บทที่ ๑๐ ผู้มาเยือน
“ยินดีต้อนรับทีมงาน Gentทุกท่านครับ”
พาทีฉีกยิ้มสดใสเปิดประตูออกมาต้อนรับทีมงานของนิตยสารชื่อดังที่จะมาถ่ายทำสกู๊ปพิเศษที่สำนักงานAblaze Agency
วศิน บรรณาธิการบริหารของนิตยสาร Gent พาทีมคนทำงานมาด้วยอีก 4 คน คือ พายัพ ช่างกล้องกอล์ฟ ช่างไฟ จีจี้ ช่างหน้าและช่างผม และ บูรณ์ ช่างเขียน
ทันทีที่เห็นสำนักงาน Ablaze Agency วศินก็อดกล่าวชมไม่ได้“โฮมออฟฟิศคุณพาทีสวยและใหญ่โตโอ่อ่ามากนะครับ ท่าทางจะลงทุนไปไม่ใช่น้อยสมแล้วครับที่คุณพาทีตั้งใจจะให้ที่นี่เป็น HappyWorkplace สำหรับคนทำงาน”
“ขอบคุณมากครับคุณวศิน มาครับ เดี๋ยวผมพาชมข้างใน”พาทีพาสมาชิกนิตยสาร Gent เข้าไปในโฮมออฟฟิศของเขา ระหว่างนั้น บูรณ์ และ พายัพที่เคยเดินทางมาดูสถานที่ครั้งหนึ่งก่อนหน้านี้แล้วก็ได้ช่วยกันเล่าสตอรี่ที่ได้ตั้งใจจะทำในวันนี้ให้กับทั้งพาทีและวศินได้ฟังรวมถึงชี้จุด ที่เขาต้องการจะใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งวศินก็เห็นดีเห็นงามตามที่ทั้ง2 คนบอก
เนื่องจากวันนี้จะมีการบันทึกเหตุการณ์ภายในออฟฟิศบูรณ์และพายัพได้แจ้งให้กับพาทีได้ทราบก่อนหน้านี้แล้วว่าอาจจะขอให้พนักงานเข้าออฟฟิศมาเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดการเกะกะวุ่นวายระหว่างการถ่ายทำ พาทีจึงตัดสินใจให้พนักงาน Work From Home ที่บ้านได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งแผนกครีเอทีฟที่พาทีกำชับแล้วกำชับอีก วันนี้จึงมีตัวหลักคือน้อยโหน่ง ที่จะเป็นคนเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอให้ทีมงาน Gent ได้ฟัง
วันนี้น้อยโหน่งแต่งตัวมาในชุดที่ได้มีการตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้คือชุดเดรสที่เธอใส่ร่วมงานปาร์ตี้เดย์ที่กลายเป็นประเด็นในออฟฟิศเจ้าตัวถูกจีจี้เรียกไปแต่งหน้าทำผมและระหว่างนั้นบูรณ์ก็มานั่งบรีฟถึงสิ่งที่เขาต้องการจากน้อยโหน่งให้ฟัง
หลังจากได้รับการเติมความสวยจนทุกคนร้อง ว้าวเมื่อได้เห็น น้อยโหน่งก็ถูกพามาอยู่ที่หน้าเซต คือที่โต๊ะทำงานในแผนกการตลาดของเธอเองหลังจัดที่จัดทาง จัดไฟให้หน้าของน้อยโหน่งสวยสว่างสดใสดีแล้วการทำงานจึงเริ่มต้นขึ้น
น้อยโหน่งเล่าประสบการณ์ที่เธอในก้าวข้ามความรุนแรงที่เคยเกิดขึ้นกับเธอให้ทีมงานได้ฟังความที่เจ้าตัวได้ผ่านการซักซ้อมมากับทีฆายุบ้างแล้ว ทำให้น้อยโหน่งเล่าเรื่องราวได้อย่างเป็นธรรมชาติหน้าตาบ่งบอกถึงความสุข ดวงตาเป็นประกาย
