ในวันอากาศดี จอมนั่งอ่านหนังสือนิยายในห้องของตัวเองอย่างมีความสุข นี่อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะได้ทำอะไรตามอำเภอใจเช่นนี้ เพราะเพียงอาทิตย์เดียวมหาวิทยาลัยของเขาก็จะเปิดแล้ว ถ้าหากชีวิตนักศึกษาปีหนึ่งได้เริ่มต้นขึ้น เขาก็อาจจะไม่มีเวลาว่างทำอะไรตามอำเภอใจอีกก็เป็นได้ ในขณะนั้นเองที่เสียงรถเทียบจอด ตามด้วยเสียงอึกกระทึกครึกโครมได้ดังขึ้น ด้วยความสงสัยจอมจึงเดินไปที่หน้าต่าง ก่อนจะพบว่าบัดนี้บ้านข้างๆที่ปล่อยร้างมานานกำลังมีคนย้ายเข้ามาอยู่ เป็นครอบครัวที่มีพ่อแม่ และลูกอีกสองคน สิ่งที่เตะตาจอมเลยดูเหมือนจะเป็นพี่ชายคนโตที่ดูแล้วน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ชายหนุ่มผู้นั้นค่อนข้างสูงหน้าตานั้นมีทั้งความหล่อเหลาและดูน่ารักในเวลาเดียวกัน ผิวนั้นเรียนใสราวกับลูกคุณหนู ในชุดเสื้อกล้ามนั้น จอมอดไม่ได้ที่จะแอบมองกล้ามอันเป็นมัดๆของเขา ทันใดนั้นเอง ที่ชายผู้นั้นรู้สึกเหมือนถูกจ้องอยู่ก่อนจะชายตามองขึ้นมาตรงจุดที่จอมอยู่ เห็นดังนั้นจอมรีบหลบหลังผ้าม่านทันทีก่อนจะกลับไปอ่านหนังสือต่อ ในบ่ายวันนั้นแม่ของจอมตะโกนเรียกจอมจากด้านล่าง ได้ยินดังนั้นจอมจึงรีบลุกและวิ่งลงไปทันที ไม่นึกไม่ฝันว่าข้างบ้านนั้นจะมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านเขาทั้งครอบครัว ได้ความคร่าวๆว่าครอบครัวนี้เพิ่งย้ายมาจากกรุงเทพ มีความจำเป็นที่บุคคลผู้เป็นบิดาต้องมาทำงานที่เชียงใหม่ ดังนั้นจึงตัดสินใจย้ายกันมาทั้งครอบครัว ประกอบกับที่ลูกชายคนโของเขาที่ชื่อ ดิน สอบเข้ามหาลัยที่นี่ได้พอดี และที่สำคัญ ยังเป็นมหาลัยเดียวกันกับจอมอีกด้วย! จอมมองหน้าของเขาด้วยหัวใจที่เต้นตุบตับ จมูกโด่งและรีมฝีปากบางนั้นช่างดูน่าหลงไหล รูปร่างสูงโปร่ง แต่ในขณะเดียวกันก็แฝงความสุภาพเอาไว้ มีความเป็นลูกคุณหนูตามสไตล์เด็กกรุงเทพ จากที่ดูแล้วน่าจะเรียนเก่งไม่เบา แต่นั่นก็เป็นเพียงสิ่งที่จอมจินตนาการไปเอง พ่อแม่ของดินฝากฝังให้จอมซึ่งเป็นเจ้าถิ่นนั้นดูแลดินด้วย ทั้งสองจึงมีโอกาสได้แลกไลน์กันแบบงงๆแม้ทั้งสแงจะยังไม่ได้พูดคุยอะไรกันมาก ตึ๊ง ตึง เสียงไลน์เด้งขึ้น ทำให้จอมที่กำลังอ่านหนังสืออยู่ถึงกันฉงนว่าใครทักมาตอนนี้ [ดีครับ เมื่อเห็นว่าข้อความนั้นเป็นใคร จอมจึงรีบตอบกลับ [สวัสดีครับ [ยังไม่นอนอีกเหรอ [ยังครับ ว่าไง [ป่าว ตอนบ่ายไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดคุยอะไรกันมาก เลยอยากถือโอกาสนี้ฝากเนื้อฝากตัวไว้ เป็นครั้งแรกที่ผมมาอยู่เชียงใหม่แบบจริงจัง ยังไงช่วยดูแลด้วยค๊าบบ [55555 ดูแลอะไร ที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับ ถ้าคุณอยู่ที่กรุงเทพได้ ที่นี่ก็อยู่ได้สบาย [ไม่รู้ดิ555 ผมคงจะประหม่ามั้ง ยิ่งอีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้วด้วย [อ่า....