แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย AkkeeRatana เมื่อ 2024-3-27 23:00
เธอมาวิ่งที่นี่ทุกวันบางครั้งเราก็สวนกันบ้าง ในสระเก็บน้ำที่ค่อนข้างใหญ่โตของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ผมสืบรู้มาว่าเธอชื่อพี่เตย เจ้าหน้าที่ภาควิชาของคณะวิทยาศาสตร์การแพทย์ จริง ๆจะเรียกว่าพี่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะถูกนัก ถ้านับอายุจริง ๆ เธอก็เกือบ 40 แล้วอาจจะเป็นรุ่นอารุ่นน้าผมได้ด้วยซ้ำ
เธอไม่ได้สวยแบบผู้หญิงดูก็รู้ทันทีว่าเป็นกะเทย ถึงแม้จะเพรียวบางเพราะออกกำลังกายแต่ใครมองเห็นก็จะรู้ทันทีว่ามีรูปร่างสูงใหญ่เกินที่ผู้หญิงจะเป็น ใบหน้าของพี่เตยมีริ้วรอยจางๆ ตามวัยบ้างและดูมีความเป็นผู้ชายอยู่ แต่รู้อะไรมั้ยแบบนั้นแหละคือแบบที่ผมชอบเลย
สาวประเภทสองตัวใหญ่แข็งแรง ผมยาว ดูออกจะผู้ชายหน่อย แต่ก็มีอกใหญ่ล้นทะลักกับก้นใหญ่แน่นที่มีสะโพกแข็งแรง แค่มองก้นกับสะโพกใหญ่นั่นแล้วก็ชวนให้คิดไปถึงว่าเรือนร่างแบบนั้นจะซ่อนอะไรเอาไว้ได้อีก เราทักทายยิ้มให้กันในฐานะแค่คนมาออกกำลังกายและเห็นหน้ากันบ่อยๆ ทำแค่นั้นอยู่สองเดือน วันที่ผมมีโอกาสรู้จักกับเธอก็เกิดขึ้น
วันนั้นเป็นวันที่อากาศค่อนข้างร้อนผมเลยมานั่งพักซื้อน้ำอยู่ที่จุดร้านค้าขายน้ำเล็ก ๆ ดวงตาก็พยายามสอดส่ายมองหาคนที่วิ่งผ่านไปผ่านมาเผื่อจะได้พยักหน้าทักทายเธอเหมือนทุก ๆ วัน ๆ พอเห็นว่าจะหาไม่เจอก็จะลุกไปจ่ายค่าน้ำ แต่การลุกพรวดของผมก็ทำให้ร่างตัวเองชนเข้าให้กับร่างร่างหนึ่ง ถูกแล้วครับร่างกายของผมชนเข้ากับร่างของพี่เตย ไม่ได้ชนกันอย่างเต็มแรงแต่ก็สัมผัสได้ถึงสัดส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเธอ ความนิ่มหยุ่นและความแข็งแรงบางอย่างที่ปะปนกันใกล้จนได้กลิ่นเหงื่อกับกลิ่นหอมจาง ๆ จากตัวเธอ
“ขอโทษครับ”ผมละล่ำละลักพูดขอโทษเธอ โดยที่มีแขนเธอจับร่างผมไว้เบา ๆเหมือนประคองไว้ไม่ให้ใครเสียหลักล้ม
“เป็นไงวันนี้ไม่วิ่งหรอ มานั่งเหล่สาวอยู่ตรงนี้” เธอทักผมยิ้ม ๆ แซวผมโดยเสียงพร่าแล้วก็พูดอะไรอีกสองสามประโยค
“มาซื้อน้ำหนะครับ”ผมตื่นเต้น รีบตอบเธอไปเร็ว ๆ จนดูตลก เราคุยอะไรกันอีกสองสามคำแล้วเธอก็ขอตัวออกวิ่ง ผมได้แต่ยืนมองแผ่นหลังเธอ แล้วโดยที่ไม่ได้สนใจอะไรผมก็ออกวิ่งตามเธอไป
“พี่ พี่ครับ”ร่างเพรียวบางของเธอหันมามองผม ชะลอฝีเท้าลงมา จนเราวิ่งตีคู่กัน
“ผมไม่มีเพื่อนมาวิ่งด้วยเลยถ้าจะขอไลน์พี่ไว้ได้มั้ย” ผมบอกเธอไป เห็นสีหน้าเธอแปลกใจ มีริ้วรอยเล็ก ๆเกิดขึ้นที่หัวคิ้ว
“หัวไปกระแทกอะไรมารึเปล่าเนี่ยมาชวนกะเทยวิ่ง” เธอร้องถามกลับมา ผมไม่รู้จะตอบเธอไปยังไงแต่แล้วพอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็เห็นมือถือยื่นมา มีรูปคิวอาร์โค๊ดอยู่บนนั้นผมวิ่งเหยาะ ๆ เคียงข้างเธอ หยิบเอามือถือไปประทับกับมือถือเธอแล้วก็กดเพิ่มเพื่อน ในใจรู้สึกดีใจตื่นเต้นจนบอกไม่ถูก
“ไปละนะ”เธอบอก โบกมือให้ ผมไม่ได้วิ่งตามเธอไปอีก แต่ค่อย ๆ ชะลอฝีเท้าจนหยุดนิ่งเห็นแผ่นหลังเธอไกล ๆ วิ่งหายไปแล้ว แล้วผมก็หันมาก้มมองมือถือตัวเอง เป็นรูปเธอ ในสปอร์ตบราที่คลุมหน้าอกใหญ่ๆ พร้อมกับรอยยิ้ม ในงานวิ่งที่ไหนซักแห่ง
แล้วจากวันนั้นเราก็รู้จักกันมากขึ้น .............................................
