แต่แล้วโอกาสก็หมุนกลับมาหาบอยและน้าครามในวันหนึ่งซึ่งเป็นวันที่ครอบครัวของบอยยกครอบครัวไปทานข้าวเย็นบ้านน้าดาว โดยแม่พาบอยและพี่สาวอีกสองคนไปช่วยกันทำกับข้าวที่บ้านน้าดาวตั้งแต่ช่วงเย็นวันนั้นแล้วซึ่งเอาเข้าจริง การไปมาหาสู่ร่วมรับประทานข้าวเย็นกันระหว่างสองบ้านนี้เกิดขึ้นเป็นประจำเท่าที่บอยจำได้คืออย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งเป็นอย่างต่ำและทุกวันนี้ก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ บอยเห้อน้องน้อยลูกของน้าครามมากรีบกินข้าวก่อนเขาก่อนใคร และพออิ่มแล้วก็มานั่งเฝ้าน้องน้อยอยู่ขางเบาะ น้องน้อยอายุสามเดือนยังอ้อแอ้ๆน่ารักสำหรับบอยมาก บอยไม่เคยมีน้องมาก่อนเลยเห่อเป็นพิเศษในขณะที่น้าครามกลับจากที่ทำงานมาถึงบ้านพอดีทันเวลากินข้าวเย็นที่พวกแม่กับน้าดาวกำลังตระเตรียมกำลังจะเสร็จน้าครามเองก็กำลังผลัดผ้าเตรียมจะไปอาบน้ำให้ทันเวลากินข้าวไฟฟ้าเจ้ากรรมเกิดดับพรึ่บขึ้นมาดื้อๆ สาวๆก็ร้องกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ในขณะที่แม่กับน้าดาวและยายวุ่นวายคลำทาง หาเทียนกันทั้งบ้านมีแต่น้องน้อยคนเดียวเท่านั้นแหละที่ไม่เดือดร้อนอะไรกับเขาส่งเสียงอ้อแอ้ทักทายอยู่กับเจ้าบอยสองคนเอิ้กอ้าก ในความมืดนั้นจู่ๆบอยก็รู้สึกตัวว่ามีคนมาทรุดลงคุกเข่านั่งอยู่ข้างๆ ร่างดำทะมึนนั้นเบียดมาจนชิดสีข้างกลิ่นสาปกายหอมปนฉุนเหงื่อ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะตัวที่บอยรู้ได้ทันทีว่าเป็นน้าครามไม่ใช่ใครอื่น
“น้องน้อยกลัวไหมลูก?” เสียงทุ้มๆของน้าครามทักทายน้องน้อยที่นอนแบเบาะส่งเสียงอ้อแอ้ๆอยู่ครู่นึง บอยก็รู้สึกว่ามือใหญ่กร้านของน้าครามคลำสะเปะสะปะมาที่หัวไหล่ไล่มาจนข้อศอกแล้วมาจับที่ข้อมือของบอยแล้วนำทางมือน้อยๆของมันเข้าไปซุกไว้ในที่ซอกแห่งหนึ่งมีความนุ่มระคายของกลุ่มเส้นขน ท่อนเนื้ออุ่นๆแข็งๆ และเหนียวหนะเด็กชายใจเต้นตึกตัก หายใจติดขัดเกาะกำท่อนลำนั้นไว้ในมือแน่นอย่างคิดถึงมานานเด็กชายใช้มือบีบๆ คายๆเป็นจังหวะอยู่ครู่เดียวก่อนจะได้ยินเสียงกลุ่มผู้หญิงจุดไม้ขีดจังหวะนั้นเองที่น้าครามจับมือของเด็กน้อยให้หลุดพ้นออกจากการเกาะกุมลิปสติกเนื้อลำบานของน้าครามอย่างใจเย็น
เสียงเทียนสว่างนวลขึ้น หนึ่งดวง สองดวง สามดวง
“อ้าว พี่คราม แทนที่จะมาช่วยกันหาฟืนไฟกลับไปหยอกลูกอยู่โน้น”น้าดาวแหว๋ใส่น้าครามที่เอี้ยวตัวกลับหันไปยิ้มแฉ่งโชว์เขี้ยวขาวให้พอมีไฟว่อบแวมขึ้นมา บอยถึงได้เห็นว่าทั้งร่างของน้าคราม มีเพียงผ้าเช้ดตัวพันกายผืนเดียว
พอมีแสงสว่างจากเทียนแล้วสาวๆก็ขมีขมันหาสำหรับข้าวเย็นมาปลงต่อ น้าครามเลยลุกไปทิ้งให้เจ้าบอยนั่งเล่นกับน้องน้อยตามลำพัง
“อ้ายคราม ไม่กินข้าวเหรอ มากินข้าวก่อน”น้าดาวร้องเรียกผัว ทำให้คนอื่นๆก็สำทับเรียกตามด้วยเพราะดูเหมือนน้าครามจะเดินเลยไปทางอื่น
“บ่ล่ะนายอ้ายพาไปกินลาบเป็ดแต่บ่ายสามยังอิ่มอยู่เลย” น้าครามว่าแล้วเสเดินไปทางห้องน้ำ ครู่เดียวก็ตะโกนออกมาถาม
“ดาว น้ำในโอ่งไม่ได้สูบไว้เหรอ?”
