แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Elenai เมื่อ 2022-5-6 22:04
หลายๆคนคงรู้จักเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัยกลัด หล่อขาวใสหน้าตาดีประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งในเชียงใหม่อายุ 18 ปี ที่ต้องลาบ้านเกิดจากแดนเหนือลงสู่เมืองใหญ่ภาคกลางเพียงเพื่อเป้าหมายมุ่งสู่มหาวิทยาลัยดีๆตามคาดหวังของเจ้าตัว และการตัดสินใจนั้นก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดชีวิตอีกมุมที่ทำให้หนุ่มวัยกลัดที่เคยเป็นเด็กเนิร์ดคนนี้ได้พานพบเจอประสบการณ์หลาย ๆ อย่างในแบบที่เจ้าตัวนั้นไม่เคยเผชิญโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของกามารมณ์มันเลยทำให้เขานั้นได้พบเจอและเรียนรู้ว่าความสุขจากกามมันเป็นเช่นไร อีกทั้งคนใกล้ตัวและคนรอบข้างที่เขาไว้ใจยังแอบทำบางสิ่งที่มอบความตื่นใจเร้าให้กับเขาอย่างไม่คาดฝัน จนผ่านไปเกือบปีหนุ่มคนนนี้ก็ได้เรียนรู้จักการได้มีความรักและอกหักในครั้งแรกของเขาที่ต้องเสียน้ำตาและความตั้งใจที่เกือบจะกู่กลับไม่ทันโดยในระยะ 1 ปีที่ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างจนทำให้เขาตระหนักว่าชีวิตตัวเขานั้นยังมีเรื่องอีกมากมายที่ต้องพบเจอและต้องลอง จนท้ายที่สุดเมื่อชีวิตเด็กม.6 ได้สิ้นสุดลง ตัวเขานั้นก็สามารถติดมหาวิทยาลัยชื่อดัง แม้นว่าจะไม่ใช่มหาวิทยาลัยที่เขาต้องการจะตามหญิงที่เขารักแต่ท้ายสุดการลาจาก จำต้องผ่านเข้ามา เขาแยกจากผองเพื่อนที่สนิทและเดินทางกลับถิ่นฐานเดิมเพื่อเริ่มต้นชีวิตของเฟชรชี่หน้าใหม่ที่จะสร้างชื่อและแรงดึงดูดให้กับเขายิ่งกว่าที่เคยเป็น 2 เดือนหลังกลับจากบ้านของอาปลื้มที่ปทุมธานี เติร์กได้ยื่นเรื่องเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเชียงใหม่จนเป็นที่ลุล่วง จน 15 วันก่อนที่กิจกรรมรับน้องของคณะจะเริ่มต้นขึ้นสภาพของเติร์กจากเด็กหนุ่มผมสั้นหน้าใส ได้เปลี่ยนเป็นเด็กหนุ่มผมตรงยาวหน้าขาวใสสะอาดสะอ้านหุ่นดีมากๆ หากมองรวมแล้วก็ไม่ต่างจากเด็กหนุ่มอปป้าคนหนึ่งที่อัพเลเวลความหล่อจากเดิมเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจนเป็นที่ดุดสายตาแก่ผู้ที่ได้พบเห็นครั้งแรกเลยทีเดียว แต่ก่อนจะถึงวันรับน้องเติร์กนั้นก็ไม่วายที่จะแวะไปหาเพื่อนซี้สมัยตอนเรียนม.5 อยู่เชียงใหม่ อย่างไอ้เบล (ไอ้เบลเป็นเพื่อนกับเติร์กมาตั้งแต่ป.1เติร์กกับไอ้เบลผ่านปัญหาต่างๆมาเยอะจนทั้งคู่กลายเป็นซี้ที่คอยช่วยเหลือกันมานับแต่นั้น) ทันทีที่ทั้งคู่เจอกันไอ้เบลยืนมองเติร์กด้วยความงุนงงอยู่ครู่หนึ่งว่าหนุ่มคนที่ยืนตรงหน้าคือใครแต่พอมันนึกขึ้นได้ไอ้เบลถึงกับตกใจเหมือนเห็นผีและตกใจที่เติร์กเพื่อนสนิทสุกรักของมันห่างหายไปเป็นปีกว่าได้กลับมาทักทายมันถึงบนห้อง “แม่งงง ไอ้เหี้ยเติร์กนี่มึงจริงเหรอวะ แม่งงงหล่อจนกูเกือบจำไม่ได้เลยว่ะ มึงมาไม่บอกไม่กล่าวกูเลยนะ ไงว่ะ ตั้งแต่ย้ายไปเรียนที่โน่นก็หายเงียบเลยนะจนกูกับคนอื่นๆนึกว่ามึงจะลืมพวกกูไปซะละ” เติร์กเดินไปกอดคอไอ้เบลที่กำลังใส่เกมส์อยู่หน้าคอม “ไม่เงียบนะเว้ยไอ้เบล กูกับไอ้เอส ยังติดต่อกันอยู่เว้ย” “เอ๊า ทีกับกูแม่งไม่คิดจะติดต่อบ้างเหรอว่ะ โถ่แม่งโครตน้อยใจว่ะ” “ใจเย็นเพื่อน ก็ถ้าช่วงนั้นมึงไม่ติดหี กูก็อยากทักหามึงอยู่อะนะฮ่าๆ” ไอ้เบลรีบใช้มือตบไปที่หัวเจ้าเติร์ก “แม่งงง รู้ดีนะมึงง เชี่ยย” ไอ้เบลละจากหน้าคอมและชวนเติร์กลงไปยังด้านล่างพร้อมทั้งหาอะไรมานั่งดื่มนั่งคุยกันอย่างถูกคอเติร์กเล่าเรื่องราวของมันต่างๆตอนที่ไปเรียนที่ปทุมฯให้กับเบลฟัง ไม่ว่าจะเรื่องกลุ่มเพื่อนใหม่ เรื่องการเรียน รวมถึงสภาพนักเรียนที่โน่นเรื่องเป้าหมายต่างๆของชีวิตและตบท้ายด้วยเรื่องหนิงแฟนคนแรกและการถูกหักอกแบบสายฟ้าฟาดให้กับไอ้เบล “แม่งงงมึงนี่ อัพสกิลไปอีกขั้นแล้วนี่หว่า แจ๋วเลย แบบนี้ฉายาเนิร์ดไม่รู้ฟ้า คงใช้เรียกมึงไม่ได้แล้วดิ” เติร์กยิ้มอย่างภาคภูมิ “มันก็แน่ดิไอ้เบลคนเราเวลาเปลี่ยนชีวิตมันก็ต้องเปลี่ยนดิเว้ย” ไอ้เบลยิ้มและยกมือไหว้ “สาธุ พ่อไลฟ์โคช ขอให้เปลี่ยนจริงๆเห้อะ แม่งงหล่อๆของดีอย่างมึงไปอยู่ที่โน่นนี่คงฟาดหญิงไปเรียบไปเป็นแถบแล้วสิ” “เอ้ยยใจเย็นไอ้เบล เห็นอย่างงี้กูก็ไม่ได้เป็นพวกใช้หน้าตาหวังเย็ดนะเว้ยไอ้เบล” “มึงนี่นะไอ้เติร์ก เฮ้อออ กูไม่รู้จะพูดไงละ มิน่าละเพื่อนมึงที่ชื่อไอ้เตอร์นั่นถึงได้เรียกมึงว่าไก่อ่อน” เติร์กได้แต่ยิ้มใส่ไอ้เบลด้วยความภาคภูมิ “มึงมานี่ก็ดีแล้ว เย็นนี้สนใจไปจอยเพื่อนเก่ากับกูป่าว เนี่ย เย็นนี้กูไอ้เอ็กซ์ ไอ้แป๊ด นัดปาร์ตี้กันที่ร้านแถวนิมมานเลย มึงสนใจไปกับกูป่าว” เติร์กทำหน้าครุ่นคิดไปพักหนึ่ง “อย่าคิดนานและมึงควรต้องไป พ้นเดือนนี้ไอ้เอ็กซ์กับไอ้แป๊ดจะโกอินเตอร์ไปออสเตรเลียแล้วนะเว้ย” “ไปไมวะไอ้เบล? เรียนต่อเหรอ?” “ก็เอ่ออะดิ ไปเหอะไอ้เติร์ก