แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Meeboon592 เมื่อ 2023-6-11 06:59
พี่ชายเพื่อน(2) ตอนจบ คืนที่สองคือคืนวันอาทิตย์ พี่พงษ์ต้องกลับมานอนบ้านเพราะจะต้องเตรียมตัวออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดของวันจันทร์เพราะบ้านเจ้าสาวอยู่คนละอำเภอห่างกันประมาณ 90 กิโลเมตร ฤกษ์หมั่นเช้า 09.09 น ตามด้วยพิธีแต่งและเลี้ยงฉลองแต่งงานตอนเย็น 18.00 น. ที่สนามโรงเรียนแถวบ้านเจ้าสาว จากคืนแรกผมกับพี่พงษ์ก็ไม่ได้มีอะไรกัน ในวันงานแกมองผมเหมือนอยากจะพูดอะไร แต่ไม่มีโอกาส เช้าวันอังคารผมกับคมก็กลับมามหาลัย หลังจากนั้นคมเคยบอกผมว่า พี่พงษ์ถามหาผม เพราะไม่เห็นผมไปบ้านกับคมอีก ผมกับคมทะเลาะกันหรือเปล่า คมบอกว่าไม่ได้ทะเลาะกัน แต่ไม่ค่อยมีเวลาเจอกันเพราะพอขึ้นปี 2 ผมกับคมเรียนคนละสาขาฯ และผมต้องรีบเรียนเพราะพ่อแม่ผมฐานะไม่ดี ผมเรียนจบป.ตรี โดยใช้เวลา 3 ปี ครึ่ง หลังจากนั้นผมก็ห่างกลุ่มเพื่อนทุกคน ผมทำงานไม่ตรงที่เรียนมาอยู่เกือบปี ตอนหลังผมสอบบรรจุครูได้ ด้วยไม่ใช่วุฒิทางครู ผมกระเสือกกระสนเรียนต่อ ป.โททางการศึกษา และเรียนต่อในระดับสูงขึ้น จนสอบโอนมาเป็นอาจารย์ที่มหาลัยของรัฐแห่งหนึ่งในภาคอีสานด้วยวัย33 ปี ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาผมได้รับคำสั่งให้เข้าร่วมอบรมที่โรงแรมดังที่อุดรธานีเป็นเวลา 4 วัน 3 คืน อาจารย์ที่มหาลัยผมมาหลายคน ร่วมกับอาจารย์มหาลัยอื่นๆในภาคอีสานทั้งมหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชน ซึ่งแต่ละแห่งมากันหลายคน หลายคณะ โดยผมพักที่โรงแรมดังกล่าวคนเดียว (ใช้งบหน่วยงานที่ผมสังกัด) การจัดอบรมค่อนข้างโหด ทานอาหารเย็น17.30 -18.30 น. อบรมภาคกลางคืน ต่อถึง 20.00 น. เพราะเป็นภาคปฏิบัติ ถ้างานที่ทำครั้งนี้ไม่เสร็จงานต่อไปทำต่อไปไม่ได้ ผมไม่สนใจอะไรมาก ทำตามนั้น อาจารย์ส่วนใหญ่ที่มาเป็นอาจารย์ผู้หญิงอายุ หลัก 40 กว่ามีส่วนน้อยที่เป็นผู้ชายอายุเข้าหลัก 50 อวบอ้วนบ้าวิชาการ คืนที่สองอบรมภาคปฏิบัติเสร็จหลังจากเอาของไปเก็บที่ห้องแล้วผมเดินลงมาเล่นในส่วนของร้านสรรพสินค้าที่มีข้างล่าง สองทุมกว่าๆของวันพฤหัสบดี มีคนขวักไขว่มีผู้ปกครองพาบุตรหลานที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนเดินไปมา มีเสียงดังของเด็กชายหญิงน่าจะอยู่ในช่วงอายุ 11-13 ปี เรียกผู้เป็นบิดาให้รีบไปดูอะไรข้างหน้า จังหวะการเดินของผู้เป็นพ่อที่โดนลูกพามาในลักษณะที่เรียกว่าลากมา ทำให้เกิดแรงปะทะกับผม ผู้ชายตัวสูง ร่างใหญ่มีกล้าม ผิวเข้มในชุดที่เรียกว่าซาฟารี ผมเซจังหวะที่มองตากัน เราสองคนชะงัก “ใช่เอกไหม” ชายร่างสูงทักผมชะงัก แล้วชายคนนั้นก็หันไปพูดอะไรกับเด็กสองคน พร้อมเอาแบงค์พันให้ แล้วบอกว่าถ้าเสร็จตรงนี้ให้ไปรอพ่อที่ร้านชื่อดังเดี๋ยวพ่อตามไป เราเดินคุยกันพี่เขาบอกว่า เมียเขาตายเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาด้วยอุบัติเหตุรถพ่วงชน เขาบอกว่ายังไม่คิดจะลงเอยกับใครอีกเพราะสงสารลูก “พี่คิดถึงเอกนะ” จริงๆ หลังจากวันนั้นผมกับพี่เขาไม่ได้ติดต่อกัน (ช่วงนั้นโทรศัพท์มือถือยังไม่แพร่หลาย และมีราคาแพงมาก) ผมถามถึงคม คำตอบคือ “ตอนนี้มันทำรับเหมาก่อสร้างกับเมีย เมียมันเปิดร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้าง” “ร้านมันอยู่แถวๆนี้แหละ” “เอกทำงานอะไร”ผมบอกอาชีพผมไป “เอกมาทำอะไรที่นี่ เอกพักอยู่ที่ไหน” “เอกเป็นอย่างไรบ้าง มีครอบครัวหรือยัง” “ผมโสดสนิท” ดวงตาพี่เขาเป็นประกาย“พักอยู่คนเดียวไหม” “พี่มาหาเอกได้ไหม”ผมปฎิเสธไป “ถ้างั้นเอกไปนอนที่ฟาร์มกับพี่ไหม”“มีกลิ่นขี้ไก่หน่อย” แกหัวเราะ เราเดินไปหาลูกแกที่รออยู่ที่ร้านอาหาร คืนนั้นพี่พงษ์พาลูกแกกลับไปบ้านของแกซึ่งเป็นบ้านสองชั้นหลังใหญ่ สวย มีที่กว้าง โดยมีแม่ใหญ่(แม่ของแก) คอยดูแล หลังจากเมียแกตายแม่ใหญ่ก็มาอยู่กับแก คืนนั้นแกบอกกับแม่แกว่า แกต้องกลับไปนอนที่ฟาร์ม ตอนนั้นมีฝนตกแต่ไม่มากนัก ไม่นานเราก็ถึงบ้านพักบ้านพักผู้จัดการฟาร์มที่แกอยู่เป็นตึก 3 ชั้นหลังใหญ่ (ชั้น 3เป็นที่อยู่ของแกห้ามคนอื่นเข้า) ด้านล่างจัดเป็นสำนักงาน หลังอาบน้ำเสร็จเราขึ้นนอน พี่พงษ์ขอดื่มเบียร์หนึ่งขวด ส่วนผมไม่ดื่มเพราะมีอบรมต่อตอนเช้า เราลงนอนด้วยกัน ผมเลื่อนตัวไปหาพี่พงษ์เลื่อนตัวเข้ามากอดผม แกบอกคิดถึง แกไม่คิดจะมีเมียผู้หญิงแล้ว แกอยากให้ผมเป็นเมียแกตลอดไป แกพูดพร้อมขยับท่อนล่างของแกมาเสียดสีข้างกายผม ข้างล่างของแกขยายใหญ่ขึ้นฝนยังคงตก แกเอามือผมไปจับท่อนลำของแก แกบอกผมว่าแกเงี่ยน ทุกวันต้องชักว่าวเองแกบอกผมว่าช่วยหน่อย