. ครูวิไลยืนตัวแข็งทื่อนานจนปวดหัวเข่า เธอภาวนาให้อ้อยหลานสาวผ่านมาพบเข้าเสียที โทรศัพท์มือถือดังครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เธอไม่สามารถรับสายได้ ทางพ่อลูกยอด-เมฆก็ตกอยู่ในสภาพไม่ดีไปกว่ากัน . . “จะเอายังไงดีทีนี้” ยอดเปิดประเด็น . . “มันตายแล้วรึเปล่าน่ะ” วิไลพูดขึ้น . . “ถ้ามันตายแล้วเราจะต้องอยู่แบบนี้ตลอดจนกว่ามีคนมาช่วยเหรอ” เมฆเหลือกลูกตามองยังร่างของเต๋อที่แน่นิ่ง . . ไม่มีใครทราบว่าจะต้องทำอย่างไร ดูเหมือนว่าสถานการณ์บีบให้ทั้งสามเป็นฝ่ายรอฟังผลลัพธ์เท่านั้น . . ท่ามกลางความเงียบอันตึงเครียด เต๋อเปิดเปลือกตาช้า ๆ รับรู้ความเป็นไปรอบตัว ก่อนประคองตัวเองลุกขึ้น . . “แม่. . .” เป็นคำแรกที่เขาเอ่ยปาก เหยื่อทั้งสามได้แต่หุบปากเฝ้ารอดูท่าทีต่อไป . . “แม่ครับ. . .ใครมาทำร้ายแม่. . .ผมไม่ยอม” เขาเริ่มพึมพำกับมุมหนึ่งในห้อง . . “แม่แกตายแล้ว. . .ฉันรู้. . .เลิกปัญญาอ่อนซะที ถึงฆ่าพวกฉันไปแม่แกก็ไม่ฟื้นหรอก” ครูวิไลเอ่ย แต่แววตาเต๋อไร้การตอบสนอง . . “ผม. . .ผม. . .คิดถึงแม่” . . “ใจเย็นลงแล้วใช่ไหม เชื่อป๊ากูเหอะ เอาเงินค่าทำขวัญไป กูสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับมึงอีกตลอดชีวิตเลย” เมฆพยายามเจรจา . . “อีครูนี่บงการทุกอย่าง! มันปั่นหัวตอนเรายังเด็กยังคิดเองไม่ได้! เอาเงินล้านไปนอนกอดให้ชื่นใจแล้วปล่อยกูกับป๊าไป ส่วนอีครูเลว ๆ นี่จะต้มยำทำแกงยังไงตามสบายมึง!” เขาโน้มน้าวย้ำเป็นคำรบสอง . . “ไอ้คนเนรคุณ!!” ครูวิไลด่าเมฆ แต่ไม่ว่าใครจะพยายามเอาตัวรอดหรือแก้ต่างให้ตัวเอง ณ เวลานี้ เต๋อไม่อาจรับรู้ได้แล้ว เขาเยื้องย่างเข้าหาคนทั้งสามช้า ๆ . . “ไป. . .ออกไปให้หมด” คำกระซิบจากเต๋อมอบให้อิสระให้คนทั้งสาม พ่วงด้วยภาวะถูกสะกดจิตอย่างสะเปะสะปะยากจะคาดเดาผลลัพธ์ ครูวิไล เมฆ และ ยอด เดินคอตกออกโรงเก็บของเงียบเชียบ . . “แม่ครับ แม่อยู่ไหน. . .อื๋อ. . .ผมทำอะไรอยู่. . .” เต๋อพูดเองเออเองซ้ำไปมาและเดินวนเป็นวงกลมนับร้อย ๆ รอบอย่างไร้จุดหมาย จนกระทั่งอาการเทเลพาธิคดิสออร์เดอร์ลุกลามจนถึงขั้นถัดไป สมองจึงประมวลผลได้ซับซ้อนขึ้นอีกเล็กน้อย เต๋อเคลื่อนไหวและกระทำการอย่างมีจุดประสงค์ชัดเจนขึ้น . . เขาเดินโต๋เต๋ออกไปอย่างเลื่อนลอย ผ่านไร่สวน และเข้าไปยังบ้านครูวิไล . . “อ้าว คุณ!? ยังไม่กลับอีกเหรอคะ เห็นป้าวิไลไหม” อ้อยเอ่ยปากถามทันทีเมื่อเห็นเต๋อปรากฏกาย . . “ขับรถเป็นไหม. . .” เต๋อเผยอปากครวญช้า ๆ อ้อยถูกอำนาจโทรจิตชอนไชสู่สมองในเสี้ยวนาที . . “ข. . .ขับได้เพคะ คุณท่านจะให้อิชั้นไปส่งที่ไหนดีเพคะ” เธอโน้มตัวถอนสายบัวประหนึ่งผู้สูงศักดิ์อยู่เบื้องหน้า . . “ตึกระฟ้า. . .แม็กซิมิเลียน ทาวเวอร์” . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . หลังจากแจ้งข่าวให้มีนและธนิกทราบเป็นที่เรียบร้อย ณัฐนั่งข่มความว้าวุ่นในใจไว้ เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะพูดอย่างตรงไปตรงมาและทำให้คนเชื่อถือได้ง่าย ๆ ทางแบงค์เองก็ดูจะหนักใจไม่น้อย มีแค่เพื่อนสองสามคนเท่านั้นที่หลอกล่อให้ไปอยู่นอกเขตอันตรายได้ นอกนั้นพร้อมใจกันประสานมติอย่างพร้อมเพรียงกันว่า “ไร้สาระ” . . “จะเกิดเหตุอย่างเดียวกับที่เคยเกิดในตลาดนัด. . .ถ้าพวกเขาไม่เชื่อ. . .ก็คงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ” ณัฐใช้ฝ่ามือทาบใบหน้าแสดงความตึงเครียด . . “อืม เราทำดีที่สุดแล้วว่ะ” แบงค์ยักไหล่ตอบ . . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . อ้อยซึ่งถูกสะกดจิตให้ดำรงตำแหน่งพนักงานขับรถจำเป็น พาเต๋อส่งถึงอาคารแม็กซิมิเลียน ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในเมืองนี้ ด้านบนสุดเป็นภัตตาคารหรูและจุดชมวิว . . “ถึงแล้วเพคะคุณท่าน” อ้อยเดินอ้อมไปเปิดประตูเชิญเต๋อลงมาจากนั้นจึงไปเก็บรถ เต๋อเดินก้มหน้ามองปลายเท้าและบ่นพึมพำตลอดเวลา ท่าทีส่อพิรุธนี้สะดุดตาพนักงานต้อนรับของอาคาร . . “ขอโทษครับ ติดต่ออะไรครับ” พนักงานต้อนรับก้าวฉับ ๆ ออกหน้ารับ . . “แม่. . .” . . . “แม่?” พนักงานขมวดคิ้ว . . “คิดถึงแม่. . .แม่ครับ. . .” เต๋อครวญคำนึง . . “คุณก็คงคิดถึงแม่. . . เหมือนผม. . .ไม่สิ. . .เอ๊ะ. . .เมื่อกี้ผมพูดอะไรนะ. . .” . . พนักงานต้อนรับพิจารณาว่าเต๋อเป็นบุคคลไม่น่าไว้วางใจ จึงตั้งท่าติดต่อฝ่ายรักษาความปลอดภัย อันเป็นจังหวะเดียวกับที่คุณนายผมตีกระบังสูงนางหนึ่งเดินนวยนาดออกจากลิฟท์ . . “ผมก็คิดถึงแม่ที่บ้านนอก” จู่ ๆ พนักงานต้อนรับคนดังกล่าวหลั่งน้ำตาถวิลหาอดีต . . “อายุท่านประมาณป้าคนนี้เลย คิดถึงแม่. . .” พนักงานต้อนรับมองยังไปยังคุณนาย . . “อยากดูดนมแม่จ๊วบ ๆ เหมือนตอนเด็ก ๆ อีกจัง” ว่าแล้วเขาก็กรูเข้าไปบีบนมคุณนาย “ว้าย! อะไรกัน!” คุณนายกรีดร้องตกใจ . . “ขอดูดนมหน่อย! เหี่ยวก็ไม่เป็นไร!! อยากดูดนมแม่!!” พนักงานปลุกปล้ำคุณนายอุตลุด ดูเหมือนฝ่ายรักษาความปลอดภัยที่พนักงานต้อนรับตามตัวมา จะต้องจัดการกับคนที่เรียกมาเสียเอง จังหวะนี้เต๋อเดินตุปัดตุเป๋เข้าลิฟท์กดขึ้นไปยังชั้นดาดฟ้า . . . ประตูลิฟท์เปิดออกอย่างนิ่มนวล ณ ชั้นจุดชมวิว พนักงานต้อนรับสาวสวยเดินหาแขกอย่างรู้งาน . . “ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายจองโต๊ะไว้หรือยังคะ” พนักงานฉีกยิ้มเปี่ยมไมตรีจิต . . “แม่. . .แม่. . .ผมมาหาแม่ครับ” เต๋อตอบหญิงสาวโดยแหงนหน้ามองเพดาน แววตาหลุกหลิก กระนั้นพนักงานผู้อัธยาศัยดีเยี่ยมก็หาได้ถือสา เธอพยายามบริการแขกทุกประเภทอย่างเต็มความสามารถ . . “คุณแม่ท่านชื่ออะไรคะ เดี๋ยวดิฉันจะดูรายการจองให้ค่ะ” เธอถาม แต่เต๋อไม่สนใจ สิ่งที่อยู่ในสายตาเขาตอนนี้คือวงดนตรีออเครสตร้าซึ่งกำลังบรรเลงบทเพลงคลาสสิกกล่อมเกลาให้บรรดาผู้มีรสนิยมสูงส่งได้ละเลียดมื้อค่ำอย่างอิ่มเอมในสุนทรียะอันสุดแสนศิวิไลซ์ . . “แม่ครับ. . .อืม. . .เออ. . .เมื่อกี้ผมพูดอะไรออกไป. . .เอ๊ะ. . .คุณเป็นใคร. . .แล้วผมมาที่นี่ทำไม. . .ไม่ใช่สิ. . .ผมมาหาแม่ถูกแล้ว. . .อืม ๆ ๆ” เต๋อยังคงพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์ เล่นเอาพนักงานผู้ใจเย็นถึงกับขนลุกขนชัน . . . “เอ่อ. . .คุณผู้ชายคะ. . .ดิฉันว่า. . .” พูดไม่ทันจบประโยค เธอก็ถูกอำนาจโทรจิตครอบงำ พนักงานสาวเดินกรีดกรายเข้าไปถอดเสื้อผ้าและเต้นโคโยตี้ส่งเสียงครางอู้วอ้าอยู่คนเดียวในลิฟท์ . . เต๋อเดินผ่านบริเวณภัตตาคารชมวิวไปยังวงดนตรีออเครสตร้า ยามนี้กระแสคลื่นโทรจิตของเต๋อแผ่ซ่านอย่างรุนแรง จิตของบรรดานักดนตรีทั้งวงถูกแทรกแซงในชั่วพริบตา . . ท่ามกลางความงุนงงของแขกผู้ทรงเกียรติในภัตตาคาร เต๋อย่างเท้าสู่กลางวงดนตรีโดยไม่สนใจใคร . . “ต่อจากนี้. . .ผมจะเป็น. . .เป็น. . .วาทยากรให้พวกคุณ” . . . “เพลงอะไรดีครับท่าน” นักไวโอลินถาม . . . “เรควีม แมส อิน ดี ไมเนอร์ (Requiem Mass in D Minor) โมสาร์ท . . .” เขาหลับตาพริ้มชั่วครู่ ก่อนจะเปิดดวงเนตรอีกครั้งพร้อมเปลวแห่งความเกลียดชังและท่วงทีการพูดที่ลื่นไหลคล่องตัวยิ่งขึ้น นักดนตรีขึ้นสายเตรียมบรรเลงอย่างแข็งขันเมื่อตกอยู่ภายใต้คำสั่ง สุภาพบุรุษและสุภาพสตรีลุกจากโต๊ะอาหารยืนจัดเรียงแถวเป็นวงประสานเสียง . . “แม่กับผม. . .ต้องเจ็บมาเท่าไหร่. . .เทวดาอย่างพวกเรา. . .ทำไม. . .ทำไม. . . .” เต๋อหยิบกุหลาบก้านยาวดอกหนึ่งในแจกันประดับโต๊ะสำหรับใช้ต่างไม้บาตอง “ขอมอบบทเพลงนี้ด้วยอาลัย. . .แก่คุณแม่. . .และพวกแก . . มนุษย์ เผ่าพันธุ์ที่ไม่รู้จักถ่อมตัวต่อโลกและชีวิตอื่น” . . “นี่คือเพลงส่งวิญญาณสำหรับพวกแก. . .” 4 D- X r2 L, _) V' M
. .
- g5 U' @$ Y6 K3 x5 K! X- m. . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . พ่อลูกยอดเมฆเพิ่งกลับมาถึงบ้านตน ในหัวเต็มไปด้วยพิษอำนาจโทรจิตโลดที่ได้รับเมื่อเต๋อตื่นขึ้นจากภาวะเทเลพาธิค ดิสออร์เดอร์ขั้นแรก . . “เรากลับบ้านพร้อมกันทำไมครับป๊า” เมฆเอ่ยขึ้น . . “ไม่รู้ว่ะ กูจำได้คลับคล้ายว่ากำลังทำอะไรค้างไว้” ยอดเกาหัวแกรก . . “. . .อะไรอ่ะป๊า ผม. . .คิดไม่ออก” . . “เผี๊ยะ!!” ยอดตบหน้าลูกชายเต็มแรง “มึงก็ช่วยกูคิดบ้างสิไอ้ควายนี่!!” . . “ป๊าตบผมอีกแล้ว!!” เมฆโพล่งขึ้น “ผมทนป๊ามานานแล้วนะ!!” . . “ไอ้พ่อเหี้ย!! ไอ้สัตว์!! ไอ้หัวควยเอ๊ย!!” เมฆชกหน้ายอดเต็มแรง แต่ก็หาได้สะเทือน ผู้เป็นพ่อตั๊นท้องสวนกลับ . . “กูให้มึงเกิดมา!! ดังนั้นกูจะทำอะไรกับมึงก็ได้!! จะฆ่ามึงให้ตายก็ยังได้!!” ยอดคำรามและลากคอเมฆไปยังห้องครัว . . “กูสั่งให้ทำอะไรมึงก็ต้องทำ!!! กูเป็นพ่อมึง!!” ยอดปลดซิปกางเกงออกและชักควยออกมา . . “อมเดี๋ยวนี้!! กูเงี่ยนแล้ว!!” ยอดสั่งเสียงแข็ง . . “กูบอกให้อม!!” ยอดจับหัวลูกชายกดเข้ากับเป้า ลำควยค่อย ๆ พองตัวขึ้นจนไออุ่นแผ่ซ่านแนบหน้า เมฆค่อย ๆ เผยอปากรับเข้าไปในปาก . . “ดีมาก! ไม่อยากโดนกูซ้อมก็ทำตัวว่าง่าย ๆ ซี๊ดดดดดด” ยอดเอ่ยปากชมลูกชายที่กำลังดูดควย ความกระสันต์ไต่ระดับจนต้องกระเด้าปากลูกชายไปด้วย เมฆจินตนาการว่าเขาเกิดมาจากท่อนเอ็นสีน้ำตาลคล้ำเงี่ยงบานท่อนนี้ อออกมาจากรูเยี่ยวที่กำลังดูดเลียอยู่นี้ ดังนั้นหากจะมอบความสุขตอบแทนบ้างก็ไม่เสียหายอะไร . . “ดีมาก อาหหหหหห์” ยอดครวญครางพลางถอดเสื้อกางเกงไปด้วย เมื่อพึงใจระดับหนึ่งแล้วจึงกระชากคอเสื้อลูกชายขึ้นมา . . “ป๊าจะทำไรผม!?” เมฆตกใจ “หุบปากไอ้ลูกเหี้ย!!” ยอดจับเมฆกดลงกับโต๊ะอาหาร ฉีกเสื้อยืดจนเห็นหน้าอกเด่นชัด . . “มึงนี่หล่อฟิตเหมือนกูตอนหนุ่ม ๆ เลยนะ เชื้อไม่ทิ้งแถวจริง ๆ สมแล้วที่กูเต็มใจฉีดน้ำเงี่ยนเข้าหีแม่มึงจนมึงชิงหมาเกิดออกมาจากนรกได้ ไม่เสียข้าวสุกจริง ๆ!!” ยอดลูบเรือนหน้าเมฆอันแสนคมเข้มและดูดชิมหัวนมชมพูใส รูปร่างหน้าตานั้นได้จากพ่อ ส่วนผิวพรรณขาวเกลี้ยงเกลานั้นได้จากแม่ ยอดขบดูดเม้มหัวนมนั้นด้วยกะหาย อย่างเดียวกับที่ทำให้แม่ของเมฆ ลูกชายครางในลำคอ จากนั้นยอดจึงเลื่อนตัวขึ้นไปจูบปาก . . “อาหหห์ ป๊าครับ ผม. . .ผม . . .อืม” เมฆแลกลิ้นกับพ่อบังเกิดเกล้าพัลวัน เขารู้สึกว่าอาวุธส่วนตัวค่อย ๆ ผงาดขึ้นช้า ยอดไม่รอช้าจัดการถกกางเกงเมฆออกพร้อมกางเกงใน เขาก้มลงเอาหน้าซุกไปกับควยลูกชายและใช้ลิ้นทิ่มแยงไปมาทั่วซอกมุม . . “ป๊า. . .