แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kantanaty เมื่อ 2022-3-27 07:31
& n3 z. c7 [! E" h! `
- Y* a8 `, B* |) P6 y, w1 R$ u+ K v. K
ราคาน ราคานนั่งอยู่ที่โซฟาในเซฟเฮ้าส์ฝูง คิดทบทวนเรื่องเหตุการณ์ปะทะกับฝูงหงษ์ผงาดวันนั้น หลังจากที่ได้ฟังเรื่องจากเลิฟก็ได้รู้ว่าฝูงหงษ์ผงาดกับแก๊งค์มาเฟีย Black Spider มีความเกี่ยวข้องกัน แก๊งค์ Black Spider เป็นมาเฟียที่มีอิธิพลกว้างขวาง ทำธุรกิจผิดกฏหมายหลายอย่าง แต่เพราะเส้นสายที่เยอะทำให้จับไม่ได้ ครอบครัวของราคาน หมอก และโฬมก็เป็นนักธุรกิจที่ทำทั้งงานที่ถูกกฏหมายและผิดกฏหมาย ทำให้เกิดความบาดหมางกันในเรื่องผลประโยชน์เป็นปกติ พวกนี้จึงตั้งใจจะกำจัดให้พ้นทาง โดยแก๊งค์นี้มันมีสายอยู่ทั่วทั้งในรูปแบบขององค์กร บริษัท หรือแม้กระทั่งฝูง ทำให้กวาดล้างไม่หมดไม่สิ้นสักที เลิฟบอกว่าพวกมันจะเกณฑ์คนมาตั้งฝูงเพื่อใช้ทำงานให้กับพวกมัน การที่ฝูงหนึ่งโจมตีอีกฝูงหนึ่งนั้นถือเป็นเรื่องปกติ เพราะเป็นการสร้างชื่อเสียงและขยายอำนาจ พวกมันจึงใช้โอกาสนี้เป็นข้ออ้างในการกำจัดคนที่พวกมันต้องการ ฝูงหงษ์ทมิฬเองก็เป็นฝูงในนามของแกงค์ Black Spider แบบลับๆเหมือนกัน ราคานค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแกงค์ Black Spider จนไปเจอกับรายชื่อคนที่ถูกจับและเป็นหนึ่งในแก๊งค์พวกมัน ส่วนใหญ่เป็นพวกโอเมก้าซะส่วนใหญ่ พวกนี้ถูกจับเพราะก่อความรุนแรงและลอบฆ่า คำให้การของทุกคนมีสิ่งที่เหมือนกันคือ พวกนี้ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ตัวเองเป็นใคร จำความได้ก็เป็นคนของแก๊งค์ Black Spider แล้ว ซึ่งเมื่อนำมาปะติดปะต่อกับที่เลิฟเล่าแล้ว คนพวกนี้ถูกพวกมันเกณฑ์ตัวมาตั้งแต่เด็ก บ้างก็เป็นพวกเร่ร่อนข้างถนน บ้างก็เป็นลูกหนี้พวกมัน และมีบางส่วนที่สมัครใจเข้าร่วมแก๊งค์เอง จากนั้นพวกมันก็ฝึกให้ต่อสู้เหมือนมือสังหาร ถ้าพวกมันหมายหัวโฬม ราคาน และหมอกอยู่ล่ะก็ ฝูงก็ไม่ปลอดภัยเหมือนกัน ราคานังโกรธและเจ็บใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเลิฟไม่หาย และราคานจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นอีกแน่นอน ทั้งหมดต้องเตรียมตัวรับมือกับอันตรายอยู่ตลอดเวลา การอยู่เป็นฝูงที่ต้องต่อสู้เอาตัวรอดชิงดีชิงเด่นกันได้เริ่มขึ้นจริงๆแล้ว ราคานเชื่อว่าทุกคนในฝูงมีความสามารถ แต่อาจจะไม่รู้วิธีใช้ให้เกิดผลสูงสุด บางคนพลังไม่เหมาะจะใช้ในการต่อสู้เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นทักษะการต่อสู้ระยะประชิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ วิชาทักษะการต่อสู้นั้นปกติแล้วจะมีสอนในโรงเรียนตั้งแต่ชั้นปีแรก คนที่ได้เรียนหนังสือจนจบในฝูงมีแค่โฬม ราคาน รัม และหมอก เลิฟกับพสุไม่ได้เรียน ทั้งคู่จึงตกเป็นเป้าหมายโจมตีหลักเพราะอ่อนแอที่สุด ให้รอจนกว่าเลิฟไปโรงเรียนคงจะไม่ทัน ราคานนั่งครุ่นคิดสักพัก หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหาโฬม สักพักปลายสายก็รับ ''ฮัลโหล'' ''เป็นยังไงบ้าง'' ''กูสบายดี'' ''แผลหายดีแล้วหรอ'' ''เลิฟมันรักษาให้จนหายแล้ว มึงมีอะไรหรือเปล่า'' ''กูว่าเราควรฝึกต่อสู้ได้แล้วว่ะ'' ''อืม'' ''มึงอยากเริ่มออกล่าอำนาจแล้วหรอ'' ''เปล่า แค่อยากให้คนในฝูงป้องกันตัวได้'' ''ไม่เห็นจำเป็นเลย มีหัวหน้าสุดแข็งแกร่งอย่างกูอยู่ก็พอแล้วนี่'' ''กูจริจังนะโฬม'' ''เออ กูล้อเล่น'' เอาเข้าจริงโฬมก็รู้ดีว่าตัวเองนั้นแข็งแกร่งก็จริงแต่ก็ยังไม่ถึงขั้นไร้เทียมทาน ''แล้วมึงจะทำไง'' ''กูอยากทำการฝึกขึ้นมา แล้วก็ให้ไปฝึกกันเองนอกเวลา'' ''แบบนั้นก็ได้นะ กูฝากมึงจัดการเลยแล้วกันราคาน'' ''มึงเป็นหัวหน้า มึงต้องตัดสินใจสิ กูเลยโทรมาหามึงก่อนนี่ไง'' ''กูคิดอะไรได้ไม่เท่ามึงหรอก มึงจัดการไปเลย'' น้ำเสียงโฬมดูน้อยใจ ''กูก็ทำได้แค่วางแผนแหละน่า เรื่องคู่ซ้อมยังไงก็ต้องให้มึงช่วยมั้ยล่ะ ใครจะทนพลังได้ดีเท่ามึง'' ราคานพูดเพื่อให้โฬมสบายใจขึ้น โฬมยิ้ม ''เออ ต้องการอะไรก็บอกกูละกัน'' ''โอเค เดี๋ยวกูขอเตรียมการอะไรอีกนิดหน่อยก่อน'' ราคานวางสายจากโฬม ราคานหยิบแฟลชไดรฟ์ในกระเป๋ามาเสียบโน๊ตบุ๊ค โชคดีที่ราคานเอาเทปจากกล้องวงจรปิดตามห้องต่างๆในบ้านคืนวันที่เกิดเหตุกลับมาด้วย ราคานดูเทปวนไปมาเพื่อศึกษาการใช้พลังและทักษะการต่อสู้ของแต่ละคน จดบันทึกจุดที่ดีและจุดที่ต้องปรับปรุงลงในสมุดโน๊ตเล่มเล็กที่พกติดตัวเป็นประจำ เริ่มด้วยโฬมและพสุที่ต่อสู้กับกริชและเท้นส์ พลังของโฬมนั้นคือการทำให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้นและพละกำลังมหาศาลที่เยอะกว่าคนทั่วไป กริชที่มีพลังในการเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้เป็นอาวุธไม่สารถทำความเสียหายกับร่างกายอันแข็งแกร่งของโฬมได้ แต่แพ้เท้นส์ซึ่งมีพลังในการใช้เส้นเอ็นควบคุมกล้ามเนื้อจากด้านในถึง2ครั้งติด หมายความว่าถ้ากล้ามเนื้อได้รับความเสียหายโฬมก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย ส่วนพสุมีพลังทะลุผ่านสิ่งของได้ เดินทะลุกำแพง และล่าสุดราคานได้รู้ว่าสามารถดำดินได้ แถมยังหายใจและเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตอนที่อยู่ระหว่างสิ่งของนั้นๆได้อึกด้วย มีประสาทสัมผัสถึงอันตรายที่ค่อนข้างไว หลบหลีกการโจมตีได้ รวดเร็วและค่อนข้างยืดหยุ่น แต่ก็ยังขาดทักษะการต่อสู้ซึ่งๆหน้า ต่อมาคือรัมและหมอก หมอกนั้นถือว่าเป็นคนที่เก่งมากอีกคนหนึ่ง สามารถทำให้ร่างกายเปลี่ยนสถานะเป็นควันได้ดั่งใจ แยกส่วนไปอยู่หลายสถานที่ในเวลาเดียวกันได้ พลังหรืออาวุธกายภาพไม่สามารถทำอันตรายหรือเข้าถึงตัวหมอกได้เลย แต่จากการต่อสู้ครั้งนี้ทำให้เห็นว่าจุดอ่อนของหมอกคือ ถ้าโดนพลังแก้ทางอย่างพลังลมของวาโยบังคับไม่ให้กลับร่างก็แย่น่าดู ดีที่ไปกับรัม รัมนั้นต่างจากคนอื่นในฝูง เรียกว่าต่างจากทุกคนที่ราคานเคยเจอมาเลยก็ได้ รัมเป็นพวกที่ไม่มีกลิ่น ทำให้ดมกลิ่นหรือจับจิตสัมผัสหาตัวไม่ได้ ถ้าไม่สังเกตบางทีอาจจะลืมไปเลยก็ได้ว่ารัมนั้นอยู่ด้วย เล็ดลอดสายตาไปเสมือนล่องหน เท่าที่ราคานสังเกตได้ พลังของรัมน่าจะเป็นการใช้พิษ มันมีความหลากหลายมาก ไม่ใช่แค่พิษที่ใช้ฆ่าแต่เป็นพิษแบบสารพัดประโยชน์ วิธีใช้พลังก็มีเยอะจนเดาไม่ถูกว่าใช้ยังไงกันแน่ อยู่ในน้ำลาย อยู่ในเลือด หรืออยู่ในการกัด หรือทั้งหมด ราคานก็ไม่รู้เหมือนกัน การเคลื่อนไหวมีความเฉียบคมและว่องไวเหมือนพวกมือสังหาร แต่รูปแบบการต่อสู้กลับไม่เหมือนกับพวกที่ได้เทรนด์มาแบบโฬม หมอก หรือราคาน การต่อสู้ของรัมนั้นคาดเดาไม่ได้ ไม่รู้ว่ารัมจะทำอะไร นั่นแหละคือสิ่งที่น่ากลัวและเป็นทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคืออีกฝ่ายจับทางไม่ได้ ไม่รู้ว่าต้องสู้ด้วยยังไง ส่วนข้อเสียคือรัมดูสติไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ หลายคนบอกว่ารัมนั้นโรคจิต ราคานเองก็เริ่มจะเชื่อบ้างแล้วเหมือนกัน รัมเป็นพวกที่ไม่รู้ขอบเขตว่าเท่าไหร่ควรพอ คิดว่าการฆ่าเป็นเรื่องสนุกแม้แต่กับพวกเดียวกันเอง เวลาได้สู้จะสนุกจนจิตหลุดบ้าคลั่งอาละวาด เลยต้องคอยระวังและเรียกสติกลับมา ส่วนเลิฟนั้น แม้จะมีพลังรักษาซึ่งพบได้ยากในโอเมก้าและมีอานุภาพสูง แต่ถ้าพูดเรื่องการต่อสู้แล้วจะเรียกว่าเป็นเป้านิ่งก็ยังได้ เลิฟไม่มีความสามารถด้านการต่อสู้เลย ถ้าโดนจับหรือเข้าถึงตัวคือจบเห่ อย่างน้อยเลิฟก็ยังพอมีความว่องไวและฝีเท้าที่ค่อนข้างเร็วเอาไว้ใช้หนี แต่ที่มีอยู่ตอนนี้น่าจะไม่เพียงพอที่จะหนีจากพวกนั้น หลังจากที่คิดว่าได้ข้อมูลเพียงพอแล้ว ราคานส่งข้อความนัดทุกคนให้มารวมตัวกันที่บ้านฝูงในบ่ายวันนี้ " T7 _6 n3 ]' h
โฬม 2 J, \( k; C8 x" r3 g! ~# e3 `
พสุ โฬมขับรถเข้ามาที่บ้านฝูงตามที่ราคานนัดไว้ก่อนเวลาเพราะถ่ายงานเสร็จเร็ว เปิดประตูเข้ามาในบ้าน ข้างในนั้นเงียบมากเหมือนไม่มีใครอยู่ มีโน๊ตของราคานติดไว้ที่โต๊ะ 'ออกไปซื้อของเข้าตู้เย็น' โฬมนั่งลงที่โซฟา เอาโน๊ตบุ๊คขึ้นมาเปิดดูงานที่พ่อฝากให้ช่วยทำ ขณะที่โฬมกำลังนั่งพิมพ์งานอยู่ โฬมได้กลิ่นอะไรบางอย่าง กลิ่นที่โฬมคุ้นเคยเป็นอย่างดี มันทำให้โฬมรู้สึกซาบซ่านไปทั้งตัว โฬมลกขึ้นปิดโน๊ตบุ๊ค ขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง เดินตามกลิ่นไปเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำ ข้างในนั้น พสุกำลังนั่งหายใจแรงอยู่บนโถส้วม พสุเกิดอาการฮีทขึ้นมาฉับพลัน เลยต้องมาจัดการตัวเองในห้องน้ำก่อนที่อัลฟ่าข้างนอกจะได้กลิ่น พสุไมไ่ด้ฉีดยาคุมกำเนิดมาซะด้วย ถ้าโดนทำอะไรตอนนี้ล่ะก็มีหวังได้ท้องแน่ พสุเอามือลูบเป้าของตัวเอง มืออีกข้างเขี่ยหัวนมไปมา ถอดกางเกงออก ควยพสุแข็งเป็นลำอยู่ในกางเกงใน พสุดึงกางเกงในลง ควย7นิ้วของพสุเด้งออกมา หัวควยเยิ้มไปด้วยน้ำหล่อลื่น พสุใช้นิ้วเขี่ยรูหีของตัวเองไปมา รูหีพสุขมิบหุบอ้าไม่หยุดเพราะความเงี่ยนต้องการควยของอาการฮีท พสุอมนิ้วตัวเองแล้วสอดเข้าไปในรู ''อะ อาา'' พสุซอยนิ้วเข้าออก อีกมือชักว่าวตัวเองขึ้นลงช้าๆ ''อืออ'' เสียงประตูห้องน้ำเปิดออก พสุตกใจมากรีบหยิบเสื้อผ้ามาคลุมตัวเองไว้ โฬมเดินเข้ามา กลิ่นโอเมก้าของพสุคละคลุ้งไปทั่วห้องน้ำ ''ฮีทหรอ'' ''คุณโฬม คือ'' ''หึๆ แล้วทำไมไม่มาบอกล่ะ'' โฬมเดินเข้ามาหา ''ไมไ่ด้นะครับ ผมไม่ได้ฉีดยามา'' ''กูมีถุง'' โฬมล้วงมือไปในกระเป๋ากางเกงแต่ก็ลืมไปว่าไม่ได้พกมา ''ไม่มีละ แต่ช่างมัน เดี๋ยวช่วยเอง'' ''อย่าเลยครับ อะ อึก'' โฬมนั่งลงยกขาของพสุขึ้น ยื่นหน้าไปเลียหีของพสุอย่างเมามันส์ ''อ๊ะ อือออ'' โฬมตวัดลิ้นเลียหีของพสุไปมา ลิ้นอุ่นหนาๆของโฬมทำเอาพสุเสียวไปหมด โฬมเลียหีของพสุอย่างมูมมามจนแฉะชุ่ม เงยหน้ามามองพสุที่หน้าแดงเยิ้มไปหมด หน้าตาของพสุนั้นเซ็กซี่ถูกใจโฬมตั้งแต่ที่เห็นครั้งแรกแล้ว แถมกลิ่นตอนเงี่ยนก็หอมมากอีกด้วย เป็นกลิ่นเหมือนกุหลาบอ่อนๆ ''นิ้วเล็กๆมันจะไปช่วยได้ไงล่ะ ใช่มั้ย'' โฬมอมนิ้วตัวเองที่หญ่แล้วสอดเข้าไปในหีของพสุสองนิ้ว ''อึก อ๊ะ'' โฬมควานนิ้วไปมาจนไปโดนจุดเสียวของพสุ ''อึก อ๊ะ!'' ควยพสุแข็งกระดกขึ้นลง โฬมยิ้ม ซอยนิ้วของตัวเองรัวๆ ''อือออ อาาาา'' นิ้วโฬมกระแทกจุดเสียวของพสุย้ำๆจนเสียวแทบขาดใจ ในหัวขาวโพลนไปหมด โฬมบีบคอของพสุไว้แล้วซอยรัวๆเร็วๆ ''อ๊ะ อะ อ๊ะ อาาาา!'' พสุตัวกระตุก