“ เอ้อออ ดาวลืมไปเลย มัวแต่ยุ่งๆทำนั่นทำนี่ ไม่เหลือเลยเหรอพี่”น้าดาวตอบอ้อมแอ้มบ้านของน้าครามก็เหมือนกับบ้านหลังอื่นในละแวกนี้ สมัยก่อนยังไม่มีน้ำประปาใช้การแก้ปัญหาก็คือเจาะน้ำบาดาลไว้ใช้ เวลาจะใช้คือเสียบปั้มน้ำไฟฟ้าปั้มน้ำขึ้นมาเติมโอ่ง นี่น้าดาวคงลืมปั้มน้ำไว้ พักหลังน้าดาวมีภาระหลายอย่างตั้งแต่มีลูกน้อย
“เหลือสองขันได้ พอแปรงฟัน เฮ้ออแล้วไฟมันจะมาตอนไหนล่ะทีนี้ จะได้อาบชาติหน้าล่ะมั๊ง” แล้วก็บ่นอุบเป็นหมีกินผึ้งแม่ของเจ้าบอยเลยเสนอว่าที่บ้านปั้มน้ำไว้เต็มอ่าง ไปอาบที่บ้านก็ได้อีบอยมันกินข้าวอิ่มแล้ว พาน้าครามไปอาบน้ำหน่อยแน่ะ
เด็กบอยใจเต้นตึกๆนี่ก็นานเป็นปีแล้วตั้งแต่ไปเกี่ยวหญ้ากับน้าครามปีโน้นตั้งท่าว่าจะลุกอยู่แล้วเชียว แต่น้าครามกลับทำท่าอิดออดกึ่งปฏิเสธทำเป็นเล่นตัวเล็กๆ แต่แล้วก็
“ป่ะ บอย พาน้าไปที” บอยอยากจะอิดออดบ้างเพราะหมั่นไส้แต่พอมองไปเจอหน้ายิ้มๆ โชว์เขี้ยวขาว ตัวล่ำๆลีนๆในผ้าเช็ดตัวผืนเดียวและสัมผัสเหนียวแข็ง...เยิ้ม ตะกี้ ก็ลุกขึ้นแล้วเดินตามน้าครามไปอย่างว่าง่ายราวต้องมนต์สะกด
ทางเดินระหว่างบ้านบอยกับบ้านน้าครามไม่ไกลกันนักราว 300 เมตรได้ แต่ระหว่างทางไม่ค่อยมีบ้านคนนัก ประกอบกับไฟฟ้าดับทั้งหมู่บ้านเลยเห็นแค่แสงเทียนหลุบหลู่ริบหรี่เป็นระยะห่างๆกันน้าครามออกเดินฉายไฟฉายนำหน้าบอยไปก่อนราวหนึ่งช่วงตัวโดยที่เด็กบอยเดินสาวเท้าตามหลังกึ่งวิ่งมาติดๆ
“น้าครามม “น้ำเสียงเครือราวกับจะร้องไห้เด็กชายรีบคว้าแขนของน้าเขยอย่างร้อนรน เพราะกลัวความมืดตามประสาเด็ก
“อย่าเดินไวมากสิ บอยกลัว” น้าครามหัวเราะกรุป
“กลัวอะไร มากับน้าไม่ต้องกลัว” น้าครามบอกทั้งๆที่หมาเห่าหมาหอนตามทั้งสองคนมาเป็นระยะๆพอถึงหัวโค้งสุดท้ายก่อนจะถึงบ้านบอย สองข้างทางเป็นสวนกล้วยรกๆ หมาเลิกหอนไปแล้วแต่น้าครามกลับหยุดเดินเฉยๆ ทำเอาเจ้าบอยที่เดินเกาะแขนแจไม่ทันระวังตัวชนผ่นหลังเหนียวๆคราบไคล น้าครามเข้าอย่างจัง
