สวัสดีครับ เราชื่อ 'ดิว' อายุ20ปี กำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่2 ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคอีสาน คือเรามีลุงชื่อ 'ลุงบืน' มีศักดิ์เป็นพี่ชายของแม่เรา แต่คนละพ่อ แกเป็นพ่อหม้ายเมียทิ้งมาหลายปี จนแกเข้าวัย44ได้แล้วมั้งถ้าจำไม่ผิด ลุงบืนแกเป็นคนรูปร่างสูงใหญ่กำยำราวๆ180กว่าๆได้ กล้ามเนื้อแน่นล่ำ ดูบึกบึนไปทุกสัดส่วน เพราะแกทำอาชีพเกษตรกร ปลูกข้าว ปลูกพืช ใช้แรงงานหนักมาตั้งแต่ที่เราจำความได้ ส่วนเรื่องหน้าตา ก็จัดว่าพอไปวัดไปวาได้นะ หล่อคมเข้ม ตามสไตล์ไทยบ้านน่ะแหละ
ตกเย็นของวันนั้น ดวงตะวันก็โพล้เพล้เต็มที แม่ได้วานให้เราเอากับข้าวไปส่งให้ลุงบืน ด้วยความที่บ้านของแกอยู่ห่างจากบ้านของเราไปเกือบกิโลฯ เราจึงอาศัยรถจักรยานของยาย ปั่นนำเอากับข้าวไปให้แก พอมาถึงก็เห็นว่าบ้านของแกเงียบสงบ เพราะว่าแกอยู่ตัวคนเดียว ส่วนลูกอีก2คนของแก ก็ไปทำงานต่างถิ่นบ้าง ส่วนอีกคนก็เรียนหนังสืออยู่อีกที่ แต่เราก็ไม่ได้ตะโกนเรียกแกหรอกนะ พอตั้งขารถจักรยานไว้ใต้ต้นมะม่วงหน้าบ้านได้ เราก็สาวเท้าเดินเข้าไปภายในบ้านของแกด้วยความเคยชิน พอเดินเข้ามาภายในบ้านได้ เราก็นึกสงสัยว่าทำไมถึงเงียบจัง หรือว่าลุงบืนแกจะไม่อยู่
"ลุงบิน! ลุงบิน! แม่ให้เอาแกงมาให้" เราจึงตะโกนเรียกเพื่อความแน่ใจ ทันใดนั้นเอง เสียงเข้มที่เราคุ้นเคยก็ได้ดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของบ้าน
"เออ! เอาวางไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านนั่นแหละ เดี๋ยวลุงเดินไปเอา"
"แล้วลุงทำอะไรอยู่เหรอ เห็นบ้านเงียบเชียว" เราพูดไป พร้อมถือวิสาสะเดินเข้าไปหาแกที่ด้านหลัง ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำเอาเราตกตะลึงไม่น้อย
"เห้ย! ไอ้ดิว! กูนึกว่ามึงกลับไปแล้วเสียอีก!" ลุงบืนสบถลั่นบ้านด้วยควาตกใจ พร้อมดึงผ้าขาวม้าที่ผาดไว้บนบ่า ลงมาสวมใส่ ปิดท่อนเอ็นลำเขื่องอย่างรวดเร็ว แต่เจ้ากรรม ไม่รู้ว่าขนาดของมันใหญ่เกินกว่ามาตรฐานชายไทยหรืออย่างไร นั่นจึงทำให้ดุ้นควยที่แข็งผงาดอยู่ภายในผ้าขาวม้าดันตุงออกมาแทบขาด
"ยัง…..ยังไม่กลับอ่ะลุง แล้วลุงทำอะไรอยู่ ทำไม…..ของลุงมันถึงได้….." เราเอ่ยตะกุกตะกัก สายตาเอาแต่จ้องมองไปยังเป้าตุงเด่ของลุงบืนไม่กระพริบ
"มันเรื่องของกูเว้ย! ไอ่ห่านี่! มึงเดินมาแอบดูควยกูสิท่า" ลุงบืนสบถลั่น แสดงสีหน้าขึงขังใช่เล่น
"นี่ลุง หนูก็แค่กลัวว่าลุงจะเป็นอะไรไป เลยเดินมาดู อย่างหนูเนี่ยนะ จะมาแอบดูของลุง ของผัวหนูก็มี" เราจึงสบถกลับอย่างออกรส มาถึงตอนนี้ก็คงจะรํ้กันแล้วใช่ไหมล่ะ ว่าเรากับลุงบิน ไม่ค่อยจะลงลอยกันสักเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะว่าลุงแก มีอคติกับพวกเพศอย่างเรา
"น้อยๆหน่อยมึง ไอ้ห่าดิว! เดี๋ยวกูจะบอกอีดวงแม่มึง ให้มันรู้สักที ว่านอกจากลูกมันจะเป็นตุ๊ด เป็นกะเทยแล้ว มันยังชอบให้เขาเย็ดตูดไปวันๆ!"