เราเป็นเพื่อนในสนามวิ่งกันเธอช่วยเทรนด์ผมในการวิ่งด้วย ผมพึ่งรู้ว่าเธอผ่านสนามใหญ่ ๆ ในประเทศมาหลายที่จากที่การวิ่งเป็นแค่ข้ออ้างในการได้รู้จักเธอ พอให้ผ่อนคลาย เหงื่อออกตอนนี้ผมก็เริ่มจริงจังกับการวิ่งมากขึ้น สนุกกับมันและสนุกที่ได้ใช้เวลากับเธอมากขึ้นกว่าเดิม
แต่สิ่งที่เข้มข้นขึ้นในกายใจผมมากกว่าคือความต้องการตัวเธอเรารู้จักกันมาสามเดือนแล้ว แต่ผมไม่เคยกล้าบอกเธอตรง ๆซักครั้งว่าผมอยากมีอะไรกับเธอ ไม่สิ ถ้าพูดให้ตรงไปตรงมากว่านั้นคือผมอยากถูกเธอเย็ด อยากโดนร่างกายเธอเบียด กระแทก สิ่งที่ทำได้เลยเป็นเพียงการเก็บเอาความแข็งแรงและกล้ามเนื้อของเธอไปคิดถึงบ่อย ๆ
ผมมาซ้อมกับเธออีกในเย็นวันศุกร์บริเวณสระเก็บน้ำมีคนน้อยกว่าปกติเพราะเป็นช่วงที่หลายคณะเริ่มปิดเทอมแล้วเธอทักทายผม ถามว่าปิดเทอมนี้จะลงวิ่งเทรลกับเธอแน่นอนแล้วใช่มั้ย ผมตอบเธอว่าใช่เราเลยฝึกกันอีก วิ่งกันไปในเส้นทางใหม่ที่ ไกลออกไปทางภูเขาด้านหลังเราวิ่งไปยังไม่ถึงแผนที่ตั้งเป้ากันเอาไว้ พี่เตยก็บอกว่าต้องกลับแล้ว
“กลิ่นเหมือนฝนจะตก”เธอบอกเบา ๆ ทีแรกผมยังรู้สึกว่าตลก ใครจะไปได้กลิ่นของฝนได้แต่เพียงแค่ครู่เดียวท้องฟ้าก็มืดลงราวกับจะเป็นค่ำคืนฟ้าเวลาห้าโมงตอนนั้นน่ากลัวมาก ลมพัดแรงจนหูได้ยินเสียงลมเราอยู่ห่างไกลจากที่ที่คนอื่นวิ่งกันซักสองกิโล แล้วฝนก็เทลงมาอย่างหนัก
พี่เตยชะลอฝีเท้าลงมาตะโกนบอกให้ผมรีบวิ่งไปข้างหน้าอีกเกือบกิโลจะมีที่พอให้พักหลบฝน เราวิ่งกันเร็วเท่าที่จะเร็วได้แต่ไม่เร็วเท่าฝนที่คลุมฟ้า ฝนเม็ดใหญ่แรงกระทบจนร่างเจ็บ บางครั้งก็ซาแต่บางเวลาก็สาดลมหนาวเป็นเกลียวเข้าอัดใส่ เราวิ่งกันไปจนถึงศาลาพักข้างทางแต่ตัวก็เปียกปอนไปหมดผมบอกเธอว่ายังไงก็เปียกแล้วถ้าทนวิ่งกลับไปน่าจะถึงที่พักได้เร็วกว่า แต่เธอเตือนผมว่าอันตรายเรานั่งกันอยู่แบบนั้น เยื้องกันบนที่นั่งคนละด้าน ตัวสั่นน้อย ๆเพราะเปียกและหนาว
“ไงหละ ซวยเลยต้องมาติดฝนกับกะเทย” เธอตะโกน แซวผม สู้กับเสียงฝนผมหัวเราะแล้วตะโกนฝ่าเสียงฝนกลับไป
“พี่สิน่าจะเซ็ง ถ้าไม่ต้องพาผมวิ่งก็ไม่เป็นภาระแล้ว” คราวนี้เป็นเธอที่ส่ายหน้าบ้าง ยิ้มให้
“ไม่เลยอยากเห็นเธอวิ่งได้” เธอบอก “อีกอย่างจะมีกะเทยแก่ซักกี่คนได้มาติดฝนกับหนุ่มน้อยน่ารักแบบนี้” เธอบอกผมคำพูดทำให้ผมใจฟู