ถ้าเรื่องนั้นผมก็ประหม่าเหมือนกัน ไม่ต่างกันหรอก [งั้น....ถ้าเปิดทอมแล้ว เราเป็นเพื่อนกันนะ ผมเองก็ไม่รู้จักใคร [เป็นเพื่อนกันตอนเปิดเทอม.....แสดงว่าตอนนี้ยังเป็นไม่ได้ 555 [ม่ายช่ายยยย [ล้อเล่นๆครับ จอมผู้เก็บตัวและรักสันโดษมาตลอด นึกไม่ถึงว่าตัวเองจะสามารถมีบทสนทนากับคนแปลกหน้าที่เพิ่งรู้จักกันเพียงวันเดียวแบบนี้ แต่การได้คุยกับดินนั้น เขากับรู้สึกว่าทุกอย่างมันช่างง่ายดายโดยที่ไม่รู้สึกว่าต้องพยายามอะไรเลย ทั้งสองพิมตอบโต้กันไปจนถึงเวลากว่าเที่ยงคืน ซึ่งปกติจอมไม่เคยนอนดึกแบบนี้มาก่อน [พรุ่งนี้จอมว่างไหม [จะชวนไปไหน [ไม่ไปไหนไกลหรอก อยากไปเดินเล่นแถวหมู่บ้าน เห็นว่ามีสวนสาธารณะด้วย ปกติสมัยอยู่กรุงเทพผมวิ่งเป็นประจำทุกเย็น คนที่ไม่เคยออกำลังกายเท่าใดนักอย่างจอม ไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไรดี ถ้าหากเขาบอกว่าตัวเขาเองไม่ค่อยออกกำลังกายเลย มันจะดูไม่โอเครึป่าว [เอาดิๆ อยากวิ่งเหมือนกัน ความสัมพันธ์ของเพื่อนบ้านอย่างจอมและดินนั้นถือว่าเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว เพราะวันถัดมาทั้งสองก็ได้ออกมาวิ่งด้วยกันรอบหมู่บ้าน หลังจากนั้นเป็นเวลาหลายวัน จอมก็ได้พาดินไปเที่ยวทั่วเมืองเชียงใหม่ ทั้งสองคนเข้ากันได้เป็นอย่างดี และการวิ่งตอนเย็นก็ดูเหมือนจะเป็นกิจกรรมโปรดทของทั้งสองไปแลด้ว อย่างตอนนี้ก็เช่นกัน ดินและจอมทั้งวิ่งและพูดคุยจิปปาถะไปเรื่อย จนจอมได้รับรู้ว่าดินนั้นเป็นนักกีฬาของโรงเรียนเก่า และยังเป็นคนที่เรียนเก่งด้วย ถึงแม้ว่าดินจะพยายามถ่อมตัวโดยการปฏิเสธถึงข้อหลังว่าไม่เป็นความจริงก็เถอะ “ดิน อยากใช้ชีวิตมหาลัยอย่างเต็มที่ เพราะสมัยเรียนมัธยมนะ ดินเอาแต่เรียนและก็แข่งกีฬา จนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย” ไม่รู้ทำไมใจของจอมนั้นอยากถามดินว่า แบบนี้ก็ไม่ค่อยมีเวลาให้แฟนสิ แต่เขากับเลือกที่จะเก็บมันไว้ไม่ยอมพูดออกไป แต่ดูเหมือนสวรรค์จะรู้ใจ เมื่ออยู่ดีๆดินก็พูดขึ้นมาเอง “เมื่อก่อนดินยุ่งมาก เอาจริงนะ คนไม่ค่อยเชื่อ แต่ดินไม่เคยมีแฟนเลย เพราะแทบจะไม่มีเวลา” “อ่า....” ถึงแม้จะตกใจกับประโยคบอกเล่านั้นอยู่บ้าง แต่จอมก็เลือกที่จะถามออกตามความอยากรู้ของตัวเอง “จริงอะ ไม่เชื่อ แล้วคนคุยละ” “อืม...” ดินพยายามคุ่นคริด “เคยมีแค่คนเดียว แต่ก็ตั้งแต่ม.3 แล้ว แถมยังคุยกันได้อค่ไม่ถึง 4 เดือนเอง” ดินว่า “แล้วจอมละ” แต่ในขณะนั้นเองที่ดินหันไปเห็น รถจักรยานคันหนึ่งที่กำลังพุ่งเข้ามาหาทั้งสอง เพราะคนขับมัวแต่กดโทรศัพท์ เห็นดังนั้นดินรีบดึงจอมเข้ามาไว้ในอ้อมกอดเพื่อหลบทันที จอมเห็นดังนั้นก็ตกใจ คนขับจักรยานเมื่อเห็นจึงรีบเหวี่ยงรถหลบก่อนจะขอโทษขอโพยพร้อมกับขับจากไป “เจ็กมากไหม” ดินถาม ในขณะที่กำลังโอบกอดร่างของจอมอยู่ “ไม่...” คนตัวเล็กกว่าถึงกับหน้าแดง “ไม่เจ็บก็ดีแล้ว” ดินพูดด้วยเสียงเบาที่แหบพร่า เพราะตอนนี้หัวใจของเขาก็กำลังเต้นตุบๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเช่นกัน ทั้งสองต่างอยู่ในท่านั้นสักพัก เมื่อ่ได้สติทั้งคู่รีบผละออกจากกันทันที “อ...เอ่อ....กลับไหม นี่ก็ดึกแล้ว” จอมว่าด้วยความเคอะเขิน “อื้อครับ เอาสิ” ดินที่กำลังชำระล้างคราบเหงื่อวันนี้ ได้แต่ยืนนิ่งภายใต้ฝักบัวสมองของเขานั้นนึกถึงแต่จอม สมัยที่เขาอยู่กรุงเทพมีคนเข้าหาเขามากมาย แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาหัวใจสั่นไหวได้เช่นนี้ เพราะตัวเขาเองนั้นสนใจแต่การเรียนและกีฬา จนแทบไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ แต่กับจอมนั้น ในตอนแรกนั้น ดินไม่ได้คิดอะไรกับจอมเกินเลยไปกว่าเพื่อนข้างบ้าน ทว่าเขารู้สึกว่าเป็นเวลาเพียงห้าวันที่เขามีความสุขมากแบบที่เขาไม่เคยได้จากเพื่อนคนไหนมาก่อน และวันนี้เขารู้สึกว่ามันมีบางอย่างเปลี่ยนไปในความรู้สึกของเขา ดินนึกถึงสัมผัสของจอมและกลิ่นสบู่อ่อนๆที่โชยมาจากคนตัวเล็กกว่า เอวบางที่เขาได้สัมผัสมันวันนี้ เขาสูดหายใจด้วยความละอายพร้อมกับก้มหน้ามองท่อนเอ็นระหว่างขาของตัวเองที่กำลังแข็งได้ที่ อันที่จริงมันเริ่มมีอาการตั้งแต่ตอนที่เขาได้โอบกอดกับจอมวันนี้ เขาต้องพยายามปิดมันไม่ให้จอมรู้จนมาถึงที่บ้าน พร้อมกับรีบวิ่งเข้าห้องน้ำเพื่อชำระความรู้สึกนี้ เพื่อขจัดความงุ่นง่าน ดินใช้มือโอบรอบสิ่งนั้นพร้อมกับรูดมันชักเข้าออกอย่างมันมือ นานเท่าไหร่แล้วที่เขาไม่ได้ทำแบบนี้ เพราะปกติเขาไม่ได้เป็นคนบ้าเซ็กหรือคิดแต่เรื่องแบบนี้เท่าใดนัก แต่ทว่าวันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป เขารูดขึ้นรูดลงอย่างรุนแรงพร้อมกับซูดปาก หน้าหล่อๆของดินที่สาวๆต่างพากันกรี๊ดนั้นเหยเก แม้จะเปิดฝักบัวไว้แต่เสียงดังแต๊บๆของเนื้อที่กระทบเนื้อนั้นก็ได้ยินชัด ไข่แฝดของเขาสะบัดไปมา “อ๊า จอมครับ ดินเงี่ยนควย ซี๊ดดดดดด ดินอยากจับจอมเย็ด ซี๊ดดดด อยากฉีดน้ำควยเข้าไปในตัวจอม อ๊าๆๆๆ น้ำเงี่ยนดินมาแล้ว อ๊าๆๆๆๆ” ของเหลวจำนวนมากพุ่งกระฉูดออกมาจากอย่างไม่หยุดไม่หย่อน เกิดจากการที่เขาไม่ได้ปลดปล่อยมันมานาน ดินบีบเค้นท่อนเอ็นของเขาจนน้ำหยดสุดท้ายไหลออกมา ถ้าหากจอมรู้ว่าเขาคิดไม่ซื่อ จอมจะโกรธเขาไหมนะ ดินได้แต่มองน้ำกามจำนวนมากที่ไหลลงท่อไปอย่างช้าๆ พร้อมกับความคิดมากมายที่เขามาในหัว
โปรดตามตอนต่อไป เรื่องนี้ไม่ใช่นิยายรักใสๆนะครับ เตือนไว้ก่อน
ถ้าชอบอะไรยังไง ฝากคอมเม้นให้กำลังใจกันด้วยนะครับ
|