ผมตั้งใจจะแต่ง 2 Versionนะครับ โดย Version 1 จะเป็นโหมดดราม่าที่มันจริงกว่าและเกิดขึ้นในชีวิตเราได้จริงส่วน Version 2 ที่คิดไว้คือทุกอย่างราบรื่นหื่นกระจาย 55คิดไว้แบบนั้นนะยังไงก็เครียดๆ กับตอนนี้กันไปก่อนนะครับ ขอบคุณที่ติดตามกันชอบไม่ชอบ แนะนำได้ อยากให้ตัวละครเป็นยังไงก็แนะนำกันมาได้ แต่งสดๆบางทีก็เรียบเรียงได้ไม่ค่อยดี ต้องขออภัยด้วยครับ ทั้งคืนที่ผมคิดแล้วร้องไห้อาการกลับไปกลับมาคล้ายไบโพล่าความเสียใจจากความเจ็บปวดที่เจอทำให้ผมแค้นกับทุกคนที่ทำกับผมจนอยากเอาคืนแต่ผมเพิ่งผ่านวัยเด็กมาผมจะทำอะไรได้ด้วยวัยแค่นี้ ผมรู้สึกเศร้า ผิดหวัง เสียใจที่ตัวเองกับแม่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ ผมไม่รู้ว่าแม่เจ็บปวดกับเรื่องนี้มานานแค่ไหนขนาดผมที่เพิ่งรู้ยังใจสลายได้ขนาดนี้ วันนั้น ผมพยายามฝืนตัวเองให้ปกติที่สุดเพื่อไม่ทำให้พ่อที่ผมรักต้องทุกข์ใจกับความเสียใจของผมทั้งๆ ที่เขาทำร้ายผมกับแม่มาตลอด ผมทำไปทำไม ทำไมผมต้องแบกรับความทุกข์ไว้ทั้งหมดด้วยผมเดินไปหาพ่อที่ชั้นล่างด้วยตาแดงๆ และยังมีน้ำใสๆ คลออยู่ “เอก! เป็นอะไรลูก” แกตกใจเมื่อมองหน้าผมก่อนโผเข้ามากอดผมผมทำได้แค่ยกมือขึ้นห้ามแล้วก้าวถอยหลังจนพ่อชะงัก “ผมจะบอกพ่อว่าในเมื่อแม่ไม่อยู่แล้วและห้องนั้นไม่ได้เป็นพื้นที่ส่วนของพ่อกับแม่แล้ว เพราะพ่อให้คนอื่นเข้าไปผมขอเอารูปและของๆ แม่ทั้งหมดมาไว้ที่ห้องผมนะครับถึงแม่จะตายไปแล้วแต่การที่ยังมีของ มีรูปของแม่อยู่ในห้องนั้นห้องนั้นมันทำให้ผมรู้สึกแย่ เวลาที่พ่อพาใครมานอนหรือทำอะไรกันในห้องนั้นหวังว่าจะเข้าใจนะครับ ยังไงผมขออนุญาตด้วยนะครับ” เมื่อผมพูดจบพ่อนั่งร้องไห้อย่างรู้สึกผิดผมไม่ได้สนใจว่าแกจะเป็นยังไง เดินเข้าห้องนั้นเพียงแค่เปิดประตูห้องก็เห็นรูปใบใหญ่ของพ่อกับแม่ตอนแต่งงานกันอยู่บนผนัง ผมค่อยๆเอารูปนั้นลงมา เก็บรูปแม่บนหัวเตียง แค่มีแม่ในภาพนั้นผมเก็บมาหมดเก็บเสื้อผ้าของใช้ของแม่ใส่กระเป๋าพร้อมหยิบโน๊ตบุ๊คส่วนตัวของแม่ออกมาแล้วปิดห้องนั้นก่อนนำทุกอย่างไปไว้ที่ห้องของผม “ผมเก็บของของแม่เรียบร้อยแล้วนะครับพ่อ”ผมบอกพ่อพร้อมเดินขึ้นบันได พ่อเข้ามาสวมกอดผมด้านหลังแล้วร้องไห้กล่าวขอโทษผมซ้ำๆ “พ่อขอโทษนะเอก พ่อขอโทษ ลูกอย่าเกลียดพ่อนะ พ่อเหลือลูกแค่คนเดียวพ่อยอมรับผิดทุกอย่าง ยกโทษให้พ่อนะลูก พ่อรักลูกนะ”ผมจับแขนพ่อที่กอดผมแน่นให้ปล่อยแต่แกก็ไม่ยอม “ผมเจ็บ ปล่อยผมก่อนขอเวลาผมทำใจก่อนนะครับ ยังไงพ่อก็คือพ่อของผม” พูดจบพ่อค่อยๆ คลายวงแขนออกจากผมผมเดินเข้าห้องนอนโดยไม่ได้หันไปมองพ่อที่ยังคงร้องไห้อยู่อย่างนั้น ผมเข้าห้องจัดแจงห้องใหม่ที่มีรูปของแม่เข้ามาเติมเต็มความรู้สึกของผมให้มันดีขึ้นจนพบกับกล้องขนาดจิ๋วที่ซ่อนอยู่ในภาพแต่งงานนั้น ความลับภายในห้องนั้นผมถอดเมมโมรี่การ์ดออกแล้วพบเพียงเหตุการณ์ที่เรียกว่าไม่ปกติก็คือตอนล่าสุด ภายในห้องนั้นที่คนทั้งคู่กอดจูบกันตั้งแต่ก่อนที่จะเปิดประตูด้วยซ้ำนัวเนียกันเข้ามาโดยไม่ได้สนใจว่ามีภาพของแม่ตั้งเด่นอยู่ทั้งคู่อยู่ในภาวะของความเงี่ยนบดจูบกันอย่างหื่นกระหายก่อนจะถอดเสื้อผ้าออกจนเปลือยเปล่า แล้วอยู่ในท่า 69ที่นอนตะแคงเข้าหากัน เป้ดูดอมควยพ่อส่วนพ่อก็แหกขาออกใช้ลิ้นเล่นที่รูเสียวของเป้จนดิ้นพล่านก่อนดันตัวเป้ลงแล้วจ่อควยเย็ดเข้ารูแล้วช้อนตัวเป้ขึ้นมาจูบใช้มือยึดเตียงก่อนโยกส่วนล่างเข้าหากันเป็นจังหวะในภาพเห็นควยเข้าออกรูอย่างชัดเจน“เสียวไหมครับเมียจ๋า” เสียงพ่อที่เริ่มต้นคุยกับคู่เย็ด “เสียวครับเห็นควยกำลังเข้าออกแบบนี้เสียวรูมากเลยครับ” เป้ตอบก่อนที่ทั้งคู่จะโน้มตัวเข้าจูบกันโดยที่ส่วนล่างยังโยกเย็ดกันอยู่อย่างมีความสุขในขณะที่ผมดูเรื่องราวในวันนั้นผ่านจอคอมด้วยน้ำตาที่ไหลอาบหน้า ผมกดปิดก่อนโทรหาพี่ที่รู้จัก“ฮัลโหล สวัสดีครับพี่ ผมเอกครับ พรุ่งนี้ว่างไหมครับ ผมอยากนัดเจอ” กล่าวทักทายปลายสายแล้วพูดสิ่งที่อยากได้วางสายไปเมื่อพอใจในข้อแลกเปลี่ยนกันเรียบร้อย พูดกับรูปถ่ายแม่ “ผมขอโทษนะครับแม่ผมเป็นเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว” ก่อนปิดตาลงอย่างเหนื่อยล้า วันนี้วันจันทร์พ่อรอไปส่งผมกับเป้ที่มหาลัยผมเดินลงมาเห็นเป้ยืนรออยู่ที่รถ “ผมไม่ค่อยสบายครับ ปวดหัว ขอนอนพักพ่อรีบไปส่งเป้เถอะ เดี๋ยวมันจะเข้าเรียนสาย” ผมพูดจบกำลังจะเดินกลับขึ้นไปบนห้อง Part พ่อพงษ์ “เดี๋ยวก่อนกินข้าวกินยาแล้วนอนพักนะ เย็นนี้พ่อมีเรื่องจะคุยด้วย” ผมรีบบอกลูกก่อนเดินขึ้นไปสภาพของเอกโทรมมาก ขอบตาช้ำบวม ทำไมลูกถึงยังเสียใจขนาดนี้ ทั้งๆที่ลูกก็ยอมรับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายกับผู้ชายแล้วจริงอยู่ที่ผมมีอะไรกับลูกก่อนหน้านี้ ผมผิด ผมรู้ตัว ผมขอโทษไปแล้ว และเรื่องราวมันก็ผ่านมาแล้วลูกจะคิดมากไปทำไม แล้วคำพูดที่แปลกไปไม่มีหางเสียงนั่นอีก จะอะไรนั้กหนาผมพูดจบก็เดินออกไปที่รถส่งเป้ โดยไม่ได้หันไปสนใจลูกอีก ขึ้นรถมาผมบอกเป้ว่าเอกรู้เรื่องแล้วเป้ทำหน้าตกใจทำหน้าหงอยลง ผมเอามือลูบหัวแล้วบอกว่า