ผมเป็นนักเรียน ม.6 คนหนึ่งในโรงเรียนมัธยมชายล้วน แน่นอนว่าบรรดาเพื่อน ๆ ของผมจึงเต็มไปด้วยผู้ชายทั้งนั้น แต่ละคนก็น่าตาดีกันคนละแบบ ผมเองก็หวั่น ๆ กลัวใจตัวเองที่จะเผลอคิดเกินเลยกับเพื่อน ทั้ง ๆ ที่เพื่อนก็น่าจะเป็นผู้ชายแท้ทั้งนั้น แต่มันก็มีเหตุการณ์เจ้ากรรมที่พาผมไปในจุดที่ผมก็ห้ามใจตัวเองไม่ไหว หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว เพื่อนในห้องทุกคนมีที่เรียนกันหมด ติดมหาวิทยาลัยดัง ๆ กันเป็นจำนวนมาก ก่อนที่เราจะจบ เพื่อนกลุ่มใหญ่จึงตกลงกันว่า เราจะไปเที่ยวกันทริปสั้น ๆ สักสองสามวัน ทริปนี้เองทำให้ได้รู้ใจตัวเองและได้รู้จักเพื่อนเราอีกหลายคนทุกซอกทุกมุมเป็นอย่างดีเหตุการณ์ในทำนองนี้ผมเชื่อว่า หลาย ๆ คนที่อ่านจนถึงตรงนี้ ก็คงจะเคยมีประสบการณ์จากทริปไปเที่ยวเช่นนี้เหมือนกัน งั้นคงพอจะนึกออกใช่มั้ยครับว่า ฉากต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น เราเลือกทริปที่จังหวัดหนึ่งใกล้ ๆ เพราะเป็นช่วงที่มีงานมิวสิคเฟสชื่อดังประกอบกับอากาศที่หนาว บรรยากาศดีและใกล้ที่จะขับรถไปเอง ผมกับกลุ่มเพื่อนกว่าสิบคน เราจองที่พักไว้เป็นบ้านหลังใหญ่ มีห้องใหญ่สองห้อง ก็ตกลงกันจะนอนห้องละห้าคน ห้องที่ผมนอนมี ซัน ฟลุค ต้น บีมและกัน ห้าคนนี้จึงเป็นผู้ที่โชคดีที่ผมได้มอบความสุขให้ บ่ายแก่ ๆ ของวันแรกที่พวกเราไปถึง แต่ละคนก็พักผ่อนกันตามอัธยาศัยบางคนก็ไปถ่ายรูปบางคนก็ไปชมบรรยากาศของที่พัก ในห้องจึงเหลือผมกับไอ้ต้น เพราะมันขับรถ มันบอกว่า ปวดเนื้อเมื่อยตัวเลยจะของีบสักหน่อย ส่วนผมเองเมารถมาทั้งทาง ก็เลยเลือกที่จะนอนพักนิ่ง ๆ ให้หายเวียนหัว ก่อนที่เราจะออกไปคอนเสิร์ตช่วงเย็น ๆ ความสัมพันธ์ของผมกับไอ้ต้นเรียกว่าสนิทกันมากที่สุดในบรรดากลุ่มเพื่อนที่มาด้วยกัน แต่ทุกคนก็ล้วนสนิทกันหมดเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่มอต้น แต่ไอ้ต้นเนี่ยมันนั่งข้าง ๆ ผมมาตั้งแต่มอสองจากนั้นผมกับมันก็ตัวติดกันมาตลอด ตอนมอต้นมันเป็นคนตัวเล็ก ผอมแห้ง ๆ แต่ปัจจุบันหลังจากที่มันฟิตร่างกายเพราะจะสอบเข้าโรงเรียนทหาร ในช่วงที่มันกำลังจะเป็นหนุ่ม ร่างกายของมันขยายใหญ่ไปทุกส่วน ไหล่กว้าง หน้าอกที่ผมไปมุดมันตอนเอียงไปเก็บของก็แน่นขึ้นมาก แขนขาเป็นมัดพอเหมาะเพราะมันเล่นบาสและกีฬาอีกหลากหลาย หุ่นมันคือนิยามของชายไทยดี ๆ นี่เอง ประกอบกับผิวที่ไม่ขาวไม่ดำ เหลือง ๆ นวล หน้าตาคม มันจึงเป็นอีกคนที่หล่อ บางครั้งผมก็เผลอจ้องหน้ามันจนใจลอยอยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงสันกรามและคอไปจนถึงช่วงไหล่กว้าง มองมันเพลินกว่าทุกส่วน ผมนอนข้าง ๆ กับมันอยู่สองคนในห้องที่เงียบสนิท