เมืองสยามหลายร้อยปีก่อนนั้นเต็มไปด้วยเภทภัยและโรคร้ายที่ทำให้ประชาชนในหลายๆพื้นที่อยู่อย่างไม่เป็นสุข แต่ใครจะหารู้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้นั้นไม่เพียงแต่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นเพราะการต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันในโลกมนต์ดำ และไสยเวท รวมถึงปีศาจต่างๆที่ขึ้นมาปะปนอยู่กับมนุษย์ ดังนั้นในยุคนั้นจึงมีสิ่งที่เรียกว่าหมอผี จริงอยู่ที่หมอผีนั้นมีทั้งดีและไม่ดี แต่มีอยู่สำนึกหนึ่ง เป็นที่รู้จักกันในนามตำหนักหมอผีชุ่ม ที่ภายนอกนั้นดูเหมือนจะเป็นเพียงเพื่อช่วยชาวบ้านปราบผีธรรมดา แต่จริงๆแล้วพวกเขาได้ศึกษามนต์เพื่อนำมาต่อกรกับมนต์ดำอีกที และยังมีเป้าหมายที่จะกำจัดปีศาจบนโลกใบนี้ให้หมดอย่างสิ้นซาก แต่แม้จะต่อสู้มาหลายรุ่นแล้ว แต่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้สิ่งเหล่านี้มันหมดไป ไอ้สิงห์ เด็กหนุ่มที่เกิดและโตในครอบครัวนี้รู้หน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี เขารู้ว่าเขามีชีวิตอยู่เพื่อที่จะกำจัดสิ่งชั่วร้ายบนโลกเหล่านี้ให้หมดไป ดังนั้น เขาได้ตั้งใจฝึกฝนมนต์ดำตั้งแต่เด็ก อุทิศตนให้กับชาติบ้านเมืองแม้จะไม่มีใครเห็น ตลอดทั้งชีวิตของไอ้สิงห์นั้นได้แต่เก็บตัวฝึกฝนโดยได้รับการดูแลจากหมอผีชุ่ม ซึ่งเป็นผู้มีอาคมผู้แกร่งกล้า ไอ้สิงห์ปฏิญาณตนว่า หากมันโตขึ้นมันจำเป็นต้องเอาแบบเยี่ยงอย่างท่าปู้ของมันให้ได้ “ไอ้สิงห์” “ขอรับ ท่านปู่” ไอ้สิงห์ขานรับ หลังจากเพิ่งไปหาฟืนในป่าเสร็จ เขาเดินไปหาท่านปู่ที่นั่งอยู่ตรงแท่นพิธีก่อนจะนั่งลงและแสดงความเคารพ “ตอนนี้ เอ็งก็อายุครบ 20 ปีแล้ว ข้าเองก็แก่ลงทุกวัน คงถึงเวลาที่ข้าต้องวางมือเสียที คงถึงเวลาที่ข้าต้องถ่ายทอดพลังทั้งหมดให้เอ็ง” “แต่ว่า.....” แม้จะรู้หน้าที่ดี แต่ไอ้สิงห์ก็อดที่จะเป็นกังวลไม่ได้ เพราะมันรู้ดีว่าหากท่านปู่ส่งพลังถ่ายทอดให้มันแล้ว ร่างกายที่ยังดูหนุ่มของท่านปู่ตอนนี้จะเหี่ยวโรยลงอย่างฉับพลัน และจะไม่มีพลังอาคมใดๆอีก จริงอยู่ แม้ทุกคนจะสามารถฝึกฝนอาคมได้ แต่ธาติพลังงานอันแกร่งกล้านั้นสามารถโดนควบคุมและเป็นเจ้าของได้เพียงแค่บุคคลเดียว “เอ็งไม่ต้องกังวล ข้าหรือตะเวรต่อสู้มาหลายปี มันถึงเวลาของข้าแล้ว มองในแง่ดี ถือว่าดีเสียอีก ข้าจะได้พักผ่อน” ไอ้สิงห์ไม่ได้ตอบอะไรได้แต่ก้มหน้า “คืนนี้เอ็งเตรียมตัว ข้าจะเริ่มพิธีคืนนี้เลย” ณ คืนนั้น พระจันทร์เต็มดวงสาดส่องแสงลงมาอย่างงดงาม หมอผีชุ่มลงอาคมทั่วป่าช้าเพื่อไม่ให้ใครมารบกวน ก่อนจะนั่งลงที่แท่นพิธี ด้านล่างนั้นเป็นไอ้สิงห์ที่กำลังนั่งสมาธิพร้อมกับหลับตา บัดนี้ร่างกายของมันเปลือยเปล่า เผยให้เห็นผิวแทนเนียนใส และร่างกายอันกำยำของมัน ด้านหลังนั้นเต็มไปด้วยรอยสักยันต์อาคม กล้ามหน้าท้องเป็นลอนเรียงตัวสวยเกิดจากการตัดฟืน ไรขนจากสะดือไล่ลงมาจนถึงอวัยวะขนาดเขื่องและไข่แฝดใบยานสีน้ำตาลที่กำลังนอนแน่นิ่งอย่างสงบบ่งบอกถึงความเป็นชายที่พร้อมอย่างเต็มที่ หมอผีชุ่มเริ่มร่ายอาคมไม่เป็นภาษา ทันใดนั้นเอง รอบป่าเต็มไปด้วยเสียงหมาหอน ลมที่นิ่งเมื่อสักครู่พัดแรงขึ้น ไอ้สิงห์รู้สึกถึงพลังงานบางอย่างที่กำลังวนเวียนอยู่รอบตัวมัน “โอมมมมมม ข้าขออัญเชิญ ท่านเทพเจ้า ผีป่านางไม้ และสัพเวสีทั้งหลาย มา ณ ทีนี้ด้วย” เสียงกรีดร้องโหยหวน ทรมานด้วยความเจ็บปวดนั้นดังขึ้นไม่หยุด และมันดูเหมือนจะยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ ไอ้สิงห์นั้นได้แต่นั่งนิ่งไม่ไหวติง ความรู้สึกรับรู้ถึงพลังงานนั้นใกล้มันเข้ามาเรื่อยๆ จนในที่สุดพลังงานจำนวนมากนั้นได้เข้ามาล็อกตัวมันไว้จนมันขยับไม่ได้ พร้อมกับรู้สึกเหมือนมีอะไรมาลูบไล้มันไปทั้งตัว สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่มือของมนุษย์ ราวกับลมที่เย็นยะเยือกและเต็มไปด้วยความกระหาย ท่อนเอ็นของมันที่ไม่เคยได้ใช้งานแม้แต่จากมือของตัวเองเพราะเป็นเรื่องที่ผู้กำลังฝึกฝนต้องละเว้นนั้น บัดนี้มันค่อยๆขยายตัวขึ้นจากแรงกระตุ้นเหล่านั้น ขนาดของมันเมื่อใหญ่เต็มที่นั้นราวกับท่อนซุง ส่วนหัวแดงแจ๋ราวกับสีมะเขือเทศ มันกระดกหงึกๆ เส้นเลือดปูดโปน ดูน่าเกรงขาม มันรู้สึกได้พลังงานมากมายที่กอบกุมท่อนแกร่งนั้นไว้ก่อนจะชักขึ้นชักลงอย่างรุนแรงจนไอ้สิงห์เกือบหลุดจากสมาธิ “อดทนไว้ ไอ้สิงห์” พ่อปู่ว่าพร้อมกับหลับตาสวดมนต์คาถาต่อไป “โอมมมมมมมมมมม” เสียงดังแจ๊บๆที่เกิดจากการชักและน้ำอยากที่ไหลออกมานั้นดังลั่นไปทั่ว ไอ้สิงห์ผู้ไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนพยายามสงบสติอารมณ์พร้อมกับท่องคาถาตามอาจารย์ของเขา “อ๊าสสสสสสสสส” เมื่อคาถาบทแรกเสร็จสิ้นลง ไอ้สิงห์ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไป อารมณ์ของไอ้สิงห์บัดนี้ตะเลิดเปิดเปิง มันลุกขึ้นพร้อมกับกระเด้าแท่งควยสู้กับพลังงานเหล่านั้นอย่างบ้าคลั่ง หน้าตาของมันเหยเก แววตาของมัน ณ บัดนี้ราวกับคนเสียสติ กำหนัดจนกู่ไม่กลับ “อ๊าๆๆๆๆ ควยกูๆๆๆๆๆ ควยๆๆๆๆๆ กูเสียวควย ซี๊ดดดดด อ๊าๆๆๆๆๆๆๆ บีบควยกูแรงๆชักควยกูแรงๆ อ๊าๆๆๆๆๆ น้ำควยกู น้ำควยมาแล้ว อ๊าๆๆๆๆๆๆ” เสียงร้องระงมของไอ้สิงห์ดังไปทั่วผืนป่า