ถือว่าปารตี้ส่งพวกมันยังไงมันก็เพื่อนก๊กเก่าเรานะมึง” “เออน่า ไปๆมึงพูดซะยังกะกูใจแคบไปได้” ทั้งสองคุยกันได้สักพักเลยชวนกันใส่ ROV สองสามตาเหมือนครั้งสมัยเรียนม.5 ด้วยกันจนเวลาล่วงเลยไปถึงฟ้าเริ่มมืด เติร์กเลยขอตัวแยกกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยมีไอ้เบลตะโกนกำชับตามหลังว่า “อย่าลืมที่นัดกันไว้นะเว้ยไอ้เติร์ก 2 ทุ่มเจอกันที่บ้านไอ้เอ็กซ์” ทันทีที่เติร์กกลับถึงบ้านมันไม่รอช้ารีบดิ่งตัวไปยังห้องพร้อมกับเปลี่ยนเสื้อทำธุระส่วนตัวต่างๆ ซึ่งในขณะที่มันกำลังเดินลงจากชั้นบนลงมาด้านล่างของบ้านแม่ของเติร์กที่กลับจากข้างนอกได้เดินขึ้นบ้านมาพอดี “ค่ำๆมืดๆเข้าบ้านมาแล้วจะออกไปไหนอีกน่ะ” “วันนี้ผมไปบ้านไอ้เบลมาน่ะแม่มันเลยชวนผมไปเที่ยวหากลุ่มเพื่อนสมัยเรียนม.5 ด้วยกัน” “หาเรื่องชวนกันออกไปกินเหล้ากันอีกล่ะสิ” “โถ่แม่…นิดหน่อยน่าผม 18 จะ 19 แล้วนะปล่อยๆผมบ้างเหอะ” “เอ่อ….ปล่อยแล้วไม่ทำตัวเหลวไหลก็จะปล่อยอยู่หรอกแทนที่จะรู้จักช่วยการช่วยงานที่ร้าน” “หืมมมวันนี้ครึ่งวันยังไม่พออีกเหรอแม่ ช่วยจนคนงานแทบจะว่างงานกันแล้ว” แม่เติร์กทำหน้าเซ็งใส่และพูดตัดบท “ไปไปไปจะไปไหนก็รีบไป แล้วก็อย่ากลับมาดึกดื่นล่ะ ถ้าเมาขับรถกลับไม่ไหวก็โทรบอกเดี๋ยวจะให้ไอ้เจี๊ยบคนเฝ้าร้านไปรับ” “ครับแม่ ผมไปนะ” เติร์กยกมือไหว้ก่อนจะรีบก้าวเดินออกจากตัวบ้านไปหารถยนต์ที่จอดอยู่ด้านนอกเวลา 20.05 น. เติร์กเดินทางไปถึงบ้านไอ้เอ็กซ์จนมันไปเจอเข้ากับ ไอ้เบล กับไอ้เอ็กซ์ที่ยืนคุยกันอยู่ก่อนหน้าเจ้าเติร์กเลยขับรถเข้าไปใกล้พร้อมกับเลื่อนกระจกลง “ไงพวกมึงจะไปกันยัง” ไอ้เอ็กซ์ที่เห็นเติร์กในรถถึงกับยิ้มดีความดีใจ “นี่ไง มาแล้วว่ะกูกะไอ้เบลกำลังจะเผามึงอยู่เลย มาๆ เอารถไปจอดริมรั่วโน่น เดี๋ยวรอไอ้แป๊ดไปส่งแฟนมันกลับบ้านแปป” ทั้งสามยืนคุยกันได้ 10 นาทีจนไอ้แป๊ดขับมอเตอร์ไซค์มาถึงและมือสมาชิกทั้งครบทั้งหมดเลยพากันไปยังผับแห่งหนึ่งแถวนิมมาน ซึ่งขณะที่ทั้งสี่คนกำลังเดินเข้าผับเจ้าเติร์กที่เดินตามไอ้เอ็กซ์รีบเอามือสะกิดหลัง “ไอ้เอ็กซ์กูถามหน่อย” “มีไรเพื่อนเติร์ก” “พวกเราอายุไม่ถึง 20 กันนะเว้ยแม่งจะไม่มีปัญหาเหรอว่ะเวลาเข้าไปน่ะ” “โห่นึกว่าเรื่องไร มึงอย่าซีเรียสเว้ย นี่ผับของเพื่อนสนิทพี่กูเองวันนี้กูบอกเค้าแล้วว่าจะพาพวกมึงมา แล้วก็ที่นี่เจ้าของเค้ามีแบ็คใหญ่ช่วยอยู่พวกตำรวจแม่งไม่กล้ามายุ่งหรอก มามาเข้ามามึง” เติร์กเดินก้าวเดินเข้าไปมันรู้สึกถึงความมืดช่วงขณะจิตก่อนตาทั้งสองจะเห็นแสงหลากสีที่ส่องวิบวับไปมา เสียงเพลงจาก EDM ที่ยังเปิดคลอเบาเสียงผู้คนที่คุยกันเจี้ยวจ๊าวและความเย็นของอากาศที่พวยพุ่งเข้าปะทะใบหน้ามาพร้อมๆกัน นั่นเลยทำให้เติร์กที่เพิ่งเข้าผับครั้งแรกถึงกับใจเต้นตุ้มๆต่อมๆอย่างบอกไม่ถูกในระหว่างที่มันกำลังเดินตามเพื่อนๆไปตามทางมันก็อดใจไม่ได้ที่จะมองดูบรรยากาศและผู้คนรอบตัวอย่างอดใจไม่ได้จนหญิงสาวและชายหนุ่มบางคนโดยรอบที่เหลือบไปเห็นเจ้าเติร์กถึงกับมองตามดังถูกมนต์สะกด ไอ้เอ้กซ์พาทั้งสามมานั่งยังโต๊ะ VIP ด้านในที่สามารถมองเห็นวิวของสภาพโดยรอบได้ “ที่ตรงนี้ต้องจ่ายเพิ่มเยอะด้วยนะพวกมึงปกติจะเอาไว้รับพวกแขกมีชื่อเท่านั้นแต่วันนี้พวกมึงโชคดีมากนะเว้ยที่ไม่มีแขกจองไว้แถมยังได้นั่งฟรีๆไม่ต้องจ่ายเพิ่มไรเลย เนี่ยยยเห็นปะเพราะบารมีของกูแท้ๆนะเว้ยพวกกก” ไอ้เอ็กซ์พูดและยักคิ้วใส่ทุกคน เบล แป๊ดและเติร์กหันมองกันก่อนจะยกมือไหว้และพูดใส่ไอ้เอ็กซ์เป็นเสียงเดียว “ขอบคุณครับลูกพี่ใหญ่ บุญคุณนี้ข้าน้อยทั้งสามจะจดจำไปชั่วกาล” ทั้งสามจะหัวเราะกันยกใหญ่ พร้อมทั้งไอ้เบลที่พูดเสริม “ไหนๆ ลูกพี่เอ็กซ์ก็ทำตัวให้มีบุญคุณแล้วยังไงช่วยเลี้ยงเครื่องดื่มให้พวกลูกน้องทั้งสามกันหน่อยดิพี่” ไอ้เอ็กซ์รีบพูดตอบโดยไม่ลังเล “ได้….กล้าขอก็จัดไป…จะแดกไรกัน” ไอ้เบลหันมองเติร์กทันใด “เห้ยไอ้เติร์กถ้าจำไม่ผิดมึงบอกกูว่าเคยแดกเหล้าแล้วใช่ปะ ตอนโรงเรียนมีงานไรของมึงน่ะ” “เอ่อ แต่กูแดกได้ไม่เยอะหรอกนะ” ไอ้เบลมันเลยตัดสินใจสั่งเครื่องดื่มเบาๆให้เติร์กได้ลองก่อนจะจัดหนักในช่วงหลังทั้งสี่นั่งดื่มนั่งคุยนั่งมองผู้คนกันได้ไม่นาน จู่ๆแสงไฟหลากสีได้หลี่ลงจนสลัวตามมาด้วยเสียงของดีเจหนุ่มประจำผับพูดดังขึ้นก่อนเริ่มจัดเพลงเด็นซ์มันๆเพลงแรกปลุกเร้าใจเหล่าผู้คนให้ออกมาดิ้นตามจังหวะมันส์ๆอย่างอึกกระทึกตึงๆๆตืดตือตืดตืดตือตืด ตืดๆๆๆเสียงเพลงดังสนั่นสั่นกังวาลไปทั่วพื้นทางเดินและผนังจนเจ้าเติร์กรีบเอามือขึ้นปิดหูจนทำให้ไอ้เบลที่นั่งข้างรีบเอามือมันขึ้นมาปัดมือเติร์กที่ปิดหูลงพร้อมทั้งพูดใส่หู “ปิดหาพ่องงงไมวะไอ้เติร์ก เพลงเค้ามีให้ฟังหนุกๆ” “เชี่ยยยไอ้เบล ก็แม่งดังเกิ้นนน…ใครจะไปทนได้วะ” “มันคือส่วนหนึ่งของรสชาติเติมเต็มวัยคะนองเว้ยยจงดื่มด่ำมันให้เต็มที่ซะพ่อไก่อ่อน” ทั้งเสียงเพลงและเสียงร้องตะโกนด้วยความเร้าใจของผู้คนยังคงดังต่อเนื่องจนไอ้เอ็กซ์ที่ทนไม่ไหวรีบวางแก้วในมือพร้อมลุกเดินเข้าหาฝูงชนชายหญิงที่กำลังดิ้นขยับเรือนร่างไปมาไม่นานนักไอ้แป๊ดก็ลุกตามไปอีกพร้อมกับแก้วเหล้าในมือดิ่งไปหาหญิงผมสั้นตัวอวบคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจนไอ้เบลที่นั่งกระดกของเหลวที่เหลือก้นแก้วใส่ปากรวดเดียว พร้อมหันมาถามเติร์ก “ไงวะมึงงง แปลกหูแปลกตาอะดิ ไงไงอยากออกไปขยับตัวไหมวะ ตอนนี้กูชักอยากจะตามรอยไอ้สองคนนั่นแล้วว่ะ” เติร์กเงียบได้แต่กระดกแก้วในมือใส่ปากพร้อมกันมองไปยังกลุ่มผู้คนที่กำลังเต้นส่ายเรือนร่างตามจังหวะเพลงดูวุ่นจนตาสายเติร์กสะดุดเข้ากับสาวคนหนึ่งที่ยืนหันหลังเต้นกับกลุ่มเพื่อนโดยสาวคนดังกล่าวสูง 171 ซม. ผมยาวสีทองสวมจั๊มสูทสั้นสีชมพูอ่อนเส้นผมของเธอส่ายสยายตามแรงเหวี่ยงของร่างกายล้อเล่นกับแสงไฟที่ส่องจากเพดานมาเป็นครั้งคราวเลยทำให้เธอดูโดดเด่นกว่าเพื่อนๆของเธอซึ่งขณะที่เติร์กนั่งมองอยู่นั้นมันได้หวนคิดถึง หนิงสาวคนแรกที่ทำให้มันรู้จักคำว่าอกหัก ยิ่งมองก็ยิ่งคิดจนเกิดคำถามในใจของตัวเองว่า“นั่นใช่หนิงจริงหรือเปล่า อยากเห็นหน้าชัดๆแหะ” และด้วยการที่เติร์กนั่งเพ่งมองอยู่นานจนลืมสังเกตว่าเพื่อนสาวอีกคนที่ยืนเต้นอยู่ข้างๆคนที่ว่าได้หันมองทางเติร์กพอดีก่อนจะเอื้อมหันไปกระซิบบอกสาวคนที่ว่าให้หันมองมองอย่างทันควันทำเอาเติร์กนั้นถึงกับรีบผละสายตามองไปทางอื่นเกือบไม่ทันหัวใจมันเต้นตุบๆด้วยความตื่นเต้นและตกใจ จนไอ้เบลที่นั่งอยู่ข้างหันมองพูดกับมัน “เห้ยกูขอไปขยับตัวหน่อยนะเว้ย เพลงแม่งได้ว่ะ” “อะเอ่อ มะมึง กูไปด้วย” เติร์กรีบลุกตามไอ้เบลไปอย่างไม่รีรอ ในระหว่างที่เติร์กกับขยับร่างกายตามจังหวะเพลงอยู่นั้นมันก็อดใจไม่ได้ที่จะหันมองหาหญิงคนดังกล่าวเป็นครั้งคราวแต่ด้วยความคนและแสงที่ไม่อำนวยเลยทำให้มันได้แต่ถอดใจขณะที่เต้นๆอยู่นั้นเติร์กรู้สึกถึงบางสิ่งมาลูบไล้ยังก้นแรกๆมันคิดว่าคงรู้สึกหรือคิดไปเองเลยไม่ได้สนใจแต่ความรู้สึกดังกล่าวค่อยถี่ขึ้นจนลามไปถึงบีบจับเบาเข้าที่เป้ากางเกงนั่นเลยทำให้เติร์กตกใจรีบหันมองรอบตัวแต่มันก็ไม่พบสิ่งใดนอกจากร่างของผู้คนภายใต้แสงสลัวๆที่เต้นไปมาอยู่รอบตัวมันเลยมองหาไอ้เบลซึ่งเต้นอยู่ห่างจากมันไปไม่ไกลมันเลยเดินแทรกหนีจากจุดดังกล่าวไปหาไอ้เบล หลังเพลงแรกจบ ไอ้เบลพาเติร์ก ไอ้เอ็กซ์ ไปนั่งยังบาร์และสั่งอะไรดื่ม สักพักไอ้เบลเอ่ยปากชวนทั้งสองไปเข้าห้องน้ำแต่เนื่องด้วยที่เติร์กไม่ปวดบวกกับขี้เกียจเดินและลุกไปไหนต่อไหนมันเลยตอบปฎิเสธไป ทั้งสองเลยทิ้งให้เติร์กนั่งอยู่ที่บาร์เครื่องดื่มเพียงลำพัง เติร์กที่ไม่รู้คุยกับใครมันเลยเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดดูโน่นนี่นั่นเหมือนเช่นเคย “ปี้เจ้า คอสโม่สองเเก้วเจ้า” “อี่นี้กูไปเข้าห้องน้ำกำเน้อมึงรอกูนี่อยู่หน๋า” เสียงคำพูดและหัวเราะคิกคักทำให้เติร์กเก็บโทรศัพท์ในมือและมองข้าง ซึ่งนั่นทำเอาเติร์กใจหล่นวาบถึงตาตุ่มเพราะคนที่ยืนสั่งเครื่องดื่มอยู่ข้างๆคือสาวที่มันแอบมองก่อนหน้านี้ เติร์กเจอแบบนั้นได้แต่เก็บอาการโดยการทำทีเป็นมองขวดเหล้าที่เรียงรายอยู่ชั้นบาร์ตรงหน้าโดยไม่พูดไม่จาไม่นานนักบาร์เทนเดอร์ได้เอาคอสโม่สองแก้วมาส่งให้กับสาวที่ว่า เติร์กที่ตอนนี้ทั้งตื่นเต้นทั้งประหม่าจนไม่รู้จะยังไง แต่จู่ๆ มืออันเรียวงามพร้อมกับกระดาษบิลที่เขียนด้วยปากกาที่ด้านหลังว่าสวัสดีเจ้า แนบกับมือเลื่อนจากด้านข้างมายังตรงหน้าเติร์ก “ท่าจะจริงซินะที่เค้าว่าคนชอบแอบมอง มักจะพูดไม่เก่ง” “เอิ่มมม เราขอโทษ พอดีตอนเราเห็นเธอจากด้านหลังมันทำให้เรานึกถึงเพื่อนน่ะ ไม่ได้มีเจตนาคิดไม่ดีนะ” เติร์กพูดพร้อมหันมองหน้าทำเอามันถึงกับตกใจนิดๆที่ใบหน้าของหญิงสาวดังกล่าวคล้ายกับหนิงแต่ไม่ถึงกับเหมือน “อืมมม…..แสดงว่าเพื่อนของนายท่าจะเป็นสาวสวยและน่ารักแน่ๆ” เติร์กยิ้มและพูดตอบ “ก็ไม่ถึงขนาดนั้นแต่มันก็นะ..สวยนั่นแหละ” สาวคนดังกล่าวทำหน้างงนิดๆ “สวย…หมายถึงเราน่ะเหรอ” “ป่าวๆก็คนที่เรานึกถึงน่ะ แต่ชุดเธอก็สวยเลยนะดูเข้ากับเธอดี” สาวคนดังกล่าวยิ้มด้วยความดีใจ “ขอบใจ….ดูท่าคงมีแต่นายแหละมั้งที่เห็นตรงกับเรารู้ป่าววันนี้เพื่อนคนอื่นๆมีแต่แซวว่าเราแต่งมาเกินงาน…..นี่นายเพิ่งมาครั้งแรกเหรอ….