แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DomQwQ เมื่อ 2024-2-24 21:11
บทที่ห้า
ตั้งแต่จำความได้ครอบครัวของกิจก็มีเพียงแค่สามคนเท่านั้น แต่นอกเหนือจากนั้นแล้วถือว่าเป็นแค่ครอบครัวธรรมดาทั่วๆไป กิจเองก็คิดแบบนั้นจนกระทั่งวันที่พ่อของกิจปลดพลังให้น้องของกิจ.. สถานการณ์ในครอบครัวก็ต่างจากเดิมไปมากโข มากจนตนแทบจะทนไม่ไหว...
วันนี้กิจกลับมาจากการสอบครั้งสุดท้ายก่อนปิดเทอมใหญ่ด้วยหัวใจมัวหม่น บ้านของตนตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากผู้คน ในใจกลางผืนที่ดินที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น บ้านหลังนี้ที่ถูกรอบล้อมด้วยหมู่พงไพงขนาดย่อมและห่างจากตัวเมืองเหมือนต้องการหลบสายตาผู้คน ตำแหน่งแสนเร้นลับนี้ทำให้กิจเคยสงสัยว่าพ่อของตนทำอะไรผิดกฎหมายรึเปล่า หากแต่กิจก็เพิ่งเข้าใจนี่เองว่าผืนป่าไม่ได้กันให้คนเข้ามา แต่เป็นการกันไม่ให้ความสนใจของคนในบ้านเอียงเอนไปภายนอกต่างหาก
“เฮ้อ...” เมื่อกิจเดินเข้าบ้านมาแล้วก็พบเจอพ่อของตนกำลังนั่งเทียนให้น้องชายอย่างหน้าไม่อายจนต้องถอนหายใจ มันเป็นภาพปกติที่บาดตาตนทุกครั้งที่เข้าบ้านมา บางทีแค่ขี่จักรยานเข้ามาก็เห็นทั้งสองคนเล่นกันสนุกสนานหน้าบ้านด้วยซ้ำ เสียงครางอย่างสุขสมของพ่อตนทำให้กิจรู้สึกรังเกียจเสียเหลือเกิน ชายวัยห้าสิบตรงหน้าโกนผมจนหมดตัวไม่เว้นแม้กระทั่งขนลับของตนเอง จะเว้นไว้ก็เพียงคิ้วเท่านั้น
ในตอนนี้พ่อของตนกำลังเบ่งกล้าม ตาเคลิ้ม ยิ้มเผยอจากความเสียวและการ ออกกำลังกาย ด้วยการนั่งเทียนเอ็นอุ่นของลูกตัวเอง ร่างแกร่งกำยำเผยรอยสักกลางหลังที่เคยสักเมื่อตอนหนุ่มๆ บิดาของตนชอบเบ่งกล้ามให้ตนกับน้องดูเสมอ ร่างแกร่งดั่งรูปปั้นเทพแห่งศึกสงครามและพละกำลังอันเหนือชั้นเป็นสิ่งที่พ่อภูมิใจมากที่สุดพ่อมักจะชอบท้ามัดข้อกับเหล่าคนงานของพ่อ และผู้ชนะทุกครั้งก็คือพ่อของตน
ชายที่มักจะหัวเราะเสียงดังและพาเหล่าคนงานไปเลี้ยงเหล้า ชายที่ทำงานสุจริตไม่แอบโกยกินเงินชั่ว ชายที่เต็มไปด้วยความมั่นใจและไม่ยอมย่อท้อ แน่นอน เมื่อก่อนกิจก็มองชายตรงหน้าด้วยความภาคภูมิใจและความเคารพเหมือนลูกชายที่มีพ่อที่เก่งกาจที่สุดในโลก นั่นคือเมื่อก่อน...
เกมกามตรงหน้าเป็นภาพที่กิจเจอบ่อยจนชินชา ในใจตนมีแต่ความละอายที่เห็นพ่อของตนทำตัวดั่งทาสกามจนไม่เหลือเค้าโครงของชายที่ตนนับถือเลย “อ่าวพี่กิจ กลับมาแล้วรึครับ” น้องกันต์ทักตนอย่างเป็นกันเองเหมือนปกติ แม้พ่อของตนกำลังนั่งเทียนตัวเองอยู่ แก้มของเด็กหนุ่มรูปงามแดงระเรื่อจากการเล่นกับพ่อของตนจนเหนื่อยหอบ น้องตนปฏิเสธคำสารภาพรักของผู้หญิงมานักต่อนัก อ้างว่าตนยังไม่คิดจะคบกับใคร แต่เหตุผลที่แท้จริงช่างวิปริตเสียเหลือเกิน
แม้น้องชายของตนจะทักมาอย่างอบอุ่น แต่กิจกลับไม่สามารถมองหน้าน้องชายของตนได้เลย พ่อและน้องของตนยอมรับในเรื่องประหลาดนี้ไวเสียจนกิจรู้สึกสับสน สองคนทำเหมือนมันเป็นแค่วันอังคารธรรมดาๆ... แม้กิจจะรู้ว่าสักวันหนึ่งตนอาจจะต้องเข้าไปแทบเท้าน้องของตนเหมือนหมาก็ตามในวันธรรมดาแบบนี้สักวัน “พี่เหนื่อย จะนอน” “อ.. อ่อ.. ถ้าพี่หิว มีข้าวเป็น-” น้องของตนจะพูดต่อแต่ตนพูดตัดทันที “กินมาแล้ว ไม่หิว” ว่าแล้วกิจก็รีบเดินขึ้นบันไดทันที
เสียงของพ่อตนพูดทักทายก่อนที่ตนจะขึ้นห้องไป “โอ๊ะ โอ๊ะ.. ไอ้กิ.. ไอ้กิจ สุขสันต์วันเกิ-..โอ้ย.. ซี้ด.. มันชิบหาย...” ได้ยินดังนั้นกิจก็หยุดชะงักเล็กน้อยก่อนจะรีบเดินขึ้นห้องตนทันที ทั้งๆที่วันนี้เป็นวันเกิดของตนแท้ๆ...
ทำไมทำไมทำไม!!
กิจข่มอารมณ์ของตนที่อยากจะเข้าไปต่อยหน้าของคนที่กล้าพูดว่าสุขสันต์วันเกิด ทั้งๆที่วันนี้มันไม่มีอะไรให้สุขสันต์เลย ในใจไม่อยากจะทนกับสภาพบ้านเฮงซวยนี่อีกแล้ว กิจร่างแผนในหัว หวังจะหนีออกจากที่นี่ในยามดึก โดยไม่ทันสังเกตว่าน้องของตนกำลังทำสีหน้าแบบใดอยู่ แม้ยามที่กิจเดินขึ้นมาแล้ว เสียงเนื้อกระทบกันและเสียงพูดของพวกวิปลาสข้างล่างก็ยังเด่นชัด
“โอ้ย.. เอ็งอย่าบิดแรงสิ ซี้ด..” “แต่กันต์ชอบเล่นแบบนี้อ่ะครับ พ่อยอมให้กันต์ได้มั้ย?” “อ่า ซี้ด.. เอา.. ตามใจเอ็งละกัน ยังไงเอ็งก็ไม่คิดจะหยุดอยู่แล้ว ฮ่า..” “เดี๋ยวพ่อก็ชอบเองครับ พ่อยิ้มให้กันต์หน่อยสิ..” “ฮ่าๆ ไอ้ลูกคนนี้.. ซื้ด โอ้ย แรงๆเลยลูก เย็ดพ่อให้หนักๆ...เอาให้ไอ้ร่านตัวนี้แตกคาควยลูกเลย”
เสียงครางเสียวของทั้งสองคนทำให้ตนรู้สึกคลื่นไส้เสียเหลือเกิน ช่วงนี้กิจรู้สึกได้ว่าน้องของตนเล่นกับพ่อแรงมากขึ้นเรื่อยๆ สั่งให้ชายแกร่งร่างกำยำทำตัวเหมือนทาส หากแต่นั่นยิ่งทำให้พ่อชื่นใจ บอกว่าลูกของตนได้โตเป็นชายที่น่าเคารพนับถือแล้ว แม้พ่อจะต้องนอนบนพื้นแข็งๆที่ปูแค่เสื่อ หรือกินอาหารที่ปนคราบน้ำกามจากน้องของตนก็ตาม แต่พ่อก็ไม่เคยแย้งความต้องการวิปริตของน้องตนเลย เหมือนพ่อมองว่ามันเป็นเรื่องปกติ
เมื่อก่อน กิจนับถือพ่อและอยากจะเป็นแบบพ่อของตน ตนจึงพยายามดูแลน้องชายของตน เป็นพี่ที่ดีที่สุดเสมอ แต่ในตอนนี้.. กิจเหนื่อยเสียเหลือเกิน
กิจเดินเข้าห้องนอนของตนอย่างเหนื่อยล้า เมื่อปิดประตูห้องแล้วก็ปล่อยสัมภาระทุกอย่างลงกับพื้น ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงของตน พอเอนหน้ามองรูปครอบครัวที่อยู่บนโต๊ะแล้วก็น้ำตาเล็ดอย่างควบคุมไม่ได้
ทั้งๆที่เมื่อก่อนพวกเราก็ใช้ชีวิตกันปกติดี เป็นครอบครัวที่รักกันอย่างปกติ เป็นครอบครัวที่เคารพกันเป็นปกติ อาจจะเป็นครอบครัวที่มีกว่าคนอื่นนิดหน่อยแต่ก็ยังปกติ กิจคิดถึงช่วงเวลาปกติเหล่านั้นจริงๆ แต่เรื่องปกติคงไม่มีอีกต่อไปในบ้านหลังนี้ กิจนอนหลับไปทั้งอย่างนั้น อาจจะด้วยความเหนื่อยทั้งกายและใจ
กิจลืมตาขึ้นมาอีกครั้งในยามดึก มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วมืดสนิท กิจมองดูนาฬิกาของตน สองทุ่มสี่สิบ มันยังไม่ดึกพอ กิจคิดในใจ แต่อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งที่ตนเตรียมไว้มันพร้อมหมดแล้ว กิจรวบรวมความมุ่งมั่น ก่อนที่ตนจะยันตัวขึ้นจากเตียงไปเก็บข้าวของที่จำเป็น
ตนเตรียมสิ่งของต่างๆจนหมดแล้วในระหว่างออกจากบ้านไปเรียนมหาลัย กิจทยอยฝากของสำคัญไว้ที่บ้านเพื่อนตนแล้ว ขอเพียงคืนนี้ออกจากบ้านไปยามวิกาล เขาก็จะหลุดพ้นจากครอบครัวอุบาทว์นี้ตลอดกาล
แต่อนิจจา น่าสงสารที่ชะตาของกิจถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว บ่วงกรรมที่คอยกุมชีวิตของเหล่าบรรพบุรุษของกิจมานักต่อนัก ได้มาเยือนกิจที่หน้าประตูเรียบร้อย
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้กิจที่กำลังเก็บของอยู่หยุดชะงัก ก๊อก ก๊อก “พี่ครับ กันต์มีเรื่องจะคุยด้วยพี่เปิดประตูได้มั้ยครับ” เสียงนุ่มที่ตนคุ้นเคยทำเอากิจเย็นยะเยียบใจ “..กู.. ไม่ว่าง..” “พี่แค่เปิดประตูออกมาแปบเดียวเอง ให้กันต์เข้าไปได้มั้ยครับ?” “ไม่ว่างก็คือไม่ว่าง มึงฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไงวะ!!” กิจตะคอกสวนแสร้งโมโหโกรธา
