; ^5 u" Q6 I( t) o+ l
เลิฟ มีทูตสวรรค์ตนหนึ่งนั่งอยู่บนพื้นหญ้าริมแม่น้ำ ใบหน้าสวยรูปร่างได้สัดส่วน งดงามเหมือนดั่งรูปปั้น สวมเสื้อผ้าสีขาวบริสุทธิ์และมงกุฏดอกไม้ พื้นดินสั่นสะเทือน เกิดเสียงดังก้องไปทั่วพสุธา เงาดำขนาดใหญ่ปกคลุมเหนือหัว ทูตสวรรค์ตนนั้นหันไปมอง พบกับอสูรสีแดงขนาดใหญ่ ร่างกายใหญ่โตมหึมา กล้ามแน่นไปทั้งตัว ปีกตะปุ่มตะป่ำขนาดใหญ่สยายกว้าง ใบหน้าอัปลักษณ์น่าเกลียดน่ากลัว เขี้ยวยาวแหลมงอกออกมาจากปาก เขาบนหัวแหลมสูงสีดำ ดวงตาสีแดงฉานลุกโพลงดั่งเปลวเพลิง แต่ทูตสวรรค์ตนนั้นกลับไม่ได้มีทีท่าหวาดกลัวเลยสักนิด กลับมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนบนใบหน้า อสูรตนนั้นนั่งลงด้านข้างทูตสวรรค์ 'รอข้านานมั้ย' ดอกไม้รอบกายของทั้งสองค่อยๆเบ่งบาน แต่งแต้มพื้นหญ้าสีเขียวด้วยดอกไม้เล็กสีขาว 'นานกว่านี้ก็เคยรอมาแล้ว' เลิฟสะดุ้งตื่นขึ้น ตาเบิกโพลงเหงื่อออกเต็มหน้าผาก แผลเป็นที่หลังต้นคอเปล่งแสงสีเขียววาบก่อนจะดับไป เลิฟเอามือจับที่ต้นคอเพราะเจ็บแปล๊บที่แผลเป็น เมื่อกี๊ฝันงั้นเหรอ ฝันได้สมจริงเหมือนเลิฟได้ไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นเลย เลิฟค่อนข้างมั่นใจว่านี่เป็นครั้งแรกที่เลิฟฝันแบบนี้ แต่ทำไมมันถึงได้รู้สึกคุ้นนัก เหมือนเคยเห็นเหตุการณ์นี้มาก่อนแล้ว เลิฟเลื่อนตัวขึ้นมานั่งบนเตียง สงสัยเมื่อคืนเหนื่อยมากเลยหลับลึกจนฝันเป็นตุเป็นตะขนาดนี้ หลังจากที่กลับมาจากการบุกฐานฝูงลมกรดแล้วล้มเหลวไม่เป็นท่า ราคานดูจนแน่ใจว่าทุกคนปลอดภัยแล้วสั่งแยกย้าย หน้าตาดูเคร่งเครียดมาก บอกทุกคนว่าขอเวลาสักหน่อยแล้วจะเรียกประชุมอีกครั้ง เลิฟหยิบนาฬิกามาดูเวลา ต้องไปเครียมตัวไปโรงเรียนแล้ว ลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออก ใส่ไว้ในตะกร้า หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป เปิดฝักบัวให้น้ำไหลลงมารดร่างกาย ชำระล้างความเหนื่อยล้าเมื่อคืนออกไป เริ่มต้นวันใหม่อย่างสดชื่น เดินเช็ดผมออกมาจากห้องน้ำ นั่งลงเช็ดผมให้แห้ง ลุกขึ้นเดินไปที่โต๊ะ หยิบหนังสือและอุปกรณ์การเรียนใส่กระเป๋า เพื่อนที่โรงเรียนหลายคนถามเลิฟว่า การที่มีฝูงต้องคอยออกไปสู้ปฏิบัติการบ่อยๆแล้วยังต้องมาเรียนอีกเนี่ยไม่เหนื่อยเหรอ เลิฟก็ตอบไปทุกครั้งว่าไม่เหนื่อย ฝูงROMEไม่ใช่ฝูงที่ออกล่าอำนาจไปทั่ว ไม่ได้ออกต่อสู้ทุกวัน แถมการไปโรงเรียนนั้นเป็นความฝันของเลิฟมาตั้งแต่สมัยเด็กแล้ว เลิฟมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปโรงเรียน ได้เจอเพื่อน ได้ทำกิจกรรมต่างๆ ถึงจะยังปรับตัวได้ไม่ทันคนที่เรียนมาตั้งแต่เด็กแต่เลิฟก็พยายามอย่างเต็มที่ เลิฟเอาชุดนักเรียนที่รีดไว้มาใส่ ถือกระเป๋าลงมาข้างล่าง เดินเข้าไปในครัว หยิบขนมปังและเนยมาทากินอย่างรวดเร็ว ปกติราคานจะให้เลิฟโทรมาเรียกแล้วราคานจะมารับไปโรงเรียน แต่เลิฟชอบไปโรงเรียนเองมากกว่า รู้ว่าที่ราคานไปส่งเพราะเป็นห่วงเลิฟ แค่ไปโรงเรียนเองเลิฟคิดว่าเลิฟนั้นดูแลตัวเองได้ เลิฟเดินทะลุม่านหมอกที่ห้อมล้อมตัวบ้านฝูงออกมา เดินไปตามทางเดินหินอ่อน บ้านฝูงของเลิฟอยู่ในย่านชนชั้นสูง เป็นย่านที่พวกคนรวยอาศัยอยู่ ทุกอย่างในย่านนี้นั้นสวยงามและสะอาดหรูหรากว่าที่อื่นอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่ถนนยังดูออกว่าหรูกว่า ใช้เวลาไม่นานเลิฟก็เดินมาถึงทางเข้าโรงเรียน เป็นทางเดินลาดยาวที่สองข้างทางมีต้นไม้ออกดอกสีเหลืองร่วงโปรยปรายไปตามทาง เลิฟเดินเข้าประตูรั้วไป เดินตามทางเดินจนมาถึงพื้นที่หน้าโรงเรียนซึ่งมีน้ำพุและม้านั่งอยู่ ตัวโรงเรียนเป็นปราสาทขนาดใหญ่ ป้ายสีทองส่องสว่างเมื่อโดนแสงแดดตกกระทบเขียนชื่อโรงเรียนเซ้นต์รอยัล เลิฟเดินเข้าไปในโรงเรียน ภายในโถงทางเดินวันนี้มีนักเรียนมากมายมารวมตัวกัน เลิฟงงไปหมดคอยหลบทางให้คนเดินเข้าไป ''เลิฟ!'' เลิฟหันไปตามเสียงเรียก , n5 S" i7 s& H2 z
เดซี่ เดซี่โบกมือยิ้มกว้างมาให้ เลิฟยิ้มตอบรีบวิ่งไปหาเดซี่ ''เมื่อคืนเหนื่อยมากเลย'' เลิฟบ่นทันทีเหมือนทุกครั้ง ''ไปทำอะไรมาล่ะ'' ''ก็เมื่อคืนนี้ไง'' เดซี่ทำหน้างง เลิฟเองก็งง ปกติเวลาฝูงออกปฏิบัติการจะต้องออกข่าวไปทั่วนี่นา แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่มีใครรู้เรื่องเมื่อคืนเลย ''ช่างมันเถอะ เรานอนน้อยอะ แล้วนี่มารวมตัวกันที่ห้องโถงทำไมเหรอ'' ''อ้าว ไม่รู้เหรอ วันนี้แล้วนะ'' เลิฟเอียงคอสงสัย ''วันนี้?'' ''ประกาศผล8คนที่ถูกเสนอชื่อให้เข้าแข่งจตุรเทพไง'' เลิฟตกใจ ''วันนี้แล้วเหรอ'' ''ใช่ รีบไปหาที่ยืนกันเถอะ อีกเดี๋ยวครูใหญ่ก็จะลงมาแล้ว'' เดซี่จูงมือเลิฟเดินแทรกไปด้านหน้าบันไดที่คนออกันอยู่ เวลาผ่านไปสักพัก จู่ก็มีดวงจิตที่มีพลังมหาศาลปรากฏขึ้น ทุกคนที่คุยกันอยู่ต่างเงียบและมองขึ้นไปบนบันได อัลฟ่าร่างใหญ่ค่อยๆก้าวลงมา ใบหน้าคมเข้ม หนวดเคราถูกดูแลจัดแต่งอย่างดี สวมสูทสีครีมเน็คไทสีแดงและแว่นตากรอบทองขนาดเล็ก นี่คือครูใหญ่ของโรงเรียนเซ้นต์รอยัล