บนบ้านไม่มีใครอยู่เลย ผมกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่นเพราะเมารถ ส่วนไอ้ต้นก็นอนคว่ำอยู่ข้าง ๆ ก็เอาแขนหนักมาพาดที่หน้าอกผม รู้สึกได้ว่าทั้งแน่นและหนักมาก แต่ก็ไม่ได้ขยับหนี "โอ๊ย มึงนวดให้กูหน่อยดิวะ ขึ้นมาเหยียบหลังกูหน่อย ขับรถมานานปวดหลังฉิบบหาย" "กูปวดหัวอะ กูเมารถจะตายห่า มึงยังจะใช้กูอีกเนาะ" "เดี๋ยวเลี้ยงเบียร์ว่ะ มาเหยียบให้หน่อย" ในตอนนั้นผมก็รู้ตัวดีว่า ตัวเองเริ่มดีขึ้นจากอาการเมารถ แต่ที่ไม่ลุกเพราะว่ากำลังสบายมาก "เร็วดิวะ" พอสิ้นเสียงนี้ผมก็ลุกขึ้นไปเหยียบมันทันที หมั่นไส้มันฉิบหาย ใต้เท้าที่ผมก็คิดว่าหนาพอสมควร แต่กลับสัมผัสได้ถึงความหนาแน่นของกล้ามบริเวณแผ่นหลังของมันได้ดี นี่เองเหมือนเป็นแรงกระตุ้นบางอย่างที่ทำให้ผมอยากสัมผัสร่างกายมันทุกส่วน "เลื่อนลงข้างหน่อยดี เหนือเอวกูหน่อย ค่อย ๆ นะเว้ย เดี๋ยวกูเดี้ยงพอดี" ผมรู้สึกว่าเหมือนผมเป็นเด็กร้านนวดอยู่ก็ไม่ผิด แต่ผมก็ตั้งใจนวดให้มันอย่างดีไม่ปฏิเสธว่าชอบสัมผัสมาก แล้วผมก็เลื่อนมาตรงก้นของมัน "เออ ๆ ตรงนี้เอาหนัก ๆ หน่อย สบายดีว่ะ" ผมค่อย ๆ บรรจงนวดอย่างนุ่มนวล แต่นวดด้วยเท้ารู้สึกว่าไม่ถนัด ก็เลยเปลี่ยนไปใช้มือแทน สัมผัสแรกคือความแน่นของก้นไอ้ต้น มันแน่นมาก ทำเอามือผมขยำตูดมันแทนที่จะนวดซะงั้น ถัดลงไปพ้นขอบขากางเกงขาสั้นลงไปก็เต็มไปด้วยลอนขาอ่อนที่มีขนปกคลุมพอประมาณ ชวนผมจ้องมองและเอามือไปลูบไล้บ่อย ๆ อีกด้วย "มึงอย่าขยำตูดกูดิ กูสยิว นวด ๆ กด ๆ ก็ได้" เสียงสั่งทำเอาผมสะดุ้งหน่อย ๆ มันก็ยังคงสั่งอยู่ ด้วยความหมั่นไส้ผมจึงเอามือประสานตรงกลางก้น แล้วกดแรง ๆ เป็นจังหวะคล้ายกับปั้มหัวใจ "เห้ยแบบนี้สบายดีว่ะ" ผมก็ไม่รอช้าทำไปเรื่อยละส่งแรงไปมาก มากขึ้น เมื่อทำไปได้สักพัก ไอ้ต้นมันก็กลับตัวนอนหงายขึ้นมา สิ่งแรกที่ปะทะมาที่สายตา คือ เป้าของมันที่นู่นเด่นขึ้นมา มองจากตาผิวเผินก็รู้ว่ากางเกงตรงเป้ามันตึงมาก ใช่ ไอ้ต้นควยแข็ง "มึงช่วยบีบต้นขาให้กูหน่อย ตอนขับรถ เดี๋ยวเบรก เดี๋ยวเหยียบคันเร่ง กูเมื่อย ๆ ว่ะ " ก่อนที่มันจะพูดจบมือผมก็ถึงที่ต้นขาของมันแล้ว " มึง อยู่นิ่ง ๆ นะ กูนวดให้มันต้องกดตรงขาหนีบ มันถึงจะหาย " ผมก็ไม่รู้หรอกว่ามันจะหายจริงมั้ยแต่บริเวณนั้นเป็นจุดรวมเส้น ข้าง ๆ ไข่ของมัน กดตรงนั้นก็น่าจะช่วยให้เบาปวด ผมเอานิ้วไปกดไปคลึงเบา ๆ ไอ้ต้นสะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จังหวะนี้แหละที่ผมค่อย ๆ นวด ค่อย ๆ คลึง รู้สึกว่าหลังมือผมสัมผัสพวงไข่ของมันอยู่แน่ ๆ และปฏิกิริยาต่อมาที่เห็นได้ชัดมากคือ ไอ้ต้นควยแข็งขึ้นมาอีก และคราวนี้น่าจะแข็งเต็มที่ แท่งควยมันรั้งกางเกงจนขอบด้านบนมันเผยอออกให้เห็นหมอยดกสีดำ และเห็นปลายแท่งเนื้ออยู่ขอบ ๆ จังหวะนั้นเองไอ้ต้นมันก็ดึงกางเกงจากด้านล่าง เพื่อจะจัดให้เข้ารูป แต่ด้วยความที่กางเกงมันเป็นบล็อกเซอร์ พอดึงข้างล่างแน่นอน ข้างบนก็โผล่อ จึงเป็นอีกครั้งที่ผมได้เห็นควยของมันเต็ม ๆ ตาอีกครั้ง แต่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นมันขึ้นลำ แข็งพองตัวขนาดใหญ่โตแบบนี้ ควยมันใหญ่มาก ไม่รู้กี่นิ้ว ผมได้แต่กลืนน้ำลายมือก็สั่น รู้สึกอยากจับมาก ผมจึงแข็งใจสู้ทำทีเป็นหยอกกับมัน "มึงแข็งอะไรเนี่ย" ผมพูดไปด้วยแกล้งจับของมันไปด้วย " ไม่รู้ว่ะ พอมึงนวดลมันก็ค่อย ๆ แข็งขึ้นมา " " นวดต่อดิ๊ " " ใหญ่จังวะ กูขอจับหน่อยดิ " ผมสติหลุดสุด ๆ ไม่รู้ตัวเองว่าพูดออกไปได้ยังไง ความเงี่ยนมันครอบงำแน่ ๆ " มึงจับไปแล้ว " มันพูดจบ ก็นอนหนุนแขนตัวเองหลับตาพริ้ม ไม่ได้อายสายตาผมเลยที่ควยมันแข็งไปแข็งมาต่อหน้าผม ในเมื่อเจ้าของเขาไม่ปฏิเสธ ความจึงได้ใจ บีบนวดควยมันเต็มที่ มันมือมาก รู้สึกว่าควยมันขยาย ๆตัวเป็นจังหวะตลอด แต่ก็สลับไปนวดต้นขาและส่วนอื่น ๆ ด้วย มือปลาหมึกยังไปลูบไล้บริเวณหัวเหน่า เหนือพงหมอยขึ้นไป เป็นที่อยู่ของกล้ามท้องแข็ง ๆ ทีโผล่ออกมาจากเสื้อยืด แต่ควยมันเป็นจุดสำคัญที่ผมเล่นบ่อยที่สุด ค่อย ๆ ขยับไปที่ละขั้น จากจับเฉย ๆ เป็นค่อย ๆ บีบ จากบีบเฉย ๆ ผมค่อย ๆ ถอกหนังหุ้มควยลงมา หัวควยมันบานสวยมาก สีแดงเรื่อ ๆ ผมกลืนน้ำลายจนเจ็บคอไปหมด มือผมอยู่ไม่เคยสุก ถอกหนังหุ้มควยมันดึงขึ้นดึงลง จากช้าเริ่มเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยที่ไอ้ต้นยังหลับตาพริ้มอยู่ ไม่รู้เคลิ้มหรือหลับไปแล้ว แต่รู้สึกว่าขาของมันมีอาการเกร็ง ผมว่ามันคงเสียวแน่ ๆ ตอนนั้นเองก็มีเสียงคนวิ่งไล่กันจากข้างล่างขึ้นมาที่ห้องผม และอีกไม่ช้ามันจะมาเปิดห้องนี้แน่ พอได้ยินเสียงนั้นไอ้ต้นกับผมก็สะดุ้ง ไอ้ต้นเก็บควยที่ยังแข็งเข้ากางเกงแล้วนอนคุดตะแคงไปข้างกำแพงหันหลังให้ผมทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนผมก็ขยับออกมา ใจผมรัวเป็นกลองเลย เป็นไอ้ซันกับไอ้ฟลุค มาตามให้พวกเราแต่งตัว เตรียมออกไปเข้างานคอนเสิร์ตกัน เราต้องออกเร็วกว่าปกติเพราะเส้นทางเข้างานนั้นรถติด ถ้าไปช้าอาจจะไม่ทันดูวงแรกเล่นเพลง เหตุการณ์ความเสียวของผมกับไอ้ต้นจึงพักไปเท่านี้ คอนเสิร์ตเป็นงานขนาดใหญ่เล่นกันตั้งแต่หกโมงเย็นถึงหกโมงเช้า เวลาคืนหนึ่งในคอนเสิร์ตที่ชุลมุนวุ่นวาย ผู้คนพลุกพล่าน เสียงเพลงดังกระหึ่มไปทั่ว ผมกับไอ้ต้นก็ไม่พลาดที่จะสานต่อเหตุการณ์จากที่เราอยู่ด้วยกันสองคน .......
/ h( J, f0 x: m* I0 H! W: @ |