แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย nuttsoy เมื่อ 2022-7-23 13:38
ตอนที่ 8 งานนี้มีเซอร์ไพรส์
ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นพี่ไผ่นอนอยู่ตรงหน้าก็อดไม่ได้ที่จะลักลอบหอมแก้ม ผมหอมแก้มขวาแก้มซ้ายพี่ไผ่เหมือนคนที่รักกันเค้าทำกันพี่ไผ่ตื่นมาพอดี
"คุณเพชรลักหลับพี่หรอ"พี่ไผ่ยิ้ม
"ลักหลับพี่ต้องโดนทำโทษ"พี่ไผ่รีบพลิกตัวมาอย่างรวดเร็ว และมานอนทับผม เอาลิ้นฉกที่หัวนมผมงี้ทั้งเสี้ยนทั้งเสียว ควยตอนเช้ามันก็แข็งอยู่แล้วควยงี้ถูกันไปกันมา
"เป็นเมียพี่อีกครั้งนะครับ"พี่ไผ่นั่งคุกเข่าบนที่นอน จับขาผมยกขึ้น พี่ไผ่ทำเวลา เพราะถ้าจะอะไรอะไรกันก็ต้องรีบทำ เพราะคุณลุงจะกลับมาตอนเที่ยง ๆ ก็อดกันพอดีพี่ไผ่ก้มลงมาเล้าโลมผม เอาควยถูแข็งถูก้นไปด้วย พี่ไผ่ลุกอีกครั้งหนึ่งหันไปมองนอกหน้าต่าง ทีนี้ พี่ไผ่ชะงัก พี่ไผ่ทำหน้าตาตื่นตกใจ
"อะไรครับพี่ไผ่"
"คุณเพชร"พี่ไผ่หันมา "คุณลุงมา"
"อะไรนะ"
"คุณลุงมาแล้วคุณเพชร พี่ไปแล้วนะ คุณเพชรจัดการตัวเองนะ" พี่ไผ่รีบคว้าเอาบ๊อกเซอร์ไส่และ คว้าเสื้อกล้าม เดินจู๋แข็งโทง ๆ เดินออกไป ส่วนผมรีบใส่ชุดนอนและลุกขึ้นมองชิบหายและ นั่งรถมาเป็นขบวนเลย ประตูไม่ต้องพูดถึงเพราะอัตโนมัติพี่ไผ่ออกมาข้างหน้าห้อง ชั้นสองห้องเฉพาะเจ้านาย มันไม่ใช่ที่พี่ไผ่ควรขึ้นมาอยู่พี่ไผ่ต้องอยู่ห้องคนใช้ เพราะไม่ได้เป็นลูกหลานคุณลุง ผมเห็นและก็ยังงงลอลุ้นให้พี่ไผ่ไม่โดนจับได้ รถคุณลุงก็ใกล้เข้ามาแล้ว พี่ไผ่วิ่งจู๊ดลงไปชั้นล่างอย่างไวยิ่งกว่าไวไวควิกเป็นจรวดเลยครับหลบไปหลังบันได
ผมเห็นสภาพตัวเองแม่งยังอยู่ในชุดนอนมองนาฬิกาคือเวลา 7โมงครึ่งแล้ว งานเข้าละสิครับ ปกติคุณลุงไม่ชอบคนตื่นสายเลยรีบเปลี่ยนชุดอะไรก็ได้ที่มีอยู่ในตู้ ล้างหน้าให้ดูสดใส ฟันยังไม่ได้แปรงและรีบลงมาชั้นล่างจัดฉากพอถึงปุ๊บก็พอดีปั๊บ ผู้เป็นแม่เปิดประตูเข้ามาพอดี คิดในใจ รอดไป กู
"เพชรเป็นไงลูกอยู่คนเดียวได้ใช่มั้ย"
"ได้ครับคุณแม่ สบายมากครับ"
"น้องเพชรของพี่เก่งอยู่แล้ว"พี่เชอรี่บอก
"และนี่กินอะไรรึยังหละ"
"ยังครับพี่ไผ่คงกำลังทำอยู่" ผมตีเนียนพูดแบบนี้ไปเลยครับ
"นี่ตื่นสายหละสิ"ผู้เป็นลุงพูด ผมใจเต้นโครมเลยครับเพราะปกติ ตื่นมา 7โมงก็ทานเลย
"เอ่อคือ...เอ่อ คือ..."