"นี่ลุง! อย่างน้อยหนูก็ยังดี ที่มีคนมาเย็ด! ลุงเถอะ หาคนเย็ดไม่ได้ล่ะสิ ถึงต้องมาชักเว่าเอาเองแบบนี้!"
"ไอ้ดิว! ไอ้หลานเวร! มึงไปเลยนะ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ มึงนี่! ให้ค่าขนม ก็ดีแต่เอาไปซื้อเครื่องสำอาง เลี้ยงผู้ชายหมด" ลุงบืนสบถ พร้อมชี้นิ้วไล่เราให้ออกจากบ้าน มีหรือที่เราจะทนอยู่ให้เปลืองน้ำลายต่อ รีบโกยรถจักรยาน แล้วปั่นกลับบ้านไปอย่างเร็ว และนี่ก็คืออีกเรื่องหนึ่ง ที่ทำให้เราไม่กล้าไปพบหน้าลุงบืนอยู่หลายเดือน ถึงแม้ว่าแม่จะเคี่ยวเข็ญให้เราเอากับข้าวไปให้แกทุกวันก็เถอะ แต่เราก็ปฎิเสธทุกครั้งไป
จนกระทั่งวันหนึ่ง ตกเย็นวันนั้น 'อีเชอร์' เพื่อนสาวคนสนิทของเรา มันได้มานั่งรอเราที่บ้าน เพราะมีนัดจะไปเที่ยวงานประจำปีกัน (เพื่อนสาวที่ว่านี่ นางคือชะนีจริงๆนะ) หลังจากที่เราแต่งตัวเสร็จ จึงรีบเดินออกมานอกบ้านทันที เพราะกลัวว่าอีเพื่อนคนนี้จะรอนาน และนั่นมันก็ทำให้เราเห็นว่า อีเชอร์กำลังนั่งหน้าสลอน เอามือท้าวคางพร้อมเผยรอยยิ้มกริ่ม อยู่บนโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน ก่อนที่เราจะจับสายตามันได้ว่ามันกำลังมองไปยังลุงบืน ที่รายนั้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ กำลังอยู่ในสภาพเปลือยช่วงบน เผยให้เห็นกล้ามอกนูนแน่น กล้ามแขนเป็นมัด พร้อมด้วยกล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแกร่ง ที่อาบไว้ด้วยหยาดเหงื่อจนชุ่มวาว กำลังแบกกระสอบข้าวสารเข้าไปเก็บไว้ในยุ้งข้าวหลังบ้าน
"อีเชอร์! กูเสร็จแล้ว" เราจึงตะโดนเรียก กะว่าจะให้มันตกใจเล่น
"เออๆ อีห่า! กูตกใจหมด มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง" และก็เป็นไปตามคาด อีเชอร์หน้าจืดไม่เป็นท่า
"แล้วถ้ากูให้เสียง กูจะรู้เหรอว่ามึง กำลังแอบมองลุงกูอยู่" เรากระซิบข้างๆหูมัน ด้วยความขำขันสะใจ เพราะเรารู้ดีว่า เพื่อนสาวที่แก่กว่าเรา1ปีคนนี้ มันไวไฟในเรื่องคบเสี่ยเลี้ยงมากแค่ไหน
"อีบ้าดิว! มึงพูดเป็นเล่น รุ่นพ่อกูเลยนะ"
"แหม่ อีเชอร์ รุ่นตามึงยังควงมาแล้วเลย"
"มันไม่เหมือนกันค่ะ ไปๆ เดี๋ยวอีพวกนั้นรอนาน" อีเชอร์รีบตัดบท ก่อนจะรีบเดินหนีเราไปที่รถจักรยานยนต์
