ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 1134|ตอบกลับ: 4

สนุกและเพลิดเพลินกับการเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

[คัดลอกลิงก์]

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
901
พลังน้ำใจ
19394
Zenny
105770
ออนไลน์
1750 ชั่วโมง

สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกจีโฟกาย 100%

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย konbannok เมื่อ 2011-6-30 10:15

ดี๋ยวนี้การเที่ยวชมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยได้มีการพัฒนาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยใช้ระบบแบบออร์ดิโอ ทัวร์ (Audio Tour) หรือ โสตทัศนาจร คือ การเช่าเครื่องฟังแนะนำสถานที่สำคัญต่างๆ ภายในบริเวณอุทยานฯ โดยนักท่องเที่ยวจะได้รับแจกแผ่นพับแสดงแผนผังของโบราณสถานที่มีหมายเลขระบุไว้ ตั้งแต่เลข 1 – 20  พร้อมเส้นทางเดินชม เพื่อให้สามารถเดินท่องเที่ยวด้วยตนเองตามความสนใจ พร้อมกดปุ่มบนเครื่องเพื่อรับฟังข้อมูลตามจุดต่างๆ  แต่ละจุดจะมีป้ายแสดงไว้อย่างชัดเจน โดยแปลออกเป็น 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และญี่ปุ่น ด้วยการเล็งเห็นว่าการมาเดินเที่ยวชม ถ่ายรูป อ่านป้ายที่อยู่ด้านหน้าตามโบราณสถานต่างๆ อาจจะทำให้เข้าใจในประวัติศาสตร์สุโขทัยได้ไม่มากนัก “โสตทัศนาจร” ใช้ง่าย ได้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินในการเที่ยวชมอุทยานฯ ทางทีมงานคู่หูเดินทางได้ลองใช้แล้วรู้สึกประทับใจมาก เพราะทำให้เราเข้าใจในความเป็นมาของสถานที่สำคัญต่างๆ แล้วยังช่วยเพิ่มอรรถรสในการเที่ยวชมได้เป็นอย่างดี  แถมบางจุดยังได้สอดแทรกเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีเข้าไปอีกด้วย
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อยู่ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง  ห่างจากตัวจังหวัดสุโขทัยไปทางทิศตะวันตกประมาณ 12 กิโลเมตร โดยใช้ถนนจรดวิถีถ่อง ทางหลวงหมายเลข 12 สายสุโขทัย – ตาก
อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของไทยสมัยเริ่มสร้างอาณาจักรที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก เมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2534 ให้เป็น “มรดกโลก” เนื่องจากในอดีตเมืองสุโขทัยเคยเป็นราชธานีของไทยที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เป็นศูนย์กลางการปกครอง ศาสนา และเศรษฐกิจ ภายในอุทยานฯ มีสถานที่สำคัญที่เป็นพระราชวัง ศาสนสถาน โบราณสถาน โดยมีคูเมือง กำแพงเมือง และประตูเมืองโบราณล้อมรอบอยู่ในรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ประกอบไปด้วยสถานที่สำคัญๆ ดังนี้


โบราณสถานภายในกำแพงเมือง

•   พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช
สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2518 ตั้งอยู่ริมถนนจรดวิถีถ่อง ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ ลักษณะพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นพระบรมรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำ ขนาด 2 เท่าขององค์จริง สูง 3 เมตร ประทับนั่งห้อยพระบาทบนพระแท่นมนังคศิลาบาตร พระหัตถ์ขวาถือคัมภีร์ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่าทรงสั่งสอนประชาชน พระแท่นด้านซ้ายมีพานวางพระขรรค์ไว้ข้างๆ ลักษณะพระพักตร์เหมือนอย่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น ถ่ายทอดความรู้สึกว่า พ่อขุนรามคำแหงมหาราชมีน้ำพระทัยเมตตากรุณา ยุติธรรม มีความเด็ดขาดในการปกครองแบบพ่อปกครองลูก ที่ด้านข้างมีภาพแผ่นจำหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์ตามที่อ้างถึงในจารึกสุโขทัย ด้านขวามือของพระองค์บริเวณทางเดินก่อนเข้ามาสักการะจะพบกับ “กระดิ่งพ่อขุน” กระดิ่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2529 โดยเป็นการจำลองแบบตามกระดิ่งที่ขุดได้จากฐานพระเจดีย์กลางเมืองสุโขทัย เพื่อน้อมถวายเป็นราชสักการะ และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ที่ได้ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยความรัก อันศักดิ์สิทธิ์ ยุติธรรม ต่อไพร่ฟ้าข้าแผ่นดิน กระดิ่งพ่อขุนจึงเป็นกระดิ่งแห่งความสุข หากใครได้มาสั่นกระดิ่งที่นี่ก็จะได้พบกับความสุขเช่นกัน