ไม่เคยเห็นหน้าเลย” “อื้มมช่ายๆ” “โต๊ะเรามีแต่ผู้หญิงนะนี่ถ้านายไม่ว่าไร นายมานั่งคุยนั่งดื่มกับเรากับเพื่อนๆดิ มีเพื่อนเราหลายคนเลยบอกว่าอยากรู้จักนาย” เติร์กทำหน้าเหวอบวกเจื่อนนิดๆ “เอิ่มมไม่ดีมั้ง จะให้เราที่ไม่รู้จักไปนั่ง” สาวคนดังกล่าวได้แต่ยิ้มตอบ “ต้องดีสิ ถ้าเป็นนายยังไงก็ต้องดีอยู่แล้ว มามา” สาวคนดังกล่าวหยิบคอสโม่ที่สั่งก่อนหน้าขึ้นมาและเดินจากไปพร้อมทั้งหันมองอย่างรวดเร็วจนเส้นผมของเธอสะบัดสยายแตกเป็นกลีบตามแรงเหวี่ยงของหัวก่อนจะพยักหน้าใส่เติร์กสองครั้งเติร์กถึงกับมองตาค้างด้วยความตกตะลึง ไม่นานนักไอ้เบลกับไอ้เอ็กซ์กลับจากห้องน้ำมานั่งที่บาร์เครื่องดื่มและกวาดสายตามองหาเติร์ก “เห้ยยไอ้เติร์กมันหายไปไหนวะไอ้เบล แม่งคงไม่ชิ่งกลับก่อนนะ” “เอ้ยยยไม่หรอกเว้ยยยไอ้เติร์กแม่งไม่มีนิสัยตีชิ่งแบบมึงอยู่แล้ว” “พูดยังกะมึงไม่เคยทำว่ะไอ้เบล” “แม่งมันก็ต้องมีบ้างดิวะ ปะลองไปที่โต๊ะบางทีไอ้เติร์กอยู่คนเดียวแม่งอายมันอาจกลับไปรอพวกเราอยู่นั่น” ผ่านไป 20 นาที เติร์กเดินกลับมาหาเพื่อนๆที่โต๊ะเดิมเลยทำให้เพื่อนของมันที่นั่งคุยกันอยู่นั้นรีบเรียกให้มันเข้ามานั่งพร้อมกับไถ่ถามว่า “หายหัวไปไหนมา” และเมื่อทั้งสามได้ฟังคำตอบของเติร์กไอ้เบล ไอ้แป๊ด และไอ้เอ็กซ์ถึงกับอึ้งและพากันแซวยกใหญ่มีทั้งโดนถามว่าโดนสาวๆทำไรบ้าง สาวๆเหล่านั้นเป็นใครชื่ออะไร อยู่ที่ไหน ซึ่งเติร์กเองก็พยายามตอบคำถามอย่างใจเย็นว่าไม่มีไรเกินเลยแค่ไปถูกชวนไปนั่งดื่มนั่งคุยกัน สาวๆพวกนั้นก็เป็นรุ่นพี่ปี 2-3ที่เรียนอยู่ม.ราชภัฏ และ ม.พิษณุโลก รวมกลุ่มมาเที่ยวกันซึ่งตอนนี้รุ่นพี่พวกนั้นก็กลับไปกันแล้วและตัวมันเองก็เป็นฝ่ายโดนสาวๆชวนคุยซะส่วนใหญ่มันเลยไม่ได้ถามว่าสาวๆพวกนั้นชื่ออะไรกันบ้างนั่นเลยทำให้ทั้งสามโห่ใส่เติร์กกันยกใหญ่ด้วยความเสียดายโดยเฉพาะไอ้เอ็กซ์ที่คลั่งไคล้สาวๆหน้าใหม่ต้องเอ่ยปากต่อว่าเน็บแนมใส่เติร์กไปชุดใหญ่ แต่เติร์กนั้นก็ไม่ได้โกรธหรือแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา มันยังคงยิ้มและย้อนนึกถึงช่วงเวลาเมื่อครู่ จนกระทั่งเวลา23.50 น.ไอ้แป๊ดพาเพื่อนๆออกจากผับไปยังสถานที่แห่งหนึ่งโดยมีลักษณะเป็นตึก 3 ชั้น ซึ่งหากมองจากภายนอกแล้วคงเป็นเหมือนโรงแรมทั่วไป แต่พอทั้ง 4 ได้เข้าไปภายในตึกที่เป็นชั้นล่าง เติร์กถึงกับแปลกใจทันทีที่เห็นสภาพตึกชั้นแรกเป็นเสมือนบาร์เหล้ากึ่งร้านอาหารที่มีผู้หญิงแต่ตัววาบหวิวหุ่นเพรียว เดินบริการตามโต๊ะ ที่จัดไว้เป็นโซนๆแต่มันยังคงเงียบและเดินตามเพื่อนๆไปอย่างตื่นเต้นและแปลกใจยิ่งกว่าตอนไปผับจนไอ้แป๊ดพาทุกคนไปนั่งยังโต๊ะโซน B “เห้ยๆไอ้แป๊ด นี่มันร้านอาหารไรวะทำไมกูเห็นแม่งมีแต่เด็กเสริฟผู้หญิงบางคนก็แต่งตัวแปลกๆเต็มไปหมด” เติร์กเอ่ยปากถามทันทีที่นั่งลงได้ไม่นานจนไอ้แป๊ดนั่งมองหน้าเติร์กครู่หนึ่งก่อนจะหันมองไอ้เอ็กซ์กับไอ้เบลที่นั่งยิ้มอย่างใจเย็น “มันก็ไม่เชิงร้านอาหารนะแต่จะว่าไงดีวะ เอิ่มม ร้านอาหาร….อาหารกายใจ” เติร์กทำหน้างงใส่ไอ้แป๊ดทันที “ไรวะ…มึงพูดให้เคลียร์ดิ อาหารกายใจไรของมึง” “เถอะน่า ของดีของงาม แม่งหากินยากนะมึงง” เติร์กยังคงไม่เข้าใจกับคำพูดดังกล่าวมันเลยหันไปถามไอ้เบลที่นั่งอยู่ข้าง “ไอ้เบล มึงเข้าใจที่มึงพูดไหมวะ” ไอ้เบลยิ้มและพยักหน้า “โอ้ยยย กูว่ามีแต่มึงนี่แหละมั้งที่ไม่เข้าใจตั้งแต่เดินเข้ามากูก็นึกว่ามึงน่าจะรู้แล้วซะอีก” “เชี่ยเบลถ้ากูรู้คงไม่ถามมึงอยู่นี่หรอก” ไอ้เบลเอื้อมเอาแขนซ้ายไปกอดคอเติร์กไว้ “จริงๆจุดประสงค์แท้จริงวันนี้คือการมาเที่ยวซื้อกินหญิงเว้ยมึงเองก็อายุจะ 19 แล้ว น่าจะลองบ้างนะ แม่งโอกาสแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆนะมึง” เติร์กได้ยินเช่นนั้นถึงกับตกใจจนรีบดิ้นจนมือไอ้เบลที่กอดคอหลุดออก “โห่พวกมึงงงงแม่ง ไม่เอ้า ไม่เอาเว้ยยย เชี่ยยงั้นกูกลับละ” ไอ้เบลที่เห็นว่าเติร์กกำลังจะลุกหนีมันเลยรีบดึงแขนไว้ “เห้ยๆๆ ใจเย็นมึง นั่งๆๆ นี่มึงเพื่อนกูป่าววะแม่งจะหนีพวกกูไปดื้อๆอย่างงี้น่ะเหรอไอ้เติร์ก” “ก็พวกมึงแม่งงง พากูมาที่แบบนี้อะนะ” ไอ้เอ็กซ์ที่เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเติร์กรีบพูดเสริมอีกคน“ไอ้เติร์กมึงใจเย็นดิ ถ้ามึงไม่เอามึงก็นั่งกินนั่งดื่มอยู่ข้างล่างนี่ก็ได้พวกกูก็ไม่ได้บังคับมึงสักหน่อยว่ามึงจะต้องเอา นั่งเลยนั่งเลยแล้วก็เลิกโยเยเหมือนเป็นเด็กได้แล้วแม่งดูไม่เป็นตัวของมึงเมื่อก่อนหน้านี้เลยว่ะ” แป๊ดพูดเสริมอีกคน “คิดซะว่ากูพามึงมาเปิดโลกทัศน์ละกันส่วนมึงจะทำอะไรยังไงก็แล้วแต่มึงเลย คิดซะอยู่เป็นเพื่อนกับพวกกูคืนสุดท้าย” คำพูดของแป๊ดและเอ็กซ์ทำให้เติร์กสงบลงจนยอมนิ่งด้วยความจำใจไม่นานนักหญิงวัยกลางคนอายุ 40 ปีกว่าๆสวมชุดผ้าไหมพื้นเมืองแบบล้านนาเดินเข้ามายังโต๊ะของทั้ง 4 “สวัสดีเจ้า วันนี้น้องพาเพื่อนมาหลายคนแต้” “นิดหนึ่งครับ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าอาทิตย์ในผมก็จะไปเรียนต่อต่างประเทศกันแล้วครับเจ้ ผมกับเพื่อนเลยจะมา…สักหน่อยเจ้” “เอ่อ นั่นเตอะ จะอี้เจ้ดูท่าจะเสียลูกค้าไป 1 คนแล้วเนอะ แต่บ่อเป็นหยั๋งจะใดวันนี้เจ้จะบริการหื้อเต็มตี้เน้อ” “ขอบคุณเจ้ไงวันนี้พวกผมขอเด็ดๆสวยๆเลยได้ปะครับ ทุกทีที่เจ้จัดมาให้มันก็โอเคนะเจ้แต่แม่งยังไม่โดนใจผมเลย ลีลาก็ไม่ได้” เจ้เจ้าของร้านยิ้มกว้าง “ได้ก่า วันนี้น้องงามๆยังบ่อได้ออกตัวเลย จะใดเอา 4 คนเน่อะ แล้วของกินเอาอย่างเก่าแม่นก่อ” “ใช่ครับขอแบบเดิมเลย ยังไงจัดให้ผมกับเพื่อนๆหน่อยนะครับวันนี้เพื่อนบางคนก็เพิ่งเคยมาครั้งแรกด้วย” เจ้เจ้าของร้านหัวเราะยกใหญ่ก่อนจะเดินจากไป ไม่นานนักหญิงสาวหุ่นดีผิวขาว ทั้ง 4 คนถือจานใส่อาหารเดินตรงเข้ามาหาคนแรกชื่อ น้องกล้วย สาวตัวสูง 169 ผมสั้น ผิวขาวเหลืองนุ่งชุดนักเรียนญี่ปุ่นเดินเข้ามานั่งกับไอ้แป๊ด คนที่สองชื่อน้องคิทตี้ สาวผมบ๊อบสีทอง สูง 165 ผิวขาวเนียน ปากแดง ใส่ขาสั้นสายเดี่ยว มานั่งกับไอ้เอ็กซ์ คนที่สามชื่อน้องเปลว สาวผมดำถักเปีย สูง 170 ผิวสีแทนหน้าหวานตาคมแบบไทย นุ่งไฮคัทน้ำเงิน มานั่งไอ้เบล และคนสุดท้าย ชื่อน้องอิ่วสาวผมยาวครึ่งหลัง สูงพอๆกับเปลว ตัวผมแต่นมใหญ่ หน้าตาออกแนวลูกครึ่งจีนแถมดูสวยและน่ารักมากกว่า 3 คนที่ว่าไปก่อนหน้าสวมชุดกี่เพ้าแดง มานั่งข้างเติร์กพร้อมทั้งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่เติร์กด้วยความดีใจส่วนเติร์กมันได้แต่จ้องจานอาหารตรงหน้าโดยไม่กล้าหันไปมองอิ่วที่นั่งอยู่ข้างๆ จนอิ่วต้องเอ่ยปากถาม “กินไรไหมของกินที่สั่งมาแต่ละอย่างดูอร่อยๆทั้งนั้นเลย” “อะเอิ่มใช่แต่ถ้าเธอหิวก็กินได้เลย คะคือเราระเรายังไม่หิว” “นี่เพิ่งมาครั้งแรกใช่ป่าว” “เอิ่มใช่อิ่วรู้ได้ไงอะ” “โถ่ ก็เล่นเกร็งซะขนาดนี้ขนาดมือวางที่บนเข่า เล่นบีบซะแบบนั้นระวังกระดูกสะบ้าจะช้ำเอานะ” “ฮ่าๆ ก็จริงนะ” เติร์กรีบปล่อยมือทั้งสองจากเข่าพร้อมหัวเราะด้วยความเขินก่อนจะเอามือไปหยิบแก้วขึ้นมายกใส่ปากอิ่วไม่รอช้ารีบยกขวดเครื่องดื่มขึ้นมาถือในมือ “เอาอีกไหมเดี๋ยวอิ่วเทให้” “เอิ่มมม ไม่เป็นไรอิ่ว” “แล้วนี่ชื่อไรเหรอ อิ่วจะได้เรียกถูก” “เติก ชื่อเติร์กน่ะ” อิ่วยิ้มอีกครั้ง “หวัดดีนะเติร์ก เราอิ่วนะไงคืนนี้อิ่วจะอยู่กับเติร์กนะ มีไร อยากได้ไรเติร์กบอกอิ่วได้เลย” อิ่วชวนเติร์กพูดคุยหลายต่อหลายเรื่องจนเติร์กเริ่มคุ้นชินกับอิ่วอย่างรวดเร็ว “เห็นงี้อิ่วว่าเติร์กเป็นคนคุยสนุกนะ แถมสุภาพด้วย ทีแรกอิ่วคิดว่าเติร์กจะเป็นคนเงียบๆคุยไม่เก่งแล้วซะอีก” “นั่นก็เป็นเพราะอิ่วแหละ อิ่วเองก็เป็นคนคุยเก่งเข้าอกเข้าใจคนดี” เติร์กกับอิ่วเริ่มยกแก้วมาดื่มมาชนกันบ่อยขึ้นบทสนทนาก็เริ่มยืดยาว สนุกจนมีเสียงหัวเราะดังแข่งกับเพื่อนๆจนเติร์กนั้นถึงยอมกินอาหารที่อิ่วป้อนให้ “อิ่ว..เติร์กถามหน่อยซิ ทำไมชุดที่อิ่วใส่มันดูเรียบร้อยมากเลยไม่วาบหวิวเหมือนคนอื่นๆ” อิ่วยิ้มและโน้มมากระซิบใส่หูเติร์ก “ความงามมันซ่อนอยู่ภายในไง” อิ่วพูดพร้อมกับเริ่มใช้มือจับบ้างก็ไล้ตามเนื้อตัวทั้งแขน ขา มือและลำตัวโดยที่เติร์กไม่ได้ขัดขืนต่อว่าอิ่ว กระทั้งเวลาผ่านไป เกือบตี 1จนทุกคนเริ่มได้ที่ ไอ้แป๊ดหันมองกล้วย เปลว อิ่ว และคิทตี้พร้อมทั้งทำหน้าส่งซิกให้เป็นอันรู้กัน “เติร์กอิ่วว่าลูกค้าโต๊ะรอบข้างเสียงดังน่าอิ่วว่าเราสองคนไปหาที่อื่นที่เงียบกว่านี้คุยกันดีไหม เติร์กจะได้เล่าต่อตอนที่เติร์กโดนเอาไปเดินแบบให้อิ่วฟังจนจบด้วยไง” เติร์กมองเพื่อนๆที่เริ่มลุกตามคำเชิญชวนของสาวๆไปยังทางขึ้นชั้นสองของร้านจนเหลือแค่มันกับน้องอิ่วที่ยังคงนั่งอยู่ “ที่ชั้นสองมีไรเหรออิ่ว” “ก็ ที่สงบไงที่เติร์กกับอิ่วได้นั่งคุยแค่สองคน ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีผู้คนเดินไปมาแบบนี้ขึ้นไหม เดี๋ยวอิ่วพาไป” เติร์กทำหน้าลังเลอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบตกลงอิ่วยิ้มดีความดีใจพร้อมกับพาเติร์กไปยังห้องๆหนึ่งที่ชั้นสองทันที่เข้าไปบรรยากาศมันเงียบสงบ เย็นสบายซึ่งต่างจากชั้นล่างกันลิบลับอิ่วพาเติร์กมานั่งลงที่เตียงอันอ่อนนุ่ม ก่อนจะไปหยิบเอาเครื่องดื่มในตู้ขึ้นมาเทใส่แก้วให้เติร์กดื่มอย่างรู้ใจ “พอก่อนอิ่ว เติร์กว่าเติร์กดื่มเยอะแล้วนะ” “ได้ งั้นอิ่วเอาวางข้างหัวเตียงนะเผื่อเติร์กเกิดเปลี่ยนใจ” “อื้มม งั้นเติร์กเล่าต่อจากเมื่อกี้นะ” ไม่ทันที่เติร์กจะได้เล่าจู่ๆอิ่วเอามือมาแตะที่ปากเติร์กเบาๆ พร้อมยิ้มหวานและส่งสายตาอันอ่อนโยน “เติร์ก ตั้งแต่อิ่วทำงานที่นี่มาเติร์กเป็นคนแรกเลยนะที่อิ่วเห็นหน้าแล้วรู้สึกถูกใจแบบไม่รู้จะอธิบายยังไง เติร์กน่ะหล่อมากๆและดูดีไปทุกส่วนเลย เชื่อไหมว่าตั้งแต่ตอนแรกถึงตอนนี้นะอิ่วยังไม่เบื่อที่จะมองเติร์กเลย” เติร์กยิ้มจนหน้าแดง “อย่าพูดงี้ดิอิ่ว เติร์กเองก็เขินก็อายเป็นนะ อิ่วเองทั้งสวยและน่ารัก เติร์กว่าอิ่วเองน่าจะไปได้ไกลกว่านี้นะ” “คนเราล้วนมีเหตุผลในการกระทำแต่บางสิ่งมันก็เกินกว่าจะไปเริ่มใหม่แล้วล่ะ…….