น้ำแตกพุ่งออกมาไม่หยุดเลอะไปทั่วตัว ขาสั่นไปมา โฬมยิ้มพอใจ ''เอาล่ะ ถ้าไม่อยากให้กูเย็ดมึงจนท้อง ก็รีบลุกขึ้นมาจัดการนี่ซะ'' โฬมยืนขึ้นถอดกางเกงออก ควยดำใหญ่ยาว15นิ้วเด้งออกมาโด่ชี้หน้าของพสุ หัวควยยังไม่เปิดดี ดงหมอยดกดำ พสุลงมานั่งคุกเข่า จับควยของโฬมเข้าปากแล้วดูดอย่างเมามันส์ ''ซี้ดดด อาาา'' พสุอมควยของโฬมอย่างหิวกระหาย สอดลิ้นเข้าไปเลียวยใต้หนังหุ้ม กินน้ำเงี่ยนที่เยิ้มตรงหัวควย ถอกควยของโฬมลง หัวควยบานแดงโผล่ออกมา พสุเลียไปตามแง่งควยของโฬม ตวัดลิ้นเลียรัวๆเน้นๆตรงหัวควยโฬม จับลำควยตั้งตรง ลากลิ้นเลียลงไปตามลำควยยาว เลื่อนลงไปดูดเลียไข่ของโฬม โฬมจับหัวพสุไว้ จับควยยัดปากแล้วเด้งเอวเย็ดอย่างเมามันส์ ''อ๊อก ออก ออก ออก'' ''อูยยย'' ควยโฬมใหญ่คับปากพสุไปหมด โฬมกระแทกควยเข้ามาในปากพสุไม่ยั้ง แทงเข้ามาลึกจนสำลักน้ำตาเล็ด โฬมตอกควยเข้ามาในปากของพสุอย่างเร็วและแรง สายตาของพสุที่ร่านควยทำเอาโฬมเงี่ยนขึ้นไปอีก ''โอยย สัส อ้าา!'' โฬมกระแทกควยเข้ามาสุดลำ น้ำควยขาวขุ่นมากมายพุ่งเข้ามาในปากของพสุ พสุพยายามกลืนลงไปแต่ก็กลืนไม่ทัน มันพุ่งเข้ามาเรื่อยๆจนทะลักออกมาจากปากและจมูกของพสุ กลิ่นคาวคละคุ้งเต็มปากไปหมด ''ฮ้าา'' พสุอ้าปากหอบ น้ำควยเต็มปาก โฬมจับควยตีหน้าของพสุไปมา ''ขอบคุณกูซะนะที่ไม่ได้เย็ดมึงเนี่ย อยากเย็ดชิบหาย'' พสุยิ้ม ''ขอบคุณครับ'' เมื่อถึงเวลานัด ทุกคนมานั่งรวมตัวกันรอราคานอยู่บนโซฟาที่ห้องโถง สักพักราคานก็เดินลงบันไดมา ''มากันครบแล้วใช่มั้ย'' โฬมชะเง้อมองแล้วพยักหน้า ราคานนั่งลงข้างๆโฬม ''วันนี้ที่เรียกทุกคนมาเพราะเรื่องที่ผ่านมานั่นแหละ'' ราคานเริ่มพูด ''อย่างที่เราคุยกันไปแล้ว พวกนั้นเป็นมาเฟียรายใหญ่ที่จ้องเล่นงานพวกเราอยู่ และมันจะไม่หยุดแค่นี้แน่ รวมไปถึงความรุนแรงและอันตรายที่จะเกิดขึ้นต่อคนในฝูงอีก'' ''น่าสนุก'' รัมปรบมืออย่างตื่นเต้น หมอกเอามือของรัมลง ''จากการต่อสู้ที่ผ่านมาทำให้ได้รู้ว่าในพวกเรายังมีคนที่ไม่มีทักษะการต่อสู้อยู่ ถ้าตกอยู่ในอันตรายแล้วคนอื่นไปช่วยไม่ทันต้องแย่แน่ๆ'' เลิฟก้มหน้าอย่างรู้สึกผิด เพราะเลิฟทุกคนเลยต้องเดือดดร้อนไปช่วยและได้รับบาดเจ็บกันวันนั้น ''รวมถึงฤดูการต่อสู้ระหว่างฝูงได้เริ่มชึ้นแล้วด้วย เลยคิดว่าพวกเราควรจะฝึกการต่อสู้ได้แล้ว'' รัมตาเบิกโพลง ''ในที่สุดก็จะได้มีอะไรทำสักที เบื่อมาตั้งนาน'' เลิฟนั้นไม่ชอบการต่อสู้เลย แต่ก็จริงอย่างที่ราคานพูด ถ้าคนอื่นมาช่วยไม่ทันเลิฟคงแย่ไปแล้ว เลิฟไม่อยากเป็นภาระของคนอื่นแบบวันนั้นอีก ''ตามขึ้นไปข้างบนหน่อย'' ราคานเดินนำทุกคนขึ้นไปที่ชั้นสอง เข้ามาในห้องห้องหนึ่งที่ยังไม่ได้เปิดใช้ พอเข้ามาแล้วด้านในมีพื้นที่กว้าง มีอุปกรณ์หลายอย่างอยู่ ''เราจะใช้ที่นี่เป็นห้องฝึกของฝูงกัน อยากใช้เมื่อไหร่ก็ขึ้นมาเลย'' เราคานเดินไปปิดม่านเพื่อไม่ให้ภายนอกเห็น ลากกระดารไวท์บอร์ดที่เขียนอะไรไม่รู้เต็มไปหมดออกมา ''จากที่ได้ไปดูเทปกล้องวงจรปิดวันนั้นมาเลยได้รู้ว่าพวกเราควรจะพัฒนาอะไรกันบ้าง จะบอกให้นะ เริ่มจากมึงก่อนละกันโฬม'' โฬมยักคิ้ว รู้สึกแย่นิดหน่อยที่ราคานดูเป็นหัวหน้ามากกว่าตัวเอง ''เรื่องทักษะการต่อสู้มึงเก่งมากอยู่แล้ว พละกำลังก็เยอะ แต่แพ้โอเมก้าตั้งสองรอบ'' โฬมหงุดหงิดนิดหน่อยเหมือนโดนตอกย้ำ ''อย่าเพิ่งทำหน้างั้นดิวะ ที่มึงแพ้เพราะพลังมันแก้ทางมึง จุดอ่อนของมึงอยู่ที่กล้ามเนื้อ ถ้ากล้ามเนื้อมึงเป็นอะไรไปล่ะแย่เลย'' ราคานวงปากกา "ที่กูอยากให้มึงลองมีแค่จุดนี้ มึงออกมานี่หน่อย'' โฬมเดินออกไปหาราคาน ''ใช้พลังหน่อย'' ดวงตาของราคานเปลี่ยนเป็นดีดำสนิท ร่างกายค่อยๆขยายใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆจนเสื้อปริ กล้ามแขนใหญ่ผิดมนุษย์เส้นเอ็นปูดขึ้นมา กลิ่นอัลฟ่ากระจายไปทั่วห้อง เลิฟและพสุผวานิดหน่อย ''มึงลองเปลี่ยนจากขยายกล้ามเนื้อตัวเองเป็นสร้างกล้ามเนื้ออีกชั้นได้มั้ย'' ''หืม ทำไมวะ'' ''พลังของมึงไม่ใช่แค่การเพิ่มประสิทธิภาพกล้ามเนื้อที่มีอยู่อย่างเดียวนี่ มึงสามารถสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มได้ด้วยไม่ใช่หรอ'' ''หรือวะ'' ''ถ้าพ่อมึงทำได้ มึงก็ต้องทำได้'' โฬมตั้งสมาธิ จริงของราคานที่พลังของโฬมคือการบังคับกล้ามเนื้อในตัวตามใจชอบ แต่โฬมก็ไม่เคยสร้างกล้ามเนื้อเพิ่มมาก่อน โฬมค่อยสร้างกล้ามเนื้อขึ้นมาอีกชั้นจนร่างกายหนาขึ้นเป็นสองเท่า ตัวสูงขึ้นอีก รัมอ้าปากค้างปรบมือเหมือนเด็กเห็นไดโนเสาร์ ''ยังกับก็อตซิลล่าแน่ะ'' รัมเอานิ้วชี้ไปที่หน้าของโฬม โฬมประหลาดใจมากว่าตัวเองทำแบบนี้ได้ โฬมค่อยๆคืนร่างตัวเอง ดวงตากลับมาเป็นสีปกติ ราคานตบบ่าของโฬม ''สุดยอด'' โฬมกลับมานั่งที่ มองมาที่เลิฟ เลิฟตกใจนิดหน่อย ''เมื่อกี๊เท่มากเลยครับ'' โฬมยิ้มมุมปาก ไม่ได้ตอบอะไร ''พสุ'' พสุเดินออกไปหาราคาน ''พลังคือการทะลุสิ่งของใช่มั้ย'' ''ใช่ แต่ปัจจัยตัวที่ทะลุคือตัวเรา ไม่ใช่สิ่งของ'' ราคานคิด ''ถ้าอย่างนั้นลองอย่างนี้หน่อยได้มั้ย ปกติเวลาจะใช้พลังจะเป็นแบบปิดเปิดเวลาจะทะลุอะไรสักอย่างใช่มั้ย'' ''ลองทำให้ตัวเองทั้งตัวทะลุอยู่ตลอดเวลาได้มั้ย'' ''ถ้าทำแบบนั้นเราจะจมดินเอาน่ะสิ'' ''แปลว่าทำได้สินะ'' ''ทำได้'' ''งั้นขอลองนี่หน่อย'' ราคานอุ้มพสุขึ้น พสุตกใจนิดหน่อย อยู่ๆราคานก็ย่อตัวแล้วโยนพสุขึ้นไปบนเพดาน พสุตกใจ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีม่วง ทะลุ่านเพดานขึ้นไป แรงโยนของราคานทำให้พสุลอยทะลุหลังคาบ้านออกมา พสุร่วงตกลงไปแต่ราคานรับไว้ได้ทัน ราคานยิ้มพอใจ วางพสุลง ''ทักษะการต่อสู้ไปเรียนมาจากไหน'' ''ไม่ได้เรียนหรอก ฝึกเองนี่แหละ'' พสุพูดรวมๆ จริงๆแล้วพสุต้องป้องกันตัวจากพวกลูกค้าซาดิสท์หลายๆคนอยู่ตลอดเวลาต่างหาก ''คิดว่าจากพละกำลังแล้ว เข้าต่อสู้ซึ่งหน้าแบบโฬมไม่ได้แน่ๆ ควรจะฝึกการแอบเข้าจากด้านหลังหรือการสวนกลับอย่างรวดเร็วมากกว่า ถ้าอย่างนั้น เรื่องพสุฝากให้มึงช่วยสอนได้มั้ยโฬม'' โฬมกำลัจะบอว่าขี้เกียจแต่เห็นแบบนี้แล้วถ้าตัวเองไม่ทำอะไรสักอย่างจะต้องเสียศักดิ์ศรีจ่าฝูงแน่ ''ได้'' โฬมรับคำ ''ฝากตัวด้วย'' พสุโค้งให้โฬมเล็กน้อย ''รัม'' ''ครับผม!'' รัมเอามือตะเบ๊ะท่าเหมือนทหารับคำสั่ง ''เรื่องการต่อสู้ไม่มีที่ติอะไร แต่อยากจะให้ควบคุมสติตัวเองให้มากกว่านี้'' รัมทำหน้างง หันมาหาหมอก ''หมายความว่าไงวะ'' ''อย่าฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้า'' หมอกตอบอย่างเย็นชา รัมขำ ''หมอก'' หมอกเหลือบตามามองราคาน ''ไม่มีอะไรจะติเหมือนกัน แต่อยากรู้ว่า ถ้าร่างกายอยู่ในสภาพควันแล้วสามารถแยกออกจากกันได้นานแค่ไหน'' ''ไม่มีขีดจำกัด'' ''ระยะเวลาด้วยหรอ'' ''ใช่ แต่ยังไงร่างแยกก็ไม่แกร่งเท่าร่างรวม'' ''เพราะฉะนั้น ที่อยากให้ไปโฟกัสคือ ฝึกให้ร่างส่วนที่เป็นควันแยกออกไปทนทานมากกว่านี้ กันเวลาที่มีเหตุการณ์ทำให้รวมร่างไม่ได้'' หมอกพยักหน้า ''ส่วนเลิฟ'' เลิฟนั่งตัวตรงตั้งใจฟัง ''อืม จะพูดยังไงดีล่ะ เราไม่มีสกิลการต่อสู้สักนิดเลยหรอ'' เลิฟส่ายหัว ''ไม่มีครับ'' ''ไว้พี่จะสอนเบื้องต้นให้เราเอง อย่างน้อยก็เอาไว้ป้องกันตัว แต่จะฝึกหนักหน่อยนะ'' ''ผมจะตั้งใจครับ'' เลิฟตอบอย่างแข็งขัน ราคานยิ้ม ปรบมือเพื่อเรียกความสนใจจากทุกคน ''งั้นก่อนที่จะไปกัน เรามาอบอุ่นร่างกายกันหน่อยดีกว่า'' ราคานหยิบกล่องใบหนึ่งออกมา ''อะไรวะ'' โฬมถาม ''จับคู่ต่อสู้ไง'' รัมกระโดดไปมาโดยมีหมอกดึงชายเสื้อให้อยู่กับที่ ''อย่างน้อยก็ทำให้ร่างกายคุ้นชินเอาไว้น่าจะดีใช่มั้ยล่ะ เลิฟไม่ต้องลงนะ ค่อยรักษาแผลให้คนอื่นก็พอ'' ''ครับผม'' ''อะไรอะ ไม่ได้ดิ'' รัมโวย ''อะไรหรอ'' ราคานกอดอกมอง ''ก็อยากสู้กับเลิฟนี่นา ไม่แฟร์เลย'' ''เลิฟสู้กับใครก็แพ้เจ็บตัวฟรีๆอยู่ดี ให้คอยรักษาให้พวกเราก็ดีแล้วนี่ ฝึกรักษาให้เร็วขึ้นก็ได้'' รัมยังดูมีสีหน้าไม่พอใจ ''ขอผ่าน'' หมอกพูดขึ้น '''ถ้าแค่ครั้งนี้ล่ะก็ ได้ คนจะได้ลงตัวด้วย' ''เราจะสู้โดยไม่ใช้พลังกันก่อนเพื่อดูการต่อสู้ด้วยมือเปล่า แล้วจะให้ใช้พลังได้หลังจากผ่านไปสักพัก ใครที่ออกจากพื้นที่ที่กำหนดไว้ด้วยเส้นขาวหรือสู้ต่อไม่ไหวถือว่าแพ้ หลังจากนี้เราจะจัดการสู้กันแบบนี้ขึ้นทุกวันสุดท้ายของเดือนเพื่อดูพัฒนาการของทุกคน โอเคนะ'' ทุกคนเห็นด้วย รวมถึงเลิฟที่หวั่นๆในใจหน่อยก็เถอะ ราคานล้วงมือลงไปในกล่อง หยิบกระดาษม้วนออกมาเปิดอ่านชื่อ ''โฬม'' โฬมเดินออกมาข้างหน้า ไม่มีใครอยากจะสู้กับโฬมด้วยมือเปล่ากันหรอก ''แล้วก็กูเอง'' โฬมหันไปมองราคานแล้วยิ้ม ''ไม่ได้สู้กันมานานแค่ไหนแล้ววะ'' ''ตั้งแต่สมัยเรียนเลยมั้ง'' ''เตะตูดมึงอีกสักครั้งก็ไม่เสียหายหรอก'' ''ใครเตะใครกันแน่'' ทั้งคู๋พูดล้อเลียนกัน ''เริ่มครับ'' เลิฟให้สัญญาณ โฬมพุ่งปล่อยหมัดใส่ราคานทันที ราคานเหวี่ยงตัวหลบได้ทันแต่โฬมก็ต่อยไปอีกหมัดอย่างรวดเร็ว ราคานก้มตัวหลบหมัดแล้วใช้ขาเตะตัดขาของโฬมจนเกือบล้มแต่โฬมก็เด้งตัวขึ้นมาทัน เตะเข้าใส่ท้องของราคานที่อยู่ข้างล่าง ราคานเอามือจับแล้วพลักออกทัน การต่อสู้นั้นดุเดือดมาก ทุกคนนั่งดูการต่อสู้ของสองอัลฟ่าที่แข็งแกร่งอย่างใจจดใจจ่อ สไตล์การต่อสู้ของทั้งคู่นั้นต่างกันอย่างเห้นได้ชัด ราคานนั้นดูมีแบบแผน กันแล้วสวนตอบ หลบหลีกได้อย่างรวดเร็ว ส่วนโฬมใช้กำลังพุ่งใส่ไม่ยั้ง ถ้าหลบไม่เก่งจริงๆมีสิทธิ์ตายได้เลย ราคานจับหมัดของโฬมยกขึ้นแล้วถีบอกโฬมจนกระเด็นไปกองกับพื้น โฬมลุกขึ้นมาแล้ววิ่งเข้าหาราคานทันที ''เร็วเหมือนเดิมเลยนะมึง'' ''มึงก็ยังเป็นหมาบ้าเหมือนเดิม'' ราคานจับแขนของโฬมแล้วจับทุ่มลงกับพื้นเสียงดัง สัญญาณจากนาฬิกาบอกว่าให้ใช้พลังได้แล้ว ราคานยิ้ม ''คราวนี้แหละตากูบ้าง'' ดวงตาของโฬมกลายเป็นสีดำสนิท กล้ามเนื้อขยายใหญ่ขึ้นและแข็งเหมือนกับเหล็ก ราคานโดนโฬมที่เป็นเสมือนลูกตุ้มเหล็กพุ่งใส่อย่างจังจนกระเด็น ราคานเอามือกุมท้อง ยิ้มให้โฬม ''แข็งจังนะไอก้อนเนื้อ'' ''ใช้พลังได้แล้ว'' ราคานบุกเข้ามาบ้าง ต่อยใส่โฬมรัวๆ โฬมถอยหลังไปเรื่อยๆยกแขนขึ้นกันหมัดของราคานไว้ ราคานยังไม่ใช้พลังอยู่ดี แต่ถึงจะไม่ใช่ก็ยังปะทะกับโฬมที่ใช้พลังได้อย่างค่อนข้างสูสี ''ถ้าไม่ใช้พลังสักทีแบบนี้จะแย่เอานะ'' โฬมพุ่งหมัดใส่ราคาน หมัดของโฬมแข็งและใหญ่ขึ้นเหมือนลูกตุ้ม กระแทกเข้าหน้าของราคานอย่างจัง ราคานลอยออกจากเส้นขาวไป ''คุณโฬมชนะครับ'' โฬมรู้สึกดีใจมากที่ชนะราคาน