แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Meeboon592 เมื่อ 2023-6-28 06:46
พันตำรวจโทข้างบ้าน ก่อนจะเล่าเรื่องผมชื่อ “เกมส์” และผมจะต้องเกริ่นนำ ยาวพอควร พ่อแม่ผมเป็นครูอยู่ในอำเภอเมืองของจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีบ้านอยู่นอกเมืองไม่ไกลจากตัวจังหวัด ชีวิตไม่เดือดร้อน ผมมีพี่สาวอายุห่างกัน 5ปี การที่มีผมอายุห่างจากพี่สาวไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือผมสนิทกับพี่สาวมาก มากจนพี่สาวรู้ว่าผมไม่ได้ชอบผู้หญิง จริงๆแม่ผมน่าจะรู้ด้วยเหมือนกันแต่แม่ผมไม่พูด ส่วนพ่อผมไม่ค่อยสนใจอะไร นอกจากการปลูกพืช ผักและไม้ผลชนิดต่างๆ (พ่อผมเป็นครูสอนวิชาเกษตร) พี่สาวผมเรียนครู ที่ม.ราชภัฏ ใครจะว่าอย่างไรก็ตามพอเรียนจบ พี่สาวผมสอบบรรจุเป็นครูสอนโรงเรียนมัธยมศึกษาในโรงเรียนที่อยู่ในตัวจังหวัดที่ผมอยู่ได้(ในตัวจังหวัดมีโรงเรียนมัธยมศึกษา อยู่ 5 แห่ง ทั้งโรงเรียนของรัฐและเอกชน)และไม่ถึง 3 ปี พี่สาวผมก็แต่งงานกับนายร้อยตำรวจ ความจริง สองคนนี้รู้จักกันสมัยพี่สาวผมเรียน ม.ต้น โดยพี่เขยผมแก่กว่าพี่สาวสองปี พอจบ ม.4พี่เขยผมสอบเข้าโรงเรียนรวมเหล่าและเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจต้องชมว่าพี่เขยมีรักแท้ เพราะว่า ยังมั่นคงกับสาว ม.ราชภัฏ พอเรียนจบพี่เขยได้เข้าบรรจุและทำงานที่สภอ.อำเภอเมือง ในจังหวัดนี้เหมือนกันทุกอย่างประจวบเหมาะกันดี พี่สาวกับผมเป็นคนผิวขาวหน้าตาจัดว่าดีพี่สาวสูงเกือบ 170 ซม. ผมเองก็ได้ความสูง 176 ซม.มา ตอนพี่สาวแต่งงานผมเรียนครูอยู่ปี 5 (หลักสูตร ค.บ. 5 ปี) เป็นนักศึกษาฝึกประสบการณ์เต็มรูปนั่นคือต้องฝึกสอนที่โรงเรียน 1 ปีการศึกษา เนื่องจากการเรียนทุกวิชาผมได้เกรด4.00 มหาลัยเลยขอร้องแกมบังคับให้ผมเข้าฝึกประสบการณ์เต็มรูปที่โรงเรียนมัธยมศึกษาประจำจังหวัดที่เป็นโรงเรียนอันดับหนึ่ง(มหาลัยจึงต้องคัดนักศึกษาที่เป็นคนเก่งจริงๆ ไปสอน ไม่งั้นนักเรียนไล่องค์ความรู้จนนักศึกษาฝึกประสบการณ์เอาตัวไม่รอด)ซึ่งก็เป็นประโยชน์ต่อผม เพราะโรงเรียน