. . เนื้อความตามประวัติศาสตร์ท้องถิ่นเล่ากันแบบปากต่อปากว่าในอดีตเมื่อครั้งกระโน้น มีมิชชันนารีกลุ่มหนึ่งเข้ามาเผยแผ่ศาสนาให้ชาวบ้านละแวกนี้ พร้อมกันนั้นก็พัฒนาชุมชนที่ตนพำนักปักฐานด้วยความรู้วิทยาการฝั่งตะวันตก ผ่านรูปแบบการศึกษาและเทคนิคการแพทย์ บาทหลวงที่เป็นผู้นำชุมชนยุคนั้นมีนามว่า “แมตธิว” ซึ่งภายหลังได้ก่อตั้งโรงเรียนเซนต์แมตธิวและโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ห่างกันนักในชื่อเดียวกัน โดยบุกเบิกตั้งแต่เป็นอาคารไม้ชั้นเดียว ต่อมาก็มีผู้บริหารกิจการผลัดมือเปลี่ยนหน้าไปมาเรื่อย ๆ พร้อมกับพัฒนาสิ่งปลูกสร้างตามยุคสมัย . . อย่างไรก็ดีสาระสำคัญอยู่ที่หลังจากที่ทิพย์ได้รับการขอร้องให้ย้ายที่ทำกินจากโรงเรียนไปอยู่ที่อื่นเนื่องด้วยทางโรงเรียนถูกอิทธิพลของดารินทร์กดดัน ทำเลที่เจ้าหล่อนเลือกค้าขายยังชีพต่อไปก็คือตลาดนัดหลังโรงพยาบาลเซนต์แมตธิว เป็นตลาดนัดคนเดินทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสมีเลนให้เลือกเดินถึงสี่เลน ขายของสากกระเบือยันเรือรบ ทั้งเสื้อผ้ามือหนึ่งมือสอง หนังสือเก่า ของสะสม สิ่งของอุปโภคบริโภค อาหารคาวหวาน ผลหมากรากไม้ อุปกรณ์ช่างฯลฯ ตลาดแห่งนี้มีทั้งส่วนที่เปิดให้เช่าพื้นที่ขายของในวันปกติตอนกลางวัน และส่วนที่เป็นตลาดนัดกลางคืนเฉพาะคืนวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ เหตุผลของทิพย์คือไม่ต้องการอยู่ห่างจากลูกชายมากนัก และผลพลอยได้ที่คาดไม่ถึงก็คือเมื่อคราวเต๋อกระโดดตึกหวังปลิดชีพตัว ความที่โรงพยาบาลอยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนเอื้อให้สามารถนำร่างอันบอบช้ำสาหัสถึงมือหมอได้ทันท่วงที . . . แต่ความเชื่อมโยง ณ ปัจจุบันขณะสำคัญยิ่งกว่า สถานแห่งนี้กลับกลายเป็นกับดักของห้วงความทรงจำ เต๋อซึ่งอยู่ในอาการไร้สติละเมอเพ้อพกเดินวนเวียนหาทิพย์ด้วยความเข้าใจว่าเธอยังมีคงชีวิตและยังขายของอยู่ในตลาดนัดขนาดใหญ่แห่งนี้ กระทั่งอ่อนเปลี้ยและทรุดลงกลางจตุรัสอาณาจักแห่งการจับจ่าย. . . . . . โดยไม่รู้ตัวเลยว่า ตำแหน่งที่เขานั่งอยู่นั้นทำให้ตนเองมีสภาพกลายเป็นเสาส่งสัญญาณที่น่าสะพรึงกลัวที่สุด. . . . .