แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kantanaty เมื่อ 2022-4-13 04:30
" c' l, E9 @7 `- d% N* \: j5 F8 a$ Z. N, B, ]' \
5 o4 H( _1 ?$ q7 E7 \0 ]5 q
โฬม โฬมขับรถเข้ามาที่บ้านฝูงหลังจากที่ถ่ายงานเสร็จ ปกติแล้วโฬมไม่ค่อยเข้ามาที่บ้านฝูงนักหรอกถ้าไม่จำเป็น เพราะต้องออกไปทำอะข้างนอกหลายอย่างทั้งถ่ายงาน เที่ยวกับเพื่อน คนที่มาบ่อยสุดคงจะเป็นราคาน รองลงมาคงจะเป็นเลิฟ โฬมขับเข้ามาก็ต้องประหลาดใจ มีรถหลายคันจอดอยู่หน้าบ้าน โฬมจอดรถแล้วเดินลงมา เป็นบริษัทก่อสร้างอะไรสักอย่างมั้งถ้าโฬมจำไม่ผิด โฬมเข้ามาในบ้าน มีคนเดินไปมาอยู่เต็มไปหมด ''มาทำอะไรกัน'' โฬมถามคนพวกนั้น ''มีการว่าจ้างจากคุณราคานให้มาปรับแต่งเก็บกวาดห้องชั้นบนน่ะครับ'' โฬมทำหน้างง ไม่เห็นราคานบอกอะไรเลย โฬมกดโทรออกปไหาราคาน สักพักราคานก็รับสาย ''ฮัลโหล มีอะไรมึง'' ''มึงให้คนเข้ามาเก็บห้องหรอ'' ''อ๋อ ใช่ โทษทีกูลืมบอก ห้องนอนสองห้องชั้นสองอะ กูให้เอาเปลี่ยนเตียงทำความสะอาดต่อเติม'' ''ทำไปทำไม มึงจะมาใช้หรอ'' ''เปล่า ห้องเลิฟกับพสุ'' ''จะให้ย้ายเข้ามาหรอ'' ''ใช่ อยู่ที่เดิมน่าจะไม่ปลอดภัย พวกเราดูแลไม่ได้'' ก็จริงอย่างที่ราคานว่า ถ้าพวกโอเมก้าที่ยังต่อสู้ไม่เก่งมาอยู่ที่นี่น่าจะปลอดภัยกว่า เลิฟจะเข้ามาอยู่ที่นี่งั้นหรอ โฬมคิด "แล้วจะมากันวันไหน'' ''มะรืนนี้กูจะพาคนไปขนของมา'' ''ให้กูไปก็ได้นี่ แรงกูคนเดียวแปปเดียวก็เสร็จ'' ''ไม่อยากรบกวนมึงว่ะ งานหัวหน้าก็เยอะแล้ว'' โฬมหงุดหงิดนิดหน่อย ''ช่วยคนในฝูงย้ายบ้านไม่ใช่หน้าที่ของหัวหน้าหรอวะ'' "มึงโมโหอะไรกูเนี่ย'' ''เปล่า'' โฬมสงบลง ''มึงว่างมาหรอ'' ''เออ ว่าง'' ''งั้นก็มาละกัน ประมาณ10โมงอะ'' ''เออ ได้'' โฬมวางสาย ทำไมราคานชอบกันตัวเองออกจากเลิฟ ออกจากคนในฝูงกันนะ คนในฝูงก็ดูจะสนิทกับราคานมากกว่าแล้วทำตัวห่างเหินกับโฬม พวกนั้นควรจะเข้าหาโฬมสิ ทำให้โฬมอดน้อยใจหน่อยๆไม่ได้ โฬมที่หงุดหงิดก็ครั่นเนื้อครั่นตัว เดินขึ้นข้างบน โอเมก้าตัวเล็กคนหนึ่งกำลังกวาดห้องอยู่ เมื่อได้กลิ่นของโฬมก็รีบหันมาทันที ''สวัสดีครับ'' โฬมพยักหน้า มองโอเมก้าตรงหน้าแล้วยิ้มมุมปาก ''อาร์! เสร็จแล้วลงมาช่วยเอาของขึ้นไปหน่อยนะ'' เสียงคนข้างล่างร้องเรียก ''ครับ!'' อาร์ตอบรับ ค่อยๆก้หัวเดินผ่านโฬมไป โฬมจับไว้ อาร์ตกใจ ''มีอะไรหรอครับ'' ''รับงานเสริมมั้ย เดี๋ยวให้ค่าแรงเพิ่ม'' ''เอ่อ ไม่เป็นไรครับ'' ''มีสิทธิ์ปฏิเสธด้วยหรอ'' โฬมดึงตัวอาร์เข้ามาในห้องน้ำ ดันเข้าไปติดกำแพง ‘’ผมยังอยู่ระหว่างทำงานนะครับ’’ ‘’แล้วยังไงล่ะ มันไม่ใช่ปัญหาของกูนี่’’ อาร์ขัดคำพูดของโฬมไม่ได้เพราะแรงกดดันของอัลฟ่า โฬมกดไหล่อาร์ให้นั่งลงไป จับหน้าซุกกับเป้าของตัวเอง สูดดมกลิ่นฟีโรโมนอัลฟ่าของโฬมที่ปลอยออกมาเข้าไปเต็มปอด ควยอาร์เริ่มแข็งขึ้นมาตามสัญชาตญาณ โฬมควักควยตัวเองออกมา ควยมหญ่ยาว14นิ้วที่หัวยังไม่เปิดดีโด่ชี้หน้าอาร์อยู่ กลิ่นของมันที่ปล่อยออกมทำให้อาร์เงี่ยนจนเป้าเริ่มแฉะ ‘’ทำมาเป็นพูดดี โอเมก้าอย่างพวกต่อต้านควยอัลฟ่าไมได้หรอ เอาสิ ทำสิ่งที่ต้องทำซะ’’ อาร์จับควยของโฬมชักขึ้นลง สมองเหมือนจะว่างเปล่าไปแล้ว เอาควยของโฬมเข้าปากแล้วดูดอย่างเมามันส์ ‘’อา ซี้ดดด’’ อาร์อมควยของโฬมอย่างหิวกระหาย สอดลิ้นเข้าไปใต้หนังหุ้มเลียกินน้ำหล่อลื่นที่ไหลเยิ้ม ถอกควยของโฬมลง หัวควยบานแดงโผล่ออกมา อาร์เลียไปตามแง่งควยขงอโฬม ตวัดลิ้นเลียรัวๆเน้นๆตรงหัวควย