เสียงเงียบไปสักพักหนึ่ง ก่อนที่น้องของตนจะพูดขึ้นมาอีก แม้อาจจะแฝงด้วยน้ำเสียงไม่มั่นใจ “...แต่ไม่ว่างของพี่.. เรื่องของกันต์มันสำคัญกว่าเป็นเรื่องปกติไม่ใช่หรือครับ?” เสียงละมุนพูดขึ้นเบาๆ กิจที่ได้ยินก็รู้สึกแปลกๆ แต่ตนไม่เข้าใจว่าแปลกอย่างไร กิจได้แต่มองประตู แต่นึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก เหมือนกับมีหมอกปกคลุมความคิดเอาไว้
“แม่งเอ้ย...” กิจกัดฟันก่อนจะเปิดประตูแง้มพอให้เห็นหน้า “คุยกันตรงนี้แหล่ะ รีบๆพูด” น้องของตนมองกลับมาด้วยความตกตะลึง “ตกใจอะไรวะ มีเรื่องอะไรก็รีบพูดสิ” กิจกล่าวด้วยความหน่าย น้องของตนได้ยินก็พยักหน้าด้วยความมุ่งมั่นก่อนจะพูดต่อ
“กันต์รู้นะครับ” กิจขมวดคิ้ว สังหรณ์ลางไม่ดีในใจ “รู้อะไร...” “รู้ว่าพี่กิจจะหนีออกจากบ้าน” “!!” กิจเม้มปากกัดฟันก่อนจะสวนกลับไป “...บ้าน? ที่นี่เนี่ยนะ? บ้านของเรามันไม่มีอีกแล้ว ที่นี่มันกลายเป็นแค่ซ่องให้มึงเล่น!!” กิจมองน้องของตนด้วยสายตาแข็งกร้าว ในใจมีทั้งความรังเกียจ ความโกรธและความเจ็บปวดที่บ้านของตนได้กลายมาเป็นอย่างนี้
น้องของตนได้ยินก็เงียบไป.. ดวงตาสวยประกายหลบต่ำไม่สู้กิจที่มองมา แม้จะหลบสายตาของตนได้ แต่เลี้ยงดูมาจนโต มีหรือกิจจะไม่รู้ว่าน้องของตนน้ำตาปริ่ม
สองพี่น้องได้แต่อยู่ในความเงียบงันอันแสนอึดอัด “...ถึงแม้ว่ากันต์จะเป็นอย่างนี้แล้ว...กันต์ก็ยังรักพี่กิจนะ.. เรายังเป็นครอบครัวกันไม่ใช่หรอ..” เสียงสั่นระรัวออกมาน้องของตน “...มันยากนะที่จะมองแบบนั้นตอนที่มึงให้พ่อทำตัวโรคจิตวิปลาส” กิจพูดเสียงค่อย หากแต่เนื้อความบาดคมดั่งมีด
“คนปกติเค้าทำกันแบบนี้กับคนที่รักรึไง... กันต์ปล่อยพี่ไปเถอะ” “แต่พี่ก็รู้ว่ากันต์ไม่ปกตินี่!!” น้องผู้แสนสุภาพของตนขึ้นเสียงสวน หนุ่มหน้าหวานก้มมองพื้น มือกำหมัดแน่นหยาดน้ำไหลตกลงพื้นปรอยๆ
“กันต์ก็รู้สึกรำคาญ กันต์ก็รู้สึกเกลียด กันต์ก็รู้สึกอุบาทว์เหมือนกันที่กันต์เป็นแบบนี้!!” “กันต์มีแต่ความคิดอยากให้คนอื่นมาแทบเท้าของกันต์ อยากให้ใครสักคนต้องร้องครางเพราะกันต์ กันต์อยากทำลายทุกอย่างแม่งให้หมด!!” “มันอึดอัดมากพี่กิจ..มันอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออกเลย..” น้องของตนพูดเสียงสะอื้น “กันต์ก็อยากเป็นคนปกติเหมือนกันนะ... กันต์ลองแล้ว... กันต์ทนแล้ว... ถ้าไม่มีพ่อคอยช่วยกันต์ กันต์ก็ไม่รู้...ว่ากันต์จะยังเป็นกันต์อยู่รึเปล่า...” “กันต์...” กิจอยากจะพูด...แต่ตนก็จนปัญญาที่จะกล่าวออกมา
มันไม่ใช่ปัญหาที่คนปกติเจอ และกิจยังแสดงความรังเกียจในสิ่งที่พ่อทำเพื่อกันต์อีก ตนจะมีหน้าเอาอะไรไปพูด แต่ก็นั่นแหล่ะ...
“แต่พี่... ไม่เคยมองกันต์แบบนั้นเลย... พี่ก็ไม่ได้จะชอบผู้ชายเลยด้วยซ้ำ” กิจพูดออกมาอย่างยากเย็น “นั่นเป็นไปไม่ได้หรอกไอ้ลูกชาย... พวกเราเอาได้หมดนั่นแหล่ะ” เสียงเข้มดังขึ้นมา กิจหันออกไปมองนอกห้องก็เห็นพ่อที่สวมแค่ผ้าขาวม้ายืนอยู่
กันต์ที่เห็นพ่อมาก็หลบหน้า เอามือและแขนเช็ดน้ำตาน้ำมูก พ่อเห็นดังนั้นจึงถอดผ้าขาวม้าของตนออกมายื่นให้กันต์เช็ดหน้า ปล่อยให้ตัวเองยืนโป้ล่อนจ้อน เพียงเพื่อให้กันต์ได้ใช้ผ้าขาวม้าของตนเช็ดน้ำตาสั่งขี้มูก
หรือต่อให้ใช้เป็นผ้าขี้ริ้วเช็ดน้ำกามต่อหน้าประชาชน พ่อตนคงถอดยื่นให้ด้วยรอยยิ้ม กิจที่เห็นภาพตรงหน้าได้แต่รู้สึกขมขื่น ร่างกำยำยืนเปลือยเปล่าต่อหน้าเหล่าลูกชายของตน ไม่ได้แสดงท่าทีละอายเลยแม้แต่น้อย นี่เป็นสิ่งที่กิจเกลียดที่สุด
หนุ่มใหญ่เห็นกิจมองตนเองจึงยิ้มแห้งๆ หลบสายตาก่อนจะพูดขึ้นมา “โทษเว้ยที่กูแอบฟัง... แต่เอ็งเกิดมาในครอบครัวนี้... เอ็งก็ไม่ได้จะปกติเหมือนกัน...” “นี่พ่อหมายความว่ายังไง” กิจขมวดคิ้วถามกลับไป เบื่อเหลือเกินไอ้คำว่าไม่ปกติบ้าบอนี่ “ก็ตามที่พูดไปนั่นแหล่ะ เอ็งเอาได้หมดไม่ว่าจะชายหรือหญิง” พ่อเหลือบมามองน้องของตนที่กำลังสงบอารมณ์ตัวเองอยู่พลางพูดต่อ
“ไม่เหมือนน้องเอ็งที่ถูกทำให้ชอบแต่ผู้ชายตั้งแต่เกิด เอ็งน่ะจะต้องทำหน้าที่ของกูในรุ่นต่อไป...” กิจที่ได้ยินดังนั้นก็หน้าชา รุ่นต่อไป? กับลูกในไส้ตัวเองเหมือนพ่อเนี่ยนะ!?? “ไม่...” กิจพูดพลางกัดฟัน “หน้าที่บัดซบนี่เชิญทำกันไปคนเดียวเถอะ ผมไม่มีวันจะให้ลูกเย็ดตัวเองเป็นกะหรี่หรอก!!” กิจพูดแล้วก็ปิดประตูห้องดังปัง
กิจรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ในเมื่อเขารู้กันหมดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องแอบหนีอีกต่อไป ตนจะออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้ แต่เมื่อตนจะเดินไปเก็บข้าวของของตนต่อ ทันใดนั้นก็มีเสียงของน้องตนพูดขึ้นมา
“มันไม่สุภาพเลยนะที่พี่ปิดประตูใส่หน้ากันต์ พี่ออกมาขอโทษกันต์เดี๋ยวนี้” เสียงของน้องตนเต็มไปด้วยความโกรธเคืองน้อยใจ กิจหยุดเดินก่อนที่ตนจะรู้สึกสับสนเล็กน้อย? ใช่ มันไม่สุภาพเลยที่ตนปิดประตูใส่หน้าน้องตนเอง แต่ตอนนี้ตนกำลัง..?
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ คือพี่ทำผิด พอพี่ทำผิดแล้วพี่จะหนีหรือไง” ไม่... กิจเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับผิด กิจกำหมัดก่อนจะเปิดประตูอีกครั้งแล้วพูดห้วนๆ “เออ กูขอโทษ” กิจขอโทษแล้วก็กำลังจะปิดประตูต่อแต่น้องของตนก็ทักมาอีก “แบบนี้มันไม่ได้แสดงว่าพี่สำนึกผิดเลย ใครๆเขาก็พูดกันได้หมด” “แล้วจะให้กูทำยังไงอีกวะ!?” กิจพูดออกมาด้วยความรำคาญ ในหัวรู้สึกเหมือนตนลืมอะไรไปบางอย่างแต่ตนก็ยังนึกไม่ออก
“พี่กิจต้องแสดงการขอโทษอย่างจริงจังด้วยสิครับ เช่นการแสดงว่าตนไม่มีภัยต่อคนที่ตัวเองทำผิด ว่ามีอาวุธอะไรแอบซ่อนอยู่รึเปล่า” น้องของตนพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ กิจชักสีหน้าก่อนจะคิดต่อ งั้นแค่เอาให้เห็นว่าไม่มีอะไรก็พอแล้วนี่?
คิดได้ดังนั้นก็ถอดเสื้อเขวี้ยงทิ้งและถกกระเป๋ากางเกงตนออกมา กุญแจ กระเป๋าสตางค์ และของชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่างๆก็ตกลงบนพื้นกราวๆ
“เอ้า พอใจรึยัง?” แต่ก่อนที่ตนจะพูดขอโทษ น้องของตนก็ตัดคำกลับมา “ในกางเกงนั่นมีอะไรครับ?” กิจยืนนิ่งไปสักพัก... ก่อนที่จะถอดกางเกงของตนทิ้ง เหลือเพียงกางเกงในเท่านั้น
พ่อที่มองทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นก็เลียริมฝีปาก เอ็นลำเขื่องที่มอบชีวิตให้กับตนและน้องก็กระดกเล็กน้อย มีหยาดน้ำใสเริ่มก่อกำเนิดขึ้นตรงหัวของเครื่องกาม กิจที่เห็นดังนั้นก็ทำหน้าแขยงใส่พ่อของตน “นี่มันแค่การขอโทษ พ่ออย่าทำตัวแปลกๆสิ” กิจพูดขึ้นแต่ทันใดนั้น
เพี้ยะ
กิจโดนน้องตนตบหน้าหัน แก้มตนถึงกับรู้สึกชาๆ เจ็บแปลบๆ “นี่มันใช่เวลาที่พี่จะสนใจพ่อหรือครับ? อย่าลืมสิว่าพี่ยังไม่ได้ขอโทษกันต์เลย”
กิจเอามือจับแก้มตนเองที่ร้อนวูบพลางเม้มปาก “เออ.. กูขอโท-” “ใส่กางเกงในทำไมครับพี่? ซ่อนอะไรอีก” น้องของตนพูดตัดตนเองอย่างไม่ไว้หน้า ส่วนกิจก็ได้แต่รู้สึกรำคาญ... แค่ถอดให้เห็นว่าตนไม่มีพิษมีภัย การแก้ผ้าก็เป็นเรื่องปกติ ตนลืมไปได้ยังไงกัน?