มีอัตราบรรจุครูเข้ารับราชการในวิชาเอกที่ผมศึกษาอยู่(มีครูเกษียณอายุราชการพอดี) ถึงแม้ว่าเป็นคนอำเภอและจังหวัดเดียวกันผมก็ไม่ได้คุ้นเคยกับพี่เขยมากนัก เพราะพี่เขาไปเรียนโรงเรียนรวมเหล่าตั้งแต่อายุ16 ปี (เอาวุฒิ ม.4 ไปสอบ ผมน่าจะมีอายุ 9 ขวบ) พอแต่งงานกันแล้วพ่อแม่ผมให้พี่เขยย้ายมาที่บ้าน (จากเคยอยู่บ้านพักตำรวจ)การที่มาอยู่บ้านเดียวกันกับพี่สาวผม(ในฐานะสามี) และลูกเขยของบ้านพ่อผมบ้าเห่อ สุดๆ คุยไปทั่วได้ลูกเขยเป็นผู้กอง การเป็นคนมีสัมพันธภาพที่ดีของพี่เขยผม วันหนึ่งพี่สาวเรียกผมไปคุย ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า “แก...แก...ถ้าเป็นแบบนี้ไม่นาน ชั้นว่า อีกหน่อยแกคงมาเป็นเมียน้อยชั้นแน่เลย...”ผมนิ่งอึ้ง บอกกับพี่สาวผมว่า “ถึงแม้เราจะไม่กล้าสาบาน... แต่เราบอกเธอได้ว่า...เราจะไม่ยอมเป็นเมียน้อยเธอแน่...”นั่นคือเหลืออีกสองเดือนผมจะฝึกประสบการณ์วิชาชีพเต็มรูปเสร็จดวงดีพอผมได้รับการอนุมัติสำเร็จการศึกษา มีประกาศสอบบรรจุครู ด้วยอะไรก็ตามผมสอบบรรจุครูในวิชาเอกของผมได้เป็นอันดับที่ 1 และได้รับการเรียกบรรจุในวันที่ 1 พฤษภาคมของปีเดียวกัน และมีอัตราว่างที่ผมได้เลือกบรรจุในโรงเรียนที่ผมฝึกประสบการณ์วิชาชีพฯ นั่นเอง ผมเริ่มไม่อยากพักอยู่ที่บ้านกลัวมีปัญหากับพี่สาว พยายามไม่เข้าใกล้พี่เขย ผมเปรยๆ กับแม่ว่าอยากออกไปพักข้างนอก ครั้งแรกแม่ผมโวยวาย ผมต้องบอกความจริงที่เกิดขึ้นแม่ผมคิดอยู่ประมาณไม่ถึงเดือน วันเสาร์ปลายเดือนแม่พาผมไปเที่ยวบ้านจัดสรรความจริงไม่น่าเรียกว่าบ้านจัดสรรมันเป็นบ้านที่เจ้าของเขาแบ่งที่ 5ไร่ ออกเป็นล็อคๆขายและรับจ้างสร้างบ้านให้ด้วยโดยใช้แปลนบ้านๆ 2 แบบ ใหญ่เล็กต่างกัน (ขนาดพื้นที่ 200-210 กับ 120-130 ตารางวาโดยประมาณ) ต้องชมเป็นบ้านที่สงบเงียบถนนในหมู่บ้านกว้างมาก แม่พาผมไปดูบ้านหลังในสุด (มีบ้านทั้งหมด 10 หลังหันหน้าเข้าหากันซีกละ 5 หลัง) บ้านหลังที่แม่ผมพาไปดูเป็นบ้านของเพื่อนแม่ที่ประกาศขายเพราะได้ย้ายกลับไปอยู่กับสามีที่ขอนแก่น(เดิมแกกับลูก 2คน อยู่ที่นี่ ตอนนี้ลูกเรียนจบ ป.