เสียงหอบหายใจเป็นจังหวะของผู้ชายหลายคนดังทั่วบริเวณ หนึ่งในนั้นก็คือไฟ เขาออกแรงแขนยกดัมเบลพร้อมสูดอากาศเข้าปอดตามที่มีคนแนะนำ “ฟู่วววว” ครบเซทสุดท้ายก็ถอนหายใจแล้วคูลดาวน์ร่างกาย ช่วงนี้ไฟไม่ค่อยได้ทำงานพาร์ทไทม์จึงมีเวลาลองทำอะไรใหม่ ๆ ดูบ้าง หนึ่งในนั้นคือการใช้บริการฟิตเนสของมหาวิทยาลัยด้วยราคาสมาชิกจากบัตรนักศึกษา หลังจากเสร็จเรียบร้อยก็ไปที่ห้องล็อคเกอร์เพื่อเตรียมตัวชำระล้างคราบเหงื่อไคล เพราะเย็นนี้เขามีนัดกับกัสซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ห้องอาบน้ำของฟิตเนสเป็นแบบผ้ายางสีขุ่นรูดกั้น ด้วยแบ่งโซนชายหญิง แถมยังติดกับสนามกีฬาจึงมีนักกีฬาใช้งานเสียเป็นส่วนใหญ่เลยไม่มีใครสนใจว่าใครจะมอง ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีหนุ่มร่างสูงก็เดินพันผ้าเช็ดตัวไปที่ล็อคเกอร์แล้วเปลี่ยนชุดตรงนั้นโดยที่ไม่ได้อายสายตาใคร เพราะในห้องนี้ผู้ชายหลายคนก็อยู่ในสภาพไม่ต่างกัน “เอ๊ะ?” ไฟเอะใจขมวดคิ้วเมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จแล้วแต่ตอนที่กำลังแยกชุดใช้แล้วกลับไม่เจอกางเกงในที่ใส่อยู่ประจำ สิ่งแรกที่ผุดเข้ามาในหัวคือต้องมีคนแอบมาขโมยแน่ ๆ เพราะเขารู้สึกเหมือนมีคนแอบมองอยู่ตลอดเวลาตั้งแต่ออกกำลังกายกระทั่งปัจจุบัน เมื่อเห็นเวลาจากนาฬิกาแขวนผนังขนาดใหญ่ในฟิตเนสก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วปล่อยผ่านไปเพราะใกล้ถึงเวลานัดแล้ว . “มึง ทางนี้” พอไปถึงที่นัดหมาย ซึ่งเป็นคาเฟ่อยู่โซนหลังมอ ยังไม่ทันมองหาก็มีเสียงตะโกนเรียกพร้อมกับชูแขนบอกตำแหน่ง เมื่อนั่งลงฝั่งตรงข้าม กัสไม่รอให้เสียเวลาหยิบเงินแบงค์เทาหลายใบขึ้นมานับแล้วส่งให้กับไฟ “เยอะขนาดนี้เลยหรอวะ” ทันทีที่รับเงินมานับไฟถึงกับตะลึงงัน เพราะจำนวนที่ได้มากกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก “อันนี้…” “กูหักส่วนของกูแล้ว” ยังไม่ทันถามกัสที่รู้ทันก็พูดขึ้นมาก่อน “กูมีเรื่องสำคัญอีกเรื่อง” “อืม ว่า” “เรื่องงานพี่ย้ง” “กูบอกแล้ว ว่ากูไม่รับงาน” “เปล่า พี่ย้งบอกมาว่าแค่เป็นงานพบปะสังสรรค์ ตัดเรื่องโชว์อะไรออกไปแล้ว” ไฟฟังก็ไม่เข้าใจเพราะเขาไม่เคยผ่านหรือมีประสบการณ์ “พี่ย้งตื๊อมึงจริงนะ อยากให้มึงไปให้ได้ ไม่ต้องทำอะไรแค่ไปนั่งข้าง ๆ คอยเติมน้ำป้อนอาหาร มีค่าเสียเวลาให้ สนใจไหม?” จากที่กัสพูดมันก็ดูน่าสนใจดี ไม่ต้องเปลืองตัว แค่เทคแคร์นิด ๆ หน่อย ๆ แต่ก็ยังไม่วางใจอยู่ดี