"ไม่ต้องมาเอ่อคือเอ่อคือ พอกันเลย ทั้งเจ้านายและลูกน้อง" ผมแอบดีใจ ยังดีที่โดนว่าเรื่องตื่นสายดีกว่าโดนว่าเรื่องเอากับพี่ไผ่
"ข้าวมาแล้วครับคุณเพชร" พี่ไผ่เดินออกมาช่วยชีวิต แต่งตัวมาอีกชุดหนึ่ง พี่ไผ่รอบครอบมาก ถ้าคุณลุงเห็นใครใส่ชุดนอนลงมาข้างล่างนะตายลูกเดียว พี่ไผ่เอากับข้าวมาให้ผม ข้างบนมีไข่เจียวบาง ๆ กรอบ ๆ พี่ไผ่วางจานข้าวให้ผมบนโต๊ะ
"อ้าวสวัสดีครับ คุณท่าน" พี่ไผ่นี่ตีเนียนได้โล่จริง ๆครับทำหน้าตาไม่รูเรื่องทั้ง ๆ ที่เป็นคนรู้คนแรก
"พากันตื่นสายทั้งคู่นะเดี๋ยวจะโดน" ผู้เป็นแม่ชี้ดุพี่ไผ่พูดทีเล่นทีจริง
" ไป ไปนั่งกินที่โต๊ะแนะเพชร”
"ที่เรากลับเร็ววันนี้เพราะวันนี้องค์ชายเค้ามีธุระสำคัญที่จะเข้ามาคุยที่บ้านเรา"ผู้เป็นแม่หันมากล่าวกับผม
"ครับ"ผมตื่นเต้นดีใจ สงสัยมีองค์ชายจากต่างประเทศมา คนรับใช้รวมถึงคนรถทุกคนรีบกันเตรียมข้าวของ เช็ดถูบ้านเป็นการใหญ่ งานนี้พวกคนรถก็ต้องช่วยด้วย ทั้งคนรถ คนใช้ดู วุ่นวาย คนนั้นเช็ดมุมนั้นคนนั้นเช็ดมุมนี้
และแล้วก็ถึงเวลา 11โมง พี่แน่งน้อยเตรียมอาหารและขนมต้อนรับองค์ชายและเตรียมทำมื้อกลางวันส่วนผมนะหรอก็ขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวหล่อ ๆ และลงมา ไหน ๆ จะมีองค์ชายจากต่างประเทศมา สงสัยมาจากประเทศจีนผมเคยดูหนังจีน เค้าชอบเรียกคนที่ยศสูงศักดิ์ว่าองค์ชาย ผมและครอบครัวก็นั่งที่โต๊ะรับแขก และแล้วองค์ชายก็มา
"องค์ชายเสด็จแล้วคุณแม่" ผู้เป็นแม่มีสีหน้างุนงงว่าทำไมลูกของตนถึงใช้คำราชาศัพท์ผมรีบไปยืนรอรับที่หน้าประตู มารถบีเอ็มสีขาวซะด้วยและแล้วองค์ชายก็ก้าวออกจากรถผมคิดในใจ คุ้น ๆ หน้าหวะ เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนยิ่งมองก็ยิ่งคุ้น อ้าว นี่มันพี่ธนาที่เจอที่บริษัทนี่และไหนอะองค์ชาย ผมคิด
"สวัสดีครับพี่ไหนละครับ องค์ชาย" ผมมองหาด้วยความอยากรู้
"พี่นั่นแหละองค์ชาย" ผมตกใจ ฮะ พี่ธนาเป็นองค์ชายหรอ
"สวัสดีครับฝ่าบาท" ผมบอกกับพี่เค้า ทำหน้าตาสำนึกผิด
"เพชรไปกันใหญ่แล้ว พี่ธนานะ เค้าชื่อเล่นว่า องค์ชาย" เพล้งงงงงง เสียงหน้าแตกของผมดังสนั่นหวั่นไหวคิดในใจเออวะ เออ ใช่ ลืมไปสนิทเลย คุณลุงเคยพูดชื่อนี้กับพี่ไนท์
