แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย leskon เมื่อ 2022-10-16 12:46
เดินเรื่องโดยผม (นายเอกพงษ์) คนเดิม
เอกกับเป้เป็นนิสิตในรั้วมหาลัยชื่อดังมาเกือบๆ 4 เดือนแล้ว พวกเขาเรียนคนละสาขาชั่วโมงเรียนเลยไม่ค่อยตรงกันแต่ทั้งคู่เช่าคอนโดอยู่ด้วยกันเป็นแบบสองห้องนอนจากการร่วมทุนจากผู้ปกครองของทั้งคู่จะได้ดูแลกันไปในตัวอีกอย่างเวลามาเที่ยวหาลูกจะได้ยกโขยงพากันมาทีเดียวแต่แล้ววันหนึ่งแม่ของเอกก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตหลังจากคุยงานกับลูกค้าแต่ลูกน้องที่ไปด้วยบาดเจ็บสาหัส นั่นทำให้พวกเขาต้องกลับไปอยู่ที่บ้านกับพ่อแม่ในวันศุกร์แล้วพักคอนโดในวันจันทร์-พฤหัสในวันเรียน ช่วงเวลาก่อนที่ผมจะเปิดเรียนมหาลัยแม่พาผมไปเปิดบัญชีใหม่เป็นของขวัญและให้ผมเก็บเป็นความลับ ถ้าพ่อรู้แกจะว่าแม่ได้ว่าสอนลูกใช้เงิน โอ๋ลูก เลี้ยงลูกด้วยเงิน ผมจึงรับปากแม่ไป โดยเงินของขวัญที่แม่เปิดบัญชีให้ผมเป็นเงิน1 ล้านบาท ผมตาโตแล้วถามแม่ว่าแม่ไม่กลัวว่าผมจะเอาไปทำอะไรที่มันไม่ดีเหรอแม่บอกว่าแม่รู้จักผมดีเพราะผมลูกของแม่ ผมคือคนสำคัญของแม่ที่แม่รักที่สุด นอกจากนี้แม่ยังเอาเงินเดือนของแม่ครึ่งหนึ่งหักเข้าบัญชีผมอัตโนมัติในทุกเดือนอีกด้วย วันนี้พี่เก่งมารับผมที่มหาลัยแล้วไปส่งที่บ้านเหมือนเดิมก่อนหน้านี้แกมาบอกว่าชอบผมและขอจีบแบบแฟนตอนแรกที่พี่เก่งมาบอกผมทำหน้างงและย้อนถามว่าต้องการอะไร ถ้าแค่อยากมีอะไรกันก็มีได้ไม่ติดแต่ขอตอนมีอารมณ์อยากด้วยนะไม่ใช่เมื่อไหร่ก็ได้ แบบนั้นดีกว่าหรือเปล่าผมให้ข้อเสนอไปแบบนั้นเพราะผมรู้ว่าพี่เก่งทำไม่ได้หรอกที่จะซื่อสัตย์กับผมเพียงคนเดียวไม่นอกใจเด็กพี่เก่งเยอะมาก เจ้าชู้ด้วย อีกอย่างผมก็ยังไม่ได้คิดที่จะมีความสัมพันธ์ทางใจกับผู้ชายด้วยกันแค่ความรู้สึกเปลี่ยนไปว่ามีอะไรกับผู้ชายมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกพี่เขาจะเอาใจตัวเองกับใจผมลงมาเล่นทำไม อีกอย่างพี่เขาเองนั่นแหละที่จะเสียเองถ้าเขาทำไม่ได้อย่างที่บอก