แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kantanaty เมื่อ 2023-3-8 14:27 4 p4 K, K( R* t+ Y5 w$ ^3 k6 T
' I. n6 I# U& u+ n# W& p
1 d7 R3 O$ N) h8 V# u
เลิฟ
( P1 {8 W, e# c1 o$ M
ราฟ เลิฟเดินเข้ามาในห้องเรียนห้องเดิมตอนอยู่คลาสB จากวันนั้นที่ได้ลองไปเรียนคลาสA บรรยากาศที่นั้นไม่เหมือนห้องเรียนเลยสักนิด เหมือนสนามรบมากกว่า ทุกคนนิ่งเงียบ ไม่พูดคุย ตั้งใจเรียนแข่งขันกัน ต่างจากห้องธรรมดาที่ทุกคนใช้ชีวิตสมกับเป็นวัยรุ่นทั่วไป เลิฟดีใจที่ตัวเองได้ขึ้นคลาสA แต่ขออยู่ที่นี่ดีกว่า เลิฟนั่งลงที่ของตัวเอง วันนี้ก็มีขนมวางอยู่ใต้โต๊ะอีกแล้ว เลิฟมองไปรอบๆหาตัวคนให้ อัลฟ่าหนุ่มคหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างหน้าโบกมือมาให้อย่างเขินๆ เลิฟยิ้ม แกะขนมห่อนั้นออกาหักครึ่ง ลุกขึ้นเดินไปหาอัลฟ่าคนนั้น ก่อนจะยื่นขนมให้ ''แบ่งกันกินสิ'' ''อ้อ โอเค'' อัลฟ่าคนนั้นรับไป เพื่อนในกลุ่มเอาแขนกระทุ้งแซวกันใหญ่ เลิฟกลับมานั่งที่ มองไปที่ข้างๆที่ว่างอยู่ มีเพียงดอกไม้ที่วางอยู่รอบๆ เดซี่ยังไม่มาอีกหรอ ปกติเดซี่จะมาก่อนเลิฟอยู่เสมอ คงจะเหมือนวันนั้นที่อาจารย์เรียกตัวไปล่ะมั้ง เลิฟพยายามไม่คิดอะไรแล้วเอาขนมขึ้นมากิน เลิฟรอไปอีกนานแต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของเดซี่ เพื่อนเข้ามาในห้องจนครบ เวลาเริ่มใกล้ที่จะเข้าเรียน เลิฟเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกไปหาเดซี่ แต่เดซี่ก็ไม่รับ โทรไปหลายสายก็ยังไม่รับ ครูเดินเข้ามาในห้อง ทุกคนนั่งที่ของตัวเองอย่างเรียบร้อย สงสัยเดซี่จะตื่นสายล่ะมั้ง แต่ก็ไม่น่านี่นา จนจบคาบแรกเดซี่ก็ยังไม่มา ไม่สบายหรือเปล่านะ เลิฟไม่รู้บ้านของเดซี่ด้วย จะไปเยี่ยมก็ไม่ได้ เลิฟเรียนอย่างไม่ค่อยมีสมาธิสักเท่าไหร่เพราะเอาแต่คิดเรื่องเดซี่ จากเหตุการณ์ที่มอปแปลงร่างเป็นเดซี่ทำให้เลิฟรู้สึกไม่ปลอดภัย ทั้งกับตัวเองและคนรอบข้าง เลิฟลงมานั่งกินข้าวที่โรงอาหารคนเดียว โทรออกไปหาเดซี่อีกครั้ง ยังคงไม่รับสายเหมือนเดิม "ทำไมไม่รับสายนะ'' เลิฟนั่งคิดไม่ตก ''เป็นอะไรหรอ'' ราฟเดินมานั่งข้างๆ ตอนนี้กลุ่มของเลิฟกลายเป็นว่ามีสามคนคือเลิฟเดซี่และราฟ ราฟเป็นคนที่แปลกๆนิดหน่อยตรงที่ทั้งวันจะหายไป จะโผล่มาแค่ช่วงพักเท่านั้น แต่ราฟเป็นคนที่นสัยดีและเรียนเก่ง ชิลๆง่ายๆเลยสนิทกับทั้งสองคนได้ไม่ยาก ''เดซี่อะดิ ไม่มาเรียนแถมยังไม่รับโทรศัพท์เราอีก'' ''อาจจะป่วยนอนพักอยู่หรือเปล่า'' ''คงงั้นแหละมั้ง แต่ปกติเวลามีอะไรเดซี่ก็จะบอกเราตลอดนี่นา'' ''นั่นสินะ'' ราฟเอามือจะโอบไหล่เลิฟเพื่อปลอบ ''โอ๊ย!'' ''เป็นอะไรราฟ!'' ''เปล่าๆ แค่ปวดแขนนิดหน่อย สงสัยผิดท่า'' ''ระวังหน่อยสิ'' ''เอาเป็นว่าอย่าคิดมากเรื่องเดซี่เลย เดี๋ยวก็ได้เจอกันแล้วแหละ'' ราฟยิ้ม ดึงแขนเสื้อลงมาปิดรอยแผลไหม้รูปไม้กางเกงขนแขนของตัวเอง ราฟลุกขึ้น ''เราไปก่อนนะ'' ''ไม่กินข้าวด้วยกันก่อนหรอ'' ''ไม่หิวน่ะ'' ราฟโบกมือให้แล้วเดินหายไป แปลกคนจังนะ เลิฟนั่งกินข้าวต่อ เดี๋ยวค่อยโทรหาอีกทีตอนกลางคืนละกัน
0 w! x( T" K" x" m( a0 u
หมอก 'มาเล่นด้วยกันสิหมอก' 'หมอก เจอกันพรุ่งนี้นะ' 'กินขนมปังมั้ย' 'ดอกพยับหมอกน่ะ' 'ปลูกขึ้นแล้วเอามาให้เราดูด้วยนะ' 'บ๊ายบายหมอก' หมอกสะดุ้งตื่นขึ้น เหงื่อออกเต็มไปหมด หมอกเลื่อนตัวขึ้นมานั่ง มองออกไปข้างนอกที่แดดส่องเข้ามา หมอกฝันถึงเด็กผู้ชายคนนั้นอีกแล้ว เพราะหมอกตั้งใจฝันนั่นแหละ ตั้งแต่ที่ให้ฟาวด์ช่วยตามหาเด็กผู้ชายคนนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้านักนอกจากที่ว่าเค้ายังมีชีวิตอยู่ที่ไหนสักแห่งในเมืองนี้ หมอกอยากเจอคนคนนี้มาก แต่เค้าอยู่ที่ไหนกันนะ หมอกลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่ระเบียง เอาบุหรี่ขึ่นมาจุดสูบ พ่นควันออกจากปาก จะว่าไปการไปรบกวนฟาวด์แบบนี้มันดีหรือเปล่านะ แต่ฟาวด์เองก็ดูเต็มใจมากที่จะช่วย อีกฝ่ายบอกเองนี่นาว่าเต็มใจ ถึงหมอกจะดูเป็นคนเย็นชาแต่จริงๆก็เป็ฯคนที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นมากเหมือนกัน วันนี้หมอกก็จะไปให้ฟาวด์ช่วยอีกครั้ง เพราะเหมือนจะเห็นดีเทลเล็กๆที่ไม่เคยสังเกในฝันมาก่อนเพิ่มขึ้น หมอกก้มมองไปที่เป้าของตัวเอง ควยหมอกแข็งดันกางเกงจนแทบจะทะลุ เป็นอย่างนี้ทุกเช้าสิน่า เสียงเคาะประตูห้องหมอกังขึ้น ''ขออนุญาตครับ'' ลูกน้องโอเมก้าของที่บ้านที่หน้าอกมีป้ายชื่อว่าโทนเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับรถเข็นใส่ถาดอาหารเช้า ''อาหารเช้าครับคุณหมอก'' ''เอาไว้ตรงนั้นแหละ'' โทนเข็นรถเข็นไปไว้ข้างเตียง ยกถาดออกมาจัดเตรียมอาหารให้หมอก หมอกมองยั้นท้ายกลมกลึงของโทนแล้วยิ้มออกมา ยื่นมือไปบีบคลึงตูดของโทน โทนตกใจหันมา หมอกยักคิ้วให้ ''ขอกูกินอย่างอื่นก่อนละกัน'' หมอกนั่งลงที่ปลายเตียง