ในขณะที่ตนปลดอาภรณ์ชิ้นสุดท้าย ตนก็รู้สึกเหมือนมันมีบางอย่างจริงๆที่มันแปลก แต่ในหัวของตนตอนนี้รู้สึกทื่อๆ ยากยิ่งที่จะนึกถึงบางสิ่งที่ไม่ได้ปรากฏต่อหน้าของตนเองในตอนนี้
เมื่อเปลือยกายจนหมดสิ้นแล้วก็มองน้องของตน หนุ่มมหาลัยรอดูว่าน้องตนจะพอใจรึยัง แต่น้องของตนก็พูดต่อ “การขอโทษที่ดี พี่จะพูดห้วนๆไม่ได้ไม่ใช่หรอครับ คนเค้าจะมองว่าพี่ไม่มีการศึกษาเอานะ” “ได้สิ พี่ขอโทษนะกันต์” กิจพูดก่อนจะโดนตบหน้าอีกรอบ
“นั่นสุภาพที่สุดแล้วรึไง? เรียกกันต์ว่าท่านสิครับ ส่วนพี่เรียกตัวเองว่าขี้ข้าน่าจะสุภาพพอ แล้วอย่าลืมหางเสียงด้วย” ในใจตอนนี้กิจรู้สึกโกรธเส้นเลือดปุด แต่ก็พยายามข่มอารมณ์ตนเองไว้ “ครับท่าน ขี้ข้าขอโทษด้วยครั-” “ไม่รู้จักการขอโทษที่มันดีกว่านี้แล้วรึไง” น้องของตนตัดคำตนอีกแล้ว “แล้วจะให้ขี้ข้าทำยังไงอีกครับ” กิจถามอย่างเหลืออด สุดขอบสายตาเห็นพ่อของตนกำลังกุมเครื่องชายตัวเองชักขึ้นลงอย่างสนุกมือ แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ตนควรสนใจในตอนนี้
“ไม่กราบรึไงครับ? เวลาคนเค้าขอโทษกัน การกราบก็เป็นเรื่องปกตินี่” กิจที่ได้ยินขมวดคิ้ว การกราบก็เป็นเรื่องปกติในการขอโทษ.. แต่ทำไมมันถึงรู้สึกแปลกๆ? แต่อย่างไรตนก็ทำผิดต่อน้องของตน...
แต่กราบน้องของตนอย่างนั้นหรือ?
ถึงแม้จะรู้สึกประหลาดเพียงใด แต่เวลาก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ คิดได้ดังนั้นจึงค่อยๆคุกเข่าลง สีหน้าแสดงถึงความลังเลใจ มองขึ้นไปสบหน้ากับน้องของตน
หากแต่น้องของตนก็มองตนด้วยสีหน้า...ราบเรียบเสียเหลือเกิน... บางที.. นี่อาจจะเป็นเรื่องปกติ.. แต่ตนกลับรู้สึกผิดปกติเอง? กิจคิดได้ดังนั้นค่อยๆก็ก้มลง ในหัวคิดถึงคำขอโทษที่สุภาพและปกติที่สุดเท่าที่ตนรู้จัก
“ขี้ข้าขอโทษที่ทำผิดต่อท่านกันต์ครับ ได้โปรดยกโทษให้ขี้ข้าด้วย”
ชายหนุ่มผู้วางแผนจะหนีออกจากบ้าน กลับเปลื้องผ้ากราบแทบเท้าของน้องตนเองอย่างง่ายดาย
กิจยังคงก้มกราบรออยู่อย่างนั้น ส่วนกันต์ก็ยังคงยืนเงียบ มีเพียงเสียงแฉะๆจากพ่อของพวกตน ที่กำลังถูลำท่อนตนเองต่อภาพตรงหน้าอย่างเมามันเท่านั้น หากแต่ทั้งสองก็ทำเหมือนพ่อพวกตนไม่มีตัวตน
“กันต์หมดหนทางแล้วจริงๆครับพี่...” กันต์ว่าพลางยกเท้าตัวเองทาบลงบนหัวของพี่ตน “กันต์พยายามห้ามใจตัวเองอย่างถึงที่สุดแล้ว... แต่พี่ก็ปล่อยอารมณ์ออกมามากมายเหลือเกิน...”
กันต์ใช้เท้าถูไถหัวของชายหนุ่มที่กำลังก้มกราบตนเองอยู่ แต่การเคลื่อนไหวเหมือนดั่งเจ้านายที่ใช้มือลูบหัวเจ้าหมาของตนด้วยความรัก ความดำมืดที่สั่งสม ทำให้กันต์มีความรู้สึกและมุมมองอันแสนบิดเบี้ยวและวิกล
นี่เป็นสิ่งที่กันต์เข้าใจดี หากสะสมมากเกินไป สิ่งที่เหลืออยู่อาจจะเป็นเพียงสัตว์ป่าที่กระหายความเจ็บปวดของทุกคน
แต่ความดำมืดที่ดูดซับมา มันไม่เจ็บปวดเท่าความดำมืดที่ก่อเกิดในใจของตนเลย
พี่ที่ถูกควบคุมความคิดด้วยพลังของตน ยอมสวามิภักดิ์อย่างง่ายดายเสียเหลือเกิน แต่ด้วยความเคารพรัก กันต์จึงไม่อยากฝืนใจพี่ของตน และยอมดูดซับความโกรธ ความรังเกียจ ความสมเพช ที่พี่ของตนรู้สึก โดยไม่กล่าวว่าเลยซักคำ
“แต่กันต์รู้แล้ว.. ว่าพี่ไม่ได้มองกันต์แบบนั้นมาก่อน.. พี่ไม่ได้มองพ่อแบบนั้นเหมือนกัน... นี่ถึงเป็นปัญหาของทุกๆอย่าง...” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่กันต์ก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่าตนคิดถูกแล้ว อย่างไรความคิดของตน ก็อาจจะบิดเบือนไปเพราะความดำมืดที่ตนสะสมมา แต่นี่เป็นเพียงแค่สิ่งเดียวที่กันต์นึกออกในตอนนี้
“กันต์จะแสดงให้พี่เห็นเอง ให้พี่มองกันต์กับพ่อเป็นผู้ชาย และถ้าหลังจากนั้น พี่ยังไม่อยากอยู่กับเรา... กันต์จะปล่อยพี่ไป...” “แต่ก่อนอื่น กันต์จะขอเล่นกับร่างกายของพี่สักหน่อย มันอาจจะเจ็บ ดังนั้นหลับด้วยครับ”
สิ้นคำสั่ง กิจก็วูบไปทันที แต่กิจก็ยังรู้สึกลางๆถึงคราบเหนียวเปรอะหัวและแก้มตนเอง พร้อมกับเสียงครางสั่นของบิดาก่อนจะหมดสิ้นสติ
ซ่าซ่าซ่า กิจที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงน้ำไหล คิดว่าพ่อตนคงกำลังอาบน้ำล้างคราบกามอะไรตามปกติจึงกลับเข้านิทราต่อ จนกระทั่งกิจรู้สึกเหมือนตนโดนยกและทันใดนั้น น้ำเย็นเฉียบก็ไหลเข้าร่างกายของตนเอง ความเย็นยะเยือกจากปากไหลไปจนถึง ทวาร ทำตนตื่นขึ้นมาทันทีด้วยความตกใจ กิจพยายามลืมตามองว่าเกิดอะไรขึ้น
แม้ในตอนแรกตนจะรู้สึกพร่ามัวมองไม่ค่อยเห็นนัก แต่เมื่อรวบรวมสติได้ ก็เห็นน้องของตนตรงหน้าแทน “กันต์ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” “อ่าวพี่กันต์ตื่นแล้วหรอ” น้องของตนถามด้วยความประหลาดใจ “นึกว่าถ้าพี่หลับอยู่ ก็น่าจะต้องสั่งให้ตื่นก่อนเสียอีก...”
“กันต์นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ ตอบพี่มาเดี๋ยวนี้ว่าทำไมพี่ถึงขยับไม่ได้!!” กิจที่พยายามขยับตัวแต่กลับไม่สามารถขยับได้ จึงพูดกับน้องตนด้วยความโกรธและสับสน “พี่กิจไม่ต้องตกใจครับ พี่กิจอยู่กับกันต์แล้ว พี่กิจปลอดภัยเสมอ ไม่มีอะไรต้องกลัว” สิ้นคำเปรยๆของน้องตน กิจก็เงียบไป ความรู้สึกที่เคยโหมกระหน่ำตนหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ตนขยับตัวไม่ได้อยู่แล้ว จึงทำได้เพียงปล่อยตามสถานการณ์ น้องของตนเห็นว่ากิจเงียบแล้วจึงเริ่มทำความสะอาดพี่ของตนต่อ กิจปล่อยให้น้องของตนใช้นิ้ว อ้าปาก ตนและเอา ตัวกิจ จ่อก๊อกน้ำ
ความรู้สึกของน้ำเย็นยะเยือก ไหลจากปากของตนเคลื่อนลงตัวไปจนถึง รูทวาร ของตัวเอง กันต์เอานิ้วคว้านถูไถ ทั้งปากและรูทวารตนเอง กิจรู้สึกได้ถึงนิ้วของน้องที่ถู ล้างจนถึงท้อง ของตนเองจากทั้งสองฝั่ง มันสร้างความรู้สึกเสียวกระสันให้กิจเป็นอย่างมากจนกิจครางออกมา แต่เสียงก็ถูกกลบด้วยน้ำที่ ไหลผ่านทั้งตัว มีเพียงเสียงกลั้วคอออกมาจากกิจเท่านั้น
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรแล้ว สิ่งที่ตนรู้สึกมันไม่ใช่สิ่งที่เป็นมนุษย์จะรู้สึกได้เลย กิจใช้เวลานี้สังเกตตนเอง ไม่ว่าจะแขนหรือขาตนก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอยู่ตรงไหน แต่ที่กิจไม่ทันคิดก็คือ ทำไมน้องของตนจึงดูตัวใหญ่กว่าตนมากเสียเหลือเกิน
“นี่ครับ ยิ้มสิครับพี่” กิจรู้สึกว่าร่างตนถูกยกขึ้น ก่อนที่ตนจะถูกจับหันตัวมามองกระจก
สิ่งที่ตนเห็นสร้างความสงสัยให้กับตนเองจนงงงัน ภาพในกระจกแสดงให้เห็นน้องของตน กำลังถือกระบอกอะไรสักอย่างที่มีรูปปากยิ้มอยู่ เมื่อตนกำลังจะพูด กระบอกปากแปลกๆนั่นก็ขยับปากตาม
ตนใช้เวลาประมวลผลเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา “กันต์... นี่พี่กลายเป็น...จิ๋มกระป๋องอย่างนั้นหรือ??” กิจพูดออกมาอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
จริงอยู่ที่พ่อตนเคยบอกว่าพลังของกันต์มันช่างกล้าแกร่ง เปรียบเสมือนเจ้าของของมนุษย์ทั้งปวง แต่เปลี่ยนรูปร่างคนให้กลายเป็นสิ่งของนี่ มันเกินคำว่าความเป็นจริงไปมากโขแล้ว พลังงานที่ใช้เปลี่ยนให้กิจกลายเป็นแบบนี้ โดยที่ยังคงมีชีวิตอยู่ กันต์เอามาจากไหน?
“เปลี่ยนให้พี่กลายเป็นคนเหมือนเดิมเดี๋ยวนี้นะกันต์ นี่มันไม่ตลกเลย” กิจพูดเคร่งข่มอำนาจ... เท่าที่ของเล่นกามชิ้นหนึ่งจะมีได้น่ะนะ “ไม่ครับ” กันต์ปฏิเสธอย่างชัดเจน
“กันต์... เปลี่ยนพี่เดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นพี่จะโกรธจริงๆแล้วนะ” กิจพูดขึ้นด้วยความรำคาญ แต่สิ่งที่ได้ยินกลับมาคงแทบทำให้เข่าทรุด ถ้าหากตนยังคงมีเข่าอยู่น่ะนะ
“ต่อให้กันต์อยากจะเปลี่ยนพี่กิจกลับมา ตอนนี้กันต์ก็ไม่สามารถทำได้หรอกครับ” กันต์ส่ายหน้า “กันต์ใช้พลังมากเกินไป กว่าจะฟื้นคืนกลับมาได้ก็อีกนาน” “แล้วอีกนานที่ว่ามันนานแค่ไหน?” “สาม..” “สามวัน?” กิจถามด้วยความหวัง แต่น้องตนก็เผยลักยิ้มซุกซน พลางดับแสงแห่งความหวังของกิจทิ้งทันที “สามเดือนต่างหากพี่” กิจได้ยินแทบจะเป็นลม ถ้าตนยังสามารถเป็นลมได้อยู่น่ะนะ
“กันต์ขอโทษนะที่ต้องทำอะไรแบบนี้ ความจริงนี่เป็นความคิดของพ่อน่ะ” กันต์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน แต่กิจที่ได้ยินยังคงถือเคืองกับน้องของตนอยู่ จึงยังคงมีนโยบายไม่พูดเจรจากับคนร้าย “เพราะว่าพี่ไม่ได้มองว่ากันต์กับพ่อ เป็นผู้ชาย พี่ถึงรู้สึกแย่อยู่ตลอดเวลา และโกรธแค้นในโชคชะตา ในทุกๆอย่าง”
“มันปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้นะพี่.. พ่อเลยให้บอกผมหาทางทำให้พี่มองว่าพวกเราเป็นผู้ชายที่...เอ่อ.. เล่นได้..” นโยบายไม่เจรจากับคนร้ายยังคงอยู่ กิจได้แต่คิดด้วยอารมณ์ขุ่นมัว มันไม่ยุติธรรมเลย ทำไมตนถึงต้องโดนอะไรแบบนี้ด้วย?