จับลำควยของโฬมตั้งตรง ลากลิ้นเลียลงไปตามลำควยยาว เลื่อนลงไปดูดเลียไข่ของโฬมจนแฉะชุ่ม โฬมจิกผมของอาร์ไว้ เอาควยยัดปากแล้วเด้งเอวเย็ดอย่างเมามันส์ ‘’อ๊อก ออก ออก อ๊อก’’ ควยโฬมใหฯคับปากอาร์ไปหมด โฬมกระแทกควยเข้ามาในปากอาร์ไม่ยั้ง กดหัวของอาร์ลงมาจนจมูกติดโคนหมอย อมควยเข้าไปสุดลำ ‘’อ๊อก ออก’’ ควยโฬมแทงเข้าไปลึกถึงคอหอยจนอาร์สำลักน้ำตาเล็ด โฬมถอนควยออก น้ำลายอาร์ไหลเยิ้มติดควยโฬมมา โฬมเอาควยแฉะๆตีหน้าของอาร์รัวๆแรงๆจนหน้าสั่น จับอาร์ยืนขึ้นมาเอามือยันผนัง ถอดกางเกงของอาร์ออก รูของอาร์เปียกไปหมด น้ำหล่อลื่นตรงหัวควยไหลออกมาจนเลอะกางเกงใน โฬมขำในลำคอ ‘’เงี่ยนมากแล้วสิมึงอะ’’ โฬมเอาควยถูตรงรูหีของอาร์ ดันควยเข้าไปจนสุดลำ “อึก อ๊ะ’’ ควยโฬมแน่นคับหีของอาร์ไปหมด แทงเข้ามาลึกจนทั้งจุกทั้งเสียว โฬมเด้งเอวเย็ดหีอาร์เป็นจังหวะ ''อะ อ๊ะ อาาา อืออ'' ''ซี้ดดด'' หีอาร์นั้นทั้งแน่นทั้งอุ่น ตอดขมิบควยของโฬมอย่างบ้าคลั่ง โฬมจับเอวของอาร์ไว้แล้วกระแทกควยเข้าไปไม่ยั้ง ''อึก อืออ อูยยย เสียว'' โฬมบีบคอของอาร์ไว้แล้วซอยหีของอาร์อย่างเมามันส์ สอดควยเข้าออกหีของอาร์อย่างเร็วและแรง อาร์เอามือขึ้นมาโอบคอของโฬมเอาไว้ โฬมซอยเร็วขึ้นเรื่อยๆ ควยโฬมกระแทกเข้ามาลึก กระแทกจุดเสียวของอาร์จนเสียวไปหมด ควยอาร์แข็งกระดกขึ้นลง โฬมกระแทกแรงขึ้นอีกจนอาร์หั่วสั่นไปมา ''งึก อ๊ะ อาา'' อาร์ควยกระตุกน้ำแตกออกมา โฬมซอยรัวๆ ''อ้าาาาา ซี้ดดด'' โฬมกระแทกควยเข้าไปสุดลำ ควยโฬมขยายใหญ่ขึ้นจนแน่น น้ำแตกเข้าไปในหีของอาร์มากมายจนอาร์อุ่นไปหมด น้ำควยเล็ดออกมาข้างควยของโฬม โฬมอุ้มอาร์ขึ้นเอาขาเกี่ยวเอวไว้ อาร์เอามือกอดคอของโฬม โฬมโก้งโค้งเด้งเอวเย็ดหีของอาร์อีกรอบทันที ''อะ อ๊ะ อาา แรงๆเลยครับ ซี้ดด'' ''โอยย เสียวชิบหาย'' โฬมกระแทกรัวๆ ตอกควยเข้ามาในหีของอาร์ย่างเร็วและแรง ''อะ อือออ'' อาร์คราง สั่นไปทั้งตัวเพราะแรงกระแทกของโฬม เสียงเนื้อกระแทกกันดังไปทั่วห้อง กลิ่นฟีโรโมนของทั้งคู่ที่ปล่อยออกมาตีกันอบอวล ควยโฬมแทงเข้ามาลึก กระทุ้งจุดเสียวของอาร์ย้ำๆจนเสียวแทบขาดใจ ควยอาร์แข็งขึ้นมาอีกครั้ง ''อะ อ๊ะ!'' อาร์น้ำแตกออกมาไม่หยุด โฬมเด้ารัวๆ ''โอยย อ้าาา!'' โฬมกระแทกควยเข้ามาเต็มแรง หีของอาร์ล็อคควยของโฬมเอาไว้ ควยโฬมขยายใหญ่ ปล่อยน้ำควยกระฉูดเข้าไปในรูของอาร์''อาาา'' น้ำควยขาวขุ่นเล็ดออกมา โฬมรอสักพักจนควยเริ่มลดขนาดลงแล้วถอนควยออก น้ำควยมากมายทะลักออกมาเลอะพื้น รูหีอาร์บานโบ๋เป็นรูร่องควยของโฬม โฬมใส่กางเกงเดินออกมาจากห้องน้ำ ผล่อยอาร์นอนกองอยู่ที่พื้นอย่างนั้น ; z2 P( N: i& m7 B4 u& l& C
เลิฟ ช่วงเวลาประมาณตี5เกือบ6โมงเช้า เลิฟกำลังนั่งเคลียร์สต๊อคอยู่หลังร้านสะดวกซื้อ24ชั่วโมง เลิฟดึงกล่องใส่ขนมออกมา วางขนมใส่ชั้นไปจดบันทึกจำนวนไป เลิฟมองออกไปข้างนอก ฟ้าเริ่มสว่างขึ้นแล้ว แต่ยังเป็นสีน้ำเงินเข้มอยู่ เลิฟมองนาฬิกาตรงเค้าเตอร์ก็เห็นว่าได้เวลาออกกะของเลิฟแล้ว เลิฟรีบเติมสต๊อคให้เสร็จ ไปเอาของที่หลังร้าน เพลน พี่ที่ทำงานที่เลิฟสนิทเพิ่งกลับมาจากส่งของพอดี ''จะกลับแล้วหรอ'' ''ครับ เพิ่งเติมสต๊อคเสร็จ พี่เพลนล่ะ จะกลับเลยมั้ยครับ'' ''อืม พี่ก็ว่าจะกลับเลยนั่นแหละ ให้พี่ไปส่งมั้ย'' ''ไม่เป็นไรหรอกครับ วันนี้ผมอยากเดิม'' เพลนทำหน้างง ย่านที่เลิฟอาศัยอยู่มันเหมาะสำหรับให้โอเมก้าไปเดินเล่นที่ไหนกัน ''วันนี้มาแปลกนะ'' เลิฟยิ้ม เดินไปหยิบข้าวกล่องแช่แข็งในตู้มาเวฟ หยิบน้ำมาด้วยอีกสองขวด สวัสดิการของพนักงานร้านนี้คือสามารถกินของในร้านได้ตามใจชอบ ซึ่งเลิฟก็กินไม่เยอะหรอก เอาไปแค่พอดีมื้อเช้าเพราะเกรงใจ หลังจากข้าวได้แล้วเลิฟก็บอกลาเพลนแล้วเดินออกมาจากร้าน เสียงนกดังมาแว่วๆ เลิฟเดินไปตามทางเดินลาดยาว เลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กด้านข้างซึ่งเป็นทางลัดที่เลิฟใช้กลับอพาร์ทเม้นท์เป็นประจำ เลิฟเดินลัดเลาะมาเรื่อยจนเข้ามาสู่ย่านชุมชนแออัดและตลาด วุ่นวายทั้งคนและรถเหมือนอย่างเคย เลิฟเดินออกมาจากตรอกเล็กๆข้างอพาร์ทเม้นท์เก่าซอมซ่อ เดินขึ้นไปห้องของเลิฟที่อยู่ชั้นบนสุด ไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป วางถุงข้าวไว้บนโต๊ะญี่ปุ่นตัวเล็ก ตอนนี้ห้องเลิฟนั้นโล่งจนผิดหูผิดตา สิ่งของเครื่องใช้และเสื้อผ้้าถูกเก็บใส่กล่องวางซ้อนกันไว้ใกล้ประตู พรุ่งนี้บริการขนย้ายจะเข้ามาเอาของเลิฟไปที่บ้านฝูงแล้ว เลิฟจะต้องย้ายไปอยู่บ้านฝูงตามคำสั่งของราคานเพราะมีความปลอดภัยมากกว่า และใกล้โรงเรียนที่เลิฟจะไปอีกด้วย เลิฟแอบใจหายเหมือนกันที่จะต้องไปจากที่นี่ เลิฟอยู่ที่นี่ผ่านอะไรต่างๆด้วยตัวคนเดียวมานาน เลยมีความผูกพันธ์อยู่หน่อยๆ แต่เลิฟรู้ดีว่าการอยู่ที่นี่ต่อไปไม่ใช่ความคิดที่ดี เลิฟชวนพสุตามที่ราคานบอกแต่พสุบอกว่าเดี๋ยวจะย้ายตามไปทีหลัง ตอนนี้ยังไม่พร้อมย้ายไป ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เลิฟถอดชุดทำงานออก ผึ่งแดดไว้ที่หน้าต่าง เปลี่ยนเป็นใส่ชุดอยู่ห้อง นั่งลงที่พื้นแกะกล่องข้าวมากิน ดื่มน้ำตาม หลังจากกินมื้อเช้าเอาขยะไปทิ้งเสร็จ เลิฟทิ้งตัวลงบนเตียง ก่อนจะนอนหลับไป เลิฟตื่นขึ้นมาอีกทีเพราะเสียงโทรศัพท์ข้างหัวที่ดังและสั่น เลิฟควานมือหาจนเจอ หยีตามองจอก่อนจะกดรับ ''ฮัลโหลครับ'' เลิฟพูดเสียงงัวเงีย ''นอนอยู่หรอเราน่ะ'' ราคานพูดขำๆ ''ครับ ผมเพิ่งตื่น'' ''เตรียมตัวก่อนก็ได้ พี่รออยู่ข้างล่างนะ'' ''ข้างล่าง...'' แล้วเลิฟก็ต้องตาเบิกโพลงเมื่อจำได้ว่าวันนี้ราคานนัดไปตัดชุดนักเรียน เลิฟดูนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้บ่ายโมงจะครึ่งแล้ว ราคานนัดเอาไว้ตอนบ่ายโมง เลิฟสะบัดผ้าห่มเด้งตัวออกจากเตียง เข้าห้องน้ำไปอาบน้ำล้างหน้าอย่างรวดเร็ว เดินออกมาเปิดกล่องหยิบเสื้อยืดตัวที่คิดว่าใหม่ที่สุดใส่แล้วรีบหยิบกระเป๋าลงไปข้างล่าง ราคานยืนรออยู่ข้างรถสปอร์ตสีขาว วันนี้ราคานแต่งตัวสบายๆแต่ก็ยังดูดีอยู่ เลิฟรีบจ้ำอ้าวเข้าไปหา ''ขอโทษนะครับที่สาย'' เลิฟรีบขอโทษ ราคานมองเลิฟที่ใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกางเกงผ้าเหมือนกางเกงนอน ผมยุ่งดูรู้ว่ารีบ ราคานขำ เอามือลูบจัดผมของเลิฟ เลิฟชะงักไปนิดหน่อยเพราะไม่ทันตั้งตัว ''ไม่เป็นไร ทำงานมานี่นา พี่ก็เพิ่งมาถึงไม่นานด้วย แต่รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวจะเกินเวลาที่นัดร้านไว้'' ''ครับ'' ราคานเปิดประตูรถให้เลิฟ เลิฟขึ้นไปนั่ง ราคานปิดประตูแล้วกลับขึ้นไปบนรถ ขับออกมาจากย่านชุมชนแออัด ; s) S" l2 `/ Q) m8 V
ราคาน ราคานขับเข้ามาในย้านตัวเมืองซึ่งมีห้างและร้านต่างๆมากมาย เลิฟมองอย่างตื่นตาตื่นใจเพราะไม่เคยมาที่ย่านนี้มาก่อน ถ้าไม่มีเงินก็ซื้อหรือทำอะไรในย่านนี้ไม่ได้หรอก ราคานจอดรถที่หน้าร้านร้านหนึ่ง ด้านนอกเป็นสีดำ มีป้ายสีทองอยู่ด้านบนเป็นภาษาอะไรสักอย่างที่เลิฟอ่านไม่ออก มีสัญลักษณ์ผู้ชายใส่สูทอยู่ตรงกลาง ราคานเปิดประตูร้านพาเลิฟเข้ามา ภายในร้านถูกตกแต่งอย่างหรูหรา โคมไฟระย้าส่องแสงสีส้มเหมือนอยู่ในหนังสมัยก่อนอย่างไงอย่างงั้น ''คุณอาร์เธอ สวัสดีครับ'' เลิฟหันไปมอง ผู้ชายมีอายุแต่ดูดีคนหนึ่งใส่สูทตัวยาวสีดำ แว่นตาสีทองเดินออกมาจากประตูด้านในร้าน ท่าทางดูสง่าและงดงาม เลิฟดมกลิ่นเพื่อตรวจสอบ ไม่ใช่อัลฟ่า การแยกระหว่างกลิ่นของอัลฟ่าและโอเมก้ามีหลักการง่ายๆคือ โอเมก้าจะกลิ่นแรงกว่าอัลฟ่ามาก ส่วนอัลฟ่าต้องเข้าใกล้มากๆถึงจะได้กลิ่น หรือดูอีกอย่างคือดูที่รังสีที่แผ่ออกมา คนคนนี้น่าจะเป็นเบต้า ''สวัสดีครับคุณราคาน เพิ่งเจอกันไปไม่นานเอง มางานเข้ามาอีกแล้วหรอครับ'' คุณอาเธอร์พูดจาดูเป็นกันเอง ดูท่าน่าจะรู้จักกับราคาน ''เปล่าหรอกครับ วันนี้พาน้องมาตัดชุดนักเรียนน่ะครับ'' ราคานผายมือมาทางเลิฟ คุณอาเธอร์หันมามอง สายตาดูสงสัย เลิฟรู้สึกงงที่โดนจ้องแบบนั้น คุรอาเธอร์ทำสีหน้าปกติ ''โรงเรียนเซ้นต์รอยัลสินะครับ'' ''ใช่ครับ'' โรงเรียนที่ราคานส่งเลฟไปคือโรงเรียนเอกชนชื่อดังอันดับหนึ่งซึ่งผลิตอัลฟ่าที่แข็งแกร่งมาหลายคน รวมไปถึงเบต้าและโอเมก้าชั้นสูงด้วย ขึ้นชื่อเรื่องหลักสูตรที่ยอดเยี่ยมและค่าเทอมที่แพง คนที่เรียนที่โรงเรียนต่างมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยกันทั้งนั้น เลิฟเองก็แอบหวั่นๆว่าจะเข้ากับสังคมลูกคุณหนูได้มั้ย แต่เลิฟไม่ได้สนใจเรื่องนั้นมากนัก เลิฟไปโรงเรียนก็เพื่อไปเรียนฝึกฝนให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น "เชิญคุณราคานนั่งรอครับ'' ราคานเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้นวม มองดูเลิฟวัดตัว ''ช้วยมายืนตรงนี้หน่อยครับ'' คุณอาเธอร์ให้เลิฟขึ้นไปยืนบนแท่นหน้ากระจกเต็ฒตัว ดวงตาของคุณอาเธอร์เปลี่ยนเป็นสีทอง สายวัดตัวขยับของมันเอง วัดรอบอก ไหล่ เอวเลิฟอย่างรวดเร็ว สมุดโน๊ตและปากกาที่ลอยอยู่ข้างๆจดรายละเอียดอย่างรวดเร็ว ผ้าผืนใหญ่ลอยไปที่จักรเย็บผ้าสีทอง กรรไกรเริ่มตัด เครื่องตัดผ้าเริ่มเย็บ เลิฟมองอย่างตะลึงงันเหมือนได้ดูมายากล ราคานเห็นหน้าเหวอของเลิฟแล้วก็อดอมยิ้มไม่ได้ เสื้อนักเรียนตัวหนึ่งลอยมา ''กางแขนออกครับ'' เลิฟทำตาม เสื้อนักเรียนสวมเข้าที่ตัวเลิฟ กระดุมติดเองโดยอัตโนมัติ คุณอาเธอร์ยืนเพ่งดูแล้วพยักหน้า ''สมบูรณ์แบบครับ'' เลิฟหันไปมองราคาน ราคานยิ้มให้ ''แปลก'' คุณอาเธอร์พูดขึ้นมาลอยๆ เลิฟหันไปมอง ''มันวนมาอีกรอบแล้วหรอนี่ แต่รอบนี้จุติมาอ่อนแอจัง'' เลิฟงงกับคำพูดนั้นแต่ก็ไมไ่ด้ถามอะไร ''เคยใส่สูทมั้ย'' ราคานถาม เลิฟส่ายหน้า ''ไม่เคยครับ'' ''ที่โรงเรียนจะมีวันที่ต้องใสสูทเครื่องแบบโรงเรียนอยู่ คุณอาเธอร์น่าจะทำเสร็จแล้วแหละ'' พูดไม่ทันขาดคำ เสื้อสูทตัวนอกก็ลอยมา เลิฟกางแขนออกอย่างรู้งาน ราคานจับสูทตัวนั้นใส่ให้เลิฟ จัดคอปกให้ ''ดูดีมาก'' ราคานชม เลิฟเขินนิดหน่อย ทั้งคู่ออกมาจากร้าน ''ขอบคุณมากนะครับ'' ''ไม่เป็นไร ของเราต้องใช้นี่'' ราคานมองเสื้อผ้าที่เลิฟใส่อยู่ ''เดี๋ยวไปอีกที่นึงก่อนนะ'' ''ได้ครับ'' เลิฟรับคำอย่างว่าง่าย ทั้งคู่กลับขึ้นมาบนรถ ราคานขับมาที่ห้างชื่อดัง เลิฟรู้สึกแปลกแยกจากคนที่นี่มาก แต่ละคนแต่งตัวดูดีกันทั้งนั้น เลิฟเหมือนเด็กกะโปโลที่หลงกับแม่ยังไงยั้งงั้นเลย กลิ่นของอัลฟ่าและเบต้าลอยอยู่เต็มไปหมด ราคานเห็นว่าเลิฟรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยจับมือของเลิฟดึงเข้ามาชิดตัวแล้วเดินไปโดยไม่ถามเลิฟ เลิฟที่โดนจูงมือก็ไม่ว่าอะไรเพราะรู้สึกปลอดภัย ราคานพาเลิฟเดินเข้ามาในเสื้อผ้าร้านหนึ่ง ราคานเรียกพนักงานมา ''เอาเสื้อยืดแขนสั้น แขนยาว เสื้อกันหนาว กางเกงขาสั้นขายาวอย่างละ10ตัวครับ'' ''ทำไมพี่ราคานซื้อเยอะจังล่ะครับ'' เลิฟทำหน้างง "คุณลูกค้าใส่ไซส์อะไรครับ'' ''Sครับ'' ราคานตอบ พอเห็นพนักงานทำหน้าไม่เข้าใจเลยพูดต่อ ''ของน้องตัวเล็กนี่น่ะครับ ไม่ใช่ของผม'' ''อ๋อ ขอโทษด้วยครับ จะรีบไปเตรียมให้ครับ'' พนักงานรีบเดินไป ''พี่ซื้อให้ผมทำไมอะครับ'' ''จะได้มีใส่ไง เวลาไปเที่ยวกับเพื่อนหรือไปข้างนอก'' ''ผมเกรงใจครับ'' เลิฟเกรงใจมากจริงๆ ราคานทำให้เลิฟมากเกินไปแล้ว ''ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า แค่นี้เอง'' ราคานยิ้ม ''อ้อ พี่ขออะไรเราหน่อยได้มั้ย'' "อะไรหรอครับ'' ''ลาออกจากงานได้มั้ย'' ''ทำไมล่ะครับ'' ''มันอันตราย อีกอย่างเราก็จะไปโรงเรียนแล้วด้วย จะเหนื่อยเอานะ'' ''แต่ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินสิครับ'' ราคานล้วงกระเป๋าหยิบบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินออกมายื่นให้เลิฟ ''ใช้นี่เอาก็ได้'' เลิฟดันกลับ ''ไม่เอาครับ'' "ทำไมล่ะ'' ''ผมอยากดูแลตัวเองได้ ถ้าพี่ราคานช่วยผมไปหมดทุกอย่างผมจะดูแลตัวเองได้ยังไงล่ะครับ'' คำพูดของเลิฟทำให้ราคาคิดได้ ''จริงด้วย'' ราคานเอามือจับไหล่ของเลิฟ ''พี่แค่เป็นห่วงเราน่ะ ทำงานกะดึกอีก'' ''ผมชินแล้ว ไม่เป็นไรหรอกครับ'' ''ไม่ใช่พี่ไม่ไว้ใจเรา แต่ไม่ไว้ใจพวกอัลฟ่าตามถนนต่างหาก'' เลิฟเองก็เข้าใจราคาน แต่ไม่อยากพึ่งราคานไปมากกว่านี้แล้ว แค่นี้เลิฟก็เกรงใจจะแย่ พนักงานเดินกลับมาพร้อมกับถุงเป็นสิบใบ เลิฟจะเดินเข้าไปถือแต่ราคานเอามือยั้งไว้ ''เดี๋ยวผมจะให้คนมารับของนะครับ เดี๋ยวจะทิ้งเบอร์ติดต่อไว้ให้'' ''ได้ครับ'' ราคานให้นามบัตรไป ราคานเปิดถุงดู ''ช่วยเปลี่ยนพวกเสื้อผ้าสีดำเป็นสีที่ดูสดใสกว่านี้ให้ด้วยนะครับ เอาที่คิดว่าน้องเค้าใส่แล้วจะน่ารัก'' ราคานบอกพนักงาน ชี้ไปที่เลิฟที่ยืนรออยู่ ''ได้ครับ เดี๋ยวผมจัดการให้'' ราคานเดินกลับมาหาเลิฟ ''ทำไมไม่ให้ผมช่วยถือล่ะครับ'' เลิฟถามทันที ''ถือไม่ไหวหรอกเราน่ะ ถุงใหญ่กว่าตัวอีก'' ราคานแซว เลิฟทำหน้ายู่ใส่ ราคานยีหัวเลิฟ ''ปะ กลับกันเถอะ เดี๋ยวพี่ต้องไปทำธุระต่อ'' "ครับ'' ราคานขับรถกลับมาส่งเลิฟที่อพาร์ทเม้นท์ ระหว่างทางมีพวกอัลฟ่าขี้ยาและพวกวัยรุ่นคึกคะนองจับกลุ่มกันอยู่ประปราย ดูยังไงที่นี่ก็ไม่ปลอดภัยเลยสักนิด ''เตรียมตัวไว้ด้วยนะ พรุ่งนี้จะมีคนเข้ามาขนของ'' ''ได้ครับ'' ''ยังไงเดี๋ยวพี่โทรหาอีกที'' ''ได้ครับ ขอบคุณมากนะครับ'' เลิฟก้มหัวให้ เปิดกระตูลงไปจากรถ หันมายิ้มโบกมือให้ก่อนจะเข้าอพาร์ทเม้ท์ไป ราคานยิ้ม มองจนแน่ใจว่าเลิฟเข้าไปแล้วจึงขับรถออกมา ราคานกลับมาถึงบ้าน พ่อของราคานนั่งรออยู่ที่โซฟา ''ไปไหนมา'' ''ทำธุระนิดหน่อยน่ะครับ พ่อมีอะไรหรอ'' ''จะพาเลขาคนใหม่ของแกมาให้รู้จักไง'' ''ได้แล้วหรอครับ'' ''ใช่ เข้ามาได้'' ประตูห้องเปิดออก เมื่อราคานได้เห็นคนที่เดินเข้ามาก็ตกใจ รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างมาก โอเมก้าหน้าสวยตาคมเฉี่ยว ใส่สูทสีพาสเทลเดินเข้ามา กลิ่นและรังสีที่แผ่ออกมาบ่งบอกว่าเป็นโอเมก้าชั้นสูงที่ทรงพลัง ''สวัสดีครับคุณราคาน'' เลขาคนใหม่ส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร
9 t% Q5 t# S9 [: k7 e3 B
