ผู้นำกระบวนพิธีเชิญขุนศรียศมาทำหน้าที่เป็นผู้ทำพิธีรับทาสเข้าเมือง
“ไอ้ทาสเรืองตั้งแต่มึงคลานเข่าผ่านประตูเมืองเข้ามา ความเป็นคนของมึงก็หมดสิ้นแล้วความผิดที่มึงมีมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยแม้แต่คนในเมืองของมึงเองก็ยังยอมรับไม่ได้ และสิ่งเดียวที่คนอย่างมึงจะเป็นได้คือการถูกลดชั้นให้กลายเป็นทาส ตอนนี้กูขอให้มึงก้าวขึ้นมายืนบนเวทีนี้ แล้วหันหน้าไปหานายทหารของกู”
ทาสเรืองเดินขึ้นไปบนเวทีและทำตามคำสั่งของขุนศรียศทั้งหมดต่อจากนี้
“สิ่งที่ทาสอย่างมึงจะต้องทำคือการทำตัวให้สมกับความเป็นทาสการเป็นทาสคือการต้องไปเป็นคนในชนชั้นที่ต่ำที่สุด ไอ้ทาสเรืองมึงมองดูตัวมึงเองสิว่าตอนนี้มึงมีอะไรที่ไม่สมกับสิ่งที่ทาสควรจะมีมึงจัดการเอามันออกจากตัวของมึงเดี๋ยวนี้”
ทาสเรืองรู้ความหมายที่ขุนศรียศจะสื่อดีแต่เขากลับยืนนิ่งไม่ทำตาม เหมือนจะท้าทายจนขุนศรียศอดโมโหไม่ได้เขาเดินตรงไปหยิบแส้มาตวัดโบยเข้าไปที่แผ่นหลังของทาสเรืองสองสามครั้งติดกันจนอดีตนายทหารหนุ่มถึงกับเข่าทรุด
“ไอ้เรืองมึงมีสิทธิขัดคำสั่งกูเหรอ ความเจ็บปวดจากการโดนแส้ฟาดนั้น มึงจำได้ใช่มั้ยมึงอยากให้ความรู้สึกเจ็บนี้เกิดกับคนที่มึงรักที่เมืองแมนใช่มั้ยมึงถึงพยายามท้าทายอำนาจกู กูจะให้โอกาสมึงอีกครั้ง จัดการกับสิ่งที่ไม่เหมาะควรกับสถานะของคนอย่างมึงเดี๋ยวนี้”
อดีตขุนศึกหนุ่มก้มหน้ามองพื้นก่อนจะค่อย ๆ ยกมือขึ้นปลดกระดุมเสื้อของตนเองออกทีละเม็ด
“ทาสเรืองมึงนี่มันหน้าตัวเมีย ทำผิดแล้วไม่กล้าสู้หน้าคนอื่นความเป็นลูกผู้ชายที่กล้าทำกล้ารับไม่เหลืออยู่กับตัวมึงแล้วใช่มั้ยถ้างั้นกูขอสั่งให้มึงเงยหน้าขึ้น แล้วมองคนที่มึงเคยเป็นฝ่ายกระทำเขา ให้เขาได้เห็นว่ามึงจะโดนเอาคืนอย่างสาสมยังไงบ้าง”ทาสเรืองจำต้องเงยหน้าขึ้นมองตรงไปข้างหน้า มองออกไปยังกลุ่มนายทหารของเมืองนายที่ยืนมองตอบสายตาเขาด้วยแววตาที่ฉายความอาฆาตแค้นอย่างเต็มเปี่ยมขณะที่มองนั้นมือของทาสเรืองก็ค่อย ๆ กลัดกระดุมชุดขุนศึกออก พอหมดแล้วเขาก็ค่อย ๆถอดเสื้ออกจากตัวอย่างช้า ๆ โชว์ร่างท่อนบนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามที่เกิดจากการฝึกฝนร่างกายมาเป็นอย่างดี