“ก็เพราะว่าพี่ไม่ได้มองกันต์กับพ่อแบบนั้นตั้งแต่แรกไงครับ พี่เลยยิ่งรู้สึกไม่ดีเวลาที่พวกกันต์เล่นกัน... ในเดิมที การเล่นก็เพื่อให้กันต์ระบายอารมณ์จนหมดอยู่แล้ว แต่พอพี่รู้สึกไม่ดี... มันยิ่งทำให้กันต์รู้สึกแย่กว่าเดิม”
กันต์ยิ้มจางๆพลางพูดต่อ “พ่อก็พยายาม.. สนองกันต์ให้ถึงที่สุดแล้ว แต่พี่ยิ่งรู้สึกแย่กว่าเดิม กันต์ก็ยิ่งดูดซับความรู้สึกของพี่ไปเรื่อยๆ” “แย่ที่สุดคือกันต์อาจจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และ..กันต์อาจจะกลายเป็นทรราช”
“พี่อาจไม่รู้แต่...ถ้าวันไหนกันต์กลายเป็นทรราช คำสั่งที่ฝังลงในหัวของพวกเราทุกคนก็จะทำงาน...”
“พ่อกับพี่จะถูกบังคับให้ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะฆ่ากันต์ให้ได้” พูดจบ กันต์ก็ยิ้มบางๆ เหมือนพูดเรื่องวันหยุดหรือสภาพอากาศ กิจได้แต่ตกตะลึงในสิ่งที่ตนได้ฟัง
ต่อให้ตนจะเกลียดในสิ่งที่น้องตนกับพ่อตนทำ แต่ฆ่าแกงกันเลยหรือ? นี่มันบ้าเกินไปแล้ว
น้องของตนพูดความจริงระดับโลกเสร็จก็เดินถือกิจออกมาจากห้องน้ำ ใช่แล้ว น้องของตนเปลี่ยนให้ตนกลายเป็นของเล่นกาม จิ๋มกระป๋องแบบสองด้าน โดยที่ด้านหน้าคือปากและด้านหลังคือรูของตน
“นี่มันบ้าไปแล้วนะกันต์ ต่อให้ไอ้อำนาจนี่มันจะทรงพลังขนาดไหน แต่นี่คือบังคับให้ครอบครัวฆ่ากันเองเนี่ยนะ?” กิจไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจนถึงขั้นยุบ นโยบายไม่พูดเจรจากับคนร้ายทิ้ง กันต์มองปากของจิ๋มกระป๋องที่กำลังขยับพูดระรัว กันต์ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่กันต์ได้แต่ยิ้มขำและรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก อาจจะเพราะกิจพูดว่าครอบครัว หรืออาจจะเพราะปากจิ๋มกระป๋องที่ขยับเองอย่างน่ามหัศจรรย์
“อำนาจที่กันต์มีมันคงจะทรงพลังถึงขนาดนั้นนั่นแหล่ะครับ” ถึงแม้ว่าทุกอย่างที่พวกตนรู้จะมาจากปากเปล่า แต่พวกตนรู้ดีถึงสิ่งที่กันต์ทำได้ และความน่ากลัวที่จะตามมาถ้าหากมันตกไปอยู่ในมือของคนร้าย ...หรือหากกันต์กลายเป็นคนร้ายเสียเอง
ดังนั้นกิจจึงไม่อยากจะพิสูจน์แผนสำรองนี้สักเท่าไหร่ “เอาหน่าพี่ ยังไงถ้ามีทั้งพ่อกับพี่แล้ว กันต์ก็เล่นกันเอง ไม่มีทางไปสนใจยึดโลกอยู่แล้ว” “ก่อนจะเปิดเทอม พี่จะได้ร่างของพี่คืนแน่นอนและ...” กันต์มองกิจด้วยความรู้สึกหลากหลาย “ถ้า... พี่ยังไม่มองว่าผมกับพ่อเป็นผู้ชายที่เล่นด้วยกันได้ ผมจะไม่ก้าวก่ายในชีวิตพี่กิจอีก จะเล่นให้มิดชิดขึ้น ไม่ให้พี่ต้องลำบากใจ” “แต่ขอนะครับ... อย่าไปเลย...” กันต์พูดเสียงละห้อย
กิจที่ได้ยินดังนั้นก็เงียบไป ก่อนจะพูดออกมา “ยังไง พี่ก็ไม่อยากจะต้องลงไม้ลงมือกับกันต์อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่อยู่แล้วกันต์เกิด.. ดื้อขึ้นมา... พ่อคงจะเดือดร้อนแย่” กันต์มองกิจด้วยความซาบซึ้ง เท่าที่คนจะมองจิ๋มกระป๋องด้วยความซาบซึ้งได้น่ะนะ
ยิ่งพูด กิจก็ยิ่งเขิน จึงหาทางเปลี่ยนเรื่องใหม่ “อะแฮ่ม... ยังไงก็เถอะ... มีอะไรกินมั้ย พี่รู้สึกหิวแล้ว เมื่อวานก็ไม่ได้กินข้าว...” น้องของตนได้ยินดังนั้น ก็มองกิจก่อนจะยกยิ้มมุมปาก “งั้นกันต์ให้พี่กินก่อนเลยก็ได้นะครับ..” หารู้ไม่ว่าตนขุดหลุมตัวเองเสียแล้ว...
กันต์วางกิจลงบนโต๊ะในห้องหนึ่ง กิจที่อยู่ในสภาพของเล่นกามน่าสังเวช ก็ได้แต่มองในทิศทางที่น้องวางตนเท่านั้น เมื่อตนถูกตั้งวางไว้ ก็เห็นเพดานที่คุ้นตา แม้จะไม่ได้เข้าห้องนี้มานาน แต่ตนก็ยังจำไฟบนเพดานได้แม่น
“กันต์? นี่พาพี่มาห้องตัวเองทำไม? ทำไมไม่พาพี่ไปที่ห้องกินข้าว?” กิจถามน้องของตนเอง ความรู้สึกหิวท้องกิ่วของตนเริ่มทำให้ตนหงุดหงิด แต่เมื่อโดนน้องของตนจับยกขึ้นมา ภาพตรงหน้าก็ทำให้กิจตื่นตกใจทันที
“เฮ้ย กันต์!! เอาของกันต์ออกมาทำไมน่ะ!!” น้องของตนถอดกางเกงออก เผยให้เห็นเอ็นอุ่นที่เข้าไประยำตำบอนกับพ่อของตนอยู่ทุกๆวัน กันต์จึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงใสซื่อ “นี่ไงครับ นี่แหล่ะอาหารของพี่..” “ว่าไงนะ!?” ตนถามอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน น้องของตนจึงพูดต่อ “ก็เพราะผมเปลี่ยนให้พี่เป็น เอ่อ.. จิ๋มกระป๋องอ่ะนะ.. ร่างกายของพี่ไม่สามารถย่อยอาหารปกติได้อยู่แล้ว แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะครับ” น้องของตนเองยิ้มร่า
“แค่น้ำผมวันละครั้ง ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะ” เมื่อกิจเห็นกันต์ทำท่าจะยัดเอ็นกามเข้าปากที่อ้ากว้าง กิจก็ขอร้องน้องของตน “ดะ... เดี๋ยวก่อนกันต์... พี่.. พี่อยู่ดีๆก็อิ่มแล้วน่ะ ฮ่าๆ สงสัยพี่คงแค่คิดเองน่ะ เอ่อ...” กิจพูดเสียงสั่น เรื่องทุกอย่างในหัวผสมปนเปกันไปหมดจนสมองตื้อ “อย่าดื้อสิครับพี่” กันต์พูดออกมา
“ยังไงพี่ก็เป็นของเล่นของกันต์แล้วนะ จะให้ยัดข้าวใส่จิ๋มกระป๋อง มันไม่ปกติเลย ว่ามั้ยครับ?” กันต์เลิกคิ้วยิ้มมองพี่ของตน กิจทำท่าจะพูดต่อ แต่อยู่ดีๆก็นึกขึ้นได้ การยัดข้าวใส่จิ๋มกระป๋อง มันดูไม่ปกติเสียเท่าไหร่...
