[ข้าวโอ๊ต] สวัสดีครับ ผมชื่อ ข้าวโอ๊ตอายุ 26 สูง 180 หนัก 65 กิโลกรัม เพิ่งผ่านเบญจเพสมาเลยครับ ผมมีพี่สาวหนึ่งคนชื่อ ข้าวสวย ชื่อน่าหมั่นไส้ใช่ไหม ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น แล้วแมร่งก็เสือกสวยสมชื่อซะอีกเราสองพี่น้องไม่ค่อยถูกกันมาตั้งแต่เด็ก มีเรื่องทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวันและทุกครั้งผมก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้เพราะพ่อกับแม่มักจะตามใจพี่สาวเพราะมันเรียนเก่ง เรียนโรงเรียนประจำจังหวัดหญิง ต่างจากผมที่เรียนประจำจังหวัดชายแค่เรียนให้รอดก็เกือบแย่ เรื่องราวของผมเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 10 ปีที่แล้วตอนนั้นผมยังอยู่แค่ ม.4 แต่ดันไปตกหลุมรักพี่ ม.6 คนนั้นคือ พี่ธันขอเล่าเรื่องของพี่ธันนิดหนึ่งนะครับ พี่ธันเป็นหนุ่มฮอตของโรงเรียนก็ว่าได้เพราะพี่แกหล่อและมีคนตามกรี๊ด แต่นั้นไม่ได้ทำให้ผมตกหลุมรักพี่เขา เสน่ห์ที่ดึงดูดผมเข้าหาพี่เขาคือความใจดีของเขาเพราะมีอยู่ครั้งหนึ่งผมตกรถรับ - ส่ง เพราะมัวแต่เล่นฟุตบอลเพลินไปหน่อยเงินติดตัวก็ไม่มีแถมแบตมือถือก็หมดไปตั้งแต่เรียนคาบบ่ายก็ได้พี่ธันนี้แหละครับที่มาเจอผมที่นั่งเหงา ๆ อยู่หน้าโรงเรียนแถมตอนนั้นใกล้จะมืดแล้วด้วยพี่แกพาผมไปนั่งดูพี่เขารับปากว่าจะไปส่งผมแต่ผมต้องไปนั่งรอเขาซ้อมเทควันโด้เสร็จก่อนผมไม่มีทางเลือกนี้ครับ วันนั้นหลังพี่ธันซ้อมเสร็จแกพาผมมาเลี้ยงข้าวก่อนขับรถมาส่งที่บ้านเพราะรู้ว่าผมหิวจากวันนั้นมาผมก็ตื้อที่บ้านขอเรียนเทควันโด้ตอนเย็นหลังเลิกเรียนจนได้ทำให้ผมได้ใกล้ชิดและสนิทกับพี่ธันมากขึ้นในตอนแรกพี่ธันเป็นเหมือนพี่ชายที่ผมต้องการมาทั้งชีวิตเพราะความใส่ใจและความใจดีของแกแต่พอนานวันเข้าความใกล้ชิดก็ทำให้ผมรู้ใจตัวเองว่าผมกลายเป็นเกย์เพราะพี่ธันโดยไม่รู้ตัวแต่หนึ่งสิ่งที่ผมขัดใจมากก็คือพอผมได้มาเรียนเทควันโด้ผมก็ต้องกลับบ้านพร้อมพี่สาวที่เรียนพิเศษเลิกสองทุ่มเพราะนั้นมันทำให้พี่ธันได้เจอกับพี่สวย “สวยรู้นะว่าโอ๊ตเป็นเกย์แถมชอบธันด้วย สวยจะบอกพ่อ” พี่สวยพูดขึ้นมาหลังจากที่มารอรับผมกลับบ้านได้ไม่นานผมไม่สนหรอกครับว่าสวยจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพ่อเพราะยังไงผมก็ตัวร้ายของบ้านอยู่แล้วแถมผมก็ไม่ได้ต้องการให้พี่ธันมาตอบรับความรักของผมด้วยแค่ได้แอบชอบก็มีความสุขมากแล้ว