ถอดเสื้อของตัวเองออก เผยให้เห็นหุ่นล่ำๆของหมอก อกหนาไหล่กว้าง กล้ามแขนเป็นมัดๆ กล้ามแน่นจนเห็นเส้นเอ็น ซิกแพคที่หน้าท้องเรียงกันเป็นแพดูเซ็กซี่ ถอดกางเกงออก ต้นขาหมอกนั้นแน่นมาก มีไรขนอ่อนๆ ควยหมอกแข็งเป็นลำอยู่ในกางเกงใน โทนยืนมอง กลิ่นฟีโรโมนของหมอกแผ่ออกไปทั่วห้อง ทำให้ไปกระตุ้นความเงี่ยนของโทน โทนคลานเข่าเข้าไปหาหมอก หมอกกดหัวโทนลงกับเป้าชุ่มเหงื่อของตัวเอง กลิ่นควยอับๆของหมอกทำเอาหัวโทนหมุนไปหมด โทนขบกัดเบาๆไปตามลำควยของหมอก หมอกดึงกางเกงในลง ควยใหญ่ยาว13นิ้วเด้งออกมาตีหน้าของโทน หมอกถุยน้ำลายใส่หน้าโทนแล้วจับควยตัวเองถูหน้าโทนไปมา กลิ่นควยของหมอกเต็มหน้าของโทนไปหมด ''อมเข้าไปสิ ชักช้าอยูได้'' ''ครับ'' โทนแลบลิ้นออกมาแตะตรงปลายควยของหมอกที่มีน้ำหล่อลื่นเยิ้มอยู่ เอาควยหมอกเข้าปากแล้วดูดอย่างเมามันส์ ''ซี้ดดด'' โทนอมควยหมอกอย่างหิวกระหาย สอดลิ้นเข้าไปเลียวนใต้หนังหุ้ม เอามือขยำควยตัวเองไปมา ถอกควยของหมอกลง หัวควยบานสีชมพูโผล่ออกมา โทนเลียไปตามแง่งควยของหมอก ตวัดลิ้นเลียรัวๆ ดูดหัวควยของหมอกเน้นๆ หมอกจิกหัวของโทนไว้ เด้งเอวเย็ดปากของโทนอย่างเมามันส์ ''อ๊อก ออก ออก อ๊อก'' ควยหมอกใหญ่คับปากของโทนไปหมด หมอกกระแทกควยเข้ามาไม่ยั้ง แทงเข้ามาลึกจนโทนสำลักน้ำตาเล็ด หมอกกดหัวของโทนจนชิดกับโคนหมอยตัวเองค้างไว้ ''อ๊อก ออก'' หมอกถอนควยออกจากปาก น้ำลายโทนไหลเยิ้มติดควยหมอกมา หมอกจับควยแฉะๆตีหน้าของโทนรัวๆอย่างแรงจนหน้าสั่น หมอกยกตัวโทนขึ้นมาอย่างง่ายดายแล้วโยนลงไปบนเตียง ฉีกเสื้อผ้าของโทนออกจนหมด เผยให้เห็นหุ่นลีนๆของโทน เอวบางผิวขาวดูยั่วยวน กลิ่นโอเมก้าของโทนทำเอาหมอกเงี่ยนไปหมด หมอกยกขาของโทนขึ้นสูง รูหีสีชมพูขมิบไปมาเพราะความเงี่ยน หมอกถุยน้ำลายใส่รูของโทนเอาควยถูไปมา ดันควยเข้าไปจนสุดลำ ''อึก อ๊ะ'' ควยหมอกใหญ่คับหีโทนไปหมด แทงเข้ามาลึกจนโทนทั้งจุกทั้งเสียว หมอกเด้งเอวเย็ดหีของโทนเป็นจังหวะ ''อ๊ะ อ๊ะ อะ อาา'' ''ซี้ดดด'' หีโทนทั้งแน่นทั้งอุ่น ล็อคควยของหมอกเอาไว้แล้วขมิบตอดควยหมอกอย่างบ้าคลั่ง หมอกจับเอวของโทนไว้แล้วกระแทกควยเข้าไปไม่ยั้ง หมอกดึงแขนของโทนไว้แล้วซอยหีโทนอย่างเมามันส์ สอดควยเข้าออกหีของโทนและแรง ''อะ อาาา อืออ'' ควยหมอกแทงเข้าไปลึก กระแทกจุดเสียวของโทนไปมาจนเสียวไปหมด ควยโทนแข็งกระดกขึ้นลงเพราะความเสียว หมอกเร่งจังหวะซอยขึ้นเรื่อยๆ กระแทกซ้ำแล้วซ้ำเล่า โทนกำควยตัวเองสาวขึ้นลง หมอกบีบคอโทนไว้แล้วกระแทกรัวๆ ''อะ อ๊ะ'' โทนน้ำแตกออกมาคามือ หมอกยังไม่หยุดซอย เด้าหีของโทนรัวๆ ''อาาาา ซี้ดดด'' หมอกกระแทกควยเข้าไปสุดลำ น้ำแตกเข้าไปในหีของโทน มันเยอะมากจนเล็ดออกมาตามข้างควย หมอกจับโทนนอนคุกเข่าท่าหมา เด้งเอวเย็ดหีโทนต่ออีกรอบทันที ''งึก อึก อาาา'' ''อูยย ซี้ดดด'' หมอกกระแทกควยเข้าไปในหีโทนอย่างเมามันส์ ตีตูดของโทนไปมาอย่างแรงจนเป็นรอยมือแดง หมอกดึงแขนของโทนมาข้างหลังแล้วซอยหีโทนไม่ยั้ง หุ่นของหมอกล่ำขึ้นกว่าเดิม กล้ามของหมอกแน่นตึงเปรี๊ยะ ตอกควยเข้าไปในหีของโทนอย่างเร็วและแรง ''อึก อะ อาาา'' ควยหมอกแทงเข้ามาลึก กระทุ้งจุดเสียวของโทนย้ำๆจนเสียวแทบขาดใจ ควยโทนแข็งขึ้นมาอีกครั้ง หมอกจิกผมของโทนดึงไว้แล้วซอยรัวๆ ''โอยยย อ๊ะ อาาาา'' โทนเสียวจนหัวขาวโพลนไปหมด สั่นไปทั้งตัวเพราะแรงกระแทกของหมอก เสียงเนื้อกระแทกกันดังไปทั่วห้อง กลิ่นตัวของหมอกที่ลอยออกมาทำให้ไม่มีความคิดอะไรในหัวนอกจากความเงี่ยน หมอกเด้าไม่ยั้ง ''อะ อ๊ะ'' โทนควยกระตุกน้ำแตกออกมาไม่หยุด หมอกซอยเร็วขึ้นเรื่อยๆ ''โอยยยย อ้าาา! สัส!'' หมอกตอกควยเข้ามาเต็วแรง ควยของหมอกขยายใหญ่ขึ้นจนคับรู หีของโทนล็อคคอยหมอก หมอกปล่อยน้ำควยกระฉูดเข้าไปในหีของโทนจนอุ่นไปหมด น้ำควยขาวขุ่นพุ่งเข้ามามากมาย หมอกนั่งค้างไว้สักพักจนควยหดลงแล้วจึงดึงออก น้ำควยมากมายทะลักออกมาเลอะเตียง ''ทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วยล่ะ'' หมอกสั่งก่อนจะเดินหยิบผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป อาบน้ำล้างหน้า เดินออกมาใส่เสื้อผ้า ลงมาข้างล่าง ขับรถออกไปจากบ้าน
/ P9 i; U( T4 b" ~
ฟาวด์ เสียงนกร้องกันแข็งขันในตอนเช้าตรู่ แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่างพาดลงบนใบหน้าของร่างเล็กที่นอนหลับอยู่ ''อือออ'' ฟาวด์หยีตาหนีแสง พลิกตัวหันไปอีกทาง มือควานหยิบโทรศัพท์มาดูเวลา เลื่อนตัวขึ้นมานั่งเกาหัวอย่างงัวเงีย ''หาวว'' ฟาวด์ปิดปากหาว ขยี้ตามห้ตื่น ลุกจากเตียงเดินไปเปิดม่านให้แสงแดดส่องเข้ามาเต็มที่ ถอดเสื้อผ้าออกใส่ตะกร้า หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป ฟาวด์หมุนเครื่องทำน้ำอุ่นเปิดน้ำให้ไหลลงมารดร่างกาย อาบน้ำล้างตัวให้สะอาดด้วยครีมอาบน้ำกลิ่นดอกไม้รุนแรงเพื่อกลบกลิ่นโอเมก้าของตัวเองให้เบาลง เดินมาที่อ่างล้างหน้า หยิบครีมระงับกลิ่นโอก้ามาทา