น่าสะพรึงกลัวเกินกว่ามนุษย์ทั่วไปจะหยั่งจินตนาการได้ . . แม้คลื่นโทรจิตมิใช่สสารที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า กระนั้นผู้คนในตลาดนัดบางคนที่มี “สิ่งติดตัว” จำพวกว่าความไหวรู้สึก สัมผัสที่หก ลางสังหรณ์ หรือในชื่อเรียกใดก็ตาม ต่างก็รู้สึกได้ถึงเค้าลางแห่งความน่ารังเกียจซึ่งค่อย ๆ แผ่ซ่านอย่างเงียบเชียบ. . . .คนที่เอะใจก่อน. . .เริ่มคิดว่าบรรยากาศในตลาดนัดชักไม่ค่อยโสภา สาววัยรุ่นคนหนึ่งขอร้องให้แฟนหนุ่มช่วยพาเธอออกไปนั่งเล่นอื่นเนื่องจากอึดอัดจนเวียนคลื่นไส้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอเป็นคนคะยั้นคะยอขอให้แฟนหนุ่มอดทนเดินตลาดนัดเป็นเพื่อน คุณแม่ลูกอ่อนสังเกตว่าลูกชายตัวเล็กในอ้อมแขนดิ้นรนผิดปกติ เมื่อเธอกล่อมก็แผดเสียงร้องไห้ ถัดไปไม่ไกลเป็นบูธขายสัตว์เลี้ยง สุนัขในกรงประสานเสียงเห่าระงมแสดงอาการกระวนกระวายอยากหนีออกจากกรง คงจะไม่ใช่สิ่งผิดแปลกอะไรหากไม่เกิดขึ้นพร้อมกันทุกกรงเช่นนี้ . . . สัญญาณเตือนเหล่านี้ไม่มีลักษณาการเด่นชัดพอที่จะเชื่อมโยงให้คนทั่วไปตระหนักถึงภัยมืดที่กำลังคืบคลานเข้าใกล้ทุกขณะ สิ่งที่คุกคามพวกเขาอยู่เป็นคลื่นพลังงานอันบางเบาแต่แฝงเร้นไว้ด้วยความเกลียดชังจากก้นบึ้งหัวใจ เกือบทุกคนไม่รู้ตัวเลยว่าตนกำลังจะถูกกลืนหายไปกับหมอกเมฆแห่งความชั่วร้าย พ่อค้าร้านรองเท้ามือสองยังคงพูดเชิญชวนลูกค้าแข็งขัน ลูกค้าร้านเสื้อยังชิงไหวชิงพริบต่อรองขอส่วนลดกับเจ้าของร้าน ชายหนุ่มนักแสดงข้างถนนผู้ทาทั่วร่างเป็นสีเงินต่างรูปปั้นเมทัลลิคยังคงยืนนิ่งไม่ไหวกระตุก เรียกความสนใจและค่าชมจากคนเดินผ่านได้เป็นอย่างดี พลวัตทุกอย่างควรก่อเคลื่อนเลื่อนไหวในแบบที่ควรจะเป็น เฉกทุกคราที่ผ่านมา. . . . . . หากแต่วันนี้. . . .ชีวิตของใครหลายคนจะต้องเปลี่ยนไป ความทรงจำของใครหลายคนจะตามหลอกหลอนฉายซ้ำภาพเหตุการณ์. . . . . . . . .ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ . . . . เสียงตะหลิวกระทบกะทะดังเป็นจังหวะน่าเกรงขาม ควันหอมโชยกรุ่น แม่ค้าผัดไทยรสเด็ดบริการอย่างทะมัดทะแมง แถมฟรีรสมือล้ำเลิศ เคียงจานด้วยหัวปลี ถั่วงอก และมะนาวซีกใหญ่เพิ่มรสเปรี้ยวจี๊ดถึงใจ จำนวนลูกค้าทั้งส่วนนั่งทานที่ร้านและคิวรอซื้อกลับบ้านช่วยการันตีตำนานความอร่อยของจอมยุทธ์กะทะร้อนนางนี้อย่างไร้ข้อกังขา ร้านนี้อยู่ทางทิศตะวันออกของตลาดนัด . . . “เจ๊ ๆ เอาเหมือนเดิม” หนุ่มโรงงานเจ้าประจำสั่งห้วนตามประสาคนกันเอง ทุกครั้งเจ๊ผัดไทยจะขานรับรายการเสียงดังฟังชัด แต่คราวนี้เธอกลับก้มหน้าหลบตาคน . . “เป็นอะไรรึเปล่าเจ๊. . .” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงโลเลใจ . . . “ผัดไทยกุ้งสดสองห่อเรอะ. . .กินอยู่ได้ไม่เบื่อรึไง. . .” . . . “เอ้า. . .ทุกทีก็กินแบบนี้ ซื้อสองห่อ กินเองห่อนึงให้แฟนอีกห่อ เจ๊ก็รู้นิ” . . “หึ หึ หึ หึ หึ” เธอก้มหน้าหัวเราะหงึก ๆ แม้ไม่เห็นแววตา แต่ลูกค้าหนุ่มก็สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากล . . “ได้เลย. . .แฟนมาด้วยรึเปล่าล่ะ. . .โทรเรียกแฟนมาซิ” . . “ยืนเลือกแตงโมทางโน้นแน่ะ เดี๋ยวมันก็มา เจ๊มีอะไรจะคุยกับมันเหรอ” เขารู้สึกว่าเจ๊ผัดไทยแปลกไปจริง ๆ ท่าทางเธอดูเพี้ยน ๆ กระนั้นก็แบ่งรับแบ่งสู้ด้วยว่าเห็นแก่อุดหนุนกันมานาน ทางเจ๊ก็เทส่วนผสมลงผัดอย่างรวดเร็วเช่นเคย กลิ่นหอมยั่วน้ำลายกรุ่นฟุ้งหน้าร้าน ชายหนุ่มรู้สึกน้ำลายสอ. . . . . และนี่ไม่ใช่การเปรียบเปรยเกินจริง . . น้ำลายเขาไหลยาวเป็นทางคล้ายเด็กสติไม่สมประกอบ ลูกค้าข้าง ๆ ที่เห็นสภาพดังกล่าวรู้สึกทุเรศจนต้องแกล้งทำเป็นไม่เห็น กลิ่นอาหารรสเลิศกระตุ้นต่อมน้ำลายคนได้ก็จริง แต่คนดี ๆ ที่ไหนจะปล่อยให้ยืดย้อยจนเลอะเทอะเสื้อผ้า . . . “เสร็จแล้ว. . . แต่กูไม่ใส่ห่อให้มึงหรอกไอ้สัตว์” แม่ค้าผัดไทยเงยหน้าขึ้นจ้องลูกค้าหนุ่มอย่างผงาดกร้าว เธอถือว่ารสมือเธอนั้นเจ๋งพอที่จะมีอำนาจต่อรองกับกิเลสของคน และใช้ตะหลิวช้อนผัดไทยกุ้งสดจากกะทะขึ้นมา. . . . . แล้วตักทิ้งกับพื้นหน้าร้าน ลูกค้าที่ต่อแถวอยู่มองอย่างฉงน . . “มึงต้องแดกให้หมด!” . . ลูกค้าหนุ่มโรงงานคลานสี่ขาก้มหัวลงสวาปามผัดไทยรสเด็ดอย่างเอร็ดลิ้นไม่ต่างจากหมาตัวนึง ลูกค้าที่ต่อแถวกันอยู่และคนเดินผ่านหน้าร้านมองอย่างไม่เข้าใจเจือขยะแขยง . . “ไหนมีใครจะแดกอีกอีเหี้ย!” แม่ค้าผัดไทยควงตะหลิวท้า ลูกค้าที่เข้าคิวบางส่วนเริ่มเดินหนี แววตาประหวั่น พวกเขาคิดว่าไม่คนขายก็คนซื้อต้องมีสักคนที่ผิดปกติ ฝ่ายแม่ค้าได้ใจ เดินอ้อมกะทะไปหน้าร้านและใช้ตีนขยี้กองผัดไทยที่ชายหนุ่มกำลังกินอยู่ แต่ชายหนุ่มหาได้ขุ่นเคือง