[ข้าวโอ๊ต] ผมข่มตาหลับในตอนเช้าหลังจากพี่ธันลุกออกไปเห็นแสงอาทิตย์ที่ลอดผ่านเข้ามาจากทางหน้าต่างไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่แต่ต้องตื่นเพราะพี่ธันปลุกบอกว่าตัวผมร้อนแล้วเอายาให้กิน ผมถึงได้รู้ตัวว่าผมอยู่ในชุดใหม่ที่ไม่ใช่ชุดเมื่อคืนก็คงเป็นพี่ธันนี้แหละที่เปลี่ยนให้ผมเห็นเขาอยู่ในชุดพนักงานของโรงงานคงเพิ่งกลับมา งั้นก็คงเป็นช่วงเย็น ๆพอมองนาฬิกาที่ข้างหัวเตียงก็บอกเวลา 17.38 อืม....ใกล้ค่ำแล้วจริง ๆ พี่ธันเอื้อมมือมาพยุงผมให้นั่งพิงหัวเตียงแต่ทันทีที่แตะตัวผมผมก็ปัดมือพี่ธันออกอย่างแรงจนทั้งผมเองและพี่ธันตกใจ “ผมกินเองดีกว่าครับพี่ไปอาบน้ำเถอะเพิ่งกลับมาไม่ใช่หรอ” “ไหวแน่นะ” พี่ธันเอามือมาอังหน้าผากของผมพร้อมกับสีหน้าที่ดูเป็นหวงเป็นใยเสียเหลือเกิน คงเป็นความเคยชินของพี่เขา แต่คงลืมไปแล้วมั้งว่าเมื่อคืนมึงทำอะไรไว้กับกูคำพูดทุกคำยังคงวนเวียนอยู่ในหัวผมและก็จำมันได้ดี แต่ที่ผมไม่รู้ตัวคือตัวผมสั่นตอนที่โดนตัวผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นรู้แต่ผมกลัวมาก แต่ยังต้องปากดีกลบเกลื่อน “ไหวสิคนอย่างผมต่อให้เจียนตายแค่ไหนก็ต้องดูแลตัวเอง เพราะผมยังต้องอยู่”(อยู่เพื่อรอดูความฉิบหายของมึงกับเมียมึงไง)” ประโยคหลังผมได้แต่คิดในใจผมยกข้าวต้มขึ้นมาตักกินเพื่อตัดรำคาญเพราะถ้าไม่ทำให้เห็นไอ้พี่ธันก็คงไม่ยอมไปไหน ผมค่อย ๆ ละเอียดข้าวต้อมช้า ๆ “กินข้าวเสร็จอย่าลืมกินยาด้วยนะพี่วางไว้ที่หัวเตียง” พี่ธันเห็นว่าผมกินข้าวต้มที่มันเตรียมมาก็ยอมเดินออกจากห้องผมไปคล้อยหลังพี่ธันผมก็วางข้าวต้มไว้ที่เดิมมองเห็นยาก็เอามันมาฉีกซองแล้วทิ้งเม็ดยาลงถังขยะแต่เก็บซองยาเอาไว้หลายคนคงสงสัยว่าผมทำแบบนี้ทำไม ก็เพื่อที่พอมันกลับมาดูผมจะได้อ้างไปว่ากินแล้วโดยมีซองยาเป็นสิ่งยืนยันไงหละและที่ผมทิ้งยาก็เพราะผมำม่อยากรับความหวังดีจากมันอีกแล้วก็เป็นไปตามที่ผมคาดเพราะไม่นานพี่ธันก็เปิดประตูห้องผมเข้ามาอย่างถือวิสาสะ “ทำไมกินน้อยจังไม่อร่อยหรอ” ผมหันไปมองมันแต่ไม่ได้ตอบอะไรออกไปพี่ธันเก็บถ้วยข้าวต้มพร้อมกับเอาซองยาไปด้วยเพื่อเอาไปทิ้งแล้วเดินออกไปนั้นแหละห้องนี้ถึงได้กลับมาเป็นของผมคนเดียวอีกครั้งสรุปคืนนั้นคือซมครับ พิษไข้เล่นงานผมหนักจนคิดว่าบางทีตาย ๆ ไปน่าจะดีเหมือนกัน แต่สุดท้ายผมก็รอดเพราะเสียงของพี่สาวที่เข้ามาในห้องผมในช่วงเที่ยง ๆ “โอ๊ตตื่น...