วศินและพาทียืนมองการทำงานไปด้วยใบหน้าที่มีความสุขวศินกล่าวชื่นชมความเป็นธรรมชาติของน้อยโหน่งจนพาทีอดรู้สึกภูมิใจในตัวพนักงานของเขาไม่ได้
ระหว่างที่การสัมภาษณ์น้อยโหน่งกำลังดำเนินไปจีจี้ก็เดินเข้ามาหาพาทีเพื่อพาตัวเขาไปแต่งหน้า-ทำผม เตรียมพร้อมสำหรับคิวถัดไป
พาทีพาจีจี้ออกจากตัวอาคารโฮมออฟฟิศเดินมาที่บริเวณสนามหญ้าที่ถูกตกแต่งอย่างร่มรื่นด้วยไม้ดอกและไม้ใบนานาพรรณซึ่งก่อนหน้านี้บูรณ์และพายัพได้แจ้งไว้ก่อนแล้วว่าจะใช้ตรงนี้เป็นมุมหลักสำหรับการสัมภาษณ์พาทีเพราะมันจะช่วยเพิ่มความสดชื่นและสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรกับคนอ่าน
จีจี้ลงรองพื้นให้พาทีบาง ๆเพื่อให้เข้ากับฉากหลังที่เน้นความเป็นธรรมชาติตอนที่จีจี้ใช้พัฟเกลี่ยไปที่ใบหน้าเขา พาทีก็หลับตาลงเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคนทำงานมันจึงเป็นโอกาสที่จีจี้จะได้ลอบมองใบหน้าของพาทีอย่างพินิจพิเคราะห์หล่อนรู้สึกว่านี่ช่างเป็นใบหน้าของผู้ชายที่สมบูรณ์แบบจริง ๆ
พอลงรองพื้นที่หน้าเสร็จจีจี้ก็ใช้พัฟเกลี่ยมาที่บริเวณคอของชายหนุ่ม เพื่อที่สีผิวบริเวณหน้ากับคอจะไม่โดดออกจากกันจีจี้พยายามใช้โอกาสที่มือเลื่อนมาที่คอ ค่อย ๆเอาทัฟซอกซอนเข้าไปยังผิวภายใต้ร่มผ้าเผื่อจะได้สัมผัสร่างในส่วนนั้นของพาที แต่ดูเหมือนว่าความฟิตของเสื้อจะทำให้การฉวยโอกาสของจีจี้กระทำได้ยากขึ้นตอนนั้นเองที่พาทีเอ่ยถามจีจี้ขึ้นมาว่า
“ต้องรองพื้นเข้าไปในเสื้อด้วยเหรอครับ”
พอเหมือนจะถูกจับได้จีจี้ได้แต่หัวเราะกลบเกลื่อนเบา ๆแล้วบอกว่าเสร็จพอดีก่อนที่เจ้าตัวจะผละจากร่างของพาทีลุกไปหยิบอุปกรณ์แต่งผมมาจากกระเป๋าคู่กาย
“เดี๋ยวแต่งผมต่ออีกสักหน่อยนะคะคุณพาที”
แล้วเจ้าตัวก็บรรจงจัดการจัดแต่งทรงผมให้หนุ่มใหญ่ทันทีระหว่างนั้นพาทีหยิบมือถือของตนขึ้นมากดเช็คดูข้อความที่มีเข้ามาส่วนใหญ่เป็นการส่งข้อความเรื่องงาน พาทีเลื่อนข้อความลงมาเรื่อย ๆ ก็เห็นว่ามีข้อความใหม่จากภรรยาส่งมาเขาไม่รอช้ารีบกดเข้าไปดูมันทันที
‘เสือน้อยของพ่อเริ่มซ้อมจริงจังแล้วนะคะ’