กิจคิดได้ดังนั้นก็ได้แต่เตรียมใจก่อนจะเผยอปากของตน กันต์ที่เห็นดังนั้นก็ยิ้มเหี้ยม กิจสัมผัสได้ว่ากันต์กำกระบอกร่างของตนแน่น แต่มันกลับไม่ได้ทำให้ตนรู้สึกอึดอัดเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้ตนสบายใจ คงเพราะการใช้งานและใช้แรงใส่จิ๋มกระป๋องเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
“แดกให้อร่อยนะครับพี่ ฮึๆๆ” เป็นครั้งแรกที่กิจได้ยินกันต์พูดคำหยาบคายด้วยสีหน้าแบบนั้น ซึ่งมันฟังดูแปลกใหม่เสียเหลือเกินเมื่อมันออกมาจากปากน้องตน แต่น้องของตนไม่ปล่อยให้กิจได้มีโอกาสคิด
กันต์นำปากที่เผยอของกิจเข้าใกล้แก่นกามของตนทันที วินาทีที่กันต์สอดใส่เข้าไปในปากของกิจแล้ว เหมือนบางอย่างในตัวกิจถูกเปิดออก เหมือนว่าการเป็นของเล่นสนองตัญหา น่าจะเป็นความจริงอย่างที่น้องตนว่า
ปากของกิจโอบล้อมแก่นกามของน้องตนโดยสัญชาตญาณ กันต์ครางส่งเสียงต่ำอย่างสุขใจ กิจที่รับรสชาติและรสสัมผัสของเครื่องชายน้องตนเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ กลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจในสิ่งที่เกิดขึ้นเลย มันออกจะ... อร่อยเลยด้วยซ้ำ
กิจที่กลายเป็นจิ๋มกระป๋องแล้ว จึงไม่มีฟันเหลืออยู่ มีเพียงลิ้นกับปากเท่านั้น ก็พยายามหาทางละเมียดละไม ให้พลองของน้องตนรุกเข้ามาด้วยความสนุกที่สุด การเม้มปากแน่นและการใช้ลิ้นดุนสวน ทำให้กันต์ร้องออกมาด้วยความเสียว สร้างความภาคภูมิใจแปลกๆให้กับตนเองเป็นอย่างมาก
เมื่อกันต์อารมณ์เริ่มมาแล้ว จึงลงมือเล่นกับของเล่นตรงหน้าทันที มือของกันต์เริ่มโยกแก่นกามของตนชักเข้าชักออกจากตัวของกิจ นั่นก็ทำให้กิจก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่าง
เมื่อกันต์ชักเข้ามันก็ทำให้กิจรู้สึกแน่นทั้งตัว และมันสร้างความเสียวกระสันตรงข้างในสุดของตน เมื่อกันต์ชักออกมันก็ทำให้กิจรู้สึกเสียดายพะว้าพะวง อยากให้ท่อนเอ็นตรงหน้าเข้ามาใหม่ กลิ่นและรสสัมผัสของแก่นกามน้องตนเอง เริ่มมีอิทธิพลมากขึ้นในจิตใจของกิจ
และยิ่งกันต์ใช้งานกับกระบอกกามนี้แต่ละที ความรู้สึกแบบมนุษย์ของกิจก็ยิ่งลดลงทีละน้อย กิจเริ่มชอบความรู้สึกที่คับแน่นทั้งตัวและเสียวกระสันจากเอ็นอุ่นของกันต์ จนลิ้นของกิจเริ่มละเลงเล่นให้น้องของตนอย่างชำนาญมากขึ้น คิดหาวิธีที่ตนน่าจะชอบถ้าโดนดูดแบบเดียวกัน
“อ่า ซี้ด... แลบลิ้นมึงออกมา” ได้ยินคำพูดที่ว่า ตัวกิจก็แลบลิ้นของตนอย่างว่าง่าย ตอนนี้ในหัวของกิจมีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น คือการทำให้เอ็นอุ่นตรงหน้าปล่อยน้ำกามออกมาให้ได้
เมื่อกิจแลบลิ้นแล้ว กันต์ก็เอาแท่งกามของตน แตะลิ้นของพี่ตนหลายทีจนเลอะเทอะ น้ำสีใสที่หลั่งออกมาก่อน ทำให้กิจรับรสคาวของน้องตนได้เป็นอย่างดี เมื่อกันต์เห็นว่าพี่ของตนว่านอนสอนง่ายก็รู้สึกสะใจ ก่อนที่กันต์จะเลื่อนกิจเข้าครอบกระบองเขื่อง ปล่อยให้กิจรับรสและสนองความสุขของกันต์อย่างยินดี
“ถึงพี่จะขอโทษผมไปแล้ว แต่ผมก็ยังไม่ได้ให้โทษพี่เลยนี่ครับ” กันต์มองพี่ของตนที่โดนความเป็นชายอุดปาก แต่ยังคงบริการตนอย่างซื่อสัตย์ “ถือเสียว่าสิ่งที่กันต์เล่นในสามเดือนนี้คือบทลงโทษแล้วกันนะครับ” เจ้านายหนุ่มยิ้มแสยะ เผยให้เห็นถึงความซาดิสม์ของตนอย่างชัดเจน
การใช้งานพี่กิจดำเนินไปเรื่อยๆ จนในที่สุดกันต์ก็เริ่มเร่งเครื่อง กระหน่ำชักกระบอกกามต่อเอ็นอุ่นของตนเอง น้ำลายของกิจและน้ำหล่อลื่นของกันต์สองพี่น้องผสมกัน ทำให้มีเสียงเปียกแฉะทุกครั้งที่เครื่องชายของกันต์ชักเข้าออกจากปากของกิจ ในใจของกิจที่เริ่มหลงในกลิ่นกาม แอบหวังว่าน้องของตนจะใช้งานปากตนตลอดไป
“ฮ่า.. แม่งเอ้ย” กันต์ร้องพลางกัดฟัน มือที่ชักเข้าออกอย่างรวดเร็วจับกิจรับท่อนกามของตนจนสุดกระบอก ก่อนจะหลั่งน้ำขาวข้นจนแทบทะลัก
ความคิดในหัวของกิจหายวูบไป ได้แต่รับรสน้ำกามของกันต์ ความจุกแน่นทั่วทั้งตัวและความรู้สึกเสียวกระสันจากเบื้องล่างของตน ในช่วงเวลานั้น เหลือเพียงกระบอกกามที่เต็มไปด้วยน้ำข้นคาวเท่านั้น และนั่น... ทำให้กิจมีความสุขเสียเหลือเกิน
กันต์วางพี่ของตนลงบนโต๊ะด้วยความเหนื่อยหอบ ร่างของพี่ชายที่ถูกแปลงโฉมเป็นของเล่นผู้ใหญ่ มีกลิ่นคาวน้ำกามของตนลอยออกมาจากปากที่อ้ากว้าง “กูให้แดก.. แค่วันละรอบ ก็น่าจะได้...สารอาหารพอ..” นิ้วของร่างบางกวาดและคั้นน้ำข้นที่เปรอะแก่นตนเองเข้าจ่อปากพี่ตน และเมื่อกันต์เห็นว่าพี่ตนดูดเลียกินน้ำข้นของตนอย่างว่าง่ายก็ถามพี่ของตน
“มึงโกรธกูมั้ย?”
แม้จะถามด้วยความหยาบคาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว กันต์ถามด้วยความประหม่า กิจที่ได้ยินคำถาม ก็เงียบไปสักครู่ ก่อนจะเปิดปาก “ไม่นะ... ยังไงมันก็... ปกตินี่...” เมื่อกันต์ได้ยินดังนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก เสร็จแล้วจึงยิ้มกว้าง
“อย่างนั้นต่อไปนี้ กูเรียกมึงว่า ที่รับควย แล้วกัน ส่วนมึงเรียกกูว่านายท่านหรือท่านก็พอ” “ทำไมรึครับท่าน” กิจ หรือที่รับควย ถามด้วยความงงงวย ความรู้สึกแปลกๆเข้าครอบงำตัวเองอีกแล้ว แต่จะนึกถึงสิ่งผิดปกติอย่างไรก็นึกไม่ออก
“มึงเป็นจิ๋มกระป๋องรอคนป้อนควยให้นี่ มาตีสนิทถือเสมอกันมันไม่ปกตินะ” กิจที่ได้ยินดังนั้นก็ละทิ้งซึ่งความรู้สึกแปลกประหลาดจนสิ้น นั่นน่ะสิ ที่รับควยได้แต่รอให้นายท่านป้อนควยให้ตน จะมีหน้าถือเสมอได้อย่างไร “เข้าใจแล้วครับท่าน” ที่รับควยเกือบหลุดปากบอกขอบคุณนายท่าน ให้ตายยังไง ที่รับควยก็ไม่มีวันบอกกันต์เด็ดขาด ว่าตนชอบสภาพที่ตนกำลังเป็นอยู่อย่างนี้ กันต์ที่ได้ยินคำตอบก็ยิ้มพอใจ ก่อนจะวางพี่ของตนตั้งตรงบนโต๊ะ
“กูจะไปกินข้าวละนะ” กันต์จะเดินออกไปแล้ว แต่หันกลับมาหยิบร่างของพี่ตนก่อน มือบางเลื่อนลิ้นชักโต๊ะของตนออกมา ที่รับควยเห็นดังนั้นก็ถามกลับ “เปิดลิ้นชักทำไมหรือครับ?” กันต์มองพี่ของตนอย่างสงสัยก่อนจะตอบด้วยดวงตาใสซื่อ “กูใช้มึงเสร็จก็เลยจะเก็บมึงไง?”
ที่รับควยได้ยินจึงพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “ในลิ้นชักมืดๆหรือครับ? แต่ยังไงที่รับควยก็เป็นพี่ของนายท่านนะครับ” กันต์ได้ยินก็ทำหน้างง “แต่ตอนนี้มึงก็เป็นแค่ของเล่นไม่ใช่รึไง? เล่นเสร็จก็ต้องเก็บเป็นปกติ”
ที่รับควยได้ยินก็นึกตาม ส่วนกันต์ก็พูดร่ายยาว “ที่รับควยเป็นจิ๋มกระป๋อง จะวางให้คนอื่นเห็นคงน่าเกลียด” “ดังนั้นมันเป็นเรื่องปกติที่มึงจะต้องโดนวางเก็บไว้ในที่มิดชิดใช่มั้ยล่ะ” กันต์ยิ้ม ก่อนจะวางที่รับควยลงในลิ้นชัก ที่รับควยคิดตามก็มองว่าใช่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันถูกแล้ว
ที่รับควยมองกันต์ที่ยิ้มขณะเลือนปิดลิ้นชัก ทิ้งให้กิจอยู่ภายใต้ความมืดมิดและกลิ่นคาวกามในปากของตนเอง
ไม่ว่าที่รับควยจะรอเท่าไหร่ นายท่านก็ไม่เปิดลิ้นชักออกมาพูดคุยกัน ทำให้ตนได้แต่รออยู่ในความมืดนี้ พลางละเมียดลิ้มรสน้ำกามของน้องตนในปากฆ่าเวลาเท่านั้น จนกระทั่งวันถัดไปที่น้องตนหยิบที่รับควยออกมาใช้
“เป็นไงที่รับควย? หิวรึยัง?” นายท่านเลิกคิ้วมองที่รับควยด้วยสายตายิ้มเยาะ “ครับท่าน ที่รับควยหิวแล้วครับ แล้วนี่นายท่านให้ที่รับควยนอนในนั้นทั้งวันเลยรึครับ...” กันต์ได้ยินดังนั้นก็มองที่รับควยแบบยิ้มๆ
“ถ้าไม่ได้จะเอามาใช้ แล้วจะเอาออกมาทำไมล่ะ ต้องขอบคุณกูเสียอีกที่จะใช้มึงทุกวัน” ที่รับควยได้ยินดังนั้นก็ซาบซึ้งใจที่นายท่านยอมเอาตนมาใช้ทุกๆวันเหมือนจิ๋มกระป๋องตัวโปรด เมื่อกล่าวคำขอบคุณ ก็โดนนายของตนที่หัวเราะร่าก่อนจะยัดเอ็นเข้าปากอีกครั้งอย่างไม่ใยดี เหมือนว่านี่จะเป็นจุดเริ่มต้นของวิบากอันยาวนานเท่านั้น
สามสัปดาห์แรกที่ตนถูกเปลี่ยน ที่รับควยได้แต่นอนรอในลิ้นชักด้วยความเบื่อหน่าย บางทีตนก็เจอกันต์หยิบของในลิ้นชักหรืออาจจะเอาตนไปใช้สนองกาม แต่อย่างไรน้องของตนก็ยิ้มพูดคุยทักทายเมื่อเปิดลิ้นชักออกมา และจบลงด้วยการใช้งานที่รับควยอย่างสนุกสนานจนหลั่งน้ำกามข้นให้ตนดื่มกินเสมอ ด้วยเหตุนี้ ที่รับควยจึงไม่เบื่อมากนัก... ถ้าละเมียดมากหน่อย ก็จะได้ลิ้มรสน้ำกามไปทั้งวันจนนายตนจะเปิดลิ้นชักอีกครั้ง และกลับยิ่งอยากเจอหน้าน้องของตนมากขึ้นกว่าแต่ก่อน
ชีวิตประจำวันของที่รับควยจึงมีแค่การบริการนายท่าน กินอาหารที่นายท่านหลั่งให้ และนอนรอการใช้งานครั้งต่อไปเท่านั้น ในตอนแรก ตนก็ยังไม่มีประสบการณ์ และพยายามอยู่นาน กว่านายของตนจะจับเย็ดปากเองจนหลั่ง แต่ยิ่งผ่านวันเข้า ตนยิ่งชื่นชอบการถูกสอดเสียบจากนายของตนมากขึ้น บางทีนายท่านก็จะใช้งานรูข้างหลังของตน ความรู้สึกเสียวกระสันแนบแน่นพอๆกับตอนที่โดนกระทุ้งปากเลย และไม่ว่าจะรูไหน ตนก็ยังรับรสคาวกามของนายท่านได้หมด และที่รับควยยิ่งชอบดื่มด่ำรสชาติน้ำกามของกันต์มากขึ้นเรื่อยๆ
ผ่านมาเดือนครึ่งแล้วที่ที่รับควยถูกเปลี่ยนด้วยพลังของนายท่าน ตัวมันยังคงกินดีอยู่ดี เพราะนายท่านยังใช้งานที่รับควยทุกวันเสมอ น้ำคาวรสเลิศหลั่งเข้ามาในตัวของที่รับควย จนมันจำรสชาตินายตัวเองได้แม่น และบางวันถ้ามันโชคดี นายมันอาจจะใช้งานมันรอบที่สองก็ได้
ถึงแม้ว่าช่วงนี้นายจะไม่ค่อยพูดกับมันมากเหมือนแต่ก่อนแล้วแต่มันก็เข้าใจได้ คนปกติที่ไหนกันพูดกับจิ๋มกระป๋องตัวเอง? แค่นายมันเสียเวลาพูดกับมันสักคำ มันก็ซาบซึ้งใจมากแล้ว ที่มันชอบที่สุดก็คือคำว่า “แดกแม่งให้หมด” และรองลงมาคือ “ไอ้ที่รับควยโง่เอ้ย” แต่ที่รับควยมีอย่างนึงที่อายจนไม่กล้าบอกกับนายตนเอง
มันชอบเสียงหัวเราะของนายมันที่สุดแล้ว เพราะนั่นคือตอนที่นายมันรู้สึกสนุกกับการใช้งานที่รับควย
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่นายท่านหยิบมันขึ้นมาใช้งานโดยทักทายเพียงประโยคเดียว “อย่าให้เลอะ” มันได้ยินดังนั้นก็ใจแห้ว การเป็นที่รับควยของนายท่าน ก็ไม่ได้จะโรยด้วยกลิ่นน้ำคาวหอมหวาน บางทีนายท่านก็ไม่อยากจะเดินเข้าห้องน้ำให้เสียเวลา...