มาคุยกันหน่อย” ว่าแต่มาได้ไงไหนบอกไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านสวนนี้แค่สองคืนเองรถช่วงนี้เยอะจะตายยังกลับมาได้ คงหวงผัวจัด ๆ แต่จะดีมากถ้ามึงเอาผัวมึงไปด้วยเรื่องเหี้ย ๆ ก็คงไม่เกิดกับกู ผมฝืนลุกขึ้นนั่งพิงเตียงพยายามไม่ให้รู้ว่าผมกำลังไม่สบายยังไงๆก็ไม่ยอมให้เห็นมุมอ่อนแอของผมหรอก “กลับมาแล้วหรอพ่อแม่เป็นไงบ้าง” “เมื่อคืนก่อนโอ๊ตกับพี่ธันทำอะไรกันทำไมพี่ธันมานอนห้องโอ๊ต” เดี๋ยวนะรู้ได้ยังไงหรือไอ้พี่ธันมันบอกข้าวสวยวะ แต่เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน เพราะตอนนี้ต้องไม่อยากให้รู้ว่าผมโดนทำเรื่องแย่ๆมาแค่ไหน “คิดไปเองหรือเปล่าสวยเองไม่ใช่หรอที่บอกให้พี่ธันอยู่ห่าง ๆ โอ๊ตไว้” “อย่ามาโกหก” ข้าวสวยกดมือถือก่อนจะเอามาให้ผมดูมันเป็นคลิปที่ตอนที่ผมพยุงไอ้พี่ธันไปนอนที่ห้องแล้วกลับมาในสภาพที่ท่อนบนเปลือยหอบเสื้อไว้แล้วมีพี่ธันที่เดินตามเขาห้องผมมา ก็เรื่องราวคืนนั้นแหละครับ “นี้แอบติดกล้องหรอตั้งใจจะทำอะไร” ที่ผมโวยวายเพราะกล้องตัวนั้นดันส่องมาที่หน้าห้องผมไม่รู้ว่ามีตัวอื่นอีกหรือเปล่า สังเกตจากมุมกล้องน่าจะอยู่ที่หลังตู้โชว์นี้กลัวผมรู้จนต้องแอบเลยหรอ แต่ก็ดีตรงที่แอบกล้องไม่ให้เห็นเลยไม่เห็นภาพที่หน้าห้องพี่สวยที่อยู่เยื้องออกไปไม่ไกล “ก็ถ้าไม่ติดจะได้รู้หรอว่าน้องชายจะมีจิตใจต่ำๆ แบบนี้ กับคนเมาก็ไม่เว้นเลยนะ” “เดี๋ยวนะนี่หมายความว่ายังไง” “ก็โอ๊ตฉวยโอกาสตอนที่พี่ธันเมาไปทำอะไรกันหละพี่ธันถึงติดใจเดินตามมาต่อกันที่ห้อง สวยเห็นกลับออกมาก็ตอนเช้าแล้ว” ข้าวสวยคงคิดว่าผมไปแอบลักหลับไอ้พี่ธันตอนเมาละสิถ้ามึงรู้ความจริงว่าผัวมึงขืนใจกูมึงจะมีสีหน้ายังไงแต่ดูทรงแล้วรักผัวหลงผัวขนาดนี้คงไม่เชื่อที่ผมพูดหรอกงั้นก็โง่แบบนี้ต่อไปแล้วกัน เรื่องคืนนั้นจะถือว่าไม่เคยเกิด “ก็เห็นไม่ใช่หรอว่าผัวข้าวสวยเมาโอ๊ตเลยพาไปนอนที่ห้องให้ไง แทนที่จะได้รับคำขอบคุณนี่ยังมาด่าอีก” “แล้วทำไมกลับมาในสภาพนั้นแถมพี่ธันยังตามมานอนด้วยอีกถึงเช้า ไหนบอกมาสิ” “ก็พี่ธันอ๊วกใส่เสื้อโอ๊ตเลยถอดส่วนเรื่องที่พี่ธันมานอนห้องโอ๊ตสวยคงต้องไปถามพี่ธันเอาเองแล้วกันแต่น่าเสียดายนะที่พี่ธันเมาโอกาสมาถึงแล้วแท้ ๆแต่โอ๊ตดันไม่มีรสนิยมทำกับคนเมาด้วยสิ มันไม่มันส์หนะ” ผมอธิบายเรื่องโกหกไปพร้อมกับยั่วโมโหข้าวสวยไปด้วยถือว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แล้วปิดท้ายด้วยการยกยิ้มเหยียดๆแล้วทำหน้าเหนือข้าวสวยจ้องตาผมด้วยสายตาที่ดุดัน แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะในคลิปมีแค่นั้น “มีอะไรอีกป่ะโอ๊ตจะนอนต่อละ ออกไปก็ล็อคประตูให้ด้วยแล้วกัน ไม่อยากให้ใครมารบกวน” ผมล้มตัวนอนโดยไม่ฟังเสียงข้าวสวยพร้อมกับเอาผ้าห่มมาคลุมโปงเป็นการไล่ไม่นานก็ได้ยินเสียงกระแดกประตูปิดเสียงดังผมเปิดผ้าห่มมาดูว่าออกไปจริงหรือเปล่าก็ไม่เห็นข้าวสวยในห้องแล้วนี้หึงผัวขนาดแอบติดกล้องไว้หน้าห้องผมแถมขับรถข้ามจังหวัดในช่วงสงกรานต์กลับมาเลยลงทุนใช้ได้เลยที่เหลือก็แค่ภาวะนาให้ไอ้พี่ธันมันไม่โง่บอกความจริงข้าวสวยก็พอ แล้วโชคก็เข้าข้างเมื่อไอ้พี่ธันมันกลับมาจากโรงงานข้าวสวยก็ถามเรื่องนั้นแต่มันแถว่าเห็นผมไม่สบายเลยมานอนเฝ้าเฉยๆ ข้าวสวยถึงได้ยอมเข้าใจเพราะผมกำลังป่วยเป็นหลักฐานอย่างดีพอได้ได้คำตอบที่สวยต้องการก็พากันกลับไปบ้านสวนเพราะไอ้พี่ธันมันคุมงานซ่อมเสร็จพอดี “ลงทุนจังเลยน้าขับรถข้ามจังหวัดเพื่อรับผัวไปอวดย่า” ผมยืนพิงประตูห้องมองสวยหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าผ่านหน้าแล้วพูดขึ้นมาข้าวสวยมองกลับมาด้วยสายตาเอาเรื่องที่ผมแซว ส่วนไอ้พี่ธันมันเช็คสภาพรถให้สวยอยู่ “ก็พอดีพวกเกย์มันไว้ใจไม่ได้” แล้วมันก็หิ้วกระเป๋าลงไปเลยปล่อยผมยืนนิ่งกับคำพูดที่ทำให้ใจโหวง ๆ “เกย์” หรอ คงต้องยอมรับสภาพเมื่อก่อนผมไม่เคยสะอึกหรือสนใจกับคำ ๆ นี้เลยต่อให้สวยพูดว่าผมเท่าไหร่แต่เหตูการเมื่อคืนก่อนมันมัดผมไว้กับคำๆนี้ได้เบ็ดเสร็จ ก็คงต้องยอมรับสภาพแหละ ผมมองตามหลังข้าวสวยไปด้วยสายตานิ่งเฉยแต่ความคิดข้างในมันครุกรุ่นผมมองรถพี่สาวที่แล่นออกจากบ้านไป ดีเหมือนกันผมจะได้อยู่คนเดียวสบายใจ ผมเปิดทีวีดูหนังที่เอากลับมาฉายวนไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแต่ก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนช่องทั้งที่รีโมตอยู่ใกล้มือแค่เอื้อมไปหยิบ “ปิ๊งป่อง” เสียงอ๊อดหน้าบ้านบ่งบอกว่ามีคนมาแต่ว่าจะเป็นใครนั้นนึกไม่ออกจริง ๆ จะว่าไปรษณีย์ก็ไม่น่าใช่น่าจะหยุดงานกันหมดแล้วผมไขความสงสัยด้วยการลุกออกไปเพื่อดูว่าเป็นใครก็เจอเข้ากับใครสักคนที่เคยเห็นหน้าแต่ไม่เคยรู้จักชื่อเลยรู้แค่ว่าเป็นรุ่นพี่ที่โรงเรียนเก่าแล้วก็เป็นเพื่อนไอ้พี่ธันด้วย “มาหาพี่ธันหรอครับคาดกันนิดเดียวเองแกไปต่างจังหวัดกับพี่สาวผมเมื่อกี้เอง” “เปล่าหรอกพี่มาหาข้าวโอ๊ตนั้นแหละครับเจ้าธันมันฝากให้พี่มาดูอาการข้าวโอ๊ตหน่อยหนะ เห็นมันบอกว่าไข้ขึ้นหรอ” ผมเปิดเลื่อนประตูเปิดให้เพื่อนพี่ธันเอารถเข้ามาจอดในบ้านเพราะกลัวจะกีดขวางถนนนี้ตัวมันไม่อยู่ยังฝากให้เพื่อนมาดูแทน ก็คงทำไปเพราะรู้สึกผิดนั้นแหละ “งั้นเอารถเข้ามาจอดข้างในก่อนครับ” พี่คนนั้นพยักหน้าพร้อมกับกลับขึ้นไปขับรถเข้ามาในบ้านผมปิดประตูรั้วแล้วเดินตามเข้ามา ก็เห็นแกกำลังเปิดประตูเบาะหลังเพื่อหยิบกระเป๋าที่มีตราพยาบาลออกมาสะพาย
