มันบอกผมว่าเป็นชายแท้(ตอนที่ 8) – มันหลอกผมว่าจะพาไปเที่ยว
“Just woke up, mom (เพิ่งตื่นครับแม่)”
ผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาด้วยเสียงพูดภาษาอังกฤษแบบงัวเงียๆ ที่ดังเข้าหูมา ผมขมวดคิ้วสงสัยว่ากูแอบเปิดซีรีส์ค้างไว้ก่อนนอนรึเปล่าวะ ก่อนจะค่อยๆ ลำดับเหตุการณ์ไปถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน หน้าก็ร้อนขึ้นมาทันทีเลยครับเมื่อคืนกว่าที่ผมจะได้นอนก็ปาไปเกือบตีสองไอ้พี่เนทมันจัดหนักจัดเต็มจนหมดแรงกันไปสิ่งที่เละกว่าพวกผมก็คือเตียงของพี่มันครับ ยับเยินจนต้องอพยพมานอนบนเตียงผมสภาพผมกับมันตอนนี้ก็ยังคงไม่ใส่เสื้อผ้ากันทั้งคู่โดยที่ผมนอนหนุนอกและพี่มันก็โอบผมอยู่
นี่มันนอนกอดผมทั้งคืนเลยเหรอ...
“How about your new roommate Nathan?(แล้วรูมเมทลูกเป็นยังไงบ้าง?)”
ผมเงยหน้าไปมองพี่เนทที่กำลังตาปรือๆ ตามสภาพคนเพิ่งตื่น มันกำลังวีดีโอคอลคุยกับแม่มันอยู่ครับ เหมือนจะพูดถึงผมด้วยพี่เนทมันก้มลงมามองผมนิดหนึ่ง “Nice, He’s a freshmen. We’re fine. Don’t Worry. (ก็ดีครับ น้องเขาเป็นเด็กปีหนึ่ง พวกเราโอเค แม่ไม่ต้องห่วง)”
“Be nice to him, Okay? (ทำตัวดี ๆ กับน้องเขาด้วยล่ะรู้ไหม?)” “Yeahhh, You wanna talk to him? He’snext to me. (แน่นอนอยู่แล้วแม่อยากคุยกับน้องมันไหมละ? น้องมันอยู่ข้าง ๆ ผมเนี่ย)” “Wait, What?! Next to you? On thebed?! (เดี๋ยวนะ ข้าง ๆ แก บนเตียงเนี่ยนะ?!)”
ผมตาเบิกโพล่งทันทีแล้วรีบชี้หน้าพี่เนทว่าเป็นเชิงว่าอย่าทะลึ่งนะมึง มันยิ้มกวนตีนใส่ผมก่อนที่จะได้ยินเสียงแม่มันถอนหายใจ แล้วพูดด้วยเสียงอย่างอ่อนอกอ่อนใจ “Don’t forget toprotect. You know our rules, Right? (อย่าลืมป้องกันด้วยลูกรู้กฎของเราใช่ไหม?)”
“Don’t worry, mom. That’s the firstrule as you said. (อย่าห่วงเลยแม่ มันเป็นกฎข้อแรกแบบที่แม่เคยบอกแหละ)”พี่เนทตอบกลับไป พอผมเห็นว่ามันน่าจะไม่หันกล้องมาทางผมแน่ ๆเลยถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนพี่เนทมันเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้เลยรีบพูดกับแม่มันต่อ “Mom, I wanna use a motorcycle. Can I go to dad’s house and get it?(แม่ ผมอยากใช้มอเตอร์ไซค์อ่ะผมไปเอาที่บ้านพ่อได้ป่ะ)” “Why not? It’s yours. What’s aboutthe license? Is it expired? (ตามใจสิมันเป็นของลูกหนิ แล้วใบขับขี่ล่ะ หมดอายุไปรึยัง?)”