ตรีและไปสอบบรรจุรับราชการที่บ้านสามีที่ขอนแก่นได้) บ้านสองชั้นราคาสามล้านห้าแสนบนพื้นที่ 120 ตารางวา แม่บอกว่าแม่จะซื้อเป็นเงินสดให้ผม แต่บ้านที่อยู่ปัจจุบันพ่อกับแม่จะยกให้พี่สาวและลูกหลาน(ตอนนั้นพี่สาวผมตั้งท้องแล้ว) ผมก็ตกลง นั้นคือหลังจากนั้นผมก็เข้ามาอยู่บ้านนี้คนเดียว กลับไปเยี่ยมพ่อแม่และหลานเดือนละสองสามครั้ง พอมาอยู่บ้านคนเดียวผมก็เป็นอิสระ ผมเริ่มติดต่อคนในโซเชียล มีหนุ่มคนหนึ่งเป็นคนในเครื่องแบบคือเป็นทหารบกยศร้อยเอกย้ายมาที่มณฑลทหารบกที่... เพื่อรอมาครองอัตราพันตรี อายุเข้าอย่างเลข3 มีคู่หมั้นแล้วเป็นทันตแพทย์หญิง ทำงาน อยู่ กทม. แกบอกว่าแกจะมาอยู่ที่นี่ 2 ปี พอครบกำหนดแกก็จะย้ายกลับกทม. นั่นแหละก็ถึงจะเข้าพิธีแต่งงานแกบอกว่าแกเป็นชายที่มีเซ็กส์กับใครก็ได้ไม่ว่าหญิงหรือชายแต่ผู้ชายต้องเป็นแมนจริงๆไม่ออกสาว ใครจะคุยกับแกต้องรับสภาพตามที่แกบอกให้ได้ถ้ารับสภาพไม่ได้ก็อย่าคุยกัน ผมนึกอย่างไรไม่รู้ตกลงคุยกับแก ที่ตั้งของมณฑลทหารบกที่แกอยู่ห่างจากบ้านผมไม่ถึง2 กิโลเมตร และบ้านที่ผมอยู่ห่างจากโรงเรียนผมไม่ถึง 3 กิโลเมตรเช่นกัน นั่นคือเวลา 2 ปีแกมักจะมานอนที่บ้านผมเป็นประจำ บ้านผมมีเสื้อผ้าของแกทั้งชุดไปรเวทและชุดทหาร ผมไม่รู้ว่าใครคิดอะไรบ้างพอครบกำหนด 2 ปี พี่เขาก็กลับไป ผมเองบอกตรงๆคิดถึงเหมือนกันของที่เคยได้กินแบบอิ่มหนำสำราญจนล้นปากล้นคอก็ห่างหายไปรูลืบที่เคยได้รับการสอดใส่ก็ว่างเปล่า ผมอยู่ในสภาพว่างๆ ยังไม่คิดจะมีอะไรกับใคร จนกระทั้งเมื่อสามเดือนที่ผ่านมาราวต้นเดือนเมษายนเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม และเป็นช่วงที่ผมสบายมากที่สุด ช่วงเย็นๆ วันเสาร์หลังจากที่ผมกลับจากการออกไปซื้ออาหารเย็นที่ตลาดนัดใกล้หมู่บ้านผมยังซื้อไว้ทานเป็นอาหารเช้า ผมก็ได้เจอกับตำรวจข้างบ้าน ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านที่มีพื้นที่กว้าง 200 ตารางวา ยศพันโท หน้าตาดูเท่ห์ ตัวสูง(180 ซ.ม. แน่ๆ น่าจะเกินนิดหน่อย) ไหล่กว้างมีกล้ามแขน ไม่มีพุง ตอนนี้แกถอดเสื้อที่เป็นชุดเครื่องแบบตำรวจออกมีเพียงเสื้อยืดสีขาวแขนสั้นขลิบแดงเข้ม และกางเกงขายาวสีกากีเข้มที่ตำรวจชอบใส่ผมมองดูอายุน่าจะเลข 4 ต้นๆ (เพราะลูกแกคนโตเรียนอยู่ปี1 คณะแพทย์ศาสตร์มหาลัยชื่อดังที่สุดในภาคอีสาน