เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างน้าครามกับกับบอยในวันนั้นไม่นานก็เจือจางในความรู้สึกเด็กชาย อาจจะเป็นเพราะว่าบอยยังเด็กมาก สมาธิในการจดจ่อต่อเรื่องใดเรื่องหนึ่งมีได้แค่ประเดี๋ยวประด๋าวเท่านั้นแต่ทว่า มันกลับส่งผลต่อความประทับใจในระยะยาวโดยที่บอยไม่รู้ตัว ทุกวันนี้แม้เวลาจะผ่านพ้นมาเป็นสิบๆปี ความระลึกได้หมายจำและเงื่อนไขบางอย่างจากเหตุการณ์ครั้งนั้นกับน้าคราม กลับกลายเป็นรสนิยมอันฝังรากลึกในตัวบอยตลอดมาเช่นบอยจะมีอารมณ์ทางเพศเป็นพิเศษกับคนในเครื่องแบบทหาร หรือนักมวย ชายหนุ่มผิวคล้ำและมีเขี้ยวเวลายิ้มจะขโมยหัวใจบอยได้เสมอเงื่อนไขบางอย่างที่ก่อขึ้นในใจบอยล้วนแล้วแต่มากจากผู้ชายที่ชื่อครามผู้ซึ่งเป็นคนเปิดโลกให้บอย หลังจากครั้งแรกที่บอยได้รู้จัก “นมควย”ของน้าครามแล้วดูเหมือนว่าความใกล้ชิดระหว่างสองคน จะมีเพิ่มมากขึ้นน้าครามเองพอพลาดทำเรื่องเลยเถิด ก็คอยอยู่ชิดใกล้บอยเพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เด็กชายพลั้งปากส่วนบอยเองก็จดจำได้แค่ว่าเคยมีช่วงเวลาที่ได้สนุกและตื่นเต้นกับน้าครามแม้จะไม่รู้ตัวว่าเป็นการล่วงละเมิดแต่สำหรับเด็กชาย การได้อยู่กับน้าครามก็ไม่ใช่การอยู่กับคนแปลกหน้าแต่อย่างใดแล้วทุกเช้าก่อนไปทำงาน น้าครามจะขยันหยอกเอินบอยบ่อยขึ้น พอเลิกงานแล้วบอยยังไม่ตื่นน้าดาวก็วางใจให้หลานาชยอยู่กับสามีโดยที่ตัวเองมีเวลาลงไปแปลงผักโดยไม่ต้องคอยกังวลว่าเด็กชายจะร้องไห้หาในความคิดของบอยเวลานั้น น้าครามคือผู้ใหญ่ใจดี มักมีขนมมาฝากทุกวันทุกเช้าบอยจะเพลิดเพลินกับการดูน้าครามแต่งตัวโดยไม่ต้องคอยแอบดูอีกต่อไป บางทีน้าครามก็อุ้มเด็กชายในขณะแต่งตัวตอนเช้าไปด้วยบอยชอบสบู่หลังอาบน้ำใหม่ๆของน้าคราม ที่สุดคือวงแขนอันแข็งแกร่งที่คอยโอบอุ้มบอยขณะแต่งตัววันไหนน้าครามไม่อุ้ม เด็กชายก็คอยเกาะแข้งเกาะขาร้องไห้จ้าก็มีจนในที่สุดน้าครามก็ใจอ่อน ยอมอุ้มบอยพร้อมกับทำธุระหน้ากระจกไปด้วยแม้จะทุลักทุเลและมีบ่อยครั้งที่บอยวิ่งร้องไห้ตามรถจักรยานยนต์ของน้าครามในขณะที่น้าครามจะเดินทางไปทำงานตอนเช้า