พี่เนทส่ายหน้าตอบกลับไป
“Good. Call your dad before you go.Take care Nathan. I have to go to granny house now. (โทรหาพ่อเขาก่อนด้วยละกัน ดูแลตัวเองด้วยละเนธานแม่ต้องไปบ้านคุณยายแล้ว)” “Ok, Miss you. (เคครับ คิดถึงนะแม่)” “Miss you too my son. (คิดถึงลูกเหมือนกัน)”
พี่เนทวางสายไป พร้อมกับยิ้มเศร้า ๆแบบที่ผมเพิ่งเคยเห็นครั้งแรกเสียงแล้วก็สำเนียงมันเวลาพูดอังกฤษดูมีเสน่ห์มากเลยครับมันก้มหน้ามาเห็นผมที่มองหน้ามันอยู่ก็เลิกคิ้วสงสัย
“ชื่อเต็มพี่คือเนธานเหรอ?” มันพยักหน้า “แล้วแม่พี่อยู่ที่ไหนอ่ะ?” “ทำไม? อยากไปฝากตัวเป็นลูกสะใภ้รึไง?” มันสวนมาพร้อมกับกวนตีนใส่ “เปล่าา ผมก็แค่อยากรู้เฉย ๆ” “แม่กูเป็นคนออสเตรเลียเพิ่งย้ายไปอยู่ที่นั่นตอนกูขึ้นปีหนึ่ง ส่วนพ่อกูเป็นคนไทย ยังอยู่ที่นี่”มันตอบด้วยเสียงที่ไม่ร่าเริงเหมือนเดิม เหมือนมีความเศร้าอะไรนิด ๆซ่อนอยู่ในนั้น “อ๋อ...พี่เป็นลูกครึ่งออสเตรเลียนี่เอง”ผมเห็นท่าทางแบบนั้นเลยไปไม่ค่อยเป็น ก่อนจะหาทางเปลี่ยนเรื่อง “ตอนพี่พูดอิ๊งอ่ะมีเสน่ห์ดีนะ” มันเลิกคิ้วมองผมอย่างประหลาดใจก่อนจะกลับมายิ้มกวนตีนใส่ “ชอบกูแล้วอ่ะดิ” “ช...ชอบ? ก็แค่ชมป่ะ” มันหัวเราะหึหึใส่ผม แล้วโน้มหัวลงมาหอมหัวผมไปฟอดใหญ่“ลุกได้ละ กูจะเอาผ้าปูกูไปซัก สภาพแม่งดูไม่ได้สัดๆ”
ผมชะโงกหน้าไปมองสภาพเตียงพี่เนทมันก็เห็นด้วยว่าควรจะต้องทำจริงๆ เลยยอมลุกออกจากตัวมัน “ให้ผมช่วยอะไรเปล่า?” “ไหวเหรอมึงอ่ะ? เมื่อคืนหนักเลยนะ ฮ่าๆๆ”
จริง ๆ ก็ไม่แน่ใจหรอกครับว่าไหวไหม? เพราะตอนนี้แม่งเมื่อยไปหมดเลย ตรงก้นก็รู้สึกระบม ๆ ไปหมดแต่ด้วยศักดิ์ศรีแล้วนั้นน...“สบ๊ายยย”
“ไม่ต้องกูจัดการเองได้”มันบอกปัดผมแล้วเดินไปจัดการเตียงตัวเองเก็บขยะอะไรลงถุงดำของมันไป “วันนี้มึงไม่มีเรียนใช่ป่ะ?” “อือ ทำไมเหรอ” “งั้นเดี๋ยวก็ไปอาบน้ำ ไปหาไรกินกันกูจะพาไปเที่ยว”
ผมรีบเด้งตัวขึ้นมาอย่างตื่นเต้นทันที
“เที่ยวไหนอ่ะ” “เดี๋ยวมึงก็รู้น่าแต่ตอนนี้ไปหาอะไรมาใส่ซะ ก่อนที่กูจะทนไม่ไหว” มันสั่งผมผมที่เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่ากำลังแก้ผ้าอยู่ และพอมองไปที่พี่เนท มันใส่บ็อกเซอร์ไว้แต่บ็อกเซอร์มันเริ่มนูน ๆ อูม ๆ ขึ้นมาอีกแล้วครับ มันค่อย ๆหันมามองผมพร้อมกับชูถุงยางที่ยังไม่ได้ใช้มาให้ดูเป็นสัญญาณว่าถ้ายังช้าไอ้ห่อนี่ถูกแกะแน่ ๆ เห็นแบบนั้นผมก็รีบคว้าผ้าขนหนูมาคลุมตัวเองก่อนอย่างแรกแล้วเข้าห้องน้ำให้ไว
เข้าห้องน้ำมาผมก็กะจะทำความสะอาดช่องทางหลังจากเผชิญศึกหนักมาให้เรียบร้อยเพราะผมก็จำไม่ได้ว่าผมทำไปหรือยัง? ความจำสุดท้ายหลังจากแตกเป็นน้ำที่เท่าไรก็ไม่รู้ก็คือผมหมดแรงจนหลับไปแต่พอเริ่มเอาน้ำล้างผมก็รู้ทันทีว่าช่องทางของผมถูกทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วไม่มีความเลอะ ความเหนอะ ความเหนียวอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวถ้าไม่ใช่ผมละเมอขึ้นมาทำเอง ก็คงเป็นฝีมือไอ้ขี้เก๊กข้างนอกนั่นละ
ผมมองไปที่ประตูแล้วยิ้มมีมุมเทคแคร์เหมือนกันนี่นาพี่เนท...