พอเครื่องแต่งกายท่อนบนถูกถอดออกทาสเรืองต้องถอดชุดท่อนล่างต่อ แม้จะเป็นชายหนุ่มชาตินักรบแต่การต้องมาแก้ผ้าต่อหน้าคนจำนวนมากไม่ใช่เรื่องปกติที่เขาจะกระทำได้ทันทีโดยไม่ต้องมีความเหนียมอายอะไรยิ่งกับคนกลุ่มใหญ่ที่เป็นอริศัตรูกันด้วยแล้ว การแก้ผ้ามันคือการที่เขาต้องเปลื้องศักดิ์ศรีความเป็นขุนศึกที่ติดตัวเขามายาวนานออกจากตัวมันไม่ใช่ความอับอายขายขี้หน้าที่ต้องแก้ผ้าแต่ต้องอับอายจากการหลุดกระเด็นจากการเป็นขุนศึกแล้วถูกขับไปเป็นทาส
แต่เขาเลือกไม่ได้ไม่มีทางเลือกอื่นให้เขาเดิน ทาสเรืองจำต้องเชิดหน้าตามองสบตากับเหล่าทหารที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่สะทกสะท้านส่วนมือนั้นค่อย ๆ ปลดปมผ้าที่ขมวดรัดไว้ให้คลายออกเมื่อปมผ้าที่มัดไว้คลายออกจากกันแล้วทาสเรืองก็ใช้มือทั้งสองข้างจับชายผ้ากางออกช้า ๆก่อนจะปล่อยมือออกจากชายผ้าให้มันหลุดลงไปกองที่พื้น ตอนนี้เรือนร่างเปลือยเปล่าของเขาปรากฏตรงหน้านายทหารเมืองนายทุกคนบางคนที่อยู่ไกลออกไปโดนคนข้างหน้าบังก็เบี่ยงซ้ายเบี่ยงขวาหาหนทางที่จะได้ยลร่างเปลือยของอดีตขุนศึกผู้เกรียงไกรจากฝ่ายศัตรูซึ่งใครเลยจะเคยคิดว่านายทหารที่เคยนำทัพทหารฝ่ายตรงข้ามที่เคยโจมตีพวกเขาจนกระเจิดกระเจิงย่อยยับจะต้องมาพลาดท่ายืนแก้ผ้าโชว์ควยอย่างหน้าไม่อายต่อหน้าคนทุกคนในที่นี้
ทาสเรืองถูกสั่งให้เอามือมาไพล่ประสานไว้ที่ท้ายทอยแล้วให้ถ่างขาออกจากกันจนพวงไข่ห้อยย้อยแกว่งไกวไปมาตามการเคลื่อนไหวของร่างกายหลังจากนั้นเขาถูกสั่งให้หันหลังกลับจนตอนนี้ตูดงอนได้รูปของเขากลายเป็นสิ่งที่ถูกโชว์ต่อหน้าคนทุกคนทาสเรืองได้รับคำสั่งทำโทษแรกด้วยการให้ทำท่าเอามือประสานกันไว้ที่ท้ายทอยแล้วก้มตัวลงเอาหัวแตะพื้นให้ได้หนึ่งร้อยครั้งนั่นหมายความว่าเมื่อไรก็ตามที่ทาสเรืองก้มตัวลงเอาหัวแตะพื้นเมื่อนั้นคือตูดของเขาจะถูกยกขึ้นจนทำให้คนที่อยู่ระดับล่างเวทีมองเห็นรูตูดของเขาได้อย่างขัดเจนทุกครั้งที่ทาสเรืองก้มตัวลงทำท่านั้นมันจึงตามมาด้วยเสียงเป่าปากและการส่งเสียงล้อเลียนจากกลุ่มคนที่อยู่เบื้องล่าง
