ผมรู้สึกตัวขึ้นมาอีกที ก็รู้สึกปวดหน่วงที่ศีรษะ และรู้สึกคอแห้งมาก จนเมื่อลืมตาขึ้นมาก็มองหาน้ำที่อยู่ข้างกาย "ซี ซี ฟื้นแล้ว ซีฟิ้นแล้ว เอาอะไรหรอ"ผมได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเอ่ยเรียกก่อนจะถามถึงสิ่งที่ผมต้องการ "น้ำ น้ำ น้ำ แคก แคก แคก"ผมพูดตอบอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง ก่อนจะไอด้วยอาการเจ็บคอ อีกฝ่ายรับรู้ถึงสิ่งที่ผมต้องการ จึงยกเหยือกน้ำรินใส่แก้วยื่นให้ผม ผมคว้าแก้วน้ำเอาไว้แต่ขณะที่ยื่นแขนไปรับนั้นรู้สึกตึงที่แขน "อึก อึก อึก อึก"ผมกระเดือกดื่มน้ำจากแก้วจนหมดภายในเวลาไม่กี่วินาที ก่อนที่จะเริ่มมองไปรอบตัว จนเจอเข้ากับเจ้าของร่างที่รินน้ำให้ผม "พี่ฟิว" "ซี ฟื้นแล้ว โอเค เดี๋ยวพี่ไปตามพ่อซีก่อนนะ"ผมเห็นร่างพี่ฟิวพุ่งไปนอกห้อง ผมมองไปรอบห้องจนรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังนอนอยู่ในโรงพยาบาล และเตียงของผมก็มีอุปกรณ์ต่าง ๆ เต็มไปหมด แถมขาของผมยังมีเฝือกสวมอยู่ แขนสองข้างมีสายอะไรห้อยมาไม่รู้ ไม่นานหมอก็เข้ามาในห้อง หมอเดินเข้ามาตรวจและพูดคุยบางอย่าง ก่อนที่จะให้ผมพบกับญาติได้ "ซี ซีฟื้นแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง พ่อคิดว่าเราจะเป็นอะไรไปแล้ว"พ่ออินเดินเข้ามาดูผมด้วยความดีใจ ผมเห็นหยดน้ำใสที่คลอเคล้าในเบ้าตา ส่วนพ่อของผมก็เดินตามมาแล้วคอยดูอยู่ห่าง ๆ "ผมมาที่นี่ได้ไงครับ ผมจำได้ว่า ผม…"ผมนึกถึงช่วงเวลาก่อนหน้าจนรู้ว่าผมพลัดตกลงมาจากโขดหิน "วันนั้นตอนดึกพี่ติดต่อซีไม่ได้เลยพากันออกตามหา ดีที่กาฟิวไปเจอซีนอนหมดสติอยู่ที่โขดหินหลังหาด" "ใช่ ซีไปทำอะไรตรงนั้น โชคดีนะที่ไปเจอเร็ว เพราะถ้าไปช้ากว่านี้น้ำขึ้นสูง พ่อไม่รู้ว่าจะเกิดอไรขึ้น้บาง"พ่ออินอธิบายเสริม "ผม ผมขอโทษครับ"ผมมองพ่อของผม เราสบตากันครู่หนึ่งก่อนผมจะสัมผัสถึงดวงตาที่ไหวอ่อนในนั้นก่อนที่พ่อของผมจะเดินหายไปจากห้อง "แล้ว ผมหลับไปนานแค่ไหนครับ" "ซีสลบไป 1 วันเต็ม ๆ หมอบอกว่าให้อยู่ดูอาการอีกหน่อย อยากกินอะไรไหม เดี๋ยวพี่ไปซื้อมาให้" "ได้ของเปรี้ยว ๆ หน่อยก็ดีครับ"พี่ฟิวเดินออกไปจากห้องเพื่อไปซื้อของให้ผม "ซี พ่อไม่รู้นะ ว่าซีคิดยังไง แต่พ่อของเราเป็นห่วงเรามากนะ" "..."ผมนิ่งเงียบฟังสิ่งที่พ่ออินเล่า "ตอนที่เจอเราน่ะ พ่อของเราเขารีบวิ่งไปหาแล้วแบกเราขึ้นหลังมาส่งที่โรงพยาบาลเองเลยนะ" "ขาผมถึงได้เป็นแบบนี้ใช่ไหมครับ"ผมพูดประชดไป พ่ออินทำหน้าดุใส่ผมก่อนจะพรรณนาต่อ "พ่อเราเป็นห่วงเรามากนะรู้ไหม" "เป็นห่วงผมแต่ทิ้งผมไปปล่อยให้ผมอยู่คนเดียวน่ะหรอครับ" "ซีจำไม่ได้หรอ?" "?"ผมหันไปมองหน้าพ่ออินด้วยความสงสัย "ที่พ่อเราต้องไป เพราะใคร จำไม่ได้หรอ?" "ผม…จำไม่ได้ ทำไมหรอครับ" "ตอนเด็ก ๆ หลังจากแม่ซีไปแต่งงานใหม่ ซีโทษพ่อว่าเป็นคนทำให้แม่ทิ้งซีไป พ่อของเราเสียใจมากจนมาร้องไห้กับพ่อทุกวัน" "ห๊ะ พ่อผมน่ะหรอร้องไห้?!" "ใช่ พ่อของเรามาร้องไห้กับพ่อ แล้วพอซีเข้าประถม ก็ร้องอยากได้นู่นอยากได้นี่ พ่อของซีก็หาเงินซื้อให้ ตอนที่โรงงานพ่อของซีไปได้ไม่ดีอยากจะย้ายซีจากโรงเรียนเอกชนมาเรียนกับเอก ซียังร้องไห้จนพ่อซีใจอ่อน ไม่นานโรงงานพ่อของซีก็ล้ม จนพ่อของซีต้องไปทำงานที่เมืองนอกเพื่อส่งเงินมาให้ซีใช้" "พะ พ่อผมน่ะหรอ…."เมื่อฟังเรื่องที่พ่ออินเล่า ทำให้ผมนึกย้อนถึงวัยเด็ก ทำให้ผมรับรู้ความจริงบางอย่าง "เพราะผมหรอครับ เป็นเพราะผมหรอ…"ผมถามพ่ออินด้วยความสับสนจนพ่ออินใช้มือลูบหัวปลอบผม "มันไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้นแหละ อย่าคิดมากไปเลย"สิ่งที่ผมทำมาตลอดคือการกล่าวโทษพ่อในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยที่ไม่รู้เลยว่า แท้จริงแล้ว สิ่งเหล่านั้นมันเกิดขึ้นเพราะความเอาแต่ใจของผมเอง "ฮึก เพราะผมเองงั้น หรอ เพราะผมใช่ไหมครับ ถึงทำให้เรื่องมันเป็นแบบนี้" "ซี"ร่างหนาเดินเข้ามาในห้องยืนที่ข้างเตียงของผม "พ่อ….."พ่ออินยกมือตบบ่าของพ่อผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ผมกับพ่ออยู่ด้วยกัน "พ่อครับ" "ไม่เป็นไร ไม่ต้องงพูด พ่อขอโทษ ที่ไม่ได้อยู่ดูแลแกที่นี่" "ไม่ ฮึก ผมขอโทษ ที่พูดไม่ดีกับพ่อ ผมขอโทษ ฮือออ"ผมปล่อยโฮออกมา พ่อก้มตัวลงกอดปลอบผม "ไม่เป็นไร แกไม่ได้ผิด คนที่ผิดคือพ่อเอง ที่ตัดสินใจแบบนั้นโดยไม่ได้บอก พ่อขอโทษนะ" "เรื่องจริงไหม ที่โรงงานพ่อล้มเพราะผม" "ไม่ นั่นไม่ใช่ความผิดของซี เป็นเพราะพ่อบริหารไม่ดีเอง" "แล้วที่พ่อต้องไปทำงานที่อื่นเป็นเพราะผมใช่ไหม" "....."พ่อผมเงียบไปไม่ปฏิเสธ แต่ก้มหัวลงมาจุ๊บที่หน้าผากของผม ผมสัมผัสได้ถึงความรักและความห่วงใยที่ผมเฝ้าหามาตลอด ….พ่อของผมคนเดิมกลับมาแล้ว 5 o: J7 e* Y! s4 l6 Y7 ^' X) {