คนรอบตัวเขาซึ่งรวมถึงพ่อผมก็เป็นแค่พวกเห็นแก่ตัวเอาความต้องการของตัวเองเป็นที่ตั้งแล้วปกปิดไว้ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการแทงข้างหลังจริงอยู่ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเขาจะเลือกคนที่เขาบอกว่าสำคัญแต่ตรรกะแบบนี้สำหรับผมมันโคตรเลวร้ายแต่แกก็ยังยืนยันว่าจะขอจีบซึ่งแน่นอนว่าผมไม่มีทางเอาใจไปเล่นแน่นอนถามว่าพี่เก่งทำตัวดีไหม จากที่เห็นก็ดูแลเอาใจใส่ดีรวมระยะเวลาก็เกือบ 3เดือนแล้ว ไอ้เป้ พ่อหรือคนอื่นๆ คิดว่าก็คงรู้เพราะพี่เก่งบอกอย่างเปิดเผยเราเคยมีอะไรกันที่คอนโดพี่เก่ง 4-5 ครั้งได้ ไม่นับรวมการใช้ปากออรัลให้อีกหลายครั้งจนนับไม่ได้ละดูผิวเผินเหมือนว่าเราจะคบกันเป็นแฟน ผมเรียนและก็มีอะไรกับพี่เก่งคนเดียวเราสลับกันรุกในแต่ละเกม sex พี่เก่งไม่เคยรับแต่ยอมให้ผมซึ่งนั่นก็ทำให้ผมรู้สึกดีกับพี่เก่งมากเหมือนกันและผมก็เริ่มเปิดใจให้พี่เก่ง พี่เก่งส่งผมที่บ้านเหมือนทุกครั้งเข้าบ้านมาพ่อยังไม่กลับนึกขึ้นได้ว่าผมลืมแฟรชไดร์ฟกับหนังสือการ์ตูนที่ยังอ่านไม่จบไว้ที่บ้านไอ้เป้ผมจึงเดินไปหามันซึ่งมันจะอยู่หรือไม่อยู่ผมก็เข้าไปบ้านมันได้เพราะรู้ที่ซ่อนกุญแจเดินถึงทางแยกเข้าซอยบ้านไอ้เป้ เห็นรถจอดอยู่ข้างรั้วภายในซอยทำให้ถนนแคบลงเหมือนเช่นเคยเวลามาบ้านไอ้เป้เข้าประตูเล็กๆ ด้านข้างไม่ได้ลงกลอน มันคงกลับมาแล้วหรือไม่ก็แม่มัน จึงคอยด้อมๆมองนอกตัวบ้านเพราะคิดว่าจะแอบเข้าไปด้านหลังทำให้ตกใจเล่นแต่กลับเป็นผมซะเองที่ตกใจกับภาพตรงหน้า เป้ในสภาพเปลือยเปล่านอนอ้าขาขึ้นพาดที่ไหล่ให้รูเสียวรับการกระแทกจากลำควยของพี่เก่งใช่..นั่นคือพี่เก่งที่ตอนนี้ถอดเสื้อด้านบน โดยดึงกางเกงลงไปทิ้งไว้ที่ข้อเท้ากำลังโยกบั้นเด้าอย่างเมามันส์เข้าออกรูเสียวของไอ้เป้ “อ่าส์ ซี้ดส์มึงนี่ร่านควยดีจริงๆเย็ดโคตรมันส์เลย กูถึงติดใจมากับมึงบ่อยๆ ไง” เสียงของพี่เก่งดังออกมา “แล้วเอกล่ะไม่ดีเหรอพี่”ไอ้เป้ถามกลับ “ก็ดีนะรู้สึกดี แต่ไม่ได้เผ็ดร้อน กระหายควยเหมือนมึง เย็ดกับมึงอร่อยควย เงี่ยนควยสัดๆซี้ดส์เสียวควยจริงๆ ” พี่เก่งตอบไอ้เป้กลับ ก่อนเปลี่ยนท่าดันตัวไอ้เป้ติดกับโต๊ะให้มันโก่งตูดแล้วจับควยยัดเข้ารูก่อนกระแทกไปอีกหลายครั้งแล้วจับขาไอ้เป้ขึ้นไปอยู่ในท่าหมอบบนโต๊ะแล้วจับสะโพกดึงเข้ารับกับควยที่กระแทกไปจนทั้งคู่ร้องคราง “ซี้ดส์พี่เก่งเย็ดมันส์รูเสียวรูชิบหายเลยพี่ เย็ดมันส์จังเลย กระแทกแรงๆ เลยพี่ ซี้ดส์ อ่าห์”เสียงไอ้เป้ที่ดังออกมาจากความเสียวซ่านที่ได้รับจากพี่เก่งแล้วพี่เก่งก็เร่งจังหวะเด้าควยเข้าออกรู้เสียว “ตั่บๆๆๆๆเชี่ย น้ำควยกูจะแตกแล้วสัส แตกแล้ว”แล้วพี่เก่งก็รีบดึงถุงยางออกก่อนยัดควยเข้ารูเสียวของไอ้เป้จนน้ำแตกข้างในนั้นผมค่อยๆ เดินออกมาแล้วยืนรอพี่เก่งที่รถของแกซักพักใหญ่ “ต่อไปอย่าพูดในสิ่งที่ทำไม่ได้กับใครอีกนะพี่ความน่าเชื่อถือและความไว้ใจมันจะหายตามกันไป” หลังสิ้นเสียงของผมพี่เก่งสะดุ้งตัวตกใจและคงเข้าใจว่าผมรู้เรื่องในบ้านที่เกิดขึ้นเมื่อกี้แล้ว “เอกพี่ขอโทษ พี่ผิดไปแล้ว พี่ไม่ได้ตั้งใจ ยกโทษให้พี่นะพี่สัญญาว่าพี่จะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก” พี่เก่งรีบเอ่ยปากขอโทษอย่างร้อนรน “ไม่ต้องขอโทษหรอกพี่จะตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจ แต่สุดท้ายก็ทำไปแล้ว ไม่เห็นต้องรู้สึกผิดนี่ครับผมแค่รอเพื่อบอกพี่ว่าผมรับรู้สิ่งที่พี่ทำแล้วต่อไปพี่ก็ไม่ต้องฝืนตัวเองทำอะไรให้ผมอีกแล้วขอบคุณนะครับที่ดีกับผมในช่วงที่ผ่านมา เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของผมกับพี่ไม่ใช่เรื่องของคนอื่นกลับบ้านดีดีนะครับ เดี๋ยวผมเข้าไปเอาของในบ้านไอ้เป้ก่อน”ผมยิ้มและยกมือไหว้แกก่อนเดินเข้าไปในบ้านไอ้เป้เพื่อเอาของพี่เก่งมองหน้าผมเหมือนอยากพูดอะไรแต่คงคิดคำพูดไม่ได้ยืนนิ่งมองหน้าผมอย่างรู้สึกผิด วันนี้วันศุกร์ผมเลิกเรียนเร็วจึงกลับเข้าบ้านเองตอนบ่าย 2 เพราะอาจารย์ให้งานมาทำโดยงดสอนในภาคบ่าย ซึ่งตามปกติแล้วผมเรียนถึง4 โมงก่อนจะถึงบ้าน 2 ทุ่มในทุกวันศุกร์ โดยทุกครั้งจะมีรถพี่เก่งมาจอดหน้าบ้านเป็นสัญญาณว่าผมมาแล้วผมเข้าบ้านเดินขึ้นบันไดผ่านประตูห้องนอนของพ่อ ก่อนคำพูดประโยคหนึ่งของแม่จะแว่บมาให้ผมนึกถึง“เอก แม่จะบอกอะไรไว้นะ ในทุกเรื่องที่เข้ามาในชีวิตมันอยู่ที่เราให้คุณค่าให้ความสำคัญกับมันเรื่องบางอย่างถ้าเรารู้แล้วทำให้เรารู้สึกแย่ก็ลดคุณค่าและความสำคัญมันลงอย่าให้มันกระทบกับใจของลูกและส่งผลเสียไม่ว่ากับใครก็ตาม