แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Kiano เมื่อ 2024-5-20 00:53
แม้ว่าเต้อร์จะรู้อยู่แล้วว่าผมรักเขามาก ๆ แต่ผมก็ยังอยากจะบอกให้เขาได้ยินอีกครั้ง ผมเป็นห่วงและคิดถึงเขาที่สุดเลย ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง หลายวันมาแล้วที่ผมแทบไม่ได้เห็นหน้าเขาเลย เวลาผมเห็นเขาผ่าน ๆ ก็อยากเข้าไปถามไถ่ว่าเขายังโอเคดีมั้ย? ถูกทำร้ายอะไรเกินไปหรือเปล่า? แต่ผมก็ทำไม่ได้เพราะมันอาจจะเป็นผลเสียต่อเขาหนักไปอีก ท่ามกลางความรู้สึกทั้งหมดที่เกิดขึ้นในใจผมหลายวันมานี้ ผมก็พยามคิดอย่างหนัก เพื่อหาทางช่วยเขามาตลอด ผมเหมือนลืมไปหมดแล้วว่าอะไรคือสิ่งสำคัญในชีวิต ในหัวของผมตอนนี้มีแต่เรื่องความรักอยู่เต็มไปหมด ผมใช้ชีวิตแต่ละวันด้วยการรับผิดชอบหน้าที่แต่ละอย่างในชีวิตพอให้มันผ่าน ๆ ไป ไม่ได้มานั่งคิดเรื่องชีวิตประจำวันตัวเองเหมือนแต่ก่อน เพราะก่อนหน้านี้ ความรักที่มันเกิดขึ้นในหัวใจของผม อย่างมากมันก็เป็นแค่การแอบชอบ แอบรักข้างเดียวไปวัน ๆ ไม่นานมันก็ผ่านไป แต่ความรักครั้งนี้กับเต้อร์ มันเป็นความรักครั้งแรกที่ผมได้รับความรักกลับคืนมา มันเป็นครั้งแรกที่หัวใจของผมมันเกิดความรู้สึกนี้ ความสุขที่ไม่เคยเกิดขึ้นในหัวใจมาก่อน การที่คนที่เรารัก เขารักเรากลับ มันมีความสุขแบบนี้นี่เอง แม้ว่ามันจะเกิดขึ้นเพียงแค่วันสองวันก็ตาม
หลังจากที่พระเจ้าเหมือนจะทุกข์ทุรนทุรายใจอย่างหนักที่ได้เห็นผมมีความสุข เลยประทานอุปสรรครักมาให้ผมแล้ว พระองค์ท่านก็เหมือนจะยังไม่พอ ยังประทานเรื่องมาให้ผมว้าวุ่นใจมากขึ้นไปอีก
เมื่อตอนเทอมหนึ่ง มีกีฬามหาลัยที่จัดแข่งระหว่างวิทยาเขต ผมเองก็ได้มีโอกาสไปแข่ง แต่ผมไม่ได้เล่นกีฬาอะไรหรอกนะครับ ผมไปแข่งครอสเวิร์ด เขาจัดให้เป็นกีฬาประเภทหนึ่ง ตอนนั้นเราต้องเดินทางไปแข่งที่วิทยาเขตอื่นที่อยู่อีกจังหวัด ไปพักแรมในมหาลัยที่นั่น เขาจัดที่นอนให้ในห้องเรียน ห้องนึงก็จะนอนรวม ๆ กันหลายคน แยกตึกผู้หญิงผู้ชาย ตอนนั้นผมไปไม่มีเพื่อน ทีมครอสเวิร์ดมีผมคนเดียวที่เป็นผู้ชาย เลยไปเดี่ยว ๆ ไม่ได้เกาะกลุ่มกับใคร พอไปถึงที่พัก ที่ที่ผมนอนคืออยู่ข้าง ๆ เด็กกลุ่มนึง เป็นรุ่นน้องโรงเรียนสาธิตฯ เรียนปวช. พวกเขาแข่งกีฬาอี-สปอร์ต คือแข่งเกม ROV นั่นเอง ซึ่งเป็นเกมที่ผมเล่นประจำ ในทีมก็จะมีคนเล่นห้า บวกกับตัวสำรองอีกสองคน รวมเป็นเจ็ดคน แต่กลุ่มที่นอนข้าง ๆ ผมนี้เกาะกลุ่มกันแค่สี่คน เพราะเหมือนอยู่ทีมเดียวกันแต่ดันไม่เข้าขากันเท่าไหร่ แต่กลุ่มนี้ก็เป็นกลุ่มที่เฟรนด์ลี่ ด้วยที่ผมก็ไม่รู้จักใครและไม่สุงสิงกับใคร พวกนี้พอเห็นผมดูเหงา ๆ ก็เลยชวนผมเล่นเกมด้วย เลยพากันบ่นให้ผมฟังว่าทีมไม่ค่อยรวมกันได้เท่าไหร่ เพื่อนมันคนนึงที่อยู่ปวช.ปีสองด้วยกันก็ชอบหัวร้อนแล้วก็โวยวายด่าเพื่อนในทีม ส่วนอีกสองคนเป็นรุ่นพี่ป.ตรีปีสามแต่อีโก้สูง ชอบเล่นให้ตัวเองดูเด่น ๆ เน้นเก่งคนเดียวไม่ค่อยสนทีมเวิร์ค แล้วเวลานัดซ้อมก็นัดยาก ไม่ค่อยมาซ้อมอีก ฯลฯ จากนั้นก็ผมกับน้อง ๆ กลุ่มนี้ก็ได้คุยเรื่องต่าง ๆ ทำความรู้จักกัน แล้วด้วยความที่ถูกคออะไรกันสักอย่าง พวกเราก็รู้สึกสนิทสนมเหมือนรู้จักกันมานานกว่านี้แล้ว แต่หลังจากงานแข่งกีฬา ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน มีเจอกันในม. ก็มีทักทายคุยกันบ้างตามโอกาส..