“อุ๊ยๆ บอย ตัวไรไม่รู้มุดผ้าเช็ดตัวน้าเดี๋ยวๆ” น้าครามวุ่นวายคลำไปตามท่อนล่างของตัวเองใหญ่ เจ้าบอยมองตามอย่างอยากรู้ แล้วน้าครามก็เอาไฟฉายไปฉายใส่หน้าขาของตัวเองนิ่งครู่เดียวผ้าเช็ดตัวตรงส่วนหน้าขาของน้าครามก็โด่งงัดขึ้นมาเหมือนมีคนเอาไม้ไปค้ำไว้เด็กบอยมองตามตาลุกวาว น้าครามหันส่องไฟฉายใส่หน้าตัวเอง แล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ยักคิ้วใส่เจ้าบอยหงึกๆ
“หึ๋ยน้าครามมมม..” เด็กบอยครวญตัดพ้อแล้วใช้มือน้อยๆของมันตีเพี้ยะใส่ท่อนเนื้ออย่างหมั่นเขี้ยว น้าครามหัวเราะคิกคัก
จากนั้นทั้งสองคนก็เข้ามาถึงบ้านเจ้าบอยแล้วเด็กชายมะงุมมะงาหลาไขกุญแจบ้านอยู่ครู่ใหญ่เพราะความมืดทำให้ไม่ถนัดน้าครามฉายไฟไปทั่วบ้าน
“โอ้ว ไม่ได้มานาน ห้องน้ำทางไหนล่ะ”เด็กบอยกอดต้นขาน้าเขยแน่น พอบ้านมืดมิดแบบนี้ไม่คุ้นตา ความกลัวบวกจินตนาการของเด็กน้อยทำให้กลัวบ้านตัวเองเสียได้
“ทางโน้นไง” เด็กชายชี้โบ้ชี้เบ้น้าครามเลยให้นำทาง พอถึงห้องน้ำ ซึ่งกว้างพอสมควรก่อเป็นบล็อกใส่น้ำไว้อาบขนาดใหญ่ พร้อมกับบล็อกขนาดเล็กไว้ราดโถส้วม ส่วนโถส้วมยกชั้นขึ้นเป็นฐานสูงกว่าระดับพื้นห้องน้ำนิดหน่อย
น้าครามจับหัวไหล่ทั้งสองของเด็กชายไว้มั่นบ้านทั้งบ้านมืดและเงียบ ไม่มีสรรพเสียงใดๆ นอกจากเสียงหายใจกระชั้นแรงของน้าคราม น้าครามค่อยๆย่างเข้าไปประจันหน้าเด็กชายที่ก้มน้างุดหัวใจเต้นตึกตักแทบทะลุออกมานอกเสื้อแล้วตอนนี้ ปมผ้าเช็ดตัวอยู่ห่างจากคางของบอยไม่ถึงนิ้วดีใกล้จนได้กลิ่นอับของผ้าเช็ดตัวเก่า ปนกลิ่นสาปหนุ่มของน้าครามเด็กชายล้วงมือเข้าไปใต้ผ้าเช็ดตัวเบื้องหน้านั้นโดยไม่ต้องมีใครเชื้อเชิญมือน้อยทั้งสองมือล้วงเข้าขอบกางเกงในวุนวายก็พบว่ามันถูกร่นมาไว้ใต้พวงไข่ของน้าครามอยู่แล้วเด็กน้อยคว้าสะเปะสะปะก่อนจะใช้สองมือเกาะกำท่อนเนื้ออุ่นแข็งที่กระดกทักทายมือเล็กๆของมันอย่างคะนอง
“หิวนมไหมบอย ยังกินนมอยู่ไหมตอนนี้?”น้าครามถาม เด็กน้อยไม่ตอบอะไรแต่ดูเหมือนตอนนี้คนที่หายใจแรงฟืดฟาดจะเป็นบอยเสียเองแล้ว บอยหูอื้อตายกลืนน้ำลายดังเอื้อกไม่รู้ตัว น้าครามปลดผ้าเช็ดตัวไปพาดกับราวข้างฝาห้องน้ำ
ส่วนเด็กชายก็ก้มหัวลงหาแท่งลิปสติกหนังของน้าครามอย่างห้ามใจไม่อยู่ในความมืดนั้น จมูกน้อยๆของเด็กชายซุกซอกสูดดมแนบคอหยักไล้ไปมาตามกลิ่นฟีโรโมนของปลายมนกลิ่นหอมประหลาดเค็มคาวยั่วลิ้นเด็กชาย จนอดใจไม่ไหวต้องดูดเล็มหัวตูมๆภายใต้หนังหุ้มนั้นโดยยังไม่ถอกออกมาเด็กน้อยดูดไชฟนังหุ้มปลายยาวๆของน้าครามอย่างแรง จนน้าครามเผลอกระตุกเอวเองราวเป็นสัณนิบาต
"โอ้ยย เบา ไอ่หนู"
แต่เหมือนเด็กน้อยจะไม่ได้ยินเสียงอะไรนอกจากความกระสันอยากเสียจนน้ำลายสอผ่านมาเป็นปี บอยไม่เคยคิดว่าจะได้ดูดเล็มลิปสติกหนังของน้าครามอีกแล้ว ได้แต่เฝ้าถวิลหาในห้วงคำนึงน้อยๆของมันอยู่บ่อยครั้งบัดนี้ทั้งท่อนลำอยู่ในกำมือและเรียวปากของมันแล้วไม่ใช่ฝันไปดั่งวันวาน
น้าครามฉายไฟฉายใส่เด็กชายก็พบเพียงงหัวกลมๆผงกไปมาเป็นจังหวะบนปลายหัวมนของตัวเองเด็กน้อยดูดกินเหมือนคนตะกละตะกลาม แสดงถึงการไม่ได้บังคับใจเลยแม้แต่น้อยลดความรู้สึกผิดในใจให้น้าครามได้ส่วนหนึ่งพักนึงเด็กบอยก็พยายามร่นหนังหุ้มปลายลิปสติกลงมันติดขัดพอสมควรเพราะรูมันค่อนข้างเล็ก แต่เด็กน้อยรั้งมันอย่างแรงท่าเดียวเพื่อให้มันเผยหัวสีแดงกล่ำออกมาไวๆ เพราะเป็นส่วนที่มันชอบกินที่สุด
“โอ้ยยย เบา บอย นี่ก็จะดูดท่าเดียว”น้าครามบ่นอุบ แต่ดูเหมือนเด็กชายจะหูอื้อเสียแล้ว ยังคงร่นกระถอกอย่างแรงจนหัวลิปสติกเสือกปลายแดงออกมา บานทะร่าพ้นหนังหุ้มส่งกลิ่นฉุนเค็มจัดปะทะจมูกของเด็กชายอย่างแรงแต่ดูเหมือนเด็กบอยจะไม่รังเกียจแต่อย่างใด กลับกลายเป็นพึงพอใจกว่าเดิม(ซึ่งติดเป็นปมเด็กชายบอยจนถึงบัดนี้ เพราะกลายเป็นคนชอบกลิ่นจู๋ไม่ล้างและชอบให้มีขี้เปียก)
ปากเล็กๆซึ่งบัดนี้มันกว้างกว่าเดิมครอบลงบนหัวเปลือยๆทั้งหัวได้สบายพอรู้ว่าทัวบานทั้งหัวอยู่ในความครอบครองของโพลงปากตนเองแล้วเด็กน้อยก็ดูดมันอย่างแรง จนน้าครามเสียวจี๊ดราวไฟช๊อต ร้อนไปทั้งฝ่าเท้าทั้งคู่และตามเส้นประสาทในร่างกาย แหงนหน้าหงานตัวเกร็งกระตุกหงึกๆ ร้องเสียงหลง
“บอยอ๊อยยย มันเสียววว”น้าครามบอกพร้อมใช้สองมือประครองหัวเด็วชายไว้แน่นพยายามถึงให้ออกห่างจากปลายท่อนลำหัวที่ถูกรั้งไปข้างหลังนิดนึงทำให้เด็กชายดูดไม่ถนัดแต่ปลายลิ้นยังตวัดทำร้ายรูน้ำนมของน้าครามอยู่แปล๊บๆ