และนั้นก็คือจุดเริ่มต้น ที่เราจะได้ทำหน้าที่เป็นแม่สื่อแม่ชักครั้งแรก ไม่เชื่อก็ต้องเชื่ออ่ะ ว่าอีเชอร์ สาวสวยสุดมั่นเทสลูกคุณหนู มันจะพร่ำถามแต่เรื่องของลุงบืนกับเราตลอดทั้งงาน จนสุดท้ายมันก็ได้มาสารภาพกับเราตรงๆว่า มันแอบชอบลุงบืนมาตั้งแต่เห็นหน้าครั้งแรกแล้ว และที่สำคัญ มันก็ได้ขอให้เราเป็นสะพานใจให้ ทำเอาเรานี่แทบจะบ้าตายรายวัน เพราะแค่ทุกวันนี้ยังไม่อยากจะเข้าใกล้หน้าลุงบืนเลยสักนิด แต่ก็นะ อีเพื่อนสาวขอมาทั้งที แถมเวลามีเรื่องอะไรอีเชอร์ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราตลอด เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน เริ่มเล่อะ!
ตกเย็นของวันถัดมา เราได้อาสานำกับข้าวไปให้ลุงบืนเอง เพราะมีเรื่องสำคัญจะคุยกับแกด้วย พอไปถึง มันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ลุงบืนแกเดินกลับจากนามาพอดี
"ลุงบืน! แม่ให้เอากับข้าวมาให้" เราเป็นฝ่ายสนธนาก่อน
"เออ! เอาวางไว้ที่โต๊ะหน้าบ้านนั่นแหละ แล้วมึงก็รีบไสหัวไปซ่ะ กูไม่อยากเห็นหน้าหลานตุ๊ดอย่างมึง" ลุงบืนแสดงสีหน้า และท่าทางไม่พอใจยิ่งนัก ก่อนที่แกจะถอดเสื้อลายสก๊อตสีหม่นออก เผยให้เราได้เห็นสรีระกำยำล่ำบึกที่ชุ่มไปด้วยหยาดเหงื่อได้ถนัดตา แต่พูดก็พูดเถอะ ว่าทั้งรูปร่างและใบหน้า ถ้าไม่ได้ติดที่เป็นญาติกัน เราก็คงจะหลงชอบลุงบืนไม่น้อย
"มึงมีอะไร! ทำไม่กลับบ้านมึงไปสักที" ลุงบืนสบถลั่นอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเรายังคงนั่งหน้าสลอนอยู่ที่แคร่ไม่ไผ่หน้าบ้านไม่ไปไหน
"ลุงบืนอ่ะ แค่นี้ก็ต้องดุด้วย เรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนน่ะ คือหนู…..ขอโทษนะ" เราเอ่ย พร้อมทำทีเป็นสำนึก ทั้งที่ใจจริง อยากจะแจ๋นตูดกลับบ้านไปตั้งนานแล้ว
"เออ! ไอ้ห่านี่ มาแปลก เออ! ลุงไม่โกรธเอ็งหรอก" ลุงบืนยิ้ม พร้อมขว้างเสื้อลายสก๊อตในมือมาทางเรา คล้ายว่าจะหยอกเล่น แล้วเดินหนีเข้าไปในบ้าน วินาทีนั้นกลิ่นกลายที่ส่งออกมาจากเสื้อชุ่มเหงื่อของลุงบืน กับทำให้เรารู้สึกสยิวใจชอบกล
"ลุงบืน คือหนู มีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ" เราเอ่ย ด้วยน้ำเสียงจริงจัง ก่อนจะลุกเดินตามแผ่นหลังกว้างแกร่งไปติดๆ