เกิดเป็นโอเมก้านี่ยุ่งยากจังนะ ฟาวด์ต้องทำนู่นี่นั่นหลายอย่างเพื่อป้องกันตัวเองจากพวกอัลฟ่าขี้เงี่ยนที่จะทำอะไรกับตัวเองก็ได้ แต่ทำไงได้ล่ะ เราเลือกเกิดไม่ได้นี่นา ฟาวด์ยิ้มกับตัวเองในกระจก ชีวิตฟาวด์ตอนนี้ถือว่ามีความสุขกว่าแต่ก่อนมาก ฟาวด์เป็นเด็กกำพร้าที่เร่ร่อนไปตามที่ต่างๆ ดำรงชีวิตอยู่ด้วยการลักเล็กขโมยน้อย ถูกจับได้เข้าคุกมาก็หลายครั้งแต่ก็แค่ความผิดเล็กๆน้อย ระหว่างโดนจับได้แล้วถูกซ้อมฟาวด์ยอมเข้าคุกไปนอนเย็นๆสักคืนสองคืนยังดีกว่า ฟาวด์ได้รับการช่วยเหลือจากอัลฟ่าที่ชื่อทันซึ่งเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ที่มีชื่อเสียง ทันให้ฟาวด์อาศัยอยู่ที่ชั้นบนของร้านและทำงานในร้านได้ค่าจ้างด้วย ตอนแรกฟาวด์ก็แอบกลัวว่าจะโดนหลอกเอาไปทำอะไรหรือเปล่า แต่ชีวิตฟาวด์ตอนนั้นมันไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ฟาวด์คิดถูกมาที่มากับทัน ทุกวันนี้ยังคงขอบคุณทันสุดหัวใจที่ช่วยให้ฟาวด์ไม่ถลำลึกกับการทำเรื่องไม่ดีแล้วกลับมาเป็นผู้เป็นคนได้ ฟาวด์เปิดตู้เสื้อผ้า หยิบชุดออกมาใส่ จัดผมของตัวเองเล็กน้อยหน้ากระจก เดินลงมาที่ชั้นล่าง เปิดเครื่องทำกาแฟและอุปกรณ์ทำน้ำต่างๆ หยิบผ้ามาเช็ดโต๊ะและเก้าอี้ซึ่งมีอยู่แค่ไม่กี่ตัว ร้านดอกไม้ของทันเป็นคาเฟ่ในตัว สามารถมานั่งสบายๆทำงานผ่อนคลายพร้อมกับเลือกวซื้อดอกไม้ที่ชอบกลับไปด้วย รายได้ตรงนี้เป็นแค่ส่วนเล็กเท่านั้น รายได้หลักของร้านคือพวกคนรวยที่มักจะมาจ้างดอกไม้ร้านทันไปตกแต่งงานเลี้ยงต่างๆ หรือใช้ในโอกาสสำคัญอยู่เสมอ ฟาวด์เป็นคนที่ชอบดอกไม้อยู่แล้วการทำงานในร้านเลยเป็นเรื่องที่สนุกของฟาวด์ ฟาวด์มีหน้าที่เปิดร้านทุกเช้า ส่วนตอนปิดร้านทันมักจะอยู่ช่วย ทันจะเข้ามาร้านช่วงบ่ายๆ ดวงตาของฟาวด์เปลี่ยนเป็นสีส้มส่องสว่าง หยิบบัวรดน้ำเดินรดน้ำต้นไม้ไปตามแถวทั่วทั้งร้าน ความสามารถของฟาวด์นั้นเป็นประโยชน์ในการทำงานมาก พลังของฟาวด์คือการพบเจอ เวลาหาอุปกรณ์ไม่เจอหรือมองหาดอกไม้ชนิดไหน แค่ฟาวด์นึกถึงรูปร่างของมันก็สามารถเดินไปตรงจุดที่สิ่งของนั้นอยู่ได้ทันที ยิ่งใกล้หรือมีข้อมูลเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสิ่งนั้นเยอะก็จะยิ่งเจอเร็ว แต่ถ้ามีข้อมูลน้อยหรือจำได้แค่ลางๆจะใช้เวลามากขึ้น ถึงจะใช้เวลานานหน่อยแต่ถ้าสิ่งนั้นมีอยู๋จริงบนโลกรับรองว่าฟาวด์จะหามันเจอแน่นอน แต่มีเงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่งอยู่คือ ถ้าฟาวด์ไม่อยากหามัน แม้ว่ามันจะอยู่ในกระเป๋ากางเกงของฟาวด์ ฟาวด์ก็จะหาไม่เจอ เพราะงั้นฟาวด์ถึงไม่เคยเจอหน้าครอบครัวตัวเองเลยยังไงล่ะ ฟาวด์เปิดม่านในร้าน ไขโซ่คล้องประตูร้านแล้วเปิดออก ตั้งป้ายต้อนรับไว้ข้างๆ ดีงร่มหน้าร้านขึ้น ร้านพร้อมเปิดทำการแล้ว ฟาวด์กลับเข้ามาในร้านฟาวด์มีหน้าที่เสิร์ฟเครื่องดื่มและดูแลลูกค้า ฟาวด์ไม่ได้เรียนสูงแต่กลับมีความรู้เรื่องดอกไม้อย่างเชี่ยวชาญจนทันไว้ให้ฟาวด์ให้คำแนะนำลูกค้าได้ ฟาวด์ถือดอกไม้กำใหญ่หลายชนิดมาวางบนโต๊ะ งานอีกอย่างของฟาวด์คือการจัดดอกไม้ตามออเดอร์ของลูกค้า บางคนก็สั่งจัดเป็นช่อให้แฟนให้เพื่อน ไม่ก็สั่งให้เตรียมเพื่อนำไปจัดที่บ้านของพวกคนรวยที่มีงานเลี้ยง ทันมีรายได้ที่สูงมากแต่ให้ค่าจ้างฟาวด์ไม่ได้น้อยเลย เงินเดือนแค่เดือนเดียวมันมากกว่าเงินที่ฟาวด์ขโมยเล็กขโมยน้อยมาทั้งปีซะอีก แถมยังมีที่อยู่มีของกินในตู้เย็น ฟาวด์เองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีได้เจอคนดีแบบนี้ ตอนนี้ลูกค้ายังไม่เข้าร้าน ฟาวด์เอากระดาษห่อมาวางแล้วเริ่มจัดดอกไม้ เปิดคลิปการบุกโค่นฝูงมัจฉาพิโรธที่ฉายที่กำลังโด่งดังอยู่ในขณะนี้ ฝูงROMEตอนนี้เป็นที่พูดถึงกันอย่างมากนวงกว้าง ว่าเป็นฝูงหน้าใหม่มาแรง ก่อตั้งมาได้ไม่นานก็โค่นฝูงที่น่าเกรงขามอย่างหงษ์ผงาดและเขี่ยวพยัคฒ์ได้ในเวลาไล่เลี่ยกัน และล่าสุดยังทำลายฝูงมัจฉาพิโรธที่มีประวัตยาวนานได้อีก แม้ฟาวด์จะมีความสุขกับการได้อยู่ท่ามกลางดอกไม้ใชีวิตอย่างสงบสุขแต่ความฝันจริงๆของฟาวด์คือการเข้าฝูง ฟาวด์ชอบการต่อสู้และความผาดโผนอันตราย มันทั้งตื่นเต้นและเร้าใจ แต่ก็ทำได้แค่ดูวิดิโอการต่อสู้ล่ะนะ ฟาวด์เรียนไม่จบ พื้นฐานการต่อสู้ก็ไม่ได้เรียน มีแค่ประสบการณ์นิดหน่อยที่ใช้หนีเวลาขโมยของ คงไม่มีฝูงไหนรับฟาวด์เข้าไปหรอก มีแต่จะไปเป็นตัวถ่วงซะเปล่าๆ กล้องวงจรปิดฉายให้เห็นภาพของโอเม้าตัวเล็กดูคุ้นตาที่กำลังยืนประจันหน้าอยู่กับน่าฆ่าโอเมก้าที่เปลื่อยเปล่า ฟาวด์มองดีๆถึงเห็นว่าเป็นเลิฟ ฟาวด์กับเลิฟเคยเจอกันเพราะ ฟาวด์เคยไปขโมยอาหารที่บ้านฝู.