่อกลางวันแล้ว มีอารมณ์เลย ผมกับเพื่อนผม อ่อ ไม่ใช่สิแฟนผมเห็นแล้วอยากเล่นอะไรสนุกๆ กับพี่เลย” กิตบอก “แฟนน้องเกี่ยวอะไรกับน้องผู้หญิงล่ะ” “หมายถึงก้อยน่ะหรอ คนนั้นเขาไม่ได้เป็นแฟนผมจริงๆ ผมคบไว้บังหน้าไม่ให้คนอื่นสงสัยว่าผมกับเอ็มเป็นแฟนกัน อ่อ แล้วก็อีกอย่างนะพี่ ที่ตรงนี้ผมเข้ามาประจำกันจริงๆ แต่ไม่ได้มาออกกำลังกายหรอกที่นี่เป็นสถานที่ที่ผมมาพลอดรักกันต่างหาก” แบงค์ตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน “น้องปล่อยพี่ไปเถอะ”แบงค์ขอร้องพร้อมกับหายใจเหนื่อยหอบ “ผมไม่ทำอะไรพี่หรอกครับแค่ผมอยากเล่นอะไรสนุกๆ กับพี่ก่อน” เอ็มบอก “แล้วน้องเอาอะไรให้พี่กินตอนไหนทำไมพี่ไม่รู้เรื่องเลย” “ก็โกโก้ที่ผมให้พี่กินตอนเย็นไงตอนแรกที่ยังไม่ออกฤทธิ์ เพราะผมใส่ยาปลุกเซ็กซ์ไว้ในแคปซูล แล้วส่งให้พี่เลยแคปซูลเลยยังไม่ละลาย แต่พอพี่กินตอนพัก มันผสมรวมไปกับน้ำแล้ว”แบงค์เข้าใจถึงสาเหตุทันที “พอละไม่คุยละผมอยากเห็นรูปร่างที่แท้จริงของพี่อีกครั้งอย่างใกล้ๆ เลย ทำตัวดีๆ นะพี่เดี๋ยวผมสองคนให้รางวัล” กิตบอกพร้อมกับเดินเข้าไปด้านหน้าของแบงค์ที่กำลังหมดแรงแต่ท่อนลำกับแข็งชูชัน กิตลูบไล้ร่างของแบงค์ผ่านเครื่องแบบก่อนที่จะใช้มือปลดกระดุมเสื้อแล้วรูปซิปลงเผยให้เห็นเสื้อตัวในสีขาว จากนั้น กิตก็เอาชายเสื้อซับในด้านหน้าคล้องที่คอของแบงค์ เพื่อเปิดเผยร่างและมัดกล้ามด้านหน้า “ผมเห็นกล้ามพี่เมื่อกลางวันแล้วอยากเข้ามาลูบแบบนี้มากเลย แต่ทำไม่ได้ ได้ลูบสักที เอ็มมาลูบด้วยกันสิ”กิตชวนเอ็มมาเล้าโลมแบงค์ จากที่แบงค์มีอารมณ์เพราะฤทธิ์ยาอยู่แล้วก็มีอารมณ์หนักขึ้นไปอีก เมื่อลูบไล้สาแก่ใจเด็กทั้งสองแล้ว กิตก็จัดการปลดเข็มขัดแล้วถอดรองเท้าออก แล้วจึงกางเกงออกจากร่าง “เห้ยพี่เขาไม่ได้ใส่กางเกงในมาด้วยว่ะ” เอ็มบอกกับกิตกับเอามือไปเขี่ยที่ท่อนลำของแบงค์จนแบงค์สะดุ้งไปทั้งตัว “น้องช่วยพี่หน่อยได้ไหม”แบงค์เปลี่ยนอารมณ์จากต่อต้านจนตอนนี้เป็นขอร้องเด็กทั้งสองให้สำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง เพื่อคลายความทรมานลงแต่ทั้งคู่ไม่ตอบอะไร หยิบเชือกมามัดขาทั้งสองของแบงค์กับโคนเสา ตอนนี้แบงค์ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่จะบิดตัวหลบ “กิตกูขอเลยได้ไหม” “ได้ดิวะจัดการเลย” เมื่อได้สัญญาณไฟเขียวเดินไปข้างหน้าแบงค์พร้อมกับหันหลังแล้วคว้าท่อนลำที่กำลังแข็งตัวของแบงค์ไว้ในกำมือพร้อมกับชักเล็กน้อย เพื่อกระตุ้น ก่อนจะพยายามสอดไปในช่องหลังของตัวเอง นาทีนั้น ชายแท้อย่างแบงค์คงไม่คิดอะไรคงคิดแค่ว่า อะไรก็ได้ที่สามารถทำให้น้ำนักเข้าออก แบงค์ขยับเอวเป็นจังหวะจนไม่นานนัก แบงค์ก็หลั่งน้ำกามไว้ในร่างของเอ็ม แต่กิจกรรมยังไม่จบ กิตปั่นท่อนลำของตัวเองจนแข็งแล้วสอดเข้าไปในประตูหลังของแบงค์ที่ไม่เคยมีใครกล้ำกลายเข้าไปมาก่อนเลยทำให้แบงค์สะดุ้งสุดตัว พยายามบิดตัวหนี แต่ไม่สามารถทำได้เพราะทั้งแขนทั้งขาถูกตรึงไว้หมด ถึงคราวที่กิตจะกิจกรรมกับนายตำรวจหนุ่มคนนี้แล้วกิตเด้งเอวเป็นจังหวะเช่นเดียวกับที่แบงค์ทำ แบงค์กำมือ กัดฟันแน่นเพื่อระงับความเจ็บตัวเอง เอ็มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่าย แบงค์เห็นเอ็มทำดังนั้นก็พยายามจะร้องห้ามแต่มิอาจต้านแรงกระแทกจากกิจกกรรมที่ตนเองกำลังโดนกระทำได้ จนกระทั่ง สิ่งที่น่าประหลาดใจก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อท่อนลำของนายตำรวจหนุ่มผู้ชายทั้งแท่งกลับแข็งขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมกับปลดปล่อยน้ำรักสีขาวขุ่นออกมา พร้อมๆกับที่มังกรของกิตพ่นน้ำรักออกมาใส่ร่างแบงค์เช่นเดียวกัน เอ็มเห็นว่าเมื่อภารกิจรักของทั้งคู่ ได้สิ้นสุดลงแล้วจึงเดินเข้าไปหาแบงค์ที่ตอนนี้ร่างถูกห้อยไปกับเชือกของเส้นที่พันธนาการมือของเขากับเสาพร้อมกับท่อนลำของนายตำรวจหนุ่ม แล้วชักต่ออย่างบ้าคลั่งจนแบงค์ดิ้นทุรนทุรายด้วยความเสียว จนกระทั่ง เอ็มพอใจจึงปล่อยมือแบงค์ถึงกับหายใจหอบ เอ็มกับกิต ช่วยกันปลดพันธนาการของนายตำรวจหนุ่มออก ทำให้ร่างของนายตำรวจหนุ่มลงไปกับกองพื้น “พี่แบงค์ครับขอบคุณนะครับพี่ พี่ช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผมกับแฟน แต่ปัญหาคือว่าผมติดใจพี่แล้วสิครับ ผมขอยืมโทรศัพท์พี่หน่อยสิ” กิต บอกกับแบงค์แต่แบงค์ไม่ตอบสนอง กิตเลยเดินไปหยิบโทรศัพท์ในกางเกงตำรวจที่กองไว้พร้อมกับเดินมาหาแบงค์ และจับมือแบงค์มาสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อคโทรศัพท์หลังจากนั้น จึงใช้โทรศัพท์ของแบงค์โทรเข้าเครื่องของทั้งสองคน เพื่อบันทึกเบอร์ “เรียบร้อยแล้วพี่ต่อไปนี้พี่จะต้องทำตามที่ผมสั่งนะจนกว่าผมจะเรียนจบม.ปลาย” กิตกับเอ็ม “ทำไมพี่ต้องทำตามน้องสองคนสั่งด้วย”แบงค์พอได้สติ จึงถามกลับไปที่เด็กทั้งสอง ด้วยน้ำเสียงอย่างเป็นมิตร โดยหวังว่าสถานการณ์คงจะพลิกกลับมาเข้าข้างเข้าอีกครั้ง “ถ้าที่ขัดใจผมผมจะปล่อยภาพนี้บนเว็บ แบบไม่เซ็นเซอร์หน้าพี่พี่คิดดูว่าอนาคตของพี่จะเป็นอย่างไร ไม่เอาละไม่คุยไว้รอข้อความจากผมหรือไม่ก็แฟนผมแล้วกันนะ ผมไปละ”กิตบอกแบงค์ก่อนที่จะไปเปิดบ่อน้ำ ซึ่งเป็นบ่อบาดาล แต่ยังคงใช้งานได้เพราะน่าจะมีพวกก่อสร้างละแวกนั้นที่มาตักน้ำไปใช้ในแคมป์ เมื่อเด็กทั้งสองคนอาบน้ำและแต่งตัวด้วยเครื่องแบบนักเรียนเสร็จแล้วก็เดินมาหาแบงค์ “ผมไปแล้วนะพี่ขอบคุณมาสำหรับวันนี้ ทาสของพวกผม” กิตพูดก่อนที่จะเดินจากไป เมื่อสติของแบงค์กลับมาจนสามารถมีแรงพยุงตัวขึ้นแบงค์จึงเดินไปหยิบกางเกงตำรวจ มาสวมใส่ แล้วเดินออกจากบริเวณนั้นทันทีด้วยปัจจัยหลายๆ อัน ไม่ว่าจะเป็น ความหิว ความสับสนของความคิดและความสงสัยอะไรหลายๆ อย่าง แต่นั่นดูเหมือนว่า ความหิว จะสำคัญที่สุดแบงค์จึงเดินไปร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำที่โชคดียังไม่เก็บร้าน เมื่อแบงค์กลับถึงห้องก็จัดการถอดเครื่องแบบของเขาออกแล้วรีบซัก เพราะว่าตอนนี้เขามีเครื่องแบบเพียงชุดเดียว ต้องใส่ทำงานในวันพรุ่งนี้พร้อมกับอาบน้ำทำภารกิจส่วนตัว ตอนนี้ในหัวของแบงค์สับสนไปหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ ทั้งเรื่องช่วยตัวประกันเรื่องที่โดนเด็กสองคนนั้นขืนใจ หรือเรื่องคำพูดสุดท้ายของกิตที่ทิ้งไว้แบงค์ยืนมองตัวเองหน้ากระจก ก่อนที่จะนำมือมาลูบไล้ร่างกายกันเปลือยเปล่าของตัวเองจนไปสัมผัสตรงช่วงก้น แบงค์ถึงกับสะดุ้ง เพราะมันมีอาการเจ็บ หลังจากที่ผ่านศึกมานั่นเอง
โปรดติดตามตอนต่อไป
ตอนนี้อาจจะเวอร์นิดนึงนะครับ แต่อยากให้คนที่ชอบแนว SM กับเครื่องแบบได้ฟินกัน
|