“ โอ้ยย ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ เบาๆบอย”น้าครามหัวเราะกลบเกลื่อนความเสียท่าของตนเอง ที่ตัวกระตุกจนเสียอาการให้เด็กชายเห็นลิ้นของเด็กชายยังทำงานของมัน ตวัดวาบๆ สร้างความเสียวเล็กๆให้น้าครามที่หายใจหายคอนแทบไม่ทัน พอตั้งตัวติดน้าครามก็ค่อยๆดันหัวทู่เข้าไปใหม่ เหมือนเดิมเป๊ะ เด็กน้อยดูดหัวเปลือยอย่างกระหายสร้างความประหลาดใจให้น้าครามเป็นอย่างมาก แรกเริ่มน้าครามไม่คิดว่าจะเจอเด็กกระหายกามขนาดนั้นกะคิดว่าจะได้หลอกล่อให้เด็กน้อยดูดเลียท่อนลำให้พอคลายกระสันต์จากความโหยหาปากของตัวเองไม่คิดว่าเด็กชายวัยหกขวบจะสะสมความอยากได้ขนาดนี้ความเสียวจี๊ดที่คาดเดาไม่ได้ว่าเด็กชายจะโจมตีเขาด้วยปากจากลักษณะไหนทำเอาน้าครามตัวงออีกรอบแล้ว ไม่ใช่เพราะเสียวซ่าน แต่เป็นเพราะหัวใจจะวายเอาง่ายๆที่สุดแล้ว น้าครามก็ต้องดันหัวเด็กชายให้พ้นจากทนลำตัวเองอีกคำรบหนึ่ง เสียงหัวบานหลุดจากการดูดดุนของปากดังโบ๊!! เด็กชายช้อนตาขึ้นมองน้าครามตาแป๋วปากน้อยๆยังดูดลมดูดแล้งอย่างลืมตัวอยู่เลย ตาซื่อๆแบบนั้นน้าครามไม่คิดว่าเจ้าบอยจะร่านดูดได้ขนาดนี้
“เบาๆบอย น้าหัวใจจะวายนี่ชอบขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย” น้าครามกระซิบบอกเสียงเบา เด็กชายก้มหน้านิ่งสองมือยังเกาะกำท่อนลิปสติกเนื้อไว้ไม่ยอมปล่อยน้าครามค่อยๆจ่อปลายหัวหยักใส่ปากเล็กๆของบอย ปากเล็กๆที่ไม่นึกว่าจะมีพิษสงแรงกล้าขนาดนี้หลังผ่านพ้นมาแค่ขวบปีเดียว
“ค่อยๆดูดนะ หัวใจจะวาย” น้าครามบอกเด็กบอยที่กำลังอ้าอมหัวหยักมนเข้าปากเด็กชายรู้สึกเขินเมื่อโดนต่อว่าราวกับเป็นเด็กร่านอยากกามควบคุมตัวเองไม่ได้อย่างนั้นครั้งนี้เลยออกแรงดูดแค่พอให้หายอยากซึ่งปรากฏว่าทำเอาน้าครามครางเสียงกระเซ่าเสียงเหมือนคนกำลังร้องไห้บวกเป็นไข้ร่างโปร่งๆเต็มไปด้วยมัดกล้ามของน้าครามอ่อนระทวยพิงหลังตะกายไปกับผนังห้องน้ำอย่างลืมตัว
เด็กชายบอยดูดดื่มด่ำละเลียดกินเหมือนกับกันของอร่อยที่ไม่อยากให้หมดเร็วปากน้อยๆห่ออมหัวเหงี่ยงบานทะโล่นั้นถึงคอหยักแล้วออกแรงดูดตวัดลิ้นวนปาดเป็นจังหวะ ดูดกลืนได้เนียนกริบจนไม่มีน้ำลายย้อยแทบซักหยดน้าครามร้อนท้องน้อยวูบๆไปจนถึงผ่าเท้าจนต้องแขย่งร่างไม่ติดพื้น แอ่นเสือกท่อนลำส่งเข้าปากเด็กชายแต่โดยดีด้วยความศิโรราบต่อริมฝีปากแผ่นหลังตะกายฝาฝนังห้องน้ำไปมาตามจังหวะดูดของเด็กชายใบหน้ายับย่นยู่ยี่แสดงอากาศเหมือนคนทรมานหนัก เสียงคราง อ่าเบาๆลอดไรฟันผสานเสียงหอบหายใจถี่