เลยไม่ได้ตอบอะไรสวยไปแต่พี่สวยมันก็ไม่ได้ไปฟ้องพ่อตามที่มันขู่ แต่มันแก้เผ็ดผมด้วยการเปิดตัวคบกับพี่ธันเป็นแฟนวันนั้นมันทำให้ผมรู้เลยว่าทั้งชีวิตนี้ผมเอาชนะมันไม่ได้ หลังจากวันนั้นผมก็ใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยพี่สวยกับพี่ธันไปเรียนมหาลัยเดียวกันในกรุงเทพถึงจะคนละคณะก็เถอะส่วนผมเรียนจบมอปลายก็เรียนต่อมหาลัยประจำภาค เรียนจบก็กลับมาทำงานแถวบ้าน เป็นปีเดียวกับที่พ่อกับแม่เกษียณแล้วพากันย้ายกลับไปอยู่บ้านสวนเป็นเพื่อนย่าผมเลยอยู่บ้านคนเดียวตามประสาหนุ่มโสด แต่ก็มีความสุขกับการอยู่คนเดียวได้ไม่นาน พี่สวยกับพี่ธันก็แต่งงานกัน(ความรักพวกมึงสองคนนี้ยาวนานจังนะ) แถมพากันย้ายมาทำงานที่บ้านพี่สวยทำงานบัญชีให้บริษัทแถวบ้านส่วนพี่ธันเป็นวิศวกรของโรงงานต่างอำเภอไม่ไกลมากส่วนผมเป็นครูคณิตให้กับโรงเรียนแถวบ้าน แล้วชีวิตการอยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันกับคนที่เคยแอบชอบก็เริ่มต้นมานับแต่ตอนนั้นพี่สวยมักจะยกตนข่อผมด้วยเรื่องการมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบบ้างเรื่องเงินเดือนที่เยอะกว่าผมบ้าง โดยที่พี่ธันไม่เคยเข้าใจคำพูดที่อ้อมค้อมนั้นแต่ผมที่โตมากับมันเข้าใจได้ดีเลยหละว่าพี่วยชอบดูถูกและถากถางผม ส่วนเรื่องผมกับพี่ธันนั้นผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าความรู้สึกชอบมันหมดไปนานจนผมจำมันไม่ได้แล้วรู้แต่ว่าเคยแอบชอบคนๆ นี้แล้วคนที่รู้เรื่องนี้ก็มีแค่ผมกับพี่สาว จนมาวันหนึ่งที่ผมกับพี่ธันอยู่บ้านแล้วไฟดับรออยู่นานไฟก็ไม่มาเสียทีผมก็ถอดเสื้ออยู่แต่ในห้องจนร้อนเลยออกมานั่งหน้าบ้านเจอพี่ธันที่ถอดเสื้อรดน้ำต้นไม้อยู่ก่อนแล้ว “ไงเราในบ้านร้อนละสิ” “ร้อนฉิบหายเลยพี่ไม่ไหวๆ เมื่อไหร่ไฟจะมา” พี่ธันทักผมเป็นปรกติผมเลยอาสาช่วยแกรดน้ำต้นไม้ พี่ธันเลยย้ายกระถางนู้นนี้ จนเหงื่อท่วมเราจัดต้นไม่จนเกือบเสร็จพี่สวยก็กลับบ้านมา มาถึงก็ซักไซ้เรื่องราวใหญ่ แต่ดูเหมือนประเด็นก็คือทำไมผมกับพี่ธันมาถอดเสื้ออยู่สองคนหน้าบ้านดูก็รู้ว่าสวยมันหึงผมกับพี่ธันนั้นเป็นสิ่งที่ปลุกความคิดในการปั่นให้ข้าวสวยหัวเสีย หลังจากวันนั้นมาผมก็หาเวลามาอยู่กับพี่ธันสองต่อสองเพื่อให้พี่สาวจับได้แล้วข้าวสวยก็หัวเสียไปตามที่ผมหวังทุกครั้งจนนานวันเข้าพี่สวยคงทนต่อความเกรียนของผมไม่ไหว วันนั้นพี่ธันมีโอทีเลยกลับบ้านดึกผมกับพี่สวยอยู่บ้านกันแค่สองคน อยู่ๆมันก็มาเคาะประตูห้องผม