เศษเส้นหมี่ กุ๋ยช่าย ถั่วลิสงที่เล็ดลอดตามง่ามนิ้วและซอกเล็บตีนเขาก็บรรจงเลียให้จนสะอาดหมดจด อาจพูดได้ว่าสะอาดกว่าก่อนเหยียบผัดไทยเสียอีก . . “มึงเป็นหมา! ไม่ใช่คน! อย่างมึงต้องแดกกับพื้นเหมือนหมาข้างถนน ฮ่า ๆ ๆ ๆ” แม่ค้ายืนกอดอกหัวเราะสะใจ โดยมีหนุ่มโรงงานหมอบคลานเลียทำความสะอาดนิ้วเท้าให้เพราะเสียดายอาหารรสเลิศ . . ทันใดในแฟนลูกค้าหนุ่มก็ได้ตามมาในภายหลัง เธอได้เห็นภาพนั้นพร้อมประจักษ์พยานที่ล้อมวงกันวิพากษ์วิจารณ์แม่ค้า-ลูกค้าสติเฟื่อง . . “ต้นทำแบบนั้นทำไม ลุกขึ้นมานะ!?” แฟนสาวปรี่เข้าไปประคองให้แฟนหนุ่มลุกขึ้น แต่แม่ค้าตวาดใส่ “อย่าเสือก!” และถีบทั้งคู่กระเด็นล้มกับพื้น ท่ามกลางเสียงด่าทอว่าเจ๊ร้านผัดไทยว่าบ้าไปแล้ว ตอนนี้ลูกค้าในร้านเธอหนีไปหมดทิ้งไว้แต่เงิน ร้านผัดไทยกลายเป็นประเด็นคำถามร้อนขึ้นมาทันที . . บัดนี้เธอประกาศว่าจะทำของกินที่อร่อยที่สุดในโลก เธอตั้งเตาแก๊สอีกรอบอย่างรวดเร็ว เติมน้ำมัน . . .เอาเก้าอี้มาต่อเสริมความสูง ต่อมาจึง. . . . . ถอดกางเกงใน ถลกกระโปรง และนั่งยอง ๆ รวบรวมพลังจากภายใน . . รูทวารเบิกกว้างออก . . ก้อนขี้สด ๆ สีน้ำตาลตุ่น ๆ ถูกบีบกลั่นเป็นเส้นยาวไม่ขาดช่วงลงกะทะอย่างเหมาะเจาะเหมือนทอดไส้อั่ว เธอขมิบหูรูดรีดเร้นจนของเสียที่กักเก็บไว้ออกมาสุดลำไส้ เกิดเสียงดังฉ่าเมื่อก้อนขี้หล่นลงสัมผัสเหล็กร้อน กลิ่นตุโชยทั่วบริเวณ กลุ่มคนที่นั่งทานก๋วยจั๊บร้านถัดไปเห็นเข้าก็ทนไม่ไหวต้องสำรอกของที่เพิ่งกินเข้าไป . . “เจ๊. . . เจ๊เป็นอะไร!? พอเถอะอย่าทำแบบนี้!!!” “ใครช่วยคุยกับแกทีสิ!” “ไม่กล้าหรอก แม่งบ้าแล้ว!” . ไม่มีใครกล้าเข้าไปห้าม เจ๊บรรจงเติมซอสและเครื่องปรุงรสต่าง ๆ ลงไปผัดกับก้อนขี้ของเธอเอง อุดมด้วยเศษเนื้อ เศษผัก หากสังเกตให้ดีจะเป็นเม็ดข้าวโพดและเมล็ดแก้วมังกรเป็นจุด ๆ ในก้อนขี้เธออีกด้วย แม่ค้าหญิงใช้ตะหลิวยีจนเนื้อมวลแตกยุ่ยคลุกเคล้ากับส่วนผสมอื่นอย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม เมนูนี้กลิ่นพะอืดพะอมชวนคลื่นเหียนเป็นอย่างมากแม้จะทำให้สุกแล้วก็ตาม . . เหตุการณ์นี้เข้าตาสองนักท่องเที่ยวต่างชาติตาน้ำข้าวที่เผอิญเดินผ่านร้านและเห็นเข้าพอดีตั้งแต่แม่ค้าเริ่มนั่งเบ่งขี้ ฝ่ายแฟนสาวขอให้แฟนหนุ่มหยุดดูก่อน เธอคิดว่านี่น่าจะเป็นอาหารบำรุงสุขภาพชั้นเลิศ มีบางอย่างดลใจให้แหม่มสาวใจกล้าเปิดวงล้อมเข้าไปประจัญหน้ากับแม่ค้าวิปริต . . “Excuse me, What’s this?” . . “ดี๊ด อิส ขี้ผัด ยู โน๊! ขี้! ขี้ที่เบ่งจากรูตูดไงไอ้สัตว์ฟังกูรู้เรื่องไหมไอ้หน้าหนังหี!!” . . “Interesting! Most Interesting!? . . . . .H. . .How much?” . . “โปรโมชั่น ฟรี ฟอร์ ยู กู ใจดี คนไทย ใจดี มึงเข้าใจไม๊” และแม่ค้าก็ตักขี้ผัดใส่จานส่งให้แหม่มสาว เธอกล่าวขอบคุณสีหน้าดีใจสุดชีวิต ผู้คนรอบข้างงงชะงักเพราะทีแรกคิดว่าที่ฟุดฟิดฟอไฟใส่กันคือแหม่มสาวจะเข้าไปพูดให้สงบสติอารมณ์หรืออะไรเทือก ๆ นั้น แต่เธอใช้ส้อมตักขี้ผัดเข้าปากคำโต ท่ามกลางเสียงห้ามปรามจากผู้คนส่วนใหญ่ซึ่งสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษไม่ได้ . . “Oh. . .Yummy!!” แหม่มสาวรู้สึกถึงรสชาติที่นุ่มนวลผ่านการย่อยมาแล้ว เธอได้ทานกากอาหารที่ผ่านกระบวนการขับถ่ายจากผู้อื่น เป็นรสชาติแปลกแหวกแนวแต่ก็แฝงด้วยความละมุนละไมยากที่จะบรรยาย เพียงเธอหลับตาเคี้ยว ภาพไร่ข้าวโพดกว้างไกลสุดลูกหุลูกตา ภาพกระจาดแก้วมังกรในตลาดพื้นเมืองก็ผุดขึ้นชัดประดุจว่ามันอยู่ตรงหน้าเธอ เศษอาหารตกค้างนี้ได้ทิ้งเจตนารมณ์แห่งวิถีชนบทอันชวนถวิลหากำซาบทั่วลิ้น สมแล้วกับกิตติศัพท์ที่เธอเคยได้ยินว่าอาหารไทยติดอันดับโลก แม้แต่อุจจาระยังเนรมิตเสกสรรค์ให้อร่อยได้ . . แหม่มสาวกวักมือชวนแฟนหนุ่มลิ้มลองเมนูเปิปพิสดาร ทั้งสองมีความสุขกับจานขี้แสนอร่อยจนลืมโลก ไม่แคร์ว่าคนที่ได้เห็นและต้องอาเจียนมีเท่าไหร่ แต่ที่แปลกยิ่งกว่านั้น มีบางคนเริ่มกลืนน้ำลาย และพูดกับคนที่อยู่ข้าง ๆ ว่าอยากลองชิมบ้าง . . ชาวต่างชาติทั้งสองผลัดกันใช้มือถือถ่ายภาพขณะที่กินขี้และยิ้มเห็นขี้ติดตามซอกฟัน พร้อมชูนิ้วโป้งรับประกันความยอดเยี่ยม จากนั้นจึงอัพโหลดลงเฟสบุ้คโพสข้อความอวดญาติมิตรเพื่อนฝูงที่บ้านเกิดทันที . . ซึ่งได้แต่หวังว่าผู้ที่ได้เห็นภาพและข้อความดังกล่าว ขอจงเข้าใจว่าเป็นเพียงการล้อเล่นเถิด อย่าได้รู้เลยว่าพวกเขาแดกขี้เข้าไปจริง ๆ ทางทิศตะวันตก เกย์เฒ่าคนนึงเกิดกำหนัดเป้าตุงนูนขึ้นมาไม่ทราบสาเหตุ เขาเลือกเดินตามหลังคนอื่นเพื่อมองบั้นท้ายหนุ่ม ๆ ใส่กางเกงแสล็คหรือกางเกงนักเรียนเข้ารูปก้นกล้มกลึง นี่ไม่ใช่การแอบมองธรรมดา แต่เป็นการมองบั้นท้ายผู้อื่นเป็นวัตถุแห่งการจับจ้อง ตาแก่เก็บอาการไม่อยู่ เดินตามหลังมองหนุ่ม ๆ ใส่กางเกงฟิตตูดอย่างหอบหื่นกระหาย จนผู้ได้พบเห็นต่างอนาถระคนสมเพช . . เกย์เฒ่าเดินสำรวจตูดชาวบ้านเรื่อย ๆ จนสะดุดตากับหนุ่มออฟฟิศรูปหล่อท่าทางทะเล้นที่กำลังเลือกซื้อรองเท้าผ้าใบมือสอง โดยมีแฟนสาวยืนเซ็งอยู่ข้าง ๆ หนุ่มคนนี้มีบั้นท้ายกลมได้รูป ตาแก่จ้องรอยกางเกงในเห็นเป็นทรงแนบเนื้อติดแสล็คสีดำประดุจมีดวงตาเอ็กซ์เรย์ เขาจินตนาการว่าหนุ่มคนนี้คงอึดอัดน่าดูที่กางเกงในรัดก้นแน่นเปรี๊ยะขนาดนี้ ไม่ใช่ ก้นของผู้ชายคนนี้ต่างหากที่ผิด มันใหญ่และกลมแน่นเกินกว่าที่กางเกงในจะแบกรับไหว จนบีบรัดแทบล้นปริทะลุกางเกงแสล็ค . . . “บางทีหนุ่มคนนี้อาจเคยเป็นนักรักบี้มาก่อน ทั้งตูด ทั้งน่อง แน่นหนาได้ใจเสียจริง” ตาเฒ่าคิดพลางแกล้งเดินวนเพื่อสำรวจความโค้งเว้าตูดหนุ่มออฟฟิศในมุมต่าง ๆ ขณะเขาเลือกซื้อของ ทั้งด้านข้าง ด้านหลัง และเฉียง ๆ ช่างเป็นตูดที่ฟิตเปรี๊ยะสมบูรณ์แบบอะไรเช่นนี้ ต้องเป็นตูดนักกีฬาแน่นอน แก้มก้นบีบชิด รูตูดมีกลิ่นอับคาวเล็กน้อย . . . “เอ่อ ขอดูไนกี้สีเทานี่ด้วยครับ” หนุ่มออฟฟิศนั่งยอง ๆ ก้มตัวลงหยิบรองเท้ามาพิจารณา และเป็นจังหวะที่ทำให้ตาแก่ได้เห็นขอบกางเกงในสีขาวโผล่พ้นกางเกงแสล็คเนื่องจากเจ้าตัวปล่อยชายเสื้อเชิ้ตซึ่งค่อนข้างสั้นและเข้ารูป เมื่อก้มลงเพียงน้อยก็ทำให้เห็นขอบกางเกงในได้ เขาแทบกดกลั้นไม่อยู่ ควยโด่น้ำซึมทะลุเป้าจนอยากงัดออกมาเสียบตูดชายหนุ่มให้สาแก่ใจ หนุ่มออฟฟิศหน้าทะเล้นไม่รู้ตัวเลยว่าอิริยาบถนั่งยองเลือกของที่เขากระทำอยู่นั้นทำให้ตาลุงตุ๊ดแอบคนนึงกำลังหงี่เพราะเล่นโชว์ทั้งขอบกางเกงในและรอยโค้งเว้าซีกตูดชัดเจน . . แฟนสาวบังเอิญเห็นพฤติการณ์ไม่น่าวางใจเข้าพอดี ด้วยความหึงหวงจึงกรูเข้าไปบอกให้แฟนหนุ่มเอาชายเสื้อเข้ากางเกง แต่ยังไม่เล่าสาเหตุเนื่องจากมองเป็นเรื่องขี้หมูราขี้หมาแห้ง . . . “ชิ เสือกนักนังชะนี” แก่เฒ่ากล่าวอย่างหัวเสียเมื่อหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูปขอบกางเกงในไม่ทัน . . ตาเฒ่าแสร้งเดินไปดูของร้านอื่น จนเมื่อเห็นทั้งสองได้ของถูกใจเรียบร้อยและเดินออกจากร้านไปจึงเดินสะกดรอยตามหลังเงียบ ๆ ทั้งสองไม่รู้เลยว่าตาแก่เดินติด ๆ อยู่ด้านหลัง เฒ่าจอมหื่นใช้มือถือถ่ายรูปตูดหนุ่มออฟฟิศหน้าทะเล้นอย่างแนบเนียน กล้องมีความคมชัดพอสมควรจึงเห็นรอยกางเกงในแนบติดกางเกงแสล็คเด่นชัดไม่ต่างจากมองด้วยสองตา . . เมื่อตาแก่ได้ยลโฉมผลงานที่ตนเพิ่งสรรค์สร้างสด ๆ ก็ระงับอารมณ์ไม่ไหว ผู้ชายอะไรตูดเป็นลูกเซ็กซี่เป็นบ้า เดินไปเดินมาชายเสื้อหลุดอีกแล้ว หมายความว่าถ้าเขาก้มลงอีกรอบก็จะได้เห็นขอบกางเกงในอีกครั้ง แต่ครานี้ตาเกย์เฒ่าอดใจรอโชคเข้าข้างไม่ไหว . . เขายื่นมือออกไปข้างหน้า. . . .แล้วรีบดึงขอบยางกางเกงในชายหนุ่มจนได้เห็นร่องตูดนิดหน่อย เมื่อปล่อยมือ ขอบยางดีดกลับตีเอวดังเผี๊ยะ! . . “เฮ้ย ไรวะ!?” หนุ่มออฟฟิศหันขวับตาขวาง . . “แหะ แหะ ตูดงอนดีจัง” ตาเฒ่ายิ้มกะลิ้มกะเหลี่ยตาหวานเยิ้ม สองมือทำท่าบีบขยำอากาศเป็นก้อนกลม สำรวจวัยขนาดนี้แล้วนับว่าเป็นอากัปกิริยาที่ชวนสังเวชใจเป็นที่อับอายของลูกหลานเป็นอย่างมาก . “ไอ้แก่โรคจิต!” ชายหนุ่มเงื้อมือขึ้นหมายเอาคืน แต่แฟนสาวปรามไว้ “อย่าเลย ท่าทางสติไม่ดี เห็นจ้องพี่ตั้งแต่ตอนซื้อรองเท้าแล้ว. . . ไปเถอะอย่ามีเรื่องเลย” . . “นี่น้องชาย ถามหน่อยสิ เย็ดกับแฟนบ่อยไหม เดือนละกี่หน?” ตาเฒ่าถามยิ้มกริ่ม . แน่นอนว่าใครจะบ้าจี้ตอบตาม. . .แฟนสาวพยายามดึงตัวแฟนหนุ่มปลีกหนีไปจากเจ้าเฒ่าโรคจิต . “หล่อนล่ะนังชะนี?” เกย์เฒ่าเดินตามไปและหันไปจู่โจมฝ่ายหญิงสาวบ้าง “เคยโดนเย็ดสดแตกในไหม รู้สึกยังไงเวลาแฟนหล่อนน้ำแตก เกร็งควยฉีดน้ำว่าวปรี๊ด ๆ ๆ ๆ เข้าหีลึก ๆ รู้สึกร่านไหม? หายคันหีรึเปล่า?. . .” . . คำถามนี้ได้กำปั้นต่างคำตอบ หนุ่มออฟฟิศชกหน้าตาแก่เต็มแรงจนล้มคว่ำ ผู้คนรอบข้างแตกฮือแต่ก็ไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อนนอกจากตั้งท่าเฝ้าดูสถานการณ์เฉย ๆ ฝ่ายหญิงสาวรีบลากตัวแฟนหนุ่มหน้าทะเล้นอารมณ์ดีซึ่งบัดนี้เปลี่ยนเป็นอารมณ์เดือดให้ออกจากจุดเกิดเหตุโดยไวก่อนที่ตาเฒ่าไม่เต็มบาทจะโดนกระทืบซ้ำ . . ในขณะที่ผู้คนล้อมกรอบมองตาเฒ่าจอมประสาทด้วยท่าทีโลเลใจว่าจะช่วยหรือไม่ช่วยดี จู่ ๆ แกก็ลุกขึ้นของแกเองพร้อมเลือดกำเดาอันเป็นผลพวงจากฤทธิ์หมัดสยบตุ๊ดเมื่อครู่ . . “ฮิ ฮิ ฮิ ฮิ” ตาเฒ่ายังไม่สิ้นเดช ลุกขึ้นแหวกวงล้อมไทยมุงเดินเตร็ดเตร่ต่อไป จนพบกับเหยื่อรายใหม่ มองจากด้านหลังหลัด ๆ เป็นคนผิวขาว ร่างสูงใหญ่ บั้นท้ายกลมกลึง ใส่กางเกงแสล็คฟิตเข้ารูปจนเห็นรอยกางเกงในอย่างที่เขาชอบ ที่สำคัญแว่นกรอบดำหนาตัดกับใบหน้าขาวเกลี้ยงทำให้ดูสุขุมนุ่มลึกน่าค้นหา เหมาะแก่การควงแขนชวนเข้าโรงแรมเป็นอย่างยิ่ง. . .ตาเฒ่าไม่รอช้า มุ่งหาเป้าหมายทันที . . . “อูย ตูดเด้งดึ๋งดั๋งเหมือนซาลาเปาแป้งเนียนนุ่ม น่าจับเย็ดเหลือเกิน” ตาเฒ่าคิด และไม่ปล่อยให้เป็นเพียงฝันลม ๆ แล้ง ๆ เขาเหวี่ยงฝ่ามือขยำตูดเหยื่อตรงหน้าทันที เฒ่าตัณหากลับยังไม่หนำใจ ขยี้ ขยำแก้มก้นเหยื่อโดยไม่สนใจสายตาคนรอบข้างที่จับจ้องพฤติกรรมดังกล่าวด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ จะไปใส่ใจทำไมในเมื่อเจ้าตัวเองยังยืนนิ่งให้คลึงเคล้นบีบขยำบั้นท้ายกลมโด่งได้รุนแรงเท่าที่เขาต้องการ. . . . . “ไอ้หนุ่ม ไปนั่งดื่มด้วยกันไหม แฮ่ก แฮ่ก แถวนี้มีโรงแรม ฉันเลี้ยง แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก” ตาเฒ่าหอบรัวระริกด้วยความเงี่ยนจัดไม่ต่างหมาติดสัด . . “ดื่มอะไรดีล่ะครับ. . . . . . . . .น้ำข้าวต้มหรือน้ำเกลือดี?” . . ร่มตั้งพื้นสำหรับกันแดดกันฝนขนาดใหญ่บริเวณใกล้เคียงล้มลงด้วยแรงกระชากปริศนา เข้ากระแทกหัวตาเฒ่าหื่นจนลงไปดิ้นชักกระแด่วคาพื้น . . ธนิกเดินปลีกตัวออกไปโดยไม่ใยดีว่าตาเฒ่าที่ถูกอำนาจโทรจิตครอบงำเป็นตายร้ายดีอย่างไรหรือผู้คนโดยรอบจะแตกผวาหรือไม่ เขาถือว่าคนอย่างตาเฒ่าไม่ต่างจากมนุษย์ติดเชื้อไวรัสจนกลายร่างเป็นผีดิบซอมบี้ซึ่งต้องเด็ดหัวทิ้ง พวกคลุ้มคลั่งสิ้นสติเพราะโทรจิตก็เช่นกัน จะกำราบให้อยู่หมัดมีแต่ต้องเผ่นกบาลแรง ๆ ให้ลงไปนอนแถกเหงือกเท่านั้น เขากวาดตามองฝูงชนอย่างตรึกตรอง ยังไม่พบลักษณาการจำพวกเสียงหวีดร้องหรือเหตุอลหม่าน แสดงว่าสถานการณ์ยังอยู่ในระยะเริ่มต้น แต่อีกไม่นานจะลุกลามเป็นกองฟางติดไฟอย่างแน่นอน และภารกิจของเขาในคืนนี้คือหยุดอาการเทเลพาธิคดิสออร์เดอร์ของเต๋อโดยเร็วที่สุด . . ธนิกยิ้มกริ่มท้าทายประหนึ่งตลาดแห่งนี้เป็นสนามสำหรับเล่นซ่อนหา ค่อย ๆ กระชับกรอบแว่นเข้าสันจมูกอย่างสุขุม . . “. . . .อยู่แถวนี้สินะไอ้เด็กเมื่อวานซืน” # l( i* H6 z) B. i% b
|