"ดีนะที่อยู่ในบ้าน ไม่งั้น อายเค้าตาย เรานี่ ไม่รู้เรื่อง"พี่พลอยพูดไปพลางโกรธไปขำไป
"ไอ้เราก็แปลกใจนึกว่าอยากเจอพี่ชายมากจนถึงขนาดรอหน้าประตู ที่ไหนได้ นึกว่าองค์ชายตัวจริง"พี่เชอร์รี่เสริม ผมงี้งงเอ๋อรัปประทานเป็นการใหญ่ขนาดน้องเฟมหลานอาณัฐยังยืนขำเลย
"อาเพชรนี่ไม่รู้เรื่องเอาซะเลย" ผมงี้ อายน้องเฟมเลยครับ
"ชายไปนั่งไป น้าเตรียมคุกกี้ไว้ให้ ต่อไปนี้เรียกองค์ชายไม่ได้แล้วเดี๋ยวบางคนเค้าจะหน้าแตก" คุณแม่ผมขำ
"แม่อะ"ผมพูดเบา ๆ ทุกคนเดินกันไปนั่ง คุณลุงเดินมาพอดี
"เมื่อกี้ขำอะไรกัน"คุณลุงถาม
"ก็เมื่อกี้นะสิคะคุณพี่ ตาเพชรนึกว่าองค์ชาย เป็นองค์ชายจริง ๆ ที่มาจากต่างประเทศเรียกฝ่าบาทเนี่ย นึกแล้วก็ยังขำไม่หายเลย" แม่ผมพูดไปขำไป ผู้เป็นลุงผมยิ้มนิด ๆ
"สงสัยแม่พี่องค์ชายคงดูหนังจีนกำลังภายในมากเลยหลงประเด็น อยากให้พี่เป็นองค์ชาย" ผมพูดเสร็จแล้วก็ขำแต่ครั้งนี้มันไม่มีใครขำด้วย
"ตาเพชรเยอะและ" พี่พลอยผมปราม
"ไปวุ่นวายพ่อแม่เค้า"ทุกคนมองดุด้วยสายตาโดยเฉพาะคุณลุง
"ไม่เป็นไรหรอกครับขำ ๆ สนุก ๆ นะ" พี่องค์ชายบอกและมองมาทางผม
"ไม่เป็นไรไม่ได้ชาย เดี๋ยวต่อไปเพชรจะก้าวร้าว" แม่ผมบอก
"อะมา งั้นเรามาเข้าเรื่องของเรากันเลย" ผมมอง คำพูดธรรมดาของคุณลุงแต่บรรยากาศดูเครียดจัง
"เรื่องมันเป็นยังไงชาย ไหนเล่าให้ลุงฟังอีกทีหนึ่งสิ" ผู้เป็นลุงสีหน้ากังวล ดูเหมือนรู้เรื่องอยู่แล้วแต่ถามรายละเอียดอีกที
"คุณหมอบอกว่าคุณแม่โดนวางยาพิษครับ ที่อาการไม่สบายเป็นเพราะโดนวางยาพิษสะสมในอาหารมานานไม่ใช่เป็นการป่วยธรรมดา" พี่พลอยได้ยินก็เครียด
"พลอยว่าคนในด้วยแหละไม่งั้นไม่ถึงตัวคุณป้านภาง่ายขนาดนั้นหรอก" พี่พลอยแสดงความเห็น
"และตอนนี้สงสัยใครรึยัง" ผู้เป็นลุงถาม
"ยังเลยครับตอนนี้ยังมืดแปดด้าน หามือใครดมไม่ได้ ถ้าจะเป็นคนใช้ ก็ดูยากเพราะแต่ละคนก็เป็นคนใช้เก่าแก่ถ้าคนใช้ทำ ก็ทำแนบเนียนมาก คาดว่าน่าจะเป็นมืออาชีพทำมากกว่า"
"คุณป้าได้เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครมาก่อนหน้านี้หรือเปล่า"พี่เชอรี่ถาม