แต่คำสั่งที่ยากต่อการเป็นไปได้ทำให้ขุนเรืองที่พยายามก้มเท่าไรหัวก็ไม่อาจปักลงไปถึงพื้นได้ทุกครั้งจึงถูกสั่งให้กลับไปเริ่มต้นใหม่ทุกครั้งจนตอนนี้หน้าท้องของเขาระบมไปหมดเพราะต้องก้มเงย ก้มเงยอยู่ตลอดเวลาและพอทาสเรืองทำไม่ได้ เขาก็ถูกสั่งลงโทษโดยการให้นายทหารเมืองนายเอากล้วยหอมผลเขื่องมายัดไปที่รูตูดของเขาเป็นการทำโทษผลกล้วยแหวกประตูถ้ำเหมืองทองของทาสเรืองได้ค่อนข้างยากเพราะมันมีข้อแม้ว่าต้องเข้าโดยที่ผลยังสมบูรณ์และเมื่อกล้วยเกิดการเปลี่ยนรูปทาสเรืองต้องถูกจับยัดกล้วยใบใหม่เข้าไปแทนกว่าทุกอย่างจะลงตัวทาสเรืองโดนกล้วยถลุงตูดจนครบหวีพอดี และพอกล้วยใบสุดท้ายถูกยัดเข้าไปในรูตูดก็กลายเป็นมีน้ำไหลย้อนกลับออกมาจากตูดอดีตชายชาตินักรบหนุ่ม จนนายทหารเบื้องล่างต่างส่งเสียงถามกันเพราะน้ำที่ไหลนั้นมีสีเหลือง ๆ ผสมกับเนื้อเหลว ๆ เละ ๆหลายคนมองภาพนั้นด้วยความคลื่นไส้ สะอิดสะเอียด ทาสเรืองรู้สึกว่าดีแล้วที่ตอนนี้เขาโดนสั่งให้หันหลังไม่ต้องทนสู้หน้ารับความอับอายที่เกิดขึ้น
หากแต่พอกล้วยลูกสุดท้ายกระเด็นออกจากรูตูดตอนที่เขาก้มหัวลงไปถึงพื้นในครั้งที่๙๙ นั้นหมายถึงการลงโทษที่จบลงโดยที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เพราะทำไม่สำเร็จตามคำสั่งทาสเรืองถูกสั่งให้หันหน้ากลับมา ความเหนื่อยล้าและวิงเวียนจากการที่ต้องก้มหน้าขึ้นลงหลายรอบส่งผลขุนเรืองถึงกับเซตอนที่หันหน้ากลับออกไปที่ด้านหน้าเวทีชายหนุ่มมองกล้วยสิบสองลูกที่ตกเกลื่อนกลาดเต็มเวทีกล้วยที่ถูกปอกเปลือกแล้วยัดเข้าตูดแล้วกระเด้งหลุดออกจากตูดทุกครั้งตอนที่เขาพยายามก้มหัวตอนโดนทำโทษ
“ไอ้ทาสเรืองแค่คำสั่งแรกมึงยังทำไม่สำเร็จ มึงนี่ไม่น่าเป็นถึงอดีตขุนศึกผู้นำทัพการต่อสู้เลยรู้ถึงไหนอายถึงนั่นจริง ๆเพราะฉะนั้นมึงต้องได้รับโทษด้วยการหยิบกล้วยที่อยู่บนพื้นขึ้นมากินให้หมดอย่าให้หลงเหลือแม้แต่ใบเดียว”
ขุนเรืองจำต้องก้มตัวลงไปหยิบกล้วยขึ้นมาทีละใบแล้วกินมันลงไป ตอนแรกเขาตั้งใจจะกลั้นใจกินมันเข้าไปทันทีแต่โดนห้ามแล้วสั่งให้เขามองกล้วยทุกใบอย่างละเอียดก่อนกินทาสเรืองจึงได้เห็นว่ากล้วยแต่ละใบมีความน่าสะอิดสะเอียนอย่างไรบางใบเยิ้มไปด้วยน้ำที่ไหลจากรูตูดของเขา บางใบมีขนตูดของเขาติดอยู่กับเนื้อกล้วยบางใบมีเนื้อเหนียว ๆ เหลว ๆ สีเหลืองติดอยู่เป็นช่วง ๆซึ่งเขาไม่อยากคิดแต่มันก็ชวนให้คิดว่ามันเป็นเนื้อขี้ที่ไหลขย้อนออกมาจากการถูกกล้วยกระทุ้งเข้าไปในรูตูดแต่ทาสเรืองก็ไม่สามารถต่อรองอะไรได้ เขาเองจำยอมกินกล้วยนั้นไป ลูกแล้ว ลูกเล่าจนครบสิบสองผล จนเขาจุกและมวลท้องอยากจะปล่อยของเสียออกมาให้หมดไส้หมดพุง