คนที่ชื่อย้งนี่ดูท่าจะไม่ธรรมดา เพราะก่อนหน้านี้ยังเปย์มาเป็นหมื่นกับแค่วิดีโอคอล หากเจอตัวจริงแล้วถูกใจอาจจะมีทิปพิเศษให้แน่ ๆ “กู…ขอคิดดูก่อน” “ก็ได้ แล้วแต่มึงนะ ถ้ามึงไปกูรับรองเลยว่า เพนท์เฮ้าส์ที่มึงอยากจะซื้อให้น้อง เร็วขึ้นแน่นอน” คำพูดที่กัสปิดท้ายมันช่างยั่วยวนชวนจินตนาการถึง . ไฟใช้เวลาคิดทบทวนกับตัวเองถึงข้อเสนอที่น่าสนใจ เพราะหลังจากวันนั้น กัสก็ติดต่อมาอีก บอกว่าเป็นความต้องการของพี่ย้งที่อยากให้ไฟไปร่วมงาน โดยการเสนอเงินจำนวนห้าหลักให้ ในครั้งแรกไฟปฏิเสธ แต่พอกัสติดต่อกลับมาอีก จำนวนเงินที่เสนอก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ สุดท้ายจึงใจอ่อนยอมไปงานมีทกับพี่ย้ง ไม่รู้ว่างานที่ไปจะเป็นแบบไหนธีมไหนไม่มีใครบอกกล่าวมาก่อน ไฟจึงเซฟตัวเองด้วยการแต่งชุดนักศึกษาแต่ว่าปล่อยชายเสื้อออก สถานที่นัดเป็นคลับธรรมดาทั่วไป ทว่าในช่วงเวลานี้ยังไม่เปิดให้บริการ “พี่ดีใจนะที่น้องไฟยอมมา ตัวจริงหล่อกว่าในกล้องอีก” ประโยคแรกที่ได้เจอกันทำไฟนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ มันไม่ใช่เพราะคำพูดหรือน้ำเสียง หากแต่เป็นรูปลักษณ์ของคนที่ชื่อพี่ย้ง ผู้ชายวัย 30 กลาง ๆ สวมสูทดูดียืนกล่าวต้อนรับ ใบหน้าที่เห็นผ่านหน้าจอคอมเมื่อได้มาเจอตัวเป็น ๆ ดูผิดกันลิบลับ เพราะคนตรงหน้าดูดี เรียกว่าหล่อเลยก็ได้ แต่แค่พี่ย้งมีจริตออกสาวบ้าง “สวัสดีครับพี่…ย้ง” “เห็นไฟอยู่ในชุดนี้แล้วมัน…หมั่นเขี้ยว” พี่ย้งหยอกเย้าพร้อมกับรอยยิ้ม พอทักทายกันพอหอมปากหอมคอ พี่ย้งพาไฟเดินอ้อมคลับไปทางด้านหลัง เจอกับประตูไม้ห้องเก็บของ ก๊อก ก๊อก ก๊อก พี่ย้งเคาะประตูพร้อมสอดการ์ดเล็ก ๆ ลอดผ่านช่องที่พื้น ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออก มีการ์ดเดินนำทางไปยังด้านใน ไฟเดินตามหลังพี่ย้งกวาดสายตาสำรวจทุกซอกทุกมุม เดินตรงเข้าไปเจอกับชั้นเก็บวัตถุดิบมากมาย ส่วนมากเป็นของแห้งที่บรรจุในกล่องลังรูปปะเป็นวัตถุดิบสำหรับทำอาหาร ใจกลัวว่าคงไม่ใช่ของผิดกฏหมายหรอก ใช่ไหม? พอเดินผ่านลึกเข้าไปถึงเจอกับประตูอีกชั้น คราวนี้เมื่อเปิดออกเจอกับบันไดที่นำลงสู่ชั้นใต้ดิน “ปลอดภัยใช่ไหมครับ” ไฟกระเดือกน้ำลายหวาดระแวงกับสถานที่ลึกลับ จิตปรุงแต่งถึงเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์อย่างที่เคยได้ยินผ่านเรื่องเล่าสยองขวัญ พี่ย้งหยิบแบงค์สีเทาส่งให้การ์ดนำทาง อีกฝ่ายรับไว้แล้วเดินกลับออกไปประจำหน้าที่ตนดังเดิม “ปลอดภัยมาก