ที่ร้อยวันพันปีไม่เคยทำ “โอ๊ตขอคุยด้วยหน่อยสิ” สวยบอกแค่นี้ก่อนที่จะเดินนำผมลงไปข้างล่างผมเดินตามมันมาแล้วไปนั่งที่โซฟาหน้าทีวีตรงข้ามกับสวยที่นั่งรออยู่ก่อนแล้วผมทำตัวใจดีสู้เสือไม่รู้สิ่งที่สวยจะพูด แต่ก็ทำท่าทางสาย ๆรอให้สวยเป็นคนเริ่มเปิดประเด็นเอง “โอ๊ตยังชอบธันอยู่หรอนี้มันก็ผ่านมาหลายปีแล้วนะ” โถ นึกว่าเรื่องอะไรที่แท้ก็เรื่องหึงผัว นี้คงรอเวลานี้มานานเลยสิถึงได้กล้าพูดเพราะปรกติผมกับพี่สาวถึงอยู่บ้านเดียวกันก็ต่างคนต่างอยู่แทบไม่สุงสิงกันด้วยซ้ำว่าแล้วก็ปั่นหัวมันต่อเลยแล้วกันด้วยการยิ้มน้อย ๆ อย่างมีเลศนัย แล้วตอบคำถามด้วยคำถามเรื่องจิตวิทยาผมได้เรียนรู้มาจากการเป็นครูนี้แหละ “แล้วสวยคิดว่าไงละ” “คิดว่าไง?กล้าถามมาได้ไงก็เห็นอยู่ตอนนี้สวยกับธันแต่งงานกันแล้ว มันไม่เหมือนตอนเรายังเด็กนะโอ๊ตตอนนี้ธันมีเจ้าของแล้ว แถมคนนั้นก็ยังเป็นพี่สาวของนายอีกนะโอ๊ต” “พี่สาว?...หึ..พี่สาวที่แย่งคนที่น้องแอบชอบไปอย่างน่าด้านๆ พี่สาวที่เอาแต่ยกตนเองข่มน้องชายพี่สาวที่มองแต่เรื่องของตัวเองเอาตัวเองเป็นที่ตั้งนะหรอกล้ามากนะที่เรียกตัวเองว่าพี่สาว” “นี่....มันเกินไปแล้วนะโอ๊ตสวยมาคุยกับโอ๊ตดี ๆ ทำไมต้องแดกดันกันด้วย” “แล้วสวยต้องการอะไรกับโอ๊ตละ?” “เลิกยุ่งกับพี่ธันได้ไหมสวยขอนะโอ๊ต” “เรื่องแบบนี้นะพี่สาว....มันตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอกไปบอกคนของตัวเองดีกว่าไหม” ผมยกยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะลุกขึ้นเพื่อกลับห้อง แต่คล้อยหลังได้ไม่นาน พี่สวยก็โผล่งขึ้นมาตามหลังผม “นี้สวยขอดี ๆแล้วนะโอ๊ต อย่าให้ต้องเลยเถิดกว่านี้เลย สวยเตือนแล้วนะถ้าที่โรงเรียนรู้เรื่องความประพฤติไม่เหมาะสมของครูในโรงเรียนจะเป็นไงนะ” นี้สวยกล้าขู่ผมขนาดนี้เลยหรอจริง ๆ เรื่องพี่ธันหนะ ผมแค่ปั่นหัวเล่น แต่เริ่มอยากเอาชนะขึ้นมาจริง ๆ ซะแล้วสิผมทำใจดีสู้เสืออีกรอบ ยกยิ้มแล้วหันกลับไปเผชิญหน้ากับพี่สาว “เอาสิสวย สวยอยากเอาเรื่องนี้ไปบอกทางโรงเรียนก็แล้วแต่สวยเลยแต่โอ๊ตแนะนำนะว่าควรมีหลักฐานว่าโอ๊ตไปยุ่งกับผัวของสวยก่อนแล้วกันนะค่อยไปฟ้อง....อืม....เรื่องแบบนี้เขาไม่ทำกันประเจิดประเจ้อด้วยสิมีปัญญาเฝ้าผัว 24 ชั่วโมงก็ทำเลย” “งั้นสวยกับธันจะย้ายออกไปอยู่ที่ใหม่” “เอาสิอย่าลืมหอบผัวไปด้วยนะ ทิ้งไว้ที่นี่โอ๊ตไม่รู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น” “เพี๊ยะ....