เติร์กไม่ใช่ว่างั้นงี้นะแต่อิ่วว่าเติร์กหุ่นเฟิมมาก เมื่อก่อนเล่นกล้ามมาเหรอ” อิ่วพูดและมองไปยังลำตัวเติร์กส่วนเติร์กก้มมองตัวเองก่อนจะยิ้มหันเงยขึ้นมาตอบอิ่ว “ก็ไม่เชิงเล่นเอาจริงเอาจังนะแต่เมื่อก่อนเวลาออกไปนอกบ้านแล้วไม่รู้จะไปไหน เราก็เลยมีไปเลยบ้างหลังๆมาก็ซื้อเป็นครอสดู เพราะตอนอยู่ม.5 รุ่นพี่ที่โรงเรียนหลายคนบางว่าเล่นแล้วหุ่นดีซึ่งมันก็ดีจริงๆอย่างที่เห็นนี่แหละ แต่ช่วงหลังก่อนที่เราจะย้ายกลับจากปทุมธานีมาที่เชียงใหม่นี่เราก็ไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่แล้ว บางส่วนมันก็เลยไม่เข้ารูปน่ะ ฮ่าๆๆ” “งั้นก็แสดงว่าหน้าท้องคงมีแต่ซิกแพกอะดิ” “อ่าหะ ถ้ามันยังไม่ยุบนะ” “ขออิ่วดูได้ไหมถ้าไม่ว่าไร” เติร์กทำหน้าลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบตกลงพร้อมเอามือสองถลกชายเสื้อขึ้นมายังหน้าอก อิ่วถึงกับตาลุกวาวด้วยความทึ่งกับผิวที่ขาวจั๊วตัดกับหัวนมสีชมพูอ่อนๆสองข้างพร้อมทั้งซิกแพกเป็นลอนๆบนหน้าท้อง พอเติร์กเกร็งตัวยิ่งทำให้เห็นกล้ามเนื้อแน่นๆที่อยู่ได้ผิวขาวและซิกแพกที่นูนแข็งเป็นก้อนชัดยิ่งกว่า ซึ่งนั่นเลยทำให้อิ่วถึงกับเอื้อมมือไปลูบหน้าท้องทันทีทันใด “โหยยยย เติร์กมันแน่นจริงๆ” อิ่วลูบไปมาพร้อมทั้งทอดสายตาลงต่ำจนมันเห็นขนอ่อนไรๆ ที่ขึ้นอยู่ถัดจากท้องน้อยลงไปด้านใน ยิ่งลูบไล้อิ่วก็ยิ่งรู้สึกฟินมือเพราะที่ผ่านๆมานั้นตัวของอิ่วเจอแต่แขกที่รูปร่างท้วม บ้างก็ลงพุงบ้างก็หุ่นธรรมดาๆไม่มีอะไรน่าเร้าใจ แต่สำหรับลูกค้าหล่อๆหุ่นดีทุกสัดส่วนอย่างเติร์กที่นานๆที จะมีมาครั้ง นั่นเลยทำให้อิ่วนั้นยิ่งคลั่งไคล้ในตัวเติร์กเป็นอย่างมาก อิ่วมันเลยชักมือออกพร้อมกับมองหน้าเติร์ก “เติร์กบางทีแค่คุยกันไปมา อิ่วกลัวเติร์กจะเบื่อเอาน่ะอิ่วว่าหาอะไรที่มันสนุกๆทำดีกว่าไหม” เติร์กมันดึงชายเสื้อลงและมองหน้าอิ่วด้วยความสงสัย“คือไรอะอิ่ว” อิ่วยิ้มและเอามือทั้งสองจับข้อมือเติร์กไว้มั่นก่อนจะเอามือทั้งสองนั้นมาทาบที่นมใหญ่ๆบนหน้าอกเติร์กที่นั่งฟังอยู่และไม่ทันตั้งตัว พออุ้งมือทั้งสองสัมผัสถึงความนิ่มหยุ่นนิดๆของเต้าสองลูกใต้ร่มผ้า จนเติร์กต้องรีบชักมือกลับด้วยความตกใจ “เอ้ยยยย ทำไรน่ะอิ่ว” อิ่วได้แต่ส่งยิ้มให้เติร์กที่นั่งมองตรงหน้าด้วยความตกใจ “แหมเติร์กก็ดูทำหน้าเข้าให้…..ยังกะว่าอิ่วจะทำร้ายเติร์กอย่างงั้นแหละ” “แต่…มันไม่ดีไม่ใช่เหรอ..ทำแบบนี้” “ก็ถ้าอิ่วอนุญาติยังไงมันต้องดีอยู่แล้ว” อิ่วพูดพร้อมจับมือสองข้างเติร์กไปทาบยังเต้าบนหน้าอกลูกอีกครั้ง “ชอบมะเติร์ก” เติร์กเบือนหน้าหนีและพยายามชักมือกลับ “อิ่ว พอแล้วพอ ไม่ทำแบบนี้” อิ่วจ้องมองใบหน้าเติร์กที่ทั้งเขินทั้งอายจนไม่กล้าสบตาอิ่วแต่กระนั้นอิ่วก็ยังคงออกแรงตรึงอุ้งมือทั้งสองของเติร์กนั้นให้วางทาบยังตำแหน่งเดิมในตอนนี้อุ้งมือของเติร์กสัมผัสถึงความนิ่มหยุ่นๆของเต้าทั้งสองจนมันเผลอบีบไปเบาๆ 1 ทีซึ่งความรู้สึกแรกที่ตระหนักขึ้นในใจคือความฟินจนไม่สามารถอธิบายด้วยคำพูดจากปากจาก 1 ที กลายเป็น 2 , 3 และเพิ่มขึ้นด้วยความหนักหน่วงของแรงบีบ อิ่วยังคงนิ่งและยิ้มด้วยความพึงพอใจ “ชอบอะดี้เติร์ก ดูดิเนี่ยเล่นซะขยำใหญ่เลยนะ” เติร์กยังคงเบือนหน้าหลับตาปี๋จนมันรู้สึกถึงมือนิ่มๆมาจับยังแก้มซ้ายและเบนให้หน้าหันมองตรง “ลืมตาสิสุดหล่อ อิ่วยังมีไรสนุกๆแก้เบื่อให้ทำอีกเยอะเลยนะ” น้ำเสียงหวานๆของอิ่วสั่งให้เติร์กทำตามอย่างว่าง่ายเติร์กเลยลืมตาแบบหรี่ๆก่อนจะเห็นมือทั้งสองของอิ่วสอดเข้ามาลูบไล้เรือนร่างยังใต้เสื้อมือของอิ่วทั้งอุ่นทั้งอ่อนไล้ตามเนื้อตัวไปมาจากด้านหน้าอ้อมไปยังด้านหลังพร้อมทั้งเลื่อนขึ้นไปวนๆและบี้ยังหัวนมสองข้างอย่างเบามือซึ่งทำให้เติร์กถึงกับเคลิ้มในระยะเวลาไม่นานตอนนี้มือทั้งสองที่ขยำนมอยู่ก่อนหน้าค่อยคลายลงจนวางลงบนพื้นเตียงนุ่มๆ “อิ่ววว” เติร์กพูดด้วยน้ำเสียงกระเส่าอิ่วโน้มหัวมาจูบที่ต้นคอเติร์ก ก่อนจะกระซิบข้างหูเบาๆ “สั่นใหญ่เลยนะเติร์ก ดูท่าคงจะเป็นครั้งแรกของเติร์กจริงๆแหะ ไม่เป็นไรเดี๋ยวอิ่วจะเริ่มให้ดีที่สุด เราสองคนจะได้สนุกกันนานๆเนาะ” ทันทีที่พูดจบอิ่วเอามือที่ไล้กล้ามตามลำตัวขึ้นมาทาบยังอกก่อนจะออกแรงผลักทั้งตัวของเติร์กลงไปนอนราบบนเตียงผืนสีขาวอิ่วจัดแจงท่านอนให้เติร์กรู้สึกสบายที่สุด ซึ่งเติร์กในตอนนี้ถึงกับหน้าแดงกร่ำมันก้มมองอิ่วที่นั่งสบตาอย่างหลงไหลอยู่ข้างกายทั้งคู่นั้นเงียบไปชั่วขณะก่อนที่อิ่วไม่รีรอเริ่มรุกคืบโดยปลดชุดของตนที่ใส่อยู่ลงไปกองกับพื้นจนเหลือแต่บิกีนี่สีครีมที่ดูจนเหมือนเป็นสีเดียวกับผิวกาย อิ่วคลานขึ้นไปคล่อมบนลำตัวและมุดหัวเข้าไปยังใต้เสื้อของเติร์กอิ่วใช้ริมฝีปากขมิบกัดไปตามท้องน้อยที่เป็นกล้ามเนื้อแน่นๆลากขึ้นไปยังแผ่นอกขาวๆและหัวนมสีชมพูอิ่วระเลงลิ้นสลับกับริมฝีปากลงไปยังหัวนมขวาก่อนจะข้ามมายังหัวนมซ้ายทำเอาเติร์กถึงกับนอนซี๊ดปากเบาๆ ด้วยความเสียวและสยิวไปพร้อมกันปากของอิ่วทั้งอ่อนนิ่มทั้งอุ่น เส้นผมที่ลากผ่านลำตัวไปมาพร้อมกับมือที่ยังคงไล้และโอบกอดลำตัว ทำเอาเติร์กรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานนักอิ่วค่อยๆ เลื่อนแหน่งหัวลงมายังท้องน้อยที่มีไรขนอ่อนๆอยู่ด้านล่างก่อนทั้งมันจะรู้ถึงบางสิ่งที่แข็งเป็นลำโด่ขึ้นจนชนเข้ากับหน้าท้องและอกอิ่วยิ้มและเอามือจับและบีบนวดวัตถุแข็งโด่ใต้กางเกงอย่างเบามือ เติร์กยังคงนอนหลับตาซีดด ครางผ่านไรฟัน ด้วยอาการเคลิ้ม เสียวและฟินสุดๆ เมื่ออิ่วเห็นเติร์กเริ่มได้ที่มันเลยดึงกางเกงของเติร์กลงและรีบล้วงเอาแก่นกายที่อยู่ด้านใต้ขึ้นมาเชยชมอย่างใจจดจ่อท่อนลำเติร์กมันตั้งชูตระง่านตรงเป็นลำสวยไม่มีคดงอ อิ่วถึงกับชักงักและถอยหน้าออกมานิดๆด้วยความทึ่งกับสิ่งตรงหน้า อิ่วจ้องมองท่อนลำพร้อมกับหันขึ้นมองใบหน้าเติร์กสลับไปมาพร้อมพูดในใจ “โอ้ยยย หล่อออ ควยก็ใหญ่ ขาวว ลำก็สวยยย ช่างน่าาา” อิ่วจับกำจนเกือบเต็มอุ้งมือพร้อมทั้งออกแรงชักขึ้นชักลง “อิ่วชอบมันนะ เจ้ามังกรของเติร์กเนี่ยยย” เติร์กไม่พูดได้แต่ก้มมองมายังอิ่วและยิ้มใส่ด้วยความภาคภูมิปลายหัวสีแดงเรื่อค่อยโผล่พ้นหนังหุ้มสีขาวจนลงไปถึงคอยักอิ่วจ้องตาเป็นมันเนื้อตัวเริ่มสั่นเทาและนึกถึงความรู้สึกหากเวลาโดนดุ้นอันเลอค่าเสียบเข้าไปแล้วมันจะฟินขนาดไหนและลีลาของเติร์กนั้นจะเด็ดเท่าไรหากอิ่วพาเติร์กไปถึงจุดที่ว่า อิ่วก้มชักขึ้นลงและดมหัวเห็ดสูดกลิ่นอันเย้ายวนเข้าเต็มสองรูจมูกหลายต่อหลายทีก่อนจะก้มเอาจมูกไปบดบี้กับพงขนเพชรสีดำยังโคนท่อนลำที่ทั้งนิ่มดั่งเส้นผมสตรีไม่มีผิด เติร์กกระตุกกัดตัวกัดฟันนซีดดตามทุกครั้งที่มืออุ่นของอิ่วเลื่อนขึ้นลงเสียดสีกับหัวเห็ดอ่อนๆสีแดงสดจนน้ำเงี่ยนลื่นๆไหลจากปลายหัวเห็ดลงมาอาบชะโลมอุ้งมือ อิ่วที่ยังคงชักอย่างมันมือส่วนอิ่วนั้นถึงกับอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานโขเพราะตลอดที่ผ่านมามีแขกเพียงไม่ถึง 2 คนที่ทำให้อิ่วนั้นรู้สึกฟินได้ถึงขีดสุดเช่นนี้ซึ่งในระหว่างนั้นเติร์กที่นอนเพลินกับสิ่งที่อิ่วปรนเปรอให้อยู่นั้นจู่ๆภาพของหนิงในชุดนักเรียนมัธยมยืนยิ้มให้กับมันและภาพของบิวในชุดนอนตัวเก่งนั่งจ้องมันตาแป๋ว ผุดแทรกขึ้นในห้วงความคิดพร้อมด้วยเสียงเรียกชื่อเติร์กดังซ้ำไปมาก่อนพร้อมทั้งภาพความทรงจำในช่วงเวลาดีๆที่เติร์กเคยเผชิญกับทั้งสองได้โลดแล่นผ่านเข้ามาดั่งละครหลังข่าวแล้วฉากเล่าจนความเคลิ้ม เสียว ฟิน นั้นหวนกลับเป็นความตระหนักเพิ่มพูนทีละนิดมันเลยก้มลงไปมองอิ่วที่กำลังนอนคล่อมอยู่ท่อนล่างพร้อมทั้งสาละวนกับท่อนลำที่ตอนนี้แข็งตัวเต็มที่จนเห็นหัวบานใหญ่แข็งตั้งชี้โด่อีกทั้งอิ่วกำลังเริ่มเอาปลายลิ้นเล็มๆชอนไชตามหัวเงี่ยงและเส้นสองสลึงค์อย่างตั้งใจ เติร์กสูดหายใจเฮือกใหญ่และเอามือดันตัวลุกขึ้นมาอยู่ท่านั่งจนอิ่วนอนคล่อมอยู่นั้นตกใจตามจนชันตัวลุกตามเกือบไม่ทัน “เติร์ก!!มีอะไรเหรอทำไมจู่ๆถึงได้ลุกขึ้นมาล่ะ อิ่วยังไม่ทันได้พาเติร์กไปจนสุดปลายทางเลย” อิ่วพูดด้วยความเสียวออดอ้อนพร้อมคลานตามเข้ามาใช้มือจับไปยังท่อนลำที่ยังคงแข็งโด่ล่อหน้าล่อตา” เติร์กก้มหลบสายตาอิ่วพร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงลนหน่อยๆ “เอิ่มม ป่าว เติร์ก แค่..” “ถ้าเรื่องถุงยางอิ่วมีให้อยู่แล้วถ้าเติร์กต้องการ แต่หากมีเรื่องอื่นให้กังวลใจล่ะก้ออิ่วว่าเติร์กวางมันลงก่อน ตอนนี้คือเวลาที่อิ่วจะทำเพื่อเติร์กนะ อิ่วแค่ต้องการให้เติร์กพบเจอความสุขและผ่อนคลาย” มือซ้ายของอิ่วยังคงชักขึ้นลงเบาๆจนท่อนลำและมือชุ่มลื่นไปด้วยน้ำเหนียวที่ไหลจากหัวบานๆส่วนมืออีกข้างก็เอื้อมไปโอบแขนซ้ายเติร์กพร้อมกับขยับตัวไปจูบเล็มๆยังต้นคอและใบหูเติร์กยังคงนิ่งเงียบและก้มมองท่อนลำของมันเองแม้นว่ามันจะรู้สึกดีสุดๆแต่ภาพและเสียงในหัวก็ยังคงแทรกกับความต้องการและอารมณ์จนตีกันไปมั่วอิ่วที่เห็นว่าเติร์กไม่มีท่าทีขัดขืน มันเลยเอ่ยปากพูด “ขอให้เติร์กวางใจอิ่วนะนี่แค่น้ำจิ้มเอง ยังเทียบไม่ได้กับเนื้อแท้ของความสุขที่อิ่วจะทำให้หลังจากนี้” อิ่วไม่รอช้ามันขยับตัวลงไปนั่งพับเข่ายังหว่างขาทั้งสองของเติร์กอิ่วจับท่อนลำร่นหนังอ่อนลงให้หัวเห็ดบานๆโผล่จนสุดเงี่ยงมันเพ่งมองอย่างชื้นใจก่อนจะก้มเอาปากและลิ้นหวังสรรค์สร้างความสุขสันต์ให้เติร์กอีกคราแต่ก็ต้องสะดุดเมื่อมือใหญ่ของเติร์กได้เลื่อนมากั้นจนหน้าผากอิ่วเข้าปะทะกับอุ้งมือเข้าจังๆ “อิ่ว เติร์กรู้นะว่าอิ่วต้องการอะไรแต่เราเอง…..เติร์กขอโทษอิ่วจริงๆ อิ่วอย่าว่าเราเลยนะ” เติร์กลุกขึ้นและก้มดึงกางเกงเสื้อขึ้นมาสวมกลับอย่างรวดเร็วก่อนจะเดินหนีเข้าไปยังห้องน้ำและทรุดตัวนั่งลงพื้นพร้อมทั้งสูดหายใจเข้าออกยาวๆด้วยอาการสั่นเทาส่วนอิ่วนั้นได้แต่ชักสีหน้าเซ็งแบบสุดๆถึงกระนั้นมันก็ยังคงลุกเดินตามไปเคาะประตูห้องน้ำและเลียกินน้ำเหนียวๆลื่นๆบนอุ้งมือและนิ้วของมันด้วยความร้อนรุ่ม 2 ชั่วโมงให้หลังเติร์กเดินตีคู่ลงจากชั้นสองมาพร้อมกับอิ่ว มันเห็นเพื่อนของมันทั้งสามนั่งรอคอยท่าอยู่ที่โต๊ะเดิมกับสาวๆคู่กายแต่ละคนที่นั่งป้อนอาหาร รินเหล้าคุยกันกระหนุงกระหนิงยกใหญ่ ทันทีที่ไอ้เบลเห็นเติร์กเดินลงมาแล้ว มันถึงกับแอ่วปากแซวจนไอ้เอ็กซ์กับไอ้แป๊ดที่นั่งกอดนั่งหอมสาวๆอยู่นั้นต้องหันมองตาม เบล - แม่งเว้ยยมาแล้วพระเอกของเรา แม่งลงมาเป็นคนท้ายสุดเลยเว้ยเฮ้ยพวกมึงง แป๊ด - ยะ ได้น้องงามๆแบบนี้ คงเบิ้ลหลายรอบสิท่า แบบนี้มึงต้องจ่ายส่วนที่มึงเบิ้ลลลเองนะเว้ยยไอ้เติร์ก