"แม่ว่าไม่นะนภา เท่าที่แม่รู้จัก เป็นคนใจเย็น ไม่ค่อยสู้รบกับใคร ออกจะมีเมตตาซะด้วยซ้ำแม่ว่ายาก ที่นภาจะมีเรื่อง" ผู้เป็นแม่ผมกล่าวขึ้นมา
"ฉันเห็นด้วยกับพลอยนะว่าน่าจะเป็นคนใน ยังไงชายดูแลป้าให้ดีนะ ต่อไปนี้โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน" ลุงผมเสริม
"ก็พูดยากนะคะคุณพ่อ บ้านนภานะ เค้าคนรับใช้เยอะ ไม่ค่อยเหมือนบ้านเรา มีแต่คนขับรถซึ่งคนขับรถของเราก็ไม่มีสิทธ์ที่จะมานอนในบ้าน มีแต่พี่ไผ่พี่แน่งน้อยกับพี่กรอยเท่านั้น ที่ดูแลบ้าน แต่บ้านนภานี่ คนใช้เค้าอยู่ในบ้านค่อนข้างเยอะฉะนั้นก็เป็นการยากที่จะควบคุม"
"รี่ว่าเอาอย่างงี้นะชาย ติดกล้องวงจรปิดไปเลย เอาแบบซ่อน ๆ หน่อย เดี๋ยวนี้นะ กล้องวงจรปิดมีเทคโนโลยีสูงจะตาย"พี่เชอรี่บอก
"เป็นความคิดที่ดีและอีกอย่างหนึ่งนะ ช่วงนี้อย่าให้คนนอกเข้าบ้านได้ง่าย ๆ และคนในก็จับตาดูให้ดีถ้าเป็นไปได้ ให้ไปนอนนอกบ้านให้หมดก่อน" ทุกคนช่วยกันแก้ผมนั่งเงียบเป็นสากเบือเลยครับ สงสารพวกพี่ไนท์กี้ พี่สมาร์ท พี่องค์ชายจังที่มาเจอเรื่องอะไรแบบนี้ พี่พลอยทำท่าคิดตาม
"บ้านชายไม่ได้รับคนงานใหม่นะ"พี่พลอยถามเพื่อความแน่ใจ ทำให้พี่องค์ชายชักไม่แน่ใจ
"เออจริงด้วย แม่ลืมประเด็นนี้ไปเลย พลอย" ผู้เป็นแม่กล่าวที่พี่พลอยฉุกคิด
"เป็นไงเพชรพวกพี่เค้าต้องอยู่อย่างหวาดระแวง เรานะ ทำอะไร รอบครอบนะรู้เปล่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ รู้เปล่า เดี๋ยวนี้คนเรารู้หน้า ไม่รู้ใจ" แม่ผมหันมาคุยกับผม
"ครับคุณแม่" ผมไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากคำว่าครับ
"ไปชายไปทานข้าวกัน ใกล้เที่ยงและ" ทุกคนเดินไป ผมรู้สึกแหยง ๆ เมื่อครู่นี้ยิ่งฟังเรื่องโดนยาพิษกูจะโดนด้วยมั้ยวะเนี่ย โคตรน่ากลัวเลย กูจะมีเซอร์ไพร้ส์แบบนี้มั้ยวะแต่เซอร์ไพร้ส์แบบนี้ กูไม่เอา คิดแล้วก็หลอน ..........................................................................................................................................................................................................................