                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                
                                                                                                                                                
                                                                                 1.jpg (134.79 KB, 680x478 - ดู 57 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (169.76 KB, 680x478 - ดู 57 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (163.67 KB, 680x478 - ดู 55 ครั้ง.)

•   กำแพงเมืองสุโขทัย
ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า ปรากฏหลักฐานในศิลาจารึก เรียกว่า “ตรีบูร” มีแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีขนาดกว้าง 1,300 เมตร และยาว 1,800 เมตร กำแพงชั้นในเป็นศิลาแลงก่อบนคันดิน กำแพง 2 ชั้นนอกเป็นคูน้ำสลับกับคันดิน นอกจากมีหน้าที่ในการป้องกันข้าศึกแล้ว คูน้ำยังช่วยระบายน้ำไม่ให้ไหลท่วมเมืองอีกด้วย ระหว่างกึ่งกลางแต่ละด้านจะมีประตูเมือง และป้อมหน้าประตูด้วย


                                                                                 1.jpg (160.12 KB, 680x478 - ดู 55 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (190.22 KB, 680x478 - ดู 56 ครั้ง.)

•   วัดมหาธาตุ
เป็นวัดใหญ่และวัดสำคัญของกรุงสุโขทัย ตั้งอยู่กลางเมือง สร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ มีพระเจดีย์แบบต่างๆ มากถึง 200 องค์ มีพระเจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ศิลปะแบบสุโขทัยแท้ เป็นเจดีย์ประธาน รายรอบด้วยเจดีย์  8 องค์ บนฐานเดียวกัน คือ ปรางค์ศิลาแลงตั้งอยู่ที่ทิศทั้ง 4 และเจดีย์ทรงปราสาทแบบศรีวิชัยผสมลังกาก่อด้วยอิฐได้รับอิทธิพลมาจากล้านนา ด้านตะวันออกบนเจดีย์ประธานมีวิหารขนาดใหญ่ก่อด้วยศิลาแลง มีแท่นซึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คือ พระศรีศากยมุนี ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่วัดสุทัศน์ฯ กรุงเทพมหานคร ที่ด้านเหนือและด้านใต้เจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้ม เรียกว่า "พระอัฎฐารศ" ซึ่งพระพุทธรูปในสมัยสุโขทัยนั้นจะมีลักษณะ พระวรกายโปร่ง เส้นรอบนอกโค้งงาม ได้จังหวะ พระพักตร์รูปไข่ยาวสมส่วน ยิ้มพองาม พระขนงโก่ง รับกับ พระนาสิกที่งุ้มเล็กน้อย พระโอษฐ์แย้มอิ่ม ดูสำรวม มีเมตตา พระเกตุมาลา รูปเปลวเพลิง พระสังฆาฏิยาวจรดพระนาภี พระศกแบบก้นหอย ไม่มีไรพระศก ซึ่งพระพุทธรูปศิลปะสุโขทัยนั้นจะมีความงดงามมาก


                                                                                 1.jpg (116.51 KB, 680x478 - ดู 56 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (146.82 KB, 680x478 - ดู 56 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (130.55 KB, 623x478 - ดู 58 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (187.08 KB, 623x478 - ดู 60 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (175.89 KB, 623x417 - ดู 59 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 6.jpg (176 KB, 623x414 - ดู 62 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 7.jpg (111.15 KB, 623x478 - ดู 56 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 8.jpg (167.11 KB, 623x411 - ดู 55 ครั้ง.)