[หมอภัทร] “เอ่อ พี่ชื่อภัทรนะเห็นอย่างนี้ก็จบหมอมา ไม่ต้องห่วงไม่ใช่หมอปลอมแน่นอน” พี่ภัทรแนะนำตัวแบบติดตลกผมคงไม่ต้องแนะนำตัวมั้งครับเพราะเมื่อกี้เขาเอ่ยชื่อผมมาเองแล้วคงรู้จากพี่ธันมาแล้ว “จริง ๆผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับแค่ไข้ขึ้นนิดหน่อย รบกวนพี่ภัทรแย่เลย” “ไม่รบกวนหรอกครับไหนๆก็มาถึงที่แล้วให้พี่ดูอาการหน่อยแล้วกันเนาะ” “งั้นเข้าบ้านก่อนครับ” ผมเดินนำพี่ภัทรเข้ามาในบ้านมาที่ห้องนั่งเล่นบอกให้พี่ภัทรนั่งรอตามสบายก่อนที่จะไปเอาน้ำมาให้ พี่ภัทรรับน้ำไปวางไว้แล้วบอกให้ผมนั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆ พร้อมยื่นปรอทวัดไข้แบบดิจิตอลมาให้ผมหนีบรักแร้ก่อนจะบอกให้ผมอ้าปากแล้วเอาไฟฉายมาส่อง แล้วยังเอาหูฟังมาฟังเสียงปอดผมด้วยตอนพี่ภัทรโดนตัวผม ปฏิกิริยาของร่างกายผมปัดเครื่องมือของพี่ภัทรออก “ขอโทษครับผมบ้าจี้” ผมหาข้อแก้ตัว เท่าที่นึกออกพี่ภัทรไม่ว่าอะไร แล้วเอาหูฟังมาทาบที่หน้าอกผมอีกรอบรอบนี้ผมตั้งตัวได้เลยพยายามอยู่นิ่ง ๆ ให้พี่ภัทรทำแต่ไม่รู้ทำไมตัวผมรู้สึกอึดอัดมา อยากจะหนีออกจากที่นี่ จนพี่ภัทรสังเกตเห็นอาการผมมั้งเลยยอมเอาที่ทาบออกจากหน้าอกของผม “ไม่ต้องกลัวน้าหมอใจดีไม่ทำอะไรหรอก” “คะ...ครับ ขอโทษครับ” ปิ๊บ ๆ..เสียงปรอทดังช่วยพอดี พี่ภัทรหยิบมันออกมาดู ไม่บอกว่าเท่าไหร่เพียงแต่วางมันไว้บนกระเป๋า “ยังมีไข้อยู่นิดหน่อย ดื่มน้ำเยอะๆ แล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอนะครับ เดี่ยวพี่เอายาไว้ให้ ทานหลังอาหารครั้งละเม็ดทุกสี่ชั่วโมงนะครับ” “ครับขอบคุณครับว่าแต่ค่าหมอเท่าไหร่ครับ” “เฮ้ยไม่ต้องหรอกว่าแต่เมื่อกี้พี่เห็นข้าวโอ๊ตเดินท่าแปลก ๆ เดี่ยวพี่ขอดูหน่อยน้าว่าเจ็บตรงไหน” พี่หมอไม่พูดเปล่าก้มลงไปจับน่องผมขึ้นมาผมดีดตัวจนตัวเองร่วงลงจากเก้าอี้ หลังจากนั้นผมก็แทบจำอะไรไม่ได้รู้แต่ว่าผมคลานมาเข้ามาใต้โต๊ะนั่งกอดเข่าตัวเองเอาไว้พร้อมกับพร่ำเพ้อออกมา “อย่าทำผม ผมกลัวแล้วฮือ” ผมพูดวน ๆอยู่อย่านั้นไม่รู้สาเหตุ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเพราะอะไร รู้แต่ว่ากลัวมากภาพวันที่โดนพี่ธันชำเลาแล่นเข้ามาในหัว หัวผมปวดจนแทบละเบิด ผมปล่อยฉี่ออกมาโดยไม่รู้ตัวจนนองพื้นไปหมดไม่นานก็วูปไป ตื่นมาอีกทีก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนโซฟาในชุดใหม่ผมมองหาพี่หมอที่น่าจะเป็นคนจัดการทุกอย่างนี้ให้แต่ก็ไม่เจอตัวไม่รู้กลับไปหรือยัง หัวผมยังคงปวดเอามาก ๆ แต่ก็พยายามลุกขึ้นมา มองลอดหน้าต่างเห็นพี่หมอภัทรนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าบ้านผมกำลังจะเข้าไปขอโทษเขาที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้แต่ก็ต้องหยุดเสียก่อน “เออ....ไม่มีไรแล้ว...ได้...มึงเมื่อกี้ตอนทำความสะอาดร่างกายให้น้องกูเจอร่องรอยการถูกกระทำและดูจากอาการที่น้องแสดงออกมาคงไม่ได้สมยอมแน่ ๆมึงพอรู้ไหมว่าใครเป็นตนทำ.....