หลังออกจากโรงพยาบาล ผมกับพ่อก็ใช้เวลาด้วยกัน เนื่องจากพ่อผมบินกลับมาแค่สุดสัปดาห์ พี่ฟิวไม่ได้ว่าอะไรและเข้าใจผม จึงได้ขอตัวกลับไปก่อน พ่อของผมก็ขอโทษพี่ฟิวที่พูดจาร้ายใส่ในครั้งแรกที่เจอกัน พ่อของผมเล่าเรื่องที่ไปทำงานเมืองนอก พบเจอกับใคร ยังไงก็เล่าให้ฟังหมด ผมเองก็เปิดใจคุยกับพ่อหลังจากที่ไม่ได้คุยกันนาน ตั้งแต่เรื่องที่ผมมีเซ็กครั้งแรกจนถึงปัจจุบัน พ่อของผมไปทำงานเมืองนอกมาก็เข้าใจและให้คำแนะนำอย่างการป้องกัน ผมก็อธบายว่าผมนั้น On PReP แต่ก็สวมถุงยางร่วมด้วย และยังได้พูดถึงความสัมพันธ์ของผมกับพี่ฟิว ซึ่งพ่อที่ห้ามในตอนแรก แต่เมื่อพี่ฟิวเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมไว้ หากพี่ฟิวไม่เจอผมในตอนนั้นผมอาจจะ…จากไปแล้วก็ได้ เลยฝากขอบคุณพี่ฟิวและสนับสนุนหากผมจะคบกัน ซึ่งผมยังไม่คิดถึงขนาดนั้น จนหมดช่วงวันหยุด ก่อนที่พ่อจะกลับไปทำงานก็พาผมไปตัดเฝือกที่เท้า และได้รู้ว่าที่ผมต้องใส่เฝือกนั้นเป็นเพราะพ่อจริง ๆ วันที่พ่อแบกผมไปส่งโรงพยาบาล พ่อแบกผมแล้วขาผมไปชนกับเก้าอี้ไม้สักของโรงพยาบาลเข้าอย่างจัง ตอนหมอเอ็กเรย์เห็นรอยร้าวนิดหน่อย เอิ่ม ต้องชนแรงขนาดไหนเอ่ย นั่นแหละ แต่แค่นิดเดียวพ่อผมไม่ยอมบอกให้หมอสวมเฝือกให้ได้ เลยต้องสวมเฝือกพอเป็นพิธี แต่ไม่ร้ายแรงมาก ตอนนี้ก็หายดีแล้ว (หมอแอบบอกมาว่าร่างกายซ่อมแซมตัวเองไม่เกี่ยวกับเฝือก) เสร็จพ่อก็จะขับรถพาผมไปส่งที่มหาวิทยาลัย แต่พ่อของผมต้องเดินทางต่อ ผมไม่อยากให้พ่อขับรถมาส่งผมแล้วย้อนกลับไปที่สนามบิน เพราะจะทำให้เวลาพักผ่อนของพ่อไม่พอ พี่ฟิวเลยอาสาที่จะมารับผมเอง หลังจากกลับมาถึงมหาวิทยาลัย ผมกับพี่ฟิวก็เปิดใจพูดคุยกันมากขึ้นจนไอ้เอกและเพื่อนพี่ฟิวพากันแซวออกนอกหน้า ขณะที่โดนแซวหนักเข้า ทำให้ผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ตอนนี้ผมกำลังทำร้ายพี่ฟิวอยู่หรือเปล่า แม้จะไม่ใช่การทำร้ายตรง ๆ แต่เป็นการทำร้ายทางอ้อม ผมมองดูใบหน้าของพี่ฟิวที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข โดยไม่รู้เลยว่าใบหน้าเปื้อนยิ้มนั้นจะอยู่ได้นานขนาดไหน เพราะผมเอง ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะคบกับพี่ฟิว เราตกลงกันเป็นเพียง FWB ของกันและกันเท่านั้นเอง… }4 V0 I' d2 i6 s; B0 F$ A