“ โอยยย บอยย ทำไมเก่งจัง” น้าครามแหงนหน้าเพ้อไม่ได้สนใจคำตอบแต่อย่างใดเป็นแต่เพียงการเพ้อเพื่อบรรเทาความเสียวที่ตนเองกำลังเผชิญอยู่ตรงหน้า
เด็กชายดูดบ้างพักบ้างอยู่ไม่นานมากแต่ด้วยความตื่นเต้นของน้าครามประจวบกับคงต้องทำเวลาเพราะคนที่บ้านรออยู่หลังจากพักครั้งสุดท้ายเมื่อเด็กชายดูดหัวบานต่อเนื่องไม่ถึงนาทีนาครามก็ดูเหมือนจะสิ้นท่าเสียแล้ว
“บอย หิวยัง” น้าครามบอกเสียงกระเส่าเด็กน้อยพยักหน้าหงึกโดยไม่ยอมคายท่อนลำออกจากปาก
“นมจะออกแล้วนะ นมจะมาแล้ว บอยรอกินนมนะ”น้าครามแอ่นก้นโด่งลิ่ว ส่งให้หัวสิปสติกหนังรุกล้ำปากของเด็กชายลึกยิ่งขึ้น
เด็กชายบอยออกแรงดูดอย่างสุดกำลังปากพร้อมโยกหัวขึ้นลงโดยอัติโนมัติน้าครามหอบหายใจถี่ขึ้น ตัวเกร็งสะท้านไปทั้งตัว
“ โอ๊ะ ออกแล้วๆๆ”สิ้นคำน้ำนมข้นคลั่กอุ่นวาบก็กระโจนลงคอมเด็กชายราวเขื่อนแตกเด็กชายทั้งดูดและปล่อยให้ล้นออกจากปากเลอะเทอะไปหมดเพราะเกินกำลังของตนจะรับได้ในเวลานั้นดูเหมือนมันจะเยอะมากจนเด็กบอยกลืนไม่ไหว แม้ว่าตอนแรกจะตั้งใจลองกลืนดูแต่พอมันลงคอมาจริงๆกลิ่นคาวฉุนนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่เด็กชายรับมือยังไม่ได้อยู่ดี
เด็กบอยถอนปากออกจากท่อนลำทันควันแล้วอ้วกลงพื้นห้องน้ำยกใหญ่ในขณะที่น้าครามใช้มือกระถอกลิปสติกหนังของตัวเองต่ออย่างรุนแรงเด็กน้อยเห็นเพียงน้ำขาวข้นที่เหลือ พุ่งเป็นสายผ่านหน้าตนเองไปแว๊บๆแล้วตกลงพื้นเมื่อ หยาดหยดสุดท้ายถูกน้าครามเด็ดออกจากปลายหัวบานนั้น เด็กชายก็อ้วกเสร็จพอดีทั้งๆที่น้ำหูน้ำตาก็ไหลเอจากการโก่งคออ้วก แต่เด็กน้อยยังมีกะใจจะอ้าปากไปงับหัวเยิ้มๆของน้าครามที่กวัดแกว่งอยู่ต่อหน้าพอปากงับเข้าจะออกแรงดูด น้าครามถึงกับต้องงัดหน้าเด็กชายออกจากท่อนลำของตัวเองพันวัล
“พอแล้วๆ เด็กดี ฮ่าๆๆ” น้าครามขำกลบเกลื่อนแต่ความจริงแล้วหากปล่อยให้บอยงับเข้าปากไปอีก เห็นทีจะหัวใจวายตายแน่
.
ยังไม่ได้ตรวจคำผิดนะ ไว้มาต่อครับ