เอ็กซ์ - ไงพี่อิ่ว โดนเพื่อนผมจัดหนักอะดิ้ อิ่วหันมองเติร์กครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มตอบ - คนนี้คือดีสุด ทั้งหล่อ ทั้งหุ่นดี ดีกรีแบบนี้ต้องพาน้องเติร์กมาบ่อยๆนะน้องเอ็กซ์ ทั้งสามหัวเราะชอบใจกันยกใหญ่โดยเฉพาะไอ้เบลที่รู้สึกภาคภูมิใจที่เหมือนได้พาเพื่อนรักของมันได้เติบโตไปอีกขั้นของความเป็นผู้ใหญ่ ทั้งสามเลยชวนให้เติร์กกับอิ่วนั่งที่โต๊ะก่อนจะสั่งของกินและเครื่องดื่มเพิ่มเติม ไอ้แป๊ดที่นั่งข้างอิ่วถึงกับหันไปถามกระซิบ “พี่อิ่วถามไรหน่อยดิพี่ ของเพื่อนผมแม่งใหญ่ปะพี่” อิ่วยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มและหันไปพูด “ความลับจร้าน้อง….อยากรู้ไมไม่ลองถามกับเจ้าตัวเองล่ะ” “โห่พี่พวกผมสามคนก็อยากรู้เหมือนกันสมัยเรียนด้วยกันพวกผมกับคนอื่นๆในห้องอยากรู้กันทั้งนั้นว่าหล่ออย่างมันแม่งจะเด็ดแค่ไหนเมื่อเทียบกับพวกผม” เติร์กและเพื่อนๆนั่งกินนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระจนเวลาล่วงเลยไปเกือบตี 4 ทั้งหมดเลยขอตัวแยกกลับ ซึ่งในขณะที่เติร์กแยกกับเพื่อนมาเข้าห้องน้ำทำธุระและพอเดินออกมามันก็เจอกับอิ่วที่ยืนรอคอยท่า “อิ่ว!!!” “เติร์ก….มาอีกนะ…คราวหน้าถ้าเติร์กต้องการอิ่วก็พร้อมที่จะทำให้เติร์กได้เสมอ” “เราขอโทษนะที่เราทำตามที่อิ่วต้องการไม่ได้คือเรายังไม่พร้อมจริงๆที่จะทำแบบนั้น…..เราเองก็ขอบใจอิ่วนะที่เข้าใจและไม่บังคับเรา” “เอาจริงๆอิ่วก็อยากนะ ใหญ่ๆแบบนี้อิ่วยังไม่เคยโดนเลยด้วย ถ้าเติร์กไม่เปลี่ยนใจนะ อิ่วว่าเราสองคนคงได้เห็นสรวงสวรรค์แน่นอน…แถมน้ำของเติร์กที่ติดมือมาก็รสชาติใช้ได้เลยนะ” เติร์กมันได้แต่หัวเราะหน้าแดงด้วยความอายก่อนจะบอกลาและเดินออกจากร้านไป หลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้เติร์กกับเพื่อนๆได้ร่ำลาแยกจากกันด้วยดี และแล้วก็ถึงกิจกรรมรับน้องวันแรกของมหาวิทยาลัยที่แต่ละคณะได้จัดขึ้น โดยคณะบริหารของเติร์กเองก็จัดกิจกรรมขึ้นเช่นเดียวกับคณะอื่น ๆ ทันทีที่เติร์กเข้าร่วมกิจกรรมได้ไม่นานสายตาของเพื่อนๆ และรุ่นพี่ทั้งหญิงและชายรวมถึงเกย์และกระเทยที่มาร่วมกิจกรรมต่างพากันจับจ้องและให้ความสนใจเติร์กเป็นพิเศษ แม้ว่ามันจะโดนกลั่นแกล้งโดยรุ่นพี่ มันทั้งโดนจับทาแป้ง มัดผม และแต่งแต้มให้ขี้เหล่สักเพียงใด แต่ก็ไม่อาจที่จะกลบความขาว ความหล่อ อันมีเสน่ห์ น่ารัก ทุกครั้งที่เติร์กยิ้มหัวเราะ และทำหน้าตาแปลกๆประหลาดๆ ได้แต่อย่างใด จนรุ่นพี่และเพื่อนในคณะตั้งฉายาให้มันว่า ของดีเลิศแห่งแอคบา เลยทำให้เพื่อนหลายๆคนเวลาทำกิจกรรมเข้ากลุ่มหรือต่อแถวก็แอบเนียนมาอยู่ใกล้ชิดเติร์กกันอยู่บ่อยครั้ง รุ่นพี่บางคนก็หาเรื่องมาจับ มากอด แกล้งลวนลามนิดหน่อยๆ อย่างไม่เว้น แม้นว่าในใจมันจะไม่ชอบก็ตาม แต่นั้นก็ไม่ทำให้เติร์กแสดงอาการโกรธ เคือง หรืออึดอัดแต่ใส่คนรอบข้างอย่างใด มันได้แต่ยิ้มรับมือกับปัญหา และคอยปรามรุ่นพี่หรือเพื่อนบางแสดงอาการคุกคามใส่ตัวมันมากจนเกินไป จนมันได้สนิทกับเพื่อนชายคนหนึ่งชื่อ ดุ๊ก หนุ่มร่างท้วม ไว้ผมยาวยักโศก ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ที่รู้จักกันเพราะดุ๊กนั่งข้างเติร์กแถมรหัสนักศึกษาต่อกัน และดุ๊กมักจะคอยชวนเติร์กคุยลดความประหม่าและเขินอายเวลาโดนแกล้งและโดนแซว อีกทั้งดุ๊กยังให้ความช่วยเหลือเวลาที่เติร์กถูกเพื่อนคุกคามจนเกินเหตุ จนทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนสนิทกันได้โดยใช้เวลาไม่นาน ซึ่งในขณะที่ทั้งสองพักระหว่างทำกิจกรรม "เฮ้ ไอ้ดุ๊ก มึงกับกูเพิ่งรู้จักกันไม่นานแต่เอาไปเอามาก็สนิทกันไวเนาะ ขนาดเพื่อนผู้ชายคนอื่นๆเวลาคุยกับกูยังเกร็งๆ ไม่เหมือนมึงที่พูดปกติ" เติร์กถามดุ๊กที่นั่งท่องนั่งจำชื่อเพื่อนๆในแถวที่มันจดลงสมุด "ก็มึงดาวเด่นซะขนาดนี้ใครจะไม่เกร็งวะ แต่สำหรับกูแม่งชินกับอะไรพวกนี้อยู่แล้ว มึงรู้ปะสมัยเรียนม.6 กูก็มีเพื่อนที่หน้าตาดีแบบมึงแหละ ชื่อไอ้แวน ถึงมันจะไม่หล่อเท่ามึง แต่ตอนม.6 นั้นไอ้แวนแม่งมีแต่คนกรี๊ดกราดดกันทั่วโรงเรียนกทั้งนั้น และมันก็เป็นเพื่อนในก๊กกูด้วย ก๊กพวกกูเลยได้อานิสงความเด่นจากมันเวลาไปไหนก็เลยมีแต่คนอยากเข้าหา กูก็เลยไม่เท่าไหร่กับเรื่องพวกนี้ว่ะ" "จริงเหรอวะ แม่งเพื่อนมึงนี่ก็ไม่ต่างอะไรกับกูตอนอยู่ม.6 เหมือนกันเพียงแต่ของกู คนรอบข้างแม่งรุกหนักกว่า" "เออ ถ้ากิจกรรมขึ้นดอยเสร็จ พวกกูกับเพื่อนก๊กเก่ามีปาร์ตี้กันที่บ้างกูกันน่ะ มึงมาด้วยดิจะได้รู้จักพวกมันด้วย" "เอ้ยย จะดีเหรอวะ จู่ๆให้คนที่เป็นคนนอกเข้าไปมันยังไงอยู่นะ" "เอาน่า ก๊กพวกกูเข้าหาง่ายอยู่แล้ว อีกอย่างไอ้แวนแม่งก็จะได้รู้ด้วยว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า ทุกวันนี้แม่งหลงตัวเองยังกะอะไร....และที่สำคัญนะเว้ยกูจะได้พามึงไปรู้จักพ่อแม่และน้องๆของกูด้วย ไว้มาต่อครับ……………..
|