อันนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นจากประสบการณ์จริงที่ได้ไปออนเซนกับดาราโคตรหล่อที่ยังติดอยู่ในความทรงจำผมเลยอยากแต่งเรื่องที่เป็นการจินตนาการกับดาราระดับโลกที่เผื่อสักวันจะมีโอกาสเจอกันโดยบังเอิญเหมือนที่ไทยบ้าง ถึงไม่ได้แค่ได้จิ้นแบบนี้ก็โอเคแล้ว ผมเป็นเกย์ไทยคนหนึ่งที่เรียนมาทางด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา และมีโอกาสได้ฝึกกับอาจารย์หมอเก่งๆมากมาย จนได้ทุนไปศึกษาต่อด้านไคโรแพรคติกที่สหรัฐเกือบปีผนวกศาสตร์แผนไทยกับวิทยาศาสตร์ตะวันตก ทำให้ผมมีชื่อเสียงทั้งในรัฐที่ไปอยู่รวมถึงการตลาดปากต่อปากที่คนโฆษณากันฟรีไปให้ทั่วโลก แต่การที่ลูกค้าจะเข้ารับการบำบัดกายภาพแก้อาการ หรือจัดกระดูกกับผม ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ง่ายๆตารางเวลางานของผมจัดให้แค่ คนไข้ 1 คนต่อ 1 วันเท่านั้น จะไม่รับเกินกว่านั้นและค่าใช้จ่ายต่อครั้ง ถ้าคุณไม่ใช่อภิมหาเศรษฐีจริงๆ คงไม่ค่อยจะมีใครที่ยอมจ่ายค่ารักษาผมเท่าไหร่นักแต่ถึงอย่างนั้น คิวการรักษาของผม ถ้าคุณจองวันนี้ กว่าจะถึงคิวคุณ คงต้องอีกประมาณอีกเกือบสองปีข้างหน้าหน่ะนะผมมีเทคนิคอะไรที่ลูกค้าประจำของผมส่วนใหญ่ (ที่เป็นผู้ชาย) ต้องจองคิวผมไว้อย่างน้อยเดือนละครั้งบางคนยาวตลอดชีวิตก็มี... ไว้คุณมาดูจากเคสคนไข้ล่าสุดของผมกันนะครับ วันนี้เป็นวันหยุดของผมหลังจากถูกเชิญมารักษาอาการ เศรษฐีญี่ปุ่นที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงที่ยังมีโอกาสในการฟื้นฟูจากการทำกายภาพผมเลยจัดคิว ที่ปกติเป็นช่วงหยุดรับการรักษา 1 อาทิตย์/ปี ลัดคิวสละมาให้เขา 1 วันก็อย่างว่าเปย์ดีอ่ะนะ ส่วนวันที่เหลือก็มามานอนเล่นต่อเลยเศรษฐีคนนี้ก็ใจป้ำใช่เล่น จองห้องพักให้ผมที่ฟูจิสองคืน ก่อนให้กลับมานอนห้องที่แพงที่สุดของ Hoshinoya Tokyo คงหวังซื้อใจให้กลับมารักษาเขาต่อละมั้งใครที่รู้จักโรงแรมนี้ จะรู้ว่านอกจาก Aman แล้ว Hoshinoya ก็เป็นอีกหนึ่งโรงแรมที่มีชื่อเสียงด้านการเก็บรักษาความลับของลูกค้าเพราะฉะนั้นไม่แปลกที่เราจะเดินสวนกับดาราฮอลลีวูด หลายๆคนที่นี่ จากการเรียนรู้กายภาพของมนุษย์ทำให้ผมติดจะปรนเปรอความสุขทางกายให้ตัวเองอยู่เสมอ การมาพักอยู่ที่ญี่ปุ่นข้อดีก็คือ สามารถเข้าออนเซนได้ทุกเมื่อที่ต้องการ และเหมือนเศรษฐีญี่ปุ่นคนนี้จะรู้ใจผมที่เลือกโรงแรมที่มีออนเซนที่โดดเด่นที่สุดให้ผมได้มาผ่อนคลาย จากมาตรการโควิดทางโรงแรมให้แขกบุค