ป๊าครับ อูยยย” เมฆยินยอมให้พ่อเล่นควยอยู่เช่นนั้น เมฆเต็มใจอมควยให้ลูกชายและเลียน้ำหงี่ใส ๆ ที่หลั่งจากหัวควย รสชาติทั้งเค็มทั้งนุ่มนวลชวนชิม . . “มึงอยากเอาคืนกูบ้างไหม วันนี้กูจะให้โอกาส” ยอดถามลูกชาย พลางปีนขึ้นไปนอนบนโต๊ะและยกขากางขึ้น . . “เก็บกดมานานไม่ใช่เหรอมึง อยากทำก็เอาเซ่!! เก่งจริงล่อรูตูดพ่อมึงเลย!!” . . “อย่าท้าผมนะป๊า” เมฆกระหยิ่ม . . “กูไม่ได้ท้า กูกางขารอให้มึงเย็ดอยู่นี่ไง!!” ว่าแล้วหนุ่มเมฆก็ค่อย ๆ ยัดลำควยทะลวงเข้าไปในรูตูดของผู้เป็นพ่อ วันนี้เขาจะคืนน้ำเชื้อให้เป็นการแทนคุณบิดา ยอดกัดฟันแน่นทนความเจ็บปวดที่ถูกผู้ชายด้วยกันเปิดซิงรูตูดเป็นครั้งแรก แต่เขาก็ไม่เสียใจเลย เพราะคนคนนั้นคือลูกชายแท้ ๆ ผู้เป็นพ่อย่อมเสียสละให้ลูกได้เสมอ . . “อูววว์ ป๊าครับ ทำไมของป๊ามันตอดควยผมอย่างนี้” เมฆถามขณะเริ่มโยกเข้าออกช้า ๆ. . “ไอ้สัตว์เย็ดไป ไม่ต้องถาม!!” ยอดตะคอกกลับ ลูกชายจึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาเย็ดรูตูดพ่อต่อไป ยอดช่วยให้ลูกชายสุขสมโดยเกร็งขมิบรูตูดเพื่อบีบรัด เขาทราบดีว่าลูกชายเป็นพวกบ้าหี จึงพยายามทำให้รูขี้ตัวเองตอดรัดได้คล้ายหีที่สุด เมฆครางกระเส่าแฮ่ก ๆ เหงื่อกาฬม่วมตัว เขาไม่เคยรู้สึกรักพ่อมากเท่าวันนี้เลย . . เมฆจับยอดก้มโค้งลงแล้วกระแทกรูตูดในท่ายอดฮิตที่นิยมใช้เวลาเย็ดหีสาว วันนี้จะขอเอาพ่อเป็นเมียสักครั้ง . . “แรง ๆ เลยไอ้ลูกชาย!! มึงลูกกู!! มึงต้องเย็ดเก่งไม่แพ้กู โอววว!!” ยอดคำรามด้วยความซาบซ่าน ขณะเมฆขยับบั้นเด้ารัวระริก พลางมองลำควยบวมเป่งผลุบเข้าออกผ่านรูตูดพ่อตัวเอง . . จังหวะเดียวกับที่แม่ของเมฆกลับมาบ้านพอดี เธอแง้มประตูครัวเข้ามาเห็นถึงกับต้องปิดปาก พ่อลูกที่เสพสมกันอยู่ไม่รู้ตัวว่าแม่และเมียของตนรับรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว เธอทรุดตัวลงตรงนั้น ปากสั่นระริก ราวกับอยากจะพูดอะไรออกไปแต่แรงโน้มถ่วงรอบตัวมันหนักเสียจนทำอะไรไม่ได้นอกจากลงไปนั่งกองกับพื้น . . เธอพยายามดันตัวเองขึ้นแม้จะรู้สึกว่าแข้งขาหนักดุจมีลูกเหล็กถ่วงไว้ ค่อย ๆ ประคองตัวออกไปจากจุดเกิดเหตุอย่างทุลักทุเล หัวใจสั่นรั่วเจียดทะลุออกจากอก . . “ป๊า! ผมเย็ดเก่งเหมือนป๊าไหม!!” เมฆถามขณะกำลังซอยถี่เต็มพิกัดในท่าสุนัข . . “เยี่ยมมากไอ้ลูกชาย แตกคารูตูดพ่อมึงเลย!!” ยอดตอบรับขณะใช้มือสาวควยตัวเองจนใกล้ถึงจุดหมาย . . “โอววววว!!” เมฆหลับตากัดฟันพร้อมกระแทกบั้นเด้าส่งแรงฮึดสุดท้ายพร้อมปล่อยน้ำเชื้อสายพันธุ์เดียวกับพ่อพรั่งพรูออกมาคารูดาก ขณะที่ยอดก็เสียวจนต้องหลั่งพรมน้ำว่าวลงโต๊ะกินข้าว . . . “มึงนี่สุดยอดจริง ๆ ไอ้ลูกรัก” ยอดนอนกอดกับลูกชายบนโต๊ะและลูบไล้แก้มอย่างทะนุถนอม เขาคิดว่ามีลูกชายที่ทั้งหล่อน่าเอ็นดูและเย็ดเก่งขนาดนี้เป็นศรีแก่ตัวอย่างหาที่สุดมิดได้ ต่อไปนี้จะไม่ใช้ความรุนแรงกับลูกชายอีก . . ทว่าน่าเสียดาย คงไม่มีโอกาสได้ทำตามปณิธานที่ตั้งไว้. . .ตลอดกาล . . แม่ของเมฆเปิดประตูครัวเข้ามาอีกครั้งพร้อมปืนลูกซอง ใบหน้าแดงก่ำด้วยน้ำตาแห่งความผิดหวังและบูดเบี้ยวไม่เป็นรูปด้วยความโกรธแค้น ไม่สามารถบอกได้ว่าตัวสั่นด้วยหัวใจแตกสลายหรือโทสะกำลังจะระเบิดออกมากันแน่ . . “ทำอย่างนี้ทำไม. . .” เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ . . เพราะยังไม่มีใครได้ทันขอโอกาสให้คำอธิบาย เธอก็สาดกระสุนลูกปรายมรณะใส่สามีและลูกทันที . . เมื่อเห็นว่าทุกอย่างปราศจากการเคลื่อนไหวแล้ว เธอจึงจ่อคางตัวเองและเหนี่ยวไกตามไป . . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . ครูวิไลนั่งในรถแท็กซี่พร้อมชวนคนขับคุยไปด้วย เธอบอกความต้องการว่าอยากขับรถวนแล่นรอบเมืองสักรอบและยินดีให้ค่าตอบแทนล่วงหน้าในราคาสูงลิ่ว โชเฟอร์จึงน้อมรับแต่โดยดี แท้จริงแล้วเธอแอบเอามือสอดใต้กระโปรงใช้นิ้วเบ็ดหีตัวเองอยู่ในเบาะหลัง ความสุขของเธอคือได้มองไปตามข้างทาง จะเป็นเด็กหนุ่มวัยเรียน ผู้ชายวิ่งออกกำลังกายรอบสวนสาธารณะ หนุ่มออฟฟิศ หรือคนเดินถนนทั่วไปหน้าตาน่ารักน่าชังก็ช่วยให้เธอสุขกับการเกี่ยวเบ็ดยิ่งขึ้น และสิ่งที่น่าท้าทายคือ พฤติกรรมทั้งหมดนี้โชเฟอร์สังเกตไม่ออก . . รถเบนซ์สีเงินด้านหลังรถที่ครูวิไลนั่งส่งสัญญาณบีบแตรลั่นดุจไม่ได้ดั่งใจ เมื่อโชเฟอร์หันไปจึงเห็นคนขับเป็นสตรีสวยสง่าวัยกลางคนตีหน้าตาถมึงทึง . . “ฮ่วย คนสวยหน้ายักษ์” โชเฟอร์แซว . . “แม่คะ บีบดังไปหน่อยรึเปล่าคะ” เด็กสาววัยมัธยมปลายในรถเบนซ์หรูเอ่ยกับผู้เป็นแม่ซึ่งได้รับสารพิษตกค้างจากคนไข้งี่เง่าน่ารำคาญตลอดวัน . . แพทย์หญิงผู้เป็นแม่ไม่ตอบสนองคำทัก แต่กลับชูประเด็นใหม่ที่ตนใคร่สนทนา . . . . “แต่หนูอยากไปว่ายน้ำกับเพื่อนนี่คะ” ลูกสาวตัดพ้อ . . “ลูกแคทคะ เล่นน่ะเมื่อไหร่ก็เล่นได้ แต่บุญ ศีล ภาวนา ถ้าไม่หมั่นฝึกหมั่นสั่งสมไว้ ตายไปไม่มีอะไรติดตัวนะลูก” เธอตอบเสียงเรียบ . . “ตายไปก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้อยู่แล้วนี่คะ” ลูกสาวแย้งด้วยเสียงที่พยายามดัดให้ฟังรื่นหูผู้ใหญ่ที่สุด . . “ยกเว้นดวงจิตที่บริสุทธิ์ไงจ๊ะ จะทำให้เราได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดี. . . เอ๊ะ ทำไมป่านนี้รถยังติดอีกเนี่ย. . . แย่ชะมัด” ว่าแล้วแพทย์หญิงก็หักพวงมาลัยเลี้ยวไปอีกเส้นทาง เธอจุ๊ปากหัวเสียเพราะเป็นทางลัดที่เธอไม่ใคร่ผ่านถ้าไม่จำเป็น แต่เห็นทีเวลานี้คงไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ . . ถนนเส้นนี้รายเรียงด้วยแหล่งอโคจร ทั้งบาร์เหล้า อาบอบนวด ผับ สารพัดความบันเทิงสำหรับนักท่องราตรี แพทย์หญิงชายตามองเห็นหญิงบริการชูป้ายเชิญชวนลูกค้า แลคนดื่มเหล้าเบียร์ควงแขนเต้นรำกันสนุกสนาน . . “นี่ไงแคท ลูกดูตัวอย่างคนประมาทพวกนี้ ตายเมื่อไหร่หนีไม่พ้นเปรต อสูรกาย โชคดีหน่อยคงได้เกิดเป็นสัตว์ พวกนี้ตอนมีชีวิตเอาแต่มัวเมาตักตวงความสุขใส่ตัว ไม่รู้จักถือศีลเข้าวัด ตายไปจะรู้ว่ารักสนุกทุกข์ถนัดมันเป็นยังไง” . . “แม่ไม่ได้แช่งเขาใช่ไหมคะ” แคทถาม . . “แน่นอน ไม่ได้แช่ง มันเป็นกฎธรรมชาติอยู่แล้ว ทำอย่างไรต้องได้อย่างนั้น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” . . “หนูสังเกตหลายครั้งแล้ว ทำไมเวลาแม่พูดถึงคนกลุ่มนี้ แม่ต้องใส่อารมณ์ด้วยคะ เหมือนแม่เป็นเดือดเป็นร้อนแทนชีวิตเขา. . . . . . . . .แต่เขาไม่ได้ทุกข์ร้อนไปกับแม่เลย” . . . “แคท! ลูกพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง!! นี่ลูกแขวะแม่หรือ!!” เธอขึ้นเสียง . . “ถ้าแม่บอกว่านุ่งขาวห่มขาวนั่งวิปัสสนาแล้วทำให้จิตใจสงบเย็น แล้วที่เป็นอยู่นี่เรียกว่าอะไรคะ หนูก็เบื่อเหมือนกันนะคะ” . . “นี่! พูดหยั่งงี้ได้ไง! เถียงพ่อเถียงแม่กรรมหนักนะ!!” แพทย์หญิงเลียบรถจอดข้างทางเพื่อตักเตือนลูกสาว . . “เมื่อก่อนคนไข้จะสูงต่ำแค่ไหนแม่ก็ยิ้มให้เขาเท่ากันทุกคน หนูชอบแม่เวลามองคนด้วยสายตานั้นมากกว่า ตอนนี้แม่เริ่มเปลี่ยนไปแล้วรู้ไหมคะ” . . “ยัยแคท!” แพทย์หญิงตีแขนลูกแรงเอาการ แคทผลุนผลันเปิดประตูหนีออกไปด้วยน้อยใจ . . “แคท! กลับมา! อย่าเดินในที่แบบนี้ ใครเห็นเข้าจะคิดยังไง แม่จะเอาหน้าไว้ไหน!!” เธอรีบลงจากรถตามลูกสาวไป . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . . . แทน จตุรเทพข้าวหลามตัดและสมุนน้อยใหญ่นั่งร่ำสุราเคล้านารีในสถานบันเทิงใต้ดินแห่งหนึ่งซึ่งเปิดแต่หัวค่ำ สาวนั่งดริ้งค์วัยรุ่นในชุดวาบหวามหลายคนรายล้อมแกงค์นักเลงนักเรียน เป็นที่รู้กันว่าพวกของแทนแม้จะยังอยู่ในวัยเรียนแต่กระเป๋าตังค์หนาพอที่จะนั่งร้านแบบนี้ จนเจ้าของร้านไว้ใจ ยิ่งไปกว่านั้นยังกำชับให้เด็กในสังกัดบริการเต็มที่อย่าให้ขาดตกบกพร่อง . . ต๊ะติดสอยห้อยตามแทนมาด้วย เนื่องจากแรงศรัทธาและความพิศวาสส่วนตัว จริงอย่างที่เอฟเคยพูดไว้ว่า ต๊ะไม่มีวันหนีตัวเองพ้น เพราะตั้งแต่ย้ายมาอยู่โรงเรียนช่างกลแล้วอาการหลงรักชายผู้มีลักษณะพ่อพันธุ์ที่สมบูรณ์ก็ไม่มีทีท่าลดน้อยถอยลง บ่อยครั้งต๊ะต้องจินตนาการว่าถูกแทนกระซวกประตูหลังอย่างดุเด็ดเผ็ดร้อนขณะช่วยตัวเอง เป้าที่นูนเด่นเป็นสง่า ผิวหน้าหล่อเหลาสะอาดเกลี้ยง ทว่าทั้งตัวและสันดานกลับโชกโชนไปด้วยความดิบเถื่อนในแบบฉบับลูกผู้ชายเลือดร้อน . . “มานี่เด๊ะไอ้ต๊ะ” แทนเรียกรุ่นน้องหน้าละอ่อนเข้ามาใกล้ ๆ . . “เดี๋ยววันนี้กูจะพามึงขึ้นครู . . .เคยยังวะ” แทนกระซิบถาม ต๊ะทั้งดีใจที่รุ่นพี่ในดวงใจจำชื่อตนได้และตกใจในคราเดียวที่แทนยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด เขาเคยร่วมรักแล้วกับเอฟแฟนเก่าโดยที่ตนเป็นฝ่ายรับ แต่จะพูดออกไปว่าเคยมีประสบการณ์กับผู้ชายแล้วก็คงไม่เป็นการดีกับตัวเองนัก . . “ยังครับ. . .” ต๊ะตอบเสียงเบา แต่แทนกลับช่วยขยายเสียงให้เกินความจำเป็น “อะไรนะ. . .ยังไม่เคย!!! หัวเปิดรึยังมึงน่ะ!! ฮ่า ๆ ๆ เดี๋ยวกูจัดสาวให้” ว่าแล้วแทนก็ปรบมือสองสามแปะส่งสัญญาณเรียกสาวสวยในสังกัดมาหนึ่งคน . . “อีต่าย กูวานสอนเด็กมันให้โตเป็นหนุ่มหน่อย ค่าน้ำชามาเอาที่กู” แทนหันไปพูดกับสาวนั่งดริ้งค์ที่จัดมาให้ต๊ะ . . แต่ต๊ะอึดอัด เขาจะรู้ไหมหนอว่าสิ่งที่ปรารถนาคือท่อนลำของลูกผู้ชายอกสามศอกอย่างแทน หาใช่รังไข่อิสตรี ต๊ะพยายามบ่ายเบี่ยงไปมา ขณะที่แทนซึ่งเมาได้ที่พยายามเชียร์ให้ฮึกเหิมปน ๆ ไปกับปรามาสว่าอย่าขี้ขลาด . . ในที่สุดต๊ะก็คิดอุบายขึ้นได้ เขาเสนอว่าอยากนอนกับผู้หญิงที่แทนเล็งไว้แล้วต่างหาก และอยากลองให้พี่แทนสอนลีลาให้ชนิดตัวต่อตัว นั่นหมายถึงหญิงหนึ่งชายสอง . . “มึงพูดเหี้ยอะไรนะ?. . .” แทนกระแทกแก้วเหล้าลงโต๊ะ แม้เพลงในร้านจะส่งเสียงดังแต่เสียงปึงปังของแทนนั้นดังกว่าและทรงประกาศิตยิ่งกว่า ทุกคนหันมามองเป็นสายตาเดียวอย่างกริ่งเกรง . . ต๊ะใช้น้ำเย็นเข้าลูบ เขาอ้างว่าได้ยินกิตติศัพท์ว่าพี่แทนท่วงท่าเด็ดดวง ขนาดใหญ่โตโอฬารกระชากใจสาว ๆ หากแทนให้เกียรติเป็นติวเตอร์ให้ก็คงเป็นบุญอย่างล้นพ้น . . “ปากหวานนะมึง. . .ไอ้น้องชาย” แทนขยี้ผมต๊ะอย่างเอ็นดู เขากระดกเหล้าอีกสองแก้วเพื่อเพิ่มดีกรีความเร่าร้อนในเส้นเลือดแล้วจึงลุกขึ้นจูงมือเด็กที่ตนหมายไว้ เตรียมขึ้นไปห้องส่วนตัวชั้นบน . . “ตามมาดิวะ. . .อย่าเซ่อ” แทนหันไปเรียกต๊ะ เด็กหนุ่มดีใจเนื้อเต้นเมื่อได้รับอนุญาต . . . ในห้องรับรองแขก สาววัยรุ่นผิวงามผุดผ่องผู้ให้บริการขอทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำชั่วครู่ ขณะที่แทนและต๊ะนั่งดวดเหล้ากันพอเป็นกระสัย ทั้งคู่ถอดเสื้อผ้ารอฝ่ายหญิง เหลือเพียงกางเกงในติดตัว ต๊ะต้องทนต่อแรงปราถณาที่จะเข้าไปลูบไล้เรือนร่าน และแผ่นหลังที่มีรอยสักนกฟินิกส์แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือเป้ากางเกงในสีดำของแทนนั้นช่างนูนโป่งเย้าสายตา จนต๊ะต้องเก็บอาการไม่ให้ของขึ้นผิดที่ผิดเวลา . . “ทำไมมึงกล้าจังวะ ตัวแค่เนี๊ยะ . . .ไม่อายไงวะ” แทนถามขณะส่งแก้วเหล้าให้รุ่นน้องชง . . “ผมนับถือพี่นานแล้ว ผมอยากเท่แบบพี่แทน อยากทำได้อย่างพี่แทนทุกอย่าง” ต๊ะตอบอย่างเอาใจพลางชงเหล้าไปด้วย . . แทนส่ายหัว. . .“ถึงมึงจะเลียนแบบกูได้แค่ไหน สุดท้ายมึงก็เป็นมึง ไม่ใช่กู. . . .” เขารับแก้วเหล้าจากต๊ะ “คนเราเท่ได้ในแบบตัวเองทุกคนเว้ย” แทนกระดกเหล้าเข้าปากตาม . . “ขนาดเพื่อนม.