วันหยุดสุดสัปดาห์ ผมกับพี่ฟิวตกลงที่จะไปตรวจเลือดด้วยกันเพื่อความสะบายใจ ก่อนที่จะทำกิจกรรมที่ค้างคาให้สำเร็จ แต่ทว่า… "มึง ที่บ้านกูมีปัญหาว่ะ ขอลาวันนึงนะ"ขณะที่พี่ฟิวขอแวะมาดูก่อนจะเข้าบ้านร้าน เพื่อนของพี่ฟิวที่เดินออกไปคุยโทรศัพท์ก็เดินเข้ามาด้านในด้วยท่าทางร้อนรน "เออได้มึง"พี่ฟิวตอบรับทำให้เพื่อนคลายกังวล ทั้งสองพูดคุยกันนิดหน่อยก่อนที่เพื่อนพี่ฟิวจะเปลี่ยนชุดแล้วเดินออกจากร้านไป ผมเดินเข้าไปหาพี่ฟิว คิ้วผมขมวดติดกันจนพี่ฟิวเห็นจนต้องถามออกมา "ซมีอะไรหรือเปล่า?"แหน่ะ ยังไม่รู้เรื่องอีก "วันนี้พี่กับผม….เรามีเรื่องที่ต้องจัดการกันนะ" "-//- เอาน่า เพื่อนพี่มีเรื่องกับที่บ้านน่ะ" "ก็ได้ครับ แต่ผมไม่เลื่อนให้แล้วนะ"จากตอนแรกพี่ฟิวเป็นฝ่ายขอร้องผม แต่ในตอนนี้ผมกลับเป็นฝ่ายนับวันรอที่จะทำกับพี่เขาเองไปเสียแล้ว หลังจากเกิดเรื่องเคลียร์ใจระหว่างผมกับพ่อ ทำให้ผมรู้สึกสะบายตัว ไม่กังวลในเรื่องต่าง ๆ เหมือนอย่างก่อน พี่ฟิวดูแลผมดีมาก มากจนผมรับรู้ได้ถึงความใส่ใจและความเอาใจใส่ที่มอบให้แก่ผม ผมยืนมองดูใบหน้าสวยอย่างมีความสุข "ซี เฝ้าหน้าร้านให้พี่ก่อนนะ"พี่ฟิวเรียกให้ไปช่วยงาน ผมจึงเดินเข้าไปด้านในแล้วหยิบผ้าเอี้ยมของร้านขึ้นมาสวม "มัดเชือกด้วยสิ จะได้ไม่เกะกะ"พี่ฟิวเดินมาที่ด้านหน้าแล้วเอื้อมมือโอบรัดรอบตัวผมไปผูกเชือกผ้าเอี้ยมเข้าที่เอวทางด้านหลัง ทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกโอบกอดอยู่ หัวใจผมเต้นรัวไม่เป็นจังหวะราวกับกลองที่ถูกตีรัว หน้าผมร้อนผ่าวจนต้องถดตัวหนีออกจากคนตรงหน้า "ขะ ขอบคุณครับ"ผมกล่าวขอบคุณแล้วเข้าประจำตำแหน่ง ผมไม่เคยรู้สึกเขินอายกับการกระทำของอีกฝ่ายแบบนี้มาก่อน หรือผมจะป่วย?.... "แล้วพี่จะไปไหนครับ"พี่ฟิวให้ผมมาเฝ้าหน้าร้านแล้วเตรียมตัวจะเดินเข้าไปที่หลังร้าน ผมเลยถามด้วยความสงสัย "พี่จะไปทำขนมเค้กน่ะ ขายหมดแล้ว" "แล้วไม่มีสต็อคไว้หรอครับ" "ไม่มี เพราะใครล่ะ?"