“ไอ้ทาสเรืองกูเห็นแก่ความเป็นชายชาตินักรบที่เคยยิ่งใหญ่ของมึงกูจะยอมสั่งทำโทษมึงแค่เพียงเท่านี้แต่หลังจากนี้กูรับรองได้เลยว่าชีวิตทาสของมึงจะทำให้ชีวิตที่เคยดีของมึงกลายเป็นฝันร้ายไปเลยมึงเตรียมตัวเตรียมใจรอรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้เลย เอาล่ะ นายทหารทุกคนพิธีการรับทาสใหม่จบสิ้นลงแล้ว ต่อจากนี้ข้าจะส่งทาสเรืองไปยังจุดคุมขังแล้วพรุ่งนี้มันจะได้เริ่มใช้ชีวิตทาสต่อแต่ก่อนที่ข้าจะสั่งเลิกกองแล้วให้พวกเจ้าไปพัก ข้ามีเกมให้พวกเจ้าเล่นใครสามารถเล่นได้ข้าจะมีรางวัลให้อย่างงาม”
นายทหารต่างส่งเสียงถามว่าเกมที่ว่าคืออะไรและเริ่มตั้งท่าแสดงความกระตือรือร้นที่จะได้สนุกกันก่อนได้พักแรม
“กติกาคือกูต้องการขนบนตัวไอ้ทาสเรืองจากพวกมึงคนละเส้น ใครเด็ดดึงได้ไม่ว่าจะเป็นขนส่วนไหนมึงเดินมารับรางวัลเป็นอัฐจากกูได้เลย” ขุนศรียศออกคำสั่งเสร็จ ความโกลาหลจึงเกิดขึ้นนายทหารร่างใหญ่คนหนึ่งขึ้นมาคว้าตัวทาสเรืองบนเวทีกระชากลงไปข้างล่างแล้วใช้มือจิกขนบนตัวทาสเรืองได้หนึ่งเส้น แล้ววิ่งโห่ร้องดีใจไปหาขุนศรียศทันทีหลังจากนั้นนายทหารทุกคนจึงมารุมทึ้งร่างของทาสเรือง จับทาสเรืองนอนลงแล้วจับแหกแข้งแหกขา หาทุกส่วนที่มีขนอยู่บนร่างกายแล้วต่างแย่งกันดึงขนบนตัวของทาสเรืองคนละเส้น ๆ จนสร้างความเจ็บปวดให้ทาสเรืองเป็นอย่างมากเขาร้องอย่างโหยหวน น้ำตาไหลอาบแก้ม และรู้สึกกลายเป็นซากชีวิตที่ยังมีลมหายใจแต่ไร้ค่ายิ่งกว่าสิ่งที่ไม่มีลมหายใจ โดนเท้าเหยียบไปที่หน้า ที่ตัว โดนดึงควยถอกควยแต่ที่เลวร้ายคือโดนคนดึงขนตูดแบบขยะแขยงกับน้ำและของเหลวที่ไหลนองออกมาจากรูตูดของเขาแล้วคนพวกนั้นก็เอามือที่เปื้อนน้ำและของเหลวนี้มาเช็ดกับหน้ากับปากและให้เขาเลียนิ้วเลียมือทำความสะอาดให้ขุนเรืองไกรตอนนี้มีสภาพเป็นเดนคนไปแล้วจริงๆ
สุดท้ายทาสเรืองที่ร่างกายไร้ขนนอนหมดสภาพร่างกายโดนแหกจนแหลกยับเยินขุนศรียศเดินมาดูเมื่อเห็นสภาพที่น่าสมเพชนั้นก็สั่งให้นายทหารพาตัวทาสเรืองที่แทบไม่มีสติไปยังที่คุมขังเพื่อให้พักรอการทำหน้าที่ทาสต่อในยามรุ่งพรุ่งนี้
“ชีวิตทาสของมึงยังแค่เริ่มไอ้ขุนเรืองอย่าเพิ่งรีบด่วนตายซะล่ะ หึ”