•   วัดชนะสงคราม
ตั้งอยู่ทางด้านเหนือของวัดมหาธาตุ ใกล้กับหลักเมือง เดิมเรียกว่า วัดราชบูรณะ มีลักษณะเด่น คือ เจดีย์ทรงระฆังกลมขนาดใหญ่ เป็นประธาน ด้านหน้ามีวิหาร และเจดีย์รายต่างๆ รวมทั้งยังมีเจดีย์อีกรูปแบบหนึ่ง เรียกว่า “เจดีย์ทรงวิมาน” ลักษณะมีหลังคาซ้อนกันลดหลั่นกันขึ้นไปเป็นชั้นๆ  พบอยู่ 2 องค์ ขนาบอยู่ด้านข้างเจดีย์พระประธาน


                                                                                 1.jpg (171.73 KB, 680x478 - ดู 59 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (155.81 KB, 680x450 - ดู 55 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (133.01 KB, 680x448 - ดู 56 ครั้ง.)

•   เนินปราสาทพระร่วง
หรือเขตพระราชวังในสมัยสุโขทัย ตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของวัดมหาธาตุ เป็นซากอาคารก่อด้วยอิฐ ขุดแต่งบูรณะแล้ว มีฐานบัวโดยรอบทำด้วยรูปปั้น สันนิษฐานว่าเนินแห่งนี้คือ ที่ตั้งของพระที่นั่ง หรือปราสาทที่ประทับ ของกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วง ที่ครองกรุงสุโขทัยในกาลก่อน แต่องค์ปราสาทหาชิ้นดีไม่ได้แล้ว เพราะคงจะสร้างด้วยเครื่องไม้ เดี๋ยวนี้มีแต่ซากกระเบื้องมุงหลังคากระจัดกระจายทั่วไป ณ เนินปราสาทแห่งนี้เอง ที่ได้ค้นพบศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงและพระแท่นมนังคศิลา


                                                                                 1.jpg (165.53 KB, 680x478 - ดู 56 ครั้ง.)

•   วัดตระพังเงิน
(คำว่า "ตระพัง" หมายถึง สระน้ำ หรือหนองน้ำ) เป็นโบราณสถานสำคัญตั้งอยู่บริเวณขอบตระพังเงินด้านทิศตะวันตกของวัดมหาธาตุ ห่างจากวัดมหาธาตุ 300 เมตร โบราณสถานแห่งนี้ไม่มีกำแพงแก้ว  มีเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือดอกบัวตูมเป็นประธาน บริเวณเรือนธาตุจะมีชั้นประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นประทับยืนทั้ง 4 ทิศ ด้านหน้าเป็นวิหาร 7 ห้อง ฐานและเสาก่อด้วยศิลาแลง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย บริเวณตรงกลางตระพังเป็นเกาะขนาดเล็ก เป็นที่ตั้งของพระอุโบสถ

                                                                        
                                                                                 1.jpg (120.61 KB, 680x478 - ดู 54 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (173.74 KB, 680x478 - ดู 55 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (126.17 KB, 680x478 - ดู 56 ครั้ง.)

•   วัดสระศรี
เป็นวัดที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของวัดมหาธาตุ เป็นโบราณสถานที่สำคัญตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำขนาดใหญ่ ชื่อว่า “ตระพังตระกวน” ตัววัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานทรงลังกา ด้านหน้าวิหารขนาดใหญ่ประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย มีเจดีย์ขนาดเล็ก ศิลปะศรีวิชัยผสมลังกา ตั้งอยู่ทางทิศใต้ มีซุ้มพระพุทธรูป 4 ทิศ ด้านหน้ามีเกาะกลางน้ำขนาดย่อม เป็นที่ตั้งของพระอุโบสถขนาดเล็ก ซึ่งเป็นจุดที่มีทัศนียภาพที่สวยงาน และในทุกวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ของทุกปี หรือวันลอยกระทง สถานที่แห่งนี้จะเป็นจุดจัดงานเผาเทียนเล่นไฟ ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้ความสนใจอย่างมากมาย


                                                                                 1.jpg (163.29 KB, 623x415 - ดู 55 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (117.86 KB, 623x415 - ดู 54 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (181.56 KB, 623x415 - ดู 53 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (156.5 KB, 623x415 - ดู 53 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (183.31 KB, 623x415 - ดู 52 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 6.jpg (181.33 KB, 623x415 - ดู 52 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 7.jpg (123.16 KB, 623x415 - ดู 49 ครั้ง.)