ส่วนลูกสาวเรียนอยู่ ม.5 โรงเรียนวิทยาศาสตร์ภูมิภาคซึ่งตั้งอยู่อีกจังหวัดที่อยู่ติดกันซึ่งเป็นโรงเรียนกินนอน เพราะพี่ชายคนโตก็เรียนจบที่โรงเรียนแห่งนี้เท่าที่รู้แกอยากให้ลูกสอบสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ เหมือนพี่ชายที่เล่ามาขนาดนี้เพียงจะบอกว่า บ้านแกไม่ค่อยมีคนอยู่ นานๆ จะเห็นลูกแก และตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมาลูกสาวแกไปเรียนพิเศษที่ขอนแก่นโดยไปพักอยู่กับพี่ชายและยังไม่กลับมา) ส่วนเมียแกเปิดร้านขายสินค้าและอุปกรณ์ก่อสร้างในเมืองซึ่งปกติจะเปิดร้านประมาณ08.00 น.ถึง 17.30 น.ของวันจันทร์ถึงวันเสาร์ และปิดร้านวันอาทิตย์(ปกติจะกลับค่ำโดยแกขับรถไปรับ)หรือบางที่บ้านก็ปิดเงียบ เพื่อนบ้านบอกว่า 2 คนผัวเมียไปนอนที่ร้านในเมือง ตอนนั้นเวลาประมาณ17.20 น.ผมกำลังเปิดประตูรั้วบ้านจริงๆ พร้อมเลื่อนรถมอเตอร์ไซด์เข้าสู่ตัวโรงรถ พี่ตำรวจคนนั้นก็เดินเข้ามาที่ริมรั้วบ้านแกที่อยู่ติดกับบ้านผมแล้วถามผมว่า“เป็นไงบ้างครู” ผมงงกับคำพูดของแกจึงไม่ได้ตอบว่าอะไร “เพื่อนไปไหนละครูไม่เห็นมาหลายเดือนแล้ว” ผมชงัก “อ๋อพี่เขาย้ายกลับไปรับราชการที่กรุงเทพแล้วครับ” ผมขยายความต่อ “พี่เขามาครองตำแหน่งพันตรี” “แล้วครูไม่คิดถึงหรือ” ผมงง“เห็นตัวติดกันตลอด” “ครับ ”ผมตอบกลับเสียงสูง งงกับคำพูดของแกไปอีก แกถามผมอีก “ไม่เหงาหรือครู” ผมหันไปถามกลับ“ทำไมหรือครับ” ร่างสูงยิ้มกลับแบบมีเลศนัย “ถ้าเหงา ผมพอจะช่วยได้ และยินดีมากที่จะช่วยนะครับ”คำพูดตอนหลังของแกทำให้ผมเกิดความคิดอย่างหนึ่งขึ้นมา ผมเลยถามกลับ“แฟนพี่ละครับ” เพราะรู้ว่าในช่วงเวลาเย็นๆแบบนี้ใกล้เวลาที่ภรรยาพี่เขาจะกลับบ้านหรือใกล้เวลาที่พี่เขาจะไปรับภรรยากลับมาบ้าน“วันนี้วันเสาร์ พรุ่งนี้ร้านปิด แฟนพี่พึ่งให้พี่ขับรถไปส่งที่บขส.เพื่อขึ้นรถทัวร์ไปหาลูกที่ขอนแก่นกลับพรุ่งนี้ตอนเย็น ไม่ต้องห่วง ” ผมถามกลับอีกครั้ง “พี่แน่ใจนะครับ”พี่เขาพยักหน้าพร้อมกดมือลงไปที่เป้าอันคับแน่นของตนเอง แล้วลูบเป้าแน่นขึ้นลง “พี่ ...เข้ามาบ้านผมไหมครับ”” พอเข้ามาข้างในบ้านแกนั่งลงบนโซฟา บ้านผมและบ้านเกือบทุกหลังมีห้องรับแขกเป็นกระจกใส แต่มีม่านสองชั้นมีม่านชั้นนอกหนามาก และมีม่านชั้นในบางๆ ซึ่งปกติ ผมไม่เคยเปิดม่านอยู่แล้วพี่เขามองผม ผมก็มองพี่เขากลับ พี่เขาบอกว่า “เขินเหมือนกัน นะเนี่ย”พี่เขาบอกว่าพอจะดูออกว่าผมเป็นแบบใด และจริงๆ พี่เขารู้จัก “พี่ยศ” ในฐานะรุ่นพี่รุ่นน้องของนักเรียนโรงเรียนรวมเหล่าในงานสังสรรค์ที่จัดขึ้นที่จังหวัดนี้ ผมเลยถามว่าพี่เขาเป็นแบบใดคำตอบก็คือ “ชายแท้ๆ ชอบเงี่ยน และอยากปล่อยน้ำ" และแกบอกต่อว่า เท่าที่แกดูผมมา 2 ปี แกเห็นว่าผมน่าจะไม่มั่วกับคนอื่นๆ เห็นผมมีพี่ยศคนเดียว และถ้าผมมีอะไรกันกับแก ผมน่าจะเก็บความลับได้เก่ง และโอกาสที่เราสองคนจะมีอะไรกันน่าจะทำได้ง่ายโดยไม่มีใครสงสัยเพราะบ้านอยู่ติดกัน พี่เขาบอกต่อไปว่าโดยปกติแล้วเด็กที่เรียนโรงเรียนรวมเหล่า และเด็กที่เรียนโรงเรียนนายร้อยทุกแห่งส่วนใหญ่มีเซ็กส์ได้กับคนทุกเพศอยู่แล้ว ผมเลยบอกว่าเริ่มเลยไหม ผมเองก็บอกตรงๆว่าขาดแคลนมานาน จริงๆ แล้ว ในชีวิตนี้ผมพึ่งมี “พี่ยศ”คนเดียว แกบอกเริ่มเลย ผมเปิดแอร์พี่เขานั่งบนโซฟารับแขก (พี่เขาชื่อ ภาคภูมิ แกให้ผมเรียกว่า “พี่ภาค”) พี่เขาถอดเสื้อออกเผยให้เห็นหุ่นที่ยังฟิตอยู่ พี่เขามีอกกว้าง มีฐานนมชัดเจนแบบคนเล่นกล้าม มีกล้ามแขนหน้าท้องมีซิกแพ็ค มีไรขนอ่อนตั้งแต่ใต้สะดือลงไปลับไปในกางเกงตำรวจ ผมเริ่มปฏิบัติการกับพี่ภาคโดยผมนั่งคุกเขาตรงหว่างขาพี่ภาคด้วยใจเต้นระทึก พี่ภาคไม่รอข้าถอดเข็มขัดและรูดซิบกางเกงตำรวจลงและหลังจากนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ผมผมที่ยืนมือไปจับกางเกงตำรวจแกถอดลงตรงหัวเข่ากางเกงในสีน้ำตาลมันกำลังห่อหุ้มควยดุ้นอวบยาวที่ผมจะดูดกลิ่นอับของควยลอยตีขึ้นจมูกแต่ผมกลับชอบและกระตุ้นอารมณ์ผมอย่างมาก ผมที่ดมไปตามไข่และให้ลิ้นเลียไปตามลำควยของแกที่ตอนนี้แข็งจนดันกางเกงในผมไม่รอช้าดึงกางเกงในของพี่ภาคลงอีกตัวทำให้ควยสีน้ำตาลหัวสีชมพูดีดออกมากจากกางเกงใน“พี่แน่ใจใช่ไหมว่าอยากจะทำแบบนี้” “อือม ดูดควยพี่เลยพี่เงี่ยนสุดๆละ” ผมที่ได้ยินแบบนั้นก็อ้าปากงับและดูดกลืนควยของพี่ภาคเข้าปากที่ละน้อยๆจนดุ้นดูดเข้าออกตามดุ้นความยาวของควยพี่ภาคทั้งดูดไข่และหนังหุ้มไข่จนควยพี่ภาคชุ่มไปด้วยน้ำลายจากปากผม