บทส่งท้าย....
15 ธันวาคม 2555
ผมกลับมาที่บ้านอีกครั้งคราวนี้สเตฟานเคลียร์งานทุกอย่างและมากับผมด้วยเราวางแผนจะอยู่ที่เชียงใหม่ตลอดหน้าหนาวพ่อกับแม่ผมรู้เรื่องผมกับสเตฟานตั้งนานแล้วเขาเป็นเพื่อนพี่มากสมัยแกเรียนที่อังกฤษ ติดสอยห้อยตามมาเที่ยวและเจอผมเข้าทีแรกพี่มากไม่รู้ว่าเพื่อนสนิทเป็นเกย์หรอก เพราะสเตฟานไม่ใช่เกย์แต่ได้ทั้งชายทั้งหญิงหรือเสือใบนั่นแหละ เขาบอกว่าชอบผมทันทีที่เจอกันบอกว่าผมคือรักแรกพบ และขอจีบ ผมก็ยังว่างและสเตฟานหล่อมากๆ ผมก็เลยไม่ขัดเราคบกันตั้งแต่นั้นถึงตอนนี้ก็ 4 ปีมาแล้วครับ เขาขอผมหมั้นเมื่อปีที่แล้วนี่เอง และวางแผนจะไปแต่งงานกันที่แมนเชสเตอร์บ้านเกิดเค้าในฤดูร้อนของอังกฤษ
หากอยากรู้ว่าสเตฟานเป็นยังไงเขาหล่อสไตล์ผู้ดีอังกฤษแท้ๆเลยครับ สูงโปร่ง ขาวซีดโกนหัวตลอดเวลาเพราะไม่ชอบสระผม จริงๆไม่ชอบอาบน้ำด้วย ทนตัวเหม็นได้เป็นอาทิตย์จนผมต้องพาอาบน้ำทุกวันจนเป็นนิสัยนั่นแหละ แต่ก็ยังไม่วายโกนหัวเพราะไม่ชอบสระผมความต่างของสเตฟานกับพีทคือ ต่างกันทุกอย่าง ทั้งหน้าตา นิสัยใจคอสเตฟานเป็นคนเปิดเผย พีทเป็นคนเงียบๆเก็บกด ไม่พอใจอะไรก็จะเงียบและเก็บมันไว้ในใจแต่สเตฟานเปล่า ถ้าเขาไม่ชอบใจอะไรก็จะบอกกันตรงๆ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้นะ ...แต่ผมก็ชอบพีทที่เป็นแบบนี้เหมือนกัน สเตฟานหน้าฝรั่ง พีทหน้าไทยเขาเหมือนพี่เวียร์พระเอกช่อง 7 มากๆ (ผมเลยชอบพี่เวียร์ที่สุดไงตอนที่แสดงเป็นคุณใหญ่ผมก็คิดว่าตัวเองเป็นนางเอกทุกที) ...
จากวันนั้นถึงวันนี้ ก็ครบรอบ 1 ปีพอดีกับการพบกันของพีทกับผมหลังจากที่เขาทะเลาะกับเมย์ในวันนั้นผมก็ไม่ไปหาเขาอีกเลย จนกระทั่งคู่หมั้นเขากลับกรุงเทพเขาก็มาหาที่บ้าน นั่นเองที่เขาได้พบกับสเตฟานคนรักของผม เขาไม่พูดอะไร ไม่ร้องไห้ไม่โวยวาย แค่เดินจากไปเงียบๆ แค่เดินจากไปเงียบๆ...สุดท้ายเขาก็เข้าพิธีแต่งงานกับลูกสาวนายธนาคารใหญ่ในกรุงเทพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เองผมไปร่วมงานด้วยในฐานะเพื่อนสนิทและไม่ลืมพาสเตฟานไปเปิดตัวออกสื่ออย่างเต็มที่เราทักทายกันพอเป็นพิธี เขาโอบเอวผมแน่นตอนถ่ายรูปกับบ่าวสาวรั้งมือไว้จนผมต้องแกะออก สายตาที่บ่งบอกไม่ได้ว่าเขารู้สึกยังไงทำให้ผมหมองใจแต่สุดท้ายก็ผ่านไปด้วยดี