หนึ่งในสี่คนนี้จะมีคนนึงที่ตัวสูงกว่าเพื่อน มันสูงมาก ๆ เลยนะ 185 เห็นจะได้ แล้วรูปร่างหน้าตามันก็โอเค คือโดดเด่นจากทุกคนในกลุ่ม แต่พูดตรง ๆ ว่ามันไม่ใช่สเป็คผมหรอก มันออกจะผอมไปสำหรับผม เพราะผมชอบคนตัวหนา ๆ หน่อยนึง คือมันจะเป็นสเป็คของสาว ๆ ซะมากกว่า แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าผมจะคิดอะไรแบบนั้นกับเด็กพวกนี้นะครับ ผมรู้จักพวกเขาเป็นน้อง พวกเขานับถือเป็นพี่ ผมเป็นคนที่เคารพในความสัมพันธ์แบบอื่นที่นอกเหนือจากความรักใคร่ เช่นแบบเพื่อน หรือแบบพี่น้อง ยากที่ผมจะข้ามไปคิดอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้ ..ถ้ามันไม่มาอ่อยผมก่อน.. ไอ้น้องคนตัวสูงนี้มันชื่อว่าฝ้ายครับ มันดูเป็นคนนิ่ง ๆ เฉย ๆ ในเวลาปกติทั่วไป แต่จริง ๆ มันเป็นคนทะเล้น มันจะชอบพูดกวนตีนคนไปทั่ว เพื่อนมันหรือแม้แต่ผมก็จะชอบด่ามันเป็นประจำ แล้วมันก็เป็นคนเจ้าชู้ มันชอบเล่าว่ามันได้ผู้หญิงคนนั้นคนนี้แล้วก็ทิ้งได้อย่างหน้าตาเฉย ซึ่งแม่งไม่ใช่นิสัยที่ผมชอบ ที่ผมเจาะจงพูดถึงคนนี้คนเดียวก็เพราะมันนี่แหละตัวการที่เข้ามายุ่งวุ่นวายข้างในหัวใจผม..
ช่วงปลายเดือนมกราคม เป็นช่วงที่หลายคนเตรียมตัวที่จะแข่งกีฬาสีในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ นักกีฬาก็จะเริ่มซ้อมเตรียมแข่งกันในตอนเย็นหลังเลิกเรียน หลังจากที่เต้อร์สั่งห้ามไม่ให้ผมไปเจอเขา ผมก็ยังแอบไปตามหาเขาที่สนามซ้อมอยู่ดี เพราะผมอยากรู้ว่าเขายังโอเคดีมั้ย อยากเห็นพอให้หายกังวลใจบ้าง แต่ผมก็ไม่เจอเขา มีแต่สาขาอื่นที่มาใช้สนามซ้อม วันที่สองผมก็มาอีก แต่ก็ยังไม่เจออยู่ดี “ไงพี่ มาซ้อมกีฬาหรอ?” กลับเป็นไอ้ฝ้ายที่ผมเจอ “เปล่า มา.. หาเพื่อน” “เพื่อนที่ไหน พี่มีเพื่อนด้วยหรอ?” “ควย! เสือก” “โห่ เดือดเกิ๊นพี่ 55555 … เอ้อ วันแข่งพี่อย่ามาลืมมาเชียร์ผมน้าา..” “แล้วแข่งอะไร?” “ผมแข่งตะกร้อพี่ พี่ต้องมาดูผมนะ! ผมแข่งชนะแล้วเราไปเต้นกัน“ คืองานกีฬาสีม.จ้างหมอลำซิ่งมาปิดงาน “อ๋อ งั้นคงไม่ได้เต้นหรอกคิดว่า” มันยกมือขึ้นโบกไปมา “ไม่ใช่ พี่ ไม่ใช่ … เอางี้ ถ้าผมชนะ พี่เลี้ยงเหล้าขาวขวดใหญ่ แต่ถ้าผมแพ้ผมจะเลี้ยงเอง” “เหล้าขาวเลยหรอ? ขนาดเบียร์พี่ยังเพิ่งเคยลองครั้งเดียวเอง“ “อันนี้ผมไม่รู้กับพี่หรอก อย่าต่อรองเยอะ” แล้วมันก็ชี้หน้าผม “เอาตามนี้แหละ ไม่ต้องพูดมาก แล้ววันแข่งก็อย่าลืมมาเชียร์ผมด้วย โอเคนะ” ผมไม่ตอบอะไร แต่มันก็ไม่ได้รอเอาคำตอบอยู่แล้ว ทิ้งคำสั่งเอาไว้แล้วก็เดินจากผมไป ........................................ |