ฟงษ์ผงาดแล้วถูกจับได้ ดีที่หมอกมาช่วยไว้และพาไปให้น้ำรักษา ตั้งแต่คราวนั้นนฟาวด์ก็ไม่ได้เจอเลิฟอีกเลย แต่จำได้ว่าเป็นโอเมก้าที่จิตใจดี เลือดสาดกระเซ็นเต็มกล้องพร้อมกับดาบในมือของเลิฟที่ทะลุกลางหัวของคู่ต่อสู้ไป ฟาวด์ตาโตตะลึง ทึ่งว่าเวลาผ่านมาเลิฟเก่งขึ้นไปขนาดนี้แล้วหรอ เลิฟคนน่ารักบอบบางคนนั้นน่ะนะ เหมือนการต่อสู้ที่เก็บได้จะมีแค่จากตัวบ้านเท่านั้น ฟาวด์แอบเสียดายนิดหน่อย กล้องของนักข่าวจับภาพขอองอัลฟ่าร่างใหญ่ที่เดินลงมาจากเรือได้ ฟาวด์กดหยุดภาพทันที หมอกนั้นเท่มากจริงๆ ตั้งแต่ตอนนั้นที่มาช่วยฟาวด์ไว้ก็มองหมอกเป็นฮีโร่มาตลอด อยากเก่งและเท่ได้แบบหมอกบ้าง รู้สึกดีใจที่ตอนนี้ฟาวด์ได้ช่วยเหลือหมอกกลับบ้าง ''หล่อจังเลยนะครับ'' ฟาวด์พูดกับรูปของหมอก เอานิ้วลูบหน้าจอเบาๆ คิดถึงเรื่องที่ต้องช่วยหมอกตามหาคนคนหนึ่ง จนถึงตอนนี้ฟาวด์ก็ยังไม่ได้เบาะแสเพิ่ม ที่รู้อย่างเดียวคือคนคนนั้นยังไม่ตายแน่ๆ ต้องรอหมอกมาบอกข้อมูลเพิ่ม ฟาวด์ถอนหายใจ ถ้าเกิดเจอคนคนนั้นแล้วยังจะได้คุยกับหมอกอยู่มั้ยนะ คงไม่หรอก ใช้งานเสร็จก็คงเลิกแล้วต่อกันนั่นแหละ ''กริ๊ง'' เสียงกระดิ่งประตูหน้าร้านดังขึ้น ฟาวด์ลุกขึ้นเดินไปรับลูกค้า ''สวัสดีครับ'' ฟาวด์มองกลุ่มลูกค้าตรงหน้า ผู้ชายท่าทางไม่น่าไว้ใจสามคนยืนอยู่ เดินเข้ามาในร้าน ฟาวด์พยายามไม่คิดอะไรว่อ''ไม่ทราบว่ามองหาอะไรเป็นพิเศษอยู่หรือเปล่าครับ เผื่อผมจะแนะนำได้'' ''อ้อ ดีเลย พอดีว่าพวกเรากำลังตามหาคนที่ชื่อฟาวด์อยู่น่ะ รู้จักมั้ย'' ฟาวด์ที่หันหลังให้อยู่ปลดป้ายชื่อพนักงานบนอกออก หันมายิ้มให้ ''เค้ายังไม่เข้างานน่ะครับ มีอะไรฝากผมบอกไว้มั้ย'' พวกนั้นยิ้มอย่างมีเลศนัย ''มีเรื่องอยากให้เค้าช่วยน่ะ'' ฟาวด์เริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัย พวกนี้คงรู้อยู่แล้วว่าฟาวด์หน้าตาเป็นยังไง ''เรื่องอะไรหรอครับ'' ''อัลฟ่าที่ชื่อหมอกมาที่นี่บ่อยใช่มั้ย ท่าทางจะสนิทกับฟาวด์ด้วย'' ''คุณหมอกเคยมาซื้อดอกไม้ที่นี่ครับ แต่เรื่องเค้าสองคนสนิทกันมั้ยผมไม่รู้'' ฟาวด์ยังคงตามน้ำไป ''หรอ แน่ใจนะว่าไม่ได้สนิทกัน'' ฟาวด์ยิ้มให้ก่อนจะหันหลังกลับมา เอากระดาษโน๊ตมาเขียนอะไรบางอย่างแล้วเสียบไว้หน้าเครื่องคิดเงิน ผู้ชายพวกนั้นเดินมาล้อมฟาวด์ไว้ จิตสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมา ''เล่นสนุกพอหรือยัง'' ''ไปกับพวกกูดีๆจะได้ไม่เจ็บตัวเข้าใจมั้ย'' ฟาวด์คิด ต้องเลี่ยงการปะทะแล้วออกไปให้ไกลตัวร้านมากที่สุด ไม่อยากให้ร้านกิดความเสียหาย ''ครับ'' ''เชื่อฟังอย่างนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย'' ฟาวด์ออกมานอกร้าน พวกมันพาฟาวด์ขึ้นไปบนรถตู้ก่อนจะขับออกไปทางฟาวด์นั่งเงียบไม่ขัดขืน พยายามจำทุกอย่างที่เห็นสองข้างทางเอาไว้ รวมถึงรายละเอียดทุกอย่างในบทสนทนาของพวกมันด้วย ''คุณเนตรเค้าจะทำอะไรต่อนะ'' ''ไม่รู้เหมือนกันว่ะ คงใช้ไอพวกนี้เป็นเหยื่อล่อให้พวกนั้นแยกมาล่ะมั้ง พวกนั้นอยู่ด้วยกันแล้วโอกาสชนะโคตรยาก'' '' แล้วเค้าไม่กลัวว่าพวกนั้นจะรวมตัวกันแล้วมาช่วยหรอวะ'' ''ถ้าเค้ากลัวเค้าคงไม่เลือกใช้วิธีนี้หรอก อีกอย่าง คุณเนตรก็บอกเองว่าพวกมันไม่รวมตัวมาช่วยกันแน่นอน มึงก็รู้ว่าคุณเนตรไม่เคยวางแผนพลาด'' ''ก็จริงของมึง เค้าเป็นมันสมองของแกงค์เราเลยนี่นะ'' เนตร เนตร เนตร ฟาวด์บันทึกชื่อนั้นลงในหัว แก๊งค์ แก๊งค์ แก๊งค์ สมอง สมอง สมอง แผน แผน แผน ฟาวด์พยายามเอาคำพูดพวกนั้นและข้อมูลที่ได้มาปะติดปะต่อกันจนเกิดใบหน้าของผู้ชายคนหนึ่งในหัว มันเลือนลางมาก ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่ในห้องที่ดูเหมือนจะเป็นห้องทำงานในบริษัท ใส่ชุดสูทสีดำ ใบหน้าครึ่งบนมองไม่ชัด เห็นแค่ริมฝีปากที่กำลังยิ้มอยู่ เป็นรอยยิ้มที่ดูเยือกเย็นและน่ากลัว ฟาวด์ได้สติ มองเเขนของตัวเองที่ขนลุก จะเป็นใครก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือฟาวด์ไม่อยากเจอตัวเลย ในที่สุดรถก็จอด ''ลงไป'' พวกมันเปิดประตูแล้วผลักฟาวด์ลงมา ที่นี่เป็นโกดังร้างที่ฟาวด์ไม่เคยรู้เลยว่ามีอยู่ ข้างนอกดูเก่าซอมซ่อก็จริงแต่มันก็ใหญ่มาก ''อย่าคิดตุกติกล่ะ'' พวกนั้นขนของลงจากหลังรถ การ์ดคนหนึ่งเดินมายืนข้างฟาวด์เพื่อเฝ้าไม่ให้หนี ฟาวด์มองไปรอบๆ มีพวกมันเดินกันอยู่เต็มไปหมด ถึงฟาวด์จะหนีก็คงหนีไม่รอด พวกมันนำตัวฟาวด์เข้ามาข้างใน มันต่างาจากภายนอกโดยสิ้นเชิง เป็นเหมือนสำนักงานขนาดใหญ่ที่มีพนักงานนั่งทำงานอยู่ บ้างก็เดินคุยโทรศัพท์ประสานงานกัน ''เอามันไปขังไว้ก่อน'' "ครับ มานี่'' ฟาวด์โดนพวกมันลากไปที่ห้องเล็กๆห้องหนึ่ง ผลักฟาวด์เข้าไปแล้วปิดประตูล็อค ฟาวด์นั่งลง ตั้งสติให้นิ่ง พวกมันเป็นใคร จับตัวฟาวด์มาทำไมกัน จากที่ได้ยินมาพวกมันน่าจะจับฟาวด์มาล่อให้หมอกออกมาช่วย ไม่มีทางหรอก หมอกจะสนใจฟาวด์ทำไมกัน ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นสักหน่อยนี่นา ฟาวด์เดินไปดูประตู มันไม่ได้มีระบบเลเซอร์ที่ล้ำสมัยหรืออะไร แค่ถูกล็อคโดยกุญแจที่ใช้ไขเปิดจากด้านนอก ฟาวด์มองไปรอบๆห้อง หลับตาลง ลืมตาขึ้น ดวงตาของฟาวด์เปลี่ยนเป็นสีส้มส่องสว่าง