นี้ยอมรับแล้วใช่ไหมว่าคิดอะไรกับธัน” เสียงพี่สาวเดินเข้ามาตบหน้าผมจนหันนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่สวยกล้าทำขนาดนี้เพราะถึงจะทะเลาะกันบ่อยแต่ก็ไม่เคยลงไม้ลงมือกันมาก่อนเลย และตบนั้นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมไม่สามารถมองข้าวสวยเป็นพี่สาวต่อไปได้อีกผมทำสีหน้าเรียบเฉยก่อนกลับมาสู้หน้าข้าวสวย ตอบออกไปเสียงเรียบ “โอ๊ตจะคิดหรือไม่คิดแล้วมันยังไงแต่ไหนแต่ไรสวยเคยแคร์ความรู้สึกของโอ๊ตด้วยหรอ ทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่เหมือนเดิมไปละย้ายกลับมาทำไม” “แต่นี้ก็บ้านสวยเหมืนกันทำไมสวยจะอยู่ไม่ได้” “ก็อยู่ไปสิใครว่าอะไรอ้อ...แต่อย่าลืมคำสอนของแม่นะ ว่าเป็นพี่ต้องเสียสละให้น้อง” ผมไม่อยู่ต่อล้อต่อเถียงกับข้าวสวยเดินหันหลังมาจากตรงนั้นขึ้นมาที่ห้องของผม ผทขลุกอยู่ในห้องไม่ออกไปไหนไม่กินข้าวเย็น จนได้ยินเสียงรถพี่ธันกลับมาแปปเดียวก็ได้ยินเสียงทะเลาะกันของข้าวสวยกับพี่ธันเดาได้มายากว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร สวยเอาแต่บอกว่าจะย้ายออกไปอยู่ที่ใหม่ บ้านพี่ธันก็ได้แต่ผมรู้ครับว่าบ้านพี่ธันเป็นครอบครัวใหญ่ที่ไม่มีที่ทางมากพอให้สวยกับพี่ธันย้ายไปอยู่ด้วยส่วนพี่ธันก็เอาแต่บอกว่าข้าวสวยไร้สาระ เรื่องวันนี้จบลงยังไงก็ไม่รู้เพราะไม่อยากออกไปเจอใครทั้งนั้น ตั้งแต่วันนั้นพี่ธันก็เลี่ยงผมอย่างเห็นได้ชัดวันไหนข้าวสวยเลิกงานค่ำ พี่ธันก็กลับค่ำด้วย ข้าวสวยคงบอกเรื่องของผมกับพี่ธันไปแล้วถึงได้แสดงออกขนาดนี้แต่แล้วไงผมไม่สนใจอยู่แล้วก็บอกไปแล้วนี่ครับว่าความรู้สึกชอบพี่ธันนั้นมันหมดไปนานแล้วแต่ที่ผมไม่ชอบเลยก็คือการที่พี่ธัน ที่ผมคิดว่าเป็นพี่ชายที่แสนดีมาเออออไปกับความประสาทแดกของข้าวสวยอีกคนจากนั้นมาเราก็ต่างคนต่างอยู่ในบ้านหลังเดียวกันแท้ ๆ จนช่วงสงกรานต์ที่เป็นช่วงหยุดยาวข้าวสวยกับพี่ธันวางแผนกันว่าจะไปเยี่ยมพ่อกับแม่ผมที่บ้านสวน ผมไม่ไปด้วยหรอก เลยอ้างว่าจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนแทนซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้มีแผนตามที่บอกแค่หาข้ออ้างไปงั้น ไม่อยากกลับไปเจอญาติพี่น้องที่มารดน้ำดำหัวแล้วเปรียบเทียบนู้นนี่กับข้าวสวยแล้วแผนการอยู่บ้านคนเดียวของผมก็ต้องล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะอยู่ๆงานของพี่ธันก็มีปัญหาทำให้ไปกับพี่สวยไม่ได้ซึ่งผมเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่ธันไม่ได้ไปด้วย เลยแก้ผ้าอยู่บ้านใส่แต่กางเกงในตัวเดียวเดินล่อนไปมาจนเผลอหลับที่โซฟาน้าทีวีเพราะไม่มีไรทำ ตื่นมาเพราะมีเสียงคนเปิดประตูบ้านเข้ามา