.......................................................................................................
หลังจากพี่เนทมันซักผ้าปูที่นอนแล้วก็อาบน้ำเสร็จ พวกผมก็พากันลงมาจากหอเพื่อไปหาอะไรกินครับ พอประตูลิฟต์เปิดผมที่กำลังจะเงยหน้าจากโทรศัพท์ก็ต้องเปลี่ยนไปมองหน้าพี่เนทแทน เพราะจู่ ๆมันก็โอบไหล่ผมแล้วดึงเข้ามาชิดตัว แล้วก็เห็นมันมองไปตรงหน้าด้วยสายตานิ่ง ๆผมเลยมองตามก็เจอกับพี่เฟมที่ยืนมองมาที่มือของพี่เนทที่โอบไหล่ผมอยู่ผมขยับตัวตามสัญชาตญาณโดยที่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไปทำไม แต่พี่เนทมันบีบไหล่ผมแน่นไม่ให้ขยับผมเลยยกมือไหว้พี่เฟมทักทายทำลายความเงียบไป
“หวัดดีครับพี่เฟม” “อ...อ้าวไง น้องพีท ไอ้เนท ไปข้างนอกกันเหรอ” พี่เฟมที่เหมือนจะเพิ่งดึงสติกลับมาได้ทักพวกผมแต่สายตาจ้องไอ้พี่เนทเขม็งเลยครับ ชิบหายละ จะตีกันไหมวะ? “ค...” “ใช่พี่ผมจะพาพีทไปกินข้าว มันยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า” พี่เนทมันชิงตอบแทนผม “ไหงงั้นพี่ซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งไปแขวนไว้ให้หน้าห้องแล้วหนิ พีทไม่ได้กินเหรอครับ”
ห๊ะ...ข้าวเหนียวหมูปิ้งไหน?ทำไมผมไม่รู้เรื่อง?!
“แค่นั้นมันไม่อิ่มหรอกพี่วันหลังไม่ต้องลำบากนะครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง” เดี๋ยว ๆ ไอ้พี่เนทข้าวเหนียวหมูปิ้งไหนวะ!บอกกูก๊อนนน ทำไมมึงรู้เรื่องแต่กูไม่รู้ “เรื่องแบบนี้กูว่าถามพีทเขาเองดีกว่าว่ะเนท”
เอาล่ะ...ตอนนี้พวกพี่เขาทั้งคู่ก็มองมาที่ผมคนเดียวแล้วล่ะครับชิบหาย ทำไมจู่ ๆ ก็กดดันวะ เชี่ยไรเนี่ย?! แล้วข้าวเหนียวหมูปิ้งกูล่ะ?!
“เอ่อ...ขอเข้าลิฟต์หน่อยได้ไหมครับ”เสียงเจี๋ยมเจี้ยมดังขึ้น พวกผมทั้งหมดเลยหันไปมองก็เจอเพื่อนร่วมหอคนหนึ่ง ตัวพอๆ กับผมแต่ท่าทางดูเรียบร้อยสุด ๆ แว่นกรอบหนา ๆ มองพวกผมอย่างเกร็ง ๆ สลับกับมองลิฟต์ที่ผมกับพี่เนทขวางทางอยู่
แล้วเหมือนกับพี่เนทกับพี่เฟมจะได้สติเลยแยกย้ายกันโดยไม่ได้นัดหมาย พี่เฟมก็หันหลังเดินกลับไปที่ห้องทำงานส่วนพี่เนทก็พาผมออกมาจากหอ ทิ้งไว้แค่ความอึมครึมที่คลุ้งไปทั่วกับไอ้หนุ่มแว่นนั่นที่ยังคงงงชิบหายกับเรื่องที่เกิดขึ้น
พอออกมาจากหอพี่เนทมันก็ปล่อยไหล่ผม ผมเลยหันไปถามทันที “พี่เฟมเอาข้าวเหนียวหมูปิ้งมาให้เหรอทำไมผมไม่รู้อ่ะ” “กูเอาไปทิ้งทำไม? อยากแดกรึไง? เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปซื้อมาให้ก็ได้ ไม่ต้องรอจากแม่ง”
มึงโมโหอะไรเนี่ย?!