ผมนั่งมองกล่องใบเก่าตรงหน้าพี่มากยกมาให้ผม มันเป็นจดหมายที่มาจากพีทตลอด 12 ปีที่ผ่านมาพ่อผมเป็นคนสั่งให้พี่มากเอาไปเผา แต่แกสงสารเลยเก็บไว้ให้ตลอด ผมโวยวายลั่นว่าทำไมเพิ่งเอามาให้ตอนนี้ แกก็บอกว่าอยากให้ผมก้าวไปข้างหน้าดีกว่าจมอยู่กับอดีต ผมโมโหแกไม่น้อย แต่ใจหนึ่งก็ขอบคุณทั้งพ่อและพี่มากเพราะการทำแบบนี้ทำให้ผมได้รู้จักและคบกับสเตฟาน...ผมเคยถามพ่อว่าทำไมถึงไม่ถูกกับบ้านโน้น พ่อเล่าว่ามันเริ่มตั้งแต่รุ่นคุณปู่ย่าของผมเป็นคนรักของคุณปู่พีท แต่ปู่ผมแย่งคุณย่ามาได้แล้วแต่งงานกันปู่ของพีทผูกใจเจ็บและปลูกฝังรุ่นพ่อเราให้เกลียดกันโชคดีที่พวกผมไม่หลงเชื่อพาลเกลียดกัน...หรือว่าเราควรจะเกลียดกันเผื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้
ตอนผมเกิดมาหน้าตาเหมือนคุณย่าเปี๊ยบ บ้านฝั่งโน้นยิ่งชังบ้านผมไปกันใหญ่ ไม่นานปู่พีทก็เสียก่อนเขาเกิดไม่กี่เดือนน่าแปลกที่ว่าเขาถอดแบบมาจากคุณปู่ไม่มีผิดเพี้ยน สองครอบครัวยิ่งขนลุกกลัวว่าเราทั้งคู่คือปู่กับย่ากลับมาเกิดเพื่อคู่กัน...เพียงแต่ชาตินี้เราเป็นผู้ชายทั้งคู่เท่านั้นเอง...
น้ำตาผมแห้งไปแล้วจดหมายของพีททำให้ผมร้องไห้จนหอบโยนสเตฟานคอยปลอบใจและอยู่กับผมตั้งแต่ต้นจนผมอ่านจบ เขากอดผม ลูบตัวผม เช็ดน้ำตาให้ผมซาบซึ้งกับทุกการกระทำของเขาเช่นกัน...เนื้อหาในจดหมายเหมือนมีดที่กรีดแทงจิตใจผมพีทเล่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาเจอมาตลอด 12 ปี บ้านใหม่เป็นยังไง เหงาแค่ไหน คิดถึงผมแค่ไหนโกรธผมแค่ไหนที่ไม่ยอมตอบจดหมาย แฟนสมัยเรียนเป็นยังไง มี sex กับผู้หญิงครั้งแรกเป็นยังไงเรียนมหาลัยที่ไหน อยู่ยังไง...
“.....เมย์...วันนี้เราเจอผู้หญิงคนหนึ่ง ชื่อเมย์เหมือนนายเลยนะหน้าตาก็คล้ายกัน ต่างกันที่เค้าไม่มีหนวดและเคราเท่านั้น...ทั้งชื่อ หน้าตาและนิสัยถอดแบบนายมาเปี๊ยบเราคิดว่าคนนี้คือนายในเวอชั่นผู้หญิง นายกลับมาหาเรา.....
....เมย์วันนี้เรากับเมย์ตกลงเป็นแฟนกันแล้วนะ...เราขอโทษนะที่ระหว่างเราต้องมาเป็นแบบนี้แต่เราอยากให้นายรู้ไว้นะ ไม่ว่ายังไง นายคือคนที่เรารักที่สุด...
...เมย์ เรารถชนแหละ ขาหัก ต้องพักฟื้นยาว เลยมีเวลาว่างเราจะเขียนจดหมายมาหานายทุกวันเลยนะ เมย์มาเฝ้าเราทุกวันถามว่าเราเขียนจดหมายหาใคร ... เราตอบไปว่าเขียนหาคนสำคัญในชีวิต...เมย์งอนใหญ่เลย แต่เราก็ยอมนะ ....