“น่ารักใช่มั้ย”ผมถามเธอกลับ
“น่ารักสิถ้าพี่อายุน้อยกว่านี้จีบแล้ว”
“แล้วทำไมตอนนี้ไม่จีบ”ผมถามเธอกลับ ขยับไปนั่งติดเสามากขึ้นเพื่อจะอยู่ใกล้พูดคุยกับเธอ
“ทำไมอยากให้กะเทยจีบหรอ” เธอถาม ผมไม่กล้าตอบเธอไปตรง ๆว่าใจจริงอยากให้กะเทยทำมากกว่านั้นอีก เราเงียบกันไปซักระยะหนึ่งได้ยินเสียงฟ้าร้องสลับมากับเสียงฝนบางครั้งพายุก็หอบเอาฝนเข้ามาในด้านตรงข้ามกับที่เรานั่งอยู่บ้าง เห็นเธอใกล้ ๆแบบนี้ยิ่งใจสั่น ยิ่งเห็นใบหน้าที่ฉ่ำไปด้วยละอองฝนยิ่งรู้สึกว่าใบหน้านั้นยั่วให้คลั่งใคล้
“ไม่มีแฟนหรอ”เธอถามเหมือนชวนคุยต่อ เรียกสติผมที่จ้องมองใบหน้านั้น ผมนิ่งนึก ส่ายหน้าช้า ๆ
“พี่หละ”
“เลิกกันไปแล้ว”เธอบอก
“นานรึยังทำไมถึงเลิก” เธอมองตาผมอยู่พักนึง เห็นหยดน้ำที่ไหลจากผมลงมาที่ใบหน้าช้า ๆ
“พี่นอกใจเอง”แล้วเธอก็สารภาพ “ไปมีอะไรกับคนอื่น”ผมเงียบไม่รู้ว่าสถานการณ์แบบนี้ควรตอบอะไรกลับไปดี ไม่รู้ว่าควรบอกว่าไม่ดี หรือควรแสดงท่าที่ว่าไม่เป็นไรหรือชวนเธอคุยว่าทำไมถึงเลือกทำแบบนั้น เมื่อไม่รู้ว่าคำพูดไหนจะโอเค เลยเลือกที่จะเงียบพี่เตยเลยเล่าเรื่องของเธอต่อไปว่าเธอเลิกกับแฟนเมื่อสี่ปีก่อนเพราะไปเจอกับผู้ชายคนนึงที่ทำให้เธอได้ทดลองบทบาททางเพศใหม่ ๆ
“พี่อยากเป็นฝ่ายทำบ้างอยากมีอะไรกับผู้ชายตัวเล็ก ๆ” เธอบอก “คนที่ยอมพี่บ้างไม่ใช่อยากจะทำพี่ฝ่ายเดียว” เธอจบเรื่องเล่าของเธอ กับคำพูดที่ทำให้ใจของผมสั่น
พี่เตยมองผมนิ่งเหมือนจะประเมินผลลัพธ์ของสิ่งที่เธอพูด
ผมโน้มใบหน้าไปที่ข้างหูเธอพูดฝ่าเสียงฝน “อย่างผมถือว่าตัวเล็กพอมั้ย” พูดเสร็จก็ถอนริมฝีปากออกจากใบหูเธอมองหน้าเธอใกล้จนเห็นหยาดฝนที่ติดอยู่บนขนตา กำลังจะขยับกลับไปนั่งที่เก่า แต่ข้อมือตัวเองโดนมือที่แข็งแรงของคนตรงข้ามดึงเอาไว้เราจ้องหน้ากันอยู่อย่างนั้นพูดให้ถูกคือเธอจ้องตาผมเหมือนพยายามที่จะทำความเข้าใจกับความหมายใกล้จนได้กลิ่นลมหายใจ แล้วผมก็โน้มใบหน้าเข้าหาเธออีก
..............................................
สวัสดีครับ พึ่งลงเป็นเรื่องที่ 2 ยังไงมีอะไรก็ติชมให้ด้วยนะครับ
เป็นเรื่องของ "สาวเสียบ" กับเด็กมหาวิทยาลัยเหมือนเดิมอีกแล้วครับ อยากได้ความเห็นของเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคนมากเลย
|