“ใจเย็นๆ ดิพี่เนท ผมแค่สงสัย พวกพี่คุยกันเหมือนรู้เรื่องกันสองคน แต่ผมไม่รู้อ่ะ”
พี่เนทถอนหายใจยาวเอามือลูบหน้าเหมือนสงบสติอารมณ์ ก่อนจะหันมาพูดกับผม “กูบอกแล้วว่ากูจะจีบมึงจะให้กูชอบที่มีคนมาจีบมึงเหมือนที่กูทำได้ยังไง” ผมมองไอ้ตัวโตที่นิสัยโคตรเด็กแล้วยิ้มบางๆ “แต่ผมว่าพี่ตอนคุมอารมณ์ได้มีเสน่ห์กว่าเยอะเลยนะ” พี่เนทมันนิ่งไปก่อนผมจะเห็นว่าจู่ ๆ หูมันก็แดงขึ้นมา “พูดเชี่ยไรของมึง? รีบเดินไอ้เตี้ย กูหิว”
เอ้า...มึงหิวแต่กูเจ็บตูด จะให้กูรีบเดินทำเชี่ยไรหาาาา?!
.......................................................................................
พวกผมไปกินอาหารตามสั่งกันแถวหน้ามหาลัยกันครับกินเสร็จไอ้พี่เนทก็เรียกแกร๊บคาร์มา ตามที่มันบอกว่าจะพาผมไปเที่ยวนั่นล่ะ แต่จนแล้วจนรอดผมก็ยังไม่รู้ว่ามันจะพาผมไปไหนถามมันแล้วมันก็บอกแค่ว่า เดี๋ยวก็รู้ ผมกับมันนั่งรถมาจนเกือบถึงชานเมืองแล้วรถก็เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่ง ผมมองไปรอบ ๆ อย่างงง ๆ ว่าที่แบบนี้มันจะมีอะไรให้เที่ยววะก่อนที่รถจะจอดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่งที่ดูไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มีพื้นที่พอดี ๆ
ผมกับพี่เนทลงมาจากรถก็อดไม่ได้ที่จะต้องถามมัน“พี่พาผมมาบ้านใครเนี่ย?” “บ้านกูเอง”
ห๊ะ...
แล้วพี่เนทมันก็ไขกุญแจเปิดประตูรั้วแล้วจูงมือผมเข้าบ้านไป ผมเดินเข้ามาอย่างงง ๆ ในบ้านมีสวนเล็ก ๆที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ตรงลานจอดรถกว้าง ๆ มีมอเตอร์ไซค์สไตล์วินเทจจอดอยู่คันหนึ่งมันพาผมไปเปิดประตูบ้านเข้าไป ผมเหลือบไปเห็นป้ายติดว่า ครัวเชฟภาคภูมิ
“พี่เนทบ้านพี่เป็นร้านอาหารเหรอ”มันไม่ตอบผมแต่พาผมเดินเข้าบ้านไป สายตาผมก็สอดส่องไปทั่ว ๆก็เจอกับบ้านที่ตกแต่งอย่างเรียบง่าย ตรงมุมหนึ่งของบ้านถูกจัดไว้ให้มีโต๊ะยาวกับที่นั่งหลายที่เหมือนเป็นโต๊ะรับประทานอาหารใหญ่ ๆ ที่มีวิวมองไปเห็นสวนอีกสวนที่ถูกจัดไว้เล็ก ๆหรือนี่จะเป็นร้านอาหารแบบเชฟเทเบิ้ล
เดี๋ยวนะ...พี่เนทบอกว่าแม่มันอยู่ออสเตรเลีย แต่พ่อยังอยู่ที่ไทย แล้วนี่เป็นบ้านมันก็น่าจะเป็นบ้านของพ่อมัน พ่อพี่เนทเป็นเชฟเหรอเนี่ย??