•   วัดศรีสวาย
ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของวัดมหาธาตุ อยู่ใกล้กับกำแพงเมืองทางด้านทิศใต้ ห่างออกไปประมาณ 350 เมตร โบราณสถานที่สำคัญตั้งอยู่ในกำแพงแก้วซึ่งก่อด้วยศิลาแลง ประกอบด้วยพระปรางค์ 3 องค์ มีรูปแบบศิลปะลพบุรี ซึ่งได้รับอิทธิพลจากศิลปะขอม ลักษณะของพระปรางค์ค่อนข้างเพรียวตั้งอยู่บนฐานเตี้ย มีลวดลายปูนปั้นบางส่วนเหมือนลายบนเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์หยวน ได้พบทับหลังสลักเป็นรูปพระนารายณ์บรรทมสินธุ์ ชิ้นส่วนของเทวรูป และศิวลึงค์ ส่วนด้านหน้าขององค์ปรางค์ มีวิหาร 2 หลังที่สร้างเชื่อมต่อกัน


                                                                                 1.jpg (172.49 KB, 623x415 - ดู 49 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (127.85 KB, 623x415 - ดู 51 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (173.2 KB, 623x415 - ดู 50 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (113.98 KB, 623x415 - ดู 47 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (173.47 KB, 623x415 - ดู 49 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 6.jpg (117.34 KB, 623x415 - ดู 48 ครั้ง.)

•   วัดศรีชุม
ตั้งอยู่ห่างจากวัดพระพายหลวงไปทางทิศตะวันตก 800 เมตร เป็นวัดที่ประดิษฐานพระอัจนะ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 11.30 เมตร ลักษณะของวิหารอันเป็นที่ประดิษฐานพระอัจนะนั้น สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมลักษณะคล้ายมณฑป แต่หลังคาพังทลายลงมาหมดแล้ว เหลือเพียงผนังทั้งสี่ด้าน ผนังแต่ละด้านก่ออิฐถือปูนอย่างแน่นหนา ผนังทางด้านใต้มีช่องให้คนเข้าไปภายใน และเดินขึ้นไปตามทางบันไดแคบๆ ถึงผนังด้านข้างขององค์พระอัจนะ หรือสามารถขึ้นไปถึงสันผนังด้านบนได้ ภายในช่องกำแพงตามฝาผนังมีภาพเขียนเก่าแก่แต่เลอะเลือนเกือบหมด ภาพเขียนนี้มีอายุเกือบ 700 ปี นอกจากนี้แล้วบนเพดานช่องบันไดยังมีแผ่นหินชนวนขนาดใหญ่แกะสลักลวดลายเรื่งชาดกต่างๆ ไว้มีจำนวนทั้งหมด 50 ภาพ เมื่อเดินตามช่องทางบันไดขึ้นไปจะโผล่บนหลังคาวิหารมองเห็นทิวทัศน์อันงดงาม ของเมืองเก่าสุโขทัยได้โดยรอบ

                                                                                 1.jpg (121.58 KB, 623x415 - ดู 48 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (132.64 KB, 623x415 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (169.71 KB, 623x415 - ดู 49 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (156.64 KB, 623x415 - ดู 45 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (115.71 KB, 623x415 - ดู 47 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 6.jpg (131.37 KB, 623x415 - ดู 45 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 7.jpg (181.84 KB, 623x415 - ดู 44 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 8.jpg (158.62 KB, 623x415 - ดู 50 ครั้ง.)