ไม่ต้องกลัว” พูดปลอบด้วยน้ำเสียงขำขัน แถมยังอธิบายถึงสถานที่เบื้องหน้าคือเลานจ์ลับสำหรับนักธุรกิจหรือคนมีเงินที่อยากมาผ่อนคลาย ทางเข้าที่เป็นห้องวัตถุดิบแค่พลางตา ของในกล่องเก็บเป็นของแห้งที่มีอายุการใช้งานนาน ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก พนักงานของคลับที่เป็นฉากหน้าจึงไม่สงสัย ในที่สุดพี่ย้งก็พาไฟมาถึงประตูบานสุดท้าย พอมันได้เปิดออกมาแก่สายตาของไฟ เขาถึงกับเบิกตาโพลงตะลึงในความหรูหรามีระดับ เลานจ์ขนาดใหญ่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน มีจุดที่เป็นบาร์คอยให้บริการเรื่องเครื่องดื่มหลายตำแหน่ง แถมมีครัวสำหรับเสิร์ฟอาหารเมนูแพง เสียงเพลงที่เปิดนั้นเป็นดนตรีบรรเลงเพลินหู มีลูกค้าที่ใช้บริการอยู่ไม่กี่คน แต่ละคนก็แต่งตัวดีกันทั้งนั้น ประตูทางเข้าทุกทิศล้วนมีการ์ดคอยยืนคุมเปิดปิดให้กับคนที่อยู่ในงาน แต่ที่ที่พี่ย้งนัดกับคนอื่นไม่ได้อยู่ในที่แห่งนี้ มีบันไดทางเชื่อมหลายตำแหน่งเกินกว่าจะบรรยายได้ว่าสถานที่แห่งนี้ถูกสร้างอยู่ชั้นใต้ดินจริง ๆ ไฟถูกนำทางโดยพี่ย้งขึ้นบันไดไปยังชั้นบน เดินไปจนสุดทางก็พบประตูห้องที่มีป้ายแขวนติดไว้ว่า ‘เฉพาะ VVIP’ และกลไกการเปิดก็ไม่ใช่ธรรมดา เป็นระบบสแกนลายนิ้วมือ เมื่อพี่ย้งแตะติ๊ด ประตูก็คลายล็อคถึงสามารถผลักเข้าไปด้านในได้ เมื่อเดินไปภายในราวกับอยู่ในโรงละคร ห้องลักษณะครึ่งวงกลมเป้นชั้น ๆ ลงไปที่ใจกลางซึ่งเป็นเวทีขนาดย่อมและจอ LED ซึ่งฉายภาพที่ถ่ายจากบนพื้นเวที ที่นั่งเป็นโซฟาเบาะหนังมันวาวสวยดูเรียบหรูมีระดับ พร้อมกับด้านข้างเป็นที่พักมือและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอีกหลายชิ้น พอเดินเข้าไปที่นั่งประจำของพี่ย้ง ก็มีสายตาของแขกอีกจำนวนหนึ่งหันมามองพร้อมยิ้มทักทาย แต่ที่ไฟเห็นรอยยิ้มพวกนั้นไม่ได้แสดงถึงความเป็นมิตร กลับดูออกเหยียด ๆ นิดหน่อย “สวัสดีครับพี่ย้ง ลมอะไรหอบมาได้ครับเนี่ย” หนึ่งในแขกที่นั่งมองคนหนึ่งลุกจากที่นั่งเข้ามาทักทาย แต่พี่ย้งไม่สนใจหันหน้ามาทางไฟ “น้องไฟนั่งตรงนี้ก่อนนะ อยากดื่มอยากทานอะไรเรียกพนักงานได้เลย” พี่ย้งอธิบายพร้อมหันไปทางการ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังโซฟาแล้วปรายตามองคนที่เข้ามาทักจนคนนั้นยิ้มเจื่อน “พี่ย้งยังไม่หายโกรธผมอีกหรอครับ ผมเสียใจจริง ๆ นะพี่” “เห้อ น้องไฟ เดี๋ยวพี่ขอตัวครู่นึงนะ” พี่ย้งถอนหายใจ แต่ก็ยอมลุกไปคุยกับคนที่เข้ามาหา ไฟชำเลืองสายตาสำรวจสถานที่แปลกตา