เวลาเข้าออนเซนได้วันละ 2 ชั่วโมง และเข้าได้ครั้งละ ไม่เกิน 2คน ผมจึงเลือกเวลาที่คิดว่าไม่มีคนที่สุด และจองหวังจะยึดออนเซนให้เป็นของผมคนเดียว เมื่อถึงเวลาผมถอดเสื้อผ้าและเข้าออนเซน นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เข้าออนเซนของที่นี่ภาพแรกที่เข้าไป มันก็ดูเหมือนออนเซนหรูๆทั่วไป ที่ผนังทำด้วยหินชั้น หินอ่อนที่แสดงถึงความโอ่อ่าแต่จากจุดชำระร่างกาย ในออนเซนนั้นมันมีช่องที่สามารถเดินเชื่อมต่อไปอีกห้องที่เหมือนเป็นสระเชื่อมต่อกัน เมื่อคุณเดินตามเข้าไป มันเหมือนสระน้ำในพระราชวังอย่างไรอย่างนั้นความสูงและแสงธรรมชาติที่ส่องมาจากข้างบน ทำให้บรรยากาศมันช่างผ่อนคลาย ผมดื่มดำกับเวลาพักผ่อนที่มีไม่มากในรอบปีได้ไม่เท่าไหร่เสียงเดินแหวกน้ำมา ทำให้บรรยากาศปลีกวิเวกของผมเหมือนจะพังทลายลง “สวัสดีครับ”เสียงทักทายเป็นภาษาอังกฤษ น้ำเสียงดูเจือความเกรงใจที่เหมือนมาขัดจังหวะอันสุนทรีย์ของผม “ดีครับ”ผมตอบกลับไปตามมารยาท แต่ภาพที่เห็นทำให้ผมถึงกลับชะงัก นี่ดาราที่รับบทเป็นพระเอกที่ถือค้อนของหนังM ที่ดังระดับโลกไม่ใช่เหรอ เขาเดินมาในน้ำโดยมีผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กคล้องอยู่บนไหล่ส่วนล่างเปลือยเปล่า เผยให้เห็นไรขนจากสะดือที่ไล่ลงไปในส่วนที่คลื่นน้ำ ทำให้เห็นสิ่งนั้นได้ลางๆเท่านั้น ผมพยายามละสายตาจากส่วนที่จะดูจะเสียมารยาทในการจ้องมากที่สุดแต่ไม่ทันที่เขาจะทัก “มองได้ครับใครๆก็อยากเห็นไอจ้อน ดาราฮอลลีวูดกันทั้งนั้น ผมชินแล้วแลกกับการที่ผมมาทำลายเวลาส่วนตัวของคุณละกัน” เขายิ้มให้อย่างเป็นกันเองผ่านไรหนวดที่ขับหน้าให้เท่ขึ้นเป็นกอง ในกองทัพ M คนนี้ขวัญใจผมเบอร์หนึ่งเลย ไม่ได้การผมจะปล่อยโอกาสแบบนี้หลุดไปไม่ได้ วันหยุดก็เอาวะ รับงานนอกตารางเป็นการผ่อนคลายเพิ่มหน่อยละกัน “ไม่ใช่อย่านั้นหรอกครับพอดีผมเรียน กายวิภาคมา เวลาเห็นคนหุ่นสมส่วนอย่างคุณ ก็อดจะชื่นชมกับการวางผังกล้ามเนื้อไม่ได้” “โอ้ผมโคตรอยากได้ความรู้เรื่องพวกนี้เลย ผมชอบเสพเรื่องการสร้างกล้ามเนื้อที่สุดถ้าเรื่องนี้ คุณคุยกับผมได้เป็นวันๆ” เขาที่เหมือนกำลังจะเดินไปนั่งอีกมุมของห้องเดินกลับเข้ามาใกล้ เหมือนจะได้หัวข้อคุยที่ถูกคอ “ถ้าคุณไม่รังเกียจที่ผมมาทำลายบรรยากาศสงบๆของคุณ” “ไม่เลยครับผมก็ชอบคุยเรื่องพวกนี้อยู่หมือนกัน แต่จากที่ดู ลอนท้องของคุณ ผมว่าส่วนล่างของซิกแพคคุณมันดูมีจุดที่บวมขึ้นมาอยู่นะ” “คุณคงไม่ได้หมายถึงส่วนนี้ของผมใช่มั้ย”เขาชี้ไป ส่วนลับที่มองเห็นเพียงลางๆของเขา รอยยิ้มกวนๆของเขาทกครั้งทำเอาผมแทบละลาย “ผมซีเรียสนะ เหนือหัวหน่าวด้านซ้ายของคุณมันมีอาการที่เหมือนมีก้อนสโตรค ช่วงต้นคุณอาจจะแค่รู้สึกรำคาญเวลาจะลุกจะนั่งแต่ถ้าคุณปล่อยเรื้อรัง มันอาจจะทำให้คุณเกิดอาการแปลบจนบางทีจะลุกจากเก้าอี้ยังไม่ไหวเลย “นี่คุณมองแค่ปราดเดียวก็วิเคราะห์อาการผมได้เลยเหรอสุดยอด นี่ผมเพิ่งรู้สึกหน่วงๆ ตรงนี้มาสัก สองสามสัปดาห์แต่ติดถ่ายหนังอยู่ที่นี่ เลยยังไม่มีเวลาไปหาหมอเอายามากินเลย” “อาการของคุณกับยาคงบรรเทาได้ชั่วคราว แต่มันต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการออกกำลังที่หักโหมซะมากกว่า” “โธ่ คุณหมออาชีพผม จะไม่ออกกำลังแบบนี้ก็ไม่ได้นะ กล้ามผมต้องบึกตลอดเวลา”เขาเบ่งกล้ามอันน่าขย้ำขึ้นมาให้ดู “เอางี้ ผมจะช่วยจับดูให้สักหน่อยแต่มันคงลดอาการได้ชั่วคราว ไว้คุณว่างค่อยไปหาหมอกายวิภาคอีกครั้งละกันนะ อ่อผมมีใบเซอร์จากสหรัฐอยู่นะ ถ้าคุณต้องการการยืนยันผมคงไม่หาเรื่องสร้างความเสียหายให้สมบัติของฮอลลีวูดหรอก หรือคุณว่าไง” “ไม่ต้องหรอกครับเอาจริงๆตอนเห็นหน้าคุณ ผมว่าผมเคยเห็นในนิตยสารอยู่ ผมก็ว่าหน้าคุ้นๆคุณคงมีชื่อเสียงไม่น้อย เหมือนผมจะเคยได้ยินเพื่อนดารา พูดว่าเคยได้นวดกับคุณหมอที่เป็นคนเอเชียแล้วสุดยอดมากๆ ยังไงผมจะจ่ายค่าเสียเวลาให้นะครับ” “ไม่เป็นไรถือว่าเราดวงสมพงศ์ละกัน คุณขึ้นมานอนบนนี้” ผมชี้ไปบนของของออนเซน เขาก็ก้าวขึ้นไปนอนอย่างว่าง่ายส่วนลับที่ทั่วโลกอยากเห็นปรากฏให้ผมเห็นอยู่เพียงไม่ถึงเมตร ผมถึงกลับแอบกลืนน้ำลาย ขนหัวหน่าวที่ถูกเลเซอร์จนเข้าทรงไม่มีขนที่ดูทะเล่อทะล่านอกพื้นที่การจัดแต่ง กับลำอันอวบยาวที่นอนสงบอยู่ด้วยความที่ขอบออนเซนมันแคบทำให้เขาต้องเอาขาข้างหนึ่งลงมาในน้ำ อีกข้างทอดยาวไป ทำให้ในขณะที่ผมคลำเชคอาการ ไรขนที่ขาของเขาก็ลากผ่านส่วนขาของผมตลอดจนการควบคุมอาการผมจะเริ่มเป๋ๆ ผมได้แต่ท่องพุธโธๆ ในใจเมื่อผมเจอจุดที่จำเป็นต้องแก้ “อดทนนิดนึงนะ”ผมเตือน “แค่นี้คงไม่....โอ้ยยยยยยยยยยยย” ดาราบึกบึนที่ผ่านการสู้รบอันโชกโชน เด้งตัวขึ้นมาขดเป็นกุ้งพร้อมกับแขนผมที่ถูกหนีบอยู่ซอกหว่างขา มันสัมผัสกับความหยุ่นๆไป เต็มๆ โดยเจ้าตัวก็คงไม่ได้รู้ตัว “ทนแปบนึง” “พอก่อน หมอๆให้เวลาผมเตรียมตัว” เขาเอ่ยอย่างเร็วๆจนผมต้องผ่อนแรงกับจุดกดบนตัวเขาเขาถึงค่อยสงบลง แรงบีบบดแขนผมกับไอจ้อนเขาผ่อนลงผมถึงต้องดึงแขนออกมาอย่างแอบเสียดาย “เกิดมา ยังไม่เคยเจ็บแบบนี้มาก่อนเลย” ผมได้แต่หัวเราะเบาๆ“ถ้าคุณไม่ไหว แค่นี้ก่อนก็ได้ ลองลุกขึ้นลุกลงดู ว่าดีขึ้นมั้ย”เขาลุกขึ้นทำท่าสควอซ โดยที่ระดับหน้าผมอยู่ห่างกับไข่สองลูกที่ห้อยลงมาทุกขณะที่เขาสควอซ ทำเอาตาผมแทบลายไม่รู้เพราะภาพตรงหน้า หรือน้ำร้อนที่แช่มาสักพัก “ดีขึ้นเยอะเลยไม่เจ็บแล้ว แต่หมอ อีกทีเหอะ ผมทนได้ ผมอยากให้อาการมันหายขาดอย่างน้อยก็ก่อนกลับไปรักษาที่บ้าน” “เมื่อกี้ยังแค่ครึ่งนะจะทนไหวเหรอ” ผมยิ้มเหมือนเยาะเขา จนดูพระเอกของเราจะหน้าขึ้นสีหน่อยๆ “สบายรอบนี้ผมจะไม่ร้องสักคำ” เขายืนยันเสียงหนัก “เอาล่ะงั้นนอนดีๆ รอบนี้ผมเอาจริงนะ” ผมลุกขึ้นจากน้ำขึ้นไปนั่งอยู่ระหว่างขาของเขา (ตามหลักการรักษานะ)โดยที่เอาผ้าขนหนูพันส่วนล่างของผมเอาไว้ ให้มันดูไม่ประเจิดประเจ้อไปกับพระเอกบึกบึนที่นอนโดยมีแค่ผ้าผืนเล็กที่เลือกเอาไปปิดตาตัวเองซะแล้วคงกลัวออกอาการหน้าดู “พร้อมมั้ยครับ” “ขอผมหายใจลึกๆก่อนหมอ”เขาดูเป็นคนที่กลัวเจ็บอยู่พอตัว ไม่สมกับอาการที่เห็น แต่ก็ดีเวลาที่ไม่ได้หาง่ายๆในการพิจารณาเรือนร่างที่เหมือนเทพบุตรกรีกมานอนอยู่ตรงหน้า ก้อนกล้ามเนื้อที่เหมือนพระเจ้าบรรจงปั้นที่ละลูกไล่ลงมาในส่วนของท่อนลำที่ขนาดหดตัวจากความเจ็บยังไม่น่าต่ำกว่าห้านิ้วที่นอนสงบอยู่ผมว่าผมนวดผู้ชายหล่อเทพมามากมาย แต่คนนี้เอาไปเทียบ คนอื่นๆคงต้องหลีกซ้ายหลีกขวากันตลอดทาง “เอาหล่ะผมพร้อมแล้ว” เขาพูดกับผ้าที่ยังปิดตาอยู่ “โอเคผมจะเริ่มจากผ่อนแรงก่อนนะ” ผมกดในจุดที่ทำเอามนุษย์ค้อนของเรา กัดริมฝีปาก ดื่มด่ำกับความรวดร้าวของกล้ามเนื้อ “หมอๆผมขอเอาผ้าปิดหน่อย กลัวมันหด ผมเขิน” เขารีบเอาผ้าจากตามาปิดที่ของสงวนของเขาจนผมก็งง จะมาอายอะไรป่านนี้ที่ผมเห็นไปจนถึงรังอสุจิ เมื่อผมเริ่มกดต่อ ผมก็มาถึงบางอ้อพี่ค้อนของเรากำลังจะควบคุมลูกชายตัวเองไม่ได้ตามธรรมชาติทั่วไป ในตัวเราทุกคนต่างมีความดื่มด่ำในความทุกข์ทรมานที่จะเป็นหนึ่งในแรงขับทางเพศกันเป็นปกติ ลำที่นอนสงบอยู่ในผ้าค่อยขยับๆ และเริ่มแข็งตั้งดันผ้าขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจพระเอกของเรา “โทษทีหมอผมไม่ค่อยชินกับการที่คนมาโดนตัวแบบนี้” “เรื่องธรรมดาของคนไข้ไม่ต้องคิดมากครับ ผมจะเพิ่มแรงละนะ” ผมพูดไม่ให้เวลาตั้งตัว “เชี่ย” เขาอุทานออกมาอย่างดังก่อนขาจะหนีบตัวผมตามธรรมชาติของคนที่ต้องการการยึดเหนี่ยว