เอกต้องใช้สติ คิดให้ดีก่อนที่จะทำอะไรลงไป ไม่มีอะไรผิดถ้ามันตรงกับความต้องการของใจลูกถ้ารู้ว่ามันผิดเราก็ไม่ทำจริงไหม” แม่พูดประโยคนี้กับผมตั้งแต่ก่อนเรียนจบ ม.3แล้ว ฟังดูตอนแรกไม่ค่อยเข้าใจความหมาย แต่ก็ยังพยายามนึกตามแบบงงๆแต่ตอนนี้ผมคิดว่าผมเริ่มเข้าใจความหมายของแม่แล้ว “เย็ดแรงๆเลยครับผัว เมียเสียวครับ ท่านี้ลึกจังครับ ผมชอบ” เสียงของเป้ “ร่านควยดีจริงๆเมียจ๋า เย็ดมันส์ควยไม่มีเปลี่ยนเลย ป้าบๆ”เสียงของพ่อพร้องกับเสียงของฝ่ามือที่กระทบกับผิวหนังดังให้ได้ยิน “นึกว่าเบื่อผมซะแล้วเย็ดกันมาตั้งหลายปีแล้วนะ ได้เย็ดกับคนอื่นตามใจผัว แต่ก็ไม่ได้ความรู้สึกเสียวและดีแบบนี้อย่างผัวเลยนะผมรักพ่อนะ” “พ่อก็รักเมียคนนี้นะ”เสียงสนทนาของทั้งคู่ที่ดังออกมาจากในห้องนอนของพ่อกับแม่ห้องที่พ่อหวงเพราะมันเป็นห้องส่วนตัวของพ่อกับแม่ที่แม้แต่ผมถ้าแม่ไม่อยู่ด้วยก็ยังไม่ได้เข้าไป แต่กลับมีไอ้เป้อยู่ในนั้น เสียงของทั้งคู่ดังก้องอยู่ในหัวผมจนน้ำตาไหลออกมาผมเดินเข้าห้องนอนผมด้วยอาการสั่นใจผมหวิวและเต้นตึ้กตั้กจนรู้สึกได้ว่ามันกำลังทำงานหนักเกินไปแล้วผมไม่ได้ปิดประตูเสียงดัง ไม่ได้ทำอะไรที่จะทำให้คนทั้งคู่รู้ตัว ว่าผมกลับมาแล้วทำทุกๆ อย่างแบบปกติ เข้าไปอาบน้ำและร้องไห้ออกมาพร้อมกับความเข้าใจและรับรู้ความรู้สึกของแม่ที่ผมเคยสงสัยว่าแม่จะทำงานหนักจนไม่มีเวลาอยู่บ้านไปทำไมเพราะอะไร จากนั้นก็ออกมานอนพักเพื่อฟื้นฟูตัวเองให้ดีขึ้น ผมตื่นมาในเวลา6 โมงเย็น เดินลงมากล่าวทักทายพ่อปกติ พ่อถามผมหิวไหม ชวนกินข้าว ถามว่าผมกลับมาตั้งแต่ตอนไหนทำไมพ่อไม่เห็นรู้ผมเดินไปที่โต๊ะกินข้าวในครัว พ่อพูดคุย สอบถามผมเรื่องทั่วไปในขณะที่กินข้าวกันทุกอย่างเป็นปกติจนกินข้าวเสร็จผมล้างจาน ส่วนพ่อก็ไปนั่งโซฟาดูทีวีผมเดินเข้าไปนั่งโซฟาที่อยู่ด้านข้าง “ทำไมไม่มานั่งโซฟาเดียวกับพ่อตรงกลางนี่ล่ะ” “ผมกลับบ้านมาตอนบ่ายสองนิดๆครับ” ผมเว้นช่วงและเห็นพ่อเสียอาการนิดหน่อย ก่อนพูดต่อ“พ่อมีอะไรจะบอกผมหรือเปล่าครับ” ผมยกยิ้มขึ้นแล้วพ่อก็เล่าเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ให้ผมรับรู้“แล้วพ่อมีอะไรกันมานานหรือยังครับ แล้วคิดว่าแม่รู้เรื่องนี้ไหม” ผมถามพ่อน้ำเสียงและท่าทางปกติไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าน้ำเสียงหรือท่าทาง “ก็2-3 ปีได้ แม่คงไม่รู้หรอกก็พ่อเคยบอกแล้วไงเรื่องบางอย่างก็ต้องเก็บไว้เป็นความลับ ถ้าแม่รู้ครอบครัวก็พังไปแล้วซิ” จากนั้นพ่อก็จับมือผมสีหน้าร้อนรนแต่แฝงด้วยความรู้สึกผิดจากที่ผมมองตา พูดต่อ “พ่อขอโทษนะลูกที่มันเป็นแบบนี้พ่อรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ผิดที่มีอะไรกับเป้แต่ลูกก็ยอมรับกับรูปแบบความสัมพันธ์นี้แล้วไม่ใช่เหรอ”ผมหัวเราะอยู่ในใจนี่มันเรื่องตลกชัดๆ พ่อไม่ได้รู้เลยว่าแม่ต้องเสียใจแค่ไหนทำใจตัวเองยังไงที่ต้องจัดการกับเรื่องที่รับรู้เพื่อรักษาผมและคำว่าครอบครัวไว้แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าผมและแม่ถูกทำร้ายมาตลอดโดยไม่รู้ตัว “ขอโทษทำไมครับพ่อไม่ได้ทำอะไรผิดแค่ทำตามความต้องการของตัวเองมากกว่าความถูกต้องในทางที่ควรจะเป็นอีกอย่างตอนนี้แม่ก็เสียไปแล้วพ่ออยากให้มันเป็นยังไงก็แล้วแต่ความต้องการของใจพ่อเลยครับ ผมอยากรู้ ผมก็มาถามและผมก็ได้คำตอบแล้วขอบคุณนะครับพ่อ” ผมยกมือไหว้พร้อมยิ้มให้พ่อ ก่อนขอตัวขึ้นห้องนอน นอนมองดาวบนผนังห้องที่ส่องแสงในความมืดหลังปิดไฟแล้วคิดว่าภายในเวลา 2 อาทิตย์ผมเจอเรื่องราวที่ทำร้ายความรู้สึกและจิตใจของผมอย่างมากผมเจอความหลอกลวง หักหลัง เป็นเหยื่อของความเห็นแก่ตัว แทงผมข้างหลังอย่างเลือดเย็นจากคนที่รักคนใกล้ตัว และคนที่หวังอะไรจากตัวผม ผมรู้สึกว่าตัวเองเปราะบางเหมือนแก้วที่ร้าวไปทั้งใบจะแตกก็ไม่แตกจะซ่อมก็ไม่ได้และมันไม่มีทางเหมือนเดิมแล้ว “มันอยู่ที่เราให้คุณค่าให้ความสำคัญกับมันเรื่องบางอย่างถ้าเรารู้แล้วทำให้เรารู้สึกแย่ก็ลดคุณค่าและความสำคัญมันลง”เสียงของแม่บอกผมเหมือนกำลังช่วยปกป้องลูกคนนี้ ถ้ามันทำให้ผมรู้สึกแย่ ผมก็แค่ทำให้มันไม่มีค่าและความสำคัญ ไม่ว่าคนหรือใครก็ตาม นี่คือคำตอบของผมและในเมื่อทุกคนเอาความต้องการของตัวเองตั้ง ผมก็จะใช้คำว่า “ความต้องการ”มากำหนดชีวิตใหม่ของผมเหมือนกัน “ฮัลโหลสวัสดีครับพี่... ผมเอกครับ พรุ่งนี้ว่างไหมครับผมอยากนัดเจอ” to be continued
|