ปกติเวลาที่ครูใหญ่จะแจ้งอะไรจะฝากมาเป็นข้อความหรือออกประกาศ จะไม่ค่อยออกมาพบนักเรียนด้วยตัวเอง ที่น่าแปลกอีกอย่างคือ โรงเรียนนี้เปิดตัวมาเป็นร้อยๆปีแล้ว แต่นี่คือครูใหญ่คนที่สองตั้งแต่ก่อตั้งโรงเรียนนี้มา และไม่มีใครรู้ชื่อของครูใหญ่เลย ''สวัสดีนักเรียนทุกคน'' เสียงทุ้มต่ำของครูใหญ่ก้องไปทั่วห้องโถง ''ที่ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่คงรู้แล้วว่าวันนี้จะมีประกาศอะไร'' ครูใหญ่ก้าวลงมาอีกขั้น ''อย่างที่ทุกคนรู้ โรงเรียนเซ้นต์รอยัลถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ250ปีก่อน สร้างชื่อเสียงและบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์มามากมาย และบุคคลสำคัญเหล่านั้น ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นจตุรเทพกันทั้งนั้น'' หน้าของครูใหญ่ดูซีเรียสขึ้น ''จตุรเทพคือบุคคลที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น4สุดยอดของโรงเรียนเซ้นต์รอยัล ไม่ว่าจะในด้านการต่อสู้ มันสมอง หรือความงาม ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิด 4จตุรเทพนั้นอาจจะไม่ใช่คนที่ต่อสู้เก่งที่สุด เรียนเก่งที่สุด หน้าตาดีที่สุด แต่เป็นคนที่ได้รับการยอมรับจากคนในโรงเรียนมากที่สุด เพราะไม่ว่าคุณจะเก่งวิเศษเลิศเลอมาจากไหน ถ้าสังคมไม่ให้ค่าคุณก็เป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น'' ประโยคที่ครูใหญ่พูดนั้นหนักแน่นและมีพลังมาก ไม่มีใครกล้าส่งเสียงระหว่างที่ครูใหญ่กำลังพูดอยู่เลย ''ในอดีต คณะครูและครูใหญ่จะเป็นคนเลือกจตุรเทพด้วยตัวเอง แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปพวกเราก็ต้องเปลี่ยนด้วยเช่นกัน จึงเพิ่มการคัดเลือกเป็นสองรอบ รอบแรกคือรอบการเสนอชื่อ8คนที่คนในโรงเรียนเห็นว่าสมควรได้รับตำแหน่งจตุรเทพ จากนั้นจะเป็นการประลองการต่อสู้เพื่อหา4คนสุดท้ายที่จะเป็นจตุรเทพรุ่นต่อไป'' ครูคนหนึ่งที่ท่อนล่างเป็นโฮโลแกรมเดินมายืนข้างครูใหญ่ ดวงตาเปล่งแสงสีน้ำเงินออกมา ฉายภาพขึ้นกลางอากาศ ''จากนี้จะเป็นการประกาศรายชื่อคนที่ได้รับการเสนอชื่อมากที่สุด8คนตามลำดับ และลำดับที่ได้จะเป็นหมายเลขประจำตัวที่ใช้ในการประลองด้วย เมื่อประกาศชื่อแล้วโปรดออกมายืนเรียงแถวด้านหน้า'' ครูใหญ่กล่าว ภาพบนอากาศสั่นไปมาก่อนจะขึ้นรูปหน้าของอัลฟ่าคนหนึ่ง ''เกรด11 เยน'' เสียงเชียร์ดังไปทั่ว อัลฟ่าที่ชื่อเยนก้าวออกมายืนข้างหน้า ''เกรด11 ธันเดอร์'' อัลฟ่าอีกคนที่ผมสีเหลืองชี้ฟูแหลมขึ้นฟ้าก้าวออกมา คนนี้ก็เป็นคนดังในโรงเรียนเหมือนกัน ''เกรด11 ฟรอสท์'' อัลฟ่าร่างสูงโปร่งใบหน้าเย็นชาก้าวออกมาเงียบๆ ''เกรด11 ลูปิน'' คนนี้เป็นอัลฟ่าที่เลิฟไม่เคยเห็นหรือได้ยินชื่อมาก่อน ส่เสื้อคลุมสีขาวคลุมใบหน้าเอาไว้ ''เกรด11 นิล'' เสียงโห่ร้องของแก๊งค์อันธพาลประจำโรงเรียนดังขึ้น อัลฟ่าร่างใหญ่ที่มีขนแขนและขาดกดำก้าวออกมาอย่างมั่นใจ นิลเป็นอันธพาลประจำโรงเรียนที่ชอบรังแกรีดไถเงินจากคนอื่น ไม่ค่อยมีคนอยากเข้าใกล้สักเท่าไหร่ ''เกรด10 ราฟ'' เลิฟกับเดซี่ปรบมือเหมือนกับคนอื่นๆ รีบหันไปหาราฟ ราฟก้าวออกมาด้วยสีหน้าที่เบื่อหน่าย เลิฟดีใจและยินดีมากที่เพื่อนได้เสนอชื่อเป็นจตุรเทพ เพราะราฟนั้นเก่งมากจริงๆ ''เกรด10...'' เลิฟตั้งใจฟัง หัวใจเต้นแรง ภาวนาให้ไม่เป็นชื่อตัวเอง ''...คิง'' ''วู้วว!'' คิงกระโดดชกลมด้วยความดีใจพร้อมกับเพื่อนๆที่เชียร์กันใหญ่ เลิฟเองก็โล่งใจ คิงเป็นอัลฟ่าชั้นเดียวกับเลิฟที่อยู่คลาสB อย่างที่คิดไว้ สุดท้ายคนที่สมควรเป็นจตุรเทพก็คงเป็นพวกอัลฟ่าอยู่ดี ''คนสุดท้าย..'' ครูใหญ่สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ''เกรด10 เลิฟ'' ''ห้ะ'' เลิฟช็อคมาก ไม่อยากเชื่อว่าจะได้ยินชื่อของตัวเอง เพื่อนๆในห้องต่างเข้ามารุมล้อมเลิฟ ''เห็นมั้ย บอกแล้วว่าเลิฟต้องได้'' ''สุดยอดไปเลยเลิฟ'' เลิฟทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าต้องรู้สึกยังไง ''ออกไปสิเลิฟ'' เดซี่ดูดีใจมากที่ชื่อเลิฟติดอันดับ เลิฟเดินมายืนข้างคิง คิงยิ้มให้ ยื่นหมัดมา เลิฟยื่นหมัดไปชนอย่างงงๆ ''มาพยายามไปด้วยกันเถอะ'' คิงบอก เลิฟหันไปมองราฟที่ปรบมือพร้อมกับส่งยิ้มมาให้ เป็นรอยยิ้มที่ดูเยือกเย็นแปลกๆแต่เลิฟก็ไม่ได้คิดอะไร เลิฟนั้นได้รับความนิยมสูงมากในโรงเรียน เพราะได้ออกต่อสู้กับฝูงอยู่หลายครั้ง โชว์ทักษะการต่อสู้ที่มีมากกว่านักเรียนคนอื่นที่ยังไม่เคยสู้เสี่ยงตายแบบจริงจัง ทำให้เลิฟกลายเป็นโอเมก้าที่ฮอตที่สุดในโรงเรียนไปโดยปริยาย เพราะหน้าตาที่สวยน่ารักและทักษะการต่อสู้ที่เก่งกาจ แถมยังนิสัยดีกับทุกคนอีกด้วย ครูใหญ่มองเลิฟด้วยสายตาแปลกๆ เลิฟไม่กล้าสบสายตา ''นี่คือตัวแทนจตุรเทพทั้ง8คนในปีนี้'' นักเรียนทุกคนปรบมือ เดซี่ยิ้มกว้างปรบมือไม่หยุด ''รายละเอียดที่เหลือจะประกาศให้ทราบเป็นลำดับต่อไปในอีกไม่นาน'' ครูใหญ่เดินขึ้นบันไดไป เพื่อนๆต่างมายินดีให้กับทั้ง8คนที่ติดรายชื่อ เลิฟรู้สึกกดดันมาก เพื่อนๆทุกคนดูดีใจที่เลิฟติดอันดับ ยิ่งมีคนคาดหวังเยอะเลิฟยิ่งไมสบายใจ ไม่อยากทำให้ใครผิดหวัง ''เอาล่ะ กลับไปเรียนกันได้แล้ว'' ครูบอก ทุกคนแยกย้ายกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเอง
0 F8 y0 p( {; r+ [$ ^" ^9 O& q! j
เพลน ''เลิฟ...เลิฟ!'' ''ห้ะ'' เลิฟสะดุ้ง หันไปหาเลิฟก็เจอกับเดซี่ที่ทำหน้าบึ้ง ทั้งคู่กำลังเดินกลับบ้านด้วยกันอยู่ ''เหม่อทั้งวันเลยนะวันนี้'' ''โทษที'' ''ยังไม่หายเครียดอีกเหรอ'' เลิฟถอนหายใจ ''อืม'' เลิฟเครียดเรื่องจตุรเทพนี้มาก คนในฝูงของเลิฟเป็นจตุรเทพถึงสามคน โฬม ราคาน อาร์ท แต่ละคนต่างเป็นอัลฟ่าที่มีฝีมือที่เก่งกาจและเป็นคนดังในโรงเรียน เลิฟกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีเท่ากับพวกพี่ๆ จะทำให้ฝูงขายหน้า เดซี่โอบไหล่ของเลิฟแล้วดึงเข้าไปชิดตัว ''เครียดทำไม คนที่ลงคัดเลือกคือเลิฟเองนะ ได้หรือไม่ได้ก็เห็นเสียหายเลยนี่ แค่ได้เสนอชื่อก็ถือ่าสุดยอดมาแล้วนะรู้มั้ย เลิฟอาจจะเป็นโอเมก้าคนแรกที่ได้เป็นจตุรเทพก็ได้นะ'' ''เราไม่ได้หรอก'' ''อย่าพูดแบบนั้นสิ เลิฟเก่งจะตาย เลิฟเองก็รู้ว่าเลิฟเก่ง ใช่มั้ยล่ะ'' ''อือ'' ''อย่าทำหน้าหงอยแบบนั้น เดี๋ยวเราเลี้ยงขนม ปะ'' เดซี่จับมือของเลิฟ เลิฟยิ้ม พยักหน้าแล้วเดินตามเดซี่ไป เดซี่พาเลิฟมาที่ร้านสะดวกซื้อที่เลิฟเคยทำงานอยู่ ข้างหน้ามีม้านั่งหินอ่อน เลิฟนั่งรอระหว่างที่เดซี่เข้าไปซื้อขนม สักพักเดซี่ก็กลับออกมาพร้อมกับถุงใบใหญ่ในมือ เดซี่วางขนมลงบนโต๊ะ ''มากินกันเถอะ'' ''อื้ม'' ทั้งคู่นั่งกินขนมกัน ''นี่'' ''หืม'' ''เดซี่เคยดูการประลองจตุรเทพมั้ย'' ''ต้องเคยสิ เราเรียนที่นี่มาตั้งแต่เด็กนี่นา'' ''มันเป็นยังไงเหรอ'' ''ก็ดุเดือดกว่าต้อนคัดเกรดมากอยู่ ทุกคนต่อสู้กันจริงจังน่ะ'' เลิฟเครียดอีกแล้ว ''เราไม่รู้ว่าเราเก่งพอที่จะไปสู้กับคนอื่นมั้ย'' ''ถ้าคิดว่าตัวเองไม่เก่งพอเลิฟก็ฝึกฝนเพิ่มสิ ลองหาทางใช้พลังของตัวเองแบบใหม่ๆดู'' ''พลังของเรามันคือการรักษา มันจะเอาไปใช้ทำอะไรได้อีกล่ะ ใช้โจมตีก็ไม่ได้'' ''ก็ไม่ได้จะให้ไปใช้โจมตีสิ เราหมายถึง ลองพลิกแพลงการใช้ดูจากการใช้แบบเดิม'' เลิฟทำหน้างง เดซี่ขำ ''พูดเฉยๆคงจะงง'' เดซี่เดินไปที่กระถางต้นไม้ ใช้นิ้วแตะไปที่ดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา มันค่อยๆบานออกเป็นดอกไม้สีชมพูสวยงาม ''พลังของเราคือการทำให้พืชเจริญเติบโตได้อย่างฉับพลันเพียงแค่สัมผัส