พี่ภาคที่ครางออกมากอย่างพึ่งพอใจตอนที่ผมดูดหัวควยแก“อ้าๆๆๆซิ๊ดดดดดเสียวดีจริงๆ ไม่น่าละผู้พันยศถึงติดใจปากน้องเกมส์”“ อ้าน้องเกมส์ๆๆพี่เสียวควยดูดควยพี่แรงๆเลย”ผมที่ห่อปากรีบก้มหัวดูดควยให้พี่ภาคอย่างเต็มที่พี่ภาคคงทนความเสียวไม่ไหวจับหัวผมและเด้าควยเข้าปากของผมจนบางครั้งผมเกือบสำลักเพราควยแกทิ่มลิ้นไก่ผม“อ้าๆๆๆซิ๊ดดดดน้องเกมส์พี่ไม่ไหวแล้วเสียวควยเหลือเกิน พอก่อนเดี๋ยวน้ำพี่จะแตกแล้ว พอก่อน” แกขยับ ตัวเอาควยขยับออกแกบอกว่าอยากเย็ดมากกว่า ผมถามว่าจะเย็ดที่นี่(คือบนโซฟา)หรือไปที่ห้อง แกบอกว่าไปที่ห้องนอนดีกว่าเพราะกลัวเสียงดังออกไปข้างนอกผมเลยขึ้นไปห้องนอนชั้นบน พอไปถึงพี่ภาคก็บอกให้ผมไปนอนบนเตียง ผมก็ไปนอนรอ พี่ภาคตามมาแยกขาผมออกและพยายามยัดถุงยางใส่ควยใหญ่ยาวของตนเองเข้าไปแล้วใช้โลชั่นทารอบๆ ถุงยางดังกล่าวพี่ภาคเอาควยขนาดใหญ่และยาว เข้าข้างลืบรูของผม แต่มันเข้ายากผมเลยขยับตัวหนีแต่พี่ภาคก็เอาตัวแกมากดทับผมไว้ "ขอเอาเข้าแค่หัวก่อน ทนเอาหน่อย" ผมดิ้นหนีแต่สู้แรงพี่ภาคไม่ไหว ผมรู้สึกว่าหัวควยของพี่ภาคเข้าไปในตัวผม แกก้มหน้ามาดูดนมผมต่อผมพยายามตีที่หัวไหล่ที่แขนเพื่อให้แกเอาออก แต่พอสัมผัสไปโดนเนื้อตัวของพี่ภาคบวกกับกลิ่นกายของพี่เขาจางๆกลิ่นกายของแกดันเร่งเร้าอารมณ์ผม ผมก็ไม่รู้ว่าผมเผลอตัวเผลอใจลูบไล้ร่างกำยำแน่นกล้ามของพี่ภาคไปตอนไหนทำให้พี่ภาคดันควยเข้ามาจนมิด “อ๊าาาาาาาาาา พี่ภาคๆๆๆๆๆผมร้อง” "เป็นไงชอบไหม" พี่ภาคถามเสียงกระเส่า ผมพยักหน้าตอบ เพราะนาทีนั้นผมไม่ไหวแล้วมันเสียวสะใจมากๆ พี่ภาคก็กระเด้าจากเบาไปหนักๆ อั่กๆๆๆๆ ผมลืมตามองภาพในกระจกบานใหญ่ที่ติดไว้ที่ผนังในห้องนอนด้านปลายเตียง ภาพที่ผมเห็นคือร่างกำยำมัดกล้ามของพี่ภาคซึ่งเป็นหนุ่มใหญ่นอนทับบนตัวผม เห็นขาผมที่ฉีกกางออกและเแขนผมที่โอบกอดหลังของพี่ภาค ที่แผ่นหลังมัน แผล่บเลย เหงื่อแตกทั้งๆที่ผมเปิดแอร์ในห้องนอน พี่ภาคกระเด้าแรงมาก"เป็นไง เจอตำรวจเย็ดชอบมั๊ย เทียบกับทหารเป็นอย่างไรบ้าง""ชอบมากเลยครับ พี่จะเย็ดน้องเกมส์ให้รูบานเลยเอาเลย" ผมปลดปล่อยอารมณ์ พี่ภาคได้ใจอุ้มผมเย็ดไปรอบๆเตียง โดยจังหวะที่ร่างผมกระแทกกับหนอกควยแกแกก็คราง "อื้อหือๆๆ"ตลอด "มันชิบหายเลย" พี่ภาคชมผมแล้วพาผมไปบนเตียง คราวนี้พี่ภาคนอนหงายและให้ผมนั่งขย่มควยแกพี่ภาคก็นอนหนุนแขนตัวเอง ยิ่งผมเห็นขนจักแร้พี่ภาคผมยิ่งเงี่ยน ผมก็ขย่มให้สุดแรงและผมก็ถามพี่ภาคว่า "เย็ดกับเมียบ่อยไหม" "ไม่บ่อยหรอก เมียพี่เขาเหนื่อยจากงาน" พี่ภาคตอบ ผมก็ทุบหน้าอกพี่ภาคเบาๆพี่ภาคก็ถาม "ชอบไหม" "ชอบมากเลย" ผมตอบแล้วก้มลงไปเลียรักแร้อีกรอบ กลิ่นใต้รักแร้ของพี่เขาทำให้ผมรู้สึกโคตรเงี่ยนเลยตอนนั้นพี่ภาคคงจะทนไม่ไหว พลิกผมกลับไปอยู่ด้านล่างและกระแทกเสียงดัง ตับๆๆๆๆๆ ผมนี่ตาลอยเลย"แตกเลยนะ" "เอาเลยครับ" พี่ภาคก็ใส่ยับเลยคราวนี้ ผมร้องลั่นยึดแขนพี่ภาคไว้แน่น เหมือนกำลังจะแตกเองเพราะมันเป็นการมีเซ็กที่สะใจที่สุดตั้งแต่ที่ผมเคยเจอมา "ไม่ไหวแล้วครับๆจะแตกแล้วผมร้อง" "เอาเลยยยยยแตกเลย พี่ขอแตกนะ" "เอาเลยครับ แตกเลย" ผมร้อง แล้วพี่ภาคก็กระแทกแรงๆชุดใหญ่ตับๆๆๆๆๆๆๆ ผมเหมือนลอยอยู่บนสวรรค์ แตกแล้ววววว ผมร้อง และพร้อมกับพี่ภาคที่ยัดควยที่ใส่ถุงยางสุดลำ ผมรู้สึกว่ามีน้ำอุ่นๆถึงแม้มันจะอยู่ในถุงยางก็ตาม เราสองคนก็นอนคุยกัน พอเสร็จกิจกรรมพี่เขาขอกลับไปบ้านเพื่อโทรศัพท์หาเมียแกบอกว่ากันเมียสงสัย พอพี่ภาคขอตัวกลับบ้านผมก็เข้าอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไปพี่ภาคก็กลับมาพร้อมกลิ่นหอมของสบู่แสดงว่าแกอาบน้ำแล้วแกพูดอายๆ เมื่อกี้ตัวพี่เหม็นมากใช่ไหมพี่พึ่งออกเวรมา แล้วมาดักรอน้องเกมส์พี่ภาคเล่าให้ฟังว่าสองสามเดือนที่ผ่านมาแกรอโอกาสที่จะมีอะไรกับผมแกเลยออกอุบายให้เมียแกไปเยี่ยมลูกๆ ที่ขอนแก่น คืนนั้นพี่ภาคขับรถไปซื้อของมาทานเป็นอาหารเย็นและถึงซื้อเผื่อสำหรับใช้ทานตอนเช้าพี่ภาคชวนผมไปทานอาหารที่บ้านแกและให้ค้างคืนที่บ้านแก(แกกลัวว่าเมียแกจะโทรกลับมาหาแกอีก) เราสองคนนอนในห้องนอนลูกชายแก คืนนั้นแกให้ผมขึ้นนั่งขย่มแกอีกครั้งและตอนเช้ามืดแกให้ผมดูดควยแกจนแกพ้นน้ำออก หลังจากทานอาหารเสร็จผมก็กลับมานอนที่บ้านผมต่อหลังจากนั้นเราสองคนมีไลน์มีเบอร์มือถือของกันและกัน และแอบมีอะไรกัน ตลอดมา
|