"คุย คุยอะไร" ลุงบืนหันมาถามย้ำ ในท่ายืนเท้าเอว พร้อมแสดงสีหน้าจริงจังไม่น้อย
"คือว่า…..เอ่อออ อีเชอร์เพื่อนหนูน่ะ มันชอบ …..มันชอบลุงน่ะ มันเลยให้หนูมาบอก"
"ห่ะ! ไอ้ห่าดิว! พูดเป็นเล่น เพื่อนมึงสวยอย่างกับนางฟ้า มันจะมาชอบคนแก่คราวพ่ออย่างกูทำไม" ลุงบืนทำสีหน้าจริงจัง อย่างคนไม่เชื่อหูตัวเอง
"หนูพูดจริงๆนะ สมัยนี้รุ่นไหน เขาก็รักกันได้แล้วไหมลุง ดูในโซเชียลตอนนี้สิ เปิดตัวกันให้เกลื่อนหมด"
"ไร้สาระน่ะ มึงรีบกลับบ้านไปเลยไป" ลุงบืนเอ่ยเสียงเข้ม พร้อมหันหลังเดินหนี
"โถ่! ลุง หนูพูดจริงไปนะ"
"เห้ย! ไอ้ดิว! มึงพูดไม่รู้เรื่องหรือไงวะ! มึงรีบกลับบ้านไปเลยนะ ก่อนที่แข้งของกู มันจะไปอยู่บนก้านคอมึง!" เราที่ยังเอ่ยเว้าวอนไม่ทันจบ ก็ถูกลุงบืนหันหน้ามาสาดวาจาดุดันใส่ เล่นเอาเรารู้สึกกำลังจับใจ จึงต้องรีบตะเพิดกลับบ้านไปด้วยความผิดหวัง
วันต่อมา "ลุงบืน หนูพูดจริงๆนะ อะนี่! เชอร์มันฝากขนมมาให้" เรายังคงดื้อด้านในการเป็นแม่สื่อต่อไป ทั้งๆที่ภายในใจนั้นแสนไม่อยากทำ แต่ก็นะ ก็อีเชอร์น่ะสิ เล่นทั้งถามและตามตื้อความเคลื่อนไหวของลุงบืนจากเราไม่หยุดหย่อน มิหนำซ้ำมันยังเปย์ทั้งค่าขนม ค่าข้าว ค่าน้ำให้เราสารพัด ทำเอาเรารู้สึกรำคาญและเห็นใจมันอยู่ไม่น้อย
"แม่ง! รำคาญจริงโว้ย! หาแต่เรื่องไร้สาระมาให้กูอยู่ได้" ลุงบืนยังคงคัดค้านด้วยน้ำเสียงดุดันไม่เปลี่ยน ในขณะที่กำลังนั่งซ่อมรถไถอยู่หน้าบ้าน
"ไร้สาระอะไรกันลุง เชอร์มันชอบลุง อยากลองคบกับลุงจริงๆนะ หนูว่าดีซะอีก ลุงจะได้มีเมียเด็ก ทั้งสาว ทั้งสวย เอาไว้อวดชาวบ้านไงลุง"
"อวดชาวบ้าน ถุย! จะให้ชาวบ้านเอาตำรวจมาลากคอกูเข้าคุกล่ะสิไม่ว่า เพื่อนมึงมันรุ่นลูกกูเลยนะ"
"บ้าน่ะลุง คิดมาก! อีเชอร์มัน21แล้วนะ บรรลุนิติภาวะตั้งนานแล้ว น่า…..นะลุง! ลองเปิดใจดูเถอะ หรือลุงไม่ชอบคนสวยๆ สาวๆล่ะหึ" "ไอ้ห่านิ! ผู้ชายที่ไหน มันมันจะไม่ชอบคนสวยกันล่ะวะ! แต่กู"
"ไม่ต้องมีตรง มีแต่อะไรแล้วลุง ถ้าลุงชอบ ลุงก็ลองคบมันเลย หนูว่าดีซะอีกนะ ลุงจะได้มีเมียใหม่สักที และอีกอย่าง ลุงก็จะได้ไม่ต้องไปชักเว่าเอาเองไง" ยังไม่ทันที่ลุงบืนจะเอ่ยจบประโยค ก็ถูกเรารีบสวนสรุปทันควัน ก่อนที่ประโยคทิ้งท้ายของเรา จะทำเอาลุงบินถึงกับรีบลุกพรวดทันที
"ไอ้ดิว! ทะลึ่งใหญ่แล้วนะมึง มานี่เลย มาให้กูเตะซะดีๆ!" ไวเท่าคำพูด ลุงบืนรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งตรงมาหาเราด้วยท่าทีขึงขัง แต่มีเหรอที่เราจะนั่งรอให้ลำแข้งมาถึงที่ รีบลุกพรวดจากแคร่ไม้วิ่งตรงไปขว้ารถจักรยาน แล้วปั่นหนีไปอย่างไว
"เดี๋ยวพรุ่งนี้ หนูจะมาเอาคำตอบนะลุง จุ๊บๆ!" พร้อมทำท่าทะเล้นใส่ และจังหวะนั้นเอง มันก็ทำให้เราเห็นที่บริเวณเป้ากางเกงของลุงบืน มันเหมือนจะตุงๆแน่นๆ จนเห็นเป็นรูปลำ หรือว่าพอพูดถึงเมียขึ้นมา แล้วแกจะมีอารมณ์กันนะ……………………
ผลสุดท้าย ความพยายามในการหาเมียให้ลุงตัวเองก็สำเร็จ ทั้งลุงบืนและอีเชอร์ก็ได้คบหาดูใจกัน แต่เรื่องความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ยังคงถูกเก็บไว้เป็นความลับต่อคนรอบข้าง จะมีก็แต่เรานี่แหละที่รีบรู้ เพราะลุงบืนแกขอไว้ กลัวจะเสียหายต่อฝ่ายหญิง ทั้งที่ความเป็นจริง อีเชอร์นั่นแสนกระดี๊กระด๊าเหลือทน โดยเฉพาะเรื่องขึ้นเตียงกับลุงบืน
"อีดิว กูอยากโดนลุงมึงแล้วว่ะ" คำพูดของอีเชอร์ ทำเอาเราแทบสำลักน้ำ
"อีเชอร์! มึงบ้าป่ะเนี่ย พูดอะไรออกมา" เรากระเดือกน้ำลงคอด้วยความยากลำบาก ก่อนจะเอ่ยออกมา
"กูพูดจริงนะ ลุงมึงแม่ง! เขาก็ดีหมดนะ แต่เรื่องอย่างว่า อ่อนชะมัดเลยมึง"
"เอาจริงๆป่ะ มึงคบกับลุงกู คบกันจะพอเดือนแล้วนะ กูก็คิดว่ามึงกับลุงบืน จะไปถึงขั้นไหนต่อไหนกันแล้วซะอีก แต่นี่ยังอีกเหรอวะ" เราถามย้ำเพื่อความแน่ใจ เพราะเพื่อนสาวคนนี้ของเรามันก็จัดว่าเด็ดในเรื่องผู้ชายพอตัว
"กูจะโกหกมึงทำไมล่ะ มึงก็เห็นอยู่หนิ ว่านานๆที กูจะมีโอกาสได้อยู่กับลุงมึง นอนค้างด้วยกันสักคืนก็ไม่เคยมีเลยด้วยซ้ำ"
"เออๆ งั้นเอาอย่างนี้สิ พรุ่งนี้ลอยกระทง มึงก็ชวนลุงเขามาเที่ยว แล้วก็จัดการเลย อย่าให้พลาด"
"เออ จริงด้วยว่ะ ว่าแต่ลุงมึง เขาจะยอมมาเที่ยวกับกูเหรอวะ"
"เรื่องแบบนี้ มึงต้องคุยเอาเองจ่ะ กูกลับบ้านก่อนนะ รำคาญคนร่านไม่ไหวแล้วแม่….." เราเอ่ยตัดบทด้วยความขำขัน ก่อนจะทิ้งอีเชอร์ให้นั่งรอเพื่อนไปคนเดียว เพราะว่าวันนี้ 'พี่บอล' ปี4 ได้นัดเราเอาไว้……………..