•   วัดสะพานหิน
โบราณสถานด้านทิศตะวันตกของกำแพงเมืองที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง วัดนี้ตั้งอยู่บนเนินลูกเตี้ย สูงประมาณ 200 เมตร มีเจดีย์ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ หรือทรงดอกบัวตูมขนาดเล็ก ตั้งอยู่ระหว่างทางขึ้นเขาด้วย ชื่อวัดเรียกตามลักษณะทางเดินที่ปูลาดด้วยหินชนวนแผ่นบางๆ ระยะทาง 300 เมตร จนถึงบริเวณลานวัด มีวิหารก่อด้วยอิฐ มีเสาก่อด้วยศิลาแลง 4 แถว 5 ห้อง ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระปางประทานอภัยสูง 12.50 เมตร เรียกว่า "พระอัฏฐารศ" บริเวณนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม เปิดเวลา 08.30 – 16.30 น.

                                                                                 1.jpg (136.62 KB, 623x415 - ดู 45 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (114.35 KB, 623x415 - ดู 48 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (130.97 KB, 623x415 - ดู 48 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (126.58 KB, 623x415 - ดู 44 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (176.67 KB, 623x415 - ดู 47 ครั้ง.)

บริเวณพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ครอบคลุมพื้นที่กว่า 70 ตารางกิโลเมตร และมีโบราณสถานสำคัญที่น่าชมอีกมากมาย อาทิ วัดเจดีย์สูง วัดเกาะไม้แดง วัดพระบาทน้อย วัดเจดีย์งาม วัดช้างรอบ และวัดอรัญญิก เป็นต้น

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง

•   ศาลพระแม่ย่า
ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดสุโขทัย ถนนนิกรเกษม ริมแม่น้ำยม เป็นที่เคารพสักการะของชาวสุโขทัย ศาลนี้เป็นที่ประดิษฐานดวงพระวิญญาณของพ่อขุนรามคำแหงมหาราชและเทวรูปพระแม่ย่า ทำด้วยศิลาสลักแบบเทวรูป พระพักตร์ยาว พระหนุเสี้ยม พระเกตุมาลายาวประดับเครื่องทรงแบบนางพญา มีความสูง 1 เมตร ศาลพระแม่ยาสันนิฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เพื่ออุทิศให้กับพระมารดา คือ นางเสือง เหตุที่เรียกว่า “พระแม่ย่า” นี้เพราะว่าพ่อขุนรามคำแหงมหาราชทรงเรียกมารดาว่า “พระแม่” และชาวเมืองสุโขทัยเคารพพ่อขุนรามคำแหงมหาราชเสมอด้วยบิดา จึงเรียกพระมารดาของพระองค์ว่า “พระแม่ย่า” แต่เดิมศาลพระแม่ย่าประดิษฐานอยู่บนเขาพระแม่ย่า มีเพิงหินเป็นผาป้องกันแดดและฝน ต่อมาชาวจังหวัดสุโขทัยได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่เมืองใหม่ โดยสร้างศาลขึ้นที่หน้าศาลากลางจังหวัดดังเช่นปัจจุบัน และประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองที่ศาลพระแม่ย่า เรียกว่า “งานพระแม่ย่า”

                                                                                 1.jpg (119.25 KB, 680x478 - ดู 47 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (129.74 KB, 680x478 - ดู 44 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (125.08 KB, 680x478 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (142.44 KB, 680x478 - ดู 45 ครั้ง.)

•   พิพิธภัณฑ์สังคโลก
ตั้งอยู่บริเวณริมถนนเลี่ยงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย บริเวณเดียวกับโรงแรมอันดามัน สุโขทัย พิพิธภัณฑ์สังคโลกเกิดขึ้นจากความคิดและความตั้งใจของคุณดำรงค์ และคุณกุศล สุวัฒนเมฆินทร์ ซึ่งเป็นชาวสุโขทัยโดยกำเนิด โดยมุ่งหวังจะนำความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของเมืองสุโขทัยราชธานีแห่งแรกของไทย และผลงานศิลปะชั้นเอกสมัยสุโขทัย มานำเสนอให้คนไทยและชาวต่างชาติ ได้ร่วมกันประจักษ์ในความสำคัญและความยิ่งใหญ่ของเมืองสุโขทัย ท่านได้นำของสะสมที่เก็บรวบรวมมาเป็นเวลากว่า 50 ปี อันได้ แก่พระพุทธรูป เครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน และที่สำคัญยิ่งคือ  เครื่องสังคโลกสมัยสุโขทัย มาจัดแสดงในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่ทันสมัย และได้มาตรฐานเช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์ในต่างประเทศ เพื่อให้ผู้เข้าชมได้เห็นภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของคนสุโขทัยในสมัย โบราณ เปิดบริการทุกวัน เวลา 8.00 – 17.00 น.