ในสายตาของน้าดาวและคนอื่นก็คือหลานชายตัวเล็กติดน้าเขยมากอาจจะเป็นเพราะว่าน้าเขยเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวในชีวิตที่ให้อารมณ์คล้ายพ่อแต่ในความคิดของเด็กบอย น้าเขยคือสิ่งพิเศษ เป็นความแตกต่างจากผู้คนที่แวดล้อมตนอยู่ เหตุที่เกิดขึ้นกับบอยในครั้งนั้นบอยจำไม่ค่อยได้ว่ามันเกิดขึ้นบ่อยขนาดไหน แต่ครั้งที่ฝังใจมีอยู่ 4-5ครั้งที่บอยยังจำได้และพอจะเรียบเรียงเป็นเหตุการณ์ให้ผู้เขียนได้ถ่ายทอดสู่กันฟัง เช่น หลายๆครั้งที่บอยยังคงหลับใหลในเวลาบ่ายแก่ๆแล้วรู้สึกว่าตัวเองโดนควักไปจากแปลที่นอน พอปรือตาดูก็จะเห็นว่าเป็นน้าครามที่กำลังอุ้มอยู่พอทำท่าว่าจะตื่น น้าครามก็จะตบก้นเด็กน้อยเบาๆพร้อมโยนตัวแล้วบอกให้เด็กชายหลับต่อก่อนจะถูกนำไปวางลงบนฟูกในห้องนอนแต่พอบอยหลับต่อกำลังเคลิ้มๆจะหลับ ก็จะรับรู้ถึงบางอย่างที่ใหญ่มนกลมมาพร้อมกับกลิ่นแปลกๆชวนคลื่นเหียนจุกอยู่ในปากเล็กของตนจนรู้สึกอึดอัดครั้นพอปรือตาขึ้นดูก็จะพบดวงหน้าของน้าครามที่ที่ก้มลงมายิ้มโชว์เขี้ยวขาวใจดี “ นมๆๆๆ เด็กดีดูดนมนอน”น้าครามบอกพร้อมลูบหัวเด็กชายไปพราง เด็กน้อยก็จะเผลอดูดเจ้าสิ่งที่อยู่ในปากนั้นจุ๊บๆโดยคิดว่าเป็นจุกนมดูดเพลินจนหลับ ก็จะรู้สึกว่ามีนิ้วใหญ่ๆมาเขี่ยที่แก้ม พอบอยสะดุ้งตื่นก็จะเผลอดูดเจ้าหัวกลมๆครึ่งหัวที่อยู่ในปากแบบไม่รู้ตัวอีกเป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางครั้งก็จะรู้สึกว่าโดนท่อนแข็งๆอุ่นๆถูไถไปตามหน้าและซอกคอ ขณะกึ่งหลับกึ่งตื่น และบางครั้งก็รู้สึกถึงน้ำบางอย่างเหนียวๆคาวๆราดรดลงที่ใบหน้าขณะสลึมสะลือ เหตุการแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนบอยก็จำไม่ได้แต่จำได้ลางๆว่าน่าจะเป็นแค่ช่วงหลังจากที่เขาได้รีดนมน้าครามครั้งแรกหลังจากนั้นเพียงไม่นาน ราวรุ่งขึ้นปีถัดไป เด็กชายบอยอายุได้ห้าขวบกว่า มีวันหนึ่งที่น้าครามได้หยุดอยู่กับบ้านไม่ได้ไปทำงานเพราะเหตุใดไม่ทราบได้ประจวบพอดีกับน้าดาวไปจะดูหนัง “วันวานยังหวานอยู่” ในตัวเมืองกับกลุ่มเพื่อนในหมู่บ้านครั้นจะพาเจ้าบอยไปด้วยก็กลัวจะงอแงจนดูหนังไม่จบเรื่อง ภาระในการดูแลหลานตัวน้อยจึงตกเป็นของน้าครามไปโดยปริยาย บอยจำได้ว่าทั้งร้องไห้ทั้งลงไปดิ้นอยู่กับพื้นเพื่ออ้อนวอนจะตามน้าดาวไปให้ได้แต่ก็เปล่าประโยชน์ แถมยังโดนเพื่อนน้าดาวดุเสียงเขียวอีก ที่สุดแล้วก็ถูกทิ้งให้นั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กลางลานบ้านนั่นเองน้าครามที่ปลอบแล้วปลอบอีกยังไงก็ไม่ฟังจนเกิดอ่อนใจ ในที่สุดก็งัดไม้เด็ดว่า “ถ้าเลิกร้องจะให้เล่นลิปสติกเอาบ่ๆ?” เด็กชายเพียงแต่สะดุดใจในข้อเสนอน้อยเดียว แต่เพราะความน้อยอกน้อยใจที่โดนน้าดาวทิ้งไปดูหนังมันมีมากกว่าแล้วจะให้ตัดอารมณ์ความเสียใจกระทันหันคงจะทำไม่ได้จึงไม่ได้ใส่ใจกับข้อเสนอของน้าครามในคราวแรกผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เด็กบอยก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิกสะอื้นไห้จนน้าครามเลิกสนใจจะปลอบเลยหันไปทำนั่นทำนี่แทนจนฝนลงเม็ดในตอนสายๆน้าครามก็มาเผลอนอนหลับที่ข้างๆตัวของเด็กบอยนั่นเอง เมื่อครั้นน้าครามไม่สนใจตัวเองแล้วเด็กชายกลับรู้สึกโดดเดี่ยวขึ้นมาอีกครั้งเหลียวซ้ายแลขวาก็ไม่มีใคร เสียงฝนที่กระหน่ำใส่สังกะสีหลังคาบ้านพร้อมเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่า ทำเอาเด็กชายอกสั่นขวัญแขวนไปเหมือนกันไม่เข้าใจว่าน้าครามหลับจนกรนเสียงดังแบบนี้ได้ยังไง เด็กชายหันไปมองน้าเขยที่กำลังนอนหลับไม่รู้ร้อนรู้หนาวก็พบว่าน้าเขยยังคงชอบอยู่ในชุดโปรด นั่นคือผ้าขาวม้าพันกาย ส่วนท่อนบนมีเพียงเสื้อยืดทหารสีเขียวขี้ม้าและทาแป้งเย็นจนขาววอกไปทั้งตัว ร้องไห้จนเหนื่อยก็รู้สึกเหงาขึ้นมา จึงเอื้อมมือน้อยๆไปเขย่าปลุกน้าคราม “น้าคราม ตื่น น้าครามตื่นๆ”ไม่มีทีท่าว่าคนร่างสูงโปร่งจะตื่นแต่อย่างใดและก็ไม่รู้ว่าอะไรที่ดลใจให้เด็กบอยคว้าหมับเข้าให้ที่กึ่งกลางลำตัวน้าครามแต่คนขี้เซาก็ไม่มีทีท่าว่าจะยอมตื่น – ถ้าเลิกร้องจะให้เล่นลิปสติก –ข้อเสนอแรกของน้าครามผุดขึ้นมาในสมองน้อยๆของเจ้าบอย เด็กชายเลยถือวิสาสะแหวกผ้าขาวม้าคนขี้เซาเสียเลยจำได้ว่าครั้งก่อนที่ได้เล่น มันซู่ซ่าในใจบอกไม่ถูกแถมยังเล่นไม่สะใจน้าครามก็ให้เลิกเสียก่อน พอผ้าขาวม้าผืนเก่งของน้าครามแหวกออกมาเด็กบอยก็พบว่ายังมีกางเกงชั้นในตัวจิ๋วปิดกั้นเจ้าลิปสติกอยู่เห็นเป็นเพียงห่อกระเปราะผ้าเหี่ยวๆ เด็กชายไม่รอช้ารั้งหัวกางเกงในลงจนเผยให้เห็นเจ้าแท่งลิปสติกเหี่ยวๆดำๆเอ...