และแล้ววันลอยกระทงก็มาถึง ในขณะที่เรากำลังนอนแอ่นรู ให้พี่บอลสมสู่อยู่บนเตียง ภายในหอของพี่เขา จู่ๆอีเชอร์เพื่อนสาว ก็โทรติดต่อเราถี่สะบัด ทำเอาเราและพี่บอลพากันหัวเสียจนหมดอารมณ์ แต่ก็อย่างว่านั้นแหละ ไอ้ฝ่ายเย็ดกระแทกแค่ไม่กี่ทีน้ำก็แตก ส่วนฝ่ายรับอย่างเราที่ยังไม่เสร็จ ก็ได้แต่อารมณ์ค้างอยู่แบบนั้น หลังจากนั้นเราก็จำใจขี่รถจักรยานยนต์ออกมาอีเชอร์ที่วัดแถวหมู่บ้าน พอมาถึงก็เห็นว่าอีเชอร์กำลังยืนกอดแขนของลุงบืนอยู่ โดยที่สีหน้าของนางนี่ จัดว่าร่านจนหน้าหมั่นไส้ แต่ในส่วนของลุงบินนั้น แกดูมีท่าทีอายๆ เกร็งๆพอสมควร บทสรุปส่งท้ายในคืนนี้ นอกจากเราจะทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้คนทั้งสองได้คบกันแล้ว ก็ยังมีหน้าที่เป็นไม้กันหมา กันสายตาของคนรู้จักในงาน ที่พากันสงสัยว่าลุงบืนพาสาวที่ไหนมาด้วย ไปตลอดทั้งงาน
จวบจนกระทั่งกลับบ้าน เราทั้งสามก็ได้แยกทางกันตั้งแต่ที่วัด โดยที่เรา แน่นอนล่ะว่าต้องกลับคนเดียว ส่วนอีเชอร์นั้นกลับกับลุงบืน ตลอดทั้งทางที่เราขี่รถกลับบ้าน เราก็อดคิดไม่ได้เลยว่าตอนนี้ อีเพื่อนสาวจะเป็นอย่างไรบ้าง ป่านนี้นางคงนอนถ่างหอย ให้ลุงบืนทำหน้าที่ผัวสมใจอยากไปแล้วแน่ๆ แต่ก็อดเป็นห่วงมันอยู่เหมือนกันนะ เพราะขนาดดุ้นเอ็นของลุงบืนที่เราเห็นคร่าวๆในวันนั้น มันมีขนาดทั้งยาวและใหญ่เป็นอย่างมาก แถมลำเอ็นยังสีคล้ำดูน่าเกรงขามไม่น้อย มีหวังคืนนี้ ชะตาหอยของอีเชอร์ คงได้บานเบ้อเร่อแน่ๆ จนกระทั่งถึงบ้าน เวรแล้ว! มือถือของเราดันติดไปในกระเป๋าอีเชอร์สะได้ ป่านนี้พี่บอลผัวเรา คงจะโทรหายิกๆแล้วแน่ๆ ไม่รอช้า รถมอเตอร์ไซค์คู่หูก็ได้ทำงานอีกครั้ง
พอไปถึงบ้านของลุงบืน ก็ปรากฎว่าไฟภายในบ้านถูกดับสนิททุกดวง จะมีก็แต่แสงสลัวที่ส่องออกมาจากบริเวณห้องนอนของลุงบืนเท่านั้น จู่ๆ ความคิดที่แสนพิเรนทร์ก็แล่นเข้ามาภายในหัวทันควัน 'ป่านนี้อีเชอร์กับลุงบืน จะไปกันถึงไหนแล้วนะ' เราไม่ปล่อยให้ความสงสัยต้องรอนาน รีบสาวเท้าย่อง ตรงไปยังบานหน้าต่างห้องนอนของลุงบืนทันที เพราะถ้าจำไม่ผิด ที่บานหน้าต่างไม้มันจะมีรอยแตกอยู่ พอให้สายตาส่องเข้าไปได้
บ๊วบบบ!!! แผล่บบบ!!!!