มันพาผมมาถึงห้องหนึ่งที่อยู่ชั้น2 ก่อนจะไขกุญแจพาผมเข้าไปข้างในผมเข้าไปยืนเอ๋อ ๆ มองสำรวจไปรอบ ๆ ห้องนี้ก็น่าจะเป็นห้องของพี่เนทมันแหละครับห้องตกแต่งสไตล์ผู้ช๊ายผู้ชาย มีกีตาร์วางไว้ มีพวกอุปกรณ์งานศิลปะวางไว้อยู่มุมหนึ่งโปสเตอร์นักร้อง โปสเตอร์หนังติดอยู่บ้างประปราย ระหว่างพี่เนทมันเดินไปหาของที่โต๊ะทำงานของมันผมก็เดินสำรวจไปเรื่อย ก็ไปเจอกับรูปหนึ่งที่ตรงหัวเตียงผมหยิบขึ้นมาดูด้วยความสนใจ
รูปนี้เป็นรูปของพี่เนทที่น่าจะเป็นช่วงที่มันเด็กกว่านี้ถ่ายคู่กับผู้ชายคนหนึ่งตัวเล็ก ๆ ผิวขาว ๆ หน้าตาน่ารักเลยล่ะครับพี่เนทมันโอบไหล่คนนี้เอาไว้ ส่วนผู้ชายคนนั้นก็โอบเอวพี่เนททั้งคู่ยิ้มมองมาที่กล้องอย่างมีความสุข ก่อนสายตาผมจะเหลือบไปเห็นตัวหนังสือเล็กๆ ที่เขียนไว้มุมล่างของรูปว่า
Only Love 2021
เชี่ย...นี่แฟนเก่าพี่เนทเหรอ?!
ไม่ทันที่ผมจะได้ตกใจนาน พี่เนทมันก็มายืนอยู่ข้างหลังแล้วคว้ากรอบรูปในมือผมไปก่อนจะเอาไปเก็บไว้ในลิ้นชักตรงโต๊ะทำงาน หน้าตามันนิ่งสุด ๆ จนผมเดาอารมณ์ไม่ถูก “พี่เนทพี่โอเครึเปล่า?”
“อืม กูไม่เป็นไร กูได้ของละ รีบไปกัน” ผมกลับมาจูงมือผมแล้วพาเดินออกมาจากห้องปกติเวลาคนเรากลับมาบ้านมันต้องมีความสุขสิครับ แต่ทำไมอาการของไอ้พี่เนทตอนนี้มันตรงกันข้ามไปหมดเลยล่ะผมชักจะเริ่มงง ๆ แล้วนะเนี่ย
“เนธาน”
เสียงผู้ชายวัยกลางคนดังขึ้นตอนที่พวกผมลงมาถึงชั้นล่างพอดี ผมหันไปตามเสียงก็เจอกับผู้ชายรูปร่างสูงหุ่นอวบๆ ดูสะอาดสะอ้าน กำลังถือถุงของสดเต็มไม้เต็มมือ กำลังมองพวกผม...ไม่สิ มองพี่เนทอยู่พอดูดี ๆ แล้วก็หน้าตามีเค้าความคล้ายกับพี่มันอยู่นะครับงั้นก็น่าจะเป็นพ่อพี่เนทล่ะสินะ
พอคิดได้แบบนั้นผมก็รีบยกมือไหว้ทันที พ่อพี่เนทพยักหน้ารับไหว้แต่พี่เนทมันก็ทำเป็นไม่สนใจ แล้วจะพาผมเดินออกจากบ้าน
“เดี๋ยว...เนท จะกลับมาทำไมไม่บอกก่อน พ่อจะได้เตรียมอะไรไว้ให้กินแล้วนั่น...เพื่อนลูกเหรอ?” “ผมแค่กลับมาเอามอเตอร์ไซค์ พ่อไม่ต้องสนใจหรอก”
พี่เนทหยุดเดินนะครับ แต่ก็ตอบโดยที่ไม่หันกลับไปมองพ่อมันเลยสักนิด ผมเป็นคนกลางที่โคตรไม่รู้อีโหน่อีเหน่ก็ได้แต่มองทั้งสองคนสลับกันไปมาแบบโคตรจะทำตัวไม่ถูกนี่กูถูกพามาอยู่ในสถานการณ์อะไรวะเนี่ย?