มันทำให้ลำของเราทั้งสองไปบดกันซึ่งตัวผมเองแข็งขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จำไม่ได้เพราะกำลังโฟกัสกับการรักษาอยู่ “ไม่ไหวๆ”พี่ค้อนรัดตัวผมแน่นขึ้น พร้อมตะโกนออกมาอย่างดัง โดยที่เขาคงไม่รู้สถานะของเราที่มันดูหมิ่นเหม่แค่ไหนหน้าเขาแดงกล่ำ แต่มันกลับเป็นภาพที่ทำเอาผมอดไม่ได้ที่อยากจะบดริมฝีปากเขาขึ้นมา เมื่อผมเกือบถลำตัวทำผิดจรรยาบรรณ “เกิดอะไรขึ้นรึเปล่าครับ”พนักงานดูแลห้องอาบน้ำที่รีบเปิดมาตามเสียง ทำให้เขาหนีบผมแล้วเหวี่ยงทั้งผมและเขาลงน้ำผมและเขาโผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ โดยที่เขาเอาตัวผมบังตัวเขาเอาไว้ ก่อนบอกพนักงานว่า ไม่มีอะไร ไม่อยากจะคิดเลยถ้าเราไปอยู่ในโรงแรมที่ไม่โด่งดังเรื่องการรักษาความลับลูกค้าพรุ่งนี้หัวข้อข่าวซุบซิบจะขึ้นว่ายังไง ในขณะที่พนักงานยังพยายามเมคชัวร์ว่าเราไม่เป็นไรค้อนของพี่พระเอกกำลังทาบอยู่บนหลังของผมเต็มๆ ในที่สุดเขาก็กล่าวสั้นๆว่า “เวลาออนเซนที่จองจะหมดแล้วยังไงเชิญลูกค้าไปใช้บริการต่อที่ออนเซน “ในห้องส่วนตัว”นะครับ” “......” “......” พนักงานกล่าวก่อนขอตัวออกไปทำให้ผมต้องละออกมา “มันเป็นสภาวะปกติที่คนไข้จะมีอาการแข็งตัวขององคชาติ ไม่ต้องประหม่าไปนะครับ เท่าที่รักษาไปน่าจะพอทุเลาอาหการคุณได้พอสมควรยังไง ผมขอตัวก่อนนะครับ”ผมกล่าวก่อนหันหลังรีบจ้ำอ้าวจากความอัปยศที่ผมกำลังมีอารมณ์กับลูกค้าของตัวเอง “หมอ...” เสียงเอ่ยแผ่วเบาที่ไล่ตามหลังผมมา ผมหันกลับไปสบตากับดวงตาเข้มๆที่ตอนนี้ดูมีคามแดงจากหน้าลามไปถึงหู โคตรน่ารักเลยอ่ะ “ผมยังรู้สึกหน่วงๆอยู่เลยคุณหมอจะชาร์จผมเท่าไหร่ก็ได้ แต่เดี๋ยวไปรักษาให้ผมต่อในห้องพักนะครับห้องผมเบอร์.... ทุ่มนึง ผมจะให้เขาเอาเตียงนวดมาเตรียมไว้ ถ้าหมอไม่มา หมอจะอยู่ห้องไหนผมจะไปหา แล้วผมจะไปเคาะห้องหมอทั้งคืนจนกว่าหมอจะยอมมานะ”ทำไมรวบรัดตัดความและมัดมือชกแบบนี้ล่ะ เขาเอาผ้าปิดสภาพลำที่ยังดูปิดไม่มิดและเดินผ่านผมไปทั้งที่ผมยังไม่ตอบอะไรสักคำ “ผมไ..” “ผมพูดจริงทำจริงนะหมอ ยังไงถือว่าทำเพื่อกอบกู้โลก ให้ดาราคนนี้ได้แสดงหนังอย่างสบายตัวเพื่อผู้ชมจะได้มีความสุขนะครับ” เขาพูดเสร็จก็เดินออกไป ทิ้งให้ผมต้องรับงานด่วนในวันหยุดอย่างจำใจ(รึเปล่า) สวัสดีครับไม่เคยแต่งเรื่องแนวแบบนี้เลย ไม่สนุกหรือไม่สุดยังไง ก็ขออภัยสำหรับมือใหม่หัดแต่งนะครับยังใช้คำแทนไม่ค่อยถูกเลยว่าจะเรียก ตรงนั้นว่ายังไงดีในเรื่องเสียวแบบนี้ คนเขียนก็เขิน55 แต่ถ้าชอบ ไว้รอตอนต่อไปนะครับ
( ^; O! z* Q$ C L8 u; k1 N |