อัตราค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 250 บาท, เยาวชน (อายุไม่เกิน 17 ปี) 50 บาท และ นักเรียนในเครื่องแบบ 20 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0-5561-4333

                                                                                 1.jpg (127.49 KB, 680x478 - ดู 48 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (91.91 KB, 680x478 - ดู 44 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (116.77 KB, 680x478 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (113.29 KB, 680x478 - ดู 44 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (143.93 KB, 680x478 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 6.jpg (89.89 KB, 680x478 - ดู 45 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 7.jpg (86.9 KB, 680x478 - ดู 43 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 8.jpg (128.13 KB, 680x478 - ดู 47 ครั้ง.)

•   วัดตระพังทอง
อยู่ก่อนถึงพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง เป็นโบราณสถานที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำที่เรียกว่า “ตระพังทอง” มีเจดีย์ประธานทรงระฆัง ใช้ศิลาแลงก่อเป็นฐาน ส่วนด้านบนใช้อิฐเป็นวัสดุก่อสร้างโดยรอบเจดีย์ประธาน มีเจดีย์รายล้อมจำนวน 8 องค์ สิ่งสำคัญของวัดนี้ยังมี โบสถ์ รอยพระพุทธบาทสมัยสุโขทัย และหลวงพ่อขาวอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อกราบไหว้ขอพรพระเสร็จแล้ว ก็เดินมาบริเวณด้านข้างมีสถานที่ให้อาหารปลา ซึ่งปลาแต่ละตัวมีขนาดใหญ่มาก อาทิ ปลาดุก และปลาตะเพียน เป็นต้น

                                                                                 1.jpg (144.42 KB, 680x478 - ดู 47 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (174.43 KB, 680x478 - ดู 48 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (123.39 KB, 680x478 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (113.98 KB, 680x478 - ดู 43 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (123.28 KB, 680x478 - ดู 47 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 6.jpg (174.32 KB, 680x478 - ดู 48 ครั้ง.)

•   พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง
เป็นสถานที่รวบรวม และจัดแสดงศิลปโบราณที่ได้จากการขุดค้นทางโบราณคดีภายในเมืองสุโขทัย และที่ประชาชนมอบให้ บริเวณพิพิธภัณฑ์จะแบ่งส่วนการแสดงโบราณวัตถุไว้เป็น 3 ส่วนคือ
1. อาคารลายสือไท 700 ปี เป็นอาคารใหม่ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางเข้าอาคารใหญ่ เป็นที่จัดแสดงศิลปวัตถุสมัยสุโขทัย เช่น พระพุทธรูป เครื่องใช้ ถ้วยชาม สังคโลก ศิลาจารึก ฯลฯ
2. อาคารพิพิธภัณฑ์ แบ่งออกเป็น 2 ชั้น แสดงศิลปวัตถุในยุดสมัยต่างๆ มากมาย อาทิ พระพุทธรูปสำริด โอ่ง สังคโลก เครื่องศาสตราวุธ เครื่องถ้วยชามสังคโลก เงินตรา ท่อน้ำระบบชลประทานสุโขทัย ฯลฯ
3. พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง จะอยู่ด้านนอกโดยรอบอาคารใหญ่ เป็นที่ตั้งแสดงศิลปะวัตถุโบราณต่างๆ อาทิ พระพุทธรูปศิลา แผ่นจำหลัก รูปทรงอาคารไทยแบบต่างๆ เตาทุเรียงจำลอง เสมาธรรมจักศิลา เป็นต้น