“เหรอ...แล้วนี่จะไปแล้วเหรอ อยู่กินอะไรด้วยกันหน่อยไหม?เดี๋ยวพ่อทำให้กิน” เสียงพ่อพี่เนทเจือความเศร้า ไม่ใช่แค่เสียงหรอกครับ ทั้งหน้าทั้งแววตายังโคตรเศร้าเลย “ไม่ล่ะ ผมกินมาแล้ว ผมไปนะ”
แล้วพี่เนทก็ลากผมออกมาจากบ้าน จนผมแทบจะยกมือไหว้ลาพ่อพี่เนทไม่ทันมันมาหยุดอยู่ตรงมอเตอร์ไซค์สไตล์วินเทจที่จอดไว้ แล้วหยิบหมวกกันน็อคมาสวมให้ผมใบหนึ่งสวมให้ตัวเอง แล้วเดินไปเปิดประตูรั้วก่อนจะกลับมาเข็นมอเตอร์ไซค์ตัวเองออกจากบ้าน ผมมองแล้วเดินตามก่อนจะหันไปเห็นพ่อพี่เนทเดินออกมาส่งที่หน้าบ้าน หน้าตาแกโคตรเศร้าเลยครับผมละสงสารจับใจ แต่ยังไง๊ยังไงพี่เนทมันก็ไม่หันมามองสักนิดจนผมอดรู้สึกเศร้าตามไปด้วยไม่ได้ ผมหันกลับมายกมือไหว้พ่อพี่เนทอีกครั้งแล้วรีบไปซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์พี่มันที่สตาร์ทเครื่องจอดรอผมอยู่ โดยไม่ลืมปิดประตูรั้วให้เรียบร้อย
แล้วพี่เนทมันก็ขับมอเตอร์ไซค์ออกมา โดยที่ไม่พูดอะไรสักคำผมได้แต่มองแผ่นหลังกว้าง ๆ ของมัน แล้วก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาแบบหาสาเหตุไม่ได้ก่อนจะสังเกตเห็นว่าไหล่มันกำลังสั่นอยู่ มือข้างก็ยกขึ้นมาปาดน้ำตาพร้อมกับเสียงสูดน้ำมูกที่ดังตามมา ผมเลยอดไม่ได้ที่จะโอบแขนรอบเอวกอดมันไป ไม่รู้หรอกครับว่ามันจะรู้สึกดีขึ้นไหมแต่ผมคิดว่านี่เป็นสิ่งที่ผมควรจะทำในตอนนี้
มันเกิดอะไรขึ้นกับพ่อลูกคู่นี้กันแน่...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
......................................................................................
เมื่อความลับถูกเฉลยไปหนึ่งอย่าง มันจะงอกออกมาอีก 2 อย่าง Hail Hydra!! (ผิด)
ใครที่หวังว่าเรื่องนี้จะมีฉากเสียวแบบรัว ๆ ผมขอโทษล่วงหน้าไว้ก่อนเลยนะฮะ
มันมีฮะ มีแน่ แต่มันมีเนื้อเรื่องของมันด้วย
ผมอยากให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับทุก ๆ ตัวละครในเรื่องนี้ไปก่อน แล้วพอถึงจุดที่พวกเขาจะเอากัน พวกเขาจะเอากันอย่างถึงอกถึงใจแน่นอน 5555
ตอนเขียนเรื่องนี้ผมตั้งใจจะเขียนให้ทุกตัวละครมีชีวิตมากที่สุด เพราะฉะนั้นพวกเขาจะมีเรื่องราวของตัวเองด้วย
มารู้จักพวกเขาไปพร้อม ๆ กันกับผม แล้วหวังว่าจะรักพี่เนท รักพีท รักฮาร์ท รักพี่เฟม รักพี่เยี่ยม รักพี่ฮัท แล้วก็ตัวละครอื่น ๆ เหมือนที่ผมเริ่มจะรักพวกมันแล้วด้วยนะครับ
ขอบคุณมาก ๆ เลยค้าบบบบบ
|