ผมขยับมือขึ้นลง แกกดหัวผมลงไป แกเลื่อนเอากางเกงบ๊อกเซอร์ลงข้างล่างผมเริ่มดูดแกส่งเสียงครางดังมาก พร้อมจับหัวผมกดขึ้นลงท่อนลำอวบใหญ่ ยาวน่ากินมีกลิ่นสบู่อ่อนๆทำให้ผมดูดกินอย่างไม่รังเกียจ ไม่น่านน้ำแกก็เข้าปากผม ผมดูดกินจนเสร็จ แล้วออกไปเข้าห้องน้ำ พอกลับเข้ามาแกกอดผมไว้ บอกเสียวจัง แต่ยังอยากอยู่อีก ตอนนี้แกขอเข้าข้างหลังผม ผมยอมแต่ขอขึ้นขย่มเองเพราะรู้ว่าสามารถควบคุมได้ว่าจะให้เจ็บมากหรือน้อยตอนเข้า แกออกไปเอาเจลหล่อลื่นมาตั้งแต่เมื่อไหรไม่รู้เอามาทาที่รูก้นผม และที่ท่อนลำของแกแกบอกว่าพัฒนาแล้วไม่ต้องใช้น้ำมันพืชแล้ว ผมหัวเราะและก็เลื่อนตัวขึ้นขย่มท่อนลำอวบยาวนั้นใช้เวลานานกว่าจะเข้า เพราะผมเองก็ไม่ค่อยมีอะไรกับใคร ทั้งปวด เจ็บแต่ก็มัน แกกระทุ้งขึ้นลงหลายครั้งจนตอนหลังแกจับผมลงนอนหงายแล้วเข้ากระแทกท่าเบสิกเสียเองแกร้องครวญครางเสียงดังมาก บอกว่า ตูดผมรัด ท่อนควยของแกมาก แถมยังตอดตุบๆ อีกผมเลยพยายามขมิบสุดฤทธิ์ ไม่นานแกก็พ่นน้ำออก พอจบเกมส์แกนอนกอดผมทั้งคืน หลังจากคืนนั้นผมกับแกเจอกันเดือนละ2 ครั้ง โดยผมขับรถไปหาแกเองและพักอยู่กับแก 1-2 คืน ในช่วงคืนวันศุกร์-เสาร์ (มหาลัยที่ผมทำงานอยู่ติดกับจังหวัดอุดรธานี) ตอนหลังพี่พงษ์พาผมไปเจอ "คม" คมกลายเป็นเศรษฐี รับเหมาก่อสร้างอย่างที่บอก มีลูกสามคน ชาย 2 หญิง 1 ดวงดีลูกสาวผิวขาวเหมือนแม่ที่มีเชื้อจีนผสมเวียดนามแต่ตัวสูงเหมือน พ่อ ลูกชายทั้ง 2 คนผิวจางลงหน่อยแต่ได้ความสูงจากพ่อเหมือนกัน "คม" บอกว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาพี่พงษ์ถามหาผมตลอดโดยใช้คำพูดว่า "ได้เจอน้องคนที่มาช่วยงานแต่งอ้ายบ้างไหม" หลังจากนั้นส่วนใหญ่ เวลาผมไปหาพี่เขา พี่พงษ์จะพาไปที่บ้านของแก แม่ใหญ่ (แม่แท้ๆ)ของพี่พงษ์มาอยู่บ้านพี่พงษ์ตั้งแต่เมียพี่พงษ์ตาย ส่วนพ่อพี่พงษ์อยู่กับแม่เล็กที่บ้านที่กุมภาวาปี ทุกวันเสาร์ที่ผมไปหาพี่พงษ์ พี่พงษ์จะพาผมไปทานอาหารเย็นที่บ้านของแก และผมจะพบพี่ๆ อีก 2 คนของพี่พงษ์ (พี่พงษ์กระซิบบอกว่าเป็นการรวมญาติ และมาดูตัวน้องสะใภ้คนใหม่) ผมไม่รู้ว่าลูก 2 คนของพี่พงษ์รู้เรื่องของเรา 2 คนไหม แต่เด็กๆ ลูกของพี่พงษ์เรียกผมว่า "อาเอก" "คม" น่าจะรู้ถึงความสัมพันธ์ของผมกับพี่พงษ์ "คม" พูดกับผมว่า "ฝากดูแลอ้ายเฮาด้วยเด้อ"
|