พวกเราทั้งหมดไปนั่งที่โต๊ะอาหาร พี่แน่งน้อยกับพี่กรอยได้นำอาหารมาจัดวางเต็มโต๊ะ ซื้อบ้างทำบ้าง แต่ทั้งหมด ก็มีผัดผักถั่วลันเตาปลาหมึกทอด อันนี้สงสัยพวกคุณแม่คงไปได้มาจากภูเก็ต ผัดเปรี้ยวหวาน ไข่เจียวกรอบ ๆ และก็ปลาไส้ตันกรุบกรอบน้ำพริกกุ้งเสียบเมนูทะเล แบบนี้ ผมเห็นและก็น้ำลายหกมันแซบยิ่งกว่าอาหารที่กินในภัตราคารตอนนั้นซะอีกพี่แน่งน้อยตักข้าวให้ทุกคนพี่กรอยก็รินน้ำให้ทุกคนเช่นเดียวกัน
"อะกินกันเลย" ผู้เป็นลุงออกคำสั่งอย่างไม่เป็นทางการผมตักข้าวกินอย่างเอร็ดอร่อยแต่จะอร่อยอย่างไรก็มูมมามไม่ได้ เดี๋ยวคุณลุงจะว่าเอาผู้เป็นลุงนั่งหัวโต๊ะ ทำให้ผมค่อนข้างเกร็งอยู่ผมสมควรแต่ผมดูทุกคนกินเรียบร้อยมากเหมือนว่าชินกับการกินข้าวแบบนี้ มีช้อนส้อมอย่างดี
ผมได้นั่งข้างพี่องค์ชาย แม่ อาณัฐ และก็น้องเฟม ฝั่งตรงข้ามมี พี่พลอย พี่เชอรี่ส่วนพี่ไผ่เข้าไปกินในครัว พี่ไผ่ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมากินที่โต๊ะใหญ่กับพวกเราหรอกคงเป็นเพราะว่าเจียมตัวมั้ง ผมมองบรรยากาศเงียบเชียบมากระหว่างมื้ออาหารไม่ค่อยมีใครคุยอะไรกันคุณลุงบอกเสมอว่า อย่าคุยมากตอนกินข้าวซึ่งทุกคนก็ปฏิบัติตาม ผมหันไปเห็นข้าวติดปากพี่ชาย
"พี่ชายข้าวติดปากครับ" มือผมไวหยิบทิชชู่มาเช็ดปากให้พี่องค์ชายอย่างไว
"เอ้ยเพชรทำไร ไปวุ่นวายอะไรพี่เค้า" ผู้เป็นแม่ปราม
"ขอบคุณครับ"พี่ชายบอกกับผมและยิ้มไปด้วย
"ลามปามไปเช็ดปงเช็ดปากพี่เค้า สนิทกับเค้ามากหรอ" แม่ผมจิกตาใส่อะครับผมยิ้มเฝื่อนๆและไม่รู้จะทำอะไรก็เลยกินต่อ พี่ชายเอามือมาแตะบ่าผม
"น้องเพชรก็เหมือนน้องชายผมแหละครับจริงมั้ย" ผมหันไปพยักหน้า
"จริงครับ" ผมยิ้ม ดีนะที่พี่ชายช่วยแก้ให้ผม ส่วนแม่ผมก็ยิ้มตาม
"ป้าดีใจนะที่ชายคิดแบบนั้น ครอบครัวเรา สนิทกันมาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าเราก็มีกันอยู่แค่นี้ละเนอะ"แม่ผมพูดด้วยความซึ้งใจ
"ของหวานมาแล้วคะวันนี้มีบัวลอยมะพร้าวอ่อน" พี่แน่งน้อยเอามาให้
"โหพี่แน่งน้อยเอาเวลาไปทำตอนไหนครับ เก่งจัง"
"ก็ซักครู่นี้และคะบังเอิญมีเม็ดบัวลอยอยู่แล้ว พี่ก็เลยทำมาให้"
"พี่แน่งน้อยทำอาหารเก่งที่สุดเลย"
"คุณชายคะพี่ฝากซุปไก่ไปให้ คุณนพนภาด้วยนะคะ" พี่แน่งน้อยบรรจุใส่กล่องให้เป็นอย่างดีพีชายรับซุปไก่จากพี่แน่งน้อยไป พอทานข้าวเสร็จก็ล่ำลากัน ทุกคนแสดงความคิดถึงไปให้ป้านพนภาบอกว่ายังไม่ต้องไปเยี่ยม เพราะป้านภายังต้องใช้เวลาพักฟื้นอีกยาวนานผมล่ำลาพี่องค์ชาย พรางนึกถึงเมื่อสักครู่นี้ ที่คิดว่าพี่องค์ชายเป็นองค์ชายจริงๆ ....................................................................................................................................................................................................................
|