พาทีคลิกดูรูปที่ภรรยาส่งมาเป็นรูปของลูกชายที่สวมชุดแข่งกีฬาฟุตบอลที่มีทั้งรูปที่แอคท่าถ่ายเดี่ยวถ่ายหมู่กับเพื่อน ๆ ร่วมทีมมหาวิทยาลัย และอิริยาบถขณะกำลังซักซ้อมพาทีมองรูปไปยิ้มไปสีหน้ามีความสุข เขาส่งข้อความตอบกลับภรรยาไปทุกการกระทำนั้นอยู่ในสายตาของจีจี้ที่เหลือบมองเห็นทุกอย่างจากมุมด้านบนเหนือศีรษะของพาที
หนุ่มใหญ่เลื่อนดูไลน์ของเขาต่อไปเรื่อย ๆและคลิกเข้าไปตอบบางข้อความไปด้วย แล้วอยู่ ๆพาทีก็สะดุดกับไลน์อันหนึ่งเข้าเพราะมันใช้รูปของลูกชายเขาสมัยเรียนมัธยมเป็นรูปโปรไฟล์แล้วใช้ชื่อประจำตัวว่า ‘เสือน้อย’
‘เจ้าท็อปใช้ไลน์ใหม่เหรอ’ พาทีคิดสงสัยอยู่ในใจก่อนจะคลิกเข้าไปดูข้อความ
หนุ่มใหญ่กดรับเพื่อนเขาเห็นสิ่งที่เจ้าของไลน์นั้นส่งมา คือคลิป ๆ หนึ่ง ที่หน้าปกคลิปเป็นสีดำสนิทมันถูกส่งมาเป็นคลิปโดยไม่มีข้อความเกริ่นนำที่บอกให้รู้เลยว่านี่เป็นคลิปอะไรแต่พอมันถูกส่งมาจากไลน์ที่ใช้รูปกับชื่อของลูกชายเขาพาทีจึงคิดไปเองว่านี่อาจจะเป็นคลิปการซ้อมฟุตบอลของเจ้าตัวเพราะเชื่อมโยงไปถึงข้อความที่ภรรยาคนสวยของเขาส่งมาให้ก่อนหน้านี้ พาทีจึงไม่ลังเลที่จะคลิกที่คลิปนั้นดู
คลิปเปิดด้วยภาพวงกว้าง ระยะไกล เห็นคนในคลิปจำนวน 5คน อยู่ในห้อง ๆ หนึ่ง ชายหนึ่งคนยืนอยู่ตรงกลางกลุ่ม ร่างกายของเขาเกือบเปลือยสวมใส่แต่กางเกงชั้นในแค่เพียงตัวเดียวเท่านั้น แต่ที่สะดุดสายตาคือท่อนลำของชายคนนั้นแม้เห็นจากระยะไกลแต่ก็เห็นชัดว่ามันแข็งตัวเต็มที่มันอยู่ในท่าตั้งฉากขนานกับพื้นห้องพร้อมจะพุ่งทะลุกางเกงชั้นในออกมารายล้อมรอบตัวเขานั้น มีชายสองคนนั่งอยู่บนโซฟาชายอีกคนกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ไม่ห่างจากช่วงกลางลำตัวของชายที่ยืนเกือบเปลือยสายตาเหมือนจะตื่นตกใจกับการเห็นอาวุธประจำกายของร่างชายเกือบเปลือยและสุดท้ายชายอีกคนยืนทำอะไรสักอย่างอยู่กับใต้วงแขนของชายเกือบเปลือย
พาทีรู้สึกตกใจกับสิ่งที่ได้เห็น
แค่แวบเดียวที่มันปรากฏต่อสายตาเขาก็รู้ได้ทันทีว่านี่คือคลิปอะไรเขาไม่รอให้คลิปเล่นจนจบก็กดปิดมันทันทีแต่แม้จะปิดเร็วขนาดไหนก็ไม่อาจหลุดรอดจากสายตาของจีจี้ที่มองดูอยู่ตลอดเวลาไปได้หล่อนเอ่ยถามขึ้นมาทันทีด้วยความอยากรู้
“คลิปโป๊เหรอคะคุณพาที ใครส่งมาให้คะ”
พาทีรู้สึกตกใจไปอีกที่คลิปนั้นถูกเห็นโดยคนที่อยู่ข้างหลังเขาเขารู้สึกว่าตัวเองไม่สะเพร่าถึงเพียงนี้ แต่ขณะเดียวกันอีกใจหนึ่งพาทีก็ยังมั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะเห็นชัดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคลิปนั้นคืออะไรและไม่น่าดูออกว่าเขาคือคนที่เป็นดาวโป๊อยู่ในคลิปนั้น พาทีจึงทำใจดีสู้เสือตอบติดตลกกลับไปว่า