พอสายตาของเรา ประทับไปกับรอยแตกของบานหน้าต่างได้เท่านั้นแหละ ภาพที่แสนสยิวภายในห้อง ก็ได้ฉายให้เราเห็นเต็มลูกตา ตอนนี้ทั้งอีเชอร์และลุงบืนได้อยู่ในสภาพเปลือยเปล่า กำลังใช้ริมฝีปากต่อสู้กับส่วนล่างของกันและกันสุดริดในท่า69 โดยที่ลุงบืนเป็นฝ่ายนอนอยู่ด้านล่าง กำลังใช้แผ่นลิ้นสาก เลียตวัดไปตามร่องแคมด้วยความหื่นกระหาย ทั้งเลีย ทั้งฉก เร็วไวปานเครื่องจักร จนริมฝีปากและใบหน้าชุ่มโชกไปด้วยน้ำอยากจากร่องหี แต่ที่ทำเอาเราตกใจจนตะลึง นั่นก็คือ ขนาดของลำควย ที่กำลังโดนช่องปากของอีเชอร์เขมือบอยู่ มันทั้งยาว ทั้งใหญ่ สีดำคล้ำ เส้นเลือดปูดโปนพันเต็มลำดูน่าหวาดกลัว ถ้าเดาไม่ผิด อีเชอร์กำลังพิชิตกับควย9นิ้วแน่ๆ เล่นเอาเพื่อนสาวจอมร่านของเรา เขมือบได้แค่ส่วนหัวควยเท่านั้น แต่เสียงสวรรค์นี่สิ ดังลั่นจนออกมานอกห้อง
"อุ้ยยย ผัวจ๋าาา เสียว เสียวหีจัง อุยยย……" อีเชอร์ครางลั่น ในขณะที่มันกำลังนั่งบดร่องหีบนฝีปากของลุงบืนไม่หยุด ส่งผลให้ในยามนี้ ลำควยขนาด9นิ้ว ได้ผงาดต่อสายตาของเราแจ่มชัด และนั่นเอง ความรู้สึกซาบซ่านไร้ความถูกผิด ก็ได้เล่นงานจิตใจอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จนเผลอคิดไปว่า ถ้าได้มีวาสนาดูดกินควยยาวใหญ่แท่งนี้ คงจะเป็นบุญปากของเรายิ่งนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งอิจฉาอีเชอร์เป็นอย่างมาก เพราะถ้าเราเป็นมันนะ จะดูดกินควยของลุงบืน ให้น้ำควยแตกคาปากเลยคอยดู
พอลุงบืนชิมรสร่องหีของเพื่อนสาวเราได้ที แกก็รีบจับร่างอวบอั๋นให้ลงนอนท่าหงายบนเตียงอย่างไว ก่อนที่สองเต้าอวบใหญ่ จะถูกฝีปากของแกเล่นงานหนักหน่วง ทำเอาอีเชอร์ถึงกับร้องครวญคราง ส่ายไปส่ายมาไม่หยุด
"อ้ายยย ผัวจ๋าาา เมียเสียว เสียวเหลือเกิน อุ้ยยย เมียอยากโดน อยากโดนควยใหญ่ๆของผัว แล้วอ่าาาา……"
ลุงบืนไม่รอช้า รีบยันร่างกำยำของตนขึ้นมาอย่างไว ก่อนจะเอื้อมไปหยิบซองถุงยางอนามัยที่อยู่บนหัวเตียงขึ้นมา
"ลุงบืน สดก็ได้นะ หนูยอม……" อีเชอร์ร้องทัก มือไม้ของมันก็เอาแต่ลูบไล้ไปตามร่างล่ำบึกของลุงบืนไม่หยุดหย่อน ชวนให้เรารู้สึกอิจฉาจับใจ
"ป้องกันไว้ก่อนดีแล้ว ลุงกลัวไม่ทัน เดี๋ยวเรื่องใหญ่" ลุงบืนเอ่ยยิ้มกำชับ ก่อนจะค่อยๆสวมถุงยางอนามัยเข้าลำควยด้วยความยากลำบาก
"หูย ใหญ่จนถุงยางคับเลยอ่ะ ถุงมันจะแตกไหมเนี่ย……" อีเชอร์เอ่ยทัก พร้อมเอื้อมฝ่ามือมาจับที่ปลายดุ้นควยอย่างพิจารณา