เพราะที่ผ่านมาสมัยเรียนราคานนั้นเอาชนะโฬมอยู่บ่อยๆ แต่ก็หนกเอาการกว่าจะเอาราคานลงได้ ถ้าเป็นคนอื่นโดนหมัดโฬมจังๆไปแบบนั้นมีหวังได้ไปสวรรค์แน่ๆ เลิฟวิ่งไปหาราคาน ''เป็นอะไรมั้ยครับ'' ราคานจับจมูกตัวเองที่เลือดออก ''จมูกหัก'' ''อยู่นิ่งๆนะครับ'' เลิฟเอามือจับใบหน้าของราคานอย่างแผ่วเบา ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีเขียว ราคานมองหน้าของเลิฟแล้วยิ้มออกมา จมูกของราคานค่อยๆสมานและกลับไปเป็นรูปทรงเดิมได้อย่างรวดเร็ว ''เร็วดีเหมือนกันนะ'' โฬมที่ยืนดูอยู่พูดขึ้น ''ขอบคุณนะ'' ราคานเอามือลูบหัวเลิฟ เลิฟยิ้มเขิน ''แต่มึงยังไม่ได้โชว์เลยนะว่าพลังมึงคืออะไร ตั้งแต่กูรู้จักมึงมากูยังไม่รู้เลยว่าพลังของมึงคืออะไร'' โฬมท้วง ''กูใช้ไปแล้ว'' ''ยัง ไอสัสนี่'' ''นั่นสิ ผมก็อยากหเ็นพลังของพี่ราคานเหมือนกัน'' รัมยกมือเห็นด้วย ราคานถอนหายใจ ''ก็ได้'' ราคานยืนขึ้น เดินไปข้างหน้า ''ทุกคนมองมาทางนี้ล่ะ จะได้เห็น'' หลายๆคนก็แอบตื่นเต้นที่จะได้รู้ว่าราคานทำอะไรได้ ดวงตาของราคานเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน และนั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ทุกคนจำได้ ''โอเคแล้วเนอะ'' ''โอเค'' ''เจ๋งมาก'' ''งั้นคู่ต่อไปเตรียมตัวเลย'' ราคานกลับไปนั่งข้างหมอก เมื่อกี๊ราคานใช้พลังให้ทุกคนดูไปแล้วด้วยการสร้างความทรงจำปลอมๆแทรกเข้าไปในสมองทุกคนว่าราคานได้ใช้พลังให้ดูแล้ว แม้จะไม่รู้ว่าทำอะไรไปแต่ก็รู้สึกเหมือนได้รู้แล้ว ที่ไม่มีใครรู้ว่าราคานใช้พลังอะไรได้ก็เพราะ การสะกดจิตของราคานนั้นทรงอานุภาพจนเป้าหมายมีปฏิกิริยาตอบกลับอย่างรวดเร็วจนไม่มีใครจับได้ แต่พลังของราคานไม่ได้มีแค่สะกดจิต นั่นเป็นเพียง10เปอร์เซ็นต์ของพลังทั้งหมดของราคาน พลังที่แท้จริงของราคานนั้นถูกพ่อห้ามไม่ให้ใช้เพราะอาจจะควบคุมไม่ได้ และห้ามให้ใครรู้เพราะคนที่มีพลังสะกดจิตแบบราคานนั้นหายากและจะเกิดอันตรายขึ้นได้ถ้ามีคนรู้ว่ามีพลังนี้
& c, b4 D( j1 p4 X
พสุ
9 p1 v$ u8 I7 ?0 I& z5 k0 ?
รัม พสุกับรัมยืนอยู่กันคนละฝั่ง พสุนั้นไม่ได้มีความสามารถด้านการต่อสู้แบบจรงจังสักเท่าไหร่เลยหวั่นหน่อยๆ ถ้าเทียบกับรัมแล้วพสุแพ้อย่างเห็นได้ชัด รัมยืนกลับหัวใช้มือข้างเดียวยันพื้นไว้ ส่งยิ้มมาให้ ''อย่าทำชุดเราเลอะเลือดล่ะ ตัวโปรดซะด้วย เดี๋ยวซักไม่ออก'' รัมเด้งกลับขึ้นมายืนดีๆ จิตสังหารอ่อนๆแผ่ออกมาจากตัวของรัม ถึงรัมจะน่ากลัวแต่พสุก็ไม่ยอมแพ้หรอก ''เริ่ม'' สิ้นเสียงของราคานรัมก็หายไปทันทีในพริบตา พสุมองไปทั่วห้องอย่างระมัดระวังแต่ก็หาไม่เจอ ดมกลิ่นก็ไม่เจอเหมือนกัน ''อย่าเหม่อสิ'' รัมที่ไม่รู้โผล่มาตอนไหนเตะเข้าอย่างแรงที่สีข้างของพสุจนลงไปนอนกับพื้น รัมกระโดดสองเท้าลอยลงมาจะเหยียบหน้าพสุแต่พสุกลิ้งหลบทัน รีบลุกขึ้นมาแล้ววิง่เข้าไปใส่รัม รัมวิ่งถอยหลังหนี ''วิ่งไล่จับ วิ่งไล่จับ'' พสุตามมาจนถึงตัว ง้างหมัดต่อยใส่หน้าของรัม รัมเอี้ยวตัวหลบได้อย่างเส้นยาแดงผ่าแปด ''แปะ พสุเป็น'' รัมตบฝ่ามือเข้าเต็มหลังจนพสุกระเด็นหน้าคะมำ เลิฟมองพสุอย่างเป็นห่วง อย่างที่คิดไว้ เรื่องความเร็วและกำลังพสุสู้รัมไม่ได้เลยในตอนนี้ แถมรัมก็ไม่ออมมือเลยซะด้วย รัมเดินมายืนข้างพสุที่นอนอยู่บนพื้น ''ยืนไม่ไหวแล้วหรอ ยื่นมือมาสิ'' พสุยื่นมือไปจับมือของรัม รัมยิ้มดึงตัวพสุขึ้นมาพาดบ่าแล้วจับทุ่มลงกับพื้น ขึ้นมานอนคร่อมบนอก ''ใช้พลังได้'' ดวงตาของรัมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอำพันเหมือนกับงู เขี้ยวแหลมคมงอกออก รัมแลบล้นสองแฉกออกมาเลียแก้มของพสุ ''จะกลืนเข้าไปทั้งตัวเลย'' รัมอ้าปากกว้างผิดมนูษย์จะกัดหัวของพสุ ดวงตาของพสุเปล่งประกายสีม่วง ร่างของพสุจมลงไปในพื้นทำให้รัมกัดพลาด รัมส่งเสียงคำรามอย่างน่ากลัวเหมือนปีศาจ น้ายลายไหลย้อยออกมาจากปาก พสุหลบอยู่ใต้พื้นดิน "ไม่เอาน่า อย่าขี้ขลาดแล้วแอบอยู่ใต้ดินสิ'' เสียงฝีเท้าของรัมเดินไปมาแต่จู่ๆก็เงียบไป พสุค่อยเอาหัวโผล่ขึ้นไป แต่ก็ต้องหวาดกลัวเข้ากระดูกขนลุกไปทั้งตัวเพราะเจอกับดวงตากลมโจตสีเหลืองของรัมที่จ้องอยู่ระยะประชิด พสุรีบดำลงไปใต้พื้นต่อทันที ''เหมือนเกมตีตัวตุ่นเลยน้า จะทุบให้หัวแบะเลย'' ราคานนั่งดูอย่างเป็นห่วง ไม่รู้ว่าต้องเข้าไปห้ามตอนไหนดี แต่ถ้าเป็นอย่างนี้พสุก็จะได้ลองสู้ พสุจับกลิ่นของรัมไมไ่ด้ว่าอยู่ตรงไหน หลับตาลง ตั้งใจฟังเสียงเท้า 'ตึก ตึก ตึก ตึก' เสียงฝีเท้าหยุดลงบนหัวของพสุ ''เจอแล้ว!!!'' รัมกัดพื้นจนขาด เผยให้เห็นพสุที่อยู่ด้านล่าง พสุเด้งตัวหลบเท้าของรัมที่ถีบมา ทั้งคู่ยืนประจันหน้ากัน รัมส่งยิ้มกว้างให้ ''ตั้งแต่รู้จักกันมายังไม่เคยได้ลองกินเลือดกันเลยนะ'' "มีแต่พวกโรคจิตเท่านั้นแหละที่ทำกันอย่างนั้น'' ''เอ้า หรอ ไม่รู้เลยนะเนี่ย งั้นเปลี่ยนเป็นเชือดคอแทนละกัน ยังไงก็ไม่ตายนี่'' รัมเลื้อยอย่างรวดเร็วพุ่งเข้าใส่พสุ พสุเบี่ยงตัวหลบ กำหมัดแล้วต่อยสวนใส่รัมจนรัมกระเด็น พุ่งเข้าไปเตรียจะถีบท้องรัมทันที รัมเงยหน้ามายิ้มให้แล้วเด้งตัวลอยขึ้นไปในอากาศ ทิ้งตัวลงมาถีบต้นคอของพสุจนล้มไปกองกับพื้น รัมเลื้อยมาคร่อมตัวของพสุ กัดข้อมือของตัวเอง แต่สิ่งที่ไหลออกมากลับไม่ใช่เลือดด มันคืองูสีเขียวเข้มสองตัวเลื้อยมารัดมือของพสุไว้ รัมเลียแผลตรงข้อมือตัวเอง "ค่อยให่รักษาให้ละกัน'' รัมหันมามองหน้าของพสุ เอามือบีบแก้มของพสุแน่นให้อ้าปาก ''อยากมีงูอยู่ในตัวบ้างมั้ย เราแบ่งให้ได้น้า'' รัมยื่นหน้ามาใกล้ หน้าของรัมจอนนี้นั้นน่ากลัวมาก รัมอ้าปาก งูตัวใหญ่สีแดงเลื้อยออกมาขู่พ่อเสียงดัง จะเลื้อยเข้าไปในปากของพสุ "พอแล้ว!'' ราคานลุกขึ้นห้าม รัมกัดปากทำหน้าไม่พอใจ งูพวกนั้นเลื้อยกลับเข้าไปในตัวของรัม รัมยืนขึ้น หันมาหาเลิฟ ''เมื่อไหร่จะชุบชีวิตได้ล่ะ อยากฆ่าจะแย่แล้วเนี่ย'' ''มึงมานี่'' หมอกเดินมาลากรัมที่ดิ้นไปมากลับไปนั่ง เลิฟรีบเดินมาหาพสุที่นอนอยู่บนพื้นด้วยเนื้อตัวที่สะบักสะบอม "เดี๋ยวเลิฟจะรีบรักษาให้นะครับ'' เลิฟเอามือจับตัวของพสุ ดวงตาสว่างวาบขึ้น อาการช้ำตามตัวเริ่มจางลงจนหายไป ราคานหันไปมองไปที่รัมที่ดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร ไม่รู้ว่าเมื่อกี๊เป็นแค่การเล่นสนุกหรือกะจะฆ่าให้ตายจริงๆ จิตสังหารที่ออกมามันดูจริงและรุนแรงมาก ท่าทางจะต้องระวังรัมมากขึ้นกว่าเดิมซะแล้ว พสุลุกขึ้นมานั่ง รัมกระโดดลอยมาอยู่ตรงหน้าพสุ ยื่นมือมาให้ ''ขอบคุณที่มาเล่นด้วยกันนะ'' พสุยื่นมือไปจับแบบลังเลนิดหน่อย "อืม'' ''งั้นวันนี้พอแค่นี้ดีกว่าเนอะ ทุกคนหมั่นฝึกฝน ดูแลตัวเองกันให้ดีด้วย ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรเมื่อไหร่ให้เรียบบอกคนอื่นนะ'' ทุกคนรับทราบ จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับ ราคานเกาหัวมองพื้นที่พังเละเทะเพราะฝีมือของรัม ''ต้องซ่อมกี่วันวะเนี่ย'' |