“ใช่ครับ พวกเพื่อนผมนี่บางทีก็ชอบแกล้งส่งคลิปอะไรแบบนี้มาให้บางทีไม่ทันระวังผมก็เผลอเปิดในที่ที่มีคนเยอะ ๆ แล้วไม่ได้ปิดเสียงเอาไว้ก็เล่นทำเอาเขินได้เหมือนกันครับ ว่าแต่คุณจีจี้ดูออกด้วยเหรอครับว่าเป็นคลิปอะไร”
แม้ไม่แน่ใจแต่พาทีก็ลองหยั่งเชิงถามอีกฝ่ายออกไป
“เห็นแวบ ๆ ค่ะแต่ก็ทันเห็นผู้ชายที่อยู่ตรงกลางเหมือนจะแก้ผ้าเลยอยู่เลยคิดว่าน่าจะเป็นคลิปโป๊”
“เหรอครับ” พาทีตอบไปส่ง ๆ พยายามไม่ต่อความยาวเพื่อให้สถานการณ์ที่น่าอิหลักอิเหลื่อนี้จบๆ ไปเสียที แต่ดูเหมือนคนที่อยู่ข้างหลังจะยังไม่ยอมจบง่าย ๆ
“แต่ทำไมเพื่อนคุณพาทีส่งคลิปผู้ชายเปลือยมาให้คุณพาทีละคะถ้าจีจี้ดูไม่ผิดในคลิปนั้นก็น่าจะมีแต่ผู้ชายทั้งหมด”
“คุณจีจี้คงตาฝาดไปเองผมเปิดคลิปมาไม่เห็นผู้ชายเปลือยเลยนะครับ”พาทีทำเสียงเข้มให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาเริ่มรู้สึกไม่พอใจที่โดนเซ้าซี้ถามในเรื่องนี้
“เหรอคะ”จีจี้ทำเสียงคลางแคลงใจแต่ก็ไม่กล้าที่จะถามต่อแม้จะรู้สึกคาใจอยู่ไม่น้อยเพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้ตาฝาดแน่ๆ แต่ตอนนั้นเองทีมงานที่เหลือเดินออกมาสมทบด้วยพอดีจีจี้จึงละความสนใจต่อเรื่องนี้ไป
บูรณ์พอเห็นจีจี้บรรจงจัดแต่งทรงผมให้พาทีอยู่ก็เอ่ยถามว่า“เสริมหล่อให้คุณพาทีใกล้เสร็จหรือยังครับพี่จี้”
“เสร็จก็ได้จ้ะ”จีจี้เดินมาด้านหน้าของพาทีเช็คความเรียบร้อยในภาพรวมอีกครั้ง พอรู้สึกพอใจแล้วเจ้าหล่อนก็ผละจากพาทีไปบูรณ์จึงเดินเข้าไปหาหนุ่มใหญ่เพื่อบรีฟงานต่อ อย่างแรกคือเขาให้พาทีถ่ายรูปคู่กับน้อยโหน่งเพื่อใช้ประกอบคอลัมน์ตอนที่ถ่ายภาพคู่ถ้าใครสังเกตดี ๆ จะเห็นริ้วรอยความกังวลใจบางอย่างฉายออกมาผ่านแววตาของพาทีเนื่องจากตอนนี้ในห้วงคิดของเขามีแต่คำถามที่เกิดจากคลิปที่ถูกส่งมา
คลิปนั้นมาจากไหน
ใครที่ส่งมันมา
แล้วทำไมมันถูกส่งมาในชื่อของลูกชายเขา
คำถามมากมายถาโถมเข้ามาในห้วงคิดของพาที
เมื่อถ่ายภาพเสร็จ ทีมงานขอเวลาจัดเตรียมสถานที่เพื่อใช้ในการสัมภาษณ์ต่อพาทีจึงอาศัยจังหวะนั้นขอตัวไปทำธุระส่วนตัวสักครู่