ที่รับควยลิ้มรสน้ำปัสสาวะรสแปล่มที่ไหลลงปากของตน ที่รับควยรู้ว่ามันสามารถรับและดูดซึมน้ำที่ออกมาจากท่อนชายได้ทั้งสองแบบ เป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายของนายมัน ที่มันเองรู้สึกภูมิใจ แม้ผลที่ตามมาจะเป็นการเพิ่มเมนูรสไม่อร่อยก็ตาม
หลังจากเสร็จสุขาแล้ว นายก็ให้มันทำความสะอาดด้วยการดูดเลียเหมือนปกติ ที่รับควยก็พยายามใช้ทักษะ ให้นายของตนมีความสุขที่สุดเหมือนเดิม
ผ่านมาสองเดือนแล้วที่ที่รับควยถูกเปลี่ยนร่างเป็นของสนองกาม ในตอนนี้ ที่รับควยได้ยอมรับการใช้ชีวิตเป็นของเล่นกามให้นายมันโดยสมบูรณ์ ขอเพียงนายมันเอากระบอกไปจ่อเอ็นอุ่น ที่รับควยก็แทบจะน้ำลายไหลแล้ว วันนี้นายมันก็หยิบตนขึ้นมาจากลิ้นชักจะใช้งานตนเหมือนเดิม ปากกระบอกอ้าออกมาพร้อมจะบริการนายของมันอย่างเต็มที่
ความสามารถในการใช้ลิ้นของมันพัฒนาจนมันสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจ ว่ามันสามารถดูดเอ็นแกร่งทุกลำให้สำเร็จสุข โดยที่เจ้านายมันไม่ต้องชักตัวมันเข้าออกเหมือนจิ๋มกระป๋องชิ้นอื่นๆเลย และรูอีกด้านของมันก็โดดเด่นไม่แพ้กัน มันสามารถควบคุมความแน่นของมันให้นายมันพึงพอใจได้เสมอแม้จะไม่มีทักษะซับซ้อนเท่ารูหน้าของมันก็ตาม
นายมันเพียงเอามันครอบแท่งกาม มันก็บริการใช้ปากลิ้น และคอของมันอย่างเต็มที่ ในวันนี้มันได้ลิ้มรสน้ำกามสุดโปรดในขณะที่นายมันหัวเราะเยาะมันด้วย! นี่แปลว่ามันทำดีมากจนนายมันพึงใจ ถ้ามันโชคดี อาจจะได้อมแท่งลำเขื่องถึงสามครั้งในวันนี้ เพียงแค่คิดถึงรางวัลที่มันจะได้ น้ำลายมันก็ไหลแล้ว
หลังจากบริการนายของมันสำเร็จ มันก็รอให้นายท่านโยนตัวมันลงในลิ้นชักพลางปิดไปเหมือนปกติ หากแต่สิ่งที่มันรอคอยกลับยังไม่เกิดขึ้นในตอนนี้ นายมันถือที่รับควย ออกจากห้องนอนของนายมันเป็นครั้งแรกตลอดสองเดือนมานี้ ที่รับควยเห็นดังนั้นก็ถามนายของมันทันที “นี่พาที่รับควยออกมาทำไมหรือครับนายท่าน?”
มันน่าแปลกเสียจริงที่สองเดือนก่อน ที่รับควยไม่เคยคาดคิดเลย ว่ามันจะมองลิ้นชักของนายมันเองเป็นที่ที่มันสมควรอยู่ นายที่ได้ยินที่รับควยพูดก็ตอบกลับ “มันถึงเวลาแล้วครับพี่” คำตอบกำกวมทำมันข้องใจเสียเหลือเกิน แต่สิ้นคำของนายมัน มันก็รู้สึกถึงบางอย่าง
เหมือนหมอกที่เคยปิดบังความคิดมัน ได้เผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของมันอีกครั้ง ที่รับควยสงสัยว่าความทรงจำที่มันรับรู้คืออะไรแต่นึกได้ไม่นาน มันก็จำได้ กิจจำได้แล้วทุกอย่าง ทุกอย่างจริงๆ
“อ้าว ไอ้กิจ เป็นไง เอ็งได้ใช้ชีวิตเป็นไอ้นั่นน่ะสนุกมั้ย?” พ่อของกิจที่กำลังนั่งดูทีวีอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าทักตน “ไอ้กันต์!!! แก! หน็อยแน่ ไอ้น้องเวร! ทำกับพี่แบบนี้ได้ลงคอ เปลี่ยนพี่กลับเดี๋ยวนี้นะ!” กิจพูดออกมาด้วยความโมโหโกรธา ความทรงจำที่นายท่าน... ที่กันต์ได้ใช้งานตนเองอย่างสุขสันต์ และยังกล้าหัวเราะเยาะตนเองมาตลอดสองเดือนนี้ มันทำให้กิจโกรธเดือดปุดๆ เท่าที่จิ๋มกระป๋องชิ้นนึงจะเดือดได้น่ะนะ
“เอาหน่าพี่กิจ พี่เป็นสาเหตุที่กันต์อารมณ์ดำมืดมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว นี่กันต์แค่ทำให้พี่คิดเป็นจิ๋มกระป๋องเท่านั้นเอง นี่กันต์ช่วยพี่นะ! คนปกติเค้าทนไม่ไหวกันหรอก” ไอ้น้องเวรพูดขำๆเสียสนุกปาก ส่วนพ่อที่เห็นก็ตีความเอาเอง “ดูแล้วน่าจะสนุกไม่ใช่ย่อยเลยนะ” พ่อแสยะยิ้มพลางเอามือข้างหนึ่งจับชักลำเขื่องตนเบาๆ และอีกข้างบิดหัวนมตนเองเล่น กิจที่กำลังจะพูดต่อก็เงียบไป
ถ้าเป็นเมื่อก่อนกิจคงจะเบือนหน้าหนีไปด้วยความรังเกียจ แต่ตอนนี้นอกจากจะไม่สามารถขยับเบือนหนีได้แล้ว กิจก็ไม่ได้จะหลงเหลือความรู้สึกรังเกียจอยู่ด้วยซ้ำ หากแต่กำลังมอง...ของที่กิจมั่นใจว่าพ่อไม่เคยใช้กับใครเลยตั้งแต่กันต์ถูกปลดผนึก
“เอ่อ.. ก็เฉยๆอ่ะครับพ่อ...” กิจพูดออกมาโดยไม่คิด ในใจรู้สึกโล่งอกที่ร่างนี้มีแค่ปากให้เห็น ทำให้พ่อไม่รู้ว่าตนกำลังเพ่งมองความเป็นชายของพ่ออยู่
พ่อของกิจที่ได้ยินก็ยิ้มก่อนจะบอกกันต์ “เห็นมั้ยกูบอกแล้ว ไอ้กิจมันแค่ต้องการจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง นี่เอ็งมัวแต่ขี้กลัวคิดมากเสียเวลา ทำให้กูต้องเจ็บตูดแทนมันตั้งนาน” กันต์ที่ได้ยินก็เลิกคิ้วอย่างท้าทาย “พ่อไม่คิดหรอว่าบางทีกันต์อาจจะแค่อยากเย็ดพ่อจนตูดแหกก็ได้ กันต์ไม่ได้กลัวอะไรสักหน่อย” พ่อที่ได้ยินก็สวนทันควัน “เหอะ ไอ้ขี้โม้”
กันต์ขำเล็กน้อยก่อนจะเดินมานั่งข้างๆพ่อตน วางกิจตั้งลงบนโต๊ะกาแฟหน้าโซฟา “แต่กันต์ไม่เคยโม้สักหน่อย... ยังไงพ่อก็เริ่มชอบเล่นหัวนมจริงๆนี่” ว่าแล้วหนุ่มน้อยก็โน้มตัวลงไปดูดเลียหัวนมของพ่อตนเอง ทำเอารุ่นใหญ่ครางออกมาเบาๆด้วยความพึงใจ “นั่นเพราะ... อืม.. เอ็งเล่นกับมันบ่อยต่างหาก...” หนุ่มใหญ่ร่างกำยำพูดปนครางออกมา “ฮึๆ ใครกันแน่ที่ขี้โม้” กันต์ขำก่อนจะเลียลำคอของร่างแกร่ง พลางกุมมือตนทับมือของพ่อที่กำลังชักเอ็นกามเป็นจังหวะ
กิจมองภาพตรงหน้าเหมือนต้องมนต์สะกด แก่นกามของบิดากระตุกฉ่ำเชื้อเชิญน่าลิ้มลอง กิจรู้สึกปากแห้งจนต้องใช้ลิ้นเลียริมฝีปาก ส่วนน้องของตนก็ไม่ปล่อยให้โอกาศนี้ผ่านไปง่ายๆ “พี่กิจครับ มันถึงเวลาแล้วล่ะ” กันต์ยิ้ม
มือของพ่อที่กำลังชักแก่นกายตัวเองโดนกันต์ดึงออก หยาดน้ำเหนียวใสเปียกแฉะเลอะมือหยาบกร้านเป็นทาง กันต์ยกเอามือกร้านที่เปรอะเปื้อนมาจ่อหน้าเจ้าของมือ
“เลีย” สิ้นคำพูดเบาๆของน้องตน ผู้ให้กำเนิดก็เลียมือและนิ้วตัวมันเองดั่งกับมันชุ่มไปด้วยน้ำหวานรสเลิศ กลิ่นคาวของความเป็นชายคลุ้งทั่วห้อง “ดีมาก” กันต์ลูบและตบแก้มของพ่อตนเองเบาๆสองที ชายวัยกลางคนยิ้มสนองตอบด้วยความภาคภูมิใจ เสร็จแล้วกันต์ก็ยกร่างกิจขึ้นมา
“กันต์...” กิจพูดออกมาเสียงสั่น “พี่กิจถึงเวลาที่จะต้องเลือกแล้วล่ะครับ” น้องตนกล่าวออกมา พลางเอาตัวกระบอกของกิจทาบลำเขื่องบิตุรงค์ กิจสัมผัสได้ถึงไออุ่นความเป็นชายของพ่อตนเองเป็นครั้งแรกในชีวิต พ่อกระตุกตรงเหมือนเป็นการทักทาย หยาดน้ำใสหยดไหลโดนตัวกระบอกของกิจ
กลิ่นชายชาติทหารช่างชุ่มฉ่ำน่าลิ้มลอง มันทั้งยิ่งใหญ่และน่าเกรงขามเสียเหลือเกิน กิจได้แต่กลืนน้ำลายเอื้อก ส่วนน้องตัวดีก็เอานิ้วชี้แหย่ลงปากของจิ๋มกระป๋อง ของเล่นกามก็เผลอดูดเลียนิ้วของกันต์โดยสัญชาตญาณ
“อยากรึเปล่าครับพี่” กันต์ถามพลางละนิ้วของตนออกมา น้ำลายไหลเชื่อมนิ้วตนเองเป็นเส้น ส่วนกิจก็แลบลิ้นรองน้ำลายที่หยดเหมือนเสียดาย หากแต่พอกิจตั้งสติได้อีกครั้ง ก็ตกใจและพูดแทบไม่ได้ศัพท์
“เอ่อ.. อะ.. แบบว่า.. ยังไงพี่ก็ขยับไม่ได้อยู่แล้ว...ถ้าจะเล่นกับพ่อ พี่ก็ห้ามไม่ได้เสียหน่อย” นั่นเป็นคำตอบที่ผิด กันต์มองจิ๋มกระป๋องที่กล้าทำเนียนเป็นนายบริสุทธิ์ “ไอ้ที่รับควยโง่ มึงแดกไปแล้ว ถ้าใครมันจะไม่ใช้มึง มันก็ไม่ใช่เรื่องของมึงนี่” กันต์พูดออกมาด้วยอำนาจและความรำคาญ “กูสามารถเย็ดให้มันแตกคาควยกูได้อยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นที่มึงจะต้องแดกควยมัน”
กิจได้ยินก็ตะลึง ใช่ เพราะวันนี้มันได้กินน้ำชีวิตของนายมันไปแล้ว มันไม่มีเหตุผลให้ต้องใช้มันอีก “เอ่อ... คือ.. ท่านกันต์..” แม้กิจจะหลุดพ้นจากการกลั่นแกล้งของน้องมันแล้ว แต่การโดนเรียกเป็นที่รับควยก็ยังทำให้มันเผลอคิดและทำตัวตามกิจวัตรประจำวันอยู่ดี บางทีอาจเพราะมันอยู่ในสภาพจิ๋มกระป๋องเสียนานด้วยส่วนหนึ่ง
“คิดว่ากูไม่รู้รึไง เอ้า ตอบมาว่ามึงอยากได้อะไร” แม้กันต์จะถามแบบนี้ แต่ในใจตนเองก็กลัวเช่นกัน นี่จะเป็นจุดเริ่มต้นหรือจุดสิ้นสุดก็ขึ้นอยู่กับคำตอบของพี่ตน เพราะอย่างไร... เราก็เป็นครอบครัวกันอยู่แล้ว
กิจเห็นถึงสายตาจริงจังและคาดหวังของน้อง มีหรือจะไม่รู้ว่าคำถามนี้หมายความว่าอะไร ตนอาจจะสามารถคืนร่างกลับได้เดี๋ยวนี้เลย และเรื่องอุจาดตาก็จะไม่เกิดขึ้นต่อหน้าตนอีก ขอเพียงแค่ตอบไปตามตรงเท่านั้น...
