แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย sommos เมื่อ 2021-11-8 18:26
(1) ผมต่อสู้กับความรู้สึกตัวเองอยู่นานก่อนมีบันทึกนี้บทสรุปของความสับสน ผมว่าเราจะเป็นอะไร จะทำอะไรก็ได้ขอแค่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนเป็นพอ
(2) ย้อนกลับไปปีที่แล้วช่วงเวลาที่ผมต้องก้าวข้ามผ่านจุดเปลี่ยนของชีวิตมาให้ได้ผมมี คนพิเศษที่ทำให้ผมผ่านมาได้ จึงขอเล่าเรื่องราวเหล่านั้นไม่ได้เพื่อให้ใครเกิดความบันเทิงหรือข้อคิดใดๆ แต่เพียงบันทึกความทรงจำดีๆเท่านั้นเอง
(3) ผมเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถแห่งนึงตั้งอยู่แถวชานเมืองหลวงผมตัวคนเดียวครับ พ่อ แม่ท่านจากผมไปนานทิ้งกิจการนี้ให้ผมสืบสานต่อ ส่วนพี่ๆของผมเค้าก็มีครอบครัวย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมดจะเรียกว่าตัวคนเดียวที่จริงแล้วก็ไม่ถูกซะหมดผมยังมีลูกน้องในอู่ที่ช่วยขับเคลื่อนกิจการ เป็นมือเป็นท้าวให้ได้ในหลายเรื่องมีเพื่อนบ้านในระแวกนี้ที่สนิทสนมยิ่งกว่าญาติเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยพ่อแม่โดยเฉพาะป้าใจเจ้าของร้านอาหารตามสั่งฝั่งตรงข้ามกับอู่ผมกับลูกน้องฝากปากท้องไว้ที่ร้านนี้ เรียกได้ว่าเป็นครัวของอู่ผมเลยทีเดียวป้าใจมีลูสาว 3 คน คนโตชื่อฝน เธอเป็นครูแต่งงานกับครูแล้วย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดนานๆ กลับมาบ้านครั้ง คนกลางชื่อฟ้าคนนี้หนีหายไปนานตั้งแต่สมัยผมยังเรียนช่างอยู่ ส่วนคนที่ 3 ชื่อฝ้าย เธอรุ่นราวเคราวเดียวกับผมฝ้ายเป็นผู้หญิงสวยครับ เธอคือคนที่ผมหมายปองไว้ตั้งแต่สมัยมัธยมเราคบหากันตั้งแต่ ม.ปลาย จนผมเรียนจบช่างกลับมาสานต่อกิจการของอู่เรายังคบกันอยู่นี่เป็นอีกเหตุผลที่ป้าใจดูแลคนในอู่เหมือนญาติ เพราะแกก็อยากได้ผมเป็นลูกเขยกระทั่งเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เธอบอกเราไปกันไม่ได้ประโยคเดียวที่เธอทิ้งไว้ให้พร้อมเดินจากไปกับชายอีกคนปล่อยผมเจ็บกับประโยคนั้นเป็นปี เด็กที่อู่และที่บ้านป้าใจไม่มีใครพูดถึงฝ้ายอีก ย้อนกลับไปถึงพี่ฟ้าลูกสาวคนที่ 2 ของป้าใจ ในช่วงที่ผมกับฝ้ายยังคบกันอยู่พี่ฟ้ากลับบ้านพร้อมเด็กผู้ชายวัย 6 ขวบผมทองตาสีฟ้าอยู่บ้านไม่ถึงอาทิตย์พี่ฟ้าก็กลับภูเก็ตทิ้งเด็กไว้ให้ป้าใจเลี้ยงสอบถามได้ใจความว่า เด็กนั่นคือลูกที่ได้กับฝรั่งแต่เพิ่งถูกทิ้งไปพร้อมเหลือหนี้สินไว้ให้เยอะแยะ ทำให้ถังแตกป้าใจเลยได้หลานชายมาเลี้ยงแบบไม่ได้ตั้งตัวเลย
(4) หลานชายป้าใจชื่อ ชิโช่คงเป็นชื่อที่ฝรั่งตั้งให้ ฟังดูแล้วน่าจะเป็นชื่อคนอิตาลี่ก็ตามแบบฉบับเด็กลูกครึ่ง หน้าตาน่ารัก ใครเห็นก็อยากหยอก อยากกอดหอมแต่เจ้าตัวก็ซนใช่เล่นมักจะโดนไม้แขวนเสื้อป้าใจอยู่เป็นประจำ ชิโช่สนิทกับผมตั้งแต่ฝ้ายยังอยู่เราไปไหนมาไหนด้วยกัน 3 คน เหมือนพ่อแม่ลูกถึงทุกวันนี้ไม่มีเธอแล้ว ชิโช่ยังเข้านอกออกในอู่เหมือนเป็นบ้านตัวเองผมก็เอ็นดูปนสงสารเด็กไม่มีพ่อแม่ ซนนิดซนหน่อยค่อยๆบอกสอนไป แต่ด้วยความทะเล้นของชิโช่ก็ทำให้ผมหายเหงาจากการคิดถึงฝ้ายได้อยู่หลายครั้ง
(5) เช้าวันเสาร์เป็นอีกวันที่ลูกค้าของอู่จะเยอะ เพราะเป็นวันหยุด เช่นเดียวกันวันหยุดโรงเรียนก็ต้องหยุด จึงเป็นเวลาที่ชิโช่มาป่วนอยู่ที่นี่ทั้งวันส่วนผมนี่ไม่ต้องพูดถึงไม่มีเวลาไปนั่งทานข้าวด้วยซ้ำ ถึงเวลาก็ทำงานไป กินข้าวไป "น้านายฮะ หนูไม่มีไรทำให้หนูช่วยงานนะฮะ" "ไปเล่น ที่ อื่น ไป อย่ามากวน" "ก็ไม่มีไรให้เล่นแล้ว หนูเบื่อ" พอดีกับรถลูกค้าที่นัดรับเย็นนี้เสร็จต้องล้างก่อนส่ง ผมเลยตัดรำคาญให้ไปช่วยลูกน้องล้างรถซะจะได้ไม่มากวน "ไปล้างรถช่วยพี่โก้ไป" "เย้...ได้เล่นน้ำ" ผ่านไปพักใหญ่ผมเคลียงานเสร็จหมดลูกค้ารับรถหมดแล้ว ก็ตกเย็นพอดี เลยบอกให้เด็กเก็บข้าวของกลับบ้านกัน และตามปกติที่วันไหนงานเยอะพอเสร็จงานผมจะนั่งจิบเบียร์ตอนเย็นกับลูกน้อง แต่วันนี้มีแต่คนติดธุระทางบ้านผมเลยได้นั่งจิบเบียร์ทอดอารมณ์คนเดียวที่ม้านั่งข้างอู่เบียร์เย็นๆหลังทำงานหนักนี่มันช่างชื่นใจ ให้หายเหนื่อยจริงๆขณะที่ผมนั่งคิดไรเพลินๆอยู่น้ำก็พุ่งสาดมาจากด้านข้างใส่หน้าผมและแก้วเบียร์เต็มๆ ผมหันไปมองที่มาของน้ำ ก็ยิ่งหัวเสียกว่าเดิม
|