หนุ่มใหญ่เดินเข้าไปในห้องทำงานของเขาพอเข้าไปอยู่เพียงลำพังเขาก็เดินวนไปวนมาพลางใช้ความคิดเขาหยิบมือถือกดเข้าไลน์ที่เพื่อดูคลิปนั้นให้แน่ใจอีกครั้ง
ภาพที่ปรากฏเป็นภาพเดิม
เขาไม่ได้ตาฝาดหรือคิดไปเอง
หนุ่มใหญ่ถอนหายใจแรงเพื่อระบายความเครียดไม่รู้อะไรดลใจให้เขาส่งข้อความตอบกลับไป
‘ต้องการอะไร’
เพียงแค่ไม่กี่วินาที ข้อความของเขาก็ถูกอ่านใจของพาทีเต้นแรง เขากำลังรอคำตอบจากอีกฝ่าย เพียงไม่นานข้อความจากอีกฝั่งก็ถูกส่งกลับมา
“เห็นตัวเองเป็นพระเอกคลิปโป๊แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างครับคุณพ่อ”
พาทีหน้าแดงด้วยความรู้สึกทั้งโกรธทั้งอาย
“มึงเป็นใคร”
“จำเสือน้อยไม่ได้เหรอครับคุณพ่อ”
“กูไม่ตลกกับมึงด้วยนะ มึงต้องการอะไร”
อารมณ์โกรธของพาทีพุ่งไปถึงขีดสุดทั้งเรื่องคลิปที่เห็น ทั้งเรื่องที่ลูกชายเขาถูกนำมาแอบอ้าง
“พูดไม่เพราะเลยครับคุณพ่อไม่กลัวเสือน้อยจำเอาไปใช้หรือครับ”
“ต้องการอะไร” พาทีไม่ตอบคำถามแต่ถามคำถามเดิมย้ำไปอีกครั้ง
“อยากให้คุณพ่อได้เห็นคลิปนี้ก่อนที่มันจะถูกเผยแพร่ออกไปครับ”
พาทีหัวใจเกือบหยุดเต้นตอนที่ได้อ่านข้อความนั้น
“พร้อมรับมือกับสิ่งที่จะตามมาหรือยังครับ”
ข้อความส่งตามมาต่อเมื่อเห็นว่าไม่มีข้อความตอบกลับจากฝั่งพาทีทั้งที่ขึ้นว่าข้อความถูกอ่านแล้ว
“ทำแบบนี้ทำไม ต้องการอะไรจากกู”
แม้จะขึ้นว่าข้อความนั้นถูกอ่านแล้วแต่ไม่มีข้อความตอบกลับมาจากอีกฝ่าย พาทีก็ยิ่งกระวนกระวายใจ เขาเดินไปเดินมาอยู่แค่นั้นเหมือนเสือติดจั่นเวลาไม่กี่วินาทีแต่เหมือนเขารอคำตอบนั้นนานเป็นชาติ แต่ในที่สุดข้อความจากอีกฝ่ายก็ถูกส่งกลับมา
‘อยากเห็นมึงใส่ชุดนี้ลงหนังสือ Gent’
ภาพที่ถูกส่งตามมาคือภาพพาทีในชุดเดรสสั้นที่เขาใส่ร่วมงานปาร์ตี้เดย์
‘กูเตรียมชุดนั้นไว้ให้มึงแล้วมันอยู่ในลิ้นชักโต๊ะทำงานของมึง แต่งให้สวย ๆโพสต์ท่าให้เจ๋งที่สุดเท่าที่มึงจะทำได้เลยนะ แล้วขอไฟล์รูปมาให้หมด ส่งมาให้กูดูแล้วกูจะเลือกรูปให้มึงเอาไปลงหนังสือเอง”
แล้วการแชตก็จบลงแค่ตรงนั้น
พาทีเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานเปิดดูลิ้นชักก็พบชุดเดรสตัวนั้นถูกพับวางเอาไว้อย่างเรียบร้อย และบนชุดเดรสนั้นมีชุดชั้นในซีทรูสองชิ้นวางไว้ด้านบนด้วยพาทีจำได้ว่าเขาโยนพวกมันมันใส่ถังขยะไปแล้วแต่ตอนนี้มันกลับมาอยู่ตรงนี้ในสภาพที่ถูกซักและรีดอย่างดี
---------------------------------
|