ไอ้เชี่ย....ไหนมึงพูดใหม่ดิ๊......เมาหรอ ฟังไม่ขึ้นวะนั้นน้องเมียมึงนะ เออ แล้วให้เอาไง...กูรอน้องเขาตื่นจะถามว่าไปโรงบาลไหม...กูไม่ใช่จิตแพทย์..ไปหาหมอก็ดีกว่าไม่ใช่หรอเออๆ หาแต่เรื่องปวดหัวนะมึง..แค่นี้นะ” ผมแอบฟังหมอภัทรก็พอเดาได้ว่าปลายสายเป็นใครแต่เนื้อหานั้นนี่ผมกำลังจะเป็นบ้างั้นหรอ คิดแล้วน่าสมเพชตัวเองผมพาตัวเองกลับมานั่งที่โซฟา ไม่นานพี่หมอก็เข้ามา “อ้าวตื่นแล้วหรออาการเป็นไงบ้าง ไม่ต้องกลัวพี่นะครับ พี่ภัทรเอง” “เมื่อกี้ขอโทษครับผมคุมตัวเองไม่อยู่” “สบายมากไม่ต้องขอโทษหรอก เอ่อว่าแต่ข้าวโอ๊ตอยากไปพบแพทย์ไหม” “พี่ก็เป็นแพทย์ไม่ใช่หรอครับ” “พี่หมายถึงจิตแพทย์หนะไม่ต้องกังวลนะเดี๋ยวนี้การไปหาจิตแพทย์เป็นเรื่องปรกติจะตาย” “ผมเป็นอะไรครับ” “เอ่อ...พี่ว่าข้าวโอ๊ตน่าจะเครียดแล้วก็กลัวเลยเกิดอาการขึ้นมา” “แล้วผมจะหายไหม” “หายสิ ยังไงก็หายแต่พี่อยากให้ไปพบจิตแทพย์มากกว่าเพราะเขาเชี่ยวชาญเรื่องนี้มากกว่าพี่ ข้าวโอ๊ตจะได้หายไวๆ ไงครับ” เทคนิคของหมอนี้โน้มน้าวคนไข้เก่งจังเลยนะครับแต่ผมกลัว กลัวว่าต้องไปเล่าเรื่องของผมว่าเจอกับอะไรมาบ้างแค่นึกก็ไม่อยากด้วยซ้ำ “งั้นผมขอคิดดูก่อนนะครับยังไงก็ขอบคุณพี่ภัทรมาก ๆ นะครับ” “เอ่อ...เอางั้นหรองั้นเอางี้ เดี๋ยวพี่จะแวะมาหาข้าวโอ๊ตบ่อย ๆนะ เปลี่ยนใจเมื่อไหร่ก็โทรบอกพี่ เดี๋ยวพี่จดเบอะให้นะ” แกหยิบกระดาษออกมาเขียนยุกยิกให้ผมแล้วเอามาวางไว้ที่โต๊ะแทนที่จะยื่นให้ผมโดยตรง นี่พอรู้ว่าผมโดนอะไรมาก็รังเกียจกันขนาดนี้เลยหรอไม่รู้ผมแสดงสีหน้ายังไงออกไป แต่ดูเหมือนจะโดนจับได้ “พี่วางไว้ตรงนี้น้าเพราะตอนน้าวโอ๊ตคงยังไม่พร้อมที่จะสัมผัสกับคนอื่น” พอได้ฟังก็ใจชื่นขึ้นมานี่ผมมีความคิดด้านลบขนาดนั้นได้ยังไงกัน ชักจะเริ่มกลัวตัวเองแล้ว “ถ้ายังไงเดี๋ยวพี่ต้องขอตัวกลับแล้วพอดีมีลงเวนคืนนี้ พรุ่งนี้พี่มาหาใหม่น้า อย่าลืมทานยาตามที่พี่บอกนะครับ” ผมดึงดันที่จะลุกขึ้นไปส่งพี่ภัทรทั้งที่แกก็ห้ามแล้ว ผมมองตามรถที่ขับออกไปแล้วดีใจแปลก ๆ ที่ได้อยู่กับตัวเองอีกครั้งผมกลับมาครุ่นคิดเรื่องราวต่าง ๆ แล้วกังวลเอามาก ๆ กลัวจะเป็นบ้าขึ้นมาจริง ๆผมเปิดทีวีเพื่อฟังเสียง ตายังจ้องไปที่ทีวีแต่ผมไม่สามารถรับรู้เรื่องราวเหล่านั้นได้เลยจนเผลอหลับไป หลังจากวันที่หมอภัทรเข้ามาครั้งแรกแกก็แวะเข้าเรื่อยๆ ตามที่รับปากจริง ๆ บอางวันก็มาขลุกอยู่กับผมโดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังถูกแกรักษาอยู่พี่ภัทรเริ่มทำให้ผมฟื้นพฤติกรรมและลดความกลัวที่จะสัมผัสกับคนอื่น โดยตอนแรก ๆก็ค่อย ๆ เข้าใกล้ ที่สำคัญเลยคือไม่จู่โจมจนผมตกใจ จนวันที่สองก็เริ่มแตะตัวผมได้พี่ภัทรชมผมใหญ่เลยว่าทำได้ดี