เราใช้เวลาอยู่กับดอกไม้เป็นเหมือนเพื่อนของเราจนวันหนึ่งเราได้ยินเสียงของพวกเค้าพูดได้ เราพบว่าเราไม่ได้ทำให้โตได้เท่านั้น แต่เราสามารถกำหนดได้ด้วยว่าจะให้โตเป็นแบบไหน เราเลยเปลี่ยนให้ดอกไม้เป็นอาวุธได้ตามใจชอบ'' เลิฟพยักหน้า ''ตอนแรกเราต้องสัมผัสเท่านั้นถึงจะใช้พลังได้ แต่พอเราเริ่มผูกจิตเข้ากับพวกดอกไม้ได้เราก็ไม่จำเป็นต้องสัมผัสเพื่อใช้พลังอีกต่อไป แค่จิตเชื่อมกันก็พอแล้ว แบบนี้'' ดวงตาของเดซี่เปลี่ยนเป็นสีชมพู ดอกไม้รอบตัวต่างโตขึ้นกลายเป็นดอกไม้ที่บานเต็มที่ ''เข้าใจที่เราสื่อใช่มั้ย'' ''เข้าใจ มั้ง'' เดซี่หัวเราะ กลับมานั่งลงเอาขนมเข้าปาก ''ไม่ต้องคิดมากหรอก เลิฟทำได้อยู่แล้ว ยังไงก็มีชื่อติดไปแล้ว ทำอะไรไม่ได้แล้วนี่นา เนอะ'' ''นั่นสินะ'' เลิฟกินบ้าง ''เอ้า เลิฟ'' เลิฟหันไปตามเสียงคุ้นหู เพลนเดินเข้ามากอดเลิฟ ''ไม่ได้เจอนานเลย'' เลิฟยิ้มกอดกลับ ''คิดถึงพี่เพลนเหมือนกัน'' เพลนเป็นเบต้ารุ่นพี่ที่ทำงานร้านสะดวกซื้อแห่งนี้มาก่อนที่เลิฟจะเข้ามาทำงานเสียอีก หลังจากที่เลิฟย้ายไปอยู่บ้านฝูงแล้วลาออกจากงานทั้งคู่ก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลย ''เป็นไงบ้าง'' ''สบายดีครับ พี่เพลนล่ะ'' ''พี่ก็สบายดี'' เพลนหันไปหาเดซี่ เดซี่ยิ้มให้ ''สวัสดีครับพี่เพลน'' ''สวัสดีครับน้องเดซี่'' เพลนดูเขินหน่อยๆ เลิฟเองก็มองออก เดซี่ชี้ไปที่ดอกไม้สีขาวในกระเป๋าเสื้อ มันเป็นดอกไม้ที่เดซี่เคยให้เพลนเมื่อนานมาแล้ว เพลนมอง ''เอ่อ นี่'' ''ยังพกไว้เหรอครับ'' ''ก็..อืม ครับ'' ''กลิ่นยังหอมอยู่มั้ยครับ'' ''ยังหอมอยู่'' ''ดีจังเลย ตอนแรกผมก็เป็นห่วงว่าพี่จะดูแลมันดีมั้ย เห็นแบบนี้ก็ดีใจครับ'' ''เดซี่อุตส่าให้ พี่ก็ต้องดูแลให้ดีสิ'' ''ผู้ชายรักดอกไม้นี่น่ารักดีนะครับ'' เดซี่พูดเหมือนไม่คิดอะไรแต่มันทำให้เพลนนั้นหน้าแดง เลิฟมองทั้งคู่แล้วอดอมยิ้มไม่ได้ เพลนนั่งข้างเลิฟ ''ไหน ขอดูหน่อย'' เพลนจับที่ขมับของเลิฟ ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีส้ม ภาพเหตุการณ์วันนี้ค่อยๆไหลเข้ามาในหัวของเพลน ''โห ได้เป็นจตุรเทพเลยเหรอ'' ''แค่ได้รับการเสนอชื่อน่ะครับ'' สมัยที่ยังทำงานเพลนมักจะฟังเรื่องราวของเลิฟผ่านภาพในหัวของเลิฟอยู่เสมอโดยที่เลิฟไม่ต้องเป็นคนเล่าเอง ภาพย้อนไปจนถึงตอนที่เลิฟนอน ตอนที่เลิฟฝัน เพลนผละออกทำให้เลิฟและเดซี่ตกใจ ''พี่เพลนเป็นอะไรครับ'' ''เข้าไปไม่ได้'' ''อะไรเหรอ'' ''ฝัน มันไม่ให้พี่เข้าไป'' ''ปกติพี่ก็ดูฝันผมได้ไม่ใช่เหรอครับ'' ''พี่คงทำงานมาเหนื่อยล่ะมั้ง