ต้นที่กูเคยแกล้งจนหงอ วันหนึ่งมันยังกล้าลุกขึ้นมาเอาคืนกับคนที่เคยทำมันจนคนกลัวหัวหดไปทั่ว แม่งบ้า กล้าท้ากูต่อยด้วยนะไอ้สัตว์ ฮ่า ๆ ๆ ผ่านมาตั้งกี่ปีแล้ว” . . “พอมันล้มกูถึงไม่ซ้ำมันไงล่ะ อดีตมันเคยทุเรศช่างหัวแม่ง ตอนนี้ถือว่าแม่งเท่ใช้ได้” แทนตักกับแกล้มเข้าปากพร้อมพร่ำสอนรุ่นน้องไปด้วย . . “มึงก็เหมือนกันไอ้ต๊ะ ถ้ามึงเก๋าพอตัว อีกไม่กี่ปีคงได้แทนที่กู ถึงตอนนั้นมึงจะภูมิใจได้ไงวะ ถ้ามีคนชมมึงว่าเท่เหมือนถอดแบบจากกู. . . .” . . “ให้น้องมันนับถือเพราะว่าเป็นตัวมึงสิ” . . ต๊ะก้มหน้าครุ่นคิด จังหวะเดียวกัน สาวนั่งดริ๊งค์หรืออีกด้านหนึ่งของเธอคือหญิงบริการก็เปิดประตูออกจากห้องน้ำ นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวเตรียมพร้อม ทั้งสองหนุ่มรอคอยอยู่แล้ว . . “ไปได้แล้วไอ้ต๊ะ เดี๋ยวกูสอนให้” แทนปิดขวดเหล้าส่งสัญญาณ หญิงสาวนอนรอบนเตียง . . “มึงไปลองดูดปากเค้าก่อน ดูว่ากูทำยังไงแล้วจำไว้” ลูกพี่หนุ่มชี้แนะรุ่นน้อง ต๊ะยอมฝืนใจแลกลิ้นกับผู้หญิง ขณะเดียวกันก็เหลือบตามองเห็นแทนกำลังไซร้ตามเรือนร่างหญิงสาว ดูดยอดปทุมถันเต่งตึง ต๊ะสังเกตเป้ากางเกงในของแทนเริ่มนูนโด่งขึ้นเป็นลำพาดยาว นี่ต่างหากคือสิ่งที่ประสงค์จนถึงกับยอมเปลืองตัว . . “อา. . . .” หญิงสาวบิดครางเมื่อแทนลงลิ้นลงร่องสวาท ขณะที่ต๊ะต้องจำใจดูดนมผู้หญิงตาม แต่เพียงเท่านี้ก็คุ้มแล้วที่ได้เห็นหนังสดที่พระเอกในฝันเป็นคนเล่นให้ดูต่อหน้า และต่อมาก็ต้องดูดเลียหีให้สาวเจ้าเช่นกัน ต๊ะรู้สึกกระอักกระอ่วนจนคลื่นไส้แต่ต้องฝืนทำตัวเป็นคนไม่มีปัญหา เพื่อก้าวบันไดไปสู่ขั้นที่สูงกว่าและสูงกว่าไปเรื่อย ๆ . . ต่อมาหญิงสาวคุกเข่าลงและขอให้สองหนุ่มยืนขนาบข้าง เธอรูดกางเกงในของทั้งสองออก และจัดการดูดควยให้สลับไปมา ต๊ะหลับพริ้มพึงใจเมื่อได้เห็นลำควยของพี่แทนในดวงใจ ช่างโอฬารสมกับเป็นคนตัวสูงใหญ่ หัวสีน้ำตาลคล้ำบ่งบอกว่าผ่านศึกมาอย่างโชกโชนพอ ๆ กับรอยแผลตามตัว ช่างสมเป็นชายชาตรี . . “ชอบไหมมึง” แทนเอ่ยปากถามน้องขณะถูกดูดควย ต๊ะได้แต่พยักหน้าเงียบ ๆ ยอมให้หญิงสาวบรรเลงเพลงโอษฐกาม เขาอยากบอกเหลือเกินว่าควยพี่แทนที่หัวบานเป็นดอกเห็ดขนาดสากกระเบือต่างหากที่กระตุ้นอารมณ์เขา ถ้าไม่กลัวโดนตีนอยากถีบชะนีลงจากเตียงแล้วโม้คควยให้พี่แทนด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ทั้งจินตนาการส่วนตัวบวกกับความเสียวที่หญิงบริการมอบให้ทำให้ควยต๊ะแข็งเต็มที่พร้อมใช้งาน . . หญิงสาวสวมถุงยางให้สองหนุ่ม . . “มึงก่อนเลย กูเคยกับน้องเขาแล้ว” แทนเพยิดหน้าบอกเชิง . . “นอนลงสิคะน้อง” หญิงสาวจับต๊ะนอนลงแล้วนั่งคร่อม ช่างเป็นความเสียวที่แปลกใหม่สำหรับเด็กหนุ่ม เขาไม่เคยลองกับผู้หญิงมาก่อนเลย ขณะเดียวกันแทนก็ยืนกางขาให้หญิงบริการดูดควยไปด้วย ต๊ะจึงได้เห็นพวงกระโปกใหญ่เป็นไข่เป็ดแกว่งไกวไปมาช่วยเร่งเร้าอารมณ์เสน่หา . . ต่อมาสาวบริการเสนอให้ลอดยัดสองท่อนเข้าในรูเดียว . . “เจ๋งมากชะนี!!” ต๊ะคิดในใจ ไม่รู้ว่าเธอได้ไอเดียนี้มาจากไหน รู้แต่ว่ามันช่างยอดเยี่ยมจนยากจะสะกดกลั้นความคึกในใจให้เป็นปกติได้ เมื่อสอดเข้าไป ลำควยของแทนและต๊ะเสียดสีเบียดกันอยู่ในรูหีอย่างแนบแน่น ทั้งสามทำกันบนโซฟา โดยต๊ะอยู่ล่างสุด หญิงบริการคั่นกลาง และแทนกางขาเย็ดอยู่บนสุด เด็กหนุ่มแหงนจ้องใบหน้าอันเปี่ยมสุขสุดเสียวของหนุ่มแทนขณะกระหน่ำรักถี่ยิบจนเหงื่อท่วมตัวกลิ่นสาบชายคละคลุ้ง ซ้ำยังฉวยโอกาสแกล้งทำเป็นจับควยให้เข้าที่โดยมือได้แอบลักสัมผัสถุงไข่แทนที่ห้อยไปมาขณะเย็ด สัมผัสจากแก่นกายลูกผู้ชายแมนดิบเถื่อนอย่างแทนผ่าวร้อนกว่าช่องคลอดเป็นไหนๆ เขาจินตนาการภาพภายในว่าลำควยของเขากับลูกพี่สุดที่รักจะแนบชิดถูไถกันแค่ไหน เพียงแค่คิดก็เสียวจนไม่อาจยับยั้งไว้ได้ ต๊ะใกล้ถึงสวรรค์นำแทนล่วงหน้า . . “พี่แทนครับ ผมรักพี่!!” ต๊ะคิดในใจก่อนพรั่งพรูน้ำรักคาถุงยาง ไม่นานนักแทนก็เร่งจังหวะตามไปติด ๆ . . “อาหหหหห์!!” แทนเกร็งควยกระแทกแรง ๆ ทิ้งท้ายก่อนปลดปล่อยน้ำเชื้อออกมาตุงถุงยาง . . หลังเสร็จกิจ แทนขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนเพราะปวดฉี่ ขณะที่หญิงบริการอยากรีบใช้ห้องน้ำเช่นกันจึงขอตัวออกไปเข้าห้องน้ำด้านนอก ต๊ะใช้โอกาสที่อยู่คนเดียวนี้หยิบกางเกงในแทนซึ่งเลอะคราบน้ำหงี่และอับด้วยกลิ่นสาบเหงื่อขึ้นมาดมและเลียเป็นที่ระลึก ก่อนจะหยิบถุงยางของแทนในทั้งขยะมาแกะปมที่มัดไว้ออก . . เขาแหงนหน้าและเทน้ำว่าวข้นคลั่กแทนไหลย้อยลงสู่ปาก กลืนกินทุกหยาดหยดอย่างไม่ลังเล หวังว่าเชื้อลูกผู้ชายเลือดนักเลงของแทนจะซึมซาบเข้าสู่จิตวิญญาณของเขา ในอนาคตเขาต้องขึ้นไปอยู่ตำแหน่งเดียวเช่นเดียวกับแทนให้ได้ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เขาทราบดีว่าไม่มีวันสมหวังในความรักกับแทนอย่างแน่นอน แค่ได้ใกล้ชิดขนาดนี้ก็นับว่าเป็นประสบการณ์ที่ทรงคุณค่าตราตรึงไว้ในส่วนลึกของหัวใจ . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . แทนและต๊ะอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยและทั้งสองกำลังแต่งตัวอยู่ จู่ ๆ เสียงคนหวีดร้อง เสียงโครมครามก็ดังขึ้นจากชั้นล่าง ซึ่งอาจเป็นเรื่องปกติหากพบการทะเลาะวิวาทในสถานบริการบ้างพอเป็นสีสัน แต่ยังมีเสียงที่คล้ายคลึงกันแว่วมาแต่ไกลอีกเป็นระลอก . . และต่อมาก็ไฟดับ . . “เฮ้ย! เชี่ยไรวะ!” แทนสบถท่ามกลางความมืด . . “ไฟดับได้ไง” ต๊ะพูดพลางมองไปรอบกาย พยายามปรับสายตาให้ชินกับความมืด จากนั้นจึงค่อย ๆ คลำหาโทรศัพท์มือถือและเปิดไฟหน้าจอใช้ต่างไฟฉาย ทั้งสองเดินลงมาชั้นล่าง . . พรรคพวกของแทนเหลือแค่สามคน ที่เหลือเกือบสิบหายไปไหนไม่มีใครทราบ หญิงบริการจับกลุ่มคุยกันด้วยสีหน้าประหวั่นพรั่นพรึง จุดเทียนไขวางเรียงรายพอให้มองเห็นว่าใครเป็นใคร . . “จู่ ๆ คนก็ลุกขึ้นหัวเราะแล้ววิ่งเตลิดออกไปเลยพี่ พวกที่เอากันอยู่ชั้นบนก็วิ่งแก้ผ้าออกจากร้านไปเลย” หญิงบริการนางหนึ่งเอ่ยขึ้น . . “เจอผีหลอกเหรอ” อีกคนแสดงความเห็น . . “ไร้สาระน่านังบ้า” . . ไม่ทันไรเสียงกรีดร้องก็แว่วมาอีกครั้ง สันนิษฐานว่ามาจากร้านถัดจากนี้ไปสองสามคูหา . . “พวกไอ้เป๋า ไอ้เอ้ แม่งวิ่งออกไปไหนไม่รู้พี่แทน” สมุนคนหนึ่งรายงาน . . “เกิดเชี่ยไรขึ้นวะ กูรู้สึกเป็นลางว่ะ. . .” แทนจุดบุหรี่สูบ . . “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด!! โอ๊ยยยยยยย!!” เสียงโหยหวนดังกล่าวดังเข้ามาถึงร้าน ทุกคนหันไปมองเป็นสายตาเดียว . . ชายสวมเสื้อกั๊กวินมอเตอร์ไซค์สี่คนบุกเข้ามาในร้านพร้อมหญิงสาว แบ่งกลุ่มย่อยเป็นบุรุษสองต่อสตรีหนึ่ง คนหนึ่งถูกดึงแขนเข้ามา อีกคนถูกจิกผมลากถูลู่ถูกัง . . “ยืมห้องน้ำเย็ดแป๊ปเดียว!!” ชายคนหนึ่งพูดขึ้น . . “ปล่อยลูกฉันนะไอ้พวกเลว!!” เสียงผู้หญิงที่ถูกจิกหัวตะโกนลั่น . . “หุบปากอีดอกทอง!” เธอถูกตบฉาด “อ๋อ. . . เป็นหมอเหรอ” เขาสังเกตจากเสื้อกาวน์ . . “ ดี! กูอยากเอาน้ำว่าวไพร่ ๆ ฉีดใส่รูหีอีผู้ดีจองหอง เหม็นขี้หน้าคนชูคอเป็นหงส์อย่างพวกมึงมานานแล้ว อยากรู้จะสะใจแค่ไหน” . . “เฮ้ย! อะไรกันวะ!” แทนตะโกนถามในความมืดสลัว รู้สึกว่ามีคนช่วยกันแบกผู้หญิงที่กำลังร้องไห้หลบเข้าห้องน้ำไป . . “แคท!! ลูกแม่!!” แพทย์หญิงร้องสุดขาดใจ แต่ถูกตุ๊ยท้องจนจุก “ดูซิ เรียนสูง ๆ แล้วจะช่วยให้พวกมึงเอาตัวรอดได้ไหม!! อีหมอหน้าโง่!! ฮ่า ๆ ๆ” หนุ่มวินฯ สองคนตั้งท่าลากตัวแพทย์หญิงเข้าห้องน้ำไปอีกคน . . “โอ๊ย!!” หนุ่มวินฯ เจ็บแปลบขึ้นมา เขาถูกตีด้วยไม้ถูพื้น . . “มึ๊งสิไปเฮ็ดหยังเขาบักห่า!!” หญิงบริการคนหนึ่งด่าให้ และหลังจากนั้นพรรคพวกที่วิ่งไปหาของแข็งเป็นอาวุธก็เข้ามาช่วยกันรุมตีหนุ่มวินทั้งสองจนสิ้นฤทธิ์ . . อีกด้านหนึ่ง แคทถูกขังอยู่ในห้องส้วมกับหนุ่มวินอีกสองคนที่ถูกอำนาจโทรจิตครอบงำจนไม่รู้ผิดชอบชั่วดี พวกมันกำลังช่วยกันปลดเปลื้องเครื่องแบบนักเรียนออก . . “อย่านะ!! ปล่อย!!” แคททุบตีชายทั้งสองพร้อมร้องขอให้คนด้านนอกช่วย . . พวกหญิงบริการพยายามหาเครื่องมือมางัดแงะกลอนประตู . . “หลบไป. . .เกะกะ” แทนโบกมือไล่ทั้งหญิงบริการและเพื่อนพ้อง เขาตบเท้ากับพื้นสองสามครั้งเป็นการเข้าเกียร์ . . . . “ตีนกูคนเดียวพอ!!” . . . “ตูมมมม!” แทนยันลูกถีบใส่บานประตูไม้โครมเดียวหลุด แผ่นประตูอัดเข้ากลางตัวหนุ่มวินฯ คนหนึ่งเต็มรัก ส่วนอีกคนแทนกระชากคอเสื้อออกมาจากห้องส้วม จับกดนั่งคร่อมตัว และระดมกำปั้นใส่ไม่ยั้ง . . “พ่อมึงตายเหรอสัตว์!! เมาม้าเมาควยเหี้ยไร!! อย่ามาป่วนถิ่นกู!!” แทนสบถพร้อมมอบเพลงหมัดหมีตะปบชนิดไม่เปิดโอกาสให้พักหายใจ จนเหยื่อสลบเหมือดคากำปั้น . . . “พอเหอะครับพี่แทน มันน็อคแล้วพี่” ต๊ะเข้ามาปรามให้ลูกพี่ชะลอหมัดปืนกล แทนหอบหายใจก่อนลุกขึ้นถ่มน้ำลายรดหน้า . . “แม่. . .แม่หนู. . .ฮือ” แคทยืนตัวสั่นร้องไห้ในห้องน้ำ พวกหญิงบริการช่วยกันจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ทางและประคองตัวออกมา . . . “แม่หนูไม่เป็นไร เดี๋ยวก็ฟื้น” หญิงบริการคนหนึ่งปลอบ . . . ในห้องรับแขก แพทย์หญิงฟื้นจากอาการจุกเจ็บมึนงงอย่างรวดเร็ว ทันทีเมื่อลืมตา คนแรกที่อยู่ตรงหน้าคือลูกสาว ทั้งสองสวมกอดร่ำไห้หลังผ่านวิกฤตได้ พรรคพวกแทนช่วยกันจับกุ๊ยวินมอเตอร์ไซค์โยนออกนอกร้าน ส่วนกลุ่มหญิงบริการจับกลุ่มคุยกัน หลายคนได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุทำนองเดียวกันว่าคนรู้จักจู่ ๆ ลุกขึ้นมาแสดงออกทางเพศอย่างวิปริตวิตถาร สุดเหวี่ยง หลุดโลกโดยไม่สนใครหน้าไหน ตั้งแต่ช่วยตัวเองโชว์ ไปจนถึงเที่ยวไล่ข่มขืนผู้อื่นอย่างบ้าคลั่ง มีคนหนึ่งจุดประเด็นขึ้นว่าปรากฏการณ์นี้คล้ายกับกรณีตลาดนัดและโรงพยาบาลเซนต์แมตธิวที่เป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก . . “ . .ไอ้เหี้ยเต๋อ?. . .” แทนเอ่ยขึ้นอย่างลืมตัว . . “อะไรครับพี่แทน” ต๊ะยักหน้าถามอย่างใคร่รู้ แต่แทนก็ได้แค่พูดชื่อขึ้นมา เขาถูกเต๋อลบความทรงจำหลังล้างแค้น จึงจำได้เพียงเลือนรางว่าเต๋อลุกขึ้นมาทวงหนี้แค้น แต่ไม่อาจปะติดปะติดเชื่อมโยงเหตุการณ์หรือแม้แต่จำได้ว่าเต๋อมีพลังเหนือมนุษย์ สุดท้ายจึงได้แต่เกาหัว . . “ช่างแม่งเหอะ” . . “โลกของฉันกับเธอ มันต่างกันเหลือเกินสาวน้อย ฉันก็เคยสวยใสไม่เจนโลกเหมือนเธอมาก่อน” หญิงบริการคนหนึ่งลูบหลังปลอบขวัญแคท ดูเหมือนแม่เธอจะอึดอัดอยู่ในที . . “นี่แทนคำขอบคุณนะคะ ไปแบ่งกันเอง แค่นี้พอไหม” แพทย์หญิงหยิบเช็คเซ็นระบุจำนวนเงินสองหมื่นบาทยื่นให้หญิงบริการ . . “ไม่เป็นไรค่ะคุณหมอ เราช่วยเพราะเราต้องทำ เห็นแบบนั้นใครจะอยู่เฉยได้” ตัวแทนคนหนึ่งตอบ . . “ไม่รู้ล่ะฉันจะวางไว้ตรงนี้ จะเอาหรือไม่เอาก็เรื่องของพวกเธอ แคท กลับได้แล้วลูก แม่ไม่อยากอยู่ที่นี่นาน” เธอตั้งท่าจูงมือลูกสาวกลับ แทนอาสาเดินคุ้มกันไปส่งที่รถ โดยต๊ะขอตามไปอีกคนเพื่อความแน่นอน . . ก่อนสองแม่ลูกก้าวพ้นธรณีประตู หญิงบริการคนหนึ่งพูดขึ้น . . “ถ้าเลือกได้ ทำไมเราจะไม่อยากเป็นเหมือนคุณ อยากให้ลูกสาวแต่งตัวน่ารักสะอาดสะอ้าน ให้เค้าได้เรียนโรงเรียนดี ๆ เหมือนลูกคุณ” . . แพทย์หญิงหยุดเพื่อฟังด้วยมารยาท แต่ไม่หันไปมอง . . “อาชีพนี้ไม่สบายอย่างที่คุณเข้าใจหรอก” . . . เมื่อเห็นว่าพูดจบแล้วแพทย์หญิงจึงก้าวขาออกไป . . ทันใดนั้น แคทได้สะบัดมือจากแม่ เธอวิ่งกลับมาโค้งตัวไหว้ขอบคุณเหล่าหญิงบริการ และเปล่งวาจาลั่น . . “ขอบคุณพี่ ๆ มากนะคะ!! บุญคุณนี้หนูกับแม่จะไม่ลืมเลย!! วันหลังหนูจะกลับมาหาพี่ ๆ นะคะ!!” . . “แคท! กลับได้แล้ว แถวนี้อันตรายไม่รู้รึไง!” แพทย์หญิงปรี่กลับมาดึงแขนลูกออกไป . . . “จะเอาไงกับเช็คนี่ล่ะพี่” หญิงบริการคนหนึ่งถามกับรุ่นพี่อาวุโส . . “เขาไม่เต็มใจให้ เอาไปใช้เองก็เหมือนขโมย . . .ฉีกทิ้งก็ไม่ได้ หยามน้ำใจลูกสาวเขา. . . . . ซื้อชุดนักเรียน สมุด ดินสอปากกาแจกเด็กยากจนแล้วกัน” เธอสรุป น่าทึ่งที่ทุกคนพร้อมใจกันพยักหน้าเป็นมติเอกฉันท์ . . . ก่อนส่งสองแม่ลูกขึ้นรถ แคทรู้สึกติดค้างกับแทนเป็นพิเศษ จึงขอทราบชื่อเสียงเรียงนามและที่อยู่ เพราะหากขอเบอร์โทรศัพท์ต่อหน้าแม่คงไม่งามเท่าไหร่นัก . . “ชื่อแทนไท ปวส.2 สาขาช่างยนต์ เทคโนสยามประทีป ถามใครก็รู้จัก ภารโรงยังซี้กันเลย” แทนกล่าวด้วยน้ำเสียงสุภาพที่สุดในแบบของเขา แทนเพิ่งสังเกตว่าสาวม.