เก่งมาก นู้นนี่ วันที่สามก็เริ่มสัมผัสมากขึ้นจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวบ้าง แบบว่านั่ง ๆ อยู่กับจับข้อศอกผมบ้าง แตะไหล่บ้างผมลดความกลัวไปได้เยอะเลยครับถึงจะยังแอบกลัวอยู่เล็ก ๆ ก็เถอะ พอเข้าวันที่สี่ที่ห้าแกก็เริ่มให้ผมเป็นฝ่ายจับตัวแกบ้างแรก ๆ ผมก็กลัวแต่พอจับได้แล้วมันก็หายกลัวไปเอง พี่ภัทรบอกว่าอาการของผมเกิดจากอะไรสักอย่างฟังศัพท์แพทย์ไม่รู้เรื่องแล้วแกก็รักษาแบบCBTซึ่งก็ไม่รู้อีกว่าคืออะไร แต่เอาเถอะผมดีขึ้นก็ดีแล้วช่วงเย็นของวันที่ 17 พี่สวยกับพี่ธันก็กลับมาตอนผมกับพี่ภัทรกำลังจะกินข้าวกันอยู่พอดี กินข้าวเสร็จพี่ภัทรก็ขอคุยกับธันเป็นการส่วนตัวพี่สวยกับผมเลยขึ้นมาข้างบน เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอแขกไล่เจ้าของบ้านก็วันนี้แหละ “ดูเหมือนจะขาดผู้ชายไม่ได้เลยนะพอไม่มีใครอยู่ก็พาคนนู้นคนนี้เข้าบ้าน” ข้าวสวยพูดขึ้นมาลอย ๆแบบไม่เจาะจง แต่ฟังดูก็รู้ไม่ใช่หรอครับว่าว่าผม ผมไม่ต่อล้อต่อเถียงแบบทุกทีได้แต่เก็บความเจ็บใจคิดบัญชีไว้ ค่อยเอาคืนทีหลังก็ไม่สายผมตัดการรับรู้จากโลกข้างนอกเข้ามาอยู่ในห้อง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แต่อยู่ ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูห้องผม ผมตัดสินใจไม่ลุกไปเปิดให้ แต่ผมคงลืมล๊อคประตูเพราะอยู่ๆ ประตูห้องผมก็เปิดออก แล้วคนที่เข้ามาก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ไอ้พี่ธันนั้นแหละ
[พี่ธัน] “คือพี่อยากจะมาขอโทษโอ๊ตเรื่องวันนั้น” “จะบอกว่าตัวเองไม่ได้ตั้งใจหรือที่ทำไปเพราะเมางั้นสิ ผมเข้าใจครับ ให้อภัยแล้วด้วย ขอบคุณนะครับที่ทำให้ผมเกือบกลายเป็นบ้าอีกนิดเดียวก็สำเร็จแล้วแท้ ๆ พี่สวยคงดีใจเก้อไปเลยสิ” ผมพูดแดกดันจับแพะชนแกะให้หมดขอแค่ความสะใจก็พอตลอดหลายวันมานี้พี่ภัทรสอนให้ผมรักตัวเองให้มาก ๆ ผมจะไม่มีวันเอาตัวเองเข้าไปในสนามอารมณ์ของผัวเมียคู่นี้แล้ว “โอ๊ตอย่าโกรธพี่เลยนะพี่พร้อมจะรับผิดชอบทุกอย่างเลย” “รับผิดชอบ? ยังไงดีละอืม....งั้นพี่ไปบอกเลิกพี่สวยแล้วมาคบกับผมเอาไหมละ หรือจะรับผมเป็นเมียน้อยพี่ดี” “อย่าพูดแบบนั้นสิพี่สำนึกผิดแล้วจริง ๆ พี่ยอมทำทุกอย่างเลย” “พี่ออกไปเถอะครับ ผมบอกแล้วว่าให้อภัยพี่แล้วอย่ามายุ่งกับผมอีกก็พอ อ้อถ้าจะให้ดีไปบอกพี่สวยว่าอย่ามายุ่งกับผมอีกคนก็ดีนะ” “ไหนบอกให้อภัยแล้วไงอย่าแดกดันพี่อีกเลยแค่นี้ก็สำนึกผิดไม่ทันแล้ว” “พี่สวยรู้เรื่องแล้วหรอเลยสั่งให้มาแสดงว่าสำนึกสินะ หลบอยู่หลังประตูละสิ ออกมาเถอะ” “สวยหลับไปอล้วอีกอย่างสวยไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้” “ไม่เกี่ยวหรอแล้วที่แอบเอากล้องมาติดหน้าห้องผมเพื่อแอบดูในช่วงที่เกิดเรื่องพอดีคืออะไรเวลามันเหมาะเจาะไปมั้ง