รัม รัมนั่งจิบไวน์ดูความเรียบร้อยอยู่ที่ The Serpent วันนี้แขกก็ยังเยอะเหมือนเดิม รัมนั้นมาที่บาร์บ่อยมากและประกาศตัวว่าเป็นเจ้าของบาร์อยู่บ่อย แต่ดูเหมือนไม่นานพวกผู้คนก็จะลืมไปหมดเพราะจำกลิ่นรัมไม่ได้ รัมเปิดแชทไลน์ฝูงขึ้นมา โฬมเรียกให้ไปรวมฝูงพรุ่งนี้ รัมนั้นมีความสุขมากที่ได้อยู่ฝูงนี้ ยิ่งมีเพื่อนเยอะก็ยิ่งดี ยกเว้นไอเด็กพลังรักษานั่นไว้คนนึงละกัน แต่รัมเองก็แอบน้อยใจที่ไม่ว่าตัวเองทำอะไรก็โดนว่าทุกที รัมไม่ใช่เด็กดื้อสักน่อย เวลาที่ต้องสู้รัมก้ทำเต็มที่ตลอด แล้วทำไมต้องดุรัมกันด้วย โอเค รัมยอมรับว่ามีบางทีที่รัมทำเกินไปบ้างนิดๆหน่อยๆ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาก็ดีไม่ใช่หรอ เหตุการณ์วันนั้นที่ไปถล่มฝูงหงษ์ผงาดรัมก็ทำได้ดี จัดการศัตรูพลังลมนั่นได้อย่างอยู่หมัดในการกัดเพียงครั้งเดียว แต่เลิฟดันเข้ามารักษามันให้ฟื้นขึ้นมาอีก เหมือนเข้ามาหักหน้าแย่งผลงานของรัมไป กลิ่นที่คุ้นเคยเหมือนได้กลิ่นมาก่อนลอยมาเตะจมูก เป็นกลิ่นที่รัมไม่คิดเลยว่าจะได้กลิ่นอีก รัมใช้สายตามองผ่านความมืดหาต้นตอของกลิ่นนั้นจนเจอ รัมยิ้ม ลุกขึ้นเดินตามคนคนนั้นออกไป รัมเดินตามหลังของคนคนนั้นมาจนทัน รอจนเดินไปตรงที่ที่ลับตาคน ดวงตาของรัมกลายเป็นสีเหลืองอำพันเหมือนงูที่กำลังเฝ้ามองเหยื่อของมันจากที่มืด เหมือนผู้ชายคนนั้นจะรู้ตัวว่าถูกมอง หันหลังกลับมา แต่ก็ไม่เห็นใคร หันหลังกลับไปเดินต่อ รัมพุ่งด้วยความเร็วสูง ในมือกำมีดเตรียมที่จะแทงให้ทะลุหัว ผู้ชายคนนั้นหันกลับมา กระแสลมขนาดใหญ่พุ่งใส่หน้ารัมจนกระเด็นออกมา รัมตีลังกาลงมาตั้งท่าบนพื้นได้อย่างสวยงาม เงยหน้าขึ้นจ้องมองผู้ชายคนนั้น ''ทำไมรอบนี้ไหวตัวทันล่ะ พัฒนาขึ้นเหมือนกันนี่นา'' รัมพูดยิ้มๆ ผู้ชายคนนั้นหันมา
% Z3 D. D8 t, V" K4 P9 R
วาโย วาโยเอามือปัดเศษฝุ่นที่เปื้อนสูทของตัวเอง ''ใช้มุขลอบกัดเหมือนคราวที่แล้วหรอครับ จำเจจังนะ'' ''แต่ครั้งที่แล้วก็เกือบตายนี่นา ไอเด็กนั่นยุ่งไม่เข้าเรื่องช่วยนายไว้ต่างหาก'' รัมนึกถึงเลิฟก็หงุดหงิด ไม่รู้จะรักษาให้ศัตรูทำไม ''เรียกคนในฝูงแบบนั้นมันไม่ดีเลยนะ'' ''เสียใจด้วยนะที่คนในฝูงนายไม่เหลือให้นายเรียกแล้ว'' รัมแสยะยิ้ม ''เรื่องของเรามันจบไปแล้วไม่ใช่หรอ'' ''กฏของมือสังหารข้อที่293 ภารกิจยังไม่จบถ้าเป้าหมายยังไม่ตาย'' ''เป็นมือสังหารหรอ'' ''เปล่า เรื่องกฏน่ะมั่วขึ้นมา แต่ที่บอกว่าเป้าหมายจะต้องตายน่ะจริง'' ดวงตาของรัมสว่างวาบขึ้นมา พุ่งเข้ามาหาวาโยด้วยความเร็วแสง วาโยใช้ลมดันตัวเองขึ้นหลบรัม รัมพุ่งเลยตัววาโยไปแต่เลี้ยวกลับดีดตัวต่อยเข้าไปที่หน้าวาโยเต็มๆจนวาโยกระเด็น วาโยยันตั้งหลัก ลอยอยู่เหนือจากพื้น ''ผมขอโทษเรื่องวันนั้น ผมทำไปเพราะเหตุจำเป็น ตอนนี้เราไม่มีเรื่องบาดหมางกันแล้ว ผมไม่โกรธด้วยที่นายจะฆ่าผมตอนนั้น อย่าสู้กันเลย'' ''นายโกรธหรือไม่โกรธเราแคร์ที่ไหนล่ะ แล้วเรื่องเหตุผลบาดหมางคืออะไร ไม่เข้าใจเลยสักนิด'' รัมเอียงหัวทำท่างงน่ารักๆ ใช้มือยันพื้นพุ่งเข้ามาตะปปใส่วาโย วาโยหลบได้ทันอีกครั้ง ''ถ้าจะเอาอย่างนี้ ผมคงยอมให้คุณทำร้ายผมฝ่ายเดียวไม่ได้หรอกครับ'' จิตสังหารแรงกล้าที่อยู่ก็กระจายออกมาจากตัววาโยทำให้รัมชะงักไปนิดหนึ่ง เหมือนกลับคราวนั้นที่บ้านฝูงหงษ์ผงาดเลย ''รังสีเจ๋งดีนี่ แต่ฝีมือไม่เห็นมีอะไรเลย วันนี้จะได้ตายซ้ำอีกรอบแน่'' "คุณไม่คิดบ้างหรอว่าผมยอมให้คุณกัดเพื่อให้เรื่องมันจบ'' ''นายสู้เราไม่ได้ต่างหาก