เดี๋ยวอะไรมันก็ดีขึ้นก่อนบอกเป้ว่าจะทำเรื่องคืนห้องที่คอนโดแล้วรับส่งเองเป้มองหน้าผมเชิงไม่เข้าใจว่าทำไม ผมบอกว่าจะให้เป้มาพักกับผมเลยเอกจะได้ชินเพราะเอกเข้าใจง่าย ถ้าดื้อมากก็คงต้องใช้ไม้แข็ง ซึ่งผมคิดไปแล้วว่าต่อจากนี้เราสามคนจะอยู่ด้วยกันได้เพราะลูกหัวอ่อน เชื่อฟังผมมาตลอดโดยไม่ได้คิดอีกด้านว่ามันอาจไม่ได้เป็นแบบที่ผมคิด ย้อนกลับมาที่บ้าน“สวัสดีครับ พี่อยู่หน้าปากซอยแล้วเหรอครับขับตรงเข้ามาเจอแยกเลี้ยวซ้ายแล้วตรงมาบ้านหลังสุดท้ายเลยนะครับ” คนที่ผมนัดไว้มาถึงแล้วแถมพาผู้ชายมาด้วยอีก3 คน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจ ผมจ่ายเงินให้เป็นจำนวนที่มากพอดูแต่ผมคิดว่ามันก็สมน้ำสมเนื้อนะ “ขอบคุณมากครับพี่ ต้องขอโทษจริงๆ ที่กระทันหันเหนื่อยกันน่าดูเลย ไว้ผมจะเรียกใช้บริการพี่ใหม่นะครับ” ผมกล่าวขอบคุณก่อน “น้องใจถึงขนาดนี้พวกพี่ก็ต้องเต็มที่อยู่แล้ว อย่าลืมนะที่คุยกันนะ เดี๋ยวพี่จัดให้แบบพิเศษเลย”ผมยกมือไหว้ขอบคุณ ก่อนพวกพี่ๆ จะขับรถออกไป พ่อพาเป้กลับเข้ามาบ้านเวลาทุ่มนิดๆมองดูทั้งคู่เดินคู่กันมาทำให้ผมรู้ตัวว่าตัวเองได้กลายเป็นส่วนเกินของที่นี่ไปแล้ว พ่อเอากับข้าวให้เป้ไปจัดโต๊ะในห้องครัวแกเดินมาหาผมเอามือแตะหน้าผาก ผมหลบมือที่จะมาสัมผัสจนพ่อพ่นลมหายใจ ก่อนลงนั่งโซฟาอย่างแรงคงไม่พอใจผมนั่นแหละ“เอก ลูกจะเป็นแบบนี้อีกนานไหม” พ่อพูดขึ้นมองหน้าผมแล้วพูดต่อ “วันนี้พ่อไปยกเลิกคืนห้องเช่าที่คอนโดแล้ว”พูดแล้วมองหน้าผมที่ยังนิ่งสายตาตรงไปด้านหน้า ไม่ได้มองหรือตอบรับรับอะไรออกไป “ต่อไปพ่อจะไปรับส่งเองแล้วเป้จะมาอยู่กับเราที่บ้านนี้” พ่อพูดเสร็จทำเอาผมยกยิ้มที่มุมปาก “เข้าใจในสิ่งที่พ่อบอกรึเปล่า”พ่อเริ่มทำเสียงแข็งใส่ผม “แล้วมันจะมาอยู่ในฐานะอะไรนอนที่ห้องพ่อซินะ หึ” เสียงที่ออกจากปากผมในขณะที่หน้าผมยังมองไปข้างหน้าแล้วยกยิ้มหลังพูดจบ “เอกถ้าพูดจาเหมือนเดิม เราก็จะคุยกันดีดีเหมือนเดิม แต่ถ้ายังทำตัวงี่เง่าแบบนี้พูดดีด้วยคงไม่รู้เรื่อง” พ่อเริ่มเสียงดังขึ้น คงไม่พอใจผมแบบสุดๆ “เอกมึงทำไมต้องทำตัวให้มันยุ่งยาก เป้มันมาอยู่นี่ มันนอนห้องกู เรื่องมันผ่านมาแล้วมึงจะมาคิดมากทำไมเนี่ย อย่าทำให้กูต้องปวดหัวได้มั้ย” ผมรู้สึกขำให้กับตัวเองจังพ่อไม่เคยพูดมึงกูกับผม ไม่เคยตะคอกและใช้เสียงดังกับผมสรุปแล้วเป็นผมเองที่ผิดซินะ “แล้วผมต้องเรียกไอ้เป้ว่าแม่ด้วยมั้ย จะได้ทำตัวถูก” ผมถามน้ำเสียงเรียบๆ “ไอ้เอก!” พ่อตวาดผมดังลั่น ในขณะที่ไอ้เป้มองมาและฟังการสนทนาอยู่ที่ห้องครัว “ผมขอพูดอะไรหน่อยนะผมรักไอ้เป้เหมือนคนในครอบครัวรักมันมากเป็นคนสำคัญคนนึงของผมส่วนพ่อผมเคารพและรักมาก เชื่อฟังและทำตัวให้พ่อภูมิใจมาตลอดแต่วันนึงคนสำคัญของผมทั้งคู่ แอบแทงข้างหลัง หักหลังผมกับแม่ แอบไปเอากันมานานเป็นปีๆตั้งแต่แม่ยังอยู่ด้วยซ้ำ แล้วพอแม่เสียไปได้ไม่นาน รูปของแม่ยังติดอยู่ในห้องแต่พ่อก็พากันไปเย็ดในนั้นต่อหน้ารูปของแม่จะให้ผมรู้สึกยินดีปรีดาเหรอครับสิ่งที่ผมเจอและเป็นอยู่ตอนนี้กลับกลายเป็นว่าผมคือตัวปัญหางั้นเหรอ” “เรื่องมันก็ผ่านไปแล้วมองไปข้างหน้าซิ ตอนที่เห็นว่าพ่อมีอะไรกับเป้หรือคนอื่น ลูกทำไมรับได้แล้วทำไมไม่ปรับตัวเองให้ยอมรับมัน” ผมตวัดสายตาขึ้นมองแล้วพูด “เพราะแม่รู้เรื่องของพ่อกับไอ้เป้ไงแม่ถึงทำแต่งานจนไม่มีเวลาอยู่บ้าน แล้วที่แม่ไม่โวยวายก็เพราะว่าครอบครัวมันจะพังกลัวว่าผมจะเสียใจไง แล้วไอ้ข้อตกลงอะไรของพ่อที่จะรักษาครอบครัวนี่ สรุปมันก็ตอแหลนั่นแหละ”พ่อฟังแล้วหยุดนิ่งไปแว่บนึง ก่อนตวาดเสียงดังลั่น แล้วค่อยๆ คุมอารมณ์ตัวเองใช้น้ำเสียงแบบใจเย็นพูดกับผม “ไอ้เอก! ยังไงก็ช่าง ตอนนี้ ปัจจุบันนี้พ่อขอสั่งให้ลูกเป็นแบบเดิม พูดจาดีๆแล้วยอมรับมัน เราจะได้อยู่กันแบบสบายใจ ทุกอย่างมันจะดีขึ้นและดีกว่าตอนนี้ที่ลูกกำลังทำอยู่ อย่าลืมนะเอกว่าตอนนี้เอกอยู่กับพ่อที่เลี้ยงดูส่งเสียเอก อย่าทำตัวให้มีปัญหา ถือว่าพ่อขอ”ผมฟังจบไม่ได้ตอบอะไรออกไป เดินไปเข้าห้องน้ำในครัวโดยมีพ่อรีบเดินตามมา ผมเหลือบมองก่อนบอกพ่อ “ผมไม่ทำร้ายคนสำคัญของพ่อหรอกแค่จะเข้าห้องน้ำ มึงคงมีความสุขมากซินะ” ผมหันไปพูดกับไอ้เป้ทิ้งท้ายก่อนเข้าห้องน้ำ “ผมรู้สึกสำลักความสุขจนกินอะไรไม่ลงแล้วยังไงผมขอให้พ่อกับไอ้เป้มีความสุขมากๆ ละกันนะครับ” แล้วผมก็เดินขึ้นห้องนอนพร้อมกับใจที่มันสลายไปแบบสมบูรณ์แล้ว100%ผมเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า 3-4 ชุด หยิบของใช้ สายชาร์ตของจำเป็นเตรียมไว้ พร้อมโน๊ตบุ๊ค สมุดบัญชี บัตรเอทีเอ็ม โดยไม่ลืมรูปถ่ายของแม่อีก1 ใบ รูปที่มีแค่เราสองคนใส่ไว้ในกระเป๋าตังค์ ทิ้งจดหมายไว้บนโต๊ะเขียนหนังสือพร้อมแฟรชไดร์ฟ 1 อัน ให้คนที่เคยมีค่าและเคยสำคัญกับผมเป็นที่ระลึก ตอนนี้สี่ทุ่มท่ามกลางความเงียบมีเสียงครางกระเส่าดังแว่วมา เหมือนเป็นการบอกลาผมที่ค่อยๆเดินผ่านห้องนั้น ก่อนออกจากบ้านไปอย่างเงียบๆ ในวัย 17 ปี ที่ต้องใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยว “ฮัลโหลครับพี่เก่งพี่ช่วยมารับผมที่หน้าปากซอยบ้านผมหน่อยได้ไหมครับ ตอนนี้.... ครับ ผมรอพี่อยู่นะครับ”
|