นี้คงอยากเปล่าประกาศให้คนอื่นรู้ละสิว่าผมมันเป็นเกย์ร่านไม่เลือกเอาแม้กระทั้งพี่เขยตัวเอง นี้ไม่รู้ว่าคลิปคืนนั้นจะถูกปล่อยในเน็ตเมื่อไหร่” “อะไรนะ ติดกล้องกล้องไหน” “แสดงเก่งจังเลยนะครับนี้ไม่รู้ว่าในห้องนี้จะมีกล้องอีกหรือเปล่าแต่มีก็ดีเหมือนกันผมจะทำให้อกแตกตายกันไปข้าง” อยู่ ๆผมก็นึกขึ้นได้ว่า ถ้าสวยมันติดกล้องหน้าห้องผมได้ ทำไมมันไม่มาติดในห้องเลยหละวันนี้ที่ไม่มีคลิปผมกำลังเอากับพี่ธันคงเพราะไม่คิดละสิว่าเหตุการณืจะเกิดที่ห้องข้าวสวยเองแต่ไหน ๆ ก็อยากได้คลิปผมก็จะจัดให้สมใจอยาก “โอ๊ตพูดอะไร พี่ไม่รู้เรื่อง” “เมื่อกี้พี่บอกว่าทำได้ทุกอย่างขอแค่ผมให้อภัยพี่ใช่ป่ะ” “ใช่” “งั้นพี่มานั่งที่เตียงผมมาจะได้รู้ว่าผมให้อภัยแล้วจริง ๆ” “โอ๊ตจะทำอะไร” พี่ธันเดินมานั่งตามที่ผมบอกจริงๆ แต่ไม่วายถามด้วยความสงสัย ผมยิ้มอย่างผู้กุมชัยชนะไม่ตอบคำถาม แต่ทันทีที่พี่ธันนั่งลงที่ปลายเตียงผมก็ลุกขึ้นแล้วเดินนั่งลงที่หว่างขาของพี่ธัน แกมีสีหน้าที่ตกใจเอามาก ๆ อะไรกันมากกว่านี้ก็เคยกันมาแล้ว “ก็แสดงให้ดูไงว่าพี่หมอภัทรที่พี่ส่งมารักษาผมดีแค่ไหนนี้ไม่กี่วันผมก็เริ่มไม่กลัวการสัมผัสกับคนอื่นแล้วนะ” ผมไม่พูดเปล่าเอามือมาจับที่เป้ากางเกงของพี่เขยคนที่ทำให้ผมเกือบเป็นบ้า พี่ธันเอามือมาจับแขนผมออกจากเป้ากางเกงของมันตอนนี้พี่ธันใส่กางเกงขาสั้นขอบย้วยที่แกชอบใส่เวลานอนที่ผมเคยเห็นประจำ “ข้าวโอ๊ตอย่าทำแบบนี้” “ทำไมหละวันก่อนเรายังมีความสุขด้วยกันอยู่เลย ไม่รู้หละถ้าพี่ไม่ยอมให้ผมทำจนพอใจผมจะเอาเรื่องวันนั้นไปบอกข้าวสวย” พี่ธันมองตาผม ผมเองก็จ้องกลับไปอย่างไม่กลัวเหมือนกันดูซิว่าใครจะเป็นฝ่ายแพ้เอาเข้าจริงตอนนี้ความอยากเอาชนะอยู่เหนือเหตุผลแล้วสำหรับผม พี่ธันถอนหายใจออกมาแล้วปล่อยข้อมือของผมผมยิ้มอย่างผู้มีชัยแล้วเอามือมาจับเป้ากางเกงมันอีกรอบ เค้นคลึงส่วนที่ตอนนี้มันอ่อนเหลวในมือจนมันเริ่มแข็งตัวขึ้นมา “ถอดกางเกงตัวเองออกหน่อยสิพี่” พี่ธันตกตัวเองขึ้นมาถอดกางเกงกับกางเกงในออกอย่างจำใจส่วนชูชันแข็งโด่ออกมาผมลุกขึ้นไปลากเก้าอี้ที่โต๊ะข้างเตียงมานั่งตรงข้ามกับพี่เขย “คืนนี้พี่ก็ชักว่าวให้ผมดูเป็นบุญตาหน่อยแล้วกันนะไหน ๆ ก็แข็งขนาดนี้แล้ว” ผมสั่งให้พี่ธันชักว่าวให้ตัวเองคิดหรอว่าผมจะทำให้ ไม่ใช่วันนี้ ผมหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปพี่ธันลังเลไม่รู้ว่าผมกำลังจะทำอะไร ผมเลยกระตุ้นแกด้ยการใช้เท้าสัมผัสกับควยของแกเอาง่ามนิ้วโป้งกับนิ้วชี้รูดควยให้แก “อะ โอ๊ต เบา” “อะไรกันที่แท้ก็อยากให้ผมทำให้หรอครับแต่ไม่เอาอะ พี่เงี่ยนเองก็ทำเองแล้วกันนะ” “ถ่ายคลิปทำไม” “ก็ถ่ายเป็นหลักฐานไงครับว่าพี่เขยของผมขี้เงี่ยนขนาดที่มาชักว่าวต่อหน้าน้องเมียอีกอย่างผมจะได้มีหลักประกันว่าพี่จะต้องทำตามที่ผมต้องการตามที่พี่พูดเอาสิชักเลย เร็วๆหน่อยนะผมเริ่มง่วงแล้ว” ผมเอาตีนลงมาจากควยพี่ธันแกมองหน้าผมอย่างอ้อนวอนแต่มีหรอที่ผมจะใจอ่อน พี่ธันคงรู้ว่าผมเอาจริงเลยจำใจเอามือมาชักรูดควยตัวเองช้า ๆ “ชักช้าขนาดนี้เมื่อไหร่จะเสร็จเมื่อกี้ผมก็บอกไปแล้วนี่ว่าเริ่มง่วงแล้ว” พี่ธันเลยเปลี่ยนมาชักควยตัวเองเร็วขึ้นแล้วก็เน้นที่หัว จนตอนนี้มีน้ำใส ๆ ซึมไปทั่วหัวควยจนมันวาววับ พี่ธันเริ่มหน้าแดงขึ้นจากเลือดลมผมมองอย่างพอใจ คิดแค่ว่าถ้าข้าวสวยติดกล้องในห้องผมตริงแล้วมาเห็นคลิปนี้จะว่ายังไงคงอกแตกตายแน่ ๆ “เสียวก็ครางออกมาสิกลั้นไว้ทำไม” “อะ....อา...อืม..ใกล้แล้ว” “พี่เอามือรองน้ำว่าวตัวเองด้วยนะอย่าให้ตกลงพื้นห้องผมขี้เกียจเช็ด” พี่ธันเอามือซ้ายมารองตามที่ผมบอกชักไปได้สักพักแกก็ยอกตัวขึ้นมา แล้วรีดน้ำให้ลงมาที่ฝ่ามือที่รองไว้พร้อมกับเสียงครางที่บ่งบอกการถึงจุดสูงสุดแล้ว ผมยังคงยกมือถือถ่ายคลิปอยู่มองผ่านกล้องแล้วชัดเจนกว่ามองด้วยตาเปล่า น้ำควยพี่ธันขาวข้นอยู่ในอุ้งมือของแกมันเริ่มส่งกลิ่นคาว ๆ คล้ายกลิ่นดอกตีนเป็ด “พี่ไม่ลองชิมดูหน่อยหรอว่ารสชาติมันเป็นยังไง” “พอเถอะข้าวโอ๊ต” “ผมบอกให้กินก็กินสิ!!!!” ผมตลาดอย่างลืมตัวพี่ธันยกมือที่เต็มไปด้วยน้ำควยตัวเองขึ้นมา ลังเลอยู่นิดหน่อยก่อนจะค่อย ๆ แลปลิ้นออกมาเลียเข้าไปจนหมดแกเลียอยู่สามสี่ครั้ง เรียกรอยยิ้มแห่งความพอใจของผมได้อย่างดี ต่อไปนี้ก็จะไม่แปดเปื้อนคนเดียวในเมื่อพวกพี่ ๆ ผลักผมลงมาต่ำผมก็จะดึงพวกพี่ทุกคนลงมาคลุกดินเหมือนกันกับผมผมปิดคลิปเพียงเท่านี้ไม่ลืมที่จะบันทึก “อ้าปากมาดูหน่อยสิครับว่ากินไปแล้ว” พี่ธันแลปลิ้นให้ผมดูมันมีน้ำขาวๆ ติดอยู่ที่ลิ้นนิดหน่อย แต่ส่วนมากก็กลืนไปแล้วจริง ๆ คือนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกันข้าวสวยมึงคอยดูได้เลย กูจะทำให้ผัวมึงกลายเป็นเกย์ตามที่มึงบอกให้กูเป็น อ้ออย่าลืมดูคลิปจากกล้องที่มึงซ้อนไว้แล้วกัน “ผมง่วงแล้วพี่พี่ไปได้แล้ว” พี่ธันรีบดึงกางเกงขึ้นมาใส่ก่อนจะเดินออกไปจากห้องผม “อ้อพี่อย่าลืมนะว่าผมมีคลิป ถ้าไม่อยากให้มันหลุดออกไปพี่ก็อย่าขัดใจผมก็พอ” พี่ธันหันกลับมามองผมด้วยสายตาที่คาดเดาได้ยากแล้วยังไงละใครสนความรู้สึกของมันกัน ผมพอใจก็พอแล้วพอพี่ธันออกไปผมไม่ลืมที่จะไปเช็คว่าล็อคประตูดีแล้ว ถึงกลับมานอนอย่างคนมีชัยถึงในหัวจะเริ่มมีความคิดว่าผมทำอะไรลงไปมันไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด
|