พี่ฟิวบ่นอุบอิบ ราวกับว่ามันเป็นความผิดของผม ผมเลยยกนิ้วชี้ขึ้นชี้ที่หน้าตัวเอง เป็นการถามกลับ พี่ฟิวถลึงตามองผมเอียงคอเล็กน้อยเป็นคำตอบ "ผมหรอ?" "ไม่ใช่มั๊ง" "พี่ไม่เตรียมของเกี่ยวอะไรกับผมล่ะครับ มาโทษกันแบบนี้ได้ไง" "ก็ใครล่ะที่ก่อเรื่องให้พี่เป็นห่วง จนไม่เป็นอันทำงาน"พี่ฟิวทำหน้าดุให้ผมก่อนจะหมุนตัวเดินเข้าไปยังหลังร้าน ผมยืนเฝ้าหน้าร้านให้พี่ฟิว ลูกค้ามีมาบ้างปะปราย จนลูกค้าเงียบ ผมเห็นพี่ฟิวเข้าไปอยู่นานสองนาน เลยถือโอกาสแอบแวะเข้าไปดู ผมแอบมองดูพี่ฟิวที่กำลังทำขนมเค้ก พี่ฟิวนำขนมเค้กออกจากพิมพ์มาพักไว้ และตีวิปครีมจนขึ้นฟู ทาหน้าเค้กด้วยน้ำเชื่อม บีบครีมสดลงบนก้อนเค้กที่แบ่งไว้ตามด้วยผลไม้สด ทำแบบนั้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนโปะขนมปังลงไปอีกชั้น แล้วบีบครีมที่เหลือลงบนหน้าเค้กแล้วทำการปาดเค้กอย่าพิถีพิถันจนเรียบเนียน ผมมองดูพี่ฟิวตกแต่งขนมเค้กด้วยผลไม้สด แล้วบีบครีมตกแต่งหน้าเค้กอีกชั้น แม้ผมจะไม่ชอบทานของหวาน แต่เห็นการทำสดแบบนี้ก็รู้สึกอยากทานขึ้นมาเหมือนกันเลยแหะ "อ้าวซี เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่"พี่ฟิวเงยหน้ามาเห็นผมก็เรียกถาม ผมคลายแขนที่กอดอกเดินเข้าไปหา สายตาจับจ้องขนมหวานตรงหน้า "สักพักแล้วครับ นี่เสร็จแล้วหรอครับ" "อ๋อ ยังหรอก เดี๋ยวเอาไปเข้าตู้เย็นรอเซ็ทตัวอีกหน่อย เวลาตัดจะได้ตัดง่าย ไม่ยวบ"ผมพยักหน้ารับรู้ พี่ฟิวเดินเอาเค้กไปแช่ตู้เย็น ตอนที่พี่ฟิวหันหลังกลับมา เราสบตากันพอดี ไม่รู้ผมคิดไปเองหรือเปล่า แต่การที่ผมเห็นพี่ฟิวในลุคนี้ มีเซ็กแอพพีลสูงมากจนผมอยากจะเข้าไปขย้ำเสียตอนนี้ "อะไร มองพี่แบบนี้หมายความว่าไง"ผมเดินเข้าไปใกล้พี่ฟิวโดยที่ไม่ตอบคำถามใด ๆ "ผมว่า ไม่ต้องรอให้ถึงตอนเย็นก็ได้นะครับ"ผมหันไปมองรอบ ๆ พร้อมจ้องไปยังโต๊ะพับที่กางแผ่หลาอยู่ หากเอาอุปกรณ์ของใช้ออก ก็น่าจะพอใช้ได้ พี่ฟิวมองตามผมที่จ้องไปบนโต๊ะทำขนมเมื่อครู่ เหมือนจะรู้ความคิด "พอเลย เลอะเทอะ หยุดคิดอะไรทะลึ่งได้แล้ว ไปเฝ้าร้าน" "ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ลูกค้าไม่เข้ามาหรอก" "?"พี่ฟิวทำหน้างง ผมไม่ตอบอะไรแต่รู้ดีอยู่แก่ใจ เพราะก่อนเข้ามา ผมเดินไปแขวนป้ายปิดร้านชั่วคราวไว้เรียบร้อยแล้ว "ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว เราลองมา…"ผมจู่โจมเดินประชิดตัวพร้อมยื่นหน้าเข้าหาอีกฝ่าย "อื้อ อย่า พอเลย ทำอะไรเนี่ย"พี่ฟิวใช้มือดันหน้าผมออกและยื้อเอาไว้จนผมถอยห่างออกมาตั้งหลัก แต่ก่อนที่ผมจะเดินเกมอีกครั้ง พี่ฟิวเดินหนีไปยังหน้าร้านแล้ว ผมทำหน้าหงุดหงิดเซ็งเดินกลับออกมา พี่ฟิวที่เห็นผมทำหน้าหงอยก็เข้ามาปลอบ "ทำไมถึงต้องรีบ ยังไงพี่ก็ให้เราอยู่แล้ว" "ก็ผมเห็นพี่ทำขนมแล้วมัน….