ทำไมมันไม่เป็นแท่งเหมือนวันนั้นหว่า หรือต้องเอาทาปากก่อน ไวเท่าความคิดเด็กน้อยโน้มหัวลงเอาริมฝีปากไปจรดใส่ปลายท่อนเนื้อแล้วถูไถไปมา ได้สักรอบนึงเจ้าท่อนเนื้อนั้นถึงค่อยๆท่วมขึ้นมาบ้าง พอทารอบสองคราวนี้มันใหญ่ขึ้นกว่าทารอบแรกแฮะ พอกำลังจะเอามาถูริมฝีปากรอบสามเท่านั้นเจ้าสิปสติกก็ดูเหมือนจะเป็นแท่งแข็งเต็มที่จนเด็กชายต้องใช้สองมือกำถึงจะงัดให้มันตั้งฉากกับลำตัวของน้าครามได้ ปลายแท่งลิปสติกของน้าครามตอนนี้มีน้ำนมใสปริ่มจนเอ่อปลอกหนังหุ้มแล้วเจ้าบอยจำได้ว่ามันคือน้ำนมใส จึงดูดกินจุ๊บๆไปเสียสองครั้งพอน้ำเหือดไปจากหัวเด็กชายก็ออกแรงถอกปลอกหนังลงจนสุดโคน เผยให้เห็นหัวลิปสติกบานแดงกล่ำกลิ่นคาวเค็มอ่อนๆโชยมาปะทะจมูกเด็กชายอีกคำรบนึงแล้วเด็กชายจ้องเจ้าลิปสติกแท่งบานนั้นแบบจนใจว่าไม่รู้จะทำอะไรกับมันดีท้ายที่สุดก็ลองเอามาทาวนรอบริมฝีปากอีกรอบคราวนี้เจ้าลิปสติกหนังกระดกใส่ปากหงึกหงักราวกับทักทายเจ้าหนูน้อย มันกระดกแรงจนสองมือน้อยๆของบอยแทบรั้งไม่อยู่ “อะแฮ่ม!” เสียงกระแอมดังเบาๆมาจากด้านบนของร่างที่นอนเหยียดยาวอยู่พอเด็กชายช้อนตาขึ้นมอง ก็เห็นน้าครามยิ้มเจ้าเล่ห์โชว์เขี้ยวขาวให้แล้ว “เฮ็ดหยังล่ะบักขี้ไห่ (ทำอะไรน่ะเจ้าขี้แย)ลักทาลิปสติกน้าติ? (แอบทาลิปสติกน้าเหรอ?)” น้าครามเปรยขึ้นขำๆ ทำเอาเจ้าบอยสะดุ้งโหยงปล่อยมือจากเจ้าแท่งเนื้อโดยพลันน้าครามหัวเราะชอบใจที่ทำให้หลานน้อยตกใจได้สำเร็จ “มักบ่? ลิปสติก?” น้าครามถามเด็กชายผงกหัวรับหงึกหงัก ยังไม่วางตาจากเจ้าท่อนเนื้อหัวบานน้าครามเหลียวซ้ายแลขวาก่อนจะลุกไปปิดประตูหน้าบ้าน แถมยังปิดหน้าต่างเสียทุกบานคงจะกันฝนสาด ก่อนจะอุ้มเจ้าบอยพาดใส่บ่า “ป่ะ! ไปเล่นต่อในห้อง”ว่าแล้วก็พาเด็กชายเดินเข้าห้องนอน แล้ววางเจ้าตัวน้อยลงบนฟูกที่นอนนิ่มๆเด็กชายนอนหงายเหยียดยาวไปกับฟูก โดยที่น้าครามคุกเข่าลงข้างๆหัวของมัน น้าครามรั้งกางเกงในตัวจิ๋วลงใต้พวงไข่อีกครั้งแล้วกดโคนเจ้าลิปสติกให้ปลายหัวมันโน้มลงจนไปจ่อปากของเด็กบอยอย่างค้นเคยเพียงแต่ครั้งนี้ เจ้าบอยรู้สึกตัวตื่นอยู่โดยไม่ได้สะลืมสะลือเหมือนทุกครั้ง “เด็กดีดูดนมเร็ว มาๆกินนมน้าคราม” . เดี๋ยวมาต่อ
|