....เมย์ หมอผ่าตัดหัวเข่าเรารอบที่สองแล้ว เจ็บจนยืนไม่ไหว ได้แต่นอนซม...แต่เราจะต้องหายเราจะไม่ตายก่อนที่จะกลับไปหานายอีกครั้ง....
...เมย์ พ่อเราเสีย เรากับแม่อึ้งมาก แม่เรายังลืมพ่อไม่ได้เหมือนกันท่านร้องไห้หนัก แต่ก็ใจแข็งไม่ยอมมางานเราเลยต้องตีตั๋วด่วนจากขอนแก่นมาเชียงใหม่ ทีแรกเราไม่อยากมาเลยสักนิดแต่พอเราได้กลับมาเจอนาย เราจำได้นายได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตากันนายไม่เปลี่ยนไปเลย ใบหน้าของนายเหมือนเมย์วัย 10 ขวบ..เมย์ของเรา...
....เมย์เราเสียใจมากที่รู้ว่านายมีคนรักอยู่แล้ว...แต่เราไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงเราร้องไห้ไม่ออก น้ำตาเรามันตกในไปแล้ว มันทรมานยิ่งกว่าปล่อยให้มันไหลออกมาเสียอีก...เมย์เราอยากตาย...ไม่มีเมย์แล้ว เราจะอยู่ยังไง....
....เมย์ ไปงานแต่งงานเราด้วยนะ....
...เมย์ ขอบคุณนะที่ไปงานแต่งเรา ขอบคุณมากๆเราดีใจมากที่เห็นนายกับแฟนมีความสุข เราดีใจด้วยจริงๆ....
...เมย์ จดหมายฉบับนี้จะเป็นฉบับสุดท้ายแล้วที่เราจะเขียนมาหานายเราอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้อีกแล้วเมย์ไม่พอใจมากที่เรายังเขียนจดหมายอยู่ทุกวันเราทะเลาะกันใหญ่...ก่อนที่เราจะหยุดเขียนจดหมายเราอยากจะบอกกับนายว่า...ไม่ว่านานแค่ไหน ไม่ว่าโลกนี้จะแตกดับวันใด...เรารักนายนะเมย์เรารักนายที่สุด การได้อยู่กับนายคือช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดในชีวิตห่วยแตกของเราแล้ว....ถ้านายคิดถึงเราก็มองดาวดวงนั้นของเรานะ
รักนายเสมอ
พีท”
ผมแหงนมองฟ้าคืนนี้ดาวเหนือดูจะสว่างสุกใสกว่าทุกครั้ง...
“มองอะไรเหรอเมย์” สเตฟานถาม
“ดูดาวน่ะ เห็นดวงนั้นไหม มันสว่างสดใสมาก” เขากอดผมไว้
“เมย์ชอบดาวดวงนั้นเหรอ”
“ใช่ มันเป็นดาวของผมกับพีท” สเตฟานเขารู้เรื่องผมกับพีทเพราะผมเล่าให้เขาฟัง
“มันสวยมากเมย์...”
“ใช่ มันสวยมาก” ผมน้ำตาไหล...
เขาเช็ดน้ำตาให้ผม
“อย่าร้องไห้เลยนะเมย์...พีทไม่ได้จากไปไหนหรอก เขาแค่ไปอยู่บนนั้นและเฝ้ามองเมย์ด้วยความรักไง”
“ผมรู้...” ผมร้องไห้ “ผมรู้...” ลมหนาวพัดพรั่งพรูราวกับรับรู้ความเหน็บหนาวโอบกอดผมไว้
ผมมองดาวแล้วอธิษฐาน....ขอให้ลมหนาวพัดมาอีกครั้ง
“ป.ล. ถ้าจะให้เราเลิกเขียนจดหมายหานาย สู้เราตายไปเสียดีกว่า...ช่วงเวลาที่มีค่าคือตอนที่ได้อยู่กับนายและมันยิ่งมีค่ามากขึ้น เวลาที่ได้เขียนจดหมายถึงนายแบบนี้....หากชาติหน้ามีจริงขอให้เราได้เกิดมาคู่กัน ได้รักกันทุกชาติไป”
อวสาน...
|