เซ็กซี่ดีอะ-,,,-" "ทะลึ่ง พอเลย เอาไว้ปิดร้านก่อน" "ก็ได้ครับ" ผมเดินไปเปิดร้าน พี่ฟิวเดินเข้าหลังร้านไปเก็บของ ไม่นานนักก็เดินออกมาพร้อมถาดเค้กผลไม้ พี่ฟิวตักออกมาชิ้นหนึ่งใส่จานยื่นให้ผม "ผมไม่กินของหวานครับ" "พี่รู้ แต่อยากให้ชิม"ผมมองมันชั่งใจครู่หนึ่ง ก่อนจะหันไปสบตาพี่ฟิว "พี่ดูเอาไว้นะ นี่คือสภาพของพี่ที่จะจเอคืนนี้"ผมใช้มือหยิบเค้กชิ้นนั้นขึ้นมา ก่อนจะอ้าปากกว้างกัดเค้กคำโตเข้าปาก กินมันอย่างกระหายจนพี่ฟิวหน้าแดง ผมกินเสร็จก็ไปล้างมือล้างปากแล้วจ้องหน้าพี่ฟิวอีกครั้งราวกับนักล่าที่จ้องรอเชือดเหยื่อ พี่ฟิวรีบหลบสายตาของผม ไม่นานนักก็ถึงช่วงพัก หมายถึงช่วงพักของคนอื่นเพราะมีคนเข้ามาซื้อกาแฟและขนมเยอะมาก จนผมแทบไม่ทัน แต่พี่ฟิวนี่สิ แม่ค้ามืออาชีพ จัดการทุกอย่างได้เป๊ะ อยู่หมัด "โห ไม่คิดว่าจะเหนื่อยขนาดนี้นะครับ"ผมเดินออกมานั่งโต๊ะที่หน้าเคาเตอร์ด้วยร่างกายที่ปวดล้า "อะไรกัน แค่แปบเดียวเอง หมดแรงซะแล้วหรอ ไม่สมราคาคุยเลย" "โหพี่ มันไม่เหมือนกันนี่ครับ" "อะ อะ เชื่อก็ได้"พี่ฟิวทำท่าล้อเลียน ผมนี่ขึ้นเลย "หึ ปากแบบนี้ คืนนี้อย่ามาร้องแล้วกันนะครับ" 5 E- {2 M$ N8 X% k1 d3 q- L+ k& n
ตกเย็นผมช่วยพี่ฟิวเก็บร้าน พอเก็บหน้าร้านเสร็จก็เข้าไปเคลียร์หลังร้าน แต่พี่ฟิวไม่ได้เก็บหลังร้าน แต่กำลังทำขนมเค้กเพิ่มเพื่อเตรียมสำหรับขายวันพรุ่งนี้ "กลับบ้านเหอะพี่ พรุ่งนี้ค่อยมาทำไม่ได้หรอ"ผมบ่นออด อยากกลับไปพักเต็มแก่ "ไม่ได้ ไม่เห็นหรอว่าวันนี้ยุ่งขนาดไหน ถ้าทำพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้ามืดเลยนะ แล้วอีกอย่าง พี่กลัวว่าพรุ่งนี้พี่จะตื่นไม่ไหว….."ผมอมยิ้มกับคำตอบที่ได้รับ เลยอาสาเข้าไปช่วยเหลือ เอ๊ะ หรือช่วยดู ผมมองดูพี่ฟิวบรรจงทำด้วยความปราณีตทุกขั้นทุกกระบวนการจนได้เค้กที่สวยงามขึ้นมาอีก 1 ชิ้น แต่ยังไม่หมด พี่ฟิวยังทำขนมอื่น ๆ ออกมาอีกด้วย "พี่ถามได้ไหม?..."ขณะกำลังแต่งหน้าขนม พี่ฟิวถามผมออกมาไม่มีปี่มีขลุ่ย "ได้ครับ ถามมาเลย" "ทำไมถึงไม่ชอบกินของหวานล่ะ" "ไม่ใช่ผมไม่กินของหวานเลยซะทีเดียวนะ แต่ของหวานบางอย่าง อย่างเค้กแบบนี้อะ ผมเห็นครีมแล้วรู้สึกเลี่ยนขึ้นมาเลยอะ"ผมตอบออกไปตรง ๆ ตามที่คิด "แล้วที่กินไปตอนเที่ยงเป็นไง"ผมนึกถึงเค้กที่กินยั่วพี่ฟิวไป "ก็อร่อยดีครับ" "แล้วเลี่ยนไหม?" "ก็….