เปิดให้เข้าชมได้ทุกวัน ยกเว้น วันหยุดนักขัตฤกษ์ ระหว่างเวลา 09.00-16.00 น. ค่าธรรมเนียมเข้าชม ชาวไทยคนละ 30 บาท ชาวต่างประเทศคนละ 150 บาท กรณีเข้าชมเป็นหมู่คณะควรติดต่อล่วงหน้าที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ถนนจรดวิถีถ่อง ตำบลเมือง จังหวัดสุโขทัย 64210 โทร. 0-5561-2167 หรือ www.nationalmuseums.finearts.go.th
                                                                        
                                                                                 1.jpg (176.63 KB, 680x478 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (130.13 KB, 680x478 - ดู 51 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (158.44 KB, 680x478 - ดู 50 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (178.69 KB, 680x478 - ดู 49 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                                                                                                                       
โครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัย
ถอนกล้า ดำนา ขี่ควาย ชมโรงสี... และอีกหลายกิจกรรมดีๆ ที่ทางโครงการเกษตรอินทรีย์ สนามบินสุโขทัยมีไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเรียนรู้และสัมผัสกับวิถีชีวิตที่พอเพียง
   สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับสนามบินสุโขทัย เมื่อเราเดินทางมาถึงสิ่งแรกที่เค้าจะให้เราทำคือการเปลี่ยนชุดเป็นชาวนาเต็มขั้น โดยให้ใส่เสื้อกางเกงแบบม่อฮ่อม พร้อมกับใส่รองเท้าบู๊ทยาวสีส้ม เพื่อให้เข้ากับกิจกรรมและบรรยากาศของสถานที่ ใช้ชีวิตกับกิจวัตรประจำวันกันแบบชาวไร่ชาวนา เมื่อเตรียมตัวเสร็จเค้าจะให้เราขึ้นรถอีแต๋น หรือรถสามล้อแล้วแต่จำนวนคนที่ร่วมทริป จากนั้นจะพาเราไปยังโรงเลี้ยงเป็ดเป็นที่แรก เพื่อเก็บไข่เป็ดกันแบบสดๆ ต่อด้วยไปชมฝูงควายเผือกนับร้อยตัวที่ทางเจ้าของสถานที่ได้ไถ่ชีวิตเอาไว้ พอดีตอนผมไปเค้ากำลังปล่อยควายไปกินหญ้า ควายแต่ละตัวจะกรูไปตรงประตูทางออกแล้วลงไปในคลองว่ายน้ำเพื่อขึ้นไปกินหญ้าอีกฝั่งหนึ่ง ดูแล้วก็น่ารักดีครับ จากนั้นจะพาเราไปเที่ยวชมยังบริเวณสนามบินสุโขทัย ดูการทอผ้าและการทำเครื่องปั้นดินเผาแบบโบราณ  ตามด้วยการชมแปลงผักออร์แกนิก สวนผลไม้ที่ปลูกเป็นแบบสวนผสม อาทิ กล้วย มะละกอ และมะม่วงพันธุ์มหาชนก เป็นต้น โดยเฉพาะมะม่วงดกมากๆ ต้นเล็กต้นน้อยมีลูกเต็มไปหมด จากนั้นจะพาชมนาบัว บึงหงส์ ลานหมักปุ๋ยอินทรีย์ เพราะที่นี่เค้าไม่ใช้สารเคมีในการปลูกพืชผักผลไม้ แต่จะใช้ปุ๋ยหมักอินทรีย์ที่ทำขึ้นมาเอง รับรองได้ว่าผักผลไม้ที่นี่ปลอดสารพิษแน่นอน ใกล้ๆ กันจะเป็นโรงสีข้าว และโรงแยกเมล็ดข้าวโดยใช้แรงงานคนคัดแยกเมล็ดข้าวที่ดีและมีคุณภาพเท่านั้น เพื่อนำมาบรรจุและส่งไปขายตามสถานที่ต่างๆ ใช้เวลาในการทำกิจกรรมช่วงนี่ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
   จากนั้นจะพาไปยังแปลงปลูกข้าว “แปลงนาปู่ย่าตายาย” โดยการให้ความรู้เบื้องต้น จากนั้นจะให้เริ่มลงมือถอนกล้า และดำนาเอง สนุกสนานกันทั่วหน้าครับ เมื่อเสร็จกิจก็เที่ยงพอดี ล้างไม้ล้างมือก็ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน จะมีเมนู สลัดผักออร์แกนิก ไข่เจียวผักโขม แกงแคไก่ผักรวม ยำคะน้าสด ผัดผักออร์แกนิก น้ำพริกลงเรือไข่เค็ม ส้มตำผักน้ำ จบด้วยไอศกรีมใบข้าว ผลิตภัณฑ์แปรรูปที่มีประโยชน์ของที่นี่ ดูรายชื่อเมนูแล้วน้ำลายสอเลยครับ เมนูแต่ละอย่างของเค้าจะมีคอนเซ็ปว่า “กินในสิ่งที่เราปลูก และปลูกในสิ่งที่เรากิน”  เพราะฉะนั้นอาหารที่เรารับประทานเข้าไปก็มาจากท้องไร่ท้องนาที่เค้าพาเราไปเยี่ยมชมนั่นเอง ทั้งสด สะอาด และปลอดสารพิษชัวร์ครับ ด้านหน้าโครงการฯ จะมีมุมขายผลิตผล และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่างๆ พร้อมชมโชว์การสวัสดีของควายเผือกแสนรู้ตัวใหญ่ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของผมที่ได้มีโอกาสทำเช่นนี้ ทำให้ได้รู้คุณค่าของข้าวแต่ละเม็ด ผักแต่ละต้นรู้จักถึงคำว่า “หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน” และเข้าใจชีวิตของชาวหน้ากระดูกสันหลังของชาติมากยิ่งขึ้นครับ ผมรู้สึกประทับใจกับกิจกรรมนี้มาก ถ้ามีโอกาสก็อยากให้คุณผู้อ่านได้พาลูก พาหลานมาท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ เกษตรอินทรีย์แบบนี้กันดูครับ