เก็บรายละเอียดมองหาเส้นทางเผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ระหว่างที่มองก็ต้องคอยก้มหน้าหลบสายตาของแขกท่านอื่น เพราะแต่ละคนดูมีอำนาจจนไฟสัมผัสได้ เพียงแค่การขยับเล็กน้อยทำเอากลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว “เด็กใหม่พี่ย้งหรอ?” มีคนเดินเข้ามาทัก แต่ยังไม่ทันได้ตอบคำถามก็กลืนน้ำลายอึก เพียงหันไปทางน้ำเสียงทัก สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกคือชายหุ่นล่ำที่ไม่เห็นหน้าเพราะสวมหน้ากากหนังทรงคล้ายสุนัข แถมที่ตัวกลับเปลือยเปล่า มีปลอกคอล็อคคล้องและโซ่ที่ตรึงจากปลอกคอไปยังมือของเจ้าของเสียงทักทาย “...” ไฟอยากจะปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่กลับไม่สามารถพูดออกไปได้เพราะความยำเกรงได้แต่นั่งเป็นใบ้เม้มปากแน่น “ชิ ทาสสมัยนี้ ไม่ได้เรื่อง…” เจ้าตัวว่าจบก็พลันเดินจูงคนของตัวเองผ่านหน้าไฟไปยังตำแหน่งที่นั่งของตัวเอง ไฟได้แต่มองแล้วลอบกลืนน้ำลาย เพราะทาสหนุ่มหุ่นแน่นที่คลานผ่านสายตานั้น ที่เอ็นเนื้อมันมีขนาดมหึมาแถมแข็งกระดก ที่สำคัญบริเวณอัณฑะเหมือนมีอุปกรณ์อะไรบางอย่างติดอยู่รั้งให้ไขยิ่งดูใหญ่มากกว่าปกติ นอกจากคนแปลกหน้าคนนั้น ก็มีแขกอีกจำนวนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับคนข้างกายที่มีลักษณะแตกต่าง บ้างก็เป็นคนผิวสีตัวบึกบึน บ้างก็เป็นนักกล้ามที่ตัวหนา บางคนพาผู้ชายที่แต่งตัวด้วยชุดแต่งงานของเจ้าสาว แต่ที่ดึงดูดสายตาของไฟมากที่สุดคือชายหนุ่มที่คุ้นตา โฟร์ท นักแสดงหนุ่มซีรีส์วายกำลังอยู่ในกระแส ดังเป็นพลุแตกเมื่อช่วงต้นปี แม้ไฟจะไม่สนใจและไม่เคยดู แต่เพราะกระแสจากสื่อโซเชียลทำให้คนพูดถึงมากมายไม่เว้นแม้แต่อู๋รูมเมทของเขา ทันทีที่โฟร์ทเดินเข้ามา ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ใบหน้าหล่อนั้น คนที่เดินนำมายิ้มพอใจกับเสียงตอบรับ และทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาที่อยู่ถัดลงไปชั้นนึงจากที่นั่งของพี่ย้ง สิ่งที่ไฟสงสัยอีกคือ โฟร์ทไม่ได้นั่งลงบนโซฟากับคนที่พามา แต่นั่งอยู่บนพื้นข้างเท้าจองคนคนนั้น ไม่ทันได้สงสัยอะไรต่อ พี่ย้งก็เดินกลับมานั่งด้วยอารม์ดีขึ้นกว่าเก่า “พี่ย้งครับ คนนั้น…” ไฟชี้นิ้วไปยังเบาะที่อยู่ด้านหน้าที่ต่ำกว่าลงไปชั้นหนึ่ง พี่ย้งเข้าใจได้ทันที “เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ถือเป็นความลับห้ามเอาไปพูดหรือบอกใครเด็ดขาดนะไฟ” “ครับ” แม้จะไม่รู้สาเหตุ แต่หลาย ๆ อย่างพอจะอธิบายได้แล้วในตัวของมันเอง “นั่นมันชื่อกร ลูกชายนักการเมือง อย่าไปรู้จักหรือยุ่งกับมันนะ ไอ้นี่มันโรคจิต บ้าอำนาจ” ไฟพยักหน้าเข้าใจ ถึงไม่เตือนก็ไม่อยากที่จะข้องเกี่ยว แค่พานักแสดงที่ติดเป็นกระแสมาในที่แบบนี้ก็คิดแล้วว่าคงไม่ธรรมดา “ดูเหมือนสมาชิกของเราจะมาครบกันแล้วนะครับ ผมดีใจจังที่วันครบรอบการก่อตั้งสมาคมปีนี้ทุกคนมารวมตัวกันได้ ดีใจเหมือนผมไหมครับ” เสียงพิธีกรชายดังชัดตามลำโพงที่ติดอยู่ทั่วห้องโดยที่เจ้าตัวยืนอยู่บนเวที น้ำเสียงฟังดูเหมือนปลื้มใจจริงตามที่กล่าวมา “แม้ว่าสมาชิกดั้งเดิมจะไม่มีโอกาสได้กลับมา แต่ก็ยังส่งลูกชายมาแทนพร้อมกับทาสรุ่นแรก พวกเราปรบมือให้กับคุณมนัสวีหน่อยครับ” ทุกคนจ้องมองไปยังเด็กหนุ่มที่เข้ามาทักไฟ พร้อมกับคนที่คลานบนพื้นก็เอนกายแอ่นขึ้นอวดท่อนลำแข็งกระดกทักทายทุกคน แต่มีอยู่โต๊ะหนึ่งที่ไม่แค่ปรบมือ กลับผิวปากและหัวเราะชอบใจเสียงดัง และไม่ใช่ใคร แต่เป็นคนโต๊ะด้านหน้านี้เอง “พี่ย้งครับ…” เห็นสีหน้าของพี่ย้งดูเอือม ๆ เลยหันไปจะถามอาการ แต่ถูกเจ้าตัวยกมือห้าม “พี่ไม่เป็นอะไร แค่เนือยน่ะ แต่ก่อนสมาคมนี้ไม่เละเทะแบบนี้” พี่ย้งเล่าต่อระหว่างที่พิธีกรกล่าวอะไรไปเรื่อย ทำให้ไฟรู้ข้อมูล พี่ย้งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสมาคม แต่ก่อนมันเป็นเพียงคลับเล็ก ๆ สำหรับคนที่มีรสนิยมชื่นชอบแตกต่างจากคนทั่ว ๆ ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่พอกลุ่มกระจายตัวมีคนรู้จักมากขึ้น บุคคลรุ่นแรกจึงก่อตั้งเป็นสมาคมและจัดกิจกรรมร่วมกันเดือนละครั้ง แต่ในปัจจุบันผู้ร่วมก่อตั้งบางคนก็จากโลกไป บางคนถอนตัวแต่ก็มีคนในครอบครัวเข้ามารับช่วงต่อ จากคลับพูดคุยเริ่มมีเรื่องธุรกิจและเงินทองเข้ามาเกี่ยว ความต้องการแรกเริ่มเลยลดน้อยถอยลงไป นำไปสู่การค้ากาม แม้ว่าพี่ย้งจะคัดค้านและไม่เห็นด้วย แต่สู้เสียงของสมาชิกใหม่ ๆ ที่รวมตัวกันไม่ได้เลยปล่อยเลยตามเลย “แล้วทำไมพี่ย้งไม่ออกจากสมาคมอะไรนี่ล่ะครับ” “และเป็นที่น่าเสียดาย ที่การประชุมร่วมกันในครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายของผู้ก่อตั้งรุ่นแรกคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ ขอให้ทุกคนจดจำและแสดงความยินดีกับทางเลือกของพี่ย้งด้วยครับ” ยังไม่ทันไร ไฟก็ได้คำตอบจากพิธีกรที่เอ่ยขึ้นมาพอดี พี่ย้งยิ้มและยกมือรับเสียงปรบมือ แต่ก็มีหลายคนโดยเฉพาะคนอายุน้อยที่หัวเราะและพูดจาเสียดสี “วางมือแล้วหรอครับ เสียดายที่เจอกันช้าไป ฮ่า ๆ ๆ ๆ” “ไม่ช้าก็เร็ว ของเก่า ๆ ก็จะถูกแทนที่ด้วยของใหม่ที่มันดีกว่า ร้อนแรงกว่า จริงไหมวะ ฮ่า ๆ” พี่ย้งไม่สนใจเสียงพูดเหล่านั้น พิธีกรก็ประกาศอะไรต่อไป คนที่นั่งอยู่เบาะหน้าลุกขึ้นแล้วเดินมาหาพี่ย้งด้วยรอยยิ้มแสยะ “พี่ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะรับช่วงต่อพี่เอง” “หึหึ นั่นแหละสิ่งที่กังวล” “แหม ทำไมพี่ย้งพูดแบบนี้ล่ะครับ ผมเสียใจแย่” “จะไปไหนก็ไป พี่ไม่อยากคุยกับแก” “หึหึ ก่อนไปผมมีของขวัญให้ครับ แต่เอ๊ะ ลืมไปว่ารสนิยมของพี่ มันเชยตกรุ่นไปแล้ว” พี่ย้งที่จะเถียงกลับนิ่วหน้าสลดลง มันชอบใจหัวเราะยกใหญ่แล้วกลับไปนั่งที่ตัวเอง ขั้นตอนสุดท้ายของการประชุมสมาคม คือการโชว์ผลงานและรสนิยมของแต่ละคน จอทีวีด้านบนฉายภาพที่ถูกบันทึกมา เป็นช็อตเด็ดผลงานเด็กในสังกัดของสมาชิกทีละคน ๆ ไฟนั่งดูภาพจากหน้าจอยักษ์ ไล่เลียงไปตั้งแต่คลิปของหนุ่มหุ่นล่ำที่สวมชุดหน้ากากสุนัข มันฉายให้เห็นว่าชายคนนั้นมีสภาพไม่ต่างกับสุนัขเลย แต่ที่พีคคือคลิปเล่นไปจนชายคนนั้นเริ่มมีสัมพันธ์กับสุนัขจริง ๆ เสียงโห่ร้องแซวดังลั่นไปทั่วทั้งที่ประชุม คลิปต่อไปเป็นชายที่มีรูปร่างดีแต่ปิดหน้าปิดตาทำการช่วยตัวเองในสวนสาธารณะโดยที่มีผู้คนเดินผ่านไปมา พอมีคนใกล้ก็หลบในพุ่มไม้แล้วออกมาทำวิตถารต่อ ไฟดูจบหลายคลิปเริ่มเข้าใจขั้นตอน หันไปถามพี่ย้งถึงคลิปที่จะใช้ “พี่ไม่ได้ฉายอะไรหรอก ตอนแรกจะใช้คลิปที่กัสกับไฟเล่นกัน แต่มันคงเชยไม่หวือหวาเหมือน…” พี่ย้งถอนหายใจติดต่อกันหลายครั้ง เป็นเพราะแผนลาออกนั้นไม่เป็นอย่างที่คิดไว้แม้แต่น้อย ไม่นึกว่าจะถูกสมาชิกใหม่ดูถูกขนาดนี้ เล่นเอาเฟลหนัก แม้ว่าจะไม่รู้จักพี่ย้งดีนัก แต่ด้วยเงินจำนวนมากที่ได้มานั้น ถือว่าพี่ย้งเป็นคนที่มีบุญคุณคนหนึ่งจึงอยากที่จะตอบแทน “พี่ย้งครับ ที่นี่ไม่มีกล้องใช่ไหมครับ” “ใช่ทำไมหรอ ไม่ใช่แค่กล้องนะ แต่จะอัดวิดีโอหรืออัดเสียงก็ทำไม่ได้เพราะที่นี่ถูกคลื่นรบกวนเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว” ไฟพยักหน้าน้อย ๆ คิดแผนการบางอย่างในหัวได้ “และต่อไปจะเป็นคลิปสุดท้ายปิดจบการประชุมในครั้งนี้ โดยคุณกรครับ!!” พิธีกรประกาศกล่าว คนที่นั่งเบาะหน้าก็ลุกขึ้นยืนโบกมือรับเสียงปรบมือจากคนทั่วห้องราวกับทุกคนรอลุ้นว่าลูกนักการเมืองจะฉายอะไรในครั้งนี้
; Y6 N8 U5 j: h# N* K4 O) T0 m$ A/ h4 o! B6 o" x# W
5 r L0 U8 m) A0 h4 q' d |