ปลายโรงเรียนคอนแวนต์คนนี้น่ารักไม่เบา . . . “ขอบคุณค่ะพี่แทนไท วันหลังหนูขอเลี้ยงข้าวขอบคุณสักมื้อนะคะ” แคทยกมือไหว้ ก่อนเหลือบเห็นแม่ฮึดฮัดนั่งรออยู่ในรถจึงต้องรีบขึ้นไป . . แทนเหม่อมองรถเบนซ์สีเงินจากไปจนลับตา ต๊ะสะกิดให้แทนรู้สึกตัว “พี่แทน ๆ พี่แทนครับ” . . “เอ่อ มึง. . .ไอ้ต๊ะ เดี๋ยวมึงกลับบ้านมึงก่อนก็ได้ กูจะลองโทรตามเพื่อนกูอีกที มึงอย่าอยู่เลยเชื่อกูเหอะ แถวนี้แม่งแปลก ๆ ว่ะ ปิดหมดทุกร้าน คนแม่งหายหัวไปไหนไม่รู้ ยังกับเมืองผี” . . . สองหนุ่มพยักหน้าเห็นพ้อง แทนกลับเข้าไปในร้านหารือกับเพื่อนฝูงตามหาคนที่หายไป ส่วนต๊ะขอแยกตัว เขาตัดสินใจควบมอเตอร์ไซค์คู่ใจกลับที่พัก . . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . ครูวิไลเลื่อนตัวปีนมานั่งข้างเบาะขับคน โชเฟอร์ถูกอำนาจโทรจิตยึดครองเบ็ดเสร็จเช่นกัน ทั้งสองชวนคุยแต่เรื่องเงี่ยน ๆ แลกเปลี่ยนความเห็นบนรถจนยากจะห้ามใจไหว ครูวิไลจึงอาสาอมควยให้ซึ่งขอการันตีว่าฝีปากจัดจ้านไม่แพ้คนวัยสาว โชเฟอร์ปลดซิปกางเกงงัดควยออกมาให้ครูเฒ่าดูดเลียให้สนองกามารมณ์ทั้งสองฝ่าย . . . “อูยยยย เก่งจังครับยาย” โชเฟอร์ชื่นชม เขาละมือจากพวงมาลัยข้างหนึ่งกดหัวให้วิไลดูดควยเข้าไปลึก ๆ สุดคอหอย . . . วิไลเร่งฝีปากหวังกินน้ำกามสด ๆ จากโชเฟอร์ กระทั่งหนุ่มใหญ่ต้องพ่ายให้ทีเด็ดโอษฐกามนางครูเฒ่า . . “อูยยย โอวววว” เขาหลับตาร้องเสียงหลงอย่างลืมตัว ลืมไปว่ากำลังขับรถ . . ขณะเดียวกัน อพาร์ทเมนท์ในละแวกนั้น นักศึกษาชายคนหนึ่งกำลังนั่งชมรายการโปรดทางโทรทัศน์อย่างสบายอารมณ์ จนกระทั่งต้องสะดุดลงเมื่อมีข่าวต้นชั่วโมงแทรก ผู้ประกาศข่าวชายมาดสุขุมกล่าวรายงานด้วยน้ำเสียงจริงจังผิดปกติ . . “สวัสดีครับ พบกับข่าวด่วนต้นชั่วโมง ขณะนี้มีรายงานด่วนว่า เกิด. . .เกิด. . .เกิด” ผู้ประกาศข่าวมีอาการติดอ่างฉับพลัน แต่ภาพประกอบข่าวยังคงฉายต่อไป เป็นภาพผู้คนออกมาก่อความไม่สงบ จอดรถเย็ดกลางถนน ข่มขืนกันในที่โจ่งแจ้งท้าทายกฎหมาย โดยไม่เลือกเป้าหมายทั้ง หญิง ชาย เด็ก คนชรา แม้กระทั่งเย็ดหีหมาข้างถนน นอกจากนี้ยังมีการรวมกลุ่มกันกระทำวิปริตอนาจารในที่สาธารณะอย่างโจ๋งครึ๋ม . . “เกิด . . . .เกิด อาหหห์ เกิดอารมณ์. . .” ผู้ประกาศข่าวปลดกระดุมเสื้อและบดบี้หัวนมตนเองยั่วผู้ชมทางบ้าน ก่อนจะลุกขึ้นนั่งลนโต๊ะรายงานและถอดกางเกงเล่นควยตัวเองถ่ายทอดสด . . “อาหห์ แข็งแล้ว เงี่ยนแล้ว ใครก็ได้ดูดให้ผมที. . .” ผู้ประกาศข่าวครวญครางผ่านจอพลางชักว่าวโชว์ไปด้วย . . “เฮ้ย! อำกันรึเปล่าวะ” นักศึกษาชายตื่นตระหนก จังหวะเดียวกันก็ได้ยินเสียงวัตถุบางอย่างพุ่งชนอย่างรุนแรง เสียงดังสนั่นจนถึงกับต้องลุกขึ้นไปเปิดหน้าต่างสำรวจ . . รถแท็กซี่ชนเสาไฟฟ้า โชเฟอร์ตายคาที่ ส่วนครูพุ่งวิไลกระเด็นออกมาคอหักตายอนาถนอกรถ . . พร้อมกันนั้นก็เห็นผู้คนจำนวนหนึ่ง วิ่งไล่ปี้กันเหมือนหมา บางคนนั่งขี้ ยืนเยี่ยวกันกลางถนนขวางทางจราจร ไม่มีใครสนใจอุบัติเหตุรถแท็กซี่ชนเสาไฟฟ้าเลย . . นักศึกษาหนุ่มกระทำตนเป็นพลเมืองดีโดยโทรสัพท์แจ้งหน่วยกู้ภัย แต่คำตอบที่ได้รับกลับมาคือ . . “น้องดูดควยให้พี่ได้ไหมล่ะ หล่อไหม แมนไหม ไม่สาวเจอกัน แฮ่ก แฮ่ก อูย น้ำเยิ้มแล้ว” . . นักศึกษาหนุ่มกระแทกหูวางสาย กระนั้นก็ยังไม่ละความพยายาม ต่อสายไปยังหมายเลขฉุกเฉินเพื่อแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายกับตำรวจ . . “กำลังเย็ดหีหมาตำรวจอยู่ โคตรเสียวเลยไอ้น้อง มาลองไหม หมาเชื่องนะ ไม่กัดหรอก” . . . . “เอ้า ว่าไงล่ะ ให้ไปรับไหม หมาเลียควยเสียวดีนะ. . . . เฮ้ย เงียบทำไม. . .แกรก!” . . ชายหนุ่มวางสายอีกครั้ง . . “บ้านนี้เมืองนี้มันเป็นบ้าอะไรไปแล้ว” เขารู้สึกว่าท่อนขาอ่อนแรงจนแทบทรุดล้ม เกิดอะไรขึ้นกับโลกที่อาศัยอยู่กันแน่ . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ภายในร้านอาหารญี่ปุ่นในมุมเงียบปลอดคน หนุ่มสาวคู่รักกำลังหยอกเกี้ยวกันกระจุ๋งหนุงหนิง โต๊ะข้าง ๆ เป็นคุณพ่อวัยกลางกับลูกชายวัยมัธยมปลายแต่งชุดรด. . . “ตัวเอง พี่สาวเค้าส่งแมสเซจมาล่ะ กลับบ้านด่วน. . .อะไรกันไม่เห็นเข้าใจเลย โทรกลับไปก็ไม่รับ” หญิงสาวบ่นพลางจับหลอดดูดชาเขียวปั่น . . “ถ้ากังวลเดี๋ยวเค้าไปส่งก็ได้ กลับก่อนไหม” ชายหนุ่มถามอย่างห่วงใย . . “ไม่เอาน่า อยากดูหนังก่อน พี่สาวเค้าก็งี้แหละ ชอบขัดจังหวะเรื่อยเลย อิจฉาเค้าไงตัวเองยังลงจากคานไม่ได้” แล้วทั้งสองก็หัวเราะหยอกเอินกันต่อไป . . โต๊ะด้านข้าง เด็กหนุ่มในชุดรด. ใช้ตะเกียบเขี่ยถ้วยซอสไปมาแก้เซ็ง . . “ต้องรอแม่เดินซื้อของอีกนานไหมพ่อ ผมปวดฉี่น่ะ” . . “ก็ไปเข้าห้องน้ำสิ บ่นทำไม” ผู้เป็นพ่อตอบอย่างไม่แยแส . . “ไม่เอาอ่ะพ่อ ไม่อยากทิ้งให้พ่อนั่งคนเดียว” . . “ลูกช่างประเสริฐจริง ๆ เป็นห่วงพ่อถึงขนาดนี้เชียว” ฉับพลัน พ่อเด็กหนุ่มก็น้ำตารื้นอย่างไม่มีปี่ขลุ่ย . . “ปวดมากไหมลูก” คุณพ่อถามและลูบศีรษะลูกชายอย่างเอ็นดู เด็กหนุ่มพยักหน้าตอบ . . “เยี่ยวใส่ปากพ่อสิ” . . “ทำได้จริง ๆ เหรอครับ” . . “ได้สิ เอาเลย พ่อไม่รังเกียจของลูกอยู่แล้ว” จากนั้นเด็กหนุ่มจึงลุกขึ้นปลดซิปกางเกง และปลดปล่อยปัสสาวะที่อั้นไว้เป็นชั่วโมง พรั่งพรูดุจสายยางรดน้ำต้นไม้ คุณพ่อคุกเข่าอ้าปากรองรับเป็นกระโถนเยี่ยวด้วยความเต็มใจ . . “อาหหห์ พ่อครับ” เด็กหนุ่มคราง เขาเอนตัวเล็กน้อยทำให้ควยฉีดสายน้ำเยี่ยวส่ายไปมากระเซ็นเลอะตามใบหน้าและลำตัวของคุณพ่อเล็กน้อย แต่เขาก็หาได้โกรธเคือง พยายามรองรับทุกหยาดหยดที่ลูกชายระบายออกมาจนหมด เมื่อเยี่ยวเสร็จดีแล้ว คุณพ่อจับควยลูกสะบัดน้ำเยี่ยวที่ติดปลายหัวควยสะเด็ดทุกหยุด ก่อนจะถอกหนังหุ้มปลายเพื่อเลียทำความสะอาดให้บุตรชายอันเป็นที่รัก ฝ่ายลูกชายรู้สึกว่าพ่อหวังดีเกินหน้าที่ไปแล้ว แต่ก็ไม่อาจทนต่ออำนาจมืดในจิตใจได้ ลำควยจึงค่อย ๆ พองขึ้นเมื่อถูกปลายลิ้นกระตุ้นให้ตื่นตัว . . “เรียน รด มาทั้งวันเลย ควยเหม็นนะลูก แต่ไม่เป็นไร ลูกผู้ชายมันต้องแบบนี้ ตอนหนุ่ม ๆ พ่อก็ซกมกเหมือนกัน”พูดจบ คุณพ่อก็ปลดเข็มขัดกางเกง รด ลูกชายลงไปกองกับพื้น และดูดควยผลุบเข้าผลุบออกอยู่ในปาก ทำความสะอาด เลียกินคราบเหงื่อไคลสิ่งสกปรกที่ติดตามเงี่ยงควยและซอกขาไม่ต่างจากปลาดูดกระจก . . “พ่อครับ อ๊า. . . ซี๊ดดดดดดดดดด” เด็กหนุ่ม รด. ครางดังจนหนุ่มสาวโต๊ะข้าง ๆ ที่สุมหัวกันเกี้ยวพาราสีอยู่ในโลกส่วนตัวถูกดึงให้รับรู้สถานการณ์รอบตัว . . “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!” หญิงสาวหวีดลั่นร้านพร้อมถีบเก้าอี้ถอยออกไปอย่างตื่นตระหนก . . “ท. . .ท . . .ทำอะไรอยู่น่ะ!!” เธอชี้ด้วยเรียวนิ้วสั่นระริก . . . “พวกคุณไม่เห็นเหรอ เฉยได้ยังไง!” เธอหันไปว่ากราดพนักงานในร้านที่ยืนนิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อน . . “อย่ามายุ่งกับผม อารมณ์ไม่ดี ท้องเสียอยู่” พนักงานคนหนึ่งตอบ . . “ขี้แม่งตรงนี้แหละ ลูกค้าเค้ายังให้ลูกเยี่ยวตรงนี้เลย เดี๋ยวพวกกูช่วยกิน” เพื่อนพนักงานคนหนึ่งตอบ จากนั้นพนักงานคนที่ท้องเสียจึง ปีนขึ้นบนโต๊ะและถอดกางเกง ถ่ายเหลวออกมากกองเป็นโจ๊กบนโต๊ะ ขี้มีลักษณะเป็นน้ำสีช้ำเลือดช้ำหนองส่งกลิ่นรุนแรง เพื่อนพนักงานในร้านช่วยกันเลียกินขี้ดังกล่าว ตลอดจนเลียไปถึงรูตูดช่วยทำความสะอาดให้ กินเศษขี้ที่ติดตามรอยจีบตูดจนสะอาดเกลี้ยงยิ่งกว่าใช้กระดาชำระ พฤติกรรมหลุดโลกดำเนินท่ามกลางเสียงคอรัสของลูกค้าหญิงซึ่งกรี๊ดต่อเนื่องอย่างไม่สงสารคอหอย . . . “ไปเถอะ อย่าอยู่เลย” ชายหนุ่มหน้าตื่นรีบโกยสมบัติข้าวของที่รื้อออกมาดูเล่นกันบนโต๊ะเก็บใส่กระเป๋าฝ่ายหญิง เขาดึงตัวแฟนสาวเพื่อให้เรียกสติกลับมา แต่แล้วความอาเพศก็สำแดงเดชระลอกต่อมา มีเสียงผู้คนร้องแตกตื่นจ้าละหวั่น ดังจากด้านนอกจนได้ยินถึงในร้าน . . เมื่อหนุ่มสาวมองผ่านผนังซึ่งเป็นกระจกโปร่งใส จึงเห็นว่าด้านนอกเกิดการจลาจลหนักกว่าในร้านอย่างเทียบไม่ได้ ผู้คนกลุ่มหนึ่งวิ่งหนีคนอีกกลุ่มซึ่งอยู่ในอาการบ้าคลั่ง มีคนเย็ดกัน นั่งขี้นั่งเยี่ยวเรี่ยราดตามทางเดินตามใจชอบ เสียงก่นร้องจากคนเป็นร้อยพันประสานปนเปอย่างอลหม่านยากที่จะแยกแยะ . . . “ว้าย!” หญิงสาวผงะเมื่อมีเด็กหนุ่มในชุดพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดวิ่งผ่านมาและหยุดลงตรงหน้าร้านเมื่อเผอิญหันไปเห็นเธอ . . “ว้าว สวย ๆ ๆ ๆ ! จะเอาคนนี้!!” ไม่รอช้า เด็กหนุ่มวิ่งพรวดเข้ามาในร้านพร้อมพรรคพวกเข้าฉุดหญิงสาวทันที แฟนหนุ่มเข้าขัดขวางและเกิดการชกต่อยกัน . . “นี่แน่ะมึง!!” ชายร่างบึกบึนสวมชุดฟิตเนสเทรนเนอร์สามคนเข้ามาแยกและจับแฟนหนุ่มต่อยจนคว่ำ พวกเด็กพนักงานร้านฟาสต์ฟู้ดจับผู้หญิงขึงพืดบนโต๊ะและลงแขกยัดเยียดความเป็นผัวอย่างไม่ปราณี . . “ช่วยด้วยยยย!! อย่า!!! อย่า!!! ได้โปรดดดด!!!” เธอกรีดเสียงร้องไห้สุดเสียง แต่ก็หาเกิดประโยชน์อันใด เพราะแฟนหนุ่มของเธอก็ถูกกลุ่มเทรนเนอร์จับกดให้ยืนนาบกับผนังกระจกและยืนเย็ดตูดโชว์คนที่ผ่านไปมา คนด้านนอกร้านมองผ่านกระจกใสอย่างรื่นรมย์ดุจชมปลาตู้สวยงาม บ้างก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอัดคลิป บ้างก็สบถคำกักขฬะซ้ำเติมและหัวเราะอย่างสะใจในเคราะห์กรรมของคู่รักทั้งสอง . . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . บนจุดสูงสุดของตึกระฟ้าแม็กซิมิเลียน ทาวเวอร์ เต๋อยังคงระเริงอยู่ในโลกจิตอันผันผวนรวนเร ความสูงบนจุดที่ยืนอยู่เป็นเครื่องช่วยกระจายอำนาจสนามพลังโทรจิตให้แผ่ขยายในวงกว้างอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นไปสอดคล้องกับข้อมูลลับที่เจ๊นนท์กล่าวถึงจุดอ่อนจุดแข็งของผู้ใช้โทรจิต . . . วงออเครสตร้าและวงประสานเสียงยังคงบรรเลงขับขานบทเพลงแห่งสุนทรีย์และหายนะไปตามท่วงจังหวะของวาทยากรเอก เต๋อโบกบาตองก้านกุหลาบพริ้วไปมาพร้อมแผ่คลื่นโทรจิตรุนแรงซึ่งไม่อาจมองเห็นด้วยตาเปล่า ไม่มีพิษอย่างกัมมันตรังสี ไม่มีความร้อนอย่างพลังปรมาณู แต่ความน่ากลัวของมันวัดจากปรากฏการณ์ทุกอย่างที่มีสาเหตุจากพฤติกรรมของมนุษย์ที่ถูกบดขยี้สติสัมปชัญญะด้วยพลังโทรจิต เวลานี้บางส่วนในเมืองไฟฟ้าดับ บางจุดพบควันจากเพลิงไหม้ การจราจรติดขัด ถนนหลายจุดถูกปิดกั้น ระบบขนส่งมวลชนต่าง ๆ ประสบปัญหาทั้งชะงักและเกิดอุบัติเหตุจนไม่สามารถควบคุมได้ หรือหากกล่าวลงลึกก็คือ เครื่องจักรและระบบกลไกทุกชนิดที่มีมนุษย์ควบคุมดูแลเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเวลานี้ . . . ที่เลวร้ายไปกว่าคือภาคบรรเทาสาธารณะภัย ทั้งโรงพยาบาล ตำรวจ ทหาร สถานีดับเพลิง หน่วยกู้ภัย ฯลฯ ต่างถูกอำนาจโทรจิตชอนไชจนไม่ผู้เป็นผู้เป็นคน พวกที่ยังคงสติก็ไม่อาจประสานงานได้โดยง่าย แม้กระทั่งนักข่าวภาคสนามและผู้รายงานในห้องส่งสถานีโทรทัศน์ยัง “มีอันเป็นไป” เอาได้ง่าย ๆ อาจเรียกว่าสถานการณ์ตอนนี้ไม่ต่างจากภาวะ “ตัวใครตัวมัน” เปล่าประโยชน์ที่จะฝากความหวังหรือความปลอดภัยไว้กับผู้อื่น คนรอบข้างมีโอกาสลุกขึ้นมาทำร้ายตนพอ ๆ กับตนเองก็มีโอกาสคลั่งลุกขึ้นทำร้ายผู้อื่นได้เช่นกัน . . “จงสับสน. . .จงกรีดร้อง. . .จงหวาดกลัว. . .” เต๋อหลับตาพริ้มกำซาบคีตรสและความหายนะที่ตนเป็นผู้บรรเลง . . ประตูลิฟท์เปิดช้า ๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น . . มีนก้าวเดินอย่างมาดมั่น เหมือนกับคิดมาอยู่แล้วว่าวันนี้ต้องมาถึงจนได้ . . “ถ้าพี่ยิงเธอ ทุกอย่างจะจบ แต่นั่นก็ไม่ทำให้พี่ต่างจากเธอหรือนิก” มีนพูดพลางชักปืนพกออกมาเล็งยังวาทยากรเอก สนามพลังโทรจิตของเต๋อไม่สามารถแทรกแซงพวกเดียวกันได้ ทำให้เต๋อรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย . . “คุณ. . .สบายดี. . .สินะ” . . “ใช่! สบายดี ต่อหน้าพวกเดียวกันพลังของเธอมีค่าเท่ากับศูนย์. . . . .ฉันเพิ่งรู้ซึ้งว่าพลังเทเลพาธีน่ากลัวกว่าไซโคไคเนซิสก็วันนี้เอง เธอทั้งอันตรายและไม่แน่ไม่นอน เห็นทีพี่คงรอให้นิกมาถึงไม่ได้แล้วล่ะ” มีนยกตำแหน่งเป้าเล็งไปกลางศีระษะเต๋อ