“อ้าวไหนบอกจะไปเที่ยวกับเพื่อนไม่ใช่หรอทำไมยังอยู่ละ” พี่ธันทักผมอย่างเสียไม่ได้เพราะผมตื่นมาพอดีตอนที่แกเดินเข้ามาคงจะมานั่งพักแต่เห็นผมอยู่เลยเดินไปเปิดตู้เย็นกินน้ำแก้เก้อ “อยู่ ๆ เพื่อนก็เทเห็นว่ารถเสียหาอู่ซ่อมไม่ได้ เลยไม่ได้ไปละ แล้วพี่ละไม่ไปกับสวยหรอ” “ไปไม่ได้แล้วพอดีเครื่องในไลน์ผลิตมันเสียพี่เลยต้องอยู่คุมงานนะสิ” ผมก็ไม่ได้ถามอะไรต่อแล้วเดินกลับเข้าห้องตัวเองไปใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยออกมาก็เจอพี่ธันนั่งจิบเบียร์อยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ผมเดินหาเพื่อนที่จะถามว่าจะฝากผมซื้อข้าวไปไหมเพราะขี้เกียจทำกินเอง “พี่เดี่ยวผมจะไปซื้อข้าวพี่จะกินอะไรไหม” “ไม่ต้องไปหรอกวันนี้เขาปิดกันหมดเลยก่อนเข้ามาพี่แวะซื้อแล้ว เดี่ยวรอเย็น ๆ ค่อยไปซื้อก๋วยเตี๋ยวหน้า7-11” “หรองั้นเดียวผมทำข้าวผัดแล้วกันพี่กินด้วยป่ะ เดี่ยวผัดเผื่อ” “อือ ได้กับแกล้มด้วยจะดีมาก” ผมเลยเดินไปผัดข้าวแล้วก็ ทอดไก่ มาเป็นกับแกล้วให้พี่ธัน “อะพี่ ไก่ทอดแล้วก็ข้าวผัด กินเบียร์ท้องว่าง ๆ เดี่ยวก็เมาหรอก” “อือ ขอบใจวะ” ผมวางกับข้าวให้เสร็จก็กลับมามานั่งกินในบ้านแต่โดนพี่ธันเรียกไว้เสียก่อน “แล้วโอ๊ตละไม่กินด้วยกันหรอ” “ผมไปกินในบ้านนะ” “มานั่งกินเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ” ไม่ว่าเปล่าเพราะพี่ธันดึงข้อมือผมให้ทรุดตัวนั่งลงที่ม้านั่งข้าง ๆ ผมเลยย้ายตัวเองมานั่งที่ม้านั่งตรงข้าม “ทำไมอยู่ๆ ก็ชวนละ” “แล้วทำไมจะชวนไม่ได้” “ก็พักนี้พี่เลี่ยงผมอยู่ไม่ใช่หรอ” “นี้พี่แสดงออกชัดชนาดนั้นเลยหรอ” “ไม่รู้สิแปลก” “คือ...สวยเขาบอกพี่ว่าเอ่อ...โอ๊ตแอบชอบพี่หรอ” ผมแอบตกใจเหมือนกันที่พี่ธันเอ่ยเรื่องนี้ออกมาทั้งๆ ที่ผมรู้อยู่แล้วว่าพี่ธันรู้แล้วและมันก็เป็นเรื่องที่นานมาแล้วด้วย “แล้วพี่ก็เชื่อ?” ไม่รู้นิสัยชอบตอบคำถามด้วยคำถามนี้ติดมาจากไหนแต่พอมีอะไรไม่พอใจผมก็มักใช้วิธีนี้ คงเป็นอีโก้อย่างหนึ่งของผมที่ไม่อยากอธิบายกับใคร “ก็...ไม่รู้” “แล้วไม่มาถามผมก่อนละ หลบหน้าผมไปเลยงี้” “ทำเพื่อความสบายใจของข้าวสวยไม่อยากทะเลาะกันเรื่องไร้สาระ” “อือ...ผมเข้าใจเรื่องความรู้สึกของผมก็เป็นได้แค่เรื่องไร้สาระของพวกพี่” “เฮ้ยไม่ใช่...ไหงมาดราม่าได้วะมายก หมดแก้วนะ” พี่ธันรีบเทเบียร์ให้ผมแถมบังคับให้ผมดื่ม ผมยกขึ้นจิบอย่างเสียไม่ได้ ผิดกับพี่ธันที่ยกจนหมดแก้ว ผมนั่งกับแกอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะลุกมากินข้าวที่ผมผัดไว้ที่กินเสร็จก็เข้าห้องตามเคย นั่งไถมือถือไปเรื่อยเปื่อย “ก๊อก ก๊อก ก๊อก..” เสียงเคาะประตูทำให้ผมตื่นขึ้นมาหลังจากหลับไปได้ไม่นานมองดูนาฬิกาหัวเตียงบอกเวลา 23.47 น. ผมเดินไปเปิดเดาได้ไม่ยากหรอกว่าคนเคาะเป็นใครก็พี่ธันนั้นแหละ แล้วก็จริงตามนั้น พี่ธันยืนพิงกำแพงข้างประตูในสภาพเมาแอ๋นี้เป็นวิศวกรจริงปะเนี๊ยะ ทำไมกินแค่เบียร์ก็เมาได้ขนาดนี้ “โอ๊ตเห็นเมียพี่ปะเมียพี่หายไปไหนไม่รู๊วววว” พี่ธันในสภาพเมาหนักที่ผมไม่เคยเห็นถามหาพี่สวยนี้จำไม่ได้เลยหรอว่าพี่สวยไปบ้านสวนที่ต่างจังหวัด แต่ก่อนที่ผมจะได้ตอบอะไรพี่ธันก็ไถตัวลงไปกองกับพื้น “เฮ้ยพี่....นี้เมาขนาดไหนเนี๊ยะ” ลำบากผมต้องลงไปประคองแกขึ้นมาเพื่อที่จะพาไปส่งที่ห้องแกกับข้าวสวยแต่พี่ธันดูเหมือนจะไม่ให้ความร่วมมือเลย ปล้ำกันอยู่นานกว่าจะพาแกมาที่เตียงได้ ผมทิ้งแกไว้ที่เตียงแล้วกำลังจะเดินออกไปเพราะไม่อยากอยู่นานหรอกห้องของข้าวสวยหนะแต่พี่ธันดันจับข้อมือผมไว้แล้วเหวี่ยงผมลงไปที่เตียง “เหวอ....พี่จะทำอะไร” เพราะผมไม่ได้ตั้งตัวเลยล้มไปที่เตียงอย่างง่ายดายแถมไอ้พี่ธันยังขึ้นคร่อมกดร่างผมไว้กับเตียงอย่างรวดเร็วอีก “ทำไมโอ๊ตต้องชอบพี่ด้วยวะรู้ไหมพี่อึดอัดมากเลยรู้ไหม” เสียงพี่ธันที่เมามากพร่ำเพ้อออกมา แต่ก็ไม่คลายแรงที่กดผมไว้ นี้ถ้าไม่อยู่ในสภาพนี้ผมคงถีบแกออกแล้วแต่นี้เล่นนั่งทับท้องผมไว้แถมเอามือมากดข้อมือผมไว้อีก “ใครบอกผมชอบพี่นั้นมันเรื่องสมัยไหนแล้ว ปล่อยผมก่อนพี่ค่อยคุยกัน” “ไม่ปล่อยหรอกเดี๋ยวโอ๊ตหนีไปก็ไม่ได้คุยกันพอดี” “ไม่หนีหรอกสัญญา” “ไม่เชื่อหรอก...บอกพี่มาก่อนว่าชอบพี่จริงไหม” “เคยชอบ...แต่ตอนนี้ไม่ชอบแล้ว” “ทำไมไม่ชอบ” อ้าวไอ้นี่...ต้องการอะไรจากกูวะก็บอกความจริงไปแล้วจะเอาอะไรอีก “ตอบสิ...ทำไมไม่ตอบ” “พี่แต่งกับพี่สวยแล้วไงจะให้ผมชอบได้ไง ผมก็ยังมีความเป็นรู้สึกผิดชอบชั่วดีอยู่นะจะไปชอบคนมีเจ้าของได้ไง แล้วก็ปล่อยผมได้แล้วพี่” “งั้นแสดงว่าชอบพี่จริงๆ อะดิ รู้ไหมพี่อึดอัดมากเลยนะ” “ทำไมรังเกียจผมหรองั้นก็ปล่อยผมดิ” “ไม่ได้รังเกียจ...แค่อึดอัด” “แล้วมันต่างกันยังไงวะพี่ปล่อยผมสักทีเถอะ” “อืม...