ลุงบืนไม่ตอบ รีบจับสองขาอวบของอีเชอร์ถ่างออกจากกัน แล้วค่อยๆจับหัวควยบานใหญ่ จ่อแทงเข้าร่องหีทีละนิด ทีละนิด เล่นเอาอีเชอร์ร้องลั่นห้อง
"อุ้ยยย ลุงบืน เบาๆก่อนสิ เจ็บ ควยใหญ่อย่างกับควยม้า อ้ายยย"
"ทน ทนหน่อยนะหนู" ในขณะที่ลุงบืนเองกัดฟันกลามแน่น ปลอบใจอีเชอร์เป็นระยะ
จนในที่สุด ดุ้นควยขนาด9นิ้ว ก็ได้มุดจมหายเข้าไปภายในร่องหีได้เพียงครึ่งลำ แต่ทำเอาอีเชอร์ถึงกับร้องลั่นไม่หยุด
"อ้ายยย เจ็บหี ลุงบืน ควยใหญ่จัง ทั้งเจ็บทั้งแน่น ร่องหีไปหมดแล้ว……" ก่อนที่ลุงบืนจะรีบก้มลงไปใช้ปาก จัดการกับสองเต้าของมันสุดเหวี่ยง เล่นเอาทั่วทั้งเนินนม เต็มไปด้วยร่องรอยสีแดงเป็นจ้ำๆ ก็คงจะอย่างว่านะแหละ ลุงบืนแกห่างการร่วมเพศมานาน พอมีโอกาสจึงจัดใหญ่จัดเต็ม ถึงแม้ว่าแกจะไม่ค่อยตอบรับถ้อยคำของอีเชอร์ก็เถอะ แต่เราก็รู้ ว่าแกเงี่ยนในรสตัณหามากแค่ไหน พออีเชอร์ทุเลาความเจ็บลงไป ท่อนควยขนาดใหญ่ก็เริ่มทำงานภายในช่องหีทันที
ส่วบ ส่วบบบ!!! เสียงกะซวกเย็ดเนิบๆ ช้าๆดังขึ้น ไปพร้อมกับเสียงร้องครวญครางปานจะขาดใจของอีเชอร์ บ้างก็ร้องเจ็บปวด บ้างก็ร้องเสียว สลับปรับเปลี่ยนอยู่แบบนี้ไม่หยุด นี่แค่โดนควยลุงบืนเย็ดครึ่งลำนะเนี่ย ถ้าโดนฝังเข้าไปหมดลำละก็มีหวัง อีเชอร์คงได้สิ้นชื่อคนร่านเป็นแน่ แต่พูดก็พูดเถอะ อย่าว่าแต่มันเลย ขนาดเราที่ว่าเจอดุ้นควยมานักต่อนัก ยังรู้สึกหวาดหวั่นกับดุ้นควยของลุงบืนเป็นอย่างมาก นี่สินะ คนควยม้าของจริง!
เราตัดสินใจปล่อยให้อีเชอร์เพื่อนรักมีความสุข เอ่อ ซึ่งเราก็ไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้มันมีความสุขจริงๆหรือเปล่า กับลุงบืนให้เต็มที่ ก่อนจะค่อยๆสาวเท้าเดินออกมาจากบริเวณเพื่อกลับบ้าน พอมาถึงบ้านได้เท่านั้นแหละ เรารีบถอดกางเกงนอกและกางเกงชั้นในออกอย่างไว แล้วจัดการบรรจงสาวดุ้นจิ๋วของเราขึ้นลงอย่างเมามันส์ พร้อมจิตนาการว่ากำลังโดน……ลุงบืน กระหน่ำควยม้าเย็ดด้วยความหนักหน่วง โดยที่เราเองก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมถึงได้มีความคิดประหลาดกับญาติที่ขึ้นชื่อว่าลุงได้มากมายขนาดนี้ สุดท้ายก็กลายเป็นว่า เราที่ตั้งใจหาเมียมาให้ลุง กับอยากเป็นเมียลุงเสียเอง………………
ช่วงนี้ผมหายไปนานเลย ยังคิดถึงผมอยู่หรือป่าวครับ อิอิ
|