คิดถึงสิ่งที่มีขนาดเล็กและแข็ง ฟาวด์เดินไปตามสัญชาตญาณแล้วเงยหน้าขึ้นไป มีสายไฟขาดๆห้อยออกมาจากรูตรงผนัง ฟาวด์กระชากมันลงมา แกะยางด้านนอกออก เอาเส้นทองเหลืองข้างในมาพันกันหลายๆทบจนได้มันไม่เบี้ยว นั่งลงที่หน้าประตุ สอดเส้นทองเหลืองนั้นเข้าไป หมุนไปมาสักพักอย่างขมักเขม้น ''แกร๊ก'' ฟาวด์ไขได้สำเร็จ สมัยที่ฟาวด์ยังเป็นขโมยเคยสะเดาะกลอนเข้าบ้านคนอื่นไปขโมยของอยู่บ่อย ได้ใช้ประโยชน์จากมันสักทีประตูค่อยๆแง้มออก ฟาวด์ดึงเข้ามาเพราะกลัวว่าพวกมันข้างนอกจะเห็น พยายามคิดว่าจะเอายังไงต่อ ฟาวด์ค่อยๆเปิดประตูออกไป ไม่มีคนเดินอยู่แถวนี้เลย ฟาวด์เอาทองเหลืองไขปิดประตูลอคไว้อย่างเดิม ''เค้าให้มาเอาอะไรที่คลังเก็บอาวุธนะ'' ''ปืนไรเฟิลร้อยกระบอก'' ''ต้องใช้เยอะขนาดนั้นเลยหรอวะ'' ''เออดิ มึงเอาไปสองสามคนคงจะล้มมันได้หรอกมั้ง ไอเหี้ย ยังกับสัตว์ประหลาด'' พวกมันสองคนเดินผ่านคุกที่ขังฟาวด์ไป ลงไปชั้นล่าง กดรหัสเซฟด้านหน้าก่อนที่ประตูที่อยู่ในรูปแบบกำแพงจะเปิดออก พวกมันเดินเข้าไปข้างใน กดรหัสเปิดชั้นเอาไรเฟิลลงมากองไว้ที่พื้น ''ตึก'' พวกมันยกปืนหันไปทางเสียทันที ''ใครวะ!'' พวกมันระมัดระวังตัว หันซ้ายขวา แต่ไม่ได้เงยหน้ามองข้างบนจึงไม่เห็นฟาวด์ที่เกาะผนังอยู่ ฟาวด์ทิ้งตัวลงมาใส่พวกมัน ''เฮ้ย!'' หยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าที่เอวของมันมาจิ้มเข้าที่ท้องของมันสองคนทันที "อั๊ก!'' พวกมันที่โดนกระแสไฟฟ้าแรงสูงล้มลงแน่นิ่งไป ''เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ'' โชคดีที่ฟาวด์สังเกตเห็นเครื่องช็อตไฟฟ้าที่เอวมันพอดี ฟาวด์เดินสำรวจไปทั่วห้อง หลับตาลงก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าตู้หนึ่ง เอาปืนพกเหน็บไว้ที่เอวพร้อมกับหยิบมีดสั้นเล่มหนึ่งมาด้วย ฟาวด์เกิดเอะใจอะไรขึ้นมาไม่รู้ เดินกลับไปที่ตู้นั้นอีกครั้ง "อ้อ'' ฟาวด์หยิบปลอกเก็บเสียงปืนมาเสียบไว้ที่ปืนพกก่อนจะออกมาจากคลังเก็บอาวุธ ถ้าเอาแต่รอหมอกเกิดหมอกไม่มาช่วยฟาวด์ก็คงถูกพวกมันฆ่าทิ้ง เพราะฉะนั้นฟาวด์ต้องหนีออกไปด้วยตัวเอง อีกอย่างแบบนี้น่าตื่นเต้นกว่านั่งรอให้คนมาช่วยเป็นไหนๆ ''ซื้ดด ซื้ดดด'' เสียงสัญญาณคลื่นดังมาจากวอข้างตัวพวกมัน 'ของที่สั่งได้หรือยัง ทำไมถึงได้ไปนานขนาดนั้น มีอะไรหรือเปล่า' อีกไม่นานพวกมันต้องมาที่นี่แน่ ฟาวด์ถอดเสื้อผ้าออก เสียบเอาไว้ที่ซอกหนึ่งในคุก ถอดเครื่องแบบพนักงานของมันออกมาใส่แทน ห้อยป้ายพนักงานไว้ที่คอ หยิบวอมาเหน็บไว้ที่เอว สวมหมวกและแมสปิดบังใบหน้า ''เอาวะ'' ฟาวด์เดินขึ้นมาจากคุก ทำใจครู่หนึ่งก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในสำนักงาน ฟาวด์เดินโดยพยายามไม่สบตาใครและไม่ทำตัวมีพิรุธ พยายามหาทางออกแต่ที่นี่มันกว้างซะเหลือเกิน แถมฟาวด์ยังไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ตรงไหนใกล้กับทางออกหรือเปล่า ในนี้เหมือนเป็นองค์กรอะไรบางอย่าง มีตราสัญลักษณ์แมงมุมสีดำขนาดใหญ่ตั้งตระหง่าน เหมือนฟาวด์เคยเห็นสัญลักษณ์นี้ที่ไหนมาก่อนเลยแฮะ ฟาวด์ขนลุกซู่ไปทั้งตัวอย่างไม่ทราบสาเหตุ รังสีอำมหิตและจิตสังหารที่น่าสยดสยองแผ่ออกมาจากคนที่เดินสวนฟาวด์ไป แค่ครู่เดียวที่ได้สัมผัสกับรังสีนั้นฟาวด์ก็กลัวจนแทบจะฉี่แตก ฟาวด์ไม่เคยเจอใครที่มีคลื่นพลังที่แข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อน กลิ่นน้ำหอมฉุนลอยตามตัวคนคนนั้นไป แต่ความรู้สึกเมื่อได้กลิ่นนั้นน่าขยะแขยงและสะอิดสะเอียนจนแทบอ้วก ฟาวด์ไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมอง ''เฮ้ย ไอกร'' ฟาวด์สะดุ้ง ''ไอกร มึงไม่ได้ยินหรือไงวะ'' ฟาวด์หยุดเดิน เอาป้ายชื่อตัวเองขึ้นมาอ่าน ''เฮ้ย โทษว่ะ พอดีเหม่อไปหน่อย'' ''เออ ไม่เป็นไร แล้วเรื่องอาวุธที่เค้าสั่งให้ไปเอาอะ'' ''เค้าบอกไม่เอาแล้ว'' ''หรอวะ กูไม่เห็นได้ยินเลย'' "เค้าบอกในวอ มึงไม่ได้ตั้งใจฟังอะดิ'' ''คงงั้นมั้ง แล้วนี่มึงว่างอยู่ใชมั้ย'' "เออ'' ''ดี ไปช่วยขนอาวุธขึ้นรถหน่อย'' ''ที่ไหนวะ'' ''เอ๊า ไอนี่ ถามแปลกๆ ก็ที่รถด้านนอกไง'' ฟาวด์ยิ้มในใจ ได้โอกาสออกไปด้านนอกแล้ว ฟาวด์เดินตามคนงานคนนั้นออกมาด้านนอกที่มีรถจอดอยู่หลายคัน ''มานี่ ช่วยกูยกนี่'' ฟาวด์ยกลังปืนขึ้นไปไว้หลังรถ "นี่จะขนไปไหนกันวะ'' ''ไปให้ฝูงที่จะรับงานจัดการพวกนั้นต่อไง'' ''พวกไหนวะ'' ''ไอเหี้ยนี่ท่าจะเบลอจริง ก็ไอพวกฝูงROMEไง'' มันคือชื่อฝูงของหมอก ดูท่าทางมันจะจับโกหกฟาวด์ไม่ได้เพราะกลิ่นของคนชื่อกรติดอยู่ที่เสื้อผ้า ขอข้อมูลมากกว่านี้หน่อยละกัน ''โทษที กูนอนดึกไปหน่อย แล้วเราจับตัวไอเด็กฟาวด์นั่นมาทำไมวะ'' ''คุณเนตรน่าจะเอามาใช้เป็นเหยื่อล่อ แยกพวกมันออกจากกัน หลังจากเสียคุณไดม่อนไปคุณเนตรคงไม่อยากเสียใครอีกแล้วล่ะ'' ''แต่แค่ล่อไอหมอกออกมาคนเดียว มันจะไปได้อะไรวะ หมอกมันเก่งจะตายนี่'' ''ก็เป้าหมายจริงๆของคุณเนตรไม่ใช่หมอกไง'' ''แล้วเป็นใครล่ะ'' ''เค้าไม่ได้จับมาแค่เด็กฟาวด์คนเดียวสักหน่อย ยังเหลือไอมนุษย์ต้นไม้นั่นด้วยไง'' ใครกัน ''ใครวะ'' "กูก็ไม่รู้ แต่น่าจะเป็นเพื่อนของไอเด็กเลิฟนั่นมั้ง'' "แล้วมันถูกขังอยู่ที่ไหนวะ กูไม่เห็นเลย'' "มึงจะไปเห็นได้ไง ตอนนี้มันถูกทรมาณอยู่ที่บ้านฝูงพิภพปักษี เพื่อนกูที่นู่นบอกว่าโดนแค่ไหนแม่งก็ไม่ยอมร่วมมือล่อไอเด็กเลิฟมา กูล่ะกลัวมันจะตายก่อนซะจริงๆ คุณครชิตยิ่งโหดๆอยู่ด้วย'' "คุณครชิต'' ''จ่าฝูงพิภพปักษีไง'' ''อ๋อ เค้าคือฝูงที่จะมารับช่วงต่อจากมัจฉาพิโรธใช่มั้ย'' ''ใช่ คุณครชิตยิ่งเกลียดพวกโอเมก้าน่ารักๆอยู่ด้วย ยังไงไอเด็กเลิฟนั่นก็ไม่รอดแน่'' ''มันคงไม่โง่ไปคนเดียวหรอกมั้ง'' ''คุณเนตรบอกว่ามันจะมาคนเดียว'' เนตร ชื่อนี้อีกแล้ว ''ทุกคนดูเชื่อคุณเนตรกันจังเนอะ'' มันหันมามองหน้าฟาวด์ ฟาวด์พูดอะไรผิดไปงั้นหรอ ''คุณเนตรเค้าไม่เคยคำนวณอะไรพลาดสักครั้ง ครั้งนี้ก็จะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน'' ''แล้วที่คาดเดาว่าหมอกจะมาช่วยฟาวด์นี่เค้ามั่นใจแค่ไหนวะ'' ''มันจะมาแน่ คุณเนตรบอกแบบนั้นนะ'' ฟาวด์คิดอะไรกับตัวเอง ขนลังขึ้นรถจนเสร็จ ''ไปหาไรแดกกันมั้ยมึง'' ''มึงไปก่อนเลย'' ''เออๆ หานอนด้วยมึงอะ'' มันเดินจากไป เพื่อนของเลิฟถูกจับตัวไป แถมมันยังมั่นใจด้วยว่าเลิฟจะไปคนเดียว ฟาวด์เป็นคนนอก แต่จะไปบอกเลิฟดีมั้ยนะ เลิฟก็เคยช่วยฟาวด์ไว้เหมือนกัน เสียงคลื่นจากวอดังขึ้น 'มีผู้บุกรุก มีผู้บุกรุก ทำการค้นหาให้ทั่ว จับตายอย่าให้รอดไปได้!' พวกมันคงลงไปที่คลังอาวุธแล้วสินะ ฟาวด์ยืนนิ่ง มองไปที่ทางออกที่อยู่ใกล้แค่ไม่กี่ก้าว ''พี่หมอกจะมาจริงๆใช่มั้ยครับ'' ฟาวด์มองไปที่ประตูสำนักงาน ก่อนจะเดินกลับเข้าไปข้างในอีกครั้ง หมอกขับมาถึงหน้าร้านดอกไม้ของทัน ทันเป็นรุ่นพี่ที่หมอกสนิทและเคารพมาก หมอกมักจะมาซื้อดอกไม้ที่ร้านของทันเป็นประจำ มีงานอะไรก็จ้างร้านของทันตลอด หมอกเปิดประตูเข้าไปในร้าน ป้ายหน้าร้านเขียนว่าร้านปิดแต่มองยังไงร้านมันก็ยังเปิดอยู่ หมอกเปิดประตูเข้าไปในร้าน ''พี่ทัน'' ทันนั่งอยู่ที่เค้าท์เตอร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ''หมอก'' ''มีอะไรหรือเปล่าครับ แล้วฟาวด์ละครับ'' ทันยื่นกระดาษโนตใบหนึ่งมาให้หมอก หมอกรับมาอ่าน 'พี่ทันครับ เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย แต่ผมจะเอาเรื่องนี้ออกไปให้ไกลร้านที่สุดนะครับ ผมจะรีบกลับมา ถ้าผมไม่ได้กลับมาอีก ผมอยากบอกว่า ขอบคุณพี่ทันสำหรับทุกเรื่องมากนะครับ ถ้าไม่ได้พี่ผมคงตายอยู๋ข้างถนนไปแล้ว รักพี่ทันนะครับ' หมอกกำโน๊ตนั่น ''นี่มันเรื่องอะไรกันครับ'' ''พี่ก็ไม่รู้ พี่เข้ามาก็มีกระดาษนี่แปะไวแล้ว'' มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หมอกเดินสำรวจเบาะแสทั่วร้านแต่ก็ไม่เจออะไร ทันเอามือกุมขมับ ''พี่จะทำยังไงดีหมอก'' ''ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไปช่วยฟาวด์เอง'' ''จะไปช่วยยังไง ถูกจับไปที่ไหนยังไม่รู้เลย'' ''พี่มีกล้องวงจรปิดมั้ยครับ'' ''มันถูกทำลาย พี่เปิดดูแล้ว ไม่มีภาพก่อนหน้านั้นเลย'' พวกมันคงตั้งใจมาจับฟาวด์จริงๆสินะ แต่จะจับฟาวด์ไปทำไมกัน ไม่ได้ไปมีศัตรูกับใครนี่นา ถ้าให้หมอกคิด เป้าหมายพวกมันไม่ใช่ฟาวด์หรอก อาจจะเป็นหมอกก็ได้ หมอกจ๊ปากอย่างรำคาญ พยายามคิดว่าจะเอายังไงต่อ 'พี่หมอก' เสียงในหัวของหมอกดังขึ้น หมอกมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใคร หัวของหมอกปวดตึ้บๆเล็กน้อย หมอกเดินออกมาจากร้าน ขับรถออกไปทันที ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไปไหน แต่สมองมันบอกว่าต้องขับรถออกไป หมอกเหยียบจนสุดคันเร่ง ตรงไปข้างหน้าโดยไม่มีเป้าหมาย สักพักหมอกก็มาหยุดอยู่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง หมอกงงว่าตัวเองมาที่นี่ทำไม พอมองเข้าไปก็เจอกับการ์ดที่เดินวนไปมาอยู่รอบบริเวณ หมอกจอดรถในที่ลับตาคน จิตสังหารของพวกมันเหมือนกับของพวกนักฆ่าโอเมก้าของพวกBlack Spiderไม่มีผิด ที่นี่เป็นที่กบดานของพวกมันงั้นเหรอ แล้วหมอกมาที่นี่ทำไมกัน ฟาวด์เดินมาโผล่อยู่ที่ห้องสีขาวขนาดใหญ่ มีตู้กระจกที่ขังคนเอาไว้ข้างใน สภาพของแต่ละคนนั้นสะบักสะบอมเหมือนคนถูกซ้อมมาอย่างรุนแรง แต่ละตู้มีชื่อติดอยู่รวมไปถึงสาเหตุที่ต้องจับมา ''เฮ้ย มาทำอะไรที่นี่'' เสียงเรียกจากข้างหลังทำให้ฟาวด์สะดุ้ง ''ค่อยมาซ้อมพวกมันต่อ ไปที่สำนักงานก่อนตอนนี้'' ''ซ้อมพวกมันไปทำไมวะ'' ''ก็ไอพวกนี้มันมีข้อมูลคนที่เราตามล่าไง ซ้อมจนกว่ามันจะคายข้อมูลออกมา'' ''แค่นั้นหรอ'' ''บางทีก็ซ้อมเพื่อความสนุก'' มันหัวเราะ ฟาวด์กำหมัดแน่น ''พอมันบอกข้อมูลก็จะปล่อยไปงั้นหรอ'' ''ปล่อยไปอะไรล่ะ ก็ห่าทิ้งซะสิ หมดประโยชน์แล้วนี่'' ฟาวด์ควักมีดออกมาปักเข้าที่กลางหน้าผากของมันอย่างรวดเร็วจนมันไม่ทันร้อง