แม้จะกำนัดขนาดไหน แต่ไอ้สิงห์ก็ไม่ลืมเอาถ้วยมาลอง มันกระเด้าอยู่แบบนั้นไปเรื่อยๆ เพียงไม่นานน้ำควยจำนวนมากก็กระฉูดออกมาราวกับน้ำตก นี่เป็นครั้งแรกที่มันเคยสำเร็จความใคร่ แต่พลังงานเหล่านั้นก็ไม่ยอมปล่อย ยังคงทำหน้าที่รูดเจ้าสิ่งนั้นพร้อมกับบีบเค้นราวกับจะรีดน้ำออกมาจากจนหยดสุดท้าย มือเหล่านั้นบีบเค้นไข่ทั้งสองใบเพื่อไล่น้ำที่เหลืออยู่ออกมาให้หมด ในขณะที่น้ำควยกระฉูดออกมานั่นเอง ที่ท่านปู่ได้สวดคาถาจบลง เพียงฉับพลันร่างที่เคยหนุ่มแน่นนั้นก็เหี่ยวลงในพริบตา พลังงานสีดำบางอย่างลอยออกมาจากปากของพ่อปู่ ก่อนที่พ่อปู่โอบอุ้มพลังเหล่านั้นไว้ในมือ ส่วนไอ้สิงห์ที่เพิ่งปล่อยน้ำลงหม้อนั้นหอบหายใจแฮกด้วยความเหนื่อยล้า “น้ำจากอัณฑะเป็นน้ำที่ทรงพลังที่สุดในการใช้มนต์ดำ” พ่อปู่ว่าก่อนจะปล่อยก้อนพลังงานสีดำในมือให้ลอยลงไปคลุกเค้ากับน้ำอยากที่อยู่ในหมอนั้น ‘บัดนี้ เอ็งจะมีพลังที่เก่งกล้า หากได้รับการฝึกฝนอีกสักนิด เอ็งจะเก่งเกินกว่าใครบนโลกใบนี้ ใช้พรนี้ในการช่วยเหลือผู้คนและกำจัดสิ่งชั่วร้ายออกจากโลกมนุษย์ซะ” ไอ้สิงห์คำนับ ก่อนจะมองลงไปที่หม้อนั้น ไม่รอมาช้า มันยกหม้อที่เต็มไปด้วยน้ำกามของตัวเองขึ้นดื่มกึกๆ มันไม่เคยรู้สึกมีกำลังวังชาเช่นนี้มาก่อน บัดนี้ร่างกายของมันรู้สึกซาบซ่า เต็มไปด้วยพลังงาน มนต์ดำได้เคลือบคลานเข้าไปในทุกส่วนของร่างกาย ท่อนควยแข็งนั้นเต้นตุบๆ ขนาดของมันที่แต่เดิมใหญ่อยู่แล้วขยายใหญ่ขึ้น แข็งโป๊กราวกับท่อนหิน ชี้ตรงเด่ ราวกับพร้อมจะครอบครองโลกใบนี้ ไอ้สิงห์รับรู้ได้ถึงน้ำกามในถุงกระโปกของมันที่โดนเติมเต็มอย่างรวดเร็ว ทำให้มันรู้สึกราวกับว่ามันพร้อมที่จะเย็ดทุกอย่างที่ขวางหน้า มันไม่เคยรู้สึกถึงความเป็นชายขนาดนี้มาก่อน พ่อปู่ในร่างชราได้ลุกขึ้นก่อนจะเดินเข้าประชิดกับไอ้สิงห์ ไม่รอช้าพ่อปู้ใช้มือกำหมับเข้าที่เจ้าโลกที่กำลังแข็งนั้นทันทีพร้อมกับบีบมันเบาๆ “จำไว้ว่านี่คือแหล่งสูญรวมพลังของเอ็ง ท่อนควยนี้แข็งแกร่งที่สุดหาผู้ได้สามารถเทียบได้ จงใช้มันเพื่อทำความดี” ทันใดนั้นเองที่เมฆก้อนใหญ่เริ่มก่อตัวปกคลุมท้องฟ้าไว้จนมืดสนิท
”ได้เวลาสังเวย เจอกันพรุ่งนี้เช้า” พูดจบ พ่อหมอชุ่มก็เดินจากไป ฝนห่าเทลงมาอย่างหนัก ไอ้สิงห์รู้สึกได้ถึงพลังงานที่ก่อตัวรอบตัวมันอีกครั้ง โดยเฉพาะที่รอบท่อนเอ็นใหญ่ของมัน ไอ้สิงห์รู้หน้าที่เป็นอย่างดี มันอ้าแขนรับคลื่นพลังงานเหล่านั้นก่อนจะใช้ท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นไปทั่วบริเวณป่าช้า สังเวยให้แก่เหล่าวิญญาณที่มักมากไปด้วยกาม ท่ามกลางสายฝนที่เปียกชุ่ม
|