อธิบายไงดีวะงั้นเอางี้” อยู่ๆ พี่ธันก็ก้มลงมาซอกไซร้ไปตามลำคอผมหนวดที่พี่ธันไว้มันตำไปตามคอจนแสบไปหมดผมเลยออกแรงสู้สุดความสามารถแต่ก็ไม่สามารถหลุดจากการล็อกของพี่ธันได้นี้ขนาดเมายังมีแรงจนาดนี้เลยหรอวะ “เฮ้ยพี่ทำเหี้ยไรวะ” “ก็พิสูจน์ไงว่าไม่ได้รังเกียจ” “พิสูจน์แบบอื่นก็ได้ป่ะ” “อยู่เฉย ๆ ดิวะนี้ใจดีนะ จะจัดให้สักครั้ง” “เดี๋ยว...ใครต้องการวะ” “มึงไง...ชอบกูไม่ใช่หรอ” “ผม...อื้ออออออ” ผมยังไม่ทันได้เถียงกลับพี่ธันก็ก้มลงมาเอาปากปิดปากผมไว้ เป็นอีกครั้งที่ไรหยวดของแกท่มผมมันเจ็บนะไม่รู้หรอ แต่พี่ธันไม่จูบเปล่า แกเอาลิ้นเข้ามาในปากผมด้วยผมได้แต่เอาลิ้นตัวเองหลบอย่างน่ารังเกียจแต่ก็ทำได้แค่นั้นปากผมก็ใช่ว่าจะใหญ่อะไร ไม่นานลิ้นพี่ธันก็หาลิ้นผมเจอมันเข้ามากอดเกี่ยวอย่างชำนาญ ผมที่ไม่เคยมีอะไรกับใครแม้แต่จูบยังไม่เคย ได้แต่ปล่อยให้พี่ธันดุนลิ้นอยู่อย่างนั้นผมเลยหาวิธีรอดอย่างอื่น ด้วยการกัดลิ้นพี่แกเพื่อเรียกสติ “โอ้ย...กัดทำไมวะ” “อุ๊กกกกกก” ไอ้พี่ธันผละปากออกไปอย่างเร็วเพราะความเจ็บแล้วแกก็ปล่อยข้อมือผมตามที่คาด แต่ที่ผิดคาดคือ พี่ธันชกลงมาที่ท้องของผมอย่างแรงจนจุกไปหมดผมงอตัวแต่ก็ทำไม่ได้เพราะแกนั่งทับผมไว้ อยู่ ๆ แกก็ลุกขึ้นผมทำได้แต่กุมท้องตัวเองเอาไว้พี่ธันจับตัวผมพลิกให้นอนคว่ำ ก่อนที่จะกระชากกางเกงผมออก “เฮ้ยเดี๋ยวพี่จะทำอะไร...ไม่ผมไม่เอา” ไม่มีเสียงตอบรับจากพี่ธันแต่แกจับเอวผมกดไว้กับเตียง ก่อนที่จะมีสิ่งแปลกปลอมบุกรุกเข้ามาที่ด่านหลังของผมมันบุกทะลวงเข้ามาโดยที่ผมไม่สมยอม “อ๊า.....พี่....เจ็บ...โอ้ย” “ทนดิวะ...ไหนบอกว่าชอบกูไง...นี่ไงกูกำลังจะเป็นผัวมึงอยู่แล้วไง” “ปล่อยผมพี่...ขอร้อง” “ไม่ทันแล้วเข้าหมดแล้วอ๊า....แน่นสัด” ไอ้พี่ธันมันแช่ควยชื่นชมความรัดแน่นของตูดผมอยู่ครู่หนึ่งโดยไม่ขยับอะไรแต่มือมันนี้สิเลื้อเข้ามาใต้เสื้อของผมจนมาหยุดที่หน้าอกที่กดไว้กับเตียงข้อมือผมเป็นอิสระเลยพยายามยกตัวขึ้นแต่นั้นก็ทำให้พี่ธันมันบีบหน้าอกที่ไม่มีเนินนมนั้นได้สะดวกขึ้นเช่นกัน “โอ้ย...พี่ปล่อยผม...ขอร้อง...มันเจ็บ” พี่ธันไม่ตอบแต่ดูเหมือนคำขอร้องของผมจะส่งไปถึง เพราะมันค่อย ๆถอดควยออกไปจากก้นผมแต่ยังดีใจไม่ถึงสิบวิ ไอ้พี่ธันมันกระแทกควยเข้ามาก่อนที่ควยจะหลุดจากตูดของผม “อ๊า.......จุก” “เชี่ย....