+ N% C7 A D& s3 v; i. . . “. . .ห้ามรังแกผม. . .ห้ามเด็ดขาด!!” เต๋อหักก้านกุหลาบเป็นสองท่อน พร้อมกันนั้นเหล่านักดนตรีและวงขับร้องก็กรูเข้าหามีน . . มีนเก็บปืนชั่วคราว เธอไม่คิดจะใช้ปืนผาหน้าไม้กับมนุษย์ที่ถูกครอบงำ . . “เธอเคยดูถูกว่าพลังของพี่ใช้ทำอะไรคนไม่ได้ใช่ไหม” . . “ไม่อยากใช้ต่างหากถึงไม่ทำ” มีนดาหน้าวิ่งเข้าไปหาฝูงคนบ้าคลั่งอย่างไม่กริ่งเกรง . . “อโหสิฯ ให้ด้วยนะ” เธอกล่าวพร้อมใช้มือแตะไปยังกระหม่อมหรือหน้าผากคู่ต่อสู้ทีละคน “ความเจ็บปวด ประสบการณ์อันเลวร้าย อดีตแสนขมขื่น บาดแผลฝังใจ ปมด้อยที่อยากลืม. . .” . . “จงกลับมา!!!” . . . “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!! ว๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!!” เหยื่อซึ่งถูกพลังไซโคเมทรี่จู่โจมแหกปากร้องดุจผีเข้า ล้มลงทุรนทุราย พลังของมีนสามารถปรับใช้เพื่อทำร้ายผู้คนได้เช่นกัน โดยการกระชากความรู้สึกเจ็บปวดทางกายและความสะเทือนใจที่เคยผ่านมาตลอดชีวิตดึงกลับมาอย่างเฉียบพลัน. . . “กรี๊ดดดดดดดดดด ไม่นะ ม่ายยยยยยย!!!!” สุภาพสตรีคนหนึ่งล้มลงร้องไห้ชักดิ้นชักงอ อุจจาระปัสสาวะแตกราดเละเทะ เธอถูกขุดเหง้าความทรงจำที่ไม่อยากรื้อฟื้นปลุกขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ทั้งโดนพี่เลี้ยงล่วงละเมิดทางเพศในวัยอนุบาล วัยประถมถูกเพื่อนรังแก วัยมัธยมอกหักรักแรก ขึ้นมหาลัยสุนัขแสนรักถูกรถทับตายต่อหน้า ลื่นล้มหัวร้างข้างแตก วัยทำงานถูกเจ้านายด่าสาดเสียเทเสีย เพื่อนร่วมงานตีท้ายครัว บิดาเสียชีวิต ฯลฯ . . ผู้ที่ถูกพลังไซโคเมทรี่จู่โจมเช่นนี้อาจเสียสติหรือวิกลจริตได้ แม้จะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยก็ยังน่ากลัว ดูแล้วคลับคล้ายว่ามีนกำลังเที่ยวไล่พรมน้ำมนต์ใส่ผีปอบ และถึงแม้พลังนี้จะไม่มีผลต่อพวกเดียวกันเฉกเต๋อ แต่ก็ช่วยได้มากโข หุ่นเชิดของเต๋อทยอยทรุดล้มลงตะพึดตะพือ . . . “เธอยังไม่รู้จักฉันดีพอนะพ่อหนุ่มโทรจิต” . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . สวนสาธารณะเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง หนุ่มมหาลัยหน้าละมุนนายหนึ่งเอ่ยปากสารภาพรักต่อเพื่อนหญิง ทั้งสองนั่งพลอดรักในมุมอับจึงไม่รับรู้ความเป็นไปรอบตัว . . “อิ๋งก็รู้สึกดี ๆ กับต้าร์เหมือนกันนะ ดีใจนะที่ต้าร์พูดออกมา” หญิงสาวเหนียมอาย . . ชายหนุ่มรวมความกล้าหาญค่อย ๆ ยื่นหน้าหมายพิชิตจูบสาวเจ้า ไม่ทันไรมารผจญก็โผล่มาไม่ให้ตั้งตัว . . “ฮ่า ๆ ๆ ๆ!!! เยี้ยกกกก เคี้ยก ๆ ก๊าก ๆ ๆ” วัยรุ่นกลุ่มหนึ่งปรากฏด้วยใบหน้าแสดงอารมณ์สุดเหวี่ยงดุจเพิ่งเสพยา พวกมันช่วยกันแยกตัวหญิงสาวกับชายหนุ่มออกจากกัน โดยตกลงกันว่ากลุ่มหนึ่งจะทะลวงรังไข่ ส่วนอีกกลุ่มจะลองอัดตูดผู้ชายด้วยกันพิสูจน์ความเป็นยอดชาย . . “เฮ้ย!! หยุดนะโว้ย!!” ชายหนุ่มตะคอกลั่นขณะถูกดึงตัวให้แยกจากแฟน . . “หุบปาก!! ไม่หุบกูจะเอาควยอุดปากมึง!!” สมาชิกกลุ่มคนนึงตอกกลับ . . ทันใดนั้น เอฟ ซึ่งผ่านมาพบเข้าโดยบังเอิญพร้อมไม้หน้าสาม เข้าทั้งฟาดทั้งถีบพวกนักข่มขืน เด็กหนุ่มฉลาดพอที่จะเลือกช่วยฝ่ายชายก่อน เมื่อฝ่ายชายเป็นอิสระแล้วจึงได้กำลังเสริมไปปราบพวกที่ตอแยกับฝ่ายหญิงจนเป็นฝ่ายกุมชัยในที่สุด . . “มันเกิดอะไรขึ้น ฮือ ฮือ” นักศึกษาหญิงน้ำตาแตกหลังรอดมาได้หวุดหวิดอย่างขวัญเสีย เอฟซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ปั่นป่วนและเอาตัวรอดมาได้ระยะหนึ่ง เขากำลังเดินเท้ากลับบ้านและหาทางลัดเลาะตามซอกซอยต่าง ๆ จนมาพบทั้งสองกำลังหน้าสิ่วหน้าขวานโดยบังเอิญ เอฟเล่าให้ทั้งสองทราบว่าขณะนี้ผู้คนในเมืองต่างสูญเสียสติสำนึกผิดชอบชั่วดี ออกมาเพ่นพ่านปี้ขี้เยี่ยวอย่างวิปริตพิสดารสารพัดรูปแบบ แม้แต่ฝ่ายรักษาความสงบและหน่วยช่วยเหลือยังไม่สามารถหวังพึ่งพาได้ นอกจากนี้ยังช่วยสรุปให้ทั้งสองเข้าใจสถานการณ์รวดเร็วขึ้นโดยเปรียบเทียบกับข่าวเหตุอนาจารที่ตลาดนัดและโรงพยาบาลเซนต์แมตธิว . . . เผอิญว่าทางที่คู่รักนักศึกษาต้องกลับนั้นผ่านทางเดียวกับเอฟพอดี ประกอบกับตลอดทางที่ผ่านสวนได้เหตุสภาพความฟอนเฟะอเนจอนาถของผู้คน ทั้งยังไม่มีรถเมล์หรือแท็กซี่ให้ขึ้น ทั้งสามจึงตกลงเป็นเพื่อนร่วมทางกันชั่วคราว
h- x) \( f! u, U: _9 Y4 S+ k1 E. D
9 z2 r. ^! f5 o/ y0 d8 V
)))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . ต๊ะขี่มอเตอร์ไซค์เดินทางอย่างยากลำบาก เคราะห์ดีที่ซอมบี้บ้ากามไม่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้ง่ายดายนัก อีกทั้งมอเตอร์ไซค์ยังคล่องตัวในการหลบหลีกลัดเลาะในพื้นที่แคบ กระนั้นยังกินเวลาอย่างคาดไม่ถึง เนื่องจากการสัญจรติดขัด และบางพื้นที่เกิดการจลาจลรุนแรงจนต้องเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น . . เมื่อผ่านพื้นที่ย่านการค้าใหญ่แห่งหนึ่ง ต๊ะเห็นกลุ่มคนสองฝ่ายกำลังมีปากเสียงอย่างดุเดือดราวสามร้อยคน โดยมีฉากหลังเป็นกองเพลิงลุกไหม้อาคารร้านค้า ราวกับเตรียมไฟไว้สำหรับพิธีบูชายัญ . . กึ่งกลางเส้นแบ่งของกลุ่มคนที่ก่อวิวาทะกันอยู่ มีไม้กางเขนขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านปักกับพื้น และมีมนุษย์ถูกมัดตรึงไว้กับกางเขนนั้น . . “ใครก็ได้ช่วยผมด้วย!!” ชายผู้ถูกตรึงกางเขนครวญโหยหวน ขณะที่ฝูงชนทั้งสองฝ่ายไม่ใส่ใจ ยังคงด่าทอกันต่อไปอย่างไม่ลดละ มีการขว้างปาก้อนหินแลกใส่กันเป็นระยะ . . ต๊ะสังเกตได้ว่าฝั่งหนึ่งแบ่งเป็นหญิง และอีกฝั่งแบ่งเป็นชายอย่างชัดเจน . . “พวกกูมีนม!! มีหี!! หีผู้หญิงก็ต้องไว้เย็ดกับควยผู้ชาย!! เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ทำไมพวกมึงไม่เข้าใจอีตุ๊ด!!” แกนนำฝั่งสตรีกล่าว เสียงพลพรรคปรบมือให้และโห่ร้อง . . . . “แต่คนหล่อ ๆ แบบนี้ต้องให้ผู้ชายหล่อ ๆ กินกันเอง! ไม่ใช่ชะนีหน้าปลวกเหมือนมุดหีหมาออกมาเกิดอย่างพวกมึง อีชะนีหลงป่า อีหมาหอนคืนเดือนเพ็ญ อีเมนส์กลิ่นกะปิ!! รูตูดพวกกูฟิตกว่าหีถ่างกว้างเป็นลานจอดรถของพวกมึงอีก” ดูเหมือนว่าสำนวนด่าทอเช่นนี้ อีกฝ่ายน่าจะเป็นเพศที่สาม . . “ต่ำ. . .อีสัตว์!!!” แกนนำชาวสีม่วงกล่าวสรุป พร้อมเสียงกรี๊ดกร๊าดถูกใจจากบรรดาสหายร่วมอุดมการณ์ . . ต๊ะประมวลความเข้าใจสถานการณ์เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว พอรับรู้ได้ว่ามีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้หญิงและกลุ่มชาวสีม่วงที่รวมพลมาได้จำนวนหนึ่ง ส่วนหนุ่มเคราะห์ร้ายที่ถูกตรึงกางเขนนั้นเมื่อมองดูแล้วจัดว่าหน้าตาดี เป็นไปได้ว่าถูกจับมาเป็นเดิมพันหรือของรางวัล หนุ่มบนไม้กางเขนบังเอิญสบตาต๊ะเข้าและพอจะเข้าใจว่าเป็นผู้ที่ยังหลงคงความเป็นวิญญูชนอยู่คนเดียวในที่นี้ จึงพยายามสื่อสารด้วยแววตาขอให้ช่วย เขาไม่กล้าเปล่งเสียงเรียกเนื่องจากประหวั่นว่าฝูงชนที่ตกอยู่ในความเกลียดชังหันเหไปกำจัดต๊ะเสียเอง . . เด็กหนุ่มตัดสินใจโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ แต่เมื่อไม่มีผู้ใดรับสายจึงส่งข้อความแทน โดยบอกว่าตนกำลังตกที่นั่งลำบาก . . . “พวกมึงรู้จักพลังของหีน้อยไป! พวกเราโชว์ให้มันดูหน่อยซิ!” แกนนำฝ่ายสตรีปลดเสื้อ ถกกระโปรงโชว์ทั้งนมโชว์ทั้งหีให้อีกฝ่ายเห็นเป็นบุญตา สมาชิกกลุ่มหลายคนทำตามแกนนำเพื่อกดดันอีกฝ่าย รวมถึงแม่ชีคนหนึ่งที่กล้าเปลื้องให้เห็นทรวดทรงองเอวสะบึ้มอันซ่อนภายใต้ผ้าขาว . . “แม่ชีก็มีหี หัวโล้นไม่เกี่ยว เสียวได้เหมือนกัน!!” แม่ชีท้ากร้าว ท่ามกลางเสียงเฮจากเพื่อนสตรี . . “หนอย. . . อีดอก. . .” แกนนำกลุ่มชาวสีม่วงบิดตัวไปมาอย่างหงุดหงิด . . . “พวกเราจัดเต็ม Fucking Show ให้พวกมันดูเลย!! ให้มันรู้ว่าตูดก็ใช้แทนหีได้!! ควยพวกกูก็มีเหมือนพ่อมึงอีดอกทอง!! ผู้ชายสองคนเย็ดกันได้โดยไม่ต้องมีชะนีหีเน่าอย่างพวกมึง ไม่ต้องกลัวท้องด้วยเป็นไงล่ะอีหน้าส้นตีน!!” แกนนำชาวสีม่วงโต้กลับ พลพรรคจำนวนหนึ่งแก้ผ้าแล้วเย็ดตูดกันสด ๆ โชว์ชะนีให้เป็นที่ประจักษ์ว่าเซ็กส์ระหว่างชายด้วยกันนั้นทั้งสะดวก รวดเร็ว และไม่แพ้หีของชะนี . . “อีสถุน กูไม่ยอมให้พวกมึงได้พี่คิธไปหรอก. . .” แกนนำฝ่ายสตรีกัดฟันกรอดเมื่อถูกเหยียดหยามด้วยอำนาจแห่งลึงค์ เธอตัดสินใจยกทัพบุกทันที . . “พวกเราลุย!! อย่าปล่อยให้อีพวกไส้เดือนผิดเพศแย่งผู้ชายของเราไปมากกว่านี้ เราต้องไม่ยอม!!” . . “มาเลยอีช้างเย็ดเขบ็ดแม่!! กูรอตบมึงนานแล้วโว้ยยยย!!” แกนนำชาวสีม่วงถกแขนเสื้อยืดโชว์กล้ามปูและวิ่งนำคนกรูเข้ารุมตบกับชะนีอีรุงตุงนัง . . “อีสัตว์” “เย็ดแม่” “หัวควย” “แม่มึงตาย” “อีชาติหมา” เสียงถ้อยคำผรุสวาทลั่นเต็มสองรูหูต๊ะ บางทีอาจเพื่อปลุกใจ หรือเพิ่มความสะใจยามตบกันก็ไม่อาจทราบได้ ต๊ะจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้และอาศัยจังหวะที่ตุ๊ดกับชะนีทึ้งผมตบหน้าทำสงครามกันลอบฝ่าเข้าไปจนถึงตัวหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย เด็กหนุ่มอาศัยเงาไม้กางเขนขนาดใหญ่และความมืดสลัวยามค่ำคืนช่วยพรางตัวและแก้เชือกให้จากด้านหลัง . . “พี่อยู่เฉย ๆ นะจะตัดเชือกให้” ต๊ะหยิบของเศษของมีคมที่ตกอยู่บริเวณนั้นมาเลื่อยเชือกที่มัดตรึงขาและแขนทั้งสองข้าง การช่วยเหลือเป็นไปอย่างระทึกและต้องแข่งกับเวลา เชือกที่ใช้เป็นเชือกเกรดคุณภาพไม่อาจตัดให้ขาดได้ง่าย แต่หากจะแก้มัดก็คงไม่มีเวลามากพอ . . ขณะนั้นเอง สงครามครูเสดระหว่างอิตถีเพศและบัณเฑาะว์เริ่มส่อเค้าลางของผู้ปราชัย ฝ่ายชะนีเสียเปรียบกว่าทางกายภาพและไม่อาจทนมือตีนของเกย์กล้ามปูล่ำสันหรือต่อให้ไม่ล่ำก็ยังมีเรี่ยวแรงมากกว่า นักรบสาวเริ่มถอยทัพหนีตายหลังถูกตบสั่งสอนไม่มีชิ้นดี ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง แก้มแดง เลือดกบปากไปหลายนางด้วยกัน บ้างถูกถีบหีจนจุกล้มลงกอง บ้างวิ่งหนีไปพร้อมทิ้งคำก่นสาปพ่วงท้าย . . “โฮะ ๆ ๆ ชัยชนะเป็นของกะเทยแน่นอน!! เราได้ลงแขกน้องคิธแน่ ใครอยากเย็ดน้องหรือให้น้องเย็ดก็เตรียมต่อแถวเรียงคิวกันเลย!! โฮะ ๆ ๆ ๆ!!” เกย์แกนนำป้องปากหัวเราะร่าเมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามเริ่มถอยทัพ เหลือพวกหนังเหนียวตายยากไม่กี่คนเท่านั้นก็จะกำราบได้จนสิ้นซาก . . โชคไม่ดี แกนนำกลุ่มเกย์เหลือบเห็นต๊ะกำลังสาละวนอยู่กับอะไรบางอย่างหลังไม้กางเขน . . “นี่เธอ ๆ ๆ มาช่วยกันตบชะนีหน่อยสิ ชนะก่อนค่อยเอาควยไป แล้วต้องต่อคิวตามอาวุโสด้วยนะยะ!” . . ต๊ะไม่ยี่หระและยังคงเลื่อยเชือกต่อไป . . “เอ๊ะ! พูดแล้วไม่ฟัง จะปีนเกลียวเหรออีตุ๊ดเด็ก!” เธอเดินเท้าสะเอวปรี่มายังไม้กางเขน . . . “แม่งเอ๊ย! ไม่ทันแล้ว” ต๊ะสบถแต่มือก็ยังไม่ลดละความพยายาม . . ทันใดนั้น ชายหญิงปริศนาไม่ทราบฝ่ายก็โผล่เข้ามาช่วยแกะปมเชือกอีกสองฝั่ง . . “ตัดให้ขาดเลย! ที่เหลือพวกพี่ช่วยแก้ให้” ชายหนุ่มบอกกล่าวกับต๊ะขณะพยายามแก้เชือกแขนอีกด้าน ส่วนหญิงที่มาด้วยช่วยแกะเชือกที่รัดส่วนข้อเท้า . . “นี่ ๆ ๆ พวกหล่อนเป็นใครกันแน่!! จะชุบมือเปิปเหรออีสันดอก!!” แกนนำเกย์เร่งฝีเท้าจนต้องวิ่งเข้ามาราวกับหวงแหนชายผู้เป็นของเดิมพันดั่งดวงแก้ว ร่างหนึ่งโผล่เข้ามาขวางทางไว้ . . . “ถ้าคิดว่าผ่านได้ก็ลองดู!” เอฟพร้อมไม้หน้าสามยืนตระหง่านแสดงเจตจำนง . . “อีเด็กเปรต! กูจะเย็ดมึงให้เลือดออกตูด!” แกนนำเกย์พุ่งเข้าใส่ แต่ถูกเอฟยันเข้ากลางท้องก่อนหวดด้วยไม้หน้าสามสั่งสอนชิมลาง . . “โอ๊ยยยยยยยยยยย!!” เสียงร้องโหยหวนจากเกย์แกนนำพวกพ้องให้รวมสายตาเป็นหนึ่งเดียว คู่รักนักศึกษาที่หนีมากับเอฟและต๊ะช่วยกันแก้มัดให้เหยื่อบูชายัญได้สำเร็จและนำตัวลงมาอย่างปลอดภัย . . “พวกมันจะแย่งของ ๆ เรา!! ฆ่าพวกมัน!!” เธอยื่นคำสั่งศึก เหล่าเกย์กะเทยบ้าควยขาดสติกรูเข้ามาหวังทำร้ายกลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีต่อพิธีกรรม . . “หนีเร็ว!!” เมื่อเห็นคนคลั่งจำนวนมากเกินจะรับมือ เอฟจึงสั่งให้ทุกคนถอยทัพ โดยเจ้าตัววิ่งตามไปติด ๆ . . “มึงคิดเหรอว่าจะหนีกูพ้น! ส่งน้องคิธกูคืนมาไอ้เด็กเหี้ย!!” เสียงคำรามคลั่งแค้นดังไล่หลังติดมาเรื่อย ๆ ทุกคนรู้สึกว่ามันกระชั้นเข้ามาทุกที . . “มึงตายยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!” แกนนำเกย์รุดฝีเท้าตามอย่างสูสีและเอื้อมมือหมายจับชายเสื้อเอฟ . . ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครทราบว่าจะออกหัวหรือก้อย เทพแห่งโชคเลือกเข้าข้างฝ่ายที่ยืนหยัดต่อความถูกต้อง . . “กรี๊ดดดดดดดดดดดดด!!!” แกนนำเกย์และแก๊งค์บ้าควยถูกอำนาจลึกลับผลักกระเด็น กลิ้งล้มคว่ำคำมะหงายกันเป็นแถบ ๆ กลุ่มผู้หลบหนีต่างอัศจรรย์ใจจนต้องชะลอฝีเท้าดูคนปลิวไถลไปกับพื้นราวกับเกิดพายุ แต่สิ่งของวัตถุรอบข้าง กระทั่งต้นไม้กลับไม่ได้รับผลกระเทือนแม้เล็กน้อย . . ธนิกเดินย่างสามขุมออกมาจากมุมมืดมุมหนึ่งของถนน อารมณ์ขุ่นมัวเนื่องจากถนนถูกปิดตายจนต้องลงจากรถ เดินเท้ามุ่งไปยังแมกซิมิเลียนทาวเวอร์ โดยมีณัฐซึ่งขังตัวเองอยู่ในบ้านอย่างปลอดภัยคอยรายงานนิมิตล่วงหน้าบอกผ่านมือถือ เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นอุปสรรคและระบุตำแหน่งของเต๋อให้พี่ ๆ ช่วยกันหยุดยั้งเทเลพาธิค ดิสออร์เดอร์ จนตอนนี้ณัฐเหนื่อยล้าจนไม่อาจอ่านนิมิตเพิ่มเติมได้อีก อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามีนจะไปถึงล่วงหน้าธนิกแล้ว . . “คุณยังมีสติดีอยู่ใช่ไหม มารวมกลุ่มกับเราเถอะ!” เอฟชวนเชิญ แต่ธนิกตอบสนองด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับต่อเหล่าผู้ไม่รู้เดียงสา เขาบิดเบือนความจริงครึ่งหนึ่งเพื่อให้คนเหล่านี้ยอมรับปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติได้ในเวลาอันสั้น โดยเล่าว่าตนเองรู้เบื้องลึกเบื้องหลังเหตุครั้งนี้ มีสารเคมีต้องห้ามที่อยู่ในระหว่างการทดลองรั่วไหลออกมากระจายปนกับอากาศ คนที่สูดไปมีโอกาสบ้าคลั่งและก่อพฤติกรรมวิตถารชั่วคราว การป้องกันที่ดีไม่ใช่การรวมกลุ่ม แต่ควรแยกกลุ่มคนกระจายกันออกไป ยิ่งคนรวมตัวกันมาก โอกาสคนในกลุ่มเกิดจิตผิดเพี้ยนเข้าทำร้ายกันเสียเองก็สูงเป็นเงาตามตัว และศูนย์กลางแหล่งกระจายสารเคมีนี้อยู่ที่ตึกแมกซิมิเลียน ทาวเวอร์ หากจะหนีควรยึดตำแหน่งอาคารนี้เป็นศูนย์กลางแล้วถอยห่างออกมาให้ไกลที่สุด . . “ในนี้มีใครมีมอเตอร์ไซค์ไหม” ธนิกเอ่ยขึ้น ตั้งใจว่าจะขอยืมสำหรับเดินทางไปแมกซิมิเลียนทาวเวอร์หลังจากพบว่าถนนถูกปิดตาย คงมีแต่มอเตอร์ไซค์ที่พอจะลัดเลาะไปได้ โดยธนิกอ้างว่าตนเป็นเจ้าหน้าที่สายสืบมาเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว จะจอดคืนให้ที่หน้าตึกนั้น หากได้รับความร่วมมือ เขาอาจหยุดการแพร่กระจายของสารเคมีได้และเหตุไม่สงบจะซาลงไปเองก่อนรุ่งสาง . . ต๊ะยื่นกุญแจจักรยานยนต์ให้อย่างไม่ลังเล เวลานี้เขาเชื่อว่าความเชื่อใจคือสิ่งสำคัญ แบบเดียวกับที่เขาบอกกับเอฟว่าตนตกอยู่ในอันตรายและเอฟก็ตามมาช่วยอย่างไม่มีเงื่อนไข ต๊ะเลือกเชื่อเอฟมากกว่าแทน เพราะลักษณะพิเศษของเอฟคือมีความเป็นผู้นำสูงและสามารถพลิกแพลงวิกฤตได้อย่างเหลือเชื่อ ชายผู้นี้ก็ดุจเดียวกัน ในภาวะวิบัติเช่นนี้ หากมัวแต่ตั้งแง่จับผิดกันสุดท้ายอาจความย่อยยับอาจเกิดกับทุกฝ่าย . . “ขอบคุณครับ จะบอกอะไรให้อย่างแล้วกัน” ธนิกล้วงเอาขวดยานอนหลับที่เตรียมไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินส่งให้ต๊ะ แล้วบอกวิธีป้องกันซึ่งเขารู้ดีที่สุด เขาชี้ช่องทางว่าควรแยกย้ายกันหาที่ปลอดภัยแล้วทานยาเสีย พิษจากสารเคมีไม่มีฤทธิ์พอที่จะปลุกให้คนหลับลึกตื่นมาทำสิ่งบ้า ๆ ได้ จึงทั้งปลอดภัยต่อตนเองและกับผู้อื่น แต่แหล่งที่พักควรมั่นใจว่าปลอดภัยจริง ๆ ลงกลอนประตู ปิดหน้าต่างมิดชิดป้องกันคนบุกรุก เมื่อทุกคนลืมตาตื่นในวันรุ่งขึ้นเหตุการณ์คงคลี่คลายลงแล้ว . . “อย่ามองโลกในแง่ดีจนไว้ใจทุกคน. . .อย่าไว้ใจแม้แต่ตัวเอง” ธนิกทิ้งท้าย . . หลังจากได้รับยานอนหลับและคำชี้แนะจากธนิกซึ่งอ้างตนเป็นคนวงในแล้ว กลุ่มคนทั้งห้าจึงขอตัวแยกออกไปให้ห่างจากจุดศูนย์กลางคือแมกซิมิเลียนทาวเวอร์ . . . ระหว่างธนิกสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ แกนนำเกย์ที่ถูกพลังจิตพัดกระเด็นเมื่อครู่ก็เดินจ้ำอ้าวเข้าหาด้วยความเดือดแค้น เธอเท้าสะเอวชี้จิกหน้าธนิก . . “เสือกเรื่องของกูทำไม!! อีดอกลูกกะหรี่หีควายเย็ดหีแตดโคตรพ่อโคตรแม่มึงสิอีเหี้ยอีสัตว์อีโลนชิงหมาเกิดอีหน้าส้นตีนควยถอกกะดอเย็ดเป็ดเย็ดหมาเลียหีแมวพ่อมึงแหกขาให้กะเทยอัดตูดเหรอแม่มึงเป็นกะหรี่อีแก่หนังเหี่ยวถ่างหีให้ขอทานเย็ดจนแคมปลิ้นมั้งอีสัตว์หน้าหีถลกหนังแตดดอกทองช้างเย็ดชาติหมากากสวะต่ำเตี้ยเดียรัจฉาน @#*&$@&฿#@!%$฿. . .” . . ธนิกยกมือกำอากาศ . . . “อีนรกอีจกเปรตอี. . .โพล๊ะ!” . . ศีรษะแกนนำเกย์ถูกพลังจิตอัดจนแตกเละเหมือนบีบลูกมะเขือเทศแหลกคามือ . . . “รำคาญว่ะ. . .” เขาเลิกชายเสื้อขึ้นเช็ดหยดเลือดที่กระเด็นติดแว่น ก่อนบึ่งจักรยานยนต์ออกไป มุ่งสู่อาคารแมกซิมิเลียนทาวเวอร์ . . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . . ณ ดาดฟ้า อาคารแมกซิมิเลียนทาวเวอร์ เต๋อใช้โทรจิตดึงคนในตึกขึ้นลิฟท์มาสู้กับมีนเรื่อย ๆ ร่วมชั่วโมงแล้ว มีคนนอนสะอื้นไห้กองเกลื่อนพื้นหลังถูกมีนใช้ไซโคเมทรี่โจมตี มีนถ่วงเวลารอธนิกจนอ่อนล้า เห็นทีเธอคงต้องงัดไม้แข็งขึ้นมาใช้เพราะยิ่งปล่อยไว้นานย่อมหมายถึงอัตราความสูญเสียที่แผ่ขยายเพิ่มขึ้น . . “ยิงทิ้งก็ง่ายดีเหมือนกัน!! ฉันจะแก้แค้นให้เธอ!! อ้น!!” มีนชักปืนขึ้นอีกครั้ง เล็งไปทางเต๋อ แค่คิดนั้นง่าย แต่เมื่อต้องตัดสินใจเหนี่ยวไก นิ้วก็เกิดปฏิกิริยาต่อต้านเสียดื้อ ๆ . . “จะรังแกผมเหรอ. . . คุณเป็นใคร. . .ถึงใจร้ายกับผมเหลือเกิน” เต๋อยืนพึมพำ . . . ใบหน้าของเจ๊นนท์ฉายในห้วงนึกคิด เธอไม่อยากให้พี่น้องผู้มีพลังพิเศษฆ่ากันเอง และนั่นทำให้มีนสับสน . . “ไม่. . .ฉันทำไม่ได้. . .ต้องรอนิก. . .” เธอหลับตาข่มใจไว้ . . . และนั่นทำให้เต๋อเห็นช่องโหว่ เขาสั่งให้หุ่นเชิดตัวหนึ่งลุกขึ้นแย่งปืนในมือมีนแล้วโยนมาให้เขา . . “ปืน. . .ปืน. . .แม่ครับ. . .ผมอยากได้ปืน. . .มันแพงไปลูกเอาไว้คราวหลังนะลูก. . .ฮือ ๆ ๆ เต๋ออยากมีของเล่นบ้าง” เขาหยิบปืนขึ้นมาพิจารณาและพร่ำเพ้ออยู่ในโลกส่วนตัวเช่นเคย เขาลองหันลำกล้องยังมีน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ระดับเดียวกับเขาขณะนี้ . . “เต๋อ. . .อย่านะ. . .” มีนหน้าซีดเผือดเมื่อรู้ตัวว่าเสียท่าเข้าให้แล้ว และเธอก็ไหวตัวทันที่จะไม่รอเป็นเป้านิ่ง มีนหันหลังวิ่งไม่คิดชีวิต ไม่ทันขาดคำกระสุนนัดแรกก็ลั่น . . “ปัง!” มีนก้มตัวหลบหลังบาร์เหล้าได้ทันท่วงที . . หญิงสาวเข้าตาจน เธอหยิบซองพลาสติกบรรจุผงสีขาวที่เจ๊นนท์ลักมาจากบ้านเต๋อ มันคือวัตถุดิบที่ต้องใช้สำหรับเรียกพลังต้องห้าม แม้เวลาคับขันยังมีแก่ใจคิดแล้วคิดอีกว่าจะใช้ดีหรือไม่ . . “เล่นซ่อนหาเหรอ. . .คิก ๆ. . .ซ่อนดี ๆ นะ” เต๋อเดินลอยชายพร้อมปืนพกในมือเดินลงเวทีดนตรีเดินตรงยังที่ซ่อน . . . “ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสินะ” เธอหลับชั่งใจครั้งสุดท้ายก่อนตัดสินใจเทผงสีขาวลงฝ่ามือ . . “ซ่อนอยู่นี่เอง. . . .เจอแล้ว” เต๋อชะโงกหน้าเข้าไปหลังบาร์เหล้า . . . มีนปั้นหน้ายิ้มอย่างเป็นมิตรซึ่งส่อพิรุธอย่างมาก เต๋อลังเลอยู่ชั่วครู่ . . แล้วจู่ ๆ เขาก็โยนปืนทิ้ง เข้าสวมกอดมีนด้วยความโหยหา น้ำหูน้ำตาไหลพราก . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . กลุ่มคนทั้งห้าร่วมเดินทางและคุ้มภัยให้กันและกันโดยอาศัยเส้นทางปลอดคนซุ่มลัดเลาะเงียบเชียบแบบทหารกองโจร นาน ๆ จึงเจอมนุษย์ที่คลุ้มคลั่งด้วยอำนาจโทรจิตพุ่งเข้าทำร้าย แต่กลุ่มก้อนที่เข้มแข็งพอตัวช่วยกันเอาชนะจนรอดได้เรื่อยมา จนมาถึงทางแยกสำคัญ เอฟนึกถึงคำพูดของธนิกที่เตือนว่าควรแยกเป็นกลุ่มเล็กจะมีโอกาสปลอดภัยกว่า ทั้งห้าหลบเข้าไปหารือในตรอกเล็ก ๆ สกปรกแห่งหนึ่ง . . . “ยังไม่ได้คิดบัญชีที่หลอกกูเลยนะ ทำไมไม่ให้นักเลงใหญ่ในดวงใจช่วยวะ” เอฟใช้ศอกกระทุ้งสีข้างต๊ะ ที่ส่งแมสเซจบอกว่าตนเองตกอยู่ในอันตรายจนเจ้าตัวกุลีกุจอรีบมา . . “กูเชื่อว่าถ้ามึงยังไม่เพี้ยนมึงจะมาช่วยกูแน่นอน กูไว้ใจมึงคนเดียวเพราะมึงทั้งกล้าทั้งเก่งกว่าผู้ใหญ่บางคนอีก” . . “ไม่ต้องทำเอออวยไอ้สัตว์ ทีอยู่ในโรง’บาลทำเป็น. . .” เอฟวิ่งไล่เตะตูดต๊ะ ขณะหนุ่มผู้เกือบตกเป็นเหยื่อสังเวยสงครามงี่เง่าปัญญาอ่อนไหว้ประหลกขอบคุณคู่รักหนุ่มสาวนักศึกษาที่เข้ามาช่วยเป็นการใหญ่อีกรอบ ชายหนุ่มซาบซึ้งในน้ำใจคนแปลกหน้าอย่างยากจะสาธยาย . . “ไม่เป็นหรอกครับ ผมกับแฟนก็เกือบแย่ น้องเค้าก็มาช่วยทั้งที่ไม่รู้จักกันเลย พวกเราก็แค่อยากช่วยคนอื่นเหมือนที่คนอื่นเคยช่วยเราเท่านั้นเอง” นักศึกษาหนุ่มรับไหว้อย่างถ่อมตนและเพยิดหน้าไปทางเอฟ เด็กหนุ่มที่มีพลังหรือบารมีบางอย่างดึงดูดผู้คนให้เชื่อในศักยภาพและด้านสว่างในตนเอง . . ทั้งหมดตกลงแยกกันเป็นสองกลุ่มตามเส้นทางที่ต้องผ่านจนกว่าจะถึงที่พักของแต่ละคน เอฟร่วมทางกับคู่รักนักศึกษาไปทางซ้าย ส่วนต๊ะจับคู่กับหนุ่มเหยื่อบูชายัญแยกไปทางขวา . . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . ต๊ะและหนุ่มเหยื่อบูชายัญเดินเลี่ยงเส้นทางที่มีการก่อความไม่สงบ ระหว่างทางพบทั้งคนเย็ดกับหมาข้างถนน พระสงฆ์ยืนถลกจีวรให้เณรดูดควย คุณยายนมเหี่ยวโตงเตงนั่งใช้มะระสอดหีช่วยตัวเอง อย่างไรก็ตามทางเส้นนี้นับว่าผู้คนบางตากว่าเส้นทางหลักหลายสิบเท่า และส่วนใหญ่กำลังเพลิดเพลินสุขสมอยู่ในโลกส่วนตัว หากย่องผ่านเงียบ ๆ ไม่สบตาหรือกระโตกกระตาก หนุ่มทั้งสองก็ไม่อยู่ในสายตาคนพวกนั้น. . . เมื่อถึงจุดพักปลอดคน ต๊ะขอพักชั่วครู่และก้มลงผูกเชือกรองเท้า . . “จริงสิ มาด้วยกันตั้งนาน ยังไม่ได้ถามเลยว่าน้องชื่ออะไร พี่ชื่อคิธครับ” หนุ่มบูชายัญแนะนำตัว . . “ต๊ะครับ” เด็กหนุ่มตอบพร้อมและดึงเชือกรองเท้าให้แน่น ก่อนหยิบขวดน้ำยกซดแก้กระหาย . . “เอ. . .เมื่อกี้ได้ยินไม่ชัด. . .