ไม่ครับ" "ครีมที่หน้าขนมเค้ก อาจจะเลี่ยนก็จริง แต่เวลากินเราก็ไม่ได้กินแค่หน้าเค้กนี่ มันยังมีเนื้อเค้กด้านใน ถ้าเราเลือกมองแค่ว่ามันมีครีม มันดูเลี่ยน เราอาจจะพลาดโอกาสที่จะได้สัมผัสถึงความอร่อยของเนื้อเค้กก็ได้" "นี่พี่…กำลังจะสื่ออะไรหรือเปล่าครับ"ผมรู้สึกเหมือนว่าพี่ฟิวกำลังพูดถึงอย่างอื่นที่ไม่ใช่เค้ก "อืม พี่จะบอกว่า ซีก็เหมือนขนมเค้กนี่แหละ แต่เค้กที่พี่พูดถึง คือหน้าตาที่สวยงามชวนให้ลิ้มลอง" "ห๊ะ ผมหรอ พี่จะสื่อว่าผมน่ากินหรอ?"ผมแซวจนพี่ฟิวหน้าขึ้นสี แก้มอมชมพูระเรื่อชวนหลงไหล "ก็ส่วนนึง แต่ที่พี่จะบอกก็คือ เค้กที่ดี มันต้องมีองค์ประกอบที่ดีหลายอย่าง ทั้งหน้าเค้ก เนื้อเค้ก ความสวยงาม ตอนแรกที่พี่เข้าหาซีเพราะพี่ชอบรูปร่างหน้าตาของซี ที่พี่ออกห่างจากซี เพราะความต่างของช่วงอายุ แต่เมื่อพี่ได้พบกับนิสัย เนื้อแท้ของซี องค์ประกอบทุกอย่างที่มันประกอบขึ้นมาทำให้พี่หลงรักมัน…พี่รักซีนะ"พี่ฟิวพูดจบก็เดินเข้าประชิดตัวผม ริมฝีปากของพี่ฟิวยื่นเข้ามาประกบกับปากของผม ผมยืนนิ่งปล่อยให้พี่ฟิวเป็นฝ่ายรุก พี่ฟิวจูบผมแล้วดันลิ้นของตัวเองเข้ามาในปากของผม ส่วนอ่อนไหวของเราทั้งคู่ต่างหมุนควงกันอย่างดูดดื่ม และเป็นผมเองที่ควบคุมมันไม่ได้จนผมต้องผลักหน้าของพี่ฟิวออกเพื่อสูดหอบเอาอากาศเข้าปอด "ฟืดดด แฮก แฮก เก่งขึ้นเยอะเลยนะครับ ไปฝึกที่ไหนมา" "เปล่าฝึก แต่พี่ได้ครูดี"พี่ฟิวยิ้มยั่วที่ทำให้ผมระทวยไปกับการจูบของเขาได้
+ m) @/ t, j% |9 j& _( p "พี่รู้ใช่ไหม ว่าถ้าผมทนไม่ไหว ที่นี่ผมก็ไม่เกี่ยงนะ"ผมหันมองรอบข้างที่ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดแล้ว แต่ด้านนอกยังมีคนเดินผ่านไปมาอยู่ พี่ฟิวรู้ตัวว่าทำพลาด ขอพักแล้วพวกเรารีบเก็บข้าวของก่อนจะไปเคลียร์ต่อที่บ้าน # p4 G) v' X# P) m) i+ i
% v1 z" z _! K, h, [, t% J! D
__________
) c; o' w$ ]& b6 d4 i$ C4 p. v6 ~: D
. m+ O# \! P5 Z* _7 p, c2 q n" G
เนื่องจากไม่ค่อยมีฉากเสียว เลยอัพให้สองตอนนะครับ >_<
' p. q1 W3 T" X3 j& |0 c5 Q, S__________ 8 }+ Q1 B) {+ f" A) ?
- V' R& M: h$ S: k0 I
% y* u3 ^9 H4 g1 D; \4 G, K v& ?) t2 M& C
8 x2 Q+ y1 H. V3 u( N$ }. I+ R6 w1 c |