“...” กิจอ้าปากพูด... แต่กลับไม่มีเสียงออกมา
ไม่ใช่เพราะอำนาจของน้องที่คอยกุมความคิดตนมาตลอดสองเดือนนี้ แต่เป็นเพราะใจของตนมีคำตอบอื่นอยู่แล้ว
คำตอบที่กิจไม่กล้าพูดออกมาเพราะกลัวในสิ่งที่จะเกิดขึ้น เส้นคุณธรรมบางๆที่ตนไม่กล้าข้ามไป ไม่สิสำหรับครอบครัวอื่น มันคือกำแพงอันยิ่งใหญ่ที่ไม่มีใครคิดจะข้ามเลยด้วยซ้ำ
พ่อพูดถูก... ตัวกิจเองก็ไม่ได้จะปกติเหมือนกัน..
“ได้โปรด..” เสียงที่ออกมาจากปากกิจฟังดูแห้งผาก
“ได้โปรดใช้ควยของพ่อเย็ดปากที่รับควยตัวนี้ด้วยครับ”
พ่อที่ได้ยินก็ยิ้มหัวเราะร่า เอื้อมมือจับที่รับควยต่อจากน้องตนทันที บางทีนิสัยไม่ดีที่ชอบหัวเราะเยาะคนอื่นอาจจะมาจากพ่อของตนนี่แหล่ะ
“ฮ่าๆๆ ไอ้แม่เย็ด เป็นเด็กดื้อไม่ยอมเล่นด้วยกันตั้งนาน ทีนี้ล่ะสุภาพชิบหาย เอ้า งั้นต่อจากนี้ กูจะเรียกมันว่าอะไรดีล่ะ” พ่อยกที่รับควยขึ้นมาสังเกตดู มองริมฝีปากอวบอิ่มและลิ้นชุ่ม ที่พร้อมต่อการใช้งานทุกเมื่ออย่างพิศวง
แทบไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าไอ้กระบอกจิ๋มกระป๋องตรงหน้าจะเคยเป็นลูกชายของตนเอง “มันก็บอกชื่อมันไปแล้วนี่ครับ? มันคือที่รับควย เล่นแรงๆได้เลย มันไม่พังหรอก” “เหอะ เอ็งหมดโอกาศตั้งชื่อลูกไอ้กิจแล้ว” พ่อตนยิ้มขำๆ ส่วนกันต์ได้แต่เบะปาก “เอางี้ละกัน เดี๋ยวกูตั้งชื่อให้เพราะๆ เหมาะกับมันเอง” พ่อพูดต่อ “อืม... ไอ้โม้กควยแล้วกัน เป็นไง เท่กว่าที่รับควยเยอะ” พ่อหันมายิ้มยิงฟันให้กันต์ ถึงแม้ว่าในใจ กันต์จะยังคิดว่าที่รับควยมันเพราะหูกว่าก็เถอะ แต่ยอมๆหน่อยก็ได้ กันต์คิดเช่นนั้นพลางมองสองพ่อลูก
อ่อ พ่อตนเองกับของเล่นชิ้นใหม่ที่ทั้งสองเริ่มเข้าสู่โลกส่วนตัวกันแล้ว ชายใหญ่พลิกปากประบอกลงด้วยความตื่นเต้น ปากของของเล่นกามหันจ่อลำอุ่นของตน น้ำลายของไอ้โม้กควยหยดไหลออกมาเล็กน้อย แสดงให้เห็นว่าของเล่นชิ้นนี้หล่อลื่นเองโดยอัตโนมัติ เป็นของเล่นอันแสนวิเศษยิ่งนัก
“ไอ้โม้กควย อ้าปากกว้างๆ” สิ้นคำ ชายร่างกำยำก็เอาไอ้โม้กควยครอบลำเอ็นตนจนสุดลำทันที เสียงค่อกๆจากไอ้โม้กควยหลุดออกมาอย่างน่าสมเพช น้ำลายของมันไหลฉอกลงตามลำเขื่องที่ทำให้มันเกิดมาจนชุ่ม
ถึงแม้ว่าปกติ หนุ่มรุ่นใหญ่จะเป็นคนรองรับท่อนกามของลูกชายคนเล็ก แต่พลองศึกของตนก็ทรงพลังและน่าเกรงขามเหนือชั้นจนกันต์ยอมยกธงขาว ลำพลองยักษ์ตีเข้าปากของไอ้โม้กควยอย่างไม่ใยดี ดั่งนักรบราชันเข้าจู่โจมป้อมข้าศึกด้วยความโหดเหี้ยมและกล้าหาญ
ความรู้สึกที่ผู้กล้าสัมผัสได้จากภายใน สร้างความแน่นกระสันระคนสะใจอย่างยิ่งยวด เสียงหนุ่มใหญ่ครางต่ำเยี่ยงสัตว์ป่าเป็นการการันตีคุณภาพได้เป็นอย่างดี แท่งใหญ่ของชายฉกรรจ์เสียดสีกับเนื้อข้างในของไอ้โม้กควย สร้างความเสียวและจุกเกินคำบรรยายให้กับมันอย่างมาก
เอ็นมหึมาเข้ากระหน่ำในตัวของไอ้โม้กควย จนมันรู้สึกว่ารูข้างหลังของมันเปิดอ้า ใช่แล้ว แท่งกามของพ่อมันยาวทะลุจากปากมันยันรูของมันเลย
มันได้แต่ครางยิ้มอย่างภูมิใจ ที่รู้ว่ามันได้ทำหน้าที่มอบความสุขให้กับคนที่ใช้มันอย่างยิ่งยวด แม้ว่ามันจะถูกชักขึ้นชักลงไม่สนว่ามันจะพังหรือไม่ก็ตาม
แต่ต่อให้มันพังคาลำเอ็นไป ทั้งคนที่ใช้มันกับมันก็หาได้สนใจไม่ เพราะรู้ว่าตัวมันยังคงปลอดภัยเสมอ มันยังมีนายท่านคอยดูแลอยู่ยังไงล่ะ ต่อให้สิ่งที่เกิดขึ้นจะวิปริตผิดมนุษย์มนาขนาดไหน มันก็ยังคงเป็นครอบครัว...
เสียงคำรามของชายรุ่นใหญ่ดังกึกก้อง ก่อนที่น้ำข้นขาวจะท่วมทะลักข้างในของไอ้โม้กควย กลบความคิดและตัวตนของกิจด้วยสีขาวโพลน
“ว่าไงไอ้หนุ่ม” “อ่าว ตื่นแล้วหรือครับพ่อ” ในยามเช้าตรู่ กันต์ยิ้มทักทายพ่อของตนที่เพิ่งเดินลงมาจากห้องนอน ร่างกำยำยืนล่อนจ้อน หนุ่มใหญ่ถามถึงสิ่งที่ลูกชายตนกำลังทำอยู่ “นั่นอะไรน่ะ?” “ฝาปิดครับ” กันต์ตอบกลับ ในมือถือแผ่นฝาแบนอันหนึ่ง บนโต๊ะเคาน์เตอร์มีกระบอกแท่งลำหนึ่งตั้งอยู่ ด้านที่ตั้งขึ้นมีทรงรูปปากอ้าอยู่อย่างชัดเจน
“โม้กควยมีน้ำหล่อลื่นหกบ่อยๆมันน่ารำคาญน่ะ กันต์เลยปรับให้มันปิดตรงฝั่งปากได้” ว่าแล้วลูกชายสุดที่รักก็เอาฝาครอบปากกระบอกเสียงดังแกร๊ก “โอ้ว แจ่มดีว่ะ กูก็เบื่อเหมือนกันที่หลังใช้เสร็จ ลืมวางตั้งตรงๆนี่ไม่ได้เลยนะ แม่งมีน้ำหกออกมาเปื้อนทุกที นี่ดีนะที่ไม่ต้องชาร์ตทุกวันแล้ว บางทีก็รู้สึกเหมือนกูป้อนโม้กควย มากกว่าใช้งานโม้กควยเสียอีก”
ใช่แล้ว กันต์ปรับให้กระบอกไม่จำเป็นต้องใช้ทุกวันเพื่อชาร์ตอีกต่อไป
ถึงแม้กันต์จะเป็นห่วงว่ามันอาจจะมีผลตามมาที่ควบคุมไม่ได้แต่มันก็ยังยืนกรานให้สร้างสิ่งประดิษฐ์โม้กควยที่ดีที่สุดอยู่ดี เอ๊ะ? มันนี่คือใครนะ? กันต์รู้สึกเหมือนลืมอะไรไปบางอย่างแต่ก็นึกไม่ออก
หลังจากใช้พลังพัฒนาโม้กควยไป ตัวเองก็สูญเสียพลังค่อนข้างมาก บางทีเวลาจะนึกถึงอะไร มันก็ตื้อๆเหมือนมีหมอกบังตาไว้ ไม่แน่ว่าถ้าพลังกลับคืนมา ตัวเองอาจจะใช้พลังฟื้นความทรงจำกลับมาได้ ถ้ากันต์นึกสนใจพอ
“ตลกหน่าพ่อ โม้กควยมันก็แค่จิ๋มกระป๋อง ทำอย่างกับมันสำคัญ” พ่อพยักหน้าเห็นด้วยแต่แล้วก็พูดต่อ “แต่เอ็งเอามาหน่อยสิ วันนี้กูอยากใช้ว่ะ” กันต์ได้ยินดังนั้นก็โยนกระบอกที่ถืออยู่ไปหาพ่อของตน หากแต่พ่อตนกลับรับไว้ไม่ทัน กระบอกจึงร่วงหลุดมือตกพื้น
“โยนอะไรอัตรายชิบหาย เฉียดนิดเดียวโดนหัวพ่อแล้วนะ” หนุ่มใหญ่เปรยน้อยใจ ลูกชายตนสวนทันควัน “ไร้สาระน่าพ่อ โยนไม่ได้จะสูงถึงหัวเสียหน่อย เดี๋ยวกันต์ไปอาบน้ำละนะ” “เออๆ” รับคำแล้วลูกชายก็เดินออกไป ส่วนชายรุ่นใหญ่ที่โป้เปลือยก็หยิบกระบอกที่พื้นขึ้นมา
ตนเอามือปัดรอบๆกระบอกเพราะมันเพิ่งตกพื้นไป ก่อนจะเดินไปนั่งบนโซฟาตัวโปรด กดเปิดทีวี ก่อนที่มือหยาบจะดึงฝาปิดออกมาเสียงดังแกร๊ก เผยให้เห็นรูปปากที่อ้ากว้างรอการใช้งาน ลำเขื่องที่ตื่นเล็กน้อยของตนในยามเช้าก็กระดกแข็งขึ้นพร้อมเผชิญข้าศึกทันที
ชายร่างแกร่งเอากระบอกครอบเอ็นอุ่นของตนพลางปล่อยมือ ส่วนปากที่อ้ากว้างก็ครอบดูดมิดชิดเหมือนรู้งาน “ฟู่ว...” หนุ่มใหญ่ปลดเปลื้องน้ำเบาออกมา แม้จะยากเย็นนิดหน่อยเพราะท่อนกามที่แข็งดั่งหินของตน แต่อย่างไรเสียมันก็ สะดวก สะอาด และง่ายดาย ไม่นานโม้กควยก็ดูดซับน้ำจนสะอาดหมดจด และเริ่มทำความสะอาดแท่งกามของผู้ใช้ด้วยการใช้ คอ ลิ้น และปากของมันเอง