ไอลูกพระพาย'' ดวงตาของรัมตอนนี้ไม่ต่างไปจากงูเลย คิ้วขมวดจนเส้นเอ็นข้างหัวปูดขึ้นมา รังสีที่แผ่ออกมาจากตัวรัมนั้นดูน่ากลัวและอันตรายมาก ตั้งแต่วาโยสู้มาไม่เคยเจอใครที่จิตสังหารแรงกล้าขนาดนี้มาก่อนเลย แต่ถึงจะรังสีแรงขนาดนี้ก็ยังบอกชนชั้นของรัมไม่ได้อยู่ดี ไม่ใช่ของทั้งอัลฟ่า เบต้า หรือโอเมก้า มันคืออะไรกัน กลิ่นก็ไม่มี วาโยรีบตั้งการ์ดเมื่อเห็นว่ารัมตั้งท่าจะบุกเข้ามาอีกแล้ว แค่พริบตาเดียวรัมก็เข้ามาประชิดตัว สายตาจ้องหน้าวาโยเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ''อย่าประมาทสิ'' รัมอ้าปากจะกัด วาโยใช้ลมดันรัมออกไป รีบดันตัวเองให้ลอยสูงขึ้นไปอีก ''ว้าว บินได้ๆ เราก็อยากบินด้วย'' รัมใช้เท้าถีบตัวเองลอยสูงขึ้นมาจนถึงระดับของวาโยได้อย่างน่าตกใจ หมุนตัวใช้ขาเตะยันวาโยพุ่งลงมากระแทกพื้น วาโยรีบกลิ้งตัวหลบฝ่าเท้าของรัมที่พุ่งลงมาจะเหยียบหน้า ''เก่งแบบนี้อยากจะรู้จังว่าถ้าเอาเลือดไปทำไวน์จะรสชาติดีขนาดไหน'' ''ไอโรคจิต'' ''ขอชิมนิดเดียวเอง'' พูดจบรัมก็วิ่งเข้ามาทันที ท่วงท่าของรัมนั้นเหมือนสัตว์ป่าที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะต้องหลบยังไง ปากของรัมอ้ากว้างเหมือนไม่มีขากรรไกร เขี้ยวขนาดใหญ่งอกออกมาจะปักลงที่ไหล่ของวาโย กระแสลมจากพื้นพุ่งขึ้นมากระแทกตัวรัมลอยขึ้นไป ถ้าโดนกัดครั้งนี้วาโยได้ตายจริงๆแน่ๆ ''อยากมาทำงานที่บาร์มั้ย กำลังขาดพัดลมตัวใหญ่อยู่พอดีเลย'' ''ไปหาหมอเถอะครับ'' วาโยว่า รัมเบะปาก ''ไปหาทีไรก็ไม่เจอหมอทุกที เอ๊ะ ก็เรากินเข้าไปเองนี่นา'' รัมหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง จิตสังหารยิ่งแรงขึ้นอีก พวกนกแถวนั้นบินหนีหายกันไปหมด ''หยุดเถอะ ผมไม่อยากสู้กับนาย'' ''แต่เรายังสนุกไม่พอเลย เล่นกับเราอีกหน่อยสิ เดี๋ยวก็ได้พักแล้ว พักยาวเลยแหละ'' รัมหัวเราะ แลบลิ้นสองแฉกออกมาเลียปาก วาโยเห็นว่าคงจะเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ลมที่อยู่รอบๆเริ่มพัดแรงขึ้น ดวงตาของวาโยเปลี่ยนเป็นสีฟ้าสว่าง รังสีพลังของวาโยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนรัมยิ้มออกมาอย่างตื่นเต้น ก้อนลมมารวมกันที่มือของวาโย กลายเป็นดาบลมขนาดใหญ่ วาโยจับดาบยืนหลังตรงในท่าพร้อมสู้ ''มีใจจะสู้สักทีน้า นึกว่าหลบเป็นอย่างเดียว'' ความไวของวาโยเพิ่มขึ้นอย่างเหนือคาด วิ่งผ่านตัวของรัมไป เกิดรอยแผลเล็กบนแก้มของรัม เลือดที่ออกมาเป็นสีเขียวและสีม่วง รัมจับเลือดของตัวเอง แววตาที่ดูขี้เล่นเปลี่ยนไปกลายเป็นดวงตาที่เต็มไปด้วยความแค้น ''รู้มั้ยว่าหน้าเรามันล้ำค่าขนาดไหน'' รัมพุ่งใส่วาโย ต่อยเข้าที่ท้องของวาโยอย่างแรงจนจุก วาโยรีบตั้งท่าใช้ดาบลมแทงใส่รัมแต่รัมเอี้ยวตัวหลบทัน ''ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย! ตาย!'' รัมใช้มีดแทงใส่วาโยอย่างบ้าคลั่ง วาโยได้แต่ใช้ลมบังมีดพวกนั้นไว้ ใกล้จะเสียท่าเต็มที การจ้วงแทงของรัมมันเร็วมากทั้งๆที่ไม่ได้ใช้พลังอะไร วาโยใช้ขายันอกของรัม ลอยตัวออกห่างจากรัมไป รัมยืนหอบ หัวเราะคนเดียวเหมือนคนเสียสติ เงยหน้าขึ้นมามองวาโย ใบหน้าของรัมตอนนี้ทำเอาวาโยถึงกับคนลุก ฆาตกรโรคจิตที่เคยเห็นมายังไม่เคยเห็นใครน่ากลัวเท่ารัมตอนนี้เลย ใบหน้าที่ดูบ้าคลั่ง ความคิดและท่วงท่าที่เดาไม่ได้ รอยสักบนตัวของรัมเริ่มขยับไปมา รัมแสยะยิ้ม ในปากเต็มไปด้วยคมเขี้ยว ลิ้นยาวสองแฉกห้อยออกมาจากปาก น้ำลายไหลเยิ้มเหมือนสัตว์ที่กำลังหิวกระหาย ''จะกลืนเข้าไปทั้งตัวเลย'' รัมพูดด้วยน้ำเสียงที่น่ากลัว ปรบมือเสียงดังหนึ่งครั้ง รอยสักรูปงูบนตัวเลื้อยมารวมกันที่มือที่ประกบกันของรัม พุ่งออกมาเป็นงูสีดำขนาดใหญ่ อ้าปากจะเขมือบวาโย ดวงตาของวาโยสว่างขึ้น พายุหมุนขนาดใหญ่พุ่งเข้าไปในปากงู ฉีกร่างของมันออกเป็นเสี่ยงๆ ''อ๊าาาา ม่ายยย น้องงงง'' รัมโวยวายเสียงดัง เศษซากพวกนั้นเลื้อยขึ้นไปเป็นรอยสักบนตัวของรัมอีกครั้ง วาโยเริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าจากการใช้พลังที่เยอะเกินไป ส่วนรัมนั้นดูไม่มีทีท่าว่าแรงจะตกลงเลยทั้งที่ต่อสู้ขนาดนั้นแท้ๆ ถ้าสู้ต่อไปแบบนี้วาโยได้พลาดท่าแพ้แน่ๆ ''พี่ราคานจะต้องดีใจและชมผมว่าเป็นเด็กแน่ๆเลยถ้าเอาหัวของนายกลับไปได้ ลงอารมณ์กับศัตรู ลงอารมณ์กับศัตรู'' รัมทวนคำของราคานซ้ำไปมา ไม่รู้ว่าตอนนี้รัมสติหลุดไปแล้วหรือนี่คือสติจริงๆของรัม วาโยสร้างดาบขึ้นมาอีกครั้ง "สุดท้ายแล้ว เราจะไม่ได้เป็นศัตรูกันครับ'' ''ใช่ เพราะสุดท้ายแล้วนายจะตายแล้วเหลือเรายังไงล่ะ'' รัมยิ้ม พุ่งเข้ามาหาวาโย วาโยยกดาบ วิ่งเข้าปะทะกับรัม รัมกำลังจะหยิบมีดมาจ้วงแทงแต่วาโยที่กำลังพุ่งมากลับหักเกพุ่งไปด้านบนแทนซะงั้น รัมถึงกับล้มหัวทิ่ม วาโยลอยตัวสูงขึ้นไปบนฟ้า ''เจอกันครั้งหน้าหวังว่าเราจะไม่ต้องสู้กันแล้วนะครับ'' ''กลับ...ลง....มา!'' รัมคำราม ดาบในมือของวาโยสลายกลายเป็นลม ''ผมไม่อยากฆ่าคุณนะครับ'' วาโยบอก ก่อนจะลอยไปกับสายลม รัมพยายามวิ่งตามแต่ก็ไม่ทัน เอามือทึ้งผมของตัวเองดิ้นไปมาด้วยความโกรธที่ปล่อยให้เหยื่อหนีไปได้ ทิ้งตัวนั่งกองลงกับพื้น เอามือปิดหน้าหัวเราะชอบใจ เงยหน้าขึ้นมามองฟ้า ใบหน้ากลับมาเป็นปกติ ยิ้มออกมา ''สนุกจัง อยากเล่นด้วยกันอีก'' ผู้คนรอบๆที่แอบดูอยู่รีบพากันเดินออกจากตรงนั้นให้ห่างจากรัม รัมเข้ามาที่บ้านฝูงในเย็นวันนั้น เลิฟกำลังนั่งกินขนมอยู่กับราคาน เนื้อตัวของรัมเต็มไปด้วยบาดแผล ทำให้เลิฟและราคานตกใจ ''ไปทำอะไรมา'' ราคานถามทันที ไม่ได้กลัวว่ารัมถูกทำร้าย แต่กลัวว่ารัมไปทำร้ายใครมาหรือเปล่า รัมทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟา ''เจอศัตรูเก่าน่ะครับ'' ''แก๊ง Black Spider หรอ'' รัมพยักหน้า เลิฟได้ยินอย่างนั้นก็รีบถาม ''คนไหนหรอครับ'' รัมมองหน้าเลิฟแล้วยิ้มให้ ''ไม่บอกหรอก'' เลิฟถึงจะอยากรู้แต่ก็ไม่กล้าถามต่อ ยื่นมือไปหารัม รัมปัดมือเลิฟออกแล้วขู่ฟ่อใส่ ''รัม'' ราคานพูดเสียงเรียบทำให้รัมสงบลง ''ผมแค่จะรักษาให้น่ะครับ'' ''เดี๋ยวมันก็หายเอง ไม่ต้องลำบากหรอก'' ''รัม ให้เลิฟรักษาไป แผลแบบนั้นปล่อยไว้เดี๋ยวก็ติดเชื้อพอดี'' รัมจึ๊ปากอย่างรำคาญ ปล่อยให้เลิฟจับแขนของตัวเอง เลิฟหลับตาลงแล้วลืมตาขึ้น ดวงตาของเลิฟเปลี่ยนเป็นสีเขียว แผลตามตัวและรอยมีดบนใบหน้าของรัมสมานตัวได้อย่างรวดเร็ว ทิ้งรอยแผลเป็นจางๆเอาไว้ รัมเอาโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องดูหน้าตัวเอง ''เดี๋ยวมันจะจางหายไปในวันพรุ่งนี้ครับ'' เลิฟบอกยิ้ม ''ขอบใจ'' รัมยิ้มให้ จนถึงตอนนี้เลิฟก็ยังงอยู่ว่ารัมนั้นตกลงชอบเลิฟหรือไม่ชอบเลิฟกันแน่ ''รักษาเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยนี่'' ''ใช่ครับ ถึงจะยังรักษาแบบฉับพลันไม่ได้แต่ก็เร็วขึ้นมากแล้ว'' ราคานยิ้มเอามือลูบหัวของเลิฟอย่างเอ็นดู ''เก่งมาก'' รัมกอดอกมองตาขวาง ''ทำไมไม่เห็นชมผมบ้างเลยอะ'' ''ก็เลิกซนซะสิ'' ''ใครซน'' รัมทำเสียงฟึดฟัด ราคานขำ |