                                                                                 1.jpg (117.84 KB, 680x454 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 2.jpg (121.27 KB, 680x454 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 3.jpg (130.68 KB, 680x454 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 4.jpg (186.7 KB, 680x510 - ดู 47 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 6.jpg (136.52 KB, 680x454 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 7.jpg (139.59 KB, 680x453 - ดู 47 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 8.jpg (129.87 KB, 680x454 - ดู 46 ครั้ง.)
                                                                        
                                                                                 5.jpg (180.99 KB, 680x454 - ดู 46 ครั้ง.)


                                                                        
                                                                                                                                                                                        file:///C:/DOCUME%7E1/Somsak/LOCALS%7E1/Temp/moz-screenshot.png
ไม่เคยเสียใจสักครังกับคำว่ารัก...ถึงแม้เราไม่เคยได้เป็นแฟนใคร???
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
โพสต์ 2011-6-30 11:43:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เอ๋ยภาพสุดท้ายมาได้งัย เสียอารมณ์เลย ขอบคุณครับเคยไปแต่เสียนิดเดียวอากาศร้อนไปนิดหนึ่ง ควรเลือกช่วงเดือนที่ไม่ร้อนจะดีกว่า

แสดงความคิดเห็น

คราบฟ๋ม ขอบคุนนะคราบพี่หลวง อิอิ  โพสต์ 2011-6-30 14:31
คิดถึงคนไกล นานนักรู้ไหมที่ไกลห่าง หัวใจดวงนี้ช่างอ้างว้าง รอคอยอย่า

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
289
Zenny
2494
ออนไลน์
34 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-4-23 22:21:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
29
พลังน้ำใจ
15259
Zenny
3647
ออนไลน์
760 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่ม

โพสต์ 2012-4-24 11:33:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณสำหรับที่เที่ยวที่โปรด น่าไปเที่ยวมาก เมืองเก่าๆแบบนี้ สวยงามจริงๆ
ซามูไรอย่างเราจะต้องไม่ตายด้วยคมดาบของผู้อื่นนอกจากตนเอง

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
6
พลังน้ำใจ
3079
Zenny
28921
ออนไลน์
704 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-4-29 09:52:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เคยไปแล้วครับ สวยมากมาย ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-12-22 15:06 , Processed in 0.110563 second(s), 30 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้