เพราะความชำนาญนี้เอง ทำให้กระบอกโม้กควยลอยขึ้นลงได้เองบนลำเอ็นอย่างน่ามหัศจรรย์ หากแต่หนุ่มใหญ่ก็เห็นเสียหลายครั้งจนเบื่อแล้ว สายตามองไปที่ทีวี ที่กำลังแสดงวิดีโอของตัวหนุ่มใหญ่เองถูกล้อมไปด้วยหลากหลายลำเขื่อง
ปากของร่างกำยำกำลังดูดอมเอ็นอุ่นของชายฉกรรจ์เหล่านี้อย่างฮึกเหิม มือทั้งสองข้างของหนุ่มใหญ่ในวิดีโอไม่ย่อท้อ จับชักแก่นกามของแต่ละคนด้วยความเท่าเทียม เสียงของเหล่าชายฉกรรจ์ในวิดีโอต่างดูถูกเหยียดหยามหนุ่มใหญ่
“ซี้ด.. ใช้ลิ้นเลียจากโคนด้วยสิหัวหน้า โอ้ย นั่นแหล่ะไอ้สัตว์ ควยผู้ชายอร่อยใช่มั้ยล่ะ” “แม่งเอ้ย ถ้ากูรู้ว่าหัวหน้ากูร่านขนาดนี้ กูน่าจะจับเย็ดเสียตั้งนานแล้ว” “เปลี่ยนมือได้มั้ยวะ? ข้างซ้ายมันชักไม่สนุกเท่าฝั่งขวาเลย มึงโดนอมไปแล้วก็หลบไป” “อ้า หัวหน้า!! ผมจะแตกแล้ว เอาหน้า.. เอาหน้ามึงมา รับพรกูอย่าให้หกนะ ไม่งั้นหัวหน้ามึงเลียด้วย” “เฮ้ย ถึงตามึงอมกูแล้ว ไม่ มึงอมกูทั้งอย่างนั้นแหล่ะ อย่าลืมนะ น้ำควยมันตกพื้นแม้แต่หยดเดียว มึงก็ต้องแดก” “ควยใหญ่เสียเปล่า แต่มาศิโรราบคาควยพวกกูนี่มันน่าสมเพชชิบหาย”
ผลงานชิ้นนี้กันต์ชอบมากเป็นพิเศษ พวกคนงานเหล่านี้ลืมเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างง่ายดายเพียงกันต์ดีดนิ้ว คิดแล้วก็ดูตลกที่เหล่าคนงานแสดงความเคารพนับถือตน แม้ตอนที่ตนโป้ล่อนจ้อน ประดับตัวด้วยน้ำกามของพวกมัน หากแต่พวกมันก็ไม่สังเกตเห็นความผิดปกติ
หนุ่มใหญ่ในจอยอมโดนรับกามจากเหล่าคนงานของตนอย่างว่าง่าย ส่วนหนุ่มใหญ่นอกจอก็บิดเล่นหัวนมตนเองอย่างเมามัน กระบอกโม้กควยที่สัมผัสได้ว่าคนที่ใช้มันเริ่มจะสำเร็จสุขแล้วก็เร่งละเลงเร็วขึ้น กระบอกครอบเอ็นกามที่ลอยชักขึ้นชักลงเองก็ยิ่งเคลื่อนที่ไวขึ้นเหมือนลูกสูบ และในไม่นาน หน้าที่ของมันก็เสร็จสมบูรณ์
เสียงคำรามของหนุ่มร่างแกร่งดังออกมาพร้อมกับน้ำเชื้อรสเลิศหลั่งเข้าในกระบอกจนกระบอกตึงแน่น หากแต่โม้กควยก็ทำหน้าที่ของมันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง มันเม้มปากแน่น ไม่ปล่อยให้น้ำข้นขาวกลิ่นคาวเลอะเทอะคนที่ใช้งานมันโดยเด็ดขาด หลังจากรอให้ตัวกระบอกดูดซับน้ำคาวจนหมดแล้ว มันก็เริ่มใช้ทุกส่วนในตัวกระบอกพยายามคั้นและทำความสะอาดเอ็นอุ่นให้ได้ดีที่สุด
เมื่อผู้ใช้งานพอใจแล้วก็ดึงโม้กควยละออกมา น้ำหล่อลื่นที่ไหลเป็นสายเชื่อมจากพลองกามและรูปทรงปากทำให้หนุ่มใหญ่คิดได้ มือหยาบกร้านเอื้อมไปหยิบฝาปิดที่วางบนโต๊ะกาแฟก่อนจะเอามาทาบปิดปากกระบอกจนได้ยินเสียงดังแกร๊ก
หนุ่มใหญ่หอบด้วยความพึงใจ ตนชักเริ่มหิวแล้ว ไม่รู้ว่าลูกชายของตนทำอะไรให้ตนกิน คิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้น ก่อนจะโยนกระบอกโม้กควยลงบนโซฟาแล้วเดินไปที่ห้องครัว ฝาปิดมันทำให้ใช้งานง่ายขึ้นจริงๆ ไม่รู้ว่าทำไมถึงปล่อยให้ไม่มีฝาปิดเสียตั้งนาน ชายร่างแกร่งคิดเช่นนั้นพลางเดินโทงเทงจากไป
“ไม่จริงน่า!! แล้วพ่อได้กลับมาเป็นมนุษย์ปกติมั้ยครับ!!” ผมหันมาถามพ่อด้วยความตกตะลึง ส่วนพ่อที่กำลังกอดผมก็หันมามองผมด้วยสายตาว่างเปล่า “...ดีจริงๆที่กรหล่อและมีพลังนี่อยู่..” พ่อกิจถอนหายใจ ผมที่ได้ยินก็ทำหน้างงงัน ส่วนพ่อที่เห็นก็ส่งเสียงจิ๊ก่อนจะพูดต่อ
“กว่าอาลูกจะฟื้นพลังจนจำพ่อได้ ก็ปาไปเหยียบปีแล้ว ยังดีที่ทุกคนก็ลืมว่าพ่อมีตัวตนอยู่ เล่นเส้นกับอาช่วยแนะนำนิดนึง ก็เข้าเรียนไปปกติช้าไปปีนึงก็ไม่เป็นไร”
ผมที่ได้ยินก็โล่งอก ถ้าพ่อยังเป็นกระบอกจิ๋มกระป๋อง ผมกับพี่ไกรก็คง เอ๊ะ?
“ไอ้เด็กสติหลุดเอ้ย” พ่อเอานิ้วยันหัวผมด้วยความหมั่นเขี้ยว ผมได้แต่ร้องแอ้ รับการโจมตีของพ่ออย่างสู้ไม่ได้ “ในหัวฉลาดแต่เรื่องลามกของผู้ชายรึไง ถ้าพ่อยังเป็นจิ๋มกระป๋องอยู่ แล้วตัวเองกับพี่จะเกิดมาได้ยังไงกัน!” พอจู่โจมจนพอใจแล้วพ่อก็แยกเขี้ยวก่อนจะละมือออกมา
มือใหญ่โอบร่างผมไว้แน่นพลางสูดดมกลิ่นตัวของผมดังฟูด ในตอนที่พ่อเอาหน้าอิงหน้าอกผมอยู่ พ่อก็พูดขึ้นมา “สิ่งที่พ่อต้องการจะเล่า ก็คือเรื่องพลังของลูกกับ เรื่องเจ้าไกรนี่แหล่ะ...” “ในตอนนี้ สิ่งที่เจ้าไกรเผชิญอยู่มันน่ากลัว แปลกประหลาด และวิปริตมาก”
พ่อเงยหน้าขึ้นมามองตาผม ดวงตาสีเข้มสุขุมจ้องมองเหมือนจะกลืนกินผมทั้งตัว “พลังที่อยู่ในตัวลูกน่ะ มันทรงพลังมากกว่าที่ลูกจะจินตนาการได้อีกนะ ดูพ่อสิ หลงอยากเล่นเป็นจิ๋มกระป๋องที่ดีที่สุดในโลก พลาดท่าเสียเวลาไปเป็นปี ถ้าอาลูกลืมพ่อล่ะก็..”
พ่อพูดก่อนจะหยุดคิดไปสักครู่แล้วจึงยักไหล่ “อืม ไม่รู้สิ ในร่างนั้นมันไม่ค่อยยินดียินร้ายอะไรสักเท่าไหร่ ยกเว้นตอนโดนใช้งาน แต่นั้นไม่ใช่จุดสำคัญ” “สัญญาพ่อหน่อยสิ ว่าจะพยายามเข้าใจเจ้าไกรอย่าเล่นอะไรให้แรงเกิน” “...ครับพ่อ ผมสัญญา” ผมจับแก้มของพ่ออย่างแผ่วเบา เราสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม แต่ไม่ทันไรพ่อก็ละออกมา
“ประชุม” พ่อพูดขึ้นเบาๆ ร่างแกร่งสุดเท่มองหน้าผม พ่อมองทำไมน่ะ? “ประชุม” ผมพูดทวน คิดว่านี่เป็นเกมอะไรแปลกๆของพ่อ “ประชุม...” พ่อขมวดคิ้ว ผมทำพลาดหรอ? นี่ผมเสียคะแนนโดยที่ตัวเองไม่รู้รึเปล่า? “ประชุม...” ผมพูดเสียงเข้ม พยายามเลียนแบบพ่อก่อนที่พ่อจะลุกพรวดขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
“อยู่ดีๆพ่อก็เป็นอะไรไม่รู้ ประหลาดคน” ผมลุกขึ้นจากเตียง ผมต้องลองหาทางทดสอบขีดสุดพลังของตัวเองเสียแล้ว
---ช่วงคุยกะคนเขียน---เป็นยังไงบ้างครับ หลังจากห่างหายกันไปนาน ใช่แล้ว ที่หายไปนานก็เพราะผมโดนเปลี่ยนให้กลายเป็นสลอทหัวขี้ไก่ที่แต่งไม่ออกยังไงล่า เอาจริงๆ เพราะอันนี้มันติดมานานมาก น้านนาน นานนม จนนมบูด ผมจะไม่คิดราคากระทู้แล้วกันครับ เอาจริงจังคือตอนนี้มีพอใช้เปิดทุกอันที่อยากอ่านแล้วแฮะๆ อย่างไรก็ดี ผมไม่สามารถรับประกันได้นะครับว่าจะกลับมาต่ออีก เพราะตอนนี้ผมก็กำลังทุกข์กะงานเสียเหลือเกิน นี่ยังมีติดงานอดิเรกเช่นการเล่นเกมเวลาว่างอีก ชีวิตคนนี่มันช่างยุ่งยากเสียจริงครับ ป.ล. เดี๋ยวกลับมาแก้ให้อ่านง่ายขึ้น แต่ตอนนี้ขอตัวลาไปก่อน ป.ล.2 มาแว้ว เติมช่องว่างตัดคำให้อ่านง่ายๆ แปะคำที่หายไปนิสนึง และเพิ่มเส้นให้รู้ว่าเปลี่ยนจุด/เวลาบรรยายในเรื่อง แก้คำนิดนึงด้วย ตอนเช้าลงจากห้อง มันต้องตื่นมาแล้วหรือครับสิ ไม่ใช่กลับมาแล้วหรือครับเสียหน่อย{:4_77:} บายงับ
|