มันล้มลง พวกคนในตู้กระจกต่างหวาดกลัวกันใหญ่ ปุ่มเปิด ปุ่มเปิด ปุ่มเปิด ฟาวด์พยายามนึกหน้าตาของปุ่มที่น่าจะเอาไว้ใช้เปิดตู้กระจกพวกนี้ ดเดินคลำไปเรื่อยจนพลาดไปกดปุ่มสีเขียวเข้า ''ชื้ดดด'' ตู้กระจกพวกนั้นเปิดออก ''ทุกคนห้ามหนีออกไปข้างนอกตอนนี้นะครับ รอจนกว่าทุกอย่างจะสงบ'' คนพวกนั้นพยักหน้า ฟาวด์วิ่งออกไปจากห้องนั้นตรงไปที่ห้องสำนักงานใหญ่เพื่อรวมตัวกับพวกมัน ข้างในนั้นวุ่นกันมาก พวกมันเดินกันวุ่นไปหมด ''ตามหามันให้เจอ แล้วฆ่ามันทิ้งซะ อย่าให้มันออกไปได้!'' พวกนักฆ่าออกตามล่าตัวฟาวด์ และฟาวด์เองก็วิ่งตามหาอยู่กับพวกมันด้วย ''หาให้เจอ จะปล่อยให้มันหลุดไปไม่ได้ แยกกันไป ไอกร มึงไปกับไอทัดนะ'' ''ได้ครับ'' กรวิ่งออกไปกับนักฆ่าที่ชื่อทัด ทั้คู่เดินตรวจไปทั่วชั้น จนกระทั่งฟาวด์สะดุดตากับห้องห้องหนึ่ง ข้างหน้ามีสัญลักษณ์รูปดวงตาที่นัยต์ตามีแมงมุมสีดำอยู่ ''เนตร'' ''ไอกร ไปยืนเหี้ยอะไรหน้หาห้องคุณเนตรล่ะ ไปเร็ว'' "เออๆ'' ฟาวด์วิ่งตามทัดไป ไม่ผิดแน่ ความรู้สึกเดียวกับตอนที่เดินสวนกับคนก่อนหน้านี้เลย ฟาวด์จำสัญลักษณ์นั้นเอาไว้จนขึ้นใจ ทั้งคู่ลงมาเช็คที่คุกอีกครั้ง เสียงสัญญาณจากวอดังขึ้น เป็นเสียงพูดของคนที่ให้ฟาวด์ไปช่วยยกลังอาวุธ 'มันปลอมตัวเป็นไอกร เจอแล้วฆ่าทิ้งได้เลย' ทัดหันมามองฟาวด์ ''ขอโทษนะครับ'' ฟาวด์ควักมีดออกมาแทงเข้าที่คอของทัดแล้วกระชากออก ทัดล้มลงไปเลือดกระฉูด ทางออก ทางออก ทางออก ประตู ประตู ประตู ภาพของประตูหน้าผุดขึ้นมาในหัว ฟาวด์รีบวิ่งไปตามทางที่สมองสั่งให้ไป แต่ฟาวด์ก็ฉุกคิดได้ เดินกลับมาที่ศพของทัด เปลี่ยนเอาป้ายชื่อทัดมาใส่แทนเสื้อของกร ใส่หมวกกับ้าปิดปากไว้อย่างเดิม จากนั้นจึงออกวิ่งต่อ พวกมันหลายคนวิ่งสวนฟาวด์ในชุดของทัดไป ''เฮ้ย ทางนี้!'' ฟาวด์ตะโกนบอกพวกมัน ''มันวิ่งออกไปทางขวา'' ''ไปดิวะ'' พวกมันวิ่งไปตามทางที่ฟาวด์บอก ฟาวด์เลือกที่จะวิ่งไปทางอื่นแทน 'เจอศพไอทัด' 'เฮ้ย ไอทัดมันเพิ่งบอกทางกูเมื่อกี๊เลยนะ' 'ตัวปลอม' ''ชิบหายละ'' เมื่อเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะปลอมตัวอีกต่อไปจึงถอดชุดสูดนักฆ่าของทัดออกเพื่อที่จะได้วิ่งได้คล่องแคล่วขึ้น ''เฮ้ย!'' พวกมันสองคนมาดักข้างหน้าของฟาวด์ ''ปัง! ปัง!'' ฟาวด์กระโดดหลบกระสุนของพวกมัน ขึ้นไปเกาะอยู่บนเพดานแล้วทิ้งตัวลงมาใส่พวกมันจนล้มลง ควักปืนพกตรงเอวมายิงไปกลางหัวพวกมัน ''ปึก ปึก'' ปลอกเก็บเสียงทำให้เสียงปืนของฟาวด์เบาจนแทบจะไม่ได้ยิน ฟาวด์ค้นตัวพวกมัน เอาปืนและกระสุนของพวกมันมาด้วย มีพวกมันมาสมทบอีก5คน พวกมันรัวกระสุนใส่ฟาวด์ ฟาวด์ยกศพของพวกมันที่ตายขึ้นมาบังกระสุน พุ่งเข้าใส่พวกมัน ใช้ปืนยิงเข้าที่ขมับของพวกมันคนหนึ่ง ใช้ด้ามปืนตอกเข้าที่อีกคนที่เข้ามาทางด้านหลังกลางหน้าผากจนล้มลงไป ลั่นไกยิงปืนพกเข้าที่กลางหัวของพวกมันที่เหลือจนตายหมด ''ไม่ได้ใช้นาน สกิลยังไม่ขึ้นสนิมสินะเนี่ย'' ฟาวด์ภูมิใจนิดหน่อยที่สกิลการใช้ปืนพกของตัวเองยังไม่เสื่อมถอยจากตอนที่เป็นขโมย เสียงฝีเท้ากำลังวิ่งมาทางนี้ พวกมันหลายคนวิ่งมา ''เฮ้ย อะไรวะ!'' พวกมันเข้ามาดูศพของเพื่อนมันที่ตาย 'จับตายหนูสกปรกตัวเดียวมันยากขนาดนั้นเลยหรอ' เสียงอันเย็นยะเยือกดังออกมาจากวอทำเอาทุกคนตรงนั้นถึงกลับขวัญผวา ''ขอโทษครับคุณเนตร จะรีบตามตัวมันให้เร็วที่สุดครับ'' 'เอาเถอะ ถ้ามันหลุดไปได้แล้วต้องย้ายที่กบดาน นอกจากจะเปลี่ยนที่ซ่อนแล้วคงต้องเปลี่ยนคนทำงานยกชุดด้วย เข้าใจที่ผมพูดใช่มั้ย' ''รับทราบครับคุณเนตร ไป พวกมึง'' พวกมันวิ่งออกไป ฟาวด์ที่หลบอยู่ในซอกหลืบแทรกตัวออกมา วิ่งออกไปอีกทางทันที ต้องรีบออกไปจากที่นีให้เร็วที่สุด จะทำยังไงดี ''นั่นไง!'' พวกมันวิ่งมาจากด้านหน้าฟาวด์ ฟาวด์หันหลังกลับจะวิ่งหนีแต่พวกมันก็มาอีก ฟาวด์โดนล้อมจากทั้งสองฝั่ง มันจบแล้วงั้นหรอ ฟาวด์เอาปืนขึ้นมาตั้งท่ายิง ''อ๊าก!'' ''โอ๊ย!'' จู่ๆพวกมันก็เหมือนโดนอะไรบางอย่างพุ่งเข้าใส่จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ฟาวด์ตั้งใจมองก็เห็นก้อนควันสีดำ ควันนั้นรวมตัวขึ้นเป็นร่างหมอก ฟาวด์ยิ้มดีใจ ''พี่หมอก!'' ''เป็นอะไรหรือเปล่า'' ยังไม่ทันที่หมอกจะตอบ มันคนหนึ่งยกปืนเล็งมาที่หมอก ''พี่หมอกระวังครับ!'' ฟาวด์ผลักหมอกออก พุ่งเข้าไปเหยีบมือของมันจนปืนหลุด หยิบปืนออกมาจ่อยิงไปที่หัวของมัน หมอกแอบทึ่งนิดหน่อย ไม่คิดว่าฟาวด์จะสู้ได้ นั่นสิ ฟาวด์รอดมานานขนาดนี้ได้ยังไงกัน ''พี่หมอกมาที่นี่ได้ยังไงครับ'' ''ไม่รู้เหมือนกัน'' หมอกก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาถูก แค่ขับไปตามที่สมองสั่ง ''อ๋อ ลิ้งค์'' ''ลิ้งค์?'' ''ครับ ตอนที่เราลิ้งค์กันเพื่อถ่ายทอดข้อมูลในสมองตอนที่าตมหาคนนั้นของพี่หมอก ผมยังไม่ได้ปลดลิ้งค์ออกครับ'' การลิ้งค์คือส่วนหนึ่งของพลังฟาวด์ การลิ้งค์กับใครจะทำให้ฟาวด์รับรู้ได้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายคิดถึงมากที่สุดและจะแชร์ข้อมูลสำคัญกันได้ แต่ไม่ใช่การอ่านความคิดหรืออ่านใจทั้งหมดของอีกฝ่าย คงเป็นเพราะฟาวด์คิดถึงหมอกให้มาช่วยอยู่ตลอดหมอกถึงรับรู้แล้วตามมาได้ เสียงวอดังขึ้นอีกครั้ง 'ถอยทัพ ย้ายฐานกบดาน คุณเนตรออกไปแล้ว' ด้านนอก รถทุกคนออกตัววิ่งออกไปจากโกดังแห่งนี้ รวมไปถึงอุปกรณ์และอาวุธทั้งหมดก็ถูกขนไปด้วย พวกมันไม่ได้ตั้งใจจะสู้อยู่แล้วงั้นหรอ บนรถเก๋งสีดำคันหนึ่งที่ขับนำหน้าขบวนรถตู้สีดำหลายคัน ผู้ชายในชุดสูทนั่งไขว่ห้าง ยกไวน์ขึ้นมาจิบ ''คุณเนตร ทำไมพวกเราถึงไม่สู้กับมันหรอครับ'' ลูกน้องที่ขับรถอยู่ถาม แต่พอเห็นสายตาของเนตรผ่านกระจกมองหน้าก็ถึงกับเหงื่อตก ''คุณสงสัยในแผนของผมงั้นหรอ'' ''ขอโทษครับ'' เนตรหัวเราะในลำคอ ''ผมคำนวณพลาดไปหน่อย ไม่คิดว่าเด็กนั่นมันจะต่อสู้เป็น กะว่าจะให้มาเป็นภาระของหมอกแล้วจัดการทิ้งซะ แต่แน่นอนว่าผมมีแผนสำรองอยู่เสมอ ตรงนี้ผมก็คำนวณเอาไว้เหมือนกัน'' เนตรยิ้มมุมปาก ''เป้าหมายของเราไม่ใช่หมอก แต่เป็นเลิฟต่างหาก'' ''นั่นไม่ใช่หน้าที่ของฝูงพิภพปักษีหรอครับ'' ''ที่ผมเล็งเลิฟไว้ไม่ใช่เพราะว่าเก่งไม่เท่าคนอื่นหรือจัดการง่าย ผมมองเห็นว่ามันจะเป็นตัวปัญหาที่เรื้อรัง ถ้าเอามันออกไปจากภาพรวม เราจะโค่นฝูงROMEได้ง่ายๆ ทีนี้เลิกสงสัยแล้วขับรถต่อได้หรือยังครับ'' ''ขอโทษครับ'' เนตรมองออกไปนอกกระจก ถอนหายใจออกมา จัดเข็มกลัดรูปดวงตาที่มีแมงมุมสีดำในนัยต์ตาตรงอกให้ตรง ''พี่นี่ก็จริงๆเลยนะ ไม่มีผมอยู่แกงค์คงจะพังไปนานแล้ว'' หมอกกับฟาวด์รีบออกมาจากสำนักงานนั่น หมอกโทรแจ้งตำรวจให้มาที่นี่ ช่วยเหลือผู้ที่ถูกจับมาไปส่งโรงพยาบาล ทั้งคู่ขึ้นมาบนรถของหมอก ''ไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่มั้ย'' ''ผมโอเคครับพี่หมอก ดีที่พี่หมอกมาช่วย ไม่งั้นผมคงตายไปแล้ว'' ฟาวด์ยิ้มกว้าง ''ชั้นมาแค่แปปเดียว ชั้นควรมาเร็วกว่านี้ แล้วทำไมถึงได้รอดมานานขนาดนี้'' ''ผมเป็นขโมยเก่านะครับ ฝีมือก็พอมีอยู่บ้าง'' ฟาวด์ยืดอก ''กลับกันเถอะ'' หมอกขับรถออกมาจากที่นั่น กลับมาที่ร้านดอกไม้ของทัน ทั้งคู่เปิดประตูเข้าไปในร้าน ทันที่นั่งเครียดอยู่รีบลุกเดินมาหาฟาวด์ ดึงฟาวด์เข้าไปกอดแน่นทันที ''พี่เป็นห่วงมากแค่ไหนรู้มั้ย!'' ฟาวด์กอดตอบ ''ขอโทษครับพี่ทัน พี่ทันไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ'' ''ยังจะมาถามอีก พี่อะต้องถามว่าฟาวด์เป็นอะไรหรือเปล่า'' ''ขอโทษครับ'' หมอกก้มหัวให้ทั้งคู่ ''เป็นเพราะผมเองฟาวด์ถึงต้องตกอยู่ในอันตรายแบบนี้'' ''ไม่ใช่เพราะหมอกหรอก อย่าคิดมากเลย รอดกลับมาได้ทั้งคู่ก็ดีแล้ว'' หมอกรู้สึกผิดที่ตัวเองทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าฟาวด์ต้องมาเดือดร้อน ''ผมไม่เป็นไรจริงครับพี่หมอก เดี๋ยวผมออกไปส่งนะครับ'' ฟาวด์เดินออกมานอกร้านกับหมอก ''เรื่องให้ตามหาคนน่ะ'' ''ผมจะตามต่อครับ'' ฟาวด์รีบตอยทันที ไม่อยากให้หมอกออกห่างจากตัวเอง ''แต่ถ้ายังติดต่อกันอยู่นายจะไม่ปลอดภัย'' ''ผมไม่น่าจะเป็นอะไรแล้วล่ะครับ ผมดูแลตัวเองได้ อย่าคิดมากเลยนะครับ'' เหมือนฟาวด์จะนึกอะไรออก ''เลิฟ'' ''ห้ะ'' ''เพื่อนเลิฟถูกจับตัวอยู่ครับ แถมยังโดนทรมาณให้ช่วยล่อเลิฟไปด้วย พวกมันบอกว่าเลิฟต้องไปคนเดียวแน่ พี่หมอกรีบกลับไปหาเลิฟให้เร็วที่สุดเลยนะครับ'' ''ได้'' หมอกขึ้นรถแล้วขับไปที่บ้านฝูงอย่างรวดเร็ว หมอกเปิดประตูบ้านเสียงดัง ''เลิฟ!'' หมอกตะโกนดังไปทั่วบ้าน เลิฟเดินลงมาจากชั้นบน "ครับพี่หมอก'' หมอกโล่งใจ ''มีใครมาที่นี่หรือเปล่า'' ''ไม่มีนะครับ พี่หมอกมีอะไรหรือเปล่าครับ'' โทรศัพท์ของเลิฟมีแจ้งเตือนเข้ามา เลิฟเอาขึ้นมาเปิดดู มันเป็นรูปของเดซี่ที่โดนซ้อมจนสะบักสะบอม เลิฟตกใจมาก ข้างล่างรูปนั้นมีข้อความอยู่ 'มาคนเดียวถ้าไม่อยากให้เพื่อนมึงตาย' "มีอะไรหรอ'' ''เปล่าครับ'' ควันก้อนหนึ่งโผล่ขึ้นมาก่อนจะกลายเป็นมือของหมอกกระชากโทรศัพท์ของเลิฟมาดู อย่างที่ฟาวด์บอก มันตั้งใจจะล่อเลิฟให้ไปคนเดียว ''ผมต้องไปคนเดียวครับ'' ''ไม่ได้'' ''แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้น...'' ''รอปรึกษากับคนอื่นในฝูงก่อน'' เลิฟเป็นห่วงเดซี่มากจนทำอะไรไม่ถูก หมอกเอาโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออกในกลุ่มฝูง ''นี่หมอก ขอเรียกประชุมด่วนครับ พี่ราคาน หาข้อมูลของพิภพปักษีมาด้วยครับ'' มือของหมอกดันเลิฟให้นั่งลง ''ตอนนี้ต้องมีสติก่อน เพื่อนคงไม่ได้บอบบางจนเอาตัวเองไม่รอดหรอกใช่มั้ย'' ก็จริงอย่างที่หมอกว่า เดซี่เองก็เก่งพอตัว น่าจะยังดูแลตัวเองได้อยู่ ถึงอย่างนั้นเลิฟก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี หมอกกดโทรออกไปอีกครั้ง ''นายยังอยู่ที่ร้านใช่มั้ย ชั้นมีเรื่องให้ช่วยหน่อย เดี๋ยวชั้นไปรับ'' |