พลังเลยไม่พอที่จะเจาะเข้าไป แต่แปลกจังแฮะ'' เพลนทำหน้าฉงน เดซี่ส่งขนมให้ ''กินด้วยกันมั้ยครับ'' เพลนยิ้ม ''งั้นไม่เกรงใจนะครับ'' ทั้งสามนั่งกินขนมคุยกันอย่างเพลิดเพลิน ทำให้เลิฟนึกถึงสมัยที่ยังทำงานอยู่ที่นี่ บรรยากาศเก่าๆที่คุ้นเคยกลับมาอีกครั้ง จนกระทั่งเริ่มเย็น ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีส้ม ''พวกผมกลับก่อนนะครับ'' ''กลับกันดีๆล่ะ'' เลิฟโบกมือลา เพลนโบกมือตอบให้ทั้งคู่ เดซี่เดินกลับมาหาเพลน ''ลืมของเหรอครับ'' ''อื้ม ลืมให้นี่ครับ'' เดซี่ล้วงเอาดอกไม้สีชมพูดอกเล็กๆออกมา ''พี่ลองเอาไปใส่ในแก้วน้ำดูนะครับ'' เดซี่ยิ้มให้ก่อนจะรีบเดินตามเลิฟไป เพลนกลับมาที่ห้องหลังเลิกงาน เอาแก้วใส่น้ำเดินมานั่งริมหน้าต่าง หย่อนดอกไม้ที่เดซี่ให้ลงไป กลีบดอกไม้หลุดแยกออกจากกันก่อนจะค่อยๆพับตัวเองเป็นเรือกลีบดอกไม้แล่นวนไปมา เพลนนั่งมองอย่างเพลิดเพลิน มันกลายเป็นนกแล้วบินออกจากแก้วออกนอกหน้าต่างไป เพลนยิ้ม ''น่ารักจัง'' เลิฟเดินกลับมาจนถึงบ้านฝูง เปิดประตูเข้ามาในบ้าน ''กลับช้าจังเลยนะมึง''
3 u( x; @4 h3 [5 z
โฬม โฬมนั่งอยู่ที่โซฟา เลิฟประหลาดใจนิดหน่อยที่เจอโฬม ''พี่โฬมมาทำอะไรเหรอครับ'' ''นี่บ้านฝูงกู กูมาก็ไม่เห็นแปลกเลยนี่ ทำไมเหรอ'' ''เปล่าหรอกครับ แค่ปกติผมไม่เห็นพี่มานอกจากมีประชุมเลย'' ''กู...แวะมาเอาเอกสาร'' ''อ๋อ ครับ'' เลิฟเดินขึ้นบันได ''เดี๋ยว มึงจะรีบขึ้นห้องไปไหน'' เลิฟงง ''พี่มีอะไรเหรอครับ'' ''กูซื้อเค้กมา แดกไม่หมด มาช่วยกินหน่อย'' ''เอ่อ ครับ'' เลิฟเดินกลับลงมา นั่งลงที่โซฟา โฬมส่งช้อนให้ เลิฟเอามาตักกิน ''พี่โฬมชอบเค้กรสนี้เหรอครับ ซื้อมาบ่อยมากเลย'' ''อืม กูชอบ'' โฬมมองเลิฟในชุดนักเรียน น่ารักชิบหาย เลิฟเงยหน้าขึ้นมา สายตาของทั้งคู่สบกันพอดี พอได้มองตรงๆแบบนี้ถึงได้รู้ว่าตาของเลิฟนั้นสวยมาก ดวงตากลมโต สีน้ำตาลอ่อนเป็นประกาย ขนตายาวงอนเรียงกันสวย ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูน่าสัมผัส คงเพราะเลิฟเป็นโอเมก้านั่นแหละถึงทำให้โฬมคิดอะไรแบบนี้ได้ ''แล้ววันนี้เป็นยังไงบ้าง'' ''อะไรเหรอครับ'' ''ที่โรงเรียนน่ะ'' เลิฟเครียดขึ้นมาอีกครั้ง ลังเลว่าจะบอกดีมั้ย ''ถ้าไม่อยากเล่ามึงก็ไม่ต้องเล่าก็ได้ กูถามไปงั้นแหละ'' โฬมบอกเมื่อเห็นเลฟทำหน้าไม่สบายใจ ''ผมได้เสนอชื่อเข้าเป็นจตุรเทพครับ'' โฬมมีสีหน้าตกใจ ''หืม มึงอะนะ'' ''ใช่ครับ ผมรู้ว่าผมไม่เหมาะสม แต่ผมโดนเสนอชื่อไปแล้ว'' ''มึงรู้ได้ไงว่ามึงไม่เหมาะสม'' เสียงโฬมดูดุขึ้นมา ''ก็ผมเป็นแค่โอเมก้านี่ครับ จตุรเทพสมควรที่จะเป็นอัลฟ่าไม่ใช่เหรอครับ'' ''มันก็ใช่ ถ้าเป็นมึงเมื่อก่อนกูก็คงคิดเหมือนกันแหละว่ามึงไม่เหมาะสม แต่มึงตอนนี้ที่ฝึกฝนพัฒนาตัวเองมาตลอดจะไม่เหมาะสมได้ยังไง'' โฬมเอามือจับไหล่ของเลิฟโดยไม่รู้ตัว เลิฟหันมามอง ''ยังไงมึงก็ต้องเป็นให้ได้ เข้าใจมั้ย'' เลิฟยิ้ม ''จะพยายามครับ'' โฬมไล้มือลงไปตามต้นแขนของเลิฟทำให้เลิฟรู้สึกเสียววาบ ''แปปนะ'' โฬมยื่นหน้ามาใกล้เลิฟมาขึ้นเรื่อยๆ เลิฟผงะออกเล็กน้อย หลับตาลง โฬมสูดกลิ่นของเลิฟตรงต้นคอเข้าไป ''กูก็ว่ากลิ่นมาจากไหน กลิ่นมึงนี่เอง'' โฬมผละออก เลิฟหน้าแดงไปหมด เขินจนใจเต้นแรงไม่หยุด กลิ่นของโฬมเมื่อกี๊ตอนที่เข้ามาใกล้เตะจมูก กลิ่นเหงื่ออ่อนๆที่ไม่อับแต่กลับทำให้รู้สึกอารมณ์พลุ่งพล่าน โฬมมองหน้าของเลิฟได้แปปเดียวก็ต้องหันหน้าหนี ''กูไปเข้าห้องน้ำก่อน'' โฬมลุกขึ้นเดินขึ้นมาด้านบน เข้ามาในห้องน้ำแล้วปิดประตูล็อค ''ชิบหาย'' โฬมมองเป้าของตัวเองที่แข็งจนกางเกงแทบปริ โฬมรูดซิปลง ควักควยใหญ่ยาว14นิ้วที่แข็งเต็มที่ของตัวเองออกมา ชักควยขึ้นลง ''อาา'' โฬมใช้นิ้ววนตรงหัวควย รูดขึ้นลงช้าๆ หนังหุ้มตรงปลายเปิดให้เห็นหัวควยบานสีชมพูที่มีน้ำหล่อลื่นตรงปลาย กลิ่นหอมเย็นๆเหมือนมิ้นต์ยังคงติดอยู่ในหัว โฬมกัดริมฝีปาก สาวควยตัวเองเร็วขึ้นอีก ใบหน้าที่เขินนั่น เอวบางๆนั้น อยากจะจับกดให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่ถ้าเผลอไปมาร์คเข้าจะเป็นเรื่องใหญ่ โฬมนึกถึงหน้าของเลิฟว่าตอนโดนเย็ดจะเป็นยังไง จะร่านได้ขนาดไหนกัน คิดเรื่องลามกพวกนี้พลางชักว่าวไปด้วย ควยโฬมแข็งขึ้นเรื่อยๆ โฬมชักรัวๆ ''ซี้ดด อาาาา!'' โฬมน้ำแตกทะลักออกมาคามือ น้ำควยมากมายไหลลงพื้นเลอะเทอะไปหมด โฬมเอาที่ฉีดมาฉีดทำความสะอาดพื้น ล้างมือและควยของตัวเองให้เรียบร้อย สงบสติอารมณ์ตัวเองแล้วกลับลงมาข้างล่าง เลิฟนั่งมองมา ''กูกลับละ กินให้หมดด้วยล่ะ เค้กอะ'' โฬมกำลังจะเดินออกจากบ้าน ''พี่โฬมครับ'' โฬมหันกลับไปหาเลิฟ ''ว่าไง'' ''คือ พี่โฬมชอบซื้อเค้กมากินเองบ่อยใช่มั้ยครับ'' ''อืมใช่'' ''ครั้งหน้า ซื้อมาใ้ผมบ้างสิครับ'' โฬมคิดตามคำพูดของเลิฟแล้วยิ้มออกมา ''เออ ไว้วันหลังกูซื้อมาฝากมึง'' เลิฟยิ้ม ''กลับดีๆครับ'' โฬมออกมาจากบ้าน ขึ้นมาบนรถ เอาหน้าฟุบกับพวงมาลัย ''กูจะไม่อยากกลับเพราะแบบนี้นี่แหละ'' |