“พี่ได้ยินมาว่า เราตามติดเต้ยกับเจ้าต้าอยู่เหรอเจ้าเต้ยมันชอบผู้ชาย คนนี้พี่ไม่ห่วงหรอกมันโตแล้วแต่เจ้าต้ามันยังเด็กอย่าทำอะไรจนเกินเลยไปล่ะ” สักพูดสำทับขึ้น “เฮ้ยพี่ว่าบางทีเด็กมันอาจจะชอบมาทางนี้ก็ได้นี่หว่าพ่อลูกผูกพัน กูจะได้ผูกพันด้วย อีกอย่างถ้าวันไหนมึงเหงาๆ เมียไม่อยู่ ปลอดโปร่งก็จะได้สนุกสนานทั้งวันเลยไง” ดำพูดขึ้นอย่างคะนองปาก “แต่ผมยังไม่ได้อะไรกับน้องมันนะ เห็นอยู่ติดแจกับน้าเต้ยมันคุยไปก็สนุกดี มองไปมองมาก็น่ารักแค่นั้น อีกอย่างผมแนวเสือไบ หญิงได้ชายก็ดีเหมือนพวกพี่ เลยคุยๆ ดูเพราะเหมือนน้องมันจะชอบๆ ผู้ชาย”กิตพูดอย่างวิเคราะห์อาการของต้า “พี่ว่าก่อนจะไปถึงลูกจัดพ่อรับร่านของมันก่อนดีกว่า สนุกๆ กัน” ดำพูดขึ้นก่อนที่ทั้งหมดจะลุกขึ้นสาวว่าวให้ควยแข็งแล้วไปนั่งบนแคร่ที่มีฟูกนอนปูไว้แล้วสักก็นั่งยองๆจับควยของกิตจ่อรูแล้วนั่งเทียนโยกขึ้นลงจนกิตร้องเสียวจนเสียงหลง ก่อนมาที่ลุงดำแล้วไปที่กรจากนั้นสักก็ล้มตัวลงไปนอนบนตัวกรก่อนจะโดนกระแทกสวนควยเข้ามาจนสักร้องครางเสียงดังแข่งกับเสียงภายในงานด้านดำก็ล้มตัวลงนอนโดยที่กิตจ่อควยเข้ารูของตัวเองก่อนโยกขึ้นลงเบาจนเริ่มผ่อนคลายและรู้สึกเสียวในเวลาต่อมาก่อนที่ดำจะคว้าตัวกิตเข้ามากอดแล้วกระทุ้งควยเข้าออกอย่างแรงจนกิตกับสักแข่งกันร้องครางเสียงหลงจากนั้นทั้งคู่ก็ผลักคู่ของตนนอนหงายก่อนเสียบควยกระทุ้งจนได้ยินเสียงเนื้อกระทบกันพร้อมเสียงครางกระเซ่า เพล้ง!เสียงขวดเหล้าแก้วเหล้าจานชามบนโต๊ะ ตกลงมาเกลื่อนกราด “นา! ดา! เต้ย! ต้า!” เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ “ต้าไปเอาลูกชิ้นกับไส้กรอกในตู้เย็นบ้านป้ามาเพิ่มเลยนะวันนี้คนเยอะน่าดูเดี๋ยวจะไม่พอขาย” ป้านาบอกต้าไปเอาของขายที่บ้านโดยให้เต้ยช่วยขายของที่ร้าน ต้าเดินลัดเลาะโดยใช้แสงสว่างจากแสงจันทร์และแสงไฟภายในงาน ทำให้เห็นทางเดินจนถึงตัวบ้านอีกทั้งเสียงภายในงานที่ดังจนไม่ทำให้รู้สึกกลัวเขาขึ้นไปบนบ้านเอาของแต่กลับไม่เห็นใครอยู่บนบ้าน คิดว่าคงนั่งดื่มเหล้ากันที่โรงสีเลยเดินไปที่โรงสีก่อนจะค่อยๆ แนบสายตาไปดูตามช่องโหว่ ภาพที่เห็นคือลุงดำ พ่อสักพี่กร พี่กิต ที่อยู่ในสภาพเปลือยเปล่านั่งดื่มเหล้ากัน ก่อนได้ยินประโยคสนทนาเรื่องเขากับน้าเต้ยเขาจึงเอาโทรศัพท์ที่น้าเต้ยให้เค้าติดตัวมากดบันทึกวิดีโอผ่านช่องโดยที่ไม่มีใครสงสัยเพราะทุกคืนจะมีแสงวิบวับจากงานที่ครอบคลุมพื้นที่ใกล้เคียงตั้งแต่หัวค่ำก่อนที่เขาจะผละออกไปด้วยสติที่ล่องลอยจนถึงร้าน ต้าร้องไห้จนตาแดงแม่ที่สังเกตเห็นลูกก็รีบเข้าไปกอดก่อนถามอย่างร้อนรนต้าดึงมือถือออกจากกระเป๋ายื่นให้น้าเต้ยบอกเปิดไปที่วิดีโอ ภาพที่เห็นทำเอาผู้ใหญ่ทั้งสามคนตกใจก่อนป้านาที่ดูเหมือนจะได้สติรีบมองไปรอบร้านเมื่อเห็นว่าไม่มีลูกค้าก็บอกทุกคนให้ช่วยกันเอาผ้าคลุมร้านป้านากับแม่เดินกุมมือกันไปด้วยหัวใจที่เต้นสั่นระรัวส่วนเต้ยคอยโอบไหล่หลานชายที่ยังเหม่อลอยเหมือนไม่มีสติไปยังโรงสีก่อนที่ป้าจะใช้กุญแจเปิดคลายล็อคแล้วเดินไปเห็นภาพบาดตาจนยกโต๊ะเหล้าคว่ำกระจัดกระจายจนสี่หนุ่มตกใจรีบหาเสื้อผ้าของตนขึ้นมาสวมใส่ กลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน “ชั้นรู้สึกผิดหวังจริงๆ ที่เลือกพี่ ทำไมถึงทำกันได้ขนาดนี้” ป้านาพูดเสียงขาดๆ หายๆ อย่างระงับความโกรธความเสียใจพร้อมน้ำตานองหน้า ส่วนแม่ของต้ามองผัวตัวเองพี่ชายของตัวเองจนรู้สึกจุกในใจ “ชั้นจะพาลูกไปอยู่ที่บ้านแม่กับเต้ยแล้วต่อไปเราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว ขอให้ทุกคนใช้ชีวิตในทางที่ตัวเองเลือกแล้วกันนะต่อไปใครจะเป็นยังไงชั้นขอไม่รับรู้และชั้นจะไม่กลับมาที่นี่อีก” “ไม่นะดา พี่ขอโทษ ยกโทษให้พี่เถอะนะ”พ่อเข้ามาจับตัวแม่ก่อนที่จะถูกสะบัดออก ก่อนจะหันมาหาต้าที่รู้สึกกลัว “ต้าลูก..พ่อขอโทษ” “อย่ามาจับตัวผมนะ!” แล้วต้าก็ช็อคหมดสติไปจนต้องรีบพาต้าไปส่งที่โรงพยาบาล ที่โรงพยาบาล “คุณหมอลูกชั้นเป็นยังไงบ้างคะ” ก่อนหมอจะบอกว่าเด็กปลอดภัยแต่ต้องตรวจดูอาการตอนฟื้นตัวอีกที
“ถ้าต้าเป็นอะไรชั้นจะไม่ให้อภัยใครเลยซักคน” แม่ตวาดเสียงใส่ทั้งสี่หนุ่มอย่างเจ็บปวดส่วนพ่อทำได้เพียงก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด เป็นตัวเขาเองที่ทำลายทุกอย่างแค่เพียงลูกเขาตื่นขึ้น แล้วลูกไม่ต้องการเขาอีกต่อไป เขาพร้อมที่จะออกจากชีวิตลูกทันที
เต้ยกับแม่คอยอยู่นอนเฝ้าต้าส่วนป้านาไปเก็บของที่บ้านก่อนแล้วจะกลับมาดูอาการของหลานชาย จนสายๆของอีกวันต้าตื่นขึ้น คุณหมอรีบเข้ามาดูอาการ หลังจากซักถามต้าดูปกติแต่ตอนที่ลุงดำ ป้านา และพ่อของเขาเข้ามา ต้ากลับไม่มีความทรงจำใดๆ “แม่ น้าเต้ยลุงสองคนนั้นกับป้าคนนั้นเป็นใครเหรอครับ”เสียงที่ออกมาจากเด็กหนุ่มตัวน้อยทำให้พ่อของเขาใจสลายรวมถึงลุงกับป้าที่ทำหน้าเศร้า ก่อนป้านาจะปล่อยโฮด้วยความสงสารหลาน
คุณหมอแจ้งว่าเด็กอาจจะได้รับความกระทบการเทือนทางด้านจิตใจทำให้ปิดกั้นความทรงจำบางส่วนออกไปซึ่งต้องรอเวลาแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องอยู่ที่ตัวเด็กด้วยหลังจากนั้นแม่กับน้าเต้ยก็พาต้ากลับบ้าน ซึ่งตอนที่ต้านอนพักไปอีกรอบแม่ขอหย่ากับพ่อ “ให้ลูกจำอะไรแบบนั้นไม่ได้นั่นแหละดีแล้วส่วนเราก็หาวันไปหย่ากัน พี่จะทำอะไรยังไงก็แล้วแต่ชีวิตพี่นะ เรื่องลูกถือว่าชั้นขออย่าให้ลูกเจอพี่แต่พี่จะมาแอบดูหรือส่งเสียอะไรก็แล้วแต่เพราะต้าก็เป็นลูกพี่ส่วนเรื่องของเราคงกลับไปเหมือนเดิมไม่ได้แล้วนี่ถือว่าชั้นให้โอกาสพี่ที่สุดแล้วนะ ทุกอย่างพี่เป็นคนทำมันพังเอง” ส่วนลุงดำกับป้านาหย่าขาดกันแน่นอนเหลือแค่ความเป็นพ่อแม่ให้กับลูกเท่านั้น ก่อนทุกคนจะแยกย้ายไปตามทางของตัวเองด้วยบาดแผลภายในใจทุกคน ความจริงในใจของต้า หลังจากเหตุการณ์ที่ต้าเจอพ่อกับลุงดำมีอะไรกันเขารู้สึกช็อคกับเหตุการณ์ จิตใจของเขาก็เริ่มไม่เหมือนเดิมเพราะมันเต็มไปด้วยคำถามความไม่เข้าใจ ความสับสน ความรังเกียจ แต่อีกห้วงอารมณ์หนึ่งก็ตื่นเต้นตามวัยผสมปนเปกับความผิดหวังในตัวของคนทั้งคู่เพราะหลังจากวันนั้นทุกครั้งที่ต้ากลับบ้านต้าจะไม่ไปที่บริเวณโรงสีอีกหากไม่ได้เปิดประตูเพราะพ่อจะรอต้าเดินกลับบ้านด้วยกันเสมอแต่ที่พ่อไม่ได้สังเกตคือต้าไม่เคยให้พ่อถูกตัวหรือจับเนื้อตัวเขาอีกเลยจนพบกับน้าเต้ย คนที่ต้าอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย อย่างน้อยก็มีคนที่เขารู้สึกไว้ใจและเชื่อใจได้อยู่กับเขา
เวลาที่เขาเจอผู้ชายไม่ว่าจะเป็น กร กิตหรือคนเฝ้าเครื่องเล่น ไม่ใช่ทุกคนที่เป็นผู้ชาย ทุกครั้งที่เขาเผลอไปเห็นเป้าจังๆทั้งๆ ที่เขาไม่ได้พิศสวาทอะไรแต่สักพักหนึ่งสติเขาจะหลุดลอยไป แล้วภาพที่มันฝังอยู่ในหัวตอนที่ลุงดำกำลังมีอะไรกับพ่อของเขาก็จะฉายวนๆซ้ำๆ อยู่ในหัวเสมอ เขาไม่ได้หวั่นไหวกับผู้ชาย แต่ต้ายังจมอยู่กับฝันร้ายที่เจอต้าเก็บกดเก็บอารมณ์กับจิตใจของเขาเพื่อไม่ให้ใครต้องเป็นห่วงเขาจนสมองของต้าเริ่มไม่ปกติโดยไม่รู้ตัวคล้ายเป็นโรคซึมเศร้า และที่เขาให้น้าเต้ยใช้ปากให้แค่อยากรู้ว่าลุงดำรู้สึกอย่างไร ที่เขาทำให้น้าเต้ยแค่อยากรู้ว่าพ่อรู้สึกยังไงเพราะทุกครั้งหลังจากที่น้าเต้ยนอนหลับไปแล้ว ตัวของต้าเองก็ร้องไห้ออกมาอย่างสับสนและเจ็บปวดใจทุกครั้งยิ่งเมื่อนึกไปถึงแม่และตัวเขา แต่แล้วในเหตุการณ์ครั้งล่าสุดทุกคนก็ยังเหมือนเดิมซ้ำร้ายลุงกับพ่อของเขาอยากได้ตัวเขาไว้ระบายความใคร่ทุกอย่างจึงเกินกว่าจะเด็กอย่างเขาจะรับไหว
ปัจจุบันนี้ต้าอยู่กับแม่กับน้าเต้ยแล้วก็ยายที่บ้านสวนแม่ทำเรื่องย้ายโรงเรียนมาที่ใหม่ชีวิตของต้าเริ่มกลับมาเป็นปกติและมีความสุขอีกครั้งโดยไม่เคยถามหาพ่ออีกเลยส่วนกิตกับกรก็โทรมาขอขอโทษเต้ยและต้าในความผิดพลาดแต่ต้าไม่เคยรับรู้และไม่เคยเห็นคนพวกนี้อีกเลยเพราะเต้ยกับแม่ของเขาร้องขอ เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนกลับมามีสติและใช้ชีวิตอย่างมีบทเรียนในครั้งนี้เป็นเครื่องคอยย้ำเตือน จบแล้วนะครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้กำลังใจครับ
|