แน่นสัด ตูดมึงดูดควยกูขนาดนี้ยังบอกไม่ได้ชอบกูอีก” พี่ธันกระแทกควยเข้ามาแล้วพูดจายัดเยียดให้ผมชอบแกแต่ตอนนี้ไม่มีอารมจะมาเถียงเรื่องนั้น เพราะแกเริ่มกระแทกควยเข้ามาเร็วขึ้น ๆผมรู้สึกแสบมาก แถมหน่วง ๆ ที่ท้องน้อยคล้ายปวดท้องเข้าห้องน้ำแต่ไม่ใช่ พี่ธันกระแทกเร็วขึ้นๆ ผมพยายามยกตัวขึ้นอีกรอบแต่ก็โดนพี่ธันใช้มือกดลงมาที่คอให้แนบกับเตียงโดยที่มืออีกข้างของแกเอามายกช่วงเอวของผมให้ลอยขึ้นมาเพื่อรับแรงเย็ดจากแกได้สะดวก “ซี๊ดดดด...ตอดสัดๆแน่นกว่าหีพี่สาวมึงอีก อา...” ผมไร้แรงต่อสู้ขัดขืนแล้วได้แต่นอนรับสภาพปล่อยให้พี่เขยกระทำการที่ทำให้ความรู้สึกของผมมันพังลงจากพี่ชายที่เคยใจดีกับผมเมื่อสิบปีก่อน ตอนนี้กลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายความรู้สึกของผมจนไม่เหลือชิ้นดีไม่รู้ทำไมอยู่ ๆ น้ำตาของลุกผู้ชายของผมก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ผมไม่ได้สนใจนักปล่อยให้มันไหลไปเพราะตอนนี้ความสนใจของผมมันไหลไปอยู่ที่ปั้นท้ายที่ถูกกระแทกเย็ดครั้งแล้วครั้งเล่า “อ๊า.....จะแตกแล้วๆนี้แหนะ ๆ” พี่ธันกระแทกควยส่งท้ายที่ก้นผมอย่างแรงก่อนที่จะแช่ไว้เพื่อให้ลูกๆที่พร้อมปฏิสนธิของแกพุ่งเข้ามาในก้นของผม พอหลั่งน้ำกามเสร็จไอ้พี่ธันก็ฟุ่บตัวลงบนหลังของผมผมเลยเอียงตัวผลักให้แกล้มไปที่เตียง แล้วพยายามลากสังขาญตัวเองลุกออกมาจากเตียงแห่งความอัปยศก้มเก็บกางเกงที่ถูกทิ้งไว้ที่พื้นข้าเตียง แล้วเดินออกมาจากห้องของพี่สาวอย่างยากลำบากผมรู้เลยว่าผมกำลังร้องไห้อยู่ถึงจะไม่มีเสียงแต่น้ำที่ไหลหยดที่ข้างแก้มอย่างไม่ขาดสายนั้นเป็นหลักฐานอย่างดีว่าผมกำลังอ่อนแอ “จะไปไหนนอนด้วยกันที่ห้องนี้แหละ” พี่ธันรั้งข้อมือผมไว้อีกรอบแต่ปฏิกิริยาของผมทำให้สะบัดแขนแกออกจนตัวผมเองยังตกใจ “ปล่อยผมเถอะพี่วันนี้พี่ได้ยัดเยียดความพ่ายแพ้ตลอดชีวิตให้ผมแล้ว” “อะไร...พี่ไม่เข้าใจ” ผมเดินออกมาจากห้องโดยมีไอ้พี่ธันเดินตามมาคงมาหาคำตอบที่ผมพูดออกไปแบบนั้น “ตลอดชีวิตนี้ ผมไม่เคยเอาชนะพี่สวยได้เลยแถมวันนี้พี่ยังให้ผมกินน้ำใต้ศอกพี่สวยอย่างสมบูรณ์อีก” “นั้นมึงร้องไห้หรอกูขอโทษ” พึ่งรู้สึกผิดหรอไอ้เหี้ยผมเข้ามาในห้องตัวเอง แต่ไอ้พี่เหี้ยนั้นก็เดินตามเข้ามา ผมหมดแรงจะไล่แล้วอยากทำอะไรก็ทำไปแล้วกัน ผมล้มตัวนอน ไม่นานพี่ธันก็ถือวิสาะนอนบนเตียงของผมอีกด้านที่เหลืออยู่ผมไม่สนใจแล้วอยากทำอะไรก็ทำไปเลย เราต่างคนต่างนอนกันเงียบ ๆ ไม่มีการพูดคุยใดๆสำหรับพี่ธันผมไม่รู้ แต่ผมไม่สามารถข่มตานอนได้เลยจนเช้า [พี่ธัน]
|