พี่ชื่ออะไรนะครับ. . .” . . “คิธครับ” หนุ่มรุ่นพี่ย้ำอีกรอบ . . “ชื่อคุ้น ๆ นะครับ ผมรู้สึกว่าเคยเห็นพี่ที่ไหนมาก่อน” ต๊ะจ้องหน้าคิธอย่างประหลาดใจ ความรู้สึกคล้ายเดจาวู . . “ฮะ ๆ ๆ” คิธยังหัวเราะอย่างเอ็นดูหนุ่มรุ่นน้องได้แม้รอบตัวไม่ต่างจากนรกร้อนระอุ เขาชี้ให้ต๊ะแหงนหน้าขึ้นมองทางเหนือ . . ไม่มีอื่นใดเตะตากว่าป้ายคัทเอาท์ขนาดยักษ์โฆษณาเครื่องดื่มธัญพืชเพื่อสุขภาพของคนรุ่นใหม่ วัยรุ่นหนุ่มหล่อในภาพชูนิ้วโป้งยกย่องสินค้าพร้อมพ่วงลายเซ็นรับรอง . . “พ. . .พ . . .พี่. . .ที่เป็นพระเอกละครช่องสอง. . .” ต๊ะเบิกตาตกใจ . . “นึกออกยังครับ?” คิธยังคงฉีกรอยยิ้มหวานฉ่ำอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่ทำให้เจ้าตัวได้ดิบได้ดีในวงการมายา สมคำร่ำลือที่ว่า แม้ผู้ชายแท้ ๆ ยังอดเอ็นดูไม่ได้ ในช่วงชุลมุนไม่มีใครสังเกตกว่าใครเป็นใคร อีกทั้งเจ้าตัวหน้าตามอมแมม เมื่อสังเกตสังกาจึงเห็นว่าเป็นคนเดียวกับในป้ายโฆษณาไม่ผิดเพี้ยน . . “ที่มีข่าวคนอ้วกใส่ตอนไปออกอีเว้นท์ใช่ไหมครับ” หนุ่มรุ่นน้องถาม . . “เอ่อ. . . นั่นก็ใช่ ฮะ ๆ ๆ ใช่ครับพี่เอง” . . . “ตัวจริงหล่อกว่าในทีวีอีกพี่ แล้วนี่ไปทำไงถึงโดนจับมัดอย่างนั้นล่ะครับ” . . คิธเล่าให้ฟังว่ามีชาวบ้านล้อมวงยืนดูขณะเขาถ่ายละคร สักพักคนจำนวนหนึ่งก็มีอาการผิดปกติ เที่ยวแสดงพฤติกรรมสัปดนเกะกะระราน เขาถูกดึงแขนขายื้อแย่งระหว่างกลุ่มแฟนคลับผู้หญิงและชาวสีม่วง ต่างฝ่ายต่างไม่ยินยอมขอตัดสินตบกันให้รู้ดำรู้แดง คนกลุ่มหนึ่งเข้าไปถอนรื้อกางเขนในโบสถ์ใช้ตรึงร่างเขาประหนึ่งรางวัลเดิมพัน ไม่นานนักคนสัญจรที่ผ่านมาพบเข้าก็เข้าร่วมสังฆกรรมจนกลายเป็นกองทัพย่อม ๆ . . สองหนุ่มเดินคุยกันต่อไป โชคดีทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่อีกจังหวัดจึงไม่ต้องห่วงญาติมิตร กระทั่งถึงจุดที่ต้องแยกจากกัน คิธเสนอให้ต๊ะไปพักที่คอนโดเขาชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย แต่ต๊ะปฏิเสธเพราะคิดว่าแยกกันอยู่น่าจะเพิ่มโอกาสรอดสูงกว่า อีกประการหนึ่งจากตำแหน่งที่ยืนอยู่นี้ที่พักของทั้งคู่ไม่ห่างกันมาก ต่อให้เดินทางคนเดียวไม่น่าจะมีปัญหา . . “งั้นพี่ขอเบอร์น้องได้ไหมครับ เผื่อมีเรื่องโทรปรึกษากันคืนนี้ และเผื่อว่าเราจะได้เจอกันอีก” คิธขอช่องทางติดต่อกับต๊ะ จากนั้นทั้งคู่จึงโบกมืออำลาก่อนแยกย้ายไปตามทางของตน . . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . ไล่เลี่ยกัน กลุ่มของเอฟเดินผ่านเขตเมืองร้าง รถยนต์จำนวนมากถูกเจ้าของทิ้งไว้คาถนน เกะกะขวางจนเส้นทางหลักถูกปิดตาย ร้านสะดวกซื้อเปิดไฟทิ้งไว้แต่ปราศจากผู้คน มีกองไฟไหม้เป็นหย่อม ๆ เอฟคิดว่ากลุ่มคนบ้าคลั่งอาจรวมตัวกันก่อความวุ่นวายกระจุกตัวเฉพาะบางแหล่ง เช่นเดียวกับสงครามตบหมู่แย่งผู้ชายที่ผ่านมา ดังนั้นบางจุดผู้คนจึงพลุกพล่าน บางจุดพบคนประปราย บางจุดปลอดคน หากเลือกใช้เส้นทางอย่างระมัดระวังมีโอกาสถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ คู่รักนักศึกษาแวะเข้ามินิมาร์ทร้างหยิบเสบียงตุนและวางเงินทิ้งไว้ พวกเขาแบ่งปันน้ำและอาหารส่วนหนึ่งให้เอฟติดตัว เพราะไม่อาจคาดเดาได้ว่าเหตุการณ์จะสงบลงเมื่อใด จะก่อนรุ่งสางตามคำกล่าวของชายผู้อ้างเป็นสายสืบลับหรือไม่ก็หาความคาดหวังได้เต็มร้อย . . ถึงชุมทางที่ต้องแยกกันอีกครั้ง เอฟบอกลาคู่รักหนุ่มสาวเพื่อนร่วมผจญชะตากรรม . . “ขอบคุณน้องจากใจจริง ๆ พวกพี่ลาก่อนนะ โชคดีนะน้อง” ทั้งสามจับมืออำลากันก่อนหันไปตามเส้นทางของตน . . เอฟนึกโล่งใจที่คนในครอบครัวหลบซ่อนตัวปลอดภัยดีอยู่ในบ้าน เขาตั้งใจรีบกลับบ้านนำยานอนหลับให้ทุกคนกินตามที่ธนิกแนะนำหลังจากได้บอกคนในครอบครัวแล้ว แต่ในบ้านไม่มียานอนหลับสักเม็ด . . . “ป่านนี้พี่จะเป็นยังไงนะ. . .” เอฟรำพัน เขาต่อสายหาเต๋อเกือบยี่สิบรอบแล้ว อีกฝ่ายปิดเครื่องไว้เช่นเดิม . . . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . . ธนิกลอบเข้าอาคารแมกซิมิเลียนอย่างสะดวกเนื่องจากมีนกรุยทางไว้แล้ว นอกจากนี้คนบางส่วนยังถูกเต๋อเรียกขึ้นไปช่วยและถูกสยบด้วยฝีมือมีน . . . ประตูลิฟท์เปิดออกอีกครั้ง แขกผู้ไม่ได้รับเชิญคนสุดท้ายปรากฏกาย . . . ธนิกกวาดตามองรอบกาย คนนับร้อยชีวิตนอนเรียงรายสะอื้นไห้ บางก็หลับใหลนิ่งสนิท หุ่นเชิดทุกตัวอยู่ในสภาพปลอดพิษสง เขาเห็นมีนนั่งพับเพียบให้เต๋อนอนหนุนตัก . . “เป็นไงบ้างพี่มีน เอาอยู่ใช่ไหม” . . มีนพยักหน้าอ่อนช้อย . . “นึกว่าต้องฆ่ามันซะแล้ว เสียดายของดี เดี๋ยวหายบ้าเมื่อไหร่ค่อยคืนพลังให้มันนะ” ธนิกยิ้มอย่างโล่งอกที่เหตุการณ์คลี่คลายในรูปแบบที่ตนต้องการ . . . . “ไม่ล่ะจ้ะ คราวนี้น้าจะปิดผนึกพลังเขาถาวร เป็นความตั้งใจของเจ้าตัว ซึ่งน้าเห็นด้วย. . .” . . . ธนิกตาค้าง ดีใจได้ไม่ถึงเสี้ยววินาทีก็ต้องกลับมาคิดหนัก . . . มีนเงยหน้าขึ้นช้า ๆ เช่นนั้นแล้วจึงส่งยิ้มให้ธนิก รอยยิ้มซึ่งธนิกไม่คุ้นเคย น้ำเสียงซึ่งไม่ใช่พี่สาวที่รู้จัก . . “ไม่เจอกันหลายปีดีดัก โตเป็นหนุ่มใหญ่แล้วนะเรา. . .ขอบคุณที่ดูแลน้องนะ” . . . “บ้า. . .เป็นไปไม่ได้. . . . . . . . .น้าทิพย์” ความรู้สึกเมื่อครั้นตนเกือบสูญขุมพลังในวัยห้าขวบหวนกลับมาอีกรอบ เขาก้าวถอยหลังออกไปโดยไม่รู้ตัว . . “ไม่ต้องกลัวน้า เดี๋ยวน้าก็จะไปแล้วล่ะ. . .หน้าที่ของน้าใกล้จบแล้ว” . . “เฮ้ย! ไมเป็นงี้!!? ไหนบอกก็อปแค่บุคลิกกับพลังไง” ธนิกโวยลั่น . . เขานึกถึงรายละเอียดในบันทึกลับประจำตระกูล พลังต้องห้ามของผู้มีพลังจิตสัมผัสคือ การสัมผัสหรือดึงความทรงจำจากสิ่งที่ข้องเกี่ยวกับความตายและอารมณ์ก่อนตายซึ่งอันตรายมากเนื่องจากไม่สามารถคาดเดาได้ว่าช่วงที่ผู้ใช้จิตสัมผัสไม่รู้สึกตัวจะกระทำอะไรลงไปบ้าง และในกรณีที่เกี่ยวข้องกับผู้มีพลังพิเศษ ผู้ใช้จิตสัมผัสอาจถือครองพลังพิเศษของผู้นั้นมาใช้เป็นของตนได้ชั่วคราว . . มีนไม่กล้าสัมผัสศพหรืออาวุธที่ใช้สังหารโดยตรงเมื่อต้องช่วยอ้นทำข่าวสืบสวน สมัยวัยรุ่นเธอเคยซุกซนแอบเข้าห้องเจ๊นนท์ หยิบดาบโบราณอันเป็นสมบัติของบรรพบุรุษผู้เป็นขุนศึกที่สังหารโจรชั่วมานักต่อนักขึ้นมาพินิจพิเคราะห์ ผลที่ตามมาคือ มีนลุกขึ้นมาด่ากราดคนในบ้านเป็นภาษาโบราณ สาปแช่งบรรพบุรุษของเธอที่เป็นผู้ทรงอาญาบั่นคอนักโทษอย่างเคียดแค้น ขอข้าวกินอย่างมูมมามตะกละตะกลามโดยอ้างว่าอดอยากมานาน ผ่านไปครึ่งค่อนวันมีนจึงคืนสติกลับมาเป็นคนเดิม ตั้งแต่นั้นมาเธอไม่กล้าแตะต้องของพรรค์นี้อีกเลย นับแต่ซากศพยันเชิงตะกอน โบราณวัตถุ และของมีประวัติต่าง ๆ กระนั้นเจ๊นนท์ก็ยังตีความว่าเป็นแค่การซึมซับบุคลิกและความทรงจำจากวัตถุต้นแบบมาใช้ หาใช่การเข้าองค์ทรงเจ้า ธนิกเชื่อหมดใจเพราะไม่เคยเห็นมีนอยู่ในสภาพนี้ด้วยตาตัวเอง . . สิ่งที่เจ๊นนท์ลอบเข้าบ้านเต๋อเพื่อช่วงชิงมาคือเถ้ากระดูกของทิพย์ ซึ่งเจ๊นนท์ตั้งความหวังว่าอาจเป็นไพ่ตายให้มีนปิดผนึกพลังของเต๋อได้ โดยมีนหารือกับธนิกไว้ ธนิกเห็นด้วยครึ่งหนึ่งว่าสามารถใช้ควบคุมยามเต๋ออาละวาดได้ แต่ไม่เห็นด้วยที่จะปิดผนึกพลังถาวรเนื่องจากขัดต่ออุดมการณ์ปฏิวัติของเจ้าตัวซึ่งต้องการยืมมือเต๋อ . . . อย่างไรก็ตาม ยามนี้ธนิกเชื่อในสัญชาตญาณตนเอง หญิงตรงหน้าไม่ใช่มีนที่ในบุคลิกของทิพย์ บางอย่างที่ซับซ้อนกว่านั้นบ่งบอกเขาว่านี่คือทิพย์ตัวจริง ทวดตีความคลาดเคลื่อน อำนาจไซโคเมทรี่ซับซ้อนกว่าที่ระบุไว้ในบันทึก . . “ทวดตีความผิด. . .นี่มัน. . .ไม่ใช่ก็อปปี้แล้ว. . .” ธนิกก้าวห่างไปตั้งหลัก เหลือบเห็นปืนบนพื้นจึงใช้พลังจิตควบคุมขึ้นมา เขารักษาระยะห่างระหว่างเป้าหมายไว้แล้วส่งปืนลอยออกไปเป็นหน้าด่าน . . . “คืนพลังให้ไอ้เต๋อ. . .เดี๋ยวนี้!!” . . “เธอพูดอะไรน่ะ นี่น้ากำลังจะทำให้เขากลายเป็นคนธรรมดานะ เหตุโกลาหลจะได้จบลงด้วย” ทิพย์ในร่างมีนกล่าวตอบ . . “ปัง!!” ธนิกยิงขู่นัดแรก ทิพย์ไม่สะทกสะท้าน . . “แม่กับพ่อต้องตายเพราะน้าทิพย์! เพราะน้าคนเดียวทำให้ตระกูลเราวอดวาย! ไอ้เต๋อต้องชดใช้ทุกอย่างที่น้าทำไว้! มันต้องทำตามคำสั่งผมเท่านั้น!! ไม่งั้นก็ลงนรกไปซะ!!” . . “เรื่องญาติ ๆ น้าเสียใจนะ ไม่โทษเธอเลยที่จงเกลียดจงชังน้า แต่ที่เสียใจคือเธอไม่เคยเห็นลูกชายน้าเป็นพวกเดียวกันอย่างจริงใจหรอก. . . น้ารู้. . .เต๋อมีค่าแค่ใช้เป็นเครื่องมือ” . . “ก็แล้วจะทำไม!! ปล่อยให้มันมีลมหายใจก็บุญเท่าไหร่แล้ว!! บางครั้งผมอยากฉีกแขนขามันเป็นชิ้น ๆ ด้วยซ้ำ!!” . . “. . . . . .” ทิพย์ไม่ตอบและใช้พลังของเธอผ่อนกำลังกระแสโทรจิตพลุ่งพล่านต่อไป . . “. . . .จะบอกอีกหนเดียว คืนพลังให้เต๋อซะ ผมจะจัดการเอง” ปืนลอยกระชั้นใกล้ทิพย์ยิ่งขึ้น . . “น้าถึงได้เคยบอกไง. . .ไม่อยากเห็นเธอโตมาเป็นแบบผู้ใหญ่พวกนั้น. . .” เธอลูบหัวลูกชาย . . “แล้วทีน้าคืนพลังให้มันก่อนเสียล่ะ!! ถ้าคิดว่าพลังทุกคนมันเหี้ยหมดแล้วคืนให้มันทำไม! อย่าสองมาตรฐานดีกว่า!” . . “นั่นเพราะน้ารู้ว่าเต๋อจะไม่ใช้เที่ยวทำร้ายคนแบบไร้เหตุผล. . .อีกอย่างน้าเป็นห่วงว่าเขาจะดูแลตัวเองไม่ได้. . .มันก็มีทั้งคุณและโทษ เต๋อได้เติบโตเรียนรู้ผิดถูกไปพร้อม ๆ กับพลังที่ติดตัว. . .แต่เมื่อเต๋อพูดกับปากเองว่าไม่อยากได้มันแล้ว. . .ในฐานะคนเป็นแม่ น้าก็สนับสนุนทางที่เขาเลือกเอง. . .” . . . “น้าไม่อยากยุ่งเรื่องในโลกนี้อีก. . . แต่ถ้าเธอไม่ให้เกียรติเราสองแม่ลูก. . .เห็นที. . .” . . . ธนิกรู้สึกว่าปืนที่ถูกควบคุมจากระยะไกลเริ่มสั่นไหวไม่ได้ดั่งใจ . . “อย่านะ. . .อย่าท้าผมน้าทิพย์. . .” เหงื่อเม็ดกาฬผุดทั่วหน้าผากธนิก คลื่นจิตบางเบากว่าพลังพิเศษชนิดอื่น แต่แฝงเร้นด้วยอานุภาพร้ายกาจเหนือผู้ใดกำลังซอกซอนสู่ตัวเขาทีละน้อย . . . “ออกไปจากหัวผมเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!” . . . “ปัง!!! ปัง!!!” . . ทิพย์ก้มมองท้องร่างภาชนะ ดอกเลือดสองจุดค่อย ๆ ผลิบานต่างเครื่องประดับอาภรณ์ . . “นี่ร่างพี่เธอนะ” ทิพย์กุมปากแผล หาใช่กลัวตายเพราะตนตายไปแล้ว สิ่งที่เป็นห่วงคือร่างของหลานสาว . . “กูไม่สนแล้วโว้ย!!! พวกมึงมันงี่เง่าน่ารำคาญทุกตัว!! ถ้าไม่ฟังกูก็ตายไปให้หมด!! เป็นเทวดาดี ๆ ไม่ชอบ!! รั้นอยากเข้าข้างพวกมนุษย์สวะ” . ธนิกวิ่งจากจุดตั้งหลักหันมาประจัญหน้าด้วยความเหลืออด เขาใช้พลังไซโคไคเนซิสยกร่างทิพย์ขึ้นกลางอากาศและบีบรัดลำคอ . . . “เธอนี่มัน. . .” ทิพย์ใช้พลังเต็มพิกัดปรับคลื่นจิตของธนิกลงลดฮวบฮาบ เห็นผลทันตาเมื่อธนิกรู้สึกว่าร่างที่ยกเหนือพื้นนั้นหนักอึ้งทบเท่าทวีคูณ . . “กูยังเหลือแรงมากพอที่จะจับพวกมึงโยนตกตึก!! อย่าอวดเก่งนัก!!” ธนิกคำราม . . เต๋อซึ่งได้ยินได้ฟังเหตุการณ์อยู่พอสมควรและนอนให้ทิพย์กระแสจิตจนอาการเทเลพาธิคดิสออร์เดอร์ทุเลาลงเกินกว่าร้อยเจ็ดสิบ เขาได้ตัวตนกลับคืนมาอีกครั้ง . . . “ผมก็เหลือพลังมากพอที่จะต้านคุณเหมือนกัน!” . . สองแม่ลูกร่วมมือกัน ทิพย์ลดอำนาจจิตธนิกซึ่งพยายามสุดแรงเกิดที่จะเขวี้ยงร่างเธอให้ตกตึก ส่วนเต๋อใช้อำนาจโทรจิตที่ยังตกค้างอยู่กดดันธนิก สามคนต่างต้านพลังไปมา . . “พวกมึงมันเนรคุณต่อบรรพบุรุษ!! ทำลายสายเลือดศักดิ์สิทธิ์!!! ซ้ำยังเข้าข้างเดนมนุษย์!! เทวดานอกคอกอย่างพวกมึงต้องถูกกำจัด!!” ธนิกรีดพลังสุดขีดคัดง้างกับอีกสองคนจนเส้นเลือดตามใบหน้าปูดโปน . . “แล้วเพื่อนเธอ. . .ครูเธอ. . .คนที่เธอรัก. . .ทุกคนที่ทำดีกับเธอ. . .พวกนั้นไม่ใช่มนุษย์หรือไง” . . “หุบปากซะ!! นังคนทรยศ!! ทรยศศศศศศศศศศศ!!!” ธนิกรวบรวมพลังจิตเฮือกสุดท้ายหมายขว้างร่างทิพย์ให้กระเด็นตกระเบียง . . “ตุ๊บ!!” ร่างของทิพย์ตกลงสู่พื้นเร็วรี่ . . . เธอประคองตัวลุกขึ้น ขณะที่ธนิกแทบล้มทั้งยืน กลยุทธ์สังหารของเขาล้มเหลว ไม่แต่เท่านั้น เขาถูกพลังของทิพย์ชะล้างอำนาจเหนือมนุษย์หมดจด . . “ขอโทษแม่ผมซะ!!” เต๋อเป็นฝ่ายปักธงชัย เขาครอบงำจิตธนิกได้สำเร็จ . . . ธนิกยกมือไหว้ขอโทษที่ล่วงเกินทิพย์ . . “ไสหัวไป. . ..ให้พ้นหน้า. . .” เต๋อออกคำสั่ง แววตาธนิกถูกตกอยู่ในห้วงอำนาจจิต เขาหันหลังกลับและเดินลงลิฟท์ไป . . . สองแม่ลูกได้อยู่ตามลำพังอีกครั้งครา เต๋อใช้พลังโทรจิตที่หลงเหลืออยู่ควบคุมหุ่นเชิดทุกชีวิตที่อยู่ในชั้นดาดฟ้าลงไปอยู่ชั้นอื่นเพื่อสร้างพื้นที่ส่วนตัว เขานอนหนุนตักแม่เป็นลูกแหง่อย่างไม่เคอะเขิน ทิพย์ยังใช้พลังของเธอผ่อนแรงพลังโทรจิตต่อไปจนกว่าจะเข้าสู่ภาวะมนุษย์ปกติ เต๋อมีเรื่องมากมายอยากเล่าให้แม่ฟัง ทั้งเรื่องที่อยากอวด เรื่องที่อยากขอโทษ เรื่องที่อยากระบาย ทิพย์หลีกเลี่ยงหัวข้อเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของเธอ บางสิ่งเธอคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่เต๋อควรรับรู้ . . “แม่ว่าคนเราเห็นแก่ตัวกันทุกคนไหมครับ. . .” เต๋อถาม . . . “มีกันทุกคนแหละลูก ไม่มีครั้งใดที่แม่ไม่นึกเสียใจที่เป็นต้นเหตุให้ผู้หญิงคนนั้นฆ่าตัวตาย แต่ถ้าแม่ไม่เห็นแก่ตัว. . .แม่ก็จะไม่สมหวังในความรัก. . . ถ้าแม่ไม่เห็นแก่ตัว. . . ลูกก็คงไม่เกิดมา. . .และถ้าแม่ไม่เห็นแก่ตัว. . .ลูกของแม่ก็คงยังต้องทนให้เขารังแกต่อไป. . .” . . . เต๋อนอนฟังอย่างว่าง่าย . . . “แต่อย่าลืมว่าเมื่อมีด้านมืด ด้านสว่างย่อมเกิดขึ้นเพื่อรักษาสมดุลในตัวมันเอง. . .แม่หมายถึงอะไร. . .ลูกรู้ดี. . .” . . “ธนิกไม่ใช่คนเลวร้าย. . .เจตนาของเขาแม่เข้าใจ. . .แต่ความบังเอิญหลายอย่าง ประจวบเหมาะให้ยังไม่ควรแก่เวลาที่เขาจะคิดแทนคนทั้งโลก. . .ทั้งเรื่องของลูก. . .ทั้งเรื่องของแม่. . .ทุกอย่างปะทะกันจนเป็นอย่างที่เห็น. . .มันอาจเป็นได้ทั้งความบังเอิญและโชคชะตาที่ยังยืนข้างมนุษย์. . .” . . . ระหว่างที่นอนฟังเสียงแม่ เต๋อสังเกตว่าเลือดไหลออกทางตา จมูก ปาก ตามที่เขาทราบคืออาการเทเลพาธิคดิสออร์เดอร์ขั้นสุดท้ายซึ่งมีโอกาสถึงแก่ชีวิต . . . “ผมจะได้ไปอยู่กับแม่แล้วนะครับ ฮะ ๆ ดูสิครับ” เต๋อปาดเลือดกำเดา . . “ยังไม่ถึงเวลาหรอก ลูกใกล้จะกลับเป็นมนุษย์ปกติแล้ว” เธอปรับพลังจิตเต๋อใกล้เข้าสู่ระดับคนทั่วไป . . “ลูกเป็นนกฟีนิกซ์นะ ตายแล้วเกิดใหม่ได้ อย่าลืมสิ” ทิพย์ส่งยิ้มอ่อนโยน . . “แม่รู้ได้ไงครับ. . .” เต๋อหน้าแดงก่ำ ขวยเขินจนต้องหลบตา . . . “เด็กคนนั้นเป็นคนดี ที่สำคัญ คนมีเทเลพาธีจะดูคนแต่เปลือกนอกได้ยังไง แม่เชื่อว่าลูกคิดดีแล้ว” . . . ประโยคนี้เล่นเอาเต๋อถึงกับหน้าชา แต่ลึก ๆ ก็รู้สึกภูมิใจที่แม่ยอมรับทุกอย่างที่เป็นตัวเขา ทั้งเส้นทางที่เขาเลือกและคนที่เขารัก . . . . “แม่ครับ. . .ผมเหนื่อย. . .อยากหลับแล้วไม่ต้องตื่นขึ้นมาอีกเลย” เต๋อหลับตารำพึง . . . “อย่าให้เหตุการณ์นี้เป็นแผลติดตัวไปจนตายหรือตายเพื่อหนีปัญหา ลูกไม่มีเจตนา แม่รู้. . .จงชดเชยความรู้สึกขุ่นหมองโดยการช่วยเหลือคนอื่น. . . แล้ววันหนึ่ง. . .ลูกจะรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ามากกว่าเดิม. . .” เธอหันทิวทัศน์มองน่านฟ้าป่าคอนกรีตยามค่ำคืนซึ่งโชยด้วยควันไฟและเสียงไซเรนอึกทึก ทิพย์เข้าใจดีว่าลูกชายต้องการสื่อความรู้สึกใด . . . “หลับเถอะลูกแม่. . .” เธอลูบศีรษะลูกชายอย่างทะนุถนอมและขับขานบทเพลงอำลา . . “เจ้าเนื้อละมุนเอย เก็บมาร้อยกรองให้แม่ของข้าเล่น นอนไปเถิดนะแม่จะกล่อม ทองคำแม่อย่าร่ำร้องไห้. . .” / U/ W0 \+ H# {1 O2 P
. . . “แม่ครับ เต๋อรักแม่ที่สุดในโลกเลย” เขาหลับตาอย่างอิ่มเอม ความโหยหาที่เดินทางตามหามาตลอดเส้นทางบัดนี้ถูกเติมเต็มแล้ว เขาหลับลงในอ้อมกอดของแม่ . . . หลังจากเต๋อหลับสนิท ทิพย์ประคองบาดแผลลุกขึ้นเดินไปนั่งปลีกวิเวกหลบมุมทางบันไดหนีไฟ . . . “อโหสิกรรมให้น้าด้วยนะ. . .น้าไม่ตั้งใจให้เธอเป็นแบบนี้เลย. . .” . . . ลมหายใจของทิพย์แผ่วลงช้า ๆ กระทั่งจางหายพร้อมกับการจากอย่างไม่มีวันกลับของหญิงสองคน
# A& ]% A3 w) E) l* `. . ))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . ผ่านไปไม่นานหลังจากทิพย์ควบคุมพลังลูกชายให้เป็นโมฆะ พิษโทรจิตยังคงตกค้างอยู่ในสำนึกเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย ผู้คนยังดำเนินกิจกรรมสนองตัณหาต่อไป ยังต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะได้สติกลับคืนมา . . ธนิกยืนหลบมุมข้างลานกิจกรรมซึ่งคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเรือนพันรวมตัวกันจัดเซ็กส์หมู่สวิงกิ้งไม่จำกัดเพศและวัย เขาพยายามรีดเร้นพลังไซโคไคเนซิสทำร้ายใครสักคนก็ได้ต่างหนูทดลอง เพื่อพิสูจน์ว่าพลังของตนยังไม่สูญสิ้น . . “แม่ง. . .งอสิวะ” เขาจ้องร่างชายหญิงคู่หนึ่งที่กำลังสังวาส โดยตั้งใจทำให้แขนขาบิดงอ แต่ไม่ว่าทุ่มเทกำลังจิตเพียงใดก็ไม่ยังผล แม้เปลี่ยนเป้าหมายรายแล้วรายเล่าก็มิอาจสำแดงอิทธิฤทธิ์ดังเดิม . . “ห่าโว้ย!. . .” ธนิกจ้องจนดวงตาแทบถลนออกจากเบ้า . . หญิงคนหนึ่งเดินมาสะกิดหลังทักอย่างไม่ให้สุ่มเสียง . . “เธอ ๆ เราอยากให้เธอเย็ดจัง มาเย็ดกับเราเถอะ” สาววัยรุ่นหน้าตาจิ้มลิ้มเปลือยกายเอ่ยความต้องการตรง ๆ . . “อย่ายุ่งกับกู!” ธนิกผลักหญิงสาวล้มลง . . ชายฉกรรจ์สองสามคนที่อ้างว่าเป็นคู่ขาของหญิงคนดังกล่าว เดินควยห้อยเข้ามาล้อมตัวธนิก พวกเขาช่วยออกตัวว่าเพื่อนหญิงคนนี้ต้องการมีเซ็กส์หมู่และอยากให้ธนิกร่วมวงด้วย อารมณ์ของธนิกยิ่งปะทุโทสะจนไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป . . “ไอ้พวกสวะ!!” ธนิกชกหน้าชายคนหนึ่งและบีบคอ สหายอีกสองคนช่วยกันดึงตัวออกมาและกระทืบสั่งสอน . . “ไอ้เหี้ยนี่ ชวนเย็ดหีเด็กเอ๊าะ ๆ ดี ๆ ไม่ชอบ!” ธนิกถูกรุมเตะกระทืบจนแว่นแตกสะบักสะบอม . . “มึงต้องเย็ดกับเพื่อนกู! ไม่งั้นมึงตาย!” ชายคนหนึ่งควักมีดพับจอคอหอยบังคับธนิกให้ร่วมเพศกับเพื่อนหญิงของพวกเขา โดยทั้งสามจะเป็นผู้นั่งชม ธนิกเพิ่งรู้สึกถึงความไร้อำนาจ เมื่อปราศจากพลังจิตตนก็เป็นเพียงไอ้ขี้แพ้ไร้ค่าที่ไม่อาจใช้ฤทธิ์เดชควบคุมจัดการกับมนุษย์ได้อีกต่อไป เขาถูกลากตัวเข้าหลังพุ่มไม้และถูกจับเปลื้องผ้า เขาไม่แสดงปฏิกิริยาต่อต้าน สิ่งเดียวที่ทำในเวลานี้คือ ปล่อยกายใจตกดิ่งสู่ห้วงแห่งความแพ้พ่ายและสิ้นหวัง . . “นี่มันเรื่องบ้า. . .บ้าสิ้นดี” ธนิกเหม่อลอยมองดาวเรียงรายบนฟ้า หญิงสาวผู้กำหนัดไม่รอช้า แม้อีกฝ่ายนอนเป็นท่อนไม้เธอก็ยินดีจัดการให้ทุกอย่าง . . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . . . . เหตุการณ์ไม่สงบบรรเทาเบาบางลงเมื่อผ่านไปราวห้าถึงหกชั่วโมง อำนาจโทรจิตที่ตกค้างในหัวสมองผู้คนแทบไม่หลงเหลือ ผู้คนอ่อนล้านอนสลบไสลเกลื่อนกลาดถนนและที่สาธารณะ บ้างก็ฟื้นคืนสติพร้อมอาการตกใจสุดขีดที่ไม่รู้ว่าตนทำอะไรลงไปบ้าง หน่วยกู้ภัยและรถพยาบาลออกรถจ้าละหวั่น ภาคบรรเทาสาธารณะภัยเริ่มปฏิบัติการอย่างเป็นรูปธรรม . . . เต๋อค่อย ๆ เปิดตาช้า ๆ รับภาพน่านฟ้าก่อนรุ่งสาง ลมเย็นโชยเข้าประโลมใบหน้า . . ชายหนุ่มลุกครึ่งตัวนั่งยันพื้น. . .ครุ่นคิดพิจารณาทุกอย่างที่เกิดขึ้นตลอดคืน. . .แม่ของเขาได้อธิบายเรื่องพลังต้องห้ามของมีนและเงื่อนไขทุกอย่างให้เขาทราบ. . . ป่านนี้แม่คงจากลาไปแล้ว. . .เหลือไว้เพียงโอกาสให้เขากำเนิดใหม่อีกครั้ง. . .ท่ามกลางความรู้สึกผิดบาป. . .หายนะครั้งนี้มีต้นเหตุจากพลังเทเลพาธีอย่างไม่สามารถหลอกตัวเองได้เลย . . . เขานึกทบทวนคำพูดของแม่. . .คนเราย่อมมีทั้งด้านที่เห็นแก่ตัวและด้านสว่าง. . .ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น กฎหมายเอาผิดเขาไม่ได้ ต่อให้ยินดีประจานตนเองก็ไม่มีคนเชื่อ และต่อให้ฆ่าตัวตายเสียตอนนี้ก็ไม่อาจทำให้สิ่งที่เสียหายไปกลับคืนมาได้อีก . . แต่สิ่งที่พอทำได้. . .คือมีชีวิตอยู่ต่อไปและชดใช้ความผิดที่ตราตรึงในใจ. . .แม้มันไม่อาจลบล้างได้ ไม่อาจทำให้เจ้าหนี้พึงพอใจ แต่ยังดีกว่าใช้ชีวิตต่อไปอย่างไม่รู้สำนึก . . เขานึกถึงใบหน้าเพื่อนร่วมห้องที่หวาดกลัวการตามล้างแค้น . . . .ตัวเขาในเวลานี้ก็ไม่ต่างเท่าไหร่. . .ผิดไปแล้ว. . .แต่ก็ยังต้องเดินหน้าต่อไปตราบยังไม่ถึงที่สุดของอายุ. . . . . คงเป็นเรื่องยากที่มนุษย์จะมีชีวิตอยู่โดยไม่เบียดเบียนสิ่งใดเลย . . บางครั้ง เพียงการมีอยู่ของใครสักคน หรือเพียงคำพูดหนึ่งคำก็ทำให้ผู้อื่นเจ็บปวดได้แล้ว . . . และนั่นทำให้เขาได้กลับมาคิดว่า ตนก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่งที่อยู่ในกฏนี้เช่นเดียวกัน . . . จึงขอตัดสินใจกลับมาอยู่แบบมนุษย์ ใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ ตายอย่างมนุษย์ ไม่ใช่เทวดาอีกต่อไป . . . เต๋อลุกขึ้นเปิดโทรศัพท์มือถือ. . .มีข้อความเตือนสายที่ไม่ได้รับเกือบสามสิบสาย . . . เกือบทั้งหมดเป็นสายของเอฟ . . เต๋อไม่รอช้า โทรกลับไปทันที . . อีกด้านหนึ่ง เอฟนั่งสัปหงก ยังคงเป็นห่วงเต๋อจนไม่ยอมกินยานอนหลับตามคนที่บ้าน เมื่อได้ยินเสียงเรียกเข้าและเห็นว่าเป็นคนที่เป็นห่วงที่สุด ณ เวลานี้จึงสะบัดความง่วงรับสายทันที . . “ผมติดต่อพี่ไม่ได้เลย!! เป็นห่วงนะครับ!! พี่เป็นไงบ้างโอเคป่าว!!” . . “สบายดีครับ. . .เอฟล่ะ คุณพ่อคุณแม่ด้วย” เต๋อถามกลับ . . “ไม่มีใครเป็นอะไรเลยพี่ ตอนนี้เหตุการณ์สงบลงแล้วครับ. . .ตอนนี้พี่อยู่ไหนครับเนี่ย” . . “พี่อยู่ในที่ปลอดภัยครับ เอาเป็นว่าไม่มีใครเป็นอะไรก็ดีแล้วครับ. . .ไม่งั้นพี่คง. . .” . . . “ทำไมเหรอครับ” เอฟนึกสนเท่ห์ใจ . . “เปล่าครับ. . .พี่อยากเจอเรามากเลยนะ. . .อยากกอด. . .อยากหอมแก้ม. . .” . . . “เฮ้ย!. . .พี่!!” แม้เพียงเสียงเอฟก็หัวใจสั่น เขาไม่เคยได้ยินคำจำพวกนี้หลุดจากปากของเต๋อมาก่อนเลย . . เต๋อสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ก่อนจะเปลื้องความในใจออกมา . . “คบกับพี่นะครับเอฟ” . . )))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))))) . . . 6:07 น. . . . ธนิกอยู่ในสภาพเสื้อผ้ายับยุ่ง เนื้อตัวมอมแมม แว่นคู่กายแตกร้าว เขาเดินเตร็ดเตร่ไร้จุดหมายหลายชั่วโมงแล้ว . . “ทำไม. . .ทำไม. . .ทำไมวะ. . .” เขาป้อนคำถามที่ไม่มีคำตอบให้ตัวเองวนซ้ำไปมา . . . “เทวดาอย่างเรา. . .ทำไมถึง. . .” ดูเหมือนธนิกไม่สามารถทำใจได้หลังจากสูญเสียพลังไซโคไคเนซิส . . “ไม่จริง. . .ไม่ใช่เรื่องจริงเด็ดขาด. . .” . . เขาเดินมาถึงถนนใหญ่แถบชานเมือง. . .ช่วงเช้าถนนยังโล่งกว้าง. . .ทิ้งช่วงระยะหนึ่งจึงจะมีรถผ่านมาสักคัน . . รถกระบะคันหนึ่งแล่นมาได้จังหวะเข้าตาธนิกพอดี . . ชายหนุ่มวิ่งเข้าไปขวางรถ กางฝ่ามือออกด้วยท่วงท่าน่าครั่นคร้ามอย่างที่เคยชิน . . “ลอยขึ้นเดี๋ยวนี้!! ว้ากกกกกกกกกก!!!” . . . ผลพิสูจน์ช่างน่าเศร้า. . . .เมื่อสิ่งที่ลอยขึ้น. . .กลับเป็นร่างของเขาเอง . . . จำนวนตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์เทเลพาธิคดิสออร์เดอร์ครั้งนี้ ถูกโทรจิตครอบงำ 366,708 ราย บาดเจ็บ 75,294 ราย ถึงแก่ความตาย 43 ราย . .
# c& T1 E7 t/ W' ]) a! {. u" O: B5 s1 k3 `5 a" m6 V1 {4 j, }
|