แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kantanaty เมื่อ 2022-5-29 01:26 / a: G6 I( q: X, W
, `6 \$ C9 Y/ R9 g' @& ^& c8 J% l/ W0 }, Y
เลิฟ 'พวกเราทุกคนเกิดมาพร้อมกับอัตลักษณ์ประจำตัว หรือพลังวิเศษ ซึ่งพลังเหล่านี้จะแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะมีพลังที่คล้ายกันเพราะอยู่ในสายเดียวกัน เช่นใช้ไฟเหมือนกัน ใช้น้ำเหมือนกัน แปลงร่างเป็นอาวุธเหมือนกัน แต่ก็จะมีจุดที่แตกต่างกันเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอ ไม่มีทางที่จะมีพลังเหมือนกันโดยสมบูรณ์ ความแข็งแกร่งของพลังนั้นขึ้นอยู่กับดวงจิต สภาพร่างกาย และทักษะการประยุกต์ของผู้ใช้ พลังที่ดูอ่อนแอถ้าตกอยู่ในมือของผู้ใช้ที่แข็งแกร่งก็สามารถอันตรายได้' เลิฟนั่งอ่านหนังสือวิชามนุษยชาติอยู่บนโต๊ะ โดยอาศัยแสงไฟจากโคมไฟข้างโต๊ะสีเขียว ทุกวันช่วงกลางคืนเลิฟมักจะใช้เวลานี้เรียนด้วยตัวเอง เลิฟนั้นข้ามขั้นมาเรียนเกรด10และไม่มีความรู้พื้นฐานหรือทักษะการต่อสู้ติดตัวมาเลยทำให้ช้ากว่าคนอื่น เลิฟเลยต้องพยายามมากขึ้นเพื่อถีบตัวเองให้ทันเพื่อนในห้อง ซึ่งเรื่องวิชาการนั้นเลิฟทำได้ดีมากจนอาจารย์เริ่มจำเลิฟได้ว่าเป็นเด็กเรียนเก่งตั้งใจเรียน ส่วนวิชาการต่อสู้นั้นเลิฟยังทำไม่ค่อยดีเท่าไหร่เพราะยังอยู่ในช่วงการฝึกพลังกายเพื่อใช้ในการต่อสู้ด้วยมือเปล่า ถ้าเป็นเรื่องความยืดหยุ่นหรือความเร็วล่ะก็คนอื่นแทบจะเทียบเลิฟไม่ติด เลิฟเอามือปิดปากหาว หันไปดูนาฬิกา ตอนนี้ห้าทุ่มกว่าแล้ว เลิฟปิดโคมไฟ เอาหนังสือเก็บลงกระเป๋า เปิดประตูออกมาจากห้อง เดินลงบันไดมาชั้นล่าง เลิฟย้ายเข้ามาอยู่บ้านฝูงได้เดือนกว่าๆแล้ว เริ่มคุ้นชินกับที่นี่จนคิดว่าเป็นบ้านจริงๆ บ้านตอนนี้นั้นเงียบมาก เป็นเพราะว่าที่บ้านฝูงมีแค่เลิฟคนเดียวที่อาศัยอยู่แบบเต็มเวลา คนอื่นจะแวะมาแล้วแต่อารมณ์หรือมีการรวมฝูง เลิฟรู้สึกขอบคุณมากที่โฬมและราคานอนุญาตให้เลิฟเข้ามาอยู่ที่นี่ ที่นี่สบายกว่าอพาร์ทเม้นท์เก่าซอมซ่อที่เลิฟเคยอยู่มาก เลิฟตอบแทนที่ได้อยู่ที่นี่ด้วยการดูแลทำความสะอาดบ้านฝูงอย่างสม่ำเสมอ ทั้งกวาดบ้าน ถูบ้าน รดน้ำต้นไม้ เพราะโฬมจ้างคนนอกเข้ามาทำความสะอาดที่นี่ไม่ได้ ความปลอดภัยของที่นี่นั้นค่อนข้างสูง รอบนอกตัวบานมีหมอกที่เป็นพลังของหมอกปกคลุมพรางตัวบ้านจากสายตาของคนนอก แต่ถึงอย่างนั้นเลิฟก็ต้องระวังตัวอยู่ดี เลิฟเดินเข้ามาในครัว เลิฟรู้สึกหิวเลยกะจะลงมาหาอะไรกินสักหน่อย เลิฟเปิดตู้เย็น ราคานซื้อของเข้ามาไว้ที่บ้านมากมายทั้งของสด อาหาร ขนมของกินเล่น ผลไม้ น้ำ ตุนเอาไว้ไม่ขาดตกบกพร่องเพราะไม่อยากให้เลิฟออกไปไหนคนเดียว ทั้งฝูงกำลังถูกแก๊งค์มาเฟียหมายหัว และเป้าหมายที่เข้าถึงและจัดการได้ง่ายที่สุดก็คือเลิฟ ยิ่งเป็นแรงผลักดันให้เลิฟตั้งใจเรียนและฝึกฝนการต่อสู้เพื่อที่จะได้ไม่เป็นภาระให้คนอื่นในฝูงต้องมาลำบากคอยเป็นห่วง เลิฟหยิบขนมและน้ำออกมานิดหน่อย เดินมานั่งลงที่โซฟา กดเปิดทีวีดูข่าวสารไปเรื่อย เลิฟกดเปิดไปช่องข่าวสด24ชั่วโมงที่ทำข่าวอาชญากรรมแบบเรียลไทม์ 'เกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยองขึ้นที่ถนนสายหลักตอนช่วงสามทุ่มที่ผ่านมา พบกองศพของโอเมก้าจำนวนมากนอนกองทับกันอยู่ ไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์อยู่แถวนี้เลยตอนที่เกิดเหตุ จากการสัมภาษณ์ผู้คนในละแวกนี้ได้ข้อมูลเพียงว่า มีจิตสังหารที่น่ากลัวอยู่บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งรุนแรงจนผู้คนที่มีบ้านแถวนั้นสัมผัสได้' ในข่าวฉายภาพกองศพของพวกโอเมก้าที่กองทับกัน เลิฟดูก็รู้สึกขนลุก โลกนี้มันอันตรายซะจริงๆ แต่พอมองดีๆก็เห็นว่าที่เสื้อผ้ามีตราสัญลักษณ์รูปแมงมุมของแก๊งค์Black Spiderอยู่ 'ดูจากเครื่องแบบที่ใส่ ทางตำรวจสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นความขัดแย้งกันภายใน ช่วงนี้ขอให้ทุกท่านหลีกเลี่ยงการไปไหนมาไหนคนเดียวในพื้นที่เสี่ยง' เลิฟยืดตัวขึ้นนั่งนิ่ง สัมผัสได้ว่ากำลังมีใครใกล้เข้ามาที่บ้านฝูง เลิฟปิดทีวี ลุกขึ้นยืน ดวงจิตนั้นใกล้เข้ามาเรื่อย เลิฟตั้งท่าเตรียมจะวิ่ง ประตูบ้านเปิดออกเสียงดัง เลิฟร้องเสียงดังด้วยความตกใจ
$ w D0 f, s: k9 A
รัม รัมเดินเข้ามาในบ้านตัวชุ่มไปด้วยเลือด เสื้อผ้าฉีดขาด มีบาดแผลตามร่างกาย ใบหน้าช่วงล่างเบี้ยวจนผิดรูปจากแรงกระแทกอย่างแรง เลิฟที่มองดูดีๆเห็นว่าเป็นรัมก็รีบตั้งสติแล้ววิ่งเข้าไปพยุงรัม ''พี่รัมเป็นอะไรมั้ยครับ!'' เลิฟถามอย่างตกใจ ''ไอ้เอ็นไออั้ง อูอ้าอูอิ (ไม่เป็นไรมั้ง ดูหน้ากูดิ)'' รัมพูดฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะปากเบี้ยวอยู่ เลิฟพารัมมานั่งที่โซฟา ''อี้บอั๊กอ๋าเอี๋ยวอี๊เอย อ้าเอียดอิ๊บอ๋าย (รีบรักษาเดี๋ยวนี้ น่าเกลียดชิบหาย)'' เลิฟพยักหน้า ''ถอดเสื้อก่อนได้มั้ยครับ'' รัมถอดเสื้อออก เลิฟเอามือแตะที่หน้าอกของรัม หลับตาลง รวบรวมพลังแล้วลืมตาขึ้น ดวงตาของเลิฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวส่องสว่าง แผลบนร่างกายของรัมค่อยๆสมานตัว แผลถลอกที่ไม่บาดเจ็บมากจางหายไป ส่วนแผลใหญ่ๆเหลือไว้แค่แผลเป็น ''นั่งนิ่งๆนะครับ เดี๋ยวมันไม่ตรง'' เลิฟเอามือจับคางของรัม ค่อยๆรักษา แผลบนใบหน้าสมานและจางลงเป็นรอยแผลเป็น โครงหน้าเริ่มค่อยๆกลับมาเข้าที่ เลิฟปล่อยมือแล้วเอามือปาดเหงื่อ ''โอเคแล้วมั้ยครับ'' รัมเอามือจับกรามของตัวเอง บิดปากไปมา ''พี่โดนลอบทำร้ายมาหรอครับ" ''ใช่อะดิ'' ''พี่ไม่ได้ขอความช่วยเหลือหรอครับ'' ''เรื่องแค่นี้เอง ไม่เห็นต้องทำให้วุ่นวายเลย อีกอย่าง ถ้าเอาคนอื่นมาด้วยก็หมดสนุกน่ะสิ'' รัมหัวเราะเหมือนไม่ได้บาดเจ็บเจียนตายมา รัมนั้นเป็นคนที่บ้าระห่ำ คาดเดาอะไรไม่ได้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแข็งแกร่งมากจริงๆ ''ผมรู้ว่าพี่แข็งแกร่ง แต่ก็อยากให้พี่ระวังตัวบ้างนะครับ ผมไม่อยากให้พี่เจ็บตัวบ่อยๆ'' รัมเหลือบตามามองเลิฟแล้วยิ้ม ''ยิ่งเจ็บนั่นแหละยิ่งมันส์ อีกอย่าง มีกระเป๋าพยาบาลเคลื่อนที่อยู่ที่บ้าน ไม่เห็นต้องห่วงอะไรเลย'' ''ก็ใช่ครับ แต่การเสี่ยงตายบ่อยๆไม่ใช่เรื่องที่ดีนะครับ'' รัมจ้องหน้าของเลิฟ เอามือดันหน้าผากของเลิฟจนหงายหลังไปเล็กน้อย ''อย่าทำตัวเป็นราคานสองน่า'' รัมบ่น หยิบขนมบนโต๊ะขึ้นมายัดใส่ปากแล้วเคี้ยวกิน เลิฟชี้ไปที่ข่าว ''ใช่ข่าวนี้มั้ยครับ'' รัมยิ้มกว้าง ''ใช่ เสียดายจังกลับมาก่อน ไม่งั้นได้ออกทีวีแล้วนะเนี่ย'' รัมขำ รัมเลื่อนตัวมาชิด ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ เลิฟถอยหลังหนีแต่ก็ติดโซฟา ดวงตาอสรพิษของรัมจ้องเข้ามาในดวงตาใสของเลิฟ รัมแสยะยิ้ม ''เรื่องนี้เก็บเป็นความลับ อย่าบอกราคานล่ะ เดี๋ยวโดนบ่นอีก'' รัมเอานิ้วชี้แตะริมฝีปากของเลิฟ เลิฟพยักหน้า รัมเอามือเสื้อผมที่ปิดหน้าผากของเลิฟออก ยื่นหน้ามาหอมแก้มเลิฟฟอดใหญ่ เด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟา ''ไปล่ะ แตงกิ้ว'' ''ครับ กลับดีๆนะครับ'' รัมเดินผิวปากลั้นลาออกไปจากบ้าน เลิฟมองตามรัม ถึงจะน่ากลัวและคาดเดาไม่ได้แต่ก็เท่มากจริงๆ เลิฟลุกขึ้นเดินมาปิดประตูบ้าน ก่อนจะกลับขึ้นไปบนห้องนอนของตัวเอง เลิฟเดินเข้าไปในห้องน้ำ พอผ่านกระจกก็เห็นว่ามีเลือดเปรอะอยู่ที่หน้า น่าจะเพราะรัมเมื่อกี๊นี้ เลิฟรีบล้างหน้าล้างตาแล้วเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปเรียน
; q$ R8 @( o, ?, i: {. j6 L+ _
ราคาน ภายในสนามแข่งรถ ในความเงียบมีเสียงเครื่องยนต์ที่พุ่งด้วยความเร็วสูง ราคานบิดดูคาติคู่ใจสุดแรง ลมที่พัดผ่านหน้าทำให้ราคานรู้สึกตื่นเต้น การแข่งรถเป็นสิ่งที่ราคานรักเป็นชีวิตจิตใจ ถึงที่บ้านจะไม่สนับสนุนก็เถอะ บอกว่าอันตราย แต่ความอันตรายนี่แหละคือสเน่ห์ของมัน ราคานขับมาเรื่อยๆ จู่ๆก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับมาขนาบข้าง ผู้ชายคนนั้นใส่ชุดเต็มยศเหมือนนักแข่ง คงจะมาฝึกซ้อมล่ะมั้ง ราคานนึกสนุกเร่งเครื่องแซงไป อีกฝ่ายก็ตามมาด้วย ทั้งคู่พุ่งด้วยความเร็วขนาบกันมาอย่างไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งใกล้ถึงเส้นชัย อีกฝ่ายเหมือนจะแซงราคานได้ ราคานบิดพุ่งสุดแรงเฉียดเข้าเส้นไปก่อนแบบทิ้งห่าง ทั้งคู่จอดรถ ราคานถอดหมวกกันน๊อค อีกฝ่ายเดินเข้ามาหา ''เร็วมากเลยครับ'' อีกฝ่ายชม ''คุณเองก็เหมือนกันนะครับ'' กลิ่นที่แผ่ออกมาจากนักแข่งคนนั้นยั่วยวนมาก กลิ่นเหมือนมะนาวหรือเลม่อน บรรยากาศก็ช่างเงียบเป็นใจ อีกฝ่ายกวักมือเรียกให้เดินไปด้วยกัน ราคานก็ตามไป ทั้งคู่เข้ามาในห้องพักรถ ราคานดึงเอวนักแข่งคนนั้นเข้ามาชิดตัว ราคานปล่อยฟีโรโมนออกมาที่ยิ่งทำให้เงี่ยนขึ้นไปอีก กดไหล่ของนักแข่งคนนั้นให้ลงไปนั่ง นักแข่งคนนั้นเอาหน้าซุกเป้าของราคานที่แข็งนูนขึ้นมา นักแข่งคนนั้นสูดดมกลิ่นควยของราคานเข้าไปเต็มปอด ราคานรูดซิปชุดนั่งแข่งของตัวเองลง ถอดด้านบนออก เผยให้เห็นหุ่นล่ำๆของราคาน อกหนาไหล่กว้าง กล้ามแขนเป็นมัดๆ ซิกแพคที่หน้าท้องเรียงกันเป็นแพดูเซ็กซี่ ควยราคานแข็งเป็นลำอยู่ในกางเกงในสีขาว นักแข่งคนนั้นขบกัดเบาๆไปตามลำควยของราคาน กลิ่นอัลฟ่าของราคานนั้นทำเอานักแข่งคนนั้นแทบควบคุมตัวเองไม่ได้ เอามือขยำเป้าของตัวเองไปมา ราคานดึงกางเกงในลง ควยขาวใหญ่ยาว13นิ้วเด้งอออกมาตีหน้าของนักแข่งคนนั้น นักแข่งคนนั้นมองควยตรงหน้าอย่างตะลึงในขนาดของมัน จับควยของราคานชักขึ้นลง เอาเข้าปากแล้วดูดอย่างเมามันส์ ''ซี้ดด อาา'' นักแข่งคนนั้นอมควยของราคานอย่างหิวกระหาย สอดลิ้นเข้าไปเลียวนๆใต้หนังหุ้ม ถอกควยของราคานลง หัวควยบานโผล่ออกมา น้ำหล่อลื่นไหลเยิ้มอยู่ตรงปลาย นักแข่งคนนั้นเลียกินน้ำที่ติดตรงปลายควยราคาน เลียไปตามแง่งควย ตวัดลิ้นเลียรัวๆ ดูดหัวควยของราคานเน้นๆ ราคานจับหัวของนักแข่งคนนั้นไว้ ยักควยเข้ามาในปากแล้วเด้งเอวเย็ดอย่างเมามันส์ ''อ๊อก ออก อออก'' ควยราคานใหญ่คับปากนักแข่งคนนั้นไปหมด ราคานกระแทกควยเข้ามาในปากของนักแข่งคนนั้นไม่ยั้ง แทงเข้ามาลึกจนนักแข่งคนนั้นสำลักน้ำตาเล็ด ราคานดันเข้ามาสุดลำแล้วกดหัวของนักแข่งคนนั้นค้างไว้ นักแข่งคนนั้นพยายามเอามือดันเอวของราคานแต่ก็สู้แรงไม่ได้ ''ฮ้าา'' ราคานถอนควยออก น้ำลายนักแข่งคนนั้นไหลเยิ้มติดควยราคานมา ราคานจับควยแฉะๆตีหน้าของนักแข่งคนนั้นรัวๆอย่างแรงจนหน้าสั่น นักแข่งคนนั้นยิ้มพอใจ ราคานดึงตัวนักแข่งคนนั้นขึ้นมา จับหันหลังเอามือยันกำแพงไว้ ถอดกางเกงของนักแข่งคนนั้นออก นั่งลงแหดตูดของนักแข่งคนนั้น รูหีสีชมพูระเรื่อขมิบไปมาเพราะความเงี่ยน กลิ่นตัวของนักแข่งคนนั้นแรงขึ้นเรื่อยจนราคานแทบจะควบคุมตัวเองไว้ไม่ไหว ยื่นหน้าไปเลียหีของนักแข่งคนนั้นอย่างเมามันส์ ''อ๊ะ อาา'' ราคานตวัดลิ้นเลียหีของนักแข่งคนนั้นไปมา ลิ้นอุ่นๆหนาๆของราคานทำเอานักแข่งคนนั้นเสียววาบไปทั้งตัว ราคานเลียหีของนักแข่งคนนั้นอย่างมูมมามจนแฉะชุ่ม ยืนขึ้นมาเอาควยถูตรงรูของนักแข่งคนนั้น ค่อยๆดันควยเข้ามาจนสุดลำ ''งึก อ๊ะ'' ควยราคานแน่นคับหีของนักแข่งคนนั้นไปหมด แทงเข้ามาลึกจนนักแข่งคนนั้นทั้งจุกทั้งเสียว ราคานเด้งเอวเย็ดหีของนักแข่งคนนั้นเป็นจังหวะ ''อะ อ๊ะ อาาา'' ''ซี้ดดด แน่น'' หีนักแข่งคนนั้นนั้นทั้งแน่นทั้งอุ่น ตอดขมิบควยของราคานอย่างบ้าคลั่ง ราคานจับเอวนักแข่งคนนั้นไว้ กระแทกควยเข้าไปไม่ยั้ง ตีตูดของนักแข่งคนนั้นไปมาอย่างแรงจนแดงเป็นรอยมือ ราคานดึงแขนของนักแข่งคนนั้นมาข้างหลังแล้วซอยหีของนักแข่งคนนั้นอย่างเมามันส์ สอดควยเข้าออกหีของนักแข่งคนนั้นอย่างเร็วและแรง ''อะ อาาา อือออ'' หมวกกันน๊อคของนักแข่งคนนั้นกระแทกกับกำแพงไปมา ควยราคานแทงเข้าไปลึก กระแทกจุดเสียวของนักแข่งคนนั้นไปมา ควยของนักแข่งคนนั้นแข็งกระดกขึ้นลงเพราะความเสียว ราคานกระแทกแรงขึ้นเรื่อยๆ ฟีโรโมนของทั้งคู่แผ่ออกมาปนกันลอยอยู่ในอากาศไปทั่วบริเวณ ความเงี่ยนของราคานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เส้นเอ็นตามแขนและขมับปูดขึ้นมา ราคานซอยเร็วขึ้นอีก ''อืออ อ๊ะ'' นักแข่งคนนั้นควยกระตุกน้ำแตกออกมา ราคานซอยรัวๆ ''โอยยย อ้าาา!'' ราคานกระแทกเข้ามาสุดลำ น้ำแตกเข้ามาในหีของนักแข่งคนนั้นจนอุ่นไปหมด ควยของราคานกระตุกฉีดน้ำควยอยู่ในหีของนักแข่งคนนั้น ดวงตาของราคานเปลี่ยนเป็นสีแดงฉาน กลิ่นความเงี่ยนของราคานยิ่งแรงขึ้นกว่าเดิมทำเอานักแข่งคนนั้นแค่ได้สูดดมเข้าไปก็หัวหมุนไปหมด ราคาอุ้มนักแข่งคนนั้นขึ้นเอาขาเกี่ยวเอวตัวเองไว้ โก้งโค้งเย็ดหีของนักแข่งคนนั้นต่ออีกรอบทันที ''อะ อึก อ๊ะ อาาา แรงๆเลยครับ ซี้ดดด'' ราคานกระแทกควยเข้าไปในหีของนักแข่งคนนั้นอย่างบ้าคลั่ง ทำเสียงฟึดฟัดเหมือนสัตว์ป่า เด้งเอวเด้าหีของนักแข่งคนนั้นอย่างเมามันส์ บีบคอของนักแข่งคนนั้นไว้แล้วตอกควยเข้าไปในหีนักแข่งคนนั้นอย่างเร็วและแรง ''อึก อืออออ'' นักแข่งคนนั้นคราง สั่นไปทั้งตัวเพราะแรงกระแทกของราคาน เสียงเนื้อกระแทกกันดังไปทั่ว ควยราคานแทงเข้ามาลึก กระทุ้งจุดเสียวของนักแข่งคนนั้นย้ำๆจนเสียวแทบขาดใจ ควยนักแข่งคนนั้นแข็งขึ้นมาอีกครั้ง ''โอยยยย แน่นดีชิบหาย ซี้ดดด'' เสียงของราคานนั้นแหบกร้านต่างจากปกติ เด้าหีของนักแข่งคนนั้นเร็วและรัวขึ้นเรื่อยๆ เงื่อของราคานกระเซ็นไปทั่ว ''อะ อึก อือออ'' นักแข่งคนนั้นตาเหลือก ควยกระตุกน้ำแตกออกมาไม่หยุด ราคานเด้ารัวๆ ''อ้าาาาา!'' ราคานตอกควยเข้าไปสุดแรง ควยราคานขยายตัวเกาะติดกับหีของนักแข่งคนนั้น ปล่อยน้ำควยกระฉูดเข้าไปในหีของนักแข่งคนนั้น น้ำควยมากมายไหลเข้ามาจนทะลักออกมาข้างควยราคาน ราคานกอดนักแข่งคนนั้นไว้แน่น รอจนควยเริ่มสงบลงแล้วถอนควยออก ปล่อยนักแข่งคนนั้นนอนลงกับพื้น หีนักแข่งคนนั้นบานเป็นรูร่องควยราคาน ขมิบหุบอ้าน้ำควยขาวขุ่นไหลเยิ้มออกมา ราคานช่วยพยุงให้นักเเข่งคนนั้นลุกขึ้น แต่งตัวให้เรียบร้อย ''ไว้มาแข่งกันอีกนะครับ'' ราคานยิ้ม ''ได้เสมอครับ'' ราคานใส่หมวกกันน็อค ขับรถกลับบ้านไป ระหว่างทางกลับรถตำรวจและรถพยาบาลหลายคันเปิดสัญญาณไฟวิ่งสวนไป เกิดเหตุอะไรขึ้นอีกแล้วงั้นหรอ ทำเวลาเกิดเรื่องแบบนี้ทีไรคิดถึงแต่สมาชิกในฝูงทุกที บางทีมันอาจจะไม่เกี่ยวกับฝูงก็ได้มั้ง
t3 Z1 ?1 m( ~6 e/ R% A9 W
เลิฟ 'เกิดเหตุการณ์อันน่าสยดสยองขึ้นที่ถนนสายหลักตอนช่วงสามทุ่มที่ผ่านมา พบกองศพของโอเมก้าจำนวนมากนอนกองทับกันอยู่ ไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์อยู่แถวนี้เลยตอนที่เกิดเหตุ จากการสัมภาษณ์ผู้คนในละแวกนี้ได้ข้อมูลเพียงว่า มีจิตสังหารที่น่ากลัวอยู่บริเวณที่เกิดเหตุซึ่งรุนแรงจนผู้คนที่มีบ้านแถวนั้นสัมผัสได้' ราคานนั่งดูข่าวย้อนหลังในไอแพดบนรถที่จอดอยู่หน้าบ้านฝูง ดูจากสภาพของศพที่เหวอะหวะเหมือนถูกกัดราคานก็รู้ทันทีว่าคงเป็นรัมอีกแล้ว ถึงพวกนั้นจะเป็นคนของพวกBlack Spiderก็เถอะ การที่รัมฆ่าพวกนั้นเพื่อป้องกันตัวเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ราคานเป็นห่วงคือกลัวว่ารัมจะฆ่าเพราะแค่สนุกเท่านั้น ยิ่งรัมเป็นคนที่คาดเดาอะไรไมไ่ด้ยิ่งต้องระวัง ไม่อยากให้รัมหาเรื่องใส่ตัวเองและฝูงจนเดือดร้อน เวลาเกิดเรื่องทีไรรัมมักจะไม่ขอความช่วยเหลือจากฝูง แถมบางครั้งยังเป็นคนก่อเรื่องเองด้วย ราคานวางไอแพด ลงมาจากรถแล้วเดินเข้าไปในบ้านฝูง เลิฟที่ใส่ชุดนักเรียนลงมาจากข้างบนพอดี ''อ้าว พี่ราคาน สวัสดีครับ'' ราคานยิ้มให้อย่างอบอุ่นเหมือนอย่างเคย เลิฟเดินดึงถุงเท้าให้สุดมาหาราคาน ''วันนี้พี่มาเช้าจังครับ'' ''พอดีต้องไปธุระต่อแถวนี้น่ะ เลยแวะเข้ามา แล้วก็จะแวะไปส่งเราด้วย'' ''ไม่เห็นต้องลำบากเลยครับ เลิฟเดินไปเองได้น่า'' ราคานยิ้ม ยื่นมือมาเอากระเป๋าของเลิฟไปถือ ''ก็พี่อยากไปส่งนี่นา ปะ ไปได้แล้ว เดี๋ยวสาย'' ''ครับ'' ทั้งคู่ขึ้นมาบนรถของราคาน ราคานขับไปส่งเลิฟที่โรงเรียน ใช้เวลาไม่นานก็มาถึง เลิฟปลดเข็มขัดรถออก ''งั้นผมไปก่อนนะครับ'' ''ตั้งใจเรียนล่ะ'' ราคานยื่นมาลูบหัวอย่างเอ็นดู เลิฟยิ้มเขินแล้วลงมาจากรถ โบกมือให้ราคาน ราคานโบกตอบก่อนจะขับรถออกไป เลิฟเดินไปตามทางเดินหินอ่อนยาว รอบข้างมีต้นไม้ออกดอกสีเหลืองร่วงโรยอยู่ตามพื้น เลิฟเริ่มชินกับชีวิตที่โรงเรียนนี้มากขึ้นแล้ว เป็นอย่างที่เลิฟคิดไว้ว่าสังคมที่นี่เป็นสังคมของพวกลูกคุณหนู พวกลูกคนรวย ช่วงแรกนั้นมีบ้างที่เลิฟถูกเหยียดทางสายตาและถูกทำเหมือนกับว่าไม่มีตัวตน ก็ยังดีที่ไม่เข้ามากลั่นแกล้งเลิฟล่ะนะ พอช่วงหลังเริ่มมีคนเห็นว่าคนที่มาส่งเลิฟคือราคาน พวกนั้นจึงปฏิบัติกับเลิฟดีมากขึ้น ถึงจะไม่ค่อยเข้ามาคุยกับเลิฟก็เถอะ เลิฟเดินเข้ามาในตัวโรงเรียน โรงเรียนนี้ใหญ่เหมือนกับปราสาท มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เรียกได้ว่าสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนได้เลย เลิฟเดินขึ้นไปบนห้องเรียนประจำ เข้าไปในห้อง มีคนนั่งอยู่ประปราย ยังเช้าอยู่นี่นะ เลิฟเดินไปยังที่นั่งของตัวเองซึ่งอยู่ตรงมุมหลังห้อง วางกระเป๋าแล้วนั่งลง ข้างๆเป็นโต๊ะของเดซี่ มีกระถางดอกไม้หลายใบออกดอกสีสันสวยงาม แต่เจ้าตัวตอนนี้ยังไม่มา เลิฟพูดได้เต็มปากแล้วว่าเดซี่เป็นเพื่อนสนิทคนแรกของเลิฟ เป็นคนที่สดใส ร่าเริง มองโลกในแง่ดี แต่ก็มีมุมที่เท่ ดูแลตัวเองได้ ไม่ยอมใคร เทคนิคการต่อสู้ก็สูงกว่าเลิฟมาก ทำให้เลิฟมองเดซี่เป็นทั้งเพื่อนคนสำคัญและแรงจูงใจในการฝึกฝนตัวเอง เลิฟนั่งอ่านหนังสือเตรียมตัวเรียน ประตูห้องเปิดออก , a+ `" b' Q- I1 B- a
เดซี่ เดซี่เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่ เดซี่เดินแจกดอกไม้ให้กับเพื่อนตามโต๊ะก่อนจะมานั่งที่ของตัวเอง ''วันนี้ดอกไม้สวยมากเลยนะ'' เลิฟชม เดซี่ยิ้มกว้าง ''เราลองผสมสีดูเองเมื่อคืนน่ะ อะ นี่'' เดซี่หยิบส่งให้เลิฟดอกหนึ่ง เลิฟยื่นมือไปรับมาดม กลิ่นของมันเหมือนกลิ่นตัวของเดซี่ กลิ่นดอกไม้ที่ดมแล้ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในสวน หรือเหมือนกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มหอมๆ เดซี่วางดอกไม้ลงที่ข้างหน้าต่าง อีกสิ่งที่เลิฟสังเกตได้คือ ดอกไม้ที่เดซี่เอามานั้นไม่เคยเหี่ยวเลย ''วันนี้มีสอบเก็บคะแนนใช่มั้ย'' เดซี่ถาม ''อื้ม เอาเลคเชอร์เราไปดูมั้ย'' ''แล้วเลิฟไม่อ่านหรอ'' ''เราอ่านมาแล้วน่ะ'' ''งั้นก็รบกวนหน่อยละกัน'' เลิฟล้วงกระเป๋าหยิบสมุดส่งให้เดซี่เอาไปดู เดซี่เดิมทีไม่ใช่คนที่ตั้งใจเรียนอะไรแต่ก็ไม่ใช่เด็กเกเร เป็นคนที่ยังไงก็ได้สบายๆ พอมาอยู่กับเลิฟที่ตั้งใจเรียนเลยพลอยตั้งใจเรียนไปด้วย สักพักอาจารย์ก็เข้ามาในห้อง ทุกคนกลับไปนั่งที่ของตัวเองให้เรียบร้อย อาจารย์ไม่พูดพร่ำทำเพลงแจกกระดาษข้อสอบมาข้างหลัง ทั้งหมดนั่งทำข้อสอบเก็บคะแนนกันเงียบๆ พวกเรื่องวิชาการแบบนี้นั้นเป็นเรื่องถนัดของเลิฟ เลิฟทำข้อสอบได้อย่างฉลุยจนเสร็จเป็นคนแรก แต่พอมองไปรอบๆเพื่อนกลับทำหน้าเครียดกันอยู่ เลิฟรอสักพักจนมีคนลุกจึงลุกตามออกไปจากห้อง เลิฟนั่งรอเดซี่อยู่ข้างนอก ไม่นานนักเดซี่ก็เดินตามออกมา ''ทำได้มั้ย'' ''ได้ ดีนะมีเลคเชอร์เลิฟ มีข้อที่เราไม่ได้อ่านมาด้วย'' เดซี่นั่งลงข้างๆ เพื่อนคนอื่นเริ่มทยอยออกมาจากห้อง ตรงไปยังโรงอาหาร ''วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวที่อื่นกันมั้ย ไม่อยากไปแออัดในโรงอาหารน่ะ'' เลิฟเอียงหัวสงสัย ''ที่ไหนล่ะ'' ''เดี๋ยวพาไป'' ทั้งคู่ลงมาจากอาคาร เดซี่พาเลิฟเดินไปเรื่อยๆจนมาข้างหลังโรงเรียนซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นประปราย มีโต๊ะปิ๊กนิคหลายตัววางกระจัดกระจายกันอยู่ เลิฟไม่เคยมาข้างหลังนี้มาก่อนเลย บรรยากาศดีกว่าโรงอาหารมาก ''มีตรงนี้ด้วยหรอเนี่ย'' ''อื้ม แต่ไม่ค่อยมีคนมากันหรอก เค้าบอกว่าร้อนน่ะ บางทีก็ฝนตกด้วย'' ทั้งคู่นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่ง ''แล้วเราต้องไปซื้อข้าวที่โรงอาหารมั้ย'' ''ขี้เกียจเดินกลับไปแฮะ สั่งอะไรมากินกันมั้ย'' ''ได้หรอ'' ''อื้ม ได้สิ ไม่มีกฏห้ามนะ'' เดซี่กดเปิดแอปสั่งอาหารและขนมหลายอย่าง ช่วงบ่ายนี้เป็นคาบว่างเนื่องจากอาจารย์ไม่อยู่ทำให้มีเวลาพักเยอะ เดซี่สั่งเสร็จสรรพก็นั่งรอ คุยอะไรกันไปเรื่อยเปื่อย มีผู้ชายที่ดูคุ้นตาคนหนึ่งเดินมาที่โต๊ะของทั้งสอง ''ขอนั่งด้วยได้มั้ย''
( D9 R/ w, y6 R5 h! r+ E
ราฟ ราฟส่งยิ้มมาให้อย่างเป็นมิตร ''ได้สิ'' เลิฟบอก ราฟนั่งลงข้างๆเลิฟ ราฟเป็นนักเรียนเกรด10เหมือนกับเลิฟและเดซี่แต่อยู่คลาสA บังอิญเจอกันตอนที่เลิฟและเดซี่ไปฝึกซ้อมกันที่โรงยิม หลังจากนั้นทั้งสองก็ไม่ได้เห็นราฟอีกเลย ราฟนั้นเป็นคนที่แข็งแกร่ง ดูเงียบๆแต่ก็เป็นมิตร แถมยังดูเท่มากอีกด้วย ''ไม่ไปกินข้าวกันหรอ'' ราฟถาม ''ว่าจะสั่งของมากินที่นี่น่ะ ราฟกินด้วยกันมั้ย'' เดซี่เอ่ยปากชวน ''ได้หรอ'' ''ได้สิ กินกันเยอะๆสนุกจะตาย'' ราฟยิ้ม ''งั้นขอร่วมวงด้วยนะ'' ราฟมองมาที่เลิฟ เลิฟยิ้มให้ ''เป็นยังไงบ้าง เรียนโอเคมั้ย'' ''อื้ม โอเค ยังไม่ได้ยากมาก ราฟล่ะ คงจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก อยู่ถึงคลาสAนี่นา'' ราฟขำเบาๆ ''เราก็ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก'' ราฟนั้นเป็นอัลฟ่าแน่นอน รังสีที่แผ่ออกมานั้นเย็นยะเยือกแต่ก็มีความเป็นมิตร เป็นแรงกดดันที่ไม่ได้หวือหวา กลิ่นของราฟนั้นเป็นกลิ่นคาวเลือดบางๆ เหมือนเลือดแห้ง ราฟนั้นแต่งตัวไม่เหมือนเด็กนักเรียนเลยสักนิดเดียว ''ใส่ชุดนี้มาเรียนได้ด้วยหรอ'' ราฟมองตัวเอง ''พวกคลาสAได้รับอนุญาตให้ใส่ไปรเวทวันไหนก็ได้น่ะ'' ''น่าอิจฉาจังนะ พวกเราไได้รับอนุญาตแค่วันพฤหัสศุกร์เอง'' เดซี่บ่น ราฟมองเลิฟ ''ใส่ชุดนักเรียนก็น่ารักดีนะ'' ราฟยิ้ม เลิฟก้มหัวเล็กน้อยเป็นการขอบคุณสำหรับคำชม ''ตรงคอนั่นอะไรหรอ'' ''หืม อะไรหรอ'' เลิฟเอามือจับคอตัวเอง ''ตรงหลังคอน่ะ'' หลังคอของเลิฟมีรอยจางๆรูปไม้กางเขนอยู่ ''อ๋อ ปานน่ะ หรือแผลเป็นก็ไม่รู้'' เลิฟเอามือลูบๆ ราฟมองรอยนั่น จู่หัวของราฟก็ปวดขึ้นอย่างรุนแรงอีกครั้ง ''อึก!'' ราฟเอามือกุมขมัย เส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาข้างหัว ดวงตาของราฟสว่างวาบเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานสั่นระริก ราฟเอามือปิดหน้าเอาไว้ ''ราฟ!'' เลิฟตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก รีบเอามือจับขมับของราฟ ดวงตาของเลิฟเป็นสีเขียว พลงของเลิฟต่อสู้กับอาการปวดหัวรุนแรงของราฟอยู่สักพักราฟจึงสงบลงได้ ราฟหอบ ''เป็นอะไรมากมั้ย'' เดซี่รีบถาม ''เป็นเหมือนครั้งที่โรงยิมเลยนะ ยังไมไ่ด้ไปหาหมออีกหรอ'' ''ไปมาแล้วน่ะ แต่หมอบอกเราไม่ได้เป็นอะไร อาจจะเครียดล่ะมั้ง'' ''เรียนหนักหรอ'' ''อืม คงใช่'' ดวงตาของราฟเป็นสีแดงติดๆดับๆแวบหนึ่ง ราฟยิ้มให้ ''เราไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ'' ''แน่ใจนะ ไปห้องพยาบาลเถอะ เดี๋ยวเราพาไป'' ''ไม่เป็นไรๆ เราโอเคแล้วจริงๆ เราหิวแล้วเนี่ย'' ราฟหัวเราะกลบเกลื่อน เลิฟกับเดซี่ก็ไม่อยากบังคับเพื่อน โทรศัพท์ขึ้งเดซี่แจ้งเตือนว่าของมาส่งแล้ว ''เดี๋ยวเราออกไปเอาอาหารนะ'' ''ให้เราไปช่วยมั้ย'' เลิฟจะลุกขึ้น ''ไม่เป็นไร อยู่กับราฟเถอะ เดี๋ยวเรามา'' เดซี่เดินออกไป ''ไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ'' เลิฟถามเพื่อความแน่ใจ ราฟมองตาของเลิฟแล้วรีบหลบสายตา ''อืม ไม่เป็นไร''
% C/ M/ N: ^; e8 g8 Y* P& f
เพลน เพลนขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาในโรงเรียนเอกชนสุดหรูชื่อดัง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพลนเข้ามาในนี้เพราะปกตินักเรียนที่นี่ก็สั่งของกันบ่อยอยู่แล้ว เพลนเป็นเบต้าที่ทำงานเป็นพนักงานของร้านสะดวกซื้อ24ชั่วโมงแห่งเดียวในแถบนี้ เพลนเป็นคนเดียวในหมู่พนักงานที่ขับรถได้จึงได้รับหน้าที่ในการส่งเดลิเวอรี่ไปโดยปริยาย ยังดีที่เจ้าของให้เงินเดือนเพิ่มในส่วนนี้ ไม่งั้นเพลนคงลาออกไปแล้ว แต่เอาจริงๆตอนนี้เพลนเริ่มไม่มีความสุขกับการทำงานสักเท่าไหร่ ตั้งแต่เลิฟลาออกไปร้านก็เงียบเหงาลงเยอะ เพราะคนที่คอยเป็นพลังบวกให้ทุกคนไม่เหนื่อยไม่อยู่แล้ว จะว่าไปเลิฟก็เรียนอยู่ที่โรงเรียนนี้นี่นา เพลนมองไปรอบๆ นักเรียนหน้าตาดีหุ่นล่ำหลายคนเดินกันขวักไขว่ มีแต่พวกลูกคุณหนูอัลฟ่าเรียนกันอย่างที่เค้าว่าสินะที่นี่ ก็ไม่แปลกหรอก พวกนั้นมันชนชั้นเหนือกว่าคนอื่นนี่นา เพลนเอานาฬิกาขึ้นมาดูเวลา หลังจากที่เพลนส่งข้อความไปบอกลูกค้าก็ผ่านมา5นาทีแล้ว ยังไม่เห็นวี่แววของคนสั่งเลย พวกคนรวยคงไม่รู้จักคุณค่าของเวลาหรอกมั้ง ไม่ต้องทำมาหากินล่กๆแบบเพลนนี่นา เพลนชักเริ่มจะหงุดหิดเพราะลูกค้าไม่มาสักที ถ้าเจอจะต้องเหวี่ยงสักหน่อยแล้วล่ะ ''ขอโทษนะครับ ใช่มาส่งของมั้ยครับ'' เพลนหันไปเตรียมที่จะด่าแต่ก็หยุดชะงักเมื่อเห็นคนตรงหน้า ผู้ชายหน้าตาน่ารัก ตาโตปากนิดจมูกหน่อย ตัวเล็ก ผิวขาว ใส่ชุดนักเรียน ในกระเป๋าเสื้อและกางเกงมีดอกไม้เสียบอยู่เต็มไปหมด ''รอนานมั้ยครับ'' ''ไม่นานเลยครับ'' นักเรียนคนนั้นส่งยิ้มมาให้ เพลนอ่านคำสั่งซื้อในแอป ''เดซี่ใช่มั้ยครับ'' ''ใช่ครับ'' เดซี่จ่ายเงินให้ เพลนรับเงินมาแล้วส่งถุงไป ''ขอโทษที่ทำให้เสียเวลานะครับ'' ''ไม่เป็นไรครับ นิดหน่อยๆเอง'' เพลนเกาหัวเขินๆ กลิ่นตัวของเดซี่นั้นหอมมาก เหมือนกับยาปรับผ้านุ่มกลิ่นดอกไม้ ได้กลิ่นง่ายขนาดนี้น่าจะเป็นโอเมก้า เดซี่เอาเงินเพิ่มให้เพลน ''อันนี้ค่าเสียเวลาครับ'' ''ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไร'' เพลนดันออก ''ถ้างั้น'' เดซี่หยิบดอกไม้สีขาวจากกระเป๋าเสื้อส่งให้ ''ผมให้ครับ ถ้าพี่เอาไปใส่แจกันแล้วใส่น้ำกลิ่นมันจะหอมมากเลย ใช้ปรับอากาศในห้องก็ได้ครับ'' ''อ๋อ ขอบคุณมากครับ'' เพลนรับดอกไม้มาจากเดซี่ เดซี่ยิ้มกว้างโบกมือให้แล้วเดินกลับเข้าไป เพลนมองตามเดซี่ตาค้าง อมยิ้มโบกมือ เอาดอกไม้ขึ้นมาดม กลิ่นเหมือนกับกลิ่นตัวของเดซี่เมื่อกี๊ไม่มีผิดแต่อ่อนกว่า จริงๆงานนี้มันก็ดีเหมือนกันนะเนี่ย เพลนสตาร์ทรถแล้วขับกลับไปที่ร้าน เดซี่ถือถุงกลับมาที่โต๊ะซึ่งเลิฟและราฟนั่งรออยู่ ''เอ้ย ซื้อร้านนี้มาหรอ'' เลิฟชี้ไปที่ถุงของร้านที่คุ้นตา ''อืม ทำไมหรอ'' ''เราเคยทำงานร้านนี้ด้วยแหละ'' ''เอ้าหรอ'' ''อื้ม แต่ลาออกมาเพราะมาเรียนน่ะ ไม่ได้กลับไปนานแล้วเหมือนกันนะ'' ''บังเอิญดีจังนะ'' เดซี่นั่งลง แกะถุงขนมวางเรียงรายบนโต๊ะ ทั้งสามนั่งกินขนมและพูดคุยกัน แม้ภายนอกราฟจะดูเงียบๆเหมือนคนง่วงแต่จริงๆแล้วคุยเก่งมากทีเดียว แถมยังเป็นกันเองมากอีกด้วย จนลืมไปเลยว่าเป็นอัลฟ่าคลาสA ราฟมองนาฬิกา ''เราต้องกลับไปขึ้นเรียนแล้วล่ะ ขอบคุณที่ให้นั่งด้วยนะ'' ''ไม่เป็นไร คราวหน้าถ้าเจอกันอีกก็มาด้วยกันอีกนะ'' ราฟยิ้ม ''โอเค'' ราฟบอกลาทั้งคู่แล้วเดินเข้าอาคารเรียนไป ''อัลฟ่าดีๆก็มีอยู่บ้างแหละเนอะ'' เดซี่หยิบขนมขึ้นมากิน เลิฟยิ้ม ''นั่นสิ'' ราฟวิ่งด้วยความเร็วสูงไปยังตึกที่ห่างจากผู้คน เข้าไปในห้องน้ำที่ไม่มีคนแล้วล็อคประตู 8 [. i' c: w: z i8 `4 s
ราฟ ราฟเอามือทุบอ่างล้างหน้าเสียงดังแล้วยันไว้ อาการปวดหัวรุนแรงกลับมาอีกครั้ง ดวงตาของราฟกลายเป็นสีแดงฉานเหมือนอาบเลือด เส้นเลือดที่ข้างหัวบูดขึ้นมา เอามือกุมหัวไว้ 'ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า!' เสียงแหบต่ำดังก้องอยู่ในหัวของราฟซ้ำไปซ้ำมา เงาด้านหลังของราฟกำลังถูกอีกเงาหนึ่งซึ่งมีปีกแห้งขนาดใหญ่ เขาแหลมและกรงเล็บอันแหลมคมบีบคอ อะไรบางอย่างกำลังตีกันอยู่ในหัวของราฟ เกือบไปแล้ว เมื่อกี๊เกือบควบคุมตัวเองไม่ได้ไปซะแล้ว ราฟเกิดมาในตระกูลอัลฟ่าบริสุทธิ์ที่ร่ำรวย พ่อกับแม่เป็นจิตกรและนักร้องที่มีชื่อเสียง ตั้งแต่เด็กราฟต้องทนกับอาการปวดหัวรุนแรงซึ่งเมื่อถึงขั้นสุดจะอาละวาดทำลายข้าวของ ในตอนนั้นพ่อกับแม่ของราฟคิดว่าราฟก็คงแค่ดื้อตามประสาเด็ก แต่ยิ่งโตอาการนี้มันก็เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ครอบครัวของราฟพาไปหาหมอเก่งระดับประเทศหลายคนหลายต่อหลายครั้งก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่าอาการปวดหัวของราฟนั้นคืออะไร แต่ทุกครั้งที่ราฟมีอาการนี้ราฟจะรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะโดนตัวเองอีกคนครอบงำ มันเริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆมาจนถึงตอนนี้ ราฟแน่ใจแล้วว่าในตัวของตัวเองไม่ได้มีราฟอยู่คนเดียว แต่จะบอกว่าเป็นผีมาสิงก็ไม่ใช่ มันเหมือนตัวตนทั้งสองด้านของราฟมันกำลังตีกัน ไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ราฟต้องการจะทำจริงๆกันแน่ ราฟที่เป็นคนเงียบๆ ชอบการนอนหลับ การไปเที่ยวกับเพื่อนก็คือราฟ แต่ราฟคนที่ชอบความรุนแรง การต่อสู้และการฆ่าก็คือราฟเหมือนกัน ราฟกำขอบอ่างแน่นจนมันแตกคามือ เลือดของราฟไหลอาบโต๊ะ ก่อนที่มันจะค่อยๆไหลกลับไป ราฟมองหน้าของตัวเองในกระจก ''กูจะทำอะไรกันแน่วะเนี่ย'' ราฟพูดกับเงาสะท้อนของตัวเองที่กำลังแสยะยิ้มมาให้ ราฟต่อยกระจกจนแตกกระจาย เศษกระจกบาดมือของราฟจนเลือดอาบ รัมหัวเราะเสียงทุ้มต่ำ เปิดหน้าต่างก่อนจะกระโดดหนีไป เลือดตรงอ่างล้างหน้าก็ไหลตามราฟลงหน้าต่างไปด้วย เลิฟกับเดซี่ถือกระเป๋าลงมาข้างล่างหลังจากเสียงกริ่งบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น ทั้งคู่เดินไปตามทางเดินลาดยาวออกไปหน้าโรงเรียน ''ได้จดของอาจารย์วิทยาไว้มั้ยอะ เราจดไม่ทัน'' เลิฟพยักหน้าแล้วล้วงเอาสมุดส่งให้ ''ตรงสีฟ้าคือพวกที่เค้าบอกว่าอาจจะออกสอบนะ ส่วนที่เหลือก็สีดำ'' ''ละเอียดจริงๆเลยนะเลิฟเนี่ย'' ''เวลาอ่านทีหลังจะได้อ่านง่ายๆไง'' ทั้งคู่เดินออกมาจนถึงหน้าทางเข้า ''ถ้าเดซี่ว่างแวะไปที่หนึ่งกับเราก่อนมั้ย'' ''อื้ม ว่างสิ ไปไหนล่ะ'' ''อยากจะแวะไปร้านสะดวกซื้อที่เคยทำงานหน่อยน่ะ อยู่ไม่ห่างจากทางที่เราเดินกลับมากหรอก อยากจะไปทักทายพี่ที่ทำงานสักหน่อย'' ''โอเค ไปกันเถอะ'' เลิฟพาเดซี่เดินมาเรื่อยๆจนถึงร้านสะดวกซื้อ24ชั่วโมง เลิฟทำงานที่นี่มาตั้งแต่จำความได้ ตอนราคานขอร้องให้ลาออกก็อิดออด แต่ถ้าไม่ลาออกก็จะเรียนได้ไม่เต็มที่อีก การมาทำงานในแต่ละวันนั้นลำบากและอันตรายมาก แต่เลิฟก็มีความสุขเวลาเจอพี่ๆที่ทำงาน เดซี่เหลือบไปเห็นกระถางต้นไม้ที่ดอกไม้เหี่ยวเฉาใกล้ตาย ''เลิฟเข้าไปก่อนเลยนะ'' ''ทำไมล่ะ'' ''ขอจัดการอะไรแปปนึง'' ''โอเค'' ประตูอัตโนมัตเลื่อนเปิดออกเมื่อเลิฟก้าวเข้าไป ''สวัสดีครับ'' เพลนที่นั่งอยู่ตรงเค้าท์เตอร์พูดด้วยเสียงเบื่อหน่าย ''ทำไมเสียงเป็นแบบนั้นล่ะครับพี่เพลน'' เสียงนุ่มๆอันคุ้นเคยที่ไม่ได้ยินมานานทำให้เพลนรีบเงยหน้ามามอง ''เลิฟ โห หายไปนานเลยนะ'' เพลนเดินเข้ามากอดเลิฟ เลิฟกอดตอบ ''คิดถึงนะเนี่ย'' ''คิดถึงพี่เพลนเหมือนกัน พี่เป็นยังไงบ้างครับ'' ''สบายดี ร้านน่าเบื่อชิบหายเลยพอเลิฟไป ต้องมานั่งทนฟังพี่หลุยส์บ่นคนเดียวเนี่ย'' เพลนทำหน้างอนใส่ เลิฟขำ ''แล้วเลิฟล่ะ เป็นไงบ้าง'' ''ผมโอเคดีครับ ที่โรงเรียนก็โอเคดี'' ''แล้วมีเพื่อนบ้างหรือยัง'' ''มีแล้วครับ เป็นคนดีมาก มาด้วยกันนี่แหละครับ เดี๋ยวจะแนะนำให้รู้จัก'' ''ไหน น่ารักหรือเปล่า'' ''น่ารักสิครับ'' เสียงประตูเปิดออกอีกครั้ง เพลนที่เห็นเดซี่เดินเข้ามาก็ตกใจอ้าปากค้าง ''น้องเดซี่'' ''อ้าว พี่เมื่อกลางวัน สวัสดีครับ'' ''รู้จักกันแล้วหรอ'' ''ก็พี่เค้ามาส่งขนมให้เมื่อตอนกลางวัน'' ''จริงด้วย ในร้านมีแค่พี่เพลนเป็นคนส่งนี่นา'' เพลนคิดไม่ถึงว่าเดซี่จะบังเอิญเป็นเพื่อนกับน้องคนสนิท ''แต่เรายังไม่รู้จักพี่เค้าเลยนะ'' ''นี่พี่เพลน'' เดซี่ยิ้มให้ ''สวัสดีครับพี่เพลน'' ''สวัสดีครับน้องเดซี่'' ทั้งคู่แนะนำตัวกัน ท่าทางของเพลนนั้นดูเขินๆจนเลิฟสังเกตได้ ''เราสนิททกับพี่เค้ามากเลย คอยช่วยเหลือเรามาตลอด'' ''อ๋อ ดูท่าทางพี่ก็น่าจะเป็นคนใจดีจริงๆแหละครับ'' เดซี่ยิ้มให้ ''ยังไงพี่ฝากเลิฟให้เดซี่ดูแลด้วยละกันนะ'' ''ไม่ต้อห่วงหรอกครับ เลิฟก็คอยช่วยผมหลายเรื่องเหมือนกัน ช่วยๆกันไปนั่นแหละ'' ''นั่นสิเนอะ ดีจัง'' เพลนเสียอาการมากจนเลิฟเกือบหลุดขำ ''แวะมาซื้อขนมแล้วก็มาทักทายพี่ด้วยแหละครับ'' ''นึกว่าลืมกันไปซะละ'' ''จะลืมได้ยังไงล่ะครับ เลิฟแค่ยุ่งๆเอง'' ''เชื่อก็ได้'' ทั้งคู่เดินเลือกขนมแล้วออกมาจ่ายเงิน ''งั้นผมไปก่อนนะครับ'' เลิฟบอกลาเพลน ''อืม กลับดีๆล่ะ'' เดซี่ยื่นตัวมาข้างหน้า ''ไว้จะกลับมาอุดหนุนใหม่นะครับ แล้วก็ดอกไม้ข้างหน้าน่ะ ถ้าเป็นไปได้ช่วยรดน้ำให้มันหน่อยก็ดีนะครับ'' เพลนหันไปมอง ''เอ่อ อื้ม ได้สิ'' ''หวังว่ากลับมาคราวหน้ามันจะยังอยู่นะครับ'' เดซี่ขำ ทั้งคู่เดินกลับด้วยกัน ระหว่างทางเดซี่นั้นดูเงียบผิดปกติ ''เป็นอะไรหรือเปล่า'' เลิฟถามอย่างเป็นห่วง ''มีคนตามเรามานะ'' ''หรอ'' ''อยู่ข้างหลังน่ะ แต่อย่าหันไปมองนะ'' ข้างหลังของทั้งคู่มีคนที่ใส่เสื้อคลุมสีดำ สวมหมวกปิดหน้าปิดตา เลิฟสัมผัสได้ถึงจิตสังหารรุนแรงที่จ้องมาที่ทั้งคู่ ''เราจะเอายังไง'' ''เดินไปก่อน'' ทั้งคู่เดินไปเรื่อยๆแต่ก็สลัดไม่หลุด แถมแถวนี้ดันไม่มีคนเดินผ่านไปมาอีก ''เราอาจจะถ่วงเวลาเอาไว้ได้ เลิฟเร็วกว่าเรา เลิฟวิ่งไปตามคนมาช่วยได้มั้ย'' ''เราไม่ทิ้งเดซี่ไปหรอก'' ทุกครั้งเลยเวลาที่มีการต่อสู้ เลิฟมักจะถูกบอกให้หนีหรือไปซ่อนอยู่เสมอ แต่ตอนนี้เลิฟไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เลิฟเองก็สามารถดูแลตัวเองได้ ยังไม่ทันที่จะได้คิดต่อ ผู้ชายคนนั้นก็พุ่งใส่ทั้งคู่ เดซี่ผลักเลิฟออกไปด้านข้างจนเลิฟล้มลงไปส่วนตัวเองกระโดดโหนขึ้นไปบนต้นไม้แถวนั้น ผู้ชายคนนั้นหยุดแล้วหันมาประจันหน้าทั้งคู่ ก่อนจะถอดหมวกและเสื้อคลุมออก ( \8 N" ]# h1 R0 j: C
โอเมก้ามือสังหารที่บนชุดมีสัญลักษณ์แมงมุมสีดำส่งยิ้มมาให้ จิตสังหารที่แผ่ออกมานั้นแรงกล้ามาก เลิฟมองหน้ามันแล้วก็ตกใจ มันคือคนของฝูงหงษ์ผงาดที่มาจับตัวเลิฟไป ถ้าจำไม่ผิดน่าจะชื่อกริช ครั้งนี้ดูน่ากลัวกว่าครั้งที่แล้วซะอีก สายตามองมาที่เลิฟเต็มไปด้วยความเคียดแค้น ''ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ'' เดซี่หันมาหาเลิฟ ''รู้จักกันหรอ'' ''เค้าเคยลักพาตัวเราไปน่ะ'' ''พูดแบบนั้นกูเสียหายนะ แค่พาไปเล่นด้วยกันนิดหน่อยเอง'' ''เรื่องมันจบไปนานแล้ว คุณต้องการอะไรอีก'' ใบหน้าของกริชเปลี่ยนจากยิ้มเป็นโกรธจัด ''มึงทำให้ฝูงกูแตก กูต้องกลับมาอยู่หน่วยสังหารอันกระจอกงอกง่อยนี่ ถ้าไม่ใช่เพราะฝูงมึงพวกกูคงสบายไปแล้ว พี่เฟลมกับกูต้องโดนเรียกกลับ พี่วาโยหายสาปสูญ พี่เท้นส์ก็เข้าคุกไปแล้ว ตอนนั้นฝูงมึงมาช่วยไว้ แต่วันนี้มึงอย่าหวังว่าจะรอดกลับไปได้'' ดวงตาของกริชเปลี่ยนเป็นสีส้ม รังสีอำมหิตแผ่ออกมามากขึ้น กระจายเป็นวงกว้าง ท่าทางของกริชนั้นอันตรายมาก เดซี่ดันเลิฟให้ไปอยู่ด้านหลังตัวเอง ''ไม่รู้หรอกนะว่ามีเรื่องอะไรกัน แต่คงปล่อยให้คุณฆ่าเพื่อนผมไม่ได้หรอก'' กริชหัวเราะเยาะ ''พวกอ่อนแอพยายามปกป้องพวกอ่อนแอ น่าสมเพชจริงๆเลยนะ แล้วไม่ต้องห่วง เพราะมึงก็ต้องตายเหมือนกัน'' จู่ๆพวกโอเมก้านักฆ่าที่ซุ่มอยู่ก็เดินกันออกมาล้อมเป็นวง ''เป้าหมายจับตายมีแค่เฉพาะคนในฝูงROMEนะครับพี่กริข'' ''ก็จัดการซะสิ'' โอเมก้าพวกนั้นพุ่งใส่เลิฟทันที เดซี่ยัดถุงเล็กๆใส่มือเลิฟพร้อมกับกระซิบเบาๆ 'โปรยไว้ให้ทั่วที่สุด' เดซี่หันไปหาพวกมัน ''วิ่ง!'' สิ้นเสียงของเดซี่เลิฟก็ออกตัววิ่งทันที เดซี่เข้ามาขวางพวกมัน ควักดอกไม้ในกระเป๋ากางเกงออกมาปาใส่พวกมันเหมือนลูกดอก พวกมันคนหนึ่งแปลงกลายเป็นเกราะกันเอาไว้ มีคนหนึ่งกระโดดมาจากหลังเกราะใช้ดาบฟาดใส่เดซี่แต่เดซี่หลบได้ทัน พวกมันบางส่วนวิ่งตามเลิฟไปได้ ''ฆ่ามันทิ้งไป'' กริชสั่ง พวกโอเมก้านักฆ่า5คนพุ่งใส่เดซี่ทันที เดซี่หลบคมดาบของมันได้ ย่อตัวลงลอดใต้ขาพวกมัน โหนต้นไม้ลอยตัวขึ้นไปแล้วปาลูกดอกดอกไม้ที่แหลมคมปักขาและอกของพวกมัน พวกมันหัวเราะกันใหญ่ ''ทำได้แค่ปาดอกไม้ใส่หรอวะ ขำชิบหาย'' เดซี่ยิ้ม รังสีพลังของเดซี่เพิ่มขึ้นมหาศาลจนพวกมันตกใจ ดวงตาของเดซี่กลายเป็นสีชมพู จู่ๆพวกที่โดนดอกไม้ปักก็มีดอกไม้งอกออกมาจากแผล ออกจากจมูก หู ตา ปาก พวกมันลงไปนอนชักดิ้นชักงอหายใจไม่ออกเพราะดอกไม้ที่เจริญเติบโตอัดแน่นในร่างกาย กริชที่มองดูอยู่ก็โมโห ดีดนิ้ว ลูกน้องอีกส่วนรีบเข้ามารุมเดซี่ ''ระวังดอกไม้!'' กริชสั่งลูกน้อง เดซี่หลบอาวุธและพลังของพวกโอเมก้านั้นได้อย่างคล่องแคลวว่องไว มันคนหนึ่งใช้โซ่เหวี่ยงใส่เดซี่ เดซี่เอี้ยวตัวหลบแต่ก็ต้องชะงัก ดาบยาวทะลุปผ่านท้องของเดซี่ มันรอฉวยโอกาสตอนนี้อยู่แล้ว ''มาได้แค่นี้แหละ'' มันหัวเราะใส่ เดซี่ที่ตอนแรกแกล้งทำเป็นเจ็บยิ้มออกมา เจ้าของดาบนั้นตกใจ เดซี่ดึงดาบออกจากท้อง ตรงบาดแผลของเดซี่มีดอกไม้สีขาวงอกออกมามากมาย ดูดซับเลือดที่ไหลออกมาจนกลายเป็นสีแดงฉาน เดซี่หยิบดอกไม้ที่กระเป๋าเสื้อแล้วปักเข้าที่กลางหน้าผากของนักฆ่าคนนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว มันลงไปนอนชักทันที ดอกไม้มากมายงอกออกมาจนปกคลุมหัวจนมิด ''อั๊ก!'' เดซี่โดนของแข็งกระแทกเข้าที่หลังจนลงไปนอนกองกับพื้นด้วยความเจ็บปวด เงยหน้าขึ้นมอง กริชที่ตอนนี้แขนข้างหนึ่งกลายเป็นกระบองเหล็กส่งยิ้มมาให้ ''เก่งกว่าที่คิดไว้นะ แต่ก็งั้นๆแหละ'' กริชบีบคอของเดซี่แล้วยกตัวเดซี่ขึ้นจนลอย ทางด้านของเลิฟ เลิฟวิ่งหนีพวกมันไปรอบๆ คอยหลบหลีกอาวุธและพลังของพวกมัน มีเฉียดโดนบ้างแต่เลิฟก็ใช้พลังรักษาแล้ววิ่งต่อ เลิฟโปรยเมล็ดที่เดซี่ให้มาไปด้วยระหว่างทาง จนกระทั่งหมดถุง เลิฟหยุดวิ่งฉับพลันแล้วหันหลังกลับวิ่งสวนมาทางเดิมเพื่อไปหาเดซี่ พวกมันยังคงตามมาติดๆ เดซี่กำลังจะขาดอากาศหายใจเพราะแรงบีบของกริช เหลือบตาไปเห็นเลิฟที่กำลังวิ่งมาก็ยิ้ม ดวงตาสีชมพูของเดซี่ส่องประกายขึ้น รากไม้ขนาดใหญ่มากมายงอกออกมาจากเมล็ดที่ถูกโปรยอยูบนพื้น รัดตัวพวกนักฆ่าลอยชึ้นไปบนอากาศแน่น รากอันหนึ่งกำลังจะงอกขึ้นใต้ตัวของกริช กริชปล่อยเดซี่ลงแล้วเปลี่ยนแขนตัวเองเป็นมีดฟันมันขาดแล้วกระโดดหนี เลิฟรีบวิ่งเข้ามาหาเดซี่ที่นอนกองอยู่กับพื้น "เดซี่!'' เลิฟรีบทำการรักษาให้เดซี่ ''เลิฟ หนีไปเลย เราไม่ตายหรอก'' ''ไม่ เราไม่ไปไหนเด็ดขาด'' เลิฟเร่งพลังตัวขึ้นอีกเพื่อรักษากระดูกที่หักของเดซี่ กริชเปลี่ยนมือทั้งสองข้างเป็นใบมีดยาวขนาดใหญ่ เดินลับคมตรงเข้ามาหาทั้งคู่ ''ทีนี้มึงจะไปทำอะไรได้ ไม่มีคนให้พึ่งมึงก็มีแต่ตายเท่านั้นแหละ'' กริชง้างมือขึ้นแล้วฟันใส่เลิฟอย่างจัง ''แกร๊งง!!'' ดาบไม่ถึงตัวของเลิฟ เลิฟกำมีดสั้นด้ามจับสีเขียวคู่ใจไว้ในมือ ไม่รู้ตัวว่าหยิบออกมาตอนไหน กริชกดแขนของตัวเองแรงขึ้นอีก ใบมีดของมันเข้ามาใกล้หน้าของเลิฟขึ้นเรื่อยๆ เลิฟฮึบแล้วดันออกจนกริชเซนิดหน่อย ลุกขึ้นตั้งท่าย่อตัวเล็กน้อย ในมือกำมีดสั้นไว้แน่น กริชประหลาดใจว่าทำไมมีดสั้นธรรมดาถึงสามารถกันดาบของกริชได้ 'ห้ามฆ่าคนนะเลิฟ' เสียงของราคานดังเตือนเข้ามาในหัว แล้วเลิฟจะทำยังไงล่ะ ตอนนี้เลิฟจะถูกฆ่าอยู่แล้ว ''แบบนี้ค่อยสนุกขึ้นหน่อย'' กริชพุ่งเข้าใส่เลิฟแล้วแทงใส่ แต่เลิฟหลบทันทำให้ดาบของกริชแทงพื้น เลิฟออกตัววิ่งทันที ''เหอะ สุดท้ายก็หนีอยู่ดีนี่'' กริชวิ่งตามไปทันที เลิฟวิ่งเรื่อยๆด้วยความเร็วแสง หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะโทรเรียกฝูง แต่แบตดันหมดซะงั้น กริชตามทัน พุ่งเข้ามาดักข้างหน้าแล้วแทงดาบเข้าใส่เลิฟ เลิฟทิ้งตัวนอนลงไปบนพื้นเพื่อหลบคมดาบ ใช้เท้าดีดตัวพุ่งออกไปต่อ ''วิ่งไปอย่าหยุดนะมึง'' กริชพูดอย่างหงุดหงิดแล้วตามเลิฟไปต่อ ปกติเลิฟนั้นเป็นคนที่คล่องแคล่วว่องไวและวิ่งเร็วอยู่แล้ว หลังจากที่ได้ฝึกกับรัมมาเลยรู้วิธีการดีดตัวและพุ่งตัว เทคนิคของรัมบวกกับความเร็วของเลิฟทำให้เลิฟกลายเป็นเป้าหมายที่ยากที่จะจับตัว กริชฟันอย่างบ้าคลั่ง ข้าวของพังเละเทะไปหมด ดาบของกริชนั้นคมจนตัดม้านั่งเหล็กขาดเป็นสองท่อนได้ แต่ไม่ว่าฟันกี่ครั้งก็ยังไม่โดนเลิฟ ตลอดเวลาที่วิ่งดวงตาของเลิฟเปล่งแสงสีเขียวอยู่ตลอดเวลาเพื่อรักษาสภาพกล้ามเนื้อของตัวเองให้คงที่อยู่ตลอด ทำให้วิ่งยังไงก็ไม่เหนื่อย เลิฟเลี้ยวเข้ามาในซอย กริชก็ตามมาติดๆ เลิฟวิ่งเข้ามาจนถึงทางตันที่เป็นกำแพงสูง กริชยืนลับมีด ย่างเท้าเข้ามาหาเลิฟช้าๆ ''กว่าจะหยุดวิ่งได้นะ จนตรอกแล้วล่ะสิ'' กริชพุ่งเข้ามาใช้แขนข้างหนึ่งแทงไหล่ของเลิฟจนทะลุไปติดกับกำแพง เลิฟร้องด้วยความเจ็บปวด กริชหัวเราะสะใจ ''โดนตรึงจะไปไหนได้ล่ะทีนี้'' กริชเงื้อแขนอีกข้างขึ้น ''ตาย!'' เลิฟหลับตา แต่คมดาบของกริชกลับไม่ถึงตัวเลิฟ เลิฟลืมตาขึ้น เถาวัลย์หนามสีม่วงพันแขนข้างหนึ่งของกริชไว้ ''ฮึ้ย ยังไม่ตายอีกหรอมึงอะ'' เดซี่ที่ถูกเลิฟรักษาตามมาได้ทัน เดซี่นั่่งย่อตัวเอามือแตะที่พื้น ดวงตาสีชมพูเปล่งประกาย รากไม้ที่อยู่ตามซอกอิฐโตขึ้นอย่างรวดเร็วเข้ามาพันรดตัวของกริชไว้ ''เลิฟ!'' เลิฟใช้แขนข้างที่ไม่เจ็บใช้มีดสั้นแทงเข้าที่ท้องของกริชที่โดนมัด ''มีดแค่นี้ฆ่ากูไม่ต..'' ดวงตาของเลิฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวเจิดจ้า มีดสั้นของเลิฟเรืองแสงสีเขียว ยาวขึ้นออกจนทะลุตัวของกริชไปอย่างฉับพลัน กริชกระอักเลือด เลิฟจับมือข้างที่เป็นดาบที่แทงไหล่ของตัวเองอยู่ดึงออก ลุกขึ้นยืนเดินเข้ามาหาเดซี่ ''เป็นอะไรมากมั้ย'' ''ไม่มากหรอก ขอบคุณที่มาช่วยนะ'' กริชใช้พลังเฮือกสุดท้าย เปลี่ยนแขนของตัวเองเป็นหอกยาวพุ่งมาที่หลังของเลิฟ เดซี่เห็นทัน ผลักเลิฟออกแล้วเอาตัวเข้ารับแทน หอกนั้นทะลุผ่านอกของเดซี่ เลิฟตกใจมา เดซี่ล้มลง กริชหมดพลัง สงบแน่นิ่งไป เลิฟรีบนั่งลงดูอาการของเดซี่ ''เดซี่!'' เลิฟจับเดซี่พลิกตัว หน้าอกของเดซี่ที่ควรจะมีแผลกลับมีดอกไม้สีแดงดอกใหญ่อยู่แทน ''ดีนะใช้พลังห้ามเลือดทัน'' เดซี่พูดยิ้มๆ ''ยังจะมายิ้มอีก'' เลิฟรีบเข้าไปหากริช เช็คว่าชีพจรของกริชนั้นยังเต้นอยู่แต่แผ่วมาก เลิฟเอามือแตะที่ตัวของกริช ใช้พลังรักษากริชจนเข้าสู่ขั้นปลอดภัย ''ที่เหลือปล่อยให้ตำรวจเค้าจัดการเถอะ เราเรียกมาแล้ว'' เดซี่บอก เลิฟพยักหน้า นั่งลงรักษาแผลให้เดซี่ต่อ ''แล้วแผลเลิฟล่ะ'' ไหล่ของเลิฟนั้นชุ่มไปด้วยเลือด เลิฟเริ่มรู้สึกอ่อนเพลียขึ้นทุกทีจากการเสียเลือดและใช้พลังไปด้วย ''ไม่เป็นไรหรอก'' พูดไม่ทันขาดคำภาพของเลิฟก็ตัดไป เลิฟลืมตะสะลึมสะลือตื่นขึ้นมา ''เลิฟ!'' เลิฟหันไปมอง ภาพลางๆของราคานที่กำลังเป็นห่วงอย่างเห็นได้ชัด ''พี่ราคาน'' เลิฟพูดเสียงแผ่วเบาๆ ค่อยดันตัวขึ้นมานั่ง ราคานช่วยประคองขึ้นมา ตอนนี้เลิฟอยู่ในห้องตัวเองที่บ้านฝูงแล้ว ''ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงหรอครับ'' ''พี่ไปรับเรามาจากโรงพักน่ะสิ'' เลิฟมองไปที่ไหล่ของตัวเองก็เห็นว่าถูกทำแผลแล้ว ''เจ็บตรงไหนอีกมั้ย'' ''ไม่ครับ ผมโอเคแล้ว'' ''เดซี่เป็นคนติดต่อมาหาพี่ผ่านทางตำรวจ เล่าเรื่องให้พี่ฟังหมดแล้ว'' เลิฟรู้สึกของคุณเดซี่ในใจ ''พวกนั้นอีกแล้วใช่มั้ย'' เลิฟพยักหน้า ''พวกแก๊งค์หงษ์ผงาดครับ'' ''แล้วทำไมเราถึงดื้อดันสู้ไปแบบนั้น สะเพร่าแบบนี้ถ้าตายขึ้นมาจะทำยังไง ทำไมไม่เรียกฝูง'' ราคานดุ ''ผมพยายามจะเรียกแล้ว แต่แบตโทรศัพท์ผมหมดน่ะครับ ผมไม่ได้สะเพร่าจริงๆนะ'' ราคานถอนหายใจ เอามือโอบเลิฟเข้ามากอดซบอกตัวเอง ''พี่เป็นห่วงแทบแย่เลยรู้มั้ย'' ''ขอโทษนะครับที่ทำให้เป็นห่วง'' ราคานผละออก ''ต่อไปนี้ ไปไหนมาไหนต้องรายงานพี่ตลอดเข้าใจมั้ย พี่จะได้รู้ว่าตอนนั้นเลิฟอยู่ไหน จะได้ไปช่วยได้ทัน'' ''ครับพี่ราคาน'' ราคานเอามือกุมหัว ''แล้วพี่จะกล้าปล่อยเราไปไหนมาไหนคนเดียวได้ยังไงล่ะเนี่ย'' ราคานพูดด้วยน้ำเสียงเครียด เลิฟรู้สึกผิด ''ไม่เป็นไรหรอกครับพี่ราคาน'' ''ไม่เป็นไรได้ยังไง พี่นั่นแหละผิดที่ไม่ดูแลเราให้ดีกว่านี้'' ''ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ พี่ราคานไม่ได้ผิดเลย เลิฟผิดเองที่ชวนเดซี่เดินไปแถวนั้นแค่สองคน แถมยังไม่ชาร์จแบตไว้อีก'' ราคานถอนหายใจ ''เลิกโทษตัวเองกันเถอะ แล้วนี่เราแน่ใจนะว่าจะไปโรงเรียนไหว'' ''ไหวครับ เดี๋ยวผมใช้พลังรักษาเอาก็ได้'' ''เราเพลียมากตอนนี้ นอนพักผ่อนก่อนเถอะ ค่อยใช้พลัง'' ''ครับ'' ราคานมองเลิฟ ''จากนี้ไปให้พี่ไปรับไปส่งที่โณงเรียนดีมั้ย'' ''ไม่เอาครับ'' เลิฟตอบทันที ''ผมไม่อยากรบกวนพี่ราคานไปมากกว่านี้แล้ว พี่ราคานเองก็มีธุระงานการต้องทำ ผมจะดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ครับ จะไม่ทำให้พี่เป็นห่วง'' ราคานนั่งลง ''รู้มั้ยว่าทุกคนเป็นห่วงเลิฟมากนะ หมอกตอนนี้ขังรัมอยู่ที่คอนโดเพราะจะออกไปอาละวาดกวาดล้างแก๊งค์พวกมัน'' เลิฟนึกภาพออกแล้วก็ขำออกมาเบาๆ ราคานเอามือวางบนหัวของเลิฟ ''พี่บ่นมาเยอะแล้ว งั้นจะชมบ้าง เราทำได้ดีมากนะ เก่งขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย'' คำชมจากราคานทำห้เลิฟนั้นใจฟูขึ้นมา ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข "ขอบคุณมากเลยครับ'' ราคานยิ้ม ยีผมของเลิฟเบาๆ ''เดี๋ยวพี่ต้องออกไปทำงานก่อน เลิฟนอนพักผ่อนนะ'' ''ครับ ไปดีๆนะครับ'' ''เดี๋ยวพี่เข้ามาหาอีกที อยากกินอะไรมั้ย'' ''ไม่เป็นไรครับ'' ราคานออกไปจากห้อง เลิฟนอนมองเพดาน รู้สึกแย่ที่ตัวเองทำให้คนรอบข้างต้องเดือดร้อนไปด้วย เลิฟรู้สึกเหนื่อยมากๆจึงหลับไปอีกรอบ ไม่รู้เวลาผ่านไปนานแค่ไหน เสียงประตูห้องเปิดออกทำให้เลิฟตื่น 1 G- Q# x: x; k* D" p. `
โฬม เลิฟพลิกตัวหันไปมองก็เจอกับโฬมที่ทำหน้าดุดูน่ากลัว ''พี่โฬมสวัสดีครับ'' เลิฟรีบยกมือสวัสดี โฬมไม่ได้ตอบอะไร เดินถือถุงมานั่งลงข้างเตียง ''เป็นยังไงบ้าง'' ''โอเคแล้วครับ'' ''พวกนี้แม่งตามไม่เลิกจริงๆ'' โฬมบ่นอย่างหงุดหงิด ถ้าราคานไม่ห้ามไว้คงตามไปกระทืบพวกนั้นในคุกให้ตายไปเลย ราคานรายงานทุกอย่างให้จ่าฝูงอย่างโฬมฟังแล้ว โฬมเลยรีบทำงานให้เสร็จแล้วบึ่งมาดูเลิฟที่นี่ทันที โฬมรู้สึกโกรธและหงุดหงิดที่ไม่สามารถปกป้องลูกฝูงได้ ''ขอดูแผลหน่อย'' เลิฟปลดกระดุมเสื้อนอน ถลกเสื้อเปิดไหล่ที่มีผ้าพันอยู่ แผลมันใหญ่มากแต่เพราะได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลและการใช้พลังของเลิฟทำให้แผลใกล้หายแล้ว โฬมที่บอกว่าจะดูแผลแต่สายตากลับมองแต่อกขาวๆของเลิฟ นี่ถ้าไม่ติดว่าเจ็บอยู่โฬมคงจะจับกดไปแล้ว "ระวังตัวให้มากกว่านี้'' โฬมพูดเสียงแข็ง ''ครับ'' เลิฟหน้าหงอย โฬมลุกขึ้นยื่นถุงที่เอามาด้วยให้เลิฟ เลิฟมองอย่างงงๆ ''รับไปสิ'' ''ครับ'' เลิฟรับถุงมาเปิดดู ข้างในเป็นเค้กที่โฬมเคยซื้อมาให้กินเมื่อคราวก่อน ''ถ้าหายดีเมื่อไหร่จะประชุมเรื่องนี้อีกครั้งนึง'' ''ครับ'' โฬมพยักหน้า เดินออกไปจากห้อง เลิฟถอนหายใจอย่างโล่งอก นึกว่าจะโดนโฬมดุเยอะกว่านี้ซะแล้ว เลิฟเปิดกล่องเอาช้อนพลาสติกตักเค้กขึ้นมากิน นึกไปถึงคำพูดของพวกนั้น 'เป้าหมายมีแค่เฉพาะคนในฝูงROMEนะครับพี่กริข' จากตอนแรกที่เป้าหมายหลักคือโฬม ตอนนี้มันจะฆ่าทั้งฝูงแล้วสินะ โฬมลงมาข้างล่าง เปิดโน๊ตบุ๊คเช็คประวัติของพวกนักฆ่าที่ถูกจับ ตอนนี้พวกที่อยู่ฝูงหงษ์ผงาดเรียบร้อยกันไปเกือบทุกคนแล้ว เท้นส์และกริชถูกจับขังยาว ส่วนเฟลมและวาโยหายสาปสูญ ไม่รู้ว่าคนที่เหลือจากฝูงนั้นจะกลับมาล้างแค้นอีกหรือเปล่า นอกจากจะต้องระวังแก๊งค์BlacK Spiderแล้วยังต้องระวังพวกนี้อีก ถ้าเอาแต่รอให้พวกมันมาลอบฆ่าเรื่อยๆคงจะไม่ใช่วิถีของโฬม โฬมกดเข้าไปในไฟล์รายชื่อฝูงที่เป็นแก๊งค์BlacK Spiderแฝงตัวมา ล็อคเป้าหมายแรกที่จะไปถล่ม ถ้าจะลอบฆ่ากันขนาดนี